เมียยังไม่อาบน้ำเลย เลยมาใหม่
ต่อซิ่ ทักษิณผิดหรือไม่ คดีที่ดินรัชดา?
ส่วนตัวผมไม่ผิดแน่นอน
จะอ่านเกิน 3 บรรทัดมั้ยหนอ....แม้แต่เป็ดย่างก็หน้าแหกมาแล้ว.....
คดี ที่ดินรัชดาตามคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ อม. 1/2550 ที่วินิจฉัยโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 (คุณทักษิณ ชินวัตร) มีความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 (1) วรรคสาม และมาตรา 122 วรรคหนึ่ง ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี
องค์ ประกอบของความผิดที่ทักษิณฝ่าฝืนจนต้องรับโทษจำคุก 2 ปี คือ มาตรา 100 กับมาตรา 122 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มีดังนี้
มาตรา 100 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้ (1) เป็น คู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมี อำนาจ กำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี (2) เป็น หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าเป็นคู่สัญญา กับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี (3) รับ สัมปทานหรือคงถือไว้ซึ่งสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญา กับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น อันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือ เข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว (4) เข้า ไปมีส่วนได้เสียในฐานะเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน พนักงานหรือลูกจ้างในธุรกิจของเอกชนซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับ ดูแล ควบคุม หรือตรวจสอบของหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นสังกัดอยู่หรือ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งโดยสภาพของผลประโยชน์ ของธุรกิจของเอกชนนั้นอาจขัดหรือแย้งต่อประโยชน์ส่วนรวม หรือประโยชน์ ทางราชการ หรือกระทบต่อความมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ของรัฐผู้นั้น เจ้า หน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ นำบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามวรรคสอง โดยให้ถือว่าการดำเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าว เป็นการ ดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ”มาตรา 122 บัญญัติว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติ มาตรา 100 มาตรา 101 หรือ มาตรา 103 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหก หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีความผิดตาม มาตรา 100 วรรคสาม หากเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดพิสูจน์ ได้ว่า ตนมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยในการที่คู่สมรสของตนดำเนินกิจการตาม มาตรา 100 วรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้นั้นไม่มีความผิด”การ กระทำความผิดอาญาของทักษิณ ชินวัตร ตามข้อหาและบทกำหนดโทษข้างต้นเป็นการกระทำความผิดทางอาญาต่อกฎหมายตามพระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 อันเป็นกฎหมายที่จัดอยู่ในกลุ่มกฎหมายต่อต้านการคอร์รัปชั่น (Anti Corruption Law) กฎหมายในกลุ่มนี้ นอกจากพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีกฎหมายหรือมาตรการทางกฎหมายอื่นๆ ที่จัดอยู่ในกลุ่มกฎหมายต่อต้านการคอร์รัปชั่น (Anti Corruption Law) เช่น กฎหมายเกี่ยวกับ ปปท., กฎหมายว่าด้วยการแสดงบัญชีทรัพย์สิน/หนี้สิน เป็นต้น
ความ ผิดทางอาญาที่ทักษิณต้องโทษจำคุก 2 ปีตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังมาตรา 100 กับมาตรา 122 นั้น กฎหมายทั้งสองมาตราไม่ต้องการหรือไม่ได้ระบุองค์ประกอบว่าด้วย “ทุจริต” แต่อย่างใด
คำกล่าวอ้างของคุณเฉลิม ที่ว่า “ทักษินไม่ได้ทำผิดอะไร ที่ดินรัชดาก็ไม่ได้ทุจริต” เป็นคำกล่าวอ้างถึงทุจริตที่ไม่มีอยู่ในกฎหมายทั้งสองมาตรา แล้วตีขลุมว่าทักษิณไม่ได้ทำผิดการ ทำผิดกฎหมายอาญาหาใช่ทุกมาตราต้องทุจริต ฐานความผิดทางอาญาจำนวนมากไม่ได้ต้องการหรือไม่ได้ระบุองค์ประกอบว่าด้วย ทุจริต เช่น ความผิดฐานซ่องโจร ความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดฐานเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หรือความผิดฐานรบกวนหรือขัดขวางต่อการวิทยุคมนาคมตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 รวมทั้งมาตรา 100 กับมาตรา 122 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ความผิดอาญาเหล่านี้ไม่ได้ต้องการและไม่ได้กำหนดให้ทุจริตเป็นองค์ประกอบของ ความผิด
กระนั้นผู้ใดที่กระทำการต้องด้วยฐานความผิดเหล่านี้ครบองค์ประกอบก็เป็นการทำผิดกฎหมายอาญาทั้งสิ้นหากแต่คุณเฉลิม กล่าวอ้างถึงคำว่า “ทุจริต” ที่ไม่มีอยู่ในฐานความผิดที่คุณทักษิณต้องโทษ นี่เป็นการกล่าวอ้างเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับที่ดินรัชดาตามคำพิพากษาคดี หมายเลขแดงที่ อม. 1/2550 ที่วินิจฉัยโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเลย มาใช้เป็นเหตุผลสรุปว่าทักษิณไม่ได้ทำผิดกฎหมาย กล่าวคือ เป็นการอ้างเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องมาใช้เป็นเหตุผลเพื่อมีข้อสรุปตามที่ตน ต้องการโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและเจตนารมณ์ของกฎหมาย นี่คือการอ้างกฎหมายด้วยการเล่นสำบัดสำนวนอย่างไร้เหตุผลทางกฎหมาย อันเป็นพฤติกรรมไม่พึงที่นักกฎหมายจะประพฤติปฏิบัติ
คุณ เฉลิมหยุดตีขลุมอ้างกฎหมายอย่างผิดๆ ทำให้สังคมสับสนไขว้เขวได้แล้ว การกระทำเช่นนี้นอกจากช่วยคุณทักษิณไม่ได้ ซ้ำยังก่อผลร้ายต่อสังคม ก่อผลร้ายต่อกฎหมายและวงการกฎหมาย ก่อผลร้ายให้สังคมและประชาชนระแวงสงสัยกฎหมายและนักกฎหมาย ประหนึ่งนักกฎหมายเป็นอย่างศรีธนญชัยตลบตะแลงปลิ้นปล้อน อย่างที่ครั้งหนึ่งอเมริกันชนเคยกล่าวถึงนักกฎหมายว่า lawyer liar อันก่อให้เกิดภาพลบต่อวงการกฎหมายโดยส่วนรวม
การ กระทำของคุณทักษิณที่ต้องโทษตามคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดาเป็นการทำผิดกฎหมาย อาญาเกี่ยวกับการต่อต้านการคอร์รัปชั่น ไม่ใช่กฎหมายเกี่ยวกับการทุจริตอย่างที่คุณเฉลิมอ้างถึงหลายครั้งหลายคราใน หลายเพลา
เลิกอ้างคำว่า “ทุจริต” มาหักล้าง “การทำผิดกฎหมายต่อต้านการคอร์รัปชั่น” เถอะ เพราะมันคนละเรื่องกันความผิดอาญาคดีที่ดินรัชดาของทักษิณเป็นการทำผิดกฎหมายต่อต้านการคอร์รัปชั่นปล.ขอบคุณข้อมูลจากคุณ @jeerapong_nna ครับ