http://www.thaipost....ay/231212/67039
“จตุพร” ประกาศศักดา! นำทัพเสื้อแดงผุดปฏิญญาโบนันซ่า หักดิบ "โหวตวาระ 3" เชื่อรัฐบาลเดินหน้าทำประชามติแพ้ราบคาบแน่ สั่งสอน “ทักษิณ” อย่าทำสงครามที่ไม่มีโอกาสชนะ แต่ “นายใหญ่” โฟนอินจากจีนสวนทันควันอย่าเอาแต่ใจ บางครั้งทำอะไรมีข้อจำกัด ชี้ลงมติวาระ 3 ทำได้แต่ไม่ผ่าน โวลั่น 24.3 ล้านเสียงเรื่องหมูๆ ขณะที่ “น้องเขย” กระโดดขึ้นเวที ผวาแพแตก กล่อม นปช.เดินไปด้วยกัน แต่ "ตุ๊ดตู่" เมิน เดินหนีทันที
เมื่อวันเสาร์ ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ได้จัดชุมนุมใหญ่เพื่อร่วมแสดงพลังต้านรัฐประหาร สร้างรัฐธรรมนูญเพื่อประชาธิปไตย โดยมีบรรดาแกนนำเสื้อแดงและแกนนำพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์, นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก เป็นต้น และมวลชนคนเสื้อแดงจากจังหวัดต่างๆ เดินทางเข้าร่วมหลายหมื่นคน
การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ถูกจับตาจากหลายฝ่ายว่าจะมีจุดยืนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร หลังรัฐบาลประกาศชัดเจนว่าจะดำเนินการจัดทำประชามติเพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว โดยมีการเปิดเผยจากนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า “พ.ต.ท.ทักษิณเห็นด้วยกับการทำประชามติ เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ”
ช่วงเวลา 19.50 น. นายจตุพรได้ขึ้นปราศรัยและประกาศจุดยืนอย่างดุเดือดว่า อยากให้มิตรเพื่อไทยฟังจากมิตรจตุพร ก่อนหน้านางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.บอกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 เป็นปีศาจครอบงำประเทศไทย การลงประชามติรัฐธรรมนูญ 2550 เมื่อ 18 สิงหาคม 2550 บรรยากาศประกาศกฎอัยการศึก 48 จังหวัด มีฝ่ายที่เห็นด้วย 14 ล้านคน ซึ่งเป็นของเครือข่ายอำมาตย์ พรรคประชาธิปัตย์ พวกเราไม่รับ 11 ล้านเสียง รัฐธรรมนูญนี้ร่างมาไม่ต้องการให้มีการแก้ไข แล้วเราจะเอาเสียงที่ไหน 24.6 ล้านคนมาจากไหน
“ถามรัฐบาลเอาเสียงมาจากไหน หากลงประชามติจะแพ้เป็นครั้งที่สอง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยเขียนไว้ในหนังสือว่า “จะไม่ทำสงครามที่ไม่มีโอกาสชนะ” แต่การลงประชามติเป็นสงครามที่เราแพ้ ไม่ควรเดินเข้าไป” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยบวกพรรคร่วมรัฐบาลได้ 17.3 ล้านคน จะไปหาส่วนที่เหลือเกือบ 8 ล้านเสียงให้ถึง 24 ล้านเสียงที่ไหน ไปยืมจากประเทศกัมพูชาก็ไม่ได้ ถ้ายืมได้ไปยืมมาแล้ว รัฐธรรมนูญฉบับปีศาจจะมีพลังมากขึ้น แก้ยากขึ้น เราเดินอย่างนั้นทำไม ถามหัวใจคนเสื้อแดง เดินหน้าโหวตวาระ 3 ให้จบสิ้นไปเลย ขอเสียงให้ได้ยินถึงทำเนียบรัฐบาล โหวตวาระ 3 เราชนะ ลงประชามติเราแพ้ จะไปเลือกทางแพ้ก็บ้าแล้ว ลงประชามติดูเป็นสิ่งสวย ไม่ผ่านก็ถูกยื่นให้ศาลตีความต่อ ผ่านก็ตาย ไม่ผ่านก็ตาย แต่โหวตวาระ 3 ประชาชนไม่ได้แพ้ แต่ชนะร่วมกับรัฐบาล
ตู่ลั่นยอมยืนแห้งตายดีกว่า
นายจตุพรกล่าวว่า ยืนแห้งตายอย่างมีเกียรติดีกว่าพากันแพ้ เป็นการส่งเสียง พอถึงเวลาคนเสื้อแดงก็ต้องไประดมคน ถึงเวลาเจออำมาตย์ ประชาธิปัตย์ พันธมิตรฯ หลากสี ถากถาง รัฐบาลเห็นหัวใจคนเสื้อแดงบ้างไหม คนเสื้อแดงตายก็แล้ว เจ็บก็แล้ว อย่าให้แพ้อีกได้ไหม รัฐบาลรวบรวมความกล้า ตัดสินใจโหวตวาระ 3 ไปเลย ถ้าโหวตใครจะล้มเจอคนเสื้อแดง ถ้าไม่โหวตลงประชามติจูงมือคนเสื้อแดงไปลงเหว
“เสียงที่มาขอให้เป็นปฏิญญาโบนันซ่าได้ไหม โหวตวาระ 3 ขอเสียงเป็นประชามติของที่นี่ได้หรือไม่ รัฐบาลจะคิดอะไรก็ตาม จงเอาหัวใจของคุณมาหุ้นคนเสื้อแดงด้วย เราไม่ได้มาขอให้เป็นหรือได้อะไรเป็นการส่วนตัว ความจริงขอเผื่อรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไปด้วย เรารักรัฐบาล จะไปเชื่อคนเป็นปฏิปักษ์ทำไม รัฐบาลคุณคิดอย่างไร ตอบมาสิ คนแนะนำรัฐบาลเป็นปฏิปักษ์ ประชาชนไม่ได้เลือก ไปเชื่อปฏิปักษ์ไม่เชื่อมิตร หาเรื่องตายหรือ ไอ้นั่นพาไปลงเหว เรานี่ดึงมือรัฐบาล ปฏิญญาเขาใหญ่เดินหน้าโหวตวาระ 3 เป็นเอกฉันท์” นายจตุพรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้มวลชนคนเสื้อแดงต่างตะโกนก้องว่า ‘โหวตวาระ 3’
ช่วงท้ายของการปราศรัยนายจตุพรได้โชว์พลังในการประกาศรายชื่อรัฐมนตรี ส.ส. และแกนนำเสื้อแดงที่มาร่วมงานบนเวทีเป็นรายบุคคล พร้อมกับกล่าวย้ำว่า “ที่มาวันนี้เป็นความจริง จะบอกกับใครที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา เราเป็นมิตรแท้ ต้องบอกกับเขา ถ้าไม่รักก็ต้องบอกว่าประชามติดีครับท่าน ทั้งที่จะตกเหว ไม่รู้จะสอพลอทำไม เพราะฉะนั้นโหวตวาระ 3 ไปเลย”
นอกจากนี้นายจตุพรยังกล่าวเชิงติดตลกเหน็บแนมว่า ต่อไปถึงคิว “ชินวัตร” ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าจะมีการโฟนอินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่นายจตุพรกลับบอกว่าเป็น “พ.ต.ท.ชินวัฒน์ หาบุญพาด” อย่างไรก็ตาม นายจตุพรได้ร้องเพลงไปเรื่อยๆ เพื่อรอสัญญาณโฟนอินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งยังไม่พร้อม
กระทั่งเวลา 21.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณได้โฟนอินเข้ามาว่า พี่น้องอากาศที่เขาใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง แต่ที่ปักกิ่ง เมืองจีน หนาวเหน็บ หิมะลง ขอให้รักษาสุขภาพ
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า อย่าเพิ่งตายใจ พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราทำมาหากินไปก่อน อดทน ทำมาหากินยากนิดหน่อย ทำอะไรอาจลำบาก เพราะรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญปัจจุบันทำไมถึงต้องแก้ เป็นกติกาที่วางโครงสร้างอำนาจนิติบัญญัติ ตุลาการ บริหาร ที่ถ่วงดุลอย่างไร เคารพประชาชนอย่างที่สุด แต่รัฐธรรมนูญมีองค์กรบ้าองค์กรบอ ไม่เคารพอำนาจประชาชน คือรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เคารพอำนาจประชาชน
ถ้าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่มีความยุติธรรม การทำมาหากินลำบาก เราจะพัฒนาให้เหมือนประเทศอื่น บอกว่าหมูมาก ถ้าไม่ปล่อยให้ระบบเละเทะขนาดนี้ ต้องห่วงประเทศมากกว่าห่วงสถานะ บุคคล กลุ่มบุคคล ถ้ารัฐธรรมนูญมีลักษณะไม่เอาอำนาจประชาชนสูงสุด ไม่ถ่วงดุลอำนาจ 3 ฝ่าย ทำให้เกิดหลักนิติธรรม เมื่อนั้นประเทศหากินง่ายมาก ถึงเวลาต้องแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เกิดความเป็นธรรม ให้อย่างถูกต้อง ไม่ใช่ชนิดที่พวกเราทำอะไรผิดหมด พวกเขาทำอะไรถูกหมด ยืนยันว่าการมุ่งมั่นแก้รัฐธรรมนูญเป็นภารกิจรัฐบาลนี้แน่นอน
ทักษิณเดินหน้าประชามติ
“แก้อย่างไร บางคนบอกโหวตวาระ 3 ไปเลยไม่ต้องสนใจ โดยเฉพาะคุณจตุพร ถามว่าทำได้ไหม ทำได้ แต่ไม่ผ่าน เพราะพอมีคำสั่งศาล พวกไม่กล้าโหวต เสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่งของสองสภาคือ 326 คน แม้ฝ่ายรัฐบาลมี 300 คน แต่ก็ไม่ถึง โอกาสไม่ถึงสูง ก็ตกไป หรือว่าศาลรัฐธรรมนูญบอกฟังคำสั่งศาล ก็หาเรื่อง วาระ 3 โหวตได้ แต่ไม่ได้รัฐธรรมนูญ
ถามว่าถ้าโหวตได้รัฐธรรมนูญด้วย ประชามติได้ไหม ถ้าออกมาเกิน 24.3 ล้านคน แต่หลายคนกลัวจะมาไม่ถึง และออกมาไม่ถึงครึ่ง ผมไม่หนักใจ 24.3 ล้านคน ผมว่าหมูมาก ประชาชนจะออกมาเยอะ เขามองว่าเป็นการชี้ชะตาประเทศ จะปล่อยให้แช่แข็ง ก็ไม่ต้องแก้ไข หากอยากแก้อำนาจให้ถูกต้องไม่ต้องเอียงกระเท่เร่อย่างนี้”
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เข้าใจพรรคเพื่อไทยจะฟังทุกฝ่าย โดยเฉพาะการสานเสวนา แต่ต้องดูจุดที่จะแก้ไขให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง ถ้าจุดมีไม่มาก ถ้ามีมากก็ต้องแก้ตามประชามติ เพราะฉะนั้นคณะทำงานของพรรค มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กำลังคิดจะไปกรอบไหนดี ใจเย็นๆ แก้แน่ เดินหน้าแน่ อาจไม่สำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถึง 60 เปอร์เซ็นต์เอาไว้ก่อน
ตอนท้าย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า “ขอบคุณคุณจตุพรเป็นพิเศษ ต้องใช้ความอดทนอดกลั้น บางครั้งมีข้อจำกัด ไม่มีใครทำอะไรได้ตามใจตัวเองทั้งหมด ผมก็มีข้อจำกัด มีอิสรภาพหมด ยกเว้นในประเทศไทย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณแล้วเสร็จ นายจตุพรและกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อแนวทางที่แตกต่างของ พ.ต.ท.ทักษิณในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระหว่างนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และน้องของพ.ต.ท.ทักษิณได้ขึ้นเวที โดยกล่าวว่า เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะแก้ยังไงก็ว่ากันไป ไม่ว่าจะเป็นเดินหน้าโหวตวาระ 3 หรือว่าทำประชามติ เพราะทุกอย่างต้องมีพี่น้องเสื้อแดงมีส่วนร่วมวิธีคิดต่างๆ รัฐบาลและประชาชนคนเสื้อแดงต้องไปด้วยกัน
“พี่น้องเสื้อแดงต้องดูแลกันไป เรามาขายความคิดกันว่าเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไปทางไหน ส่วนตัวผมไปได้ทุกทาง จะโหวตวาระ 3 ก็โหวตได้ ไม่มีปัญหา หรือว่าจะทำประชามติก็ทำได้ แต่ถ้าคิดจะโหวตวาระ 3 ก็ขอให้ดูทิศทางลม ดูความคิดพ.ต.ท.ทักษิณเป็นหลัก เพราะท่านเป็นคนมีความสามารถ เป็นคนเก่ง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นายสมชายพูด นายจตุพรได้เดินลงจากเวทีทันที
ต่อมา นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. ขึ้นปราศรัยโดยถามมวลชนว่าต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญด้วยวิธีใด ขอให้ยกมือขึ้น ก็เห็นว่าที่นี่ ตรงนี้ ต้องการให้โหวตวาระ 3 ไปเลย แล้วถามว่าจะขัดใจพรรคเพื่อไทยไหม พี่น้องอย่าไปวิตก ความคิดต่างเป็นความงอกงาม เป็นพัฒนาการของคนเสื้อแดง เราอยู่กันได้โดยที่มีความคิดแตกต่างกัน เพราะเราเป็นมิตรต่อกัน มีเป้าหมายเอาเดียวกันคือแก้รัฐธรรมนูญ เพียงแต่แตกต่างกันที่วิธีการ
ขณะที่ทีวีเอเชียอัพเดตได้มีการถ่ายทอดสดการชุมนุมของนปช. โดยมีมวลชนคนเสื้อแดงส่งเอสเอ็มเอสแสดงความเห็น ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางของนายจตุพร