2โรงงานตัดเย็บบุรีรัมย์ไล่120คนงานออกพิษค่าแรง300
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2556 หลังจากทางคณะกรรมการค่าจ้างกลาง ได้มีมติเห็นชอบประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ที่มีผลบังคับใช้พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 1 มกราคม 2556 ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดได้ส่งผลกระทบทำให้ บริษัท นางรองแอพพาเรล จำกัด ตั้งอยู่ถนนสายโชคชัย - เดชอุดม ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และบริษัท โรงงานเสื้อผ้าชุมชน ตั้งอยู่ ต.สนวน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอหรือตัดเย็บเสื้อผ้า ได้เลิกจ้างพนักงานแล้วจำนวน 120 คน
โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต จากผลพวงของการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท นอกจากนี้ยังมีแรงงานตามสถานประกอบการต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัด ที่ลาออกจากงานด้วยเหตุส่วนตัวอีกจำนวน 275 คนด้วย ซึ่งขณะนี้แรงงานกลุ่มดังกล่าวก็ได้ทยอยเข้ามายื่นขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนหรือเงินประกันการว่างงาน ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ว่างงานที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดแล้วอย่างต่อเนื่อง
ด้านนางนาตญา แสงสกุล นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า หลังจากได้มีการประกาศปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท ก็ได้มีโรงงานตัดเย็บ 2 แห่ง ได้แจ้งขอเลิกจ้างแรงงานไปแล้วจำนวน 120 คน และคาดการณ์ว่าอาจจะมีแรงงานถูกเลิกจ้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกรณีดังกล่าวทางสำนักงานจัดหางานจังหวัด ก็ได้ประสานกับสถานประกอบการทั้งในและต่างจังหวัด เพื่อจัดหาตำแหน่งงานว่างไว้รองรับช่วยเหลือผู้ว่างงานร่วม 10,000 อัตรา พร้อมทั้งยังจะมีการจัดนัดพบแรงงาน เพื่อช่วยเหลือแรงงานในอีกทางหนึ่งด้วย
300บาทพ่นพิษ อุตฯเซรามิคลำปางหันจ้างเหมาแทนรายวัน
ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทพ่นพิษ อุตฯเซรามิคลำปางดิ้นหนีตาย หันจ้างเหมาแทนจ้างรายวัน ชี้จ้าง 300 บาทแต่ได้งานปริมาณเท่าเดิม ด้านผู้ประกอบการลำพูน ตั้งโต๊ะหารือดึงจัดหางานให้ข้อมูลการจ่ายเงินสมทบลูกจ้างต่างด้าว หลังแบกรับต้นทุนจากพิษค่าจ้าง 300 บาทไม่ไหว ต้องหั่นเวลาทำงานลงเหลือสัปดาห์ละ 4 วัน แต่กลับยังต้องจ่ายเงินสมทบเท่าเดิม แถมแรงงานต่างด้าวหัวใสดอดไปรับจ้างนอกเวลางาน แจงแรงงานในท้องถิ่นหายากเหตุหันซบโรงงานในนิคมฯต้องจ้างแรงงานต่างด้าวทำงานแทน
นายอธิภูมิ กำธรวรรินทร์ ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า หลังนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทของรัฐบาลมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นมา ผู้ประกอบการได้ปรับค่าจ้างเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลแล้ว แม้ว่าจะเป็นภาระหนักเพราะทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นขณะที่มาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากรัฐบาลก็ยังไม่มีความชัดเจน ผู้ประกอบการหลายรายที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้ ได้หาวิธีบรรเทาผลกระทบเพื่อเริ่มปรับตัวรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เช่น ปรับเปลี่ยนระยะเวลาการทำงานของลูกจ้าง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงาน จากเดิมจ้างรายวัน เป็นจ้างเหมาแทน
เนื่องจากต้องยอมรับว่าการจ้างเงินค่าจ้างเพิ่มให้แก่ลูกจ้างเป็นวันละ 300 บาท แต่คุณภาพหรือปริมาณของงานยังเท่าเดิม จึงเปลี่ยนมาเป็นวิธีการจ้างเหมาซึ่งได้คุณภาพและปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นมากกว่า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซรามิก เคยจ้างเป็นรายวัน ก็เปลี่ยนมาจ้างเหมาเป็นรายชิ้นแทน เช่น งานขึ้นรูปถ้วย ชาม ฯลฯ จะจ้างเหมาขึ้นรูป 40 - 50 ชิ้นต่อ 100 บาท เพราะเป็นงานที่ไม่ต้องอาศัยความละเอียด งานจัดเรียงสินค้าในเคมเผาจ้างเหมาวันละ 300 บาท งานเพ้นส์ลายเซรามิก จ่ายเหมาตามความยาก-ง่ายของลาย
"การหันมาจ้างเหมาแทนการจ้างรายวันซึ่งต้องจ่ายค่าจ้างวันละ 300 บาท เพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนการประกอบธุรกิจที่เพิ่มขึ้น เพราะอุตสาหกรรมเซรามิกเป็นกิจการที่อาศัยแรงงานคนเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันจังหวัดลำปางมีโรงงานเซรามิกทั้งใหญ่จนถึงรายย่อยรวมกันไม่ต่ำกว่า 200 โรงงาน หากต้องจ่ายค่าจ้าง 300 บาท อาจได้รับความเดือดร้อนจนถึงขั้นปิดโรงงานได้"นายอธิภูมิ กล่าว
นายณรงค์ ธรรมจารี เลขาธิการหอการค้าจังหวัดลำพูน กล่าวว่า วันนี้ ( 3 มกราคม) หอการค้าฯจะประชุมหารือกันระหว่างผู้ประกอบการ และเชิญจัดหางานจังหวัดลำพูนมาให้ข้อมูลเรื่องการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมสำหรับลูกจ้างชาวต่างด้าว เพราะหลังนโยบายขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทมีผลบังคับใช้ ผู้ประกอบการในจังหวัดลำพูนที่จ้างแรงงานต่างด้าวทำงาน ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการนอกนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ต้องปรับเปลี่ยนตารางการทำงานของแรงงานต่างด้าว จากเดิมให้ทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน ก็ลดเหลือ 4 วันส่วนอีก 3 วันให้หยุดงาน เพราะไม่สามารถจ่ายค่าจ้าง 300 บาทได้จึงต้องลดวันทำงานลง
แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการยังต้องรับภาระจ่ายเงินสมทบประกันสังคมตามกฎหมายให้กับแรงงานต่างด้าว นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาขึ้นเพราะในวันที่แรงงานเหล่านี้เมื่อหยุดงานก็ออกไปรับจ้างนอกสถานประกอบการแทน บางรายเกิดปัญหาถูกจับกุม ฯลฯ จนผู้ประกอบการที่เป็นนายจ้างได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการในจังหวัดลำพูนมีความจำเป็นต้องจ้างแรงงานต่างด้าวทำงาน เพราะแรงงานคนไทยในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเข้าไปทำงานกับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเกือบทั้งหมดจึงขาดแคลนแรงงานในท้องถิ่นต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวแทน
"ขณะนี้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก หลายรายที่เคยวางแผนจะขยายฐานก็ผลิตก็ต้องทบทวนแผนใหม่ไม่ลงทุนเพิ่ม พยายามประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดยอมรับว่าบางรายประสบปัญหามากเพราะการแข่งขันในตลาดที่สูงอยู่แล้ว เมื่อมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำยิ่งเป็นตัวเร่งให้ผู้ประกอบการต้องประสบกับความยากลำบากในการทำธุรกิจมากขึ้น นอกจากผู้ประกอบการในท้องถิ่นที่ได้รับความเดือดร้อน นักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือหลายราย เช่น ผู้ผลิตจิวเวอรี่ ได้ย้ายฐานการผลิตไปประเทศเวียดนามตั้งแต่ปีก่อนที่รัฐบาลส่งสัญญาณการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ"นายณรงค์ กล่าว
ข่าวแรกมาเวลา 15.43น.
ข่าวที่สองมาเวลา 16.02น.
มาลุ้นกันเป็นรายวันดีกว่าไหม
Edited by me999, 3 January 2013 - 16:10.