2 replies to this topic

[wutthipong]

1. ผมขอเสนอความคิดเห็นในฐานะตัวแทนคนประกอบอาชีพ ๆ หนึ่ง เพื่อให้พรรคการเมืองกรุณานำไปพิจารณา
กำหนดนโยบายของพรรคให้เข้าถึงหัวใจของคนประกอบอาชีพนั้น ๆ
2. สมมุติผมเป็นผู้ประกอบอาชีพรับราชการก็แล้วกันนะครับ
3. คนที่มุ่งเข้ามาประกอบอาชีพรับราชการ เนื่องจากต้องการความมั่นคงในชีวิต และเมื่อสัก 10-20 ปีที่แล้ว
คงเคยได้คำว่า "รับราชการไม่รวย หากรู้จักประหยัดก็พออยู่ได้ไม่ลำบาก แต่เป็นบุคคลที่มีเกียรติในสังคม
ให้การยอมรับ เป็นที่พึ่งของประชาชน"
4. ความเจริญก้าวหน้าในชีวิตข้าราชการในอดีต เรื่องเด็กฝาก เด็กเส้น ไม่ใช่ไม่มีครับ มีมาพร้อมการกำเนิด
ของประเทศไทยแล้วครับ แต่มันยังมียางอายอยู่เยอะมาก เพราะการบริหารงานบุคคลมันมีคำ
ว่า "อาวุโส" ค้ำคออยู่ หากเทียบเปอร์เซ็นต์ การแต่งตั้งตามระบบอาวุโส 80% เด็กฝาก เด็ก
นาย 20% และผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งข้ามหัวคนอื่นจะได้รับการวิพากษ์ วิจารณ์ ในทางไม่ดีอื้ออึง
5. มาถึงปี 2540 กว่าๆ มีพรรคการเมืองหนึ่งมาเป็นรัฐบาล มันก็คิดหาทางช่วยลูกน้องมันให้ได้
ขึ้นเป็นใหญ่เป็นโตเร็ว ๆ คำว่า "ฟาสแทรค" ก็เกิดขึ้น โดยอ้างว่าเป็นทางด่วนให้ผู้ที่เก่งจริง ๆ
ถึงแม้จะอาวุโสน้อย ก็สามารถแต่งตั้งข้ามหัวใครก็ได้ ประเทศชาติได้ประโยชน์เจริญเท่าอเมริกา
ในเร็ววันแน่
6. ถึงเวลาสนุกละซิครับ ในแต่ละหน่วยงานมันมีแต่คนเก่งทั้งนั้นเลย ไม่มีใครไม่เก่ง จาก
นั้นมาคำว่า "อาวุโส" ในระบบราชการก็เป็นอันล่มสลาย ไม่มีพี่ มีน้อง ขอตูไปก่อน
7. แล้วการแต่งตั้งข้าราชการในปัจจุบันมาจากไหน เอ้า เอาคำขวัญนี้ไป "ค่าของคน อยู่ที่คนของใคร"
แต่ "คนของใคร" มันก็มีเยอะนะครับมากกว่าตำแหน่ง จึงต้องมี 2 ชั้น ชั้นที่ 1 "คนของใคร" ก่อน
ชั้นที่ 2 ผลประโยชน์ต่าง ๆ นึกเอา ตอนนี้พูดกันแบบไม่อายนะครับบอกตรงๆ เลยว่าตำแหน่งไหน
ราคาเท่าไหร่
8. ท่านคิดว่าขวัญ กำลังใจ ในการปฏิบัติงานจะเกิดขึ้นไหมครับ ทำงานแทบตาย ไม่เคยมีชื่อได้เลื่อนชั้น
เลื่อนตำแหน่ง บางคนถูกลูกถามจนอายว่า "พ่อสำนักงานพ่อมันมีตำแหน่งเดียวหรือไง" เพราะพ่อ
มันไม่เคยได้รับแต่งตั้งเป็นตำแหน่งอื่น
9. ปัจจุบันค่านิยมในหมู่ข้าราชการเปลี่ยนไป หากผู้อาวุโสน้อยข้ามหัวคนอื่นได้เร็ว จะมีกล่าวขวัญถึงอื้ออึงว่าไอ้นี่
มันเก่ง มันวิ่งใครวะ ไม่ได้กล่าวถึงว่ามาเร็วด้วยผลงานอะไร
10. ในกระทรวงหนึ่ง ในรัฐบาลหนึ่ง มีคำฮิตในหมู่ข้าราชการว่าถ้าต้องการก้าวหน้าให้เข้า "มหาลัยสยาม แล้ว
ค่อยต่อเน" เก็ทไหมครับ
11. ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ทำไมถึงอยากให้พรรคการเมืองเข้ามาอ่าน ตามความเห็นผมเห็นว่ามันเป็นเพราะนักการ
เมืองมาสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลง หากเห็นว่าใช่ลองไปคิดดูครับว่าจะแก้ไขอย่างไร เราจะได้
ไม่ต้องมานั่งอ่านข่าวว่ามีตำรวจระดับผู้กำกับให้ลูกน้องปล้นรถขนเงิน เพื่อเอาเงินไปซื้อตำแหน่ง ข้าราชการ
คือกลไกของรัฐบาลที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด หากมัวแต่ไปวิ่งหานาย เอาใจนักการเมือง ใครจะเป็นผู้
ดูแลประชาชน เพราะดูแล้วไม่ได้เลื่อนขั้น
12. ผมยกมาเพียง 1 อาชีพ เพื่อเป็นตัวอย่าง หากพรรคการเมืองเข้าไปนั่งในหัวใจของข้าราชการที่ท้อแท้ เบื่อ
หน่ายกับเรื่องเหล่านี้ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก บางครั้งไม่จำเป็นต้องเขาหรอกครับที่ได้รับการเลื่อนขั้น แต่ขอให้
เป็นบุคคลที่ยอมรับในผลงานได้เขาก็พอใจ ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ถึงเวลาโตมาเลย อย่างนี้มันแย่
13. ไม่ยืนยันในข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดนะครับ เพราะเป็นข้อมูลจากการพูดคุย ได้รับฟังมา ไม่มีใบเสร็จครับ

[คลำปม]

ผมรู้จักกับเด็กสาวคนนึงนะครับ

 

เธอเพิ่งจบจากรั้วจามจุรีได้ไม่กี่ปี

 

ปีแรกที่เธอจบ เธอก็ไปสอบ กพ.ด้วยความหวังอยากรับราชการ

(เธอได้มาปรึกษากับผมๆไม่เห็นด้วย  ทว่ามารดาเธอสนับสนุน)

 

ผลออกมาเธอทำคะแนนได้สูงมากครับ ติดที่ 40 กว่าๆหรือไงนี่แหละ

 

มีหน่วยงานราชการส่งจดหมายมาเรียกตัวเธอหลายแห่งในเวลาอันรวดเร็ว 

(ทั้ง กรมธนารักษ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม ฯลฯ)

 

ในที่สุดเธอก็ได้เลือกไปทำงานหน่วยงานนึง

(ไม่ขอเปิดเผยชื่อแล้วกันนะครับ)

 

ผลปรากฎว่าที่ทำงานล้วนเต็มไปด้วยระบบเส้นสาย

 

หัวหน้า(สตรี)ใช้คนไม่ถูกกับงาน  เก็บผู้ชายไว้ในออฟฟิช 

 

ใช้เด็กสาวผู้นี้ไปตามเคลียร์งานของเจ้าหน้าที่ชายที่ทุจริตเชิดเงินไป

 

ไม่มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย  แต่ใช้วิธีหักเบี้ยเลี้ยงที่เด็ก (ควรจะได้รับ) มาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นแทน

 

ผมไม่ทราบว่าความยุติธรรมในระบบราชการนั้นอยู่ตรงไหน  และจะเริ่มต้นอย่างไร?

 

ถ้าเด็กร้องเรียนเรื่องแบบนี้เด็กก็จะถูกรังเกียจจากหัวหน้า  ที่ทำให้อดีตข้าราชการคนนึงต้องติดคุก

 

แถมที่ทำงานก็จะถูกควบคุมระบบการอนุมัติเงินเข้มงวดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบกับเพื่อนร่วมงานทุกคน

 

สุดท้ายเด็กผู้นี้อดทนเคลียร์งานจนเสร็จเรียบร้อยจึงลาออก 

(เพราะเธอได้งานในบริษัทกึ่งเอกชนชั้นนำอีกแห่งหนึ่งด้วย.. แต่ถ้าไม่ได้ล่ะ?)

 

และตอนนี้เธอได้ทุนไปทำโทต่างประเทศ (อังกฤษ)

 

เธอเป็นลูกสาวผมเองครับ

[whiskypeak]

ผมเชื่อว่า.. ถึงแม้จะมีนักการเมืองเข้ามาอ่าน และนักการเมืองท่านนั้นมีความดีและสำนึกเพียงพอ ที่จะมองเห็นว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาในระบบราชการที่ควรแก้ไข

ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าไปแก้ปัญหาใดๆได้ง่ายๆดอกครับ เพราะนักการเมืองดีๆเหล่านั้น ไม่มีปากมีเสียงครับ 

และยุคสมัยนี้ นักการเมืองดีๆที่เค้าพอจะไม่โอนอ่อน และต่อต้านระบบเลวๆแบบนี้ เสียงไม่ดัง และแทบจะไม่มีที่อยู่ครับ ยุคนี้มันต้อง "โกงแล้วแบ่ง"

ถ้าประเภทนี้ เห็นยั่วเยี้ยเต็มสภา เพราะได้รับการหนุนจาก 15 ล้านเสียง พวกนี้พร้อมที่จะทำตามคำสั่ง และพร้อมที่จะสนับสนุนใครก็ได้ ถึงแม้ความรู้ความสามารถของคนนั้นๆจะไม่มี ไม่ปรากฏ

ไม่เชื่อลองปรึกษาทั่นเห็นตายดูครับ

 

 

ปล..เห็นชื่อท่าน จขกท ทีแรก คิดว่าท่านอนาจารวุฒิพงษ์กลับมาซ่ะอีก ฮ่าๆ

Edited by whiskypeak, 4 January 2013 - 02:42.