(โรงเรียนไม้ยกพื้นขัดแว๊กซ์มันลื่น ภาพคุ้นตาเมื่อห้าสิบปีก่อน...)
แว่วข่าวเรื่องผมทรงนักเรียน"เกรียน" อมตะจะสิ้นสุดลง อาเจ่ก อ่านข่าวแล้วหดหู่ใจ ว่าไปโลกในยุคพุทธศักราช 2556 นี้ สังคมไทยก้าวตามอารยะอย่างร้อนรนเร่งรีบ หากแต่จะมีใครหยุดแล้วทบทวนกันบ้างไหม? เด็กไทยสักยี่สิบปีให้หลัง เมือเทียบกับเด็กไทยในอดีตเรา"พัฒนา" ดีขึ้นจริงหรือ?
บอลโต๊ะ ..หนึ่งในเกมส์กึ่งพนันในอดีต
บอลโต๊ะ เกมส์เกรียนๆ สุดในยุุคเกือบห้าสิบปีที่แล้ว หากแต่วงที่ขีดไว้ ทำให้เด็กในสมัยก่อนหากไม่เกรียนจริงๆ โอกาสติดเกมส์กึ่งพนันเป็นไปได้ยาก... ห้าสิบปีให้หลังเรามี"เครื่อข่าย" เกมส์ออนไลน์ กระจายไปทุกหลืบซอกถนนทั่วไทย ไพร่ผู้ดีรวยจน ต่างหาเสพเกมส์ได้ง่ายกว่าง่าย หนำซ้ำเกมส์ขยายตัวกลายเป็นกระแสสังคมออนไลน์ชี้นำเยาวชนผิดๆอย่างน่าตกใจ และเกมส์แผ่อิทธิพลในวงกว้างจนครอบโลกเลยทีเดียว...
ชั่วโมงนอน... (เนี่ยแหละขอรับ... ที่มาของเหาระบาดสมัยก่อน... กระพ๊มก็เคย )
ที่จริงทรงผมไม่ใช่ประเด็นหากแต่สังคมไทยในห้วงห้าสิบปีให้หลัง"โรงเรียนและครู" แหล่งบ่มเพาะ หนูๆเสื่อมพลังในการสร้างเด็กๆ ให้มีคุณภาพและวินัยที่ดี ต่างหาก...
ล้อมวงดูทีวีขาวดำ ราวพ.ศ. 2509
ทีวี คือความบันเทิงที่แสนหายากในสมัยก่อน แม้เราถูกจำกัดรายการโดยสถานนีต้องลำบากในการชมต้องไปบ้านที่มีทีวีซึ่งหายาก แต่เด็กในยุคหลังเรามีคอมพิวเตอร์ที่สามารถสื่อสารพัดบนโลกอินเตอร์เน็ต การ์ตูน ภาพยนต์ ฯลฯ ที่ไม่เหมาะสมสามารถโหลดมาชมได้อย่างง่ายดาย เราจึงได้เด็กไทยที่ "แก่แดด" ก่อนวัยอันควร...
นักแสดงงิ้วเร่ร่อน ตัวจิ๋ว...
บ้านเราเมื่อห้าสิบปีก่อนเป็นยุคหลังสงคราโลกใหม่ๆทุกอย่างอัตคัตการหาเลี้ยงชีพเป็นไปได้ลำบาก การ "ขายลูก" ให้กับคณะงิ้ว ในสมัยนั้นถือเป็นเรื่องน่าเศร้าหากแต่มีจริงในสังคม...
"ผักแม่เอ้ย..." พ่อค้าแผงผักตัวน้อย....
เราจึงพบเห็นภาพเด็กๆสมัยก่อนต่างช่วยพ่อแม่ทำงานเล็กๆน้อยๆ แม้ลำบากหากแต่นี่คือโรงเรียนกวดวิชาสอนให้อยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างเข้มแข็ง และอดทน...
"เป่ากบ"
"เป่ากบ"หนึ่งในกีฬายอดฮิตตัวอย่างของเด็กไทยเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว เด็กๆจะมีการละเล่นเป็นหมู่ๆ มีสังคมของเด็กๆบ้านใกล้เรือนเคียง สังคมไทยยุคนั้นเป็นสังคมเกื้อกูลกันอบอุ่น เราไม่ค่อยเห็นเด็กซึมเศร้าโดดเดียวมากนัก...
ลากรถ(เข็น)ส่งเมือง หรูกว่าขี่ม้าส่งเมืองเล็กน้อย...
การละเล่นอื่นๆ ล้วนอยู่ลานหรือซอย ไม่ต้องซื้อหาอุปกรณ์ให้ยุ่งยาก หนังยาง ฝาเบียร์ วงล้อยาง เด็กได้เคลื่อนไหว ได้เหงื่อ ดูซน แต่แลกกับสุขภาพที่แข็งแรงกว่าเด็กๆในปัจจุบันที่เก็บตัวเล่นเกมส์โหดๆ,ดูทีวีบ้านใครบ้านมันผลคือโรคหอบหืด,ภูมิแพ้, โรคอ้วน จึงเป็นโรคยอดฮิตของเด็กยุคปัจจุบันและสภาวะจิตของหนูๆช่างดู"ก้าวร้าว " เหลือเกิน...
แจวเรือส่งน้อง...
บ้านเมืองไทยในห้าสิบปีก่อนเป็นยุคที่คลองยังมีมากกว่าถนน เด็กๆ มักจะว่ายน้ำเป็นตั้งแต่ไม่กี่ขวบเกมส์โดดน้ำ เกาะเรื่องโยง และการพายเรือถือเป็นเรื่องปรกติของวิถีชีวิตคนริมน้ำ ไม่น่าเชื่อในเด็กไทยยุคนี้ว่ายน้ำพายเรือไม่เป็นกันเยอะกว่าสมัยก่อนมาก เวลาน้ำท่วม,ประสบเหตุทางน้ำจึง มีเรื่องที่น่าเศร้ากับเด็กให้เห็นเสมอ...
ก๊วนกินขนม...
ขนมที่เด็กๆๆทานสมัยก่อนส่วนมากคือขนมไทยและจีนแต่รุ่นพ่อแม่เรา ขนมถ้วย(ที่ไม่ใช่ตะไล) ขนมหวานน้ำแข็งไสใส่น้ำกะทิอบควันเทียนหอมๆ ลอดช่องใส่น้ำนมแมว แตงเมถาด อ้อยควั่น โรตีสายไหม ผลไม้ตามฤดูกาล ขนมซึ่งยังไม่ค่อยรู้จักกับสารเคมีอันตรายและคลอเลสเตอร์รอลแบบขนมอบกรอบขบเคี้ยวที่หลากหลายตามอย่างฝรั่งเมืองหนาว จนโรคอ้วน ถือเป็นโรคอันดับต้นๆของเด็กไทยในยุคนี้ ...
"เกรียนหมู่" หน้ากระดานเรียงหนึ่ง แม้เหมาะสมกับเมืองร้อนและดูแลง่ายแต่ ...จะกลายเป็นตำนานในไม่ช้านี้ ...
อันที่จริงปัญหาของเด็กไทยคือรัฐ พ่อค้า สื่อโฆษณา ที่นำกฎเกณฑ์ และสิ่งๆต่างๆเข้ามามอมเมาปลูกฝังใส่เด็กด้วยทุนและระบบบริโภคนิยมฟุ้งเฟ้อที่"น่ารังเกียจ" โดยไม่ได้สำนึกเลยว่าเด็กก็คือคนรุ่นถัดไปจากเรา หากเด็กไทยเติบโตอย่าง"อ่อน" คุณภาพเช่นนี้ อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร คงมองและคาดเดาได้ไม่ยากเลย ...
ที่มา: http://www.oknation....3/01/14/entry-2
ย้อนวันวาน แล้วย้อนดูความจริงวันนี้กันดูขอรับ...
เกิดทันแค่บางรูปนะ... แฮะๆๆ