พุทธจริงๆหรอเหลิม
ศีล 5 ข้อที่ 5 เค้าว่าว่าไงนะเหลิม
สุราเมระยะ มัชชะ ประมาทัฏฐานา ศีลข้อ 5 ของเหลิมคงแปลตามนี้ครับ
สุราเมระยะ มัชชะ ประมาทัฏฐานา เวระ มณี สิกขาประทัง สมาธิ ยามิ
แปลว่า..............
สุราเมระยะ คือ อันสุราเมรัยทั้งหลาย
มัชชะ คือ มัชชิมา หรือทางสายกลาง
ปะมาทัฏฐานา คือ ประมาณตามฐานะ
เวระ คือ เวลาไปเข้าเวร หรืออยู่เวร
มะณี คือ แก้วที่เป็นใบๆ ใสๆ นี่แหละ
สิกขาประทัง คือ สี่ขาประทังนั่นเอง
สมาธิ คือ การมีสมาธิ
ยามิ คือ ยาไม่ต้อง หรือ ไม่ต้องใช้ยา
แปลโดยรวม คือ..............
อันสุราเมรัยทั้งหลาย ท่านให้ดื่มแต่พอดี หรือยึดทางสายกลางเข้าไว้
นั่นก็คือ ให้ดูฐานะตนเองด้วย มีเงินหน่อยก็ดื่มเหล้าราคาสูงหน่อย
ถ้าฐานะไม่ค่อยดี ก็ดื่มเหลาในราคาที่ต่ำลงมา โดยเฉพาะตอนที่ไป
เข้าเวรหรือไปอยู่เวร ก็ควรมีแก้วติดมือไปซํกใบนึง เอาไว้รินเหล้าดื่มได้
และถ้าดื่มจนได้ที่แล้ว ไม่สามารถใช้สองขาประทังไปได้ ก็ให้ใช้สี่ขาประทัง
หมายถึงมือหรือขาหน้าอีก 2 ข้างนั่นเอง
การดื่มสุขาเมรัย ทำให้มีสมาธิ จิตใจมั่นคง
ร่างกายแข็งแรงไม่ต้องพึงพายาใดๆ ทั้งนั้น
โดยเฉพาะกับตับ ซึ่งจะแข็งก่อนที่อื่น............สาธุ!!!
**เอามาจาก
http://goffoto.multi.../journal/item/4แต่ตามความหมายทางศาสนา
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวรมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทในสิกขาบทนี้ คำว่า "สุราและเมรัย" หมายถึง สุรา ๕ อย่าง และ เมรัย ๕ อย่าง ได้แก่
สุรา 5 อย่าง ได้แก่
1.ปิฏฐสุรา สุราทำด้วยแป้ง
2.ปูวสุรา สุราทำด้วยขนม
3.โอทนสุรา สุราทำด้วยข้าวสุก
4.กิณณะปกะขิตตา สุราที่หมักเชื้อ
5.สัมภาระสังยุตตา สุราที่ปรุงด้วยเครื่องเทศต่าง ๆ
เมรัย 5 อย่าง ได้แก่
1.ปุปผาสโว น้ำดองดอกไม้
2.ผลาสโว น้ำดองผลไม้
3.มธวาสโว น้ำดองน้ำผึ้ง หรือน้ำดองน้ำหวาน
4.คุฬาสโว น้ำดองน้ำอ้อย
5.สัมภาระสังยุตโต น้ำดองที่ปรุงด้วยเครื่องเทศต่าง ๆ
เมื่อมันมีความขัดแย้งของสิ่งที่เหลิมคิดกับความหมายทางศาสนาพุทธ ก็ต้องตีความว่า สุรา เมรัยคืออะไร ถ้าไวน์เป็นสุราเหลิมไม่ผิด ถ้าไวน์เป็นเมรัย ต้องตีความก่อนว่าการทำไวน์นั้น ทำจากการหมักหรือดอง ถ้าเป็นหมัก เหลิมไม่ผิด....
แต่ต่อให้ผิดยังไง.....เหลิมก็บอกว่า ผมแค่ทำในสิ่งที่พระพุทธศาสนาห้าม..... ผมไม่ได้ทำผิดหลักพระพุทธศาสนา