ศึกเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนสหรัฐที่ผ่านมา ในรัฐอิลลินอยส์ พันโทหญิงลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ พรรคเดโมเครต มีคะแนนชนะโจ วอลช์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ร้อยละ 55 ต่อร้อยละ 45 หรือคิดเป็นคะแนน 120,774 ต่อ 99,922
ว่ากันว่า โจ วอลช์ เป็นนักการเมืองสหรัฐฝีปากคมนิยมเหน็บ เขาหาเสียงด้วยการโจมตีคู่แข่งเป็นอาชีพ
เช่น เขาเหน็บ ลัดดา แทมมี่ ว่า "ชอบนุ่งสั้น เพื่อโชว์ขาส่วนพิการ เรียกร้องคะแนนสงสาร" เป้นต้น
ปี 2554 เพื่อน จขกท.คนหนึ่ง เข้าเล่นการเมืองระดับท้องถิ่นในว่าที่ รองนายกเล็ก เขาเป็นหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์หาเสียงด้วย เขาเน้น "ฝีปากคม" และ "โจมตี" คู่แข่ง ไม่ต่างจากที่นักการเมืองในอดีตนิยมใช้ ภาพหัวหน้าทีมของเขาในป้ายยืนถือโล่คนดีศรีสังคม รายล้อมด้วยโล่ต่าง ๆ ที่แสดงถึงความเป็นคนดี
จขกท.กระซิบเพื่อนว่า คิดยังไงถึงได้แสดงความเป็นคนดีปานนั้น คิอยังไงถึงได้ให้น้ำหนักกับการหาเสียงด้วยการจิกตีที่ผู้คนเขาเริ่มเบื่อ ไม่คิดบ้างเหรอว่า เสียดสีคู่แข่งจนเกินพอดี อาจได้แต่สะใจ แต่ไม่ได้คะแนน และบางที คู่แข่งก็จ้างทีมด่าตัวเอง เน้นด่าโดยไร้เหตุผล และไม่มีหลักฐานรองรับ เพื่อหากินกับความเบื่อของชาวบ้าน
เขาตอบว่า เขาต้องพูดในสิ่งที่ชาวบ้านควรรู้ และต้องเปิดเผยความชั่วร้ายให้สาธารณชนรู้ สอบได้สอบตกไม่สำคัญ แต่การเป็นนักการเมืองใช่แต่จะสอบได้เสมอไป
เขาติ จขกท. ว่า คุณอยู่กับประชาธิปไตยมายังไง ยังแยกแยะไม่ออกว่า "ผมเห่าหรือผมด่า"
ทุกวันนี้ พอจะสังเกตออกว่า พรรค พท. กำลังใช้วิธีหุบเข้าไว้ อย่างที่มีหลายคนชมนายกปูว่าหลีกเลี่ยงที่จะตอบโต้คู่แข่ง ทีมโฆษกพรรคดูจะกำลังใช้ยุทธศาสตร์เย็บปากในบางเรื่อง เหมือนกำลังหากินกับความเงียบ
หาคะแนนนิยมจากคนที่แยกไม่ออก ว่าเห่ากับด่ามันต่างกันยังไง