Jump to content


Photo
- - - - -

ทำไมจู่เยอรมันนีจึงถอนทองคำที่ฝากใว้ในสหรัฐ-ฝรั่งเศษกลับเข้าประเทศ


  • Please log in to reply
65 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

ตอบ 26 มกราคม พ.ศ. 2556 - 18:30

ขนาด EU ที่ว่า "เศรษฐกิจแน่ๆ" ยังทำท่าว่าจะ "ไปไม่รอด"

 

แล้วอย่างนี้ AEC ที่ดันทุรังจะให้มีในปี 2558 จะเกิดอะไรขึ้น

 

อีกอย่างนะครับ มีใครพอจะบอกได้ไหมว่าจะมี "ประโยชน์"

 

อะไรกับ "ประเทศไทย" มั่งครับ...!!! -_- -_-

 

EU ที่มีปัญหา เพราะประเทศที่เข้าใหม่แถวยุโรปใต้ เศรษฐกิจไม่แข็งแรงพอครับ 

เมื่อเข้ากลุ่ม EU แล้ว ทาง EU จะมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ นัยว่าให้เศรษฐกิจประเทศยุโรปใต้พัฒนาทัดเทียมกับสมาชิกดั้งเดิม

แต่ปัญหาคือ ประเทศยุโรปใต้ส่วนใหญ่เอาเงินไปทำโครงการประชานิยมซะงั้น ฝีมันก็เลยบานทะโรมาตอนนี้ไงละครับ

 

ส่วน AEC ดีหรือไม่ ตอบเลยว่าดีครับ แต่ประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมตัวเองด้วย

ตามทำเลแล้วไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในส่วนที่เป็นแผ่นดิน

เกริ่นก่อนนะครับ อาเซียนแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ ส่วนแผ่นดิน และส่วนทะเล

ส่วนแผ่นดิน ประกอบด้วย ไทย พม่า ลาว เขมร เวียดนาม

ส่วนทะเล ประกอบด้วย มาเลเซีย สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ 

การทำ AEC คืออะไร ตอบง่ายๆ คือ การลดกำแพงภาษี, ข้อจำกัดต่างๆ ด้านการลงทุนและการจ้างงาน 

ดังนั้นผลของการเปิด AEC คือ สินค้าไทยเข้าไปตามตลาดต่างๆ ได้มากขึ้น นักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศได้ง่าย แรงงานต้นทุนต่ำจะเคลื่อนย้ายเข้าสู่แหล่งงานได้ง่ายขึ้น 

แต่ตอนนี้ประเทศไทย การเตรียมของภาครัฐยังไม่ชัดเจนแม้จะเหลือเวลาเพียงแค่ 2 ปีแล้ว 

การเป็นศูนย์กลางโดยทำเลนั้น ผลประโยชน์จะได้เต็มเม็ดเต็มหน่อยเมื่อคุณเตรียมการ Logistic ให้ดี 

ตอนนี้รัฐบาลยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนเรื่อง Logistic เสียดายโครงการของรัฐบาลที่แล้วเรื่องรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ 

ถ้าทำได้จริง ตัวนั้นละคือสิ่งที่ลด cost อย่างมีนัยสำคัญของ Logistic ในประเทศนี้

ส่วนเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงาน จะมีผลตามมามากมาย ต่อไปฝ่ายความมั่นคงต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดในการป้องกันประเทศซะใหม่

เพราะสงครามในรูปแบบจะมีโอกาสเกิดได้น้อยลง แต่สงครามในรูปแบบอสมมาตรจะมีมากขึ้น จากการเคลื่อนย้ายของแรงงาน

ทั้งการก่อการร้าย ปัญหายาเสพติด สินค้าหนีภาษี การค้ามนุษย์ นี่เป็นรูปแบบใหม่ที่ฝ่ายความมั่นคงต้องตระหนักและเตรียมการรับมือในอีก 2 ปีข้างหน้า 

 

ขอบคุณครับ ท่านRicebeanoil สำหรับความคิดเห็นเรือง AEC

 

ไม่ใช่ว่าผมจะเป็นพวกมอง "โลกไม่สวย" นะครับ............

 

แต่ผมกลับมองว่า AEC ทำให้ "ประเทศไทย" ของเราเสียเปรียบ

 

และเสียประโยชน์ที่ "ประเทศไทย" ควรจะได้รับ ซึ่งน้อยกว่า ตอนยังไม่มี AEC

 

เพราะมันดันไปมี "มาตรฐานที่ไม่เป็นไปตามกลไกลธรรมชาติ" จาก รัฐบาลอีเม้ย หน่ะครับ... -_- -_-

 

 

คือประเทศเรานะ ทำเลดีจริงไม่มีใครเถียง แต่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือเปล่า

อันนี้อยู่ที่ฝีมือรัฐบาลแล้วละครับ ถ้าทำได้ก็ขอชม แต่ถ้าทำห่วยก็ขอบอกว่าโง่เต็มทนแล้วละครับ

ของดีอยู่ในมือ แต่ใช้ประโยชน์ไม่เป็นก็ไม่รู้จะด่ายังไงแล้วละครับ

 

ใช่ครับ..."ชัยภูมิ" ของประเทศไทย นี่ดีมากๆ

 

แต่ก็นั่นแหล่ะครับ...สิ่งที่ผมจะสื่อ ก็คือเรื่องที่

 

เกี่ยวกับ เรื่องของแรงงาน ผลผลิตการเกษตร

 

ซึ่งคุณภาพของทั้งสองอย่างนี้ "ประเทศไทย"

 

เหนือกว่าคู่แข่ง มาแต่ไหนแต่ไร โดยตลอดอยู่แล้ว

 

จนมาถึง "รัฐบาลอีเม้ย" นี่แหล่ะครับ "ทำให้รวนไปหมด"

 

ต่อไป "ค่าแรง" และ "ราคาผลผลิตทางการเกษตร"

 

ก็คงจะเป็นตัวชี้วัด "ความอยู่รอดของประเทศ" เองแหล่ะครับ...!!! -_-


ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย


#52 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 26 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:04

ตอนนี้อเมริกาเร่งพิมพ์เงิน ญี่ปุ่นก็กำลังเริ่มพิมพ์ตาม. และชาติอื่นๆก็คงพิมพ์เงินมาสู้กัน ผลคือเงินเฟ้อ

ปล.เก็บทองก็ติดดอยมาปีกว่าแล้ว =="

รู้งี้ซื้อที่ดินแปลงเล็กๆเก็บดีกว่า. เพราะง่ายและไม่ต้องลุ้นกับราคาที่ขึ้นๆลงของราคาทอง

 

 

ช่วงที่ผ่านมาผมเก็บออมเงินเกือบๆ 7 หลัก ไว้กะซื้อทอง

ยังไม่กล้าเลยครับ  ราคาขึ้นลงน่ากลัวเกินไปสำหรับหัวใจดวงน้อยๆของผม

 

นี่ผมกะว่ารอราคาลง 23000 ค่อยช้อนซื้อ ตอนนี้เลยโยกเงินมาลงทุนธุรกิจก่อน

หัวใจผมไม่ค่อยแข็งแรงครับ  แบกรับความขาดทุนหนักๆไม่ได้  ยอมรับเลยว่าปอด

 

แต่ท่านวิชญ์ก็ไม่ต้องกังวล ทองถือไว้ยาวๆเป็นสิบปียังไงราคาก็ต้องขึ้นเป็นเท่าตัวแน่นอนครับ

ยอมถือยาวโลดเลยครับงานนี้  อย่าขายออกนะครับ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#53 sudthorn

sudthorn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 26 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:08

เราว่าเพื่อลดความเสี่ยงที่เอาทองขงตัวเองไปฝากไว้กับประเทศอื่น และเนื่องจากเวลาที่ผ่านมาการตรวจสอบทองที่ฝากไว้ก็เป็นเพียงการยืนยันด้วยลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ตอนนี้เยอรมันเองก็ต้องการเห็นทองที่ฝากไว้ในที่ต่าง ๆ ว่ายังเก็บเป็นทองแท่งอยู่ ไม่ใช่เปลี่ยนเป็นพันธบัตรไปแล้ว หรือเผลอ ๆ ทองที่เห็นก็อาจจะกลายเป็นเพียงทองชุบก็ได้ ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยปราศจากความเสี่ยง เอาทองมาเก็บเองดีกว่ามัง
คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

#54 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 26 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:11

ตอนนี้อเมริกาเร่งพิมพ์เงิน ญี่ปุ่นก็กำลังเริ่มพิมพ์ตาม. และชาติอื่นๆก็คงพิมพ์เงินมาสู้กัน ผลคือเงินเฟ้อ

ปล.เก็บทองก็ติดดอยมาปีกว่าแล้ว =="

รู้งี้ซื้อที่ดินแปลงเล็กๆเก็บดีกว่า. เพราะง่ายและไม่ต้องลุ้นกับราคาที่ขึ้นๆลงของราคาทอง

 

 

ช่วงที่ผ่านมาผมเก็บออมเงินเกือบๆ 7 หลัก ไว้กะซื้อทอง

ยังไม่กล้าเลยครับ  ราคาขึ้นลงน่ากลัวเกินไปสำหรับหัวใจดวงน้อยๆของผม

 

นี่ผมกะว่ารอราคาลง 23000 ค่อยช้อนซื้อ ตอนนี้เลยโยกเงินมาลงทุนธุรกิจก่อน

หัวใจผมไม่ค่อยแข็งแรงครับ  แบกรับความขาดทุนหนักๆไม่ได้  ยอมรับเลยว่าปอด

 

แต่ท่านวิชญ์ก็ไม่ต้องกังวล ทองถือไว้ยาวๆเป็นสิบปียังไงราคาก็ต้องขึ้นเป็นเท่าตัวแน่นอนครับ

ยอมถือยาวโลดเลยครับงานนี้  อย่าขายออกนะครับ

เอามาให้กู้เลย จะเอาไปซื้อหุ้น ๕๕๕

 

มีเงินแบบนี้ ผึ้งน้อยมาแฟนไม่ได้ได้ไงเนี่ย 



#55 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 26 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:15

ผมมองว่าในระยะนี้คงต้องเซฟเงินในกระเป๋าไว้เป็นการดีที่สุดครับ

ทองน่าจะลงได้อีก หุ้นยังแกว่งๆ พิกล ๆ

ปล. ความรู้ผมน้อยเน้อครับ

ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#56 Ricebeanoil

Ricebeanoil

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,320 posts

ตอบ 26 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:23

ใช่ครับ..."ชัยภูมิ" ของประเทศไทย นี่ดีมากๆ

 

แต่ก็นั่นแหล่ะครับ...สิ่งที่ผมจะสื่อ ก็คือเรื่องที่

 

เกี่ยวกับ เรื่องของแรงงาน ผลผลิตการเกษตร

 

ซึ่งคุณภาพของทั้งสองอย่างนี้ "ประเทศไทย"

 

เหนือกว่าคู่แข่ง มาแต่ไหนแต่ไร โดยตลอดอยู่แล้ว

 

จนมาถึง "รัฐบาลอีเม้ย" นี่แหล่ะครับ "ทำให้รวนไปหมด"

 

ต่อไป "ค่าแรง" และ "ราคาผลผลิตทางการเกษตร"

 

ก็คงจะเป็นตัวชี้วัด "ความอยู่รอดของประเทศ" เองแหล่ะครับ...!!! -_-

 

คือเรื่อง "ค่าแรง" กับ "ราคาผลผลิตทางการเกษตร" เรื่องพวกนี้มีทางแก้ครับ

 
เรื่อง "ค่าแรง" คงต้องยอมรับการขึ้นค่าแรงที่เดียว 300 บาทนั้น มันทำให้ทุกอย่างปั่นป่วนไปหมด 
แต่ก็ต้องยอมรับอีกเหมือนกันว่า "ค่าแรง" คนไทยสมควรจะสูงกว่าเดิม 
เพราะส่วนใหญ่หลังจากประเทศเราได้เปิดประเทศมากขึ้น คนได้รับการฝึกหัดจากระบบบริษัทของญี่ปุ่นมากขึ้น
ทำให้แรงงานเรามีประสบการณ์และมีฝีมือมากขึ้น 
ตอนนี้ประเทศไทยสมควรปลีกตัวออกจากอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นแล้ว 
แรงงานในประเทศไทยตอนนี้สมควรได้รับการยกระดับให้ทำงานใช้เครื่องจักรได้ 
เพราะตอนนั้นขั้นตอนของประเทศไทยคือ การผลิตให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้นโดยใช้แรงงานไม่มาก 
ดังนั้นทักษะต่างๆ ของแรงงานต้องได้รับการพัฒนาไปในแนวทางนี้ 
แต่เป็น "รัฐบาลนี้" อีกเช่นกันที่ขึ้นค่าแรงโดยไม่ได้ปรับปรุงแรงงานไปในทิศทางที่ควรจะเป็นก่อน
ทำให้สิ่งที่ตามมาคือ การย้ายฐานของอุตสาหกรรมบางส่วน เพราะไม่สามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้ 
อุตสาหกรรมที่ย้ายฐาน ในความคิดผมมี 2 ประเภทใหญ่คือ 
1. อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น อันนี้ไม่รู้สึกเสียดาย เพราะเราไม่ได้เดินในแนวทางนี้แล้ว
2. อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานที่มีฝีมือ อันนี้เสียดายมาก เพราะทักษะแรงงานเรายังไม่ถึง การไปเพิ่มค่าแรงแบบนั้นย่อมเป็นการกดดันให้ผู้ประกอบการหันไปหาแรงงานที่มีฝีมือในค่าแรงที่เหมาะสม
ประเด็นตอนนี้ที่ต้องทำของรัฐบาล คือ การพัฒนาฝีมือแรงงานให้สามารถทำงานกับเครื่องจักรได้
 
เรื่อง "ราคาผลผลิตทางการเกษตร" เรื่องนี้ต้องยอมรับก่อนว่า "ผลผลิตทางการเกษตร" บางส่วนของบ้านเรา มันเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ 
ซึ่งราคาเหล่านี้ขึ้นอยู่กับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าและการเก็งกำไรของตลาด
วิธีที่จะช่วยเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ "การประกันราคา" เรื่องสินค้าเกษตรสำหรับประเทศเราส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความมั่นคง
แนวคิดเรื่องการประกันราคานี้พิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลในยุโรป เหตุผลก็เป็นแบบเดียวกันคือเรื่องความมั่นคง
ในยุโรป ใช้เรื่องการประกันราคากับน้ำตาล เนื่องจากยุโรปเป็นภูมิภาคที่บริโภคน้ำตาลเป็นอย่างมาก และความหวานก็เป็นสารเสพติดอย่างหนึ่ง
เกริ่นก่อน น้ำตาลในโลกนี้ ผลิตมาจากพืช 2 ชนิดหลักๆ คือ อ้อย และหัวบีทรูท 
อ้อยปลูกได้ในเขตร้อน หัวบีทรูทปลูกได้ในเขตหนาว แต่เมื่อพิจารณาถึงต้นทุนการทำน้ำตาลแล้ว อ้อยชนะขาด ชนิดที่ว่าหัวบีทรูทไม่ได้เกิดเลยที่เดียว
แต่ที่ EU ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าน้ำตาลเป็นปัจจัยแห่งความมั่นคงอย่างหนึ่ง 
จึงได้ออกแนวคิด "เรื่องประกันราคา" นี้ออกมา เพื่อให้คงการผลิตน้ำตาลเอาไว้ในภูมิภาคยุโรป เพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุการที่ไม่คาดฝัน 
ดังนั้นเกษตรชาวไร่บีทรูทในยุโรปจึงยังคงอยู่ และยุโรปก็ยังคงความมั่นคงทางด้านน้ำตาลส่วนหนึ่งเอาไว้ 
แต่ก็เป็น "รัฐบาลนี้" อีกแล้ว ที่ดันเอาวิธีการรับจำนำมาใช้แทนวิธีประกันราคา เรื่องทุจริตคงไม่ต้องพูดถึง เพราะพูดกันมามากแล้ว
และอีกวิธีที่ผมอยากให้ทุกรัฐบาลผลักดัน คือ  "เกษตรอินทรีย์" ส่วนตรงนี้เป็นอีกตลาดที่มีค่าพรีเมี่ยมมาก หากว่าเราสามารถเจาะตลาดเข้าไปได้จริง
การใช้เกษตรอินทรีย์นั้น จากที่เคยอ่านในนิตยสารเกี่ยวเกษตรอินทรีย์บอกว่า ต้นทุนการผลิตลดลงประมาณ 85% จากวิธีปกติ 
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ผมว่าถ้าเราทำเกษตรอินทรีย์จริงๆ โดยไม่ต้องมาตราอื่นๆ ช่วยก็สามารถอยู่ได้ เพราะต้นทุนต่ำมาก 
ต่อให้ราคาตกต่ำแค่ไหน ก็สามารถอยู่ได้ เพราะเป็นคนสุดท้ายที่อยู่รอดนั้นเอง
 

Edited by Ricebeanoil, 26 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:24.

เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ

#57 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

ตอบ 26 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:31

คือเรื่อง "ค่าแรง" กับ "ราคาผลผลิตทางการเกษตร" เรื่องพวกนี้มีทางแก้ครับ

เรื่อง "ค่าแรง" คงต้องยอมรับการขึ้นค่าแรงที่เดียว 300 บาทนั้น มันทำให้ทุกอย่างปั่นป่วนไปหมด 
แต่ก็ต้องยอมรับอีกเหมือนกันว่า "ค่าแรง" คนไทยสมควรจะสูงกว่าเดิม 
เพราะส่วนใหญ่หลังจากประเทศเราได้เปิดประเทศมากขึ้น คนได้รับการฝึกหัดจากระบบบริษัทของญี่ปุ่นมากขึ้น
ทำให้แรงงานเรามีประสบการณ์และมีฝีมือมากขึ้น 
ตอนนี้ประเทศไทยสมควรปลีกตัวออกจากอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นแล้ว 
แรงงานในประเทศไทยตอนนี้สมควรได้รับการยกระดับให้ทำงานใช้เครื่องจักรได้ 
เพราะตอนนั้นขั้นตอนของประเทศไทยคือ การผลิตให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้นโดยใช้แรงงานไม่มาก 
ดังนั้นทักษะต่างๆ ของแรงงานต้องได้รับการพัฒนาไปในแนวทางนี้ 
แต่เป็น "รัฐบาลนี้" อีกเช่นกันที่ขึ้นค่าแรงโดยไม่ได้ปรับปรุงแรงงานไปในทิศทางที่ควรจะเป็นก่อน
ทำให้สิ่งที่ตามมาคือ การย้ายฐานของอุตสาหกรรมบางส่วน เพราะไม่สามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้ 
อุตสาหกรรมที่ย้ายฐาน ในความคิดผมมี 2 ประเภทใหญ่คือ 
1. อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น อันนี้ไม่รู้สึกเสียดาย เพราะเราไม่ได้เดินในแนวทางนี้แล้ว
2. อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานที่มีฝีมือ อันนี้เสียดายมาก เพราะทักษะแรงงานเรายังไม่ถึง การไปเพิ่มค่าแรงแบบนั้นย่อมเป็นการกดดันให้ผู้ประกอบการหันไปหาแรงงานที่มีฝีมือในค่าแรงที่เหมาะสม
ประเด็นตอนนี้ที่ต้องทำของรัฐบาล คือ การพัฒนาฝีมือแรงงานให้สามารถทำงานกับเครื่องจักรได้
 
เรื่อง "ราคาผลผลิตทางการเกษตร" เรื่องนี้ต้องยอมรับก่อนว่า "ผลผลิตทางการเกษตร" บางส่วนของบ้านเรา มันเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ 
ซึ่งราคาเหล่านี้ขึ้นอยู่กับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าและการเก็งกำไรของตลาด
วิธีที่จะช่วยเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ "การประกันราคา" เรื่องสินค้าเกษตรสำหรับประเทศเราส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความมั่นคง
แนวคิดเรื่องการประกันราคานี้พิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลในยุโรป เหตุผลก็เป็นแบบเดียวกันคือเรื่องความมั่นคง
ในยุโรป ใช้เรื่องการประกันราคากับน้ำตาล เนื่องจากยุโรปเป็นภูมิภาคที่บริโภคน้ำตาลเป็นอย่างมาก และความหวานก็เป็นสารเสพติดอย่างหนึ่ง
เกริ่นก่อน น้ำตาลในโลกนี้ ผลิตมาจากพืช 2 ชนิดหลักๆ คือ อ้อย และหัวบีทรูท 
อ้อยปลูกได้ในเขตร้อน หัวบีทรูทปลูกได้ในเขตหนาว แต่เมื่อพิจารณาถึงต้นทุนการทำน้ำตาลแล้ว อ้อยชนะขาด ชนิดที่ว่าหัวบีทรูทไม่ได้เกิดเลยที่เดียว
แต่ที่ EU ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าน้ำตาลเป็นปัจจัยแห่งความมั่นคงอย่างหนึ่ง 
จึงได้ออกแนวคิด "เรื่องประกันราคา" นี้ออกมา เพื่อให้คงการผลิตน้ำตาลเอาไว้ในภูมิภาคยุโรป เพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุการที่ไม่คาดฝัน 
ดังนั้นเกษตรชาวไร่บีทรูทในยุโรปจึงยังคงอยู่ และยุโรปก็ยังคงความมั่นคงทางด้านน้ำตาลส่วนหนึ่งเอาไว้ 
แต่ก็เป็น "รัฐบาลนี้" อีกแล้ว ที่ดันเอาวิธีการรับจำนำมาใช้แทนวิธีประกันราคา เรื่องทุจริตคงไม่ต้องพูดถึง เพราะพูดกันมามากแล้ว
และอีกวิธีที่ผมอยากให้ทุกรัฐบาลผลักดัน คือ  "เกษตรอินทรีย์" ส่วนตรงนี้เป็นอีกตลาดที่มีค่าพรีเมี่ยมมาก หากว่าเราสามารถเจาะตลาดเข้าไปได้จริง
การใช้เกษตรอินทรีย์นั้น จากที่เคยอ่านในนิตยสารเกี่ยวเกษตรอินทรีย์บอกว่า ต้นทุนการผลิตลดลงประมาณ 85% จากวิธีปกติ 
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ผมว่าถ้าเราทำเกษตรอินทรีย์จริงๆ โดยไม่ต้องมาตราอื่นๆ ช่วยก็สามารถอยู่ได้ เพราะต้นทุนต่ำมาก 
ต่อให้ราคาตกต่ำแค่ไหน ก็สามารถอยู่ได้ เพราะเป็นคนสุดท้ายที่อยู่รอดนั้นเอง
 

 

ขออนุญาตนะครับ....ผมลองอ่านตามที่ท่านว่ามาข้างต้น ผมยังมองไม่เห็น "ทางแก้" เลยนะครับ

 

ทั้งเรื่องของ "ค่าแรง" ที่ท่านบอกว่า "คนไทยสมควรสูงกว่าเดิม"....เอาเรื่องนี้ก่อนนะครับ

 

ตอนนี้ แรงงานที่ได้เกิน 300 ก็มีอยู่เป็นจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นประเภทแรงงานฝีมือ หรือ พวกที่ควบคุมเครื่องจักรฯ

 

แต่ผลกระทบที่มันเกิดขึ้นคือ มันกระทบกับ "ค่าแรง" ในส่วนที่ เป็น "กลุ่มแรงงาน" ต่างหากหล่ะครับ เพราะมันเป็นกลุ่มแรงงาน

 

ที่มีจำนวนมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ผลกระทบมันจึงมากกว่า......เพราะฉะนั้น "นโยบายพล่อยๆ แบบที่รัฐบาลอีเม้ย เอามาหาเสียงอยู่ตอนนี้"

 

มันจึงส่งผลกระทบอย่างแน่นอน แบบชนิดที่ว่าแก้ไขได้ยากมากๆ และการที่จะคิดเอาเครื่องจักรมาแทน เพื่อลดสัดส่วนของแรงงานเข้มข้น แบบที่ท่านว่ามา

 

ฉะนั้นแล้วแรงงานที่โดนแทนที่โดยเครื่องจักรหล่ะครับ จะไปอยู่ไหน....ผลกระทบมันเหมือนกับท่าน "โยนหินลงน้ำ" เลยนะครับ

 

...........แรงกระเพื่อมของวงน้ำ มันไม่จบจนกว่าจะกระทบฝั่งหรอกนะครับ...!!!

 

ส่วนเรื่อง "ราคาผลผลิตทางการเกษตร" ไม่ต้องไปไกลถึงยุโรป หรอกครับ มันเปรียบเทียบกันได้ยาก ตามลักษณะภูมิประเทศและค่าครองชีพที่ต่างกัน

 

เอาใกล้ๆ ตัวเรานี่แหล่ะครับ เขมร ลาว พม่า ต้นทุนถูกกว่าเราแทบทั้งนั้น เนื่องจาก ภาครัฐของไทย ยังมัวแต่ไปสมสู่ กับ พ่อค้าขายปุ๋ยและอาหารสัตว์ อยู่แบบนี้

 

กว่าที่เราๆ ท่านๆ จะไปอธิบายให้เกษตรกรได้เข้าใจถึงเรื่อง "เกษตรอินทรีย์" ว่ามันเป็นเรื่องดีเพียงใด ต่อทั้งสุขภาพของเกษตรกรเองและสภาพแวดล้อมทั่วไป

 

เกษตรกร ของไทย ก็คงจะไม่รอ เพราะเกษตรอินทรีย์ จะเห็นผล ก็ต้องเป็นผลระยะยาว ไม่สามารถทำได้ทันที เหมือน "เคมี" ที่ใช้ๆ กันอยู่ ซึ่ง พ่อค้าหน้าเลือด ทั้งหลาย

 

มันผูกขาด และ กล่อมประสาท เกษตรกรของไทย มานานแล้ว จะให้ไปเปลี่ยนในทันทีเลยนั้น ต้องเอาเงินที่ไปรับจำนำข้าว มาแจก เกษตรกรให้เป็นทุนในการดำเนินชีวิต

 

ในระหว่างที่รอ การทำเกษตรแบบอินทรีย์ จะเห็นผลครับ.....สรุปก็คือ เกษตรกร ของไทย เคยตัวกับการทำเกษตรแบบเร่งรีบไปแล้ว และ อีกอย่างก็คือ ขาดสภาพคล่อง ครับ

 

และมาจนถึง บรรทัดนี้...ผมก็ยังยืนยันครับ ว่า การนำประเทศเข้า AEC ไม่ได้ช่วยอะไรกับ ประเทศไทย ได้มากแบบที่ประชาสัมพันธ์กันไว้ครับ.....


ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย


#58 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 00:46

 

เอามาให้กู้เลย จะเอาไปซื้อหุ้น ๕๕๕

 

มีเงินแบบนี้ ผึ้งน้อยมาแฟนไม่ได้ได้ไงเนี่ย 

 

พี่บัญชีที่ดูแลให้ผมบอกว่าเวลาจะลงทุนบริษัท ให้กู้เงินตัวเอง คิดดอกแบบ "ดอกเบี้ยนโยบาย+2%" 

(ยังไงก็ถูกกว่ากู้เอสเอ็มอี 3 เท่า)  ผมก็เลยได้ดอกเบี้ยจากเงินตัวเอง  เลยไม่ซื้อทองครับ

 

สำหรับข้อฉงฉัยที่ว่าทำไมมีเงินขนาดนี้แล้วหาแฟนไม่ล่าย...

เพราะ ผมไม่ได้ทำงานประจำ  และวันนี้ยังไม่มีเงินออมพอสำหรับเกษียณตอน 50 เลยครับ  

เก็บเงินได้แค่นี้ ผมถือว่ายังน่ากลัวมาก  เลี้ยงใครไม่ได้แน่นอน

สำหรับผู้หญิงมาอยู่กับคนแบบผมนี่  มันเสี่ยงเน้อ

 

 

 

 

 

 

เกษตรกร ของไทย ก็คงจะไม่รอ เพราะเกษตรอินทรีย์ จะเห็นผล ก็ต้องเป็นผลระยะยาว ไม่สามารถทำได้ทันที เหมือน "เคมี" ที่ใช้ๆ กันอยู่ ซึ่ง พ่อค้าหน้าเลือด ทั้งหลาย

 

มันผูกขาด และ กล่อมประสาท เกษตรกรของไทย มานานแล้ว จะให้ไปเปลี่ยนในทันทีเลยนั้น ต้องเอาเงินที่ไปรับจำนำข้าว มาแจก เกษตรกรให้เป็นทุนในการดำเนินชีวิต

 

ในระหว่างที่รอ การทำเกษตรแบบอินทรีย์ จะเห็นผลครับ.....สรุปก็คือ เกษตรกร ของไทย เคยตัวกับการทำเกษตรแบบเร่งรีบไปแล้ว และ อีกอย่างก็คือ ขาดสภาพคล่อง ครับ

 

และมาจนถึง บรรทัดนี้...ผมก็ยังยืนยันครับ ว่า การนำประเทศเข้า AEC ไม่ได้ช่วยอะไรกับ ประเทศไทย ได้มากแบบที่ประชาสัมพันธ์กันไว้ครับ.....

 

 

เคยอ่านข่าวว่าลาวใช้เงินลงทุนมหาศาลกับเกษตรอินทรีย์ และรณรงค์ให้เกษตรกรของเขาเลิกใช้ปุ๋ยเคมี เพราะ

1. ปุ๋ยเคมีต้นทุนสูงมาก  เกษตกรต้องขายผลิตผลแพงๆถึงจะได้กำไร

ทำให้การแข่งขันสู้ราคาคนอื่นไม่ได้ ที่เขาลดต้นทุนได้ดีกว่า

 

2. ปุ๋ยเคมีทำให้รสชาติของผลิตผลเสียไป ไม่อร่อยเหมือนปุ๋ยอินทรีย์ครับ

ลาวต้องการทำให้ผลิตผลตัวเองเป้นของพรีเมี่ยมที่เด่นเรื่องรสชาติ

 

 

หันมามองนโยบายของอีเม้ยแล้ววังเว้งวังเวง :ph34r: 


Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 00:47.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#59 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 08:47



เยอรมันอยู่ในนาโต้ครับ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าฝ่ายอาหรับ
 


ยากที่จะเข้าใจคนเยอรมันครับ

ฝรั่งเองมันยังไม่เข้าใจว่าเยอรมันคิดยังไง

อย่าลืมว่าเยอรมันเคยรบกับพันธมิตรอย่างโดดเดี่ยวมาแล้ว


สงครามมันไม่ได้เกิดตอนคนมีสติหรอกครับ
 
 
 



เยอรมันเค้ายังส่งทหารมาช่วยอเมริกาสู้รบที่อัฟกันเลยน่ะคุณ ถ้าเรื่องในสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมว่ามันเป็นอดีคไปแล้ว ขนาด นายกหญิงเยอรมัน แกยังไปร่วมงานพิธีรำลึกผู้เสียชีวิตของทหารรัสเซีย ที่รัสเซียจัดเป็นประจำทุกปีเลยน่ะครับ เพื่อรำลึกให้ทหารรัสเซียที่เสีัยชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2
 



สมมุติว่าเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับอาหรับนำโดยอิหร่าน และเยอรมันจำเป็นต้องเข้าสงครามด้วย คุณคิดว่าเยอรมันเลือกข้างใด?

#60 Hilton(ปาล์มาลี)

Hilton(ปาล์มาลี)

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 801 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 09:33

AEC  ก็คล้ายอาเซียน ต่างฝ่ายต่างทำ รวมมือหลวมๆ เพียงแต่ใครเห็นป​ระโยชน์ของอีกประเทศเพื่อเสริมผลประโยชน์ของประเทศตน  ดังนั้นประเทศไทยเห็นประโยชน์ของประเทศอื่นที่จะมาเสริมสิ่งที่เราโดดเด่นไหม  ?  อย่าไปหวังสิ่งใหม่ๆมากเพราะความสามารถในการแข่งขันในเชิงสิ่งใหม่ๆ  หรือหวังว่าประเทศไทยจะก้าวกระโดดไปเป็นประเทศร่ำรวย  เรานึกดูว่าสิงค์โปเมื่อเข้าสู่ AEC จะมีธนาคารหรือสถาบันการเงินไทยเหลือกี่แห่ง

เจ้านายคุณยังเป็นคนไทยไหม  ?  กรรมกรแรงงานระดับล่างจะเป็นกลุ่มคนชาติไหน   ค้าปลีกใหญ่ ใครจะเป็นคนคุมตลาด   รถที่ใช้ขับบนถนน(logistic)จะเป็นกะบะประกอบในไทยไหม   ข้าวที่กินอยู่จะหอมมะลิไทยหรือหอมมะลิเขมร   ฯลฯ

มันจะเคลื่อนไปด้วยระบบทุนนิยม  รายใหญ่กินรายเล็กแน่นอน  (รายเล็กสู้ไม่ได้ด้วยทุน) ไม่โดดเด่น และเก่งจริงจะถูกกินด้วยทุนนิยม  

 

ยกตัวอย่างเล่นๆ  สมัยก่อนเมืองไทยบอกว่า  สิงค์โปรต้องซื้้อน้ำที่ใช้อาบและกิน  20ปีผ่านไปมีใครจำได้บาง  และถ้านี้เป็นcase  เราส่งน้ำไปขายให้สิงคโปรใน AEC  เป็นไปได้ไหม  หรือเราจะต้องกินน้ำจากขวดที่บรรจุโดยบริษัทสิงคโปร  ส่งโดย logistic มาเล 


สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ใช่ของทักษิณ แต่มาจากเงินภาษีของหนู..ของคนไทยทุกคน..  แตงโม เวทีราชดำเนิน 5/11/2013

ผมยังยอมติดคุก 15 วัน แล้วพวกคุณมานิรโทษอะไรกัน .. เต๋า สมชาย เวทีราชดำเนิน 6/11/2013


#61 zeus

zeus

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,212 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:38




เยอรมันอยู่ในนาโต้ครับ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าฝ่ายอาหรับ
 


ยากที่จะเข้าใจคนเยอรมันครับ

ฝรั่งเองมันยังไม่เข้าใจว่าเยอรมันคิดยังไง

อย่าลืมว่าเยอรมันเคยรบกับพันธมิตรอย่างโดดเดี่ยวมาแล้ว


สงครามมันไม่ได้เกิดตอนคนมีสติหรอกครับ
 
 
 
 



เยอรมันเค้ายังส่งทหารมาช่วยอเมริกาสู้รบที่อัฟกันเลยน่ะคุณ ถ้าเรื่องในสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมว่ามันเป็นอดีคไปแล้ว ขนาด นายกหญิงเยอรมัน แกยังไปร่วมงานพิธีรำลึกผู้เสียชีวิตของทหารรัสเซีย ที่รัสเซียจัดเป็นประจำทุกปีเลยน่ะครับ เพื่อรำลึกให้ทหารรัสเซียที่เสีัยชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2
 
 



สมมุติว่าเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับอาหรับนำโดยอิหร่าน และเยอรมันจำเป็นต้องเข้าสงครามด้วย คุณคิดว่าเยอรมันเลือกข้างใด?
 



เออ โทษน่ะครับ แล้วคุณคิดว่า เยอรมันจะเข้าข้างอิหร่านหรอ ผมก็ยังยืนยันคำเดิม เยอรมันอยู่ในนาโต้ ถ้าอิสราเอล กับ อิหร่านซัดกัน ก็๋ต้องมาดูว่า นาโต้ จะเข้าฝ่ายไหน ถ้าเข้าฝ่ายยิว คุณก็คิดเอาเยอรมันจะไม่ร่วมกับนาโต้หรือไง อย่าลืมนาโต้ คือองค์กรความร่วมมือทางการทหาร ขนาดอเมริกาถูกโจมตี กลุ่มชาติสมาชิกนาโต้ ที่ไม่เกี่ยวข้องยังต้องร่วมเป็นร่วมตายส่งทหารไปอัฟกันเลย แล้วถ้าคุณคิดว่า เยอรมันจะเข้าข้างอิหร่าน คิดผิดคิดใหม่ ถ้าคิดว่า เยอรมันจะไม่เข้าข้างยิว เพราะเคยเกิดกรณีฆ่าล้างเผ่าพันธ์ คุณลองไปดูเรือดำน้ำอิสราเอล เยอรมันถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับอิสราเอล ให้อิสราเอลสร้างเรือดำน้ำ อีกทั้งเยอรมัน ยังสั่งซื้อขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Spike. น่ะครับ อย่างน้ิอยที่สุด ผมคิดว่า เยอรมันจะไม่เข้าข้างอิหร่าน ด้วยเหตุผลที่ เยอรมันอยู่ในนาโต้ แต่ถ้านาโต้ไม่ร่วม ยิวซัดอิหร่าน เยอรมันก็น่าจะวางตัวเป็นกลางมากกว่า

#62 Leeporter ขี้แพ้

Leeporter ขี้แพ้

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,493 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:06


เออ โทษน่ะครับ แล้วคุณคิดว่า เยอรมันจะเข้าข้างอิหร่านหรอ ผมก็ยังยืนยันคำเดิม เยอรมันอยู่ในนาโต้ ถ้าอิสราเอล กับ อิหร่านซัดกัน ก็๋ต้องมาดูว่า นาโต้ จะเข้าฝ่ายไหน ถ้าเข้าฝ่ายยิว คุณก็คิดเอาเยอรมันจะไม่ร่วมกับนาโต้หรือไง อย่าลืมนาโต้ คือองค์กรความร่วมมือทางการทหาร ขนาดอเมริกาถูกโจมตี กลุ่มชาติสมาชิกนาโต้ ที่ไม่เกี่ยวข้องยังต้องร่วมเป็นร่วมตายส่งทหารไปอัฟกันเลย แล้วถ้าคุณคิดว่า เยอรมันจะเข้าข้างอิหร่าน คิดผิดคิดใหม่ ถ้าคิดว่า เยอรมันจะไม่เข้าข้างยิว เพราะเคยเกิดกรณีฆ่าล้างเผ่าพันธ์ คุณลองไปดูเรือดำน้ำอิสราเอล เยอรมันถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับอิสราเอล ให้อิสราเอลสร้างเรือดำน้ำ อีกทั้งเยอรมัน ยังสั่งซื้อขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Spike. น่ะครับ อย่างน้ิอยที่สุด ผมคิดว่า เยอรมันจะไม่เข้าข้างอิหร่าน ด้วยเหตุผลที่ เยอรมันอยู่ในนาโต้ แต่ถ้านาโต้ไม่ร่วม ยิวซัดอิหร่าน เยอรมันก็น่าจะวางตัวเป็นกลางมากกว่า
 

สงครามคือเรื่องผลประโยชน์ครับ ทุกประเทศในยุโรปเปลี่ยนฝ่ายได้ตลอดเวลา
ประเทศต่างๆ จะเลือกอยู่ข้างไหน ขึ้นกับผลประโยชน์กับผลเสียที่เขาต้องชั่งตวงวัดมาก่อนที่จะเลือกข้างครับ
โดยเฉพาะคนเยอรมัน เขาคิดไม่เหมือนยุโรปชาติอื่นเท่าไหร่หรอกครับ
รอดูกันตอนสงครามเกิดดีกว่า

#63 ควันหลง

ควันหลง

    I am Royalist

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,696 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:54


เออ โทษน่ะครับ แล้วคุณคิดว่า เยอรมันจะเข้าข้างอิหร่านหรอ ผมก็ยังยืนยันคำเดิม เยอรมันอยู่ในนาโต้ ถ้าอิสราเอล กับ อิหร่านซัดกัน ก็๋ต้องมาดูว่า นาโต้ จะเข้าฝ่ายไหน ถ้าเข้าฝ่ายยิว คุณก็คิดเอาเยอรมันจะไม่ร่วมกับนาโต้หรือไง อย่าลืมนาโต้ คือองค์กรความร่วมมือทางการทหาร ขนาดอเมริกาถูกโจมตี กลุ่มชาติสมาชิกนาโต้ ที่ไม่เกี่ยวข้องยังต้องร่วมเป็นร่วมตายส่งทหารไปอัฟกันเลย แล้วถ้าคุณคิดว่า เยอรมันจะเข้าข้างอิหร่าน คิดผิดคิดใหม่ ถ้าคิดว่า เยอรมันจะไม่เข้าข้างยิว เพราะเคยเกิดกรณีฆ่าล้างเผ่าพันธ์ คุณลองไปดูเรือดำน้ำอิสราเอล เยอรมันถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับอิสราเอล ให้อิสราเอลสร้างเรือดำน้ำ อีกทั้งเยอรมัน ยังสั่งซื้อขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Spike. น่ะครับ อย่างน้ิอยที่สุด ผมคิดว่า เยอรมันจะไม่เข้าข้างอิหร่าน ด้วยเหตุผลที่ เยอรมันอยู่ในนาโต้ แต่ถ้านาโต้ไม่ร่วม ยิวซัดอิหร่าน เยอรมันก็น่าจะวางตัวเป็นกลางมากกว่า
 

สงครามคือเรื่องผลประโยชน์ครับ ทุกประเทศในยุโรปเปลี่ยนฝ่ายได้ตลอดเวลา
ประเทศต่างๆ จะเลือกอยู่ข้างไหน ขึ้นกับผลประโยชน์กับผลเสียที่เขาต้องชั่งตวงวัดมาก่อนที่จะเลือกข้างครับ
โดยเฉพาะคนเยอรมัน เขาคิดไม่เหมือนยุโรปชาติอื่นเท่าไหร่หรอกครับ
รอดูกันตอนสงครามเกิดดีกว่า

 

แล้วอิหร่านมีผลประโยชน์อะไรที่เยอรมันต้องการหล่ะครับ ตอนนี้ดูเหมือนว่าอิหร่านจะคุกคามผลประโยชน์ของเยอรมันด้วยซํ้าไป แล้วอย่าลืมว่าถ้าเยอรมันแตกแถวแล้ว มันจะส่งผลต่อเสถียรภาพของกลุ่มในระยะยาวด้วย 

 

อิหร่านมีผลประโยชน์มันมากขนาดนั้นเชียวหรือครับ ???

 

แนวโน้มของปัญหานี้ ทุกคนในยุโรปมองเหมือนกันหมดแหละครับ ว่ารัฐบาลอิหร่านเป็นปัญหา แต่ไม่ใครอยากจะแก้ปัญหาหรอกครับ แม้แต่ยิวเอง เพราะปัญหาของอิหร่านแก้ยากเกินไป แต่ถ้าเป็นกรณีๆ ก็มีสิทธิ์เหมือนกันครับ 


Edited by ควันหลง, 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:57.


#64 kik_bucha

kik_bucha

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 63 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 21:52

หาก ทั้งเยอรมัน และอังกฤษ ออกจากอียู ทิ้งอียู ไปพร้อมกัน จะเกิดอะไรขึ้น :o  :blink:



#65 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:59

หาก ทั้งเยอรมัน และอังกฤษ ออกจากอียู ทิ้งอียู ไปพร้อมกัน จะเกิดอะไรขึ้น :o  :blink:

 

ประเมินคร่าวๆ ....

 

อันดับแรกเลย กรีซ อิตาลี สเปน โปรตุเกส จะเข้าสู่สภาวะล้มละลายทางการเงิน การล้มละลายทางการเงินของกลุ่มประเทศพวกนี้จะก่อให้เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ฉุดดึงให้เศรษฐกิจของประเทศที่มีธุรกรรมทางการเงินไม่ว่าจะกู้หรือให้กู้ต้องประสพปัญหาตามไปด้วย และจะกลายเป็นวิกฤติลุกลามต่อไปทั่วโลก และวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกแบบซึมลึกยาวนานก็คงหลีกเลี่ยงไม่พ้น

 

เดาว่านี่เองที่เป็นเหตุผลให้ธนาคารกลางเยอรมันนีดำเนินการถอนทองคำสำรองที่เก็บใว้นอกประเทศเอามาเก็บใว้เอง


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#66 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 23:11


เออ โทษน่ะครับ แล้วคุณคิดว่า เยอรมันจะเข้าข้างอิหร่านหรอ ผมก็ยังยืนยันคำเดิม เยอรมันอยู่ในนาโต้ ถ้าอิสราเอล กับ อิหร่านซัดกัน ก็๋ต้องมาดูว่า นาโต้ จะเข้าฝ่ายไหน ถ้าเข้าฝ่ายยิว คุณก็คิดเอาเยอรมันจะไม่ร่วมกับนาโต้หรือไง อย่าลืมนาโต้ คือองค์กรความร่วมมือทางการทหาร ขนาดอเมริกาถูกโจมตี กลุ่มชาติสมาชิกนาโต้ ที่ไม่เกี่ยวข้องยังต้องร่วมเป็นร่วมตายส่งทหารไปอัฟกันเลย แล้วถ้าคุณคิดว่า เยอรมันจะเข้าข้างอิหร่าน คิดผิดคิดใหม่ ถ้าคิดว่า เยอรมันจะไม่เข้าข้างยิว เพราะเคยเกิดกรณีฆ่าล้างเผ่าพันธ์ คุณลองไปดูเรือดำน้ำอิสราเอล เยอรมันถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับอิสราเอล ให้อิสราเอลสร้างเรือดำน้ำ อีกทั้งเยอรมัน ยังสั่งซื้อขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Spike. น่ะครับ อย่างน้ิอยที่สุด ผมคิดว่า เยอรมันจะไม่เข้าข้างอิหร่าน ด้วยเหตุผลที่ เยอรมันอยู่ในนาโต้ แต่ถ้านาโต้ไม่ร่วม ยิวซัดอิหร่าน เยอรมันก็น่าจะวางตัวเป็นกลางมากกว่า
 

สงครามคือเรื่องผลประโยชน์ครับ ทุกประเทศในยุโรปเปลี่ยนฝ่ายได้ตลอดเวลา
ประเทศต่างๆ จะเลือกอยู่ข้างไหน ขึ้นกับผลประโยชน์กับผลเสียที่เขาต้องชั่งตวงวัดมาก่อนที่จะเลือกข้างครับ
โดยเฉพาะคนเยอรมัน เขาคิดไม่เหมือนยุโรปชาติอื่นเท่าไหร่หรอกครับ
รอดูกันตอนสงครามเกิดดีกว่า

 

แล้วอิหร่านมีผลประโยชน์อะไรที่เยอรมันต้องการหล่ะครับ ตอนนี้ดูเหมือนว่าอิหร่านจะคุกคามผลประโยชน์ของเยอรมันด้วยซํ้าไป แล้วอย่าลืมว่าถ้าเยอรมันแตกแถวแล้ว มันจะส่งผลต่อเสถียรภาพของกลุ่มในระยะยาวด้วย 

 

อิหร่านมีผลประโยชน์มันมากขนาดนั้นเชียวหรือครับ ???

 

แนวโน้มของปัญหานี้ ทุกคนในยุโรปมองเหมือนกันหมดแหละครับ ว่ารัฐบาลอิหร่านเป็นปัญหา แต่ไม่ใครอยากจะแก้ปัญหาหรอกครับ แม้แต่ยิวเอง เพราะปัญหาของอิหร่านแก้ยากเกินไป แต่ถ้าเป็นกรณีๆ ก็มีสิทธิ์เหมือนกันครับ 

 

ปัญหาของอิหร่านมีความซับซ้อนครับ ถึงจะเป็นชาวมุสลิมเหมือนชาติอาหรับอื่นๆ แต่คนอิหร่านถือตัวว่าตัวเองไม่ใช่ชาวอาหรับแต่เป็นชาวเปอร์เชีย ในแง่หนึ่งอิหร่านถึงจะไม่ถูกกับอิสราเอล แต่อิหร่านก็ไม่ค่อยลงรอยกับชาติอาหรับอื่นๆเท่าไดนัก ยิ่งในสังคมคนอิหร่านจะสมัครสมานสามัคคีมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสูง นึกภาพสังคมคนญี่ปุ่น-จีน-เกาหลี แล้วลองนึกย้อนภาพตอนสงครามอิรัก-อิหร่าน แม้อิหร่านจะโดนคว่ำบาตจากชาวโลกต้องรบแบบหัวเดียวกระเทียมลีบกับอิรักที่เป็นลูกรักของสหรัฐในยุคนั้น ส่วนอิรักได้รับการสนับสนุนทุน-เทคโนโลยี-อาวุททุกๆอย่างจากซีไอเอ กระนั้นก็ยังไม่สามารถโค่นอิหร่านได้ นอกจากสงครามนิวเคลียร์เท่านั้นไม่อย่างนั้นไม่มีชาติตะวันตกชาติไดกล้าส่งทหารเข้าไปตายในอิหร่าน


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน