Jump to content


Photo

.......... สิ่งที่หายไป....???? อยู่ไหน ...??


  • Please log in to reply
417 replies to this topic

#1 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 1 February 2013 - 13:27

*
POPULAR

......หลายสิบปี ที่ตามหา.บางปีก็พบ ครั้ง-สอง บางปีก็ไม่พบ

ยิ่งระยะ ๑๐ ปี หลังนี่  เกือบไม่ได้พบ  ครั้งนี้ จะพูดถึง

..กาพย์...ร้อยกรอง ชนิดนี้ มีอยู่ไม่มากนัก  เช่น  ...........

..กาพย์ยานี ๑๑..กาพย์ฉบัง ๑๖..กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘..

บางคนฉงนว่า..อ้าว.. แล้ว..กาพย์ห่อโคลง..กาพย์เห่เรือ.?

.......ก็ต้องอธิบายว่า..กาพย์ห่อโคลง= ก็แต่ง กาพย์ยานี-

๑๑  สลับกับ โคลงสุภาพ.ส่วน..กาพย์เห่เรือ..ก็ ขึ้น โคลง-

สุภาพ.แล้วต่อด้วยกาพย์ยานี ๑๑. เริ่มแต่ ..ช้าแลว่าเห่..

มูละเห่..สวะเห่...  ก็ไม่จำต้องกล่าวถึง  เพราะเรียกว่า .......

..กาพย์เฉพาะกิจ..มีประวัติมาตั้งแต่ อยุธยา  ที่ดังและรู้จัก

กันก็มายุคปลาย  อยุธยา  ร้อยกรองของ ..เจ้าฟ้ากุ้ง....

( เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ )  ย่อ ๆ  ......

.......กาพย์ยานี ๑๑..  ยังเห็นแต่งกันต่อเนื่อง..คงจะไม่หาย

ไปแน่. ส่วน.. กาพย์ฉบัง ๑๖..( มีอยู่ในบทพากย์โขน ) แต่

คนแต่ง  ดูจะน้อยลง  ทั้งที่กาพย์ชนิดนี้  แต่งง่าย สัมผัสก็-

น้อย ( ๑ บทมีแค่ ๓ วรรค. วรรคแรก ๖ คำ.วรรค๒-๔คำ ----

และวรรค๓-๖คำ )  สัมผัสก็แห่งเดียว...ปลายวรรค๑สัมผัส-

ปลายวรรค๒. แค่นี้  แต่กาพย์  ชนิดนี้ ก็กำลังจะหาย.........

ทั้งๆที่แต่งง่ายมาก  แต่ก็น่าเสียดาย  ปีที่แล้ว แนะนำไว้ได้

๓ คน  ในเฟซฯ  .อีกชนิดหนึ่งคือ( กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘)

เงียบมาหลายปีแล้ว. ไม่ค่อยเจอ (วรรคละ ๔ คำ มี ๗ วรรค)

หลายปีแล้ว  ไม่ได้เห็น  ไม่ได้อ่าน..น่าจะถึงกาลสูญหาย....

.......ตอนนี้..ขอลงไว้ให้ผู้สนใจ  ดูเป็นตัวอย่าง  .........

..(เป็นบท..ร้อยกรอง ใน หนังสือเรื่อง..กาพย์พระชัยสุริยา)

..ของท่าน.สุนทรภู่..( ซึ่ง ครั้งหนึ่ง เคยใช้เป็นแบบเรียน )

......( วันนั้น จันทร.....มีดา-รากร.....เป็นบ-ริวาร.

...... เห็นสิ้น ดินฟ้า....ในป่า ท่าธาร....มาลี คลี่บาน.

......ใบก้าน อรชร....) ฯลฯ  ๗ วรรค ๒๘ คำ........

 

>>>>> วันนี้ ขอทวงถาม กาพย์ที่หายไปแค่นี้...ต่อไปก็จะ

......พูดถึง..ร้อยกรองชนิดต่างๆ เช่น โคลง..ที่หายไป....

.....กลอน.ที่หายไป....ร่าย...ลิลิต ...ลิลิตก็เป็นการแต่ง-

.....ร้อยกรอง..สลับกัน.เล่าเรื่องใดเรื่องหนึ่ง  ที่มีปรากฏใน

.....ปัจจุบันนี้ เหลืออยู่แค่..ลิลิตพระลอ.ลิลิตญวนพ่าย.ล่าสุด

....รัชกาลที่๖ท่าน.พระราชนิพนธ์  ..ลิลิต นารายณ์สิบปาง..

 

>>>>> ส่วน..คำฉันท์   ที่หายไป  ไม่แน่ว่าจะเขียนหรือไม่

.....เพราะแค่  กลอนสุภาพ...กาพย์ยานี ๑๑  ยังเขียนกันมั่ว-

.....มาก..( คำฉันท์แต่ละชนิด ) บังคับคำ ตายตัว ๑๑ ก็ต้อง-

.....๑๑ เกินไม่ได้  ขาดไม่ได้ แถม( ครุ-ลหุ ) ต้องวางให้ตรง

.....ยังเห็นมีแต่งกันอยู่ ๒-๓  ชนิด  ทั้งที่ คำฉันท์ มีหลายสิบ

.....ชนิด...จะเอาไว้กล่าวตอนท้ายสุด....ขอแค่นี้ก่อน...

 

>>>>>>> ร้อยกรอง..ที่หายไป.....ตอนที่ ๑ <<<<<<<<

 

..........๑/๒/๕๖.........

...



#2 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 1 February 2013 - 13:50

^_^  เพลงเขมรไทรโยค, พม่าแทงกบ ยังกลายเป็นเพลงอะไรชึ่งชั่งๆๆไปแล้วเลยขอรับลุง... นับประสาอะไรกับกลอนที่ลุงว่า ต้องใช้ความเป็นศิลป์, เป็นไทยมากมาย... จะเหลือหรือขอรับ... เอาเป็นว่าของเก่าทั้งหลายเก็บรักษาให้ดีเถิดขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#3 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 1 February 2013 - 13:55

>>>ตัวอย่าง.กาพย์ยานี ๑๑ ....

 

...๑..ไม่จำ คำพระเจ้า.............เหไปเข้า ภาษาไสย

.....ถื.ดี มีข้าไท.................ฉ้.แต่ไพร่ ใส่ขื่.คา

 

...๒..คดี ที่มีคู่.....................คื.ไก่หมู เจ้าสุภา

......ใครเอา เข้าปลามา.......ให้สุภา ก็ว่าดี

 

...๓..ที่แพ้ แก้ชะนะ.............ไม่ถื.พระ ประเวณี

......ขี้ฉ้. ก็ได้ดี....................ไล่ด่าตี มีอาญาฯ.....ฯลฯ 

 

 

===========================================

 

 

>>>>> กาพย์ฉบัง ๑๖ <<<<<<  ตัวอย่าง"............

 

 

..๑..เภตรา มาใน น้ำไหล......ค่ำเช้า เปล่าใจ.

......ที่ใน มหา วารี.

 

..๒..พสุธา อาศัย ไม่มี.........ราชา นารี

.....อยู่ที่ พระแกล แลดู.

 

..๓..ปลากะโห้ โลมา ราหู.......เหรา ปลาทู

.....มีอยู่ ในน้ำ คล่ำไป

 

..๔..ราชา ว้าเหว่ หฤทัย.........วายุพา คลาไคล

.....มาใน ทะเล เอกา...ฯลฯ

 

 

========================================

 

........ตัวอย่างนี้ ในเรื่อง ( กาพย์ พระไชยสุริยา ) 

 

 

...ใช้คำเดิมในเรื่อง..( ต้นฉบับ )..............

 

>>>>>> พระฤๅษี ...  ๑/๒/๕๖..<<<<<<<



#4 Nong

Nong

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,124 posts

Posted 1 February 2013 - 14:06

น้องแต่งไม่เป็นค่ะ

อ่านเป็นอย่างเดียว (ช่วยอะไรได้ไหมคะนี่)

ฟิ้ววววววววว (หนีไปอย่างเร็ว)

#5 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 1 February 2013 - 14:08

  ท่านมะหาวัตร...บันทึกไว้ให้คนที่สนใจ...จะได้ช่วยกัน

 

ให้คงอยู่ต่อไป .................

                      

  ..สงสาร บรรพชน ที่ค้นคิด........ชีวิต จิตใจ ใฝ่หา

..อยู่ฤๅ เลียนลับ ไปกับตา.........อนิจจา  อนิจจัง หวังอะไร ..?

 

 

==========================================                



#6 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 1 February 2013 - 14:21

  แก้คำผิด(  เลือนลับ )..อยู่ฤๅ เลือนลับ ไปกับตา .....

 

......คุณ Nong   ช่วยได้แค่นี้ก็ดีแล้ว......เหมือนคำว่า

 

( ผ่านแล้วมอง  มองมั่ง  ก็ยังดี..........อ่านดูที ทีท่า  เขาว่าไร..)

 

ไม่ต้องรีบไปก็ได้  อากาศร้อน........................................



#7 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 1 February 2013 - 16:02

  ท่านมะหาวัตร...บันทึกไว้ให้คนที่สนใจ...จะได้ช่วยกัน

 

ให้คงอยู่ต่อไป .................

                      

  ..สงสาร บรรพชน ที่ค้นคิด........ชีวิต จิตใจ ใฝ่หา

..อยู่ฤๅ เลียนลับ ไปกับตา.........อนิจจา  อนิจจัง หวังอะไร ..?

 

 

==========================================                

 

^_^  ตอบเป็นพุทธวจนะซะเรย... ฮี่ๆๆ

 

819176_322799034486497_745957191_o.jpg

 

ทุกสิ่ง...ย่อมเป็นทุกข์ขอรับ...


Edited by wat, 1 February 2013 - 16:03.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#8 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 2 February 2013 - 12:38

>>๑..ทุกข์ทน ฤ ทนทุกข์............นิรสุข  สโมสร
.......ทุกทุก-ข ถาวร.................ทรมา  มโนนาน

>>๒..อกโอ้ อนาถอก.................ดุจตก  นรกผลาญ

.......มืดมัว กมลมาล-...............ยะเทวษ ทวีวัน

 

>>๓..จิตเจ็บ  ประจำจิต..............มหพิษ พิพากษ์ฝัน

.......กายกรรม ก็ทำกัน.............บมิเกรง  กิเลสกรรม.......ฯลฯ

 

 

>>>>>>>>>>>> ๒/๑/๕๖ <<<<<<<<<<<<<(๑)
 



#9 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

Posted 7 February 2013 - 15:36

ผมเป็นแต่กลอน สุภาพ เท่านั้นครับ


บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#10 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 8 February 2013 - 18:45

ขอบคุณครับ  ที่ยังผ่านมาเยือน  คุณ ter 162525  กลอนสุภาพ

แต่งยากกว่า ( กาพย์ยานี ๑๑ ) ท่านครู  สอนผมตั้งแต่ ๘ ขวบ

เรียนประถม  ( ใช้กระดานชนวน.ดินสอหิน) .......... 

.....กลอนสุภาพ ..วรรคละ ๘ คำ ( ๗ได้ ๙ ได้) โดยอนุโลม มีสัมผัส

ที่ต้องท่องจำว่า ( ๘-๓.๘.๘-๓ ) ใน ๑ บท..........

.....แต่.กาพย์ยานี ๑๑  วรรคหน้ามี ๕ คำ.  วรรคหลังมี ๖ คำ.เป็น ๑๑ คำ

วรรคที่๔ จะรับสัมผัส หรือไม่ ก็ได้....ท่องจำว่า ( ๕-๓.๖-๕. ) วาง

มีหลายอย่างที่ไม่มีในตำรา..ฉันทลักษณ์..เป็นเพียงการจดจำกันต่อ ๆมา

เท่านั้น. แต่ละชนิด  จดจำสัมผัส ได้ไม่เกินชั่วโมง..ความจำดีๆ พักเดียว

ก็จำได้...ได้สัมผัสไว้ก่อน.  การแต่งต้อง เรียนรู้..อักขระวิธี..มากหน่อย

การใช้คำมาเรียงร้อย..ให้เรียบรื่น  ไม่สดุด.หรือโดด..................



#11 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

Posted 9 February 2013 - 13:39

ชายใดไม่เที่ยวเทียวไป
ทุกแคว้นแดนไพร
มิอาจประสบพบสุข
ชายใดอยู่เหย้าเนาทุกข์
ไม่ด้นซนซุก ก็ชื่อว่าชั่วมัวเมา

๏จงจรเที่ยว เทียวบทไป
พงพนไพร ไศละลำเนา
๏ดั้นบถเดิน เพลินจิตเรา
แบ่งทุกขะเบา เชาวนะไวฯ


แหม ท่องตั้งแต่เด็ก แต่พอจะเอามาอวดจริงๆ ต้องไปขอก้อบ มาจาก google ครับ :D

ความงามของภาษาหายไป
อาจจะเพราะ คนใช้ภาษา แสดงอารมณ์ในเนื้อหา มากกว่า
ความสวยงามของภาษา มั้งครับ

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#12 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

Posted 9 February 2013 - 13:40

ผมเป็นแต่กลอน สุภาพ เท่านั้นครับ



ผมเป็นแต่ คำสุภาพ อะคับ

ฮี่ๆๆๆ :D

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#13 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 9 February 2013 - 15:33

ขอบคุณครับที่มาเยือน.... เอาของเก่ามาฝากอ่านกัน  ผมก็จำ

ไม่ได้แล้วว่าของใคร..แต่ทราบว่า ( ข้างบนเป็น กาพย์ฉบัง ๑๖)

( ๖-๔-๖ )  สามวรรค  รับสัมผัสแห่งเดียว...ไป-ไพร...

.......บทล่างเป็น ( มาณวก ฉันท์ ๘ ) ซึ่งเดี๋ยวนี้ หาอ่านไม่ได้แล้ว

มีแต่ของเก่า.ที่จริงก็แต่งไม่ยาก ( ๑ วรรค มี ๔คำ ) ลหุ ๒คำ อยู่

ตรงกลาง(ครุ ๒ คำ ) หัว-ท้าย...อ่านแบบนี้( ั  ุ ุ ั )  ตัวอย่าง

 

 

>>๑...หมู่จตุบท..............งด บ ประทุษ-

.......กรรมยุวบุตร............โยคินิมาก

.......เมตตะกรุณ.............ปุญประตยาค

.......เอกะ บ พราก..........โปตกใด

 

>>๒..กวางและสมัน..........สัญจรตาม

.......ฟาน ฤ ก็งาม..............ยามบทไพร

.......ยองยุรยาตร...............ดาษวนไป

.......ล้อมยุวไคล................ใจนฤกลัว......ฯลฯ

 

 

>>>>>จากเรื่อง...สุวรรณสามคำฉันท์ .......



#14 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

Posted 9 February 2013 - 15:43

^
^
คงต้องคนอ่านเป็นเท่านั้น ถึงจะเข้าใจในความงามของบทนี้นะครับ ^^
ขนาดผม ศิษย์ (รุ่นซุปเปอร์เหลนหลาน) กรมพระฯ ยังอ่านไม่แตก
คนรุ่นหลังนี้คง ไม่ต้องหวังล่ะครับ :)

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#15 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 10 February 2013 - 08:46


กลอนสุภาพ

แต่งยากกว่า (กาพย์ยานี ๑๑) ท่านครู สอนผมตั้งแต่ ๘ ขวบ

เรียนประถม (ใช้กระดานชนวน.ดินสอหิน) ..........

 

จากกระดานชนวน, ดินสอหิน  สู่ facebook

 

คุณพระฤๅษี ร่วมสมัยมากค่ะ

เสียดาย   ไม่มี Time Machine ค่ะ


 


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#16 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 10 February 2013 - 08:52

คุณพระฤๅษี ขออนุญาต นำของ อาจารย์อังคาร กัลยาณพงศ์ มาโพสต์นะค่ะ

 

 

อาจารย์อังคาร กัลยาณพงศ์

 

เสียเจ้า"

 

   เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย


  จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ


  หากเจ้าอุบัติบนสรวงสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟ เราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ


  แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกาลปาวสาน
แม้นชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา


  ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า
ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา
ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย


 

ท่านสิ้นเมื่อเวลา ๑.๓๐ น. วันเสาร์ที่ ๒๕ ส.ค.๕๕


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#17 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 10 February 2013 - 08:54

อาจารย์อังคาร กัลยาณพงศ์

 

อนิจจาน่าเสียดาย
ฉันทำชีวิตหายไปครึ่งหนึ่ง
ส่วนที่สูญนั้นลึกซึ้ง
มีน้ำผึ้งบุหงาลดามาลย์

ครึ่งหนึ่งหลงเหลือในอกนี้
สั่นชีวีเสียสะเทือนสะท้าน
ซ้ำโซ่ตรวนพันธนาการ
ทรมานปานทาสจะขาดใจ

อีกครึ่งหนึ่งอยู่ที่น้องแก้ว
ขึ้งโกรธพี่แล้วจะทำไฉน
ถึงใกล้ก็อย่างห่างไกล
ไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน

เสียแรงชายบริสุทธิ์ซื่อ
ควรหรือนางมล้างค่าใฝ่ฝัน
ทิ้งให้เทวษหาจาบัลย์
ที่ไหนนั่นมิ่งขวัญกลับมา

หมายทะนุถนอมน้องไว้กะอก
กลับตกในมือของเขาอื่น
แสนเจ็บแสนปวดปูนปืน
พิษมาเสียบเสียววิญญาณ

ใจนางอย่างน้ำค้างกลางดึก
ดั่งผลึกเพชรใสไหวสะท้าน
ครู่เดียวก็แตกดับกับดินดาน
ไร้แก่นสารจะหวังมิยั่งยืน

บุราณว่าพรากจากนารี
ลับลี้จากสามวันเป็นอื่น
เสียเจ้าโศกเศร้าทุกวันคืน
สุดจะฝืนสู้ทุกข์ขุกเข็ญใจ

แค้นหญิงชิงชังไปทั้งโลก
จะทุกข์โศกกับนารีหรือไฉน
เสียแรงเป็นบุรุษอาชาไนย
มาหลงใหลหล่มล้มจมดิน

จักอัปยศแก่วิญญาณ
อัประมาณอดสูรู้สิ้น
จึ่งตัดใจหลั่งน้ำไหลริน
ลงดินขาดกันจนวันตาย



 


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#18 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 10 February 2013 - 13:26

บทกวีของ..อ. อังคาร.. เคยคุยกันอยู ๒-๓ ครั้ง ท่านเขียนกลอน

ต้นแบบ( จากยุค ต้นกรุง.) บทกวียุคต้นกรุง  จะใช้คำ แค่ วรรคละ

๖-๗ คำ..และก็ไม่ยึดสัมผัสในวรรคมากนัก. บ้างก็สัมผัสอักษร--

บ้างก็สัมผัส สระ...การรับสัมผัส  ท่านก็จะใช้ ตั้งแต่ คำที่ ๑ บ้าง

๒บ้าง.๓ บ้าง ความแต่เนื้อหาที่ท่านจะแต่ง. ซึ่งคนละแนวกับผม

ผมจะยึดหลักของ( หลวงธรรมาภิมณฑ์ ) ที่ชำระไว้แล้ว เป็นแบบ

เรียน ..ภาษาไทย..ม.ปลาย..เมื่อสัก ๔๐-๕๐ ปีก่อน.เดี๋ยวยังใช้อยู่

หรือเปล่าไม่ทราบนะ..( หลวงธรรมาภิมณฑ์ ) เป็นกวียุค รัชกาลที่

..๕..๖..ยุคนี้ กลอนแปดสุภาพ...มีกฏระเบียบ..หยุมหยิมมากมาย...

แต่ถือว่าเป็นแผนผังแบบมาตรฐาน..

....อ้อ...ผมเขียนบท  ...ดาวอังคาร  คู่สยาม...ลงไว้ ในห้อง .ร้อยรัก-

กวีวรรณ....เป็นที่ระลึกการกลับสู่สวรรค์  ของท่าน.  คุณขวัญ  ว่าง

ก็ไปอ่านดู...หน้าเพจ..พระฤๅษี..  ก็มี  สะดวกตรงไหนก็เอา....



#19 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 10 February 2013 - 16:25

ขอบพระคุณ คุณพระฤๅษีค่ะ ที่กรุณาให้ความรู้

 

ที่คุณพระฤๅษีเขียน กระทู้ "........รำลึก...ท่านอังคาร......กัลยาณพงษ์ ...."

ได้อ่านแล้วค่ะ ตั้งแต่ยังไม่สมัครเป็นสมาชิก

แต่งได้ไพเราะมากค่ะ


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#20 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 12 February 2013 - 13:21

  คนที่เขียนกลอน  รุ่นใหม่ๆ นี่  มักจะจำเอาอย่าง.คนดัง.

ไม่ได้ค้นคว้า..ฉันทลักษณ์..อย่างจริงจัง. คนดังบางคน

ก็ถือว่าดัง. ทำผิด.ฉันทลักษณ์..บ้าง ลงคำที่ไม่นิยมบ้าง

คนรุ่นหลังๆจึงแต่งผิด ๆ โดยไม่รู้ตัว ที่เห็นบ่อยก็มี สระ-

สัมผัสผิด( เอง-เอ็ง..  เด็ก-เลข.เด่น-เพ็ญ. ) พวกนี้ผิดหมด

ใช้สระ..คนละตัวเลย...แต่เห็นบ่อย..อีกเรื่องที่เห็นบ่อย คือ

เสียงปลายวรรค.  กลอนแปด ( ปลายวรรคแรก ไม่นิยม--

เสียง..สามัญ...เสียงตรี..)  คนรุ่นใหม่ที่ใช้ผิดผมไม่ว่าหรอก

แนะนำให้เขาไปค้นหา..ฉันทลักษณ์..ที่ถูกต้องได้  แต่พวก-

คนที่ถือตัวว่าดังแล้ว..คนพวกนี้ผมถือว่า..ทำลาย.ฉันทลักษณ์.

เผยแพร่สิ่งผิดๆ ให้คนรุ่นหลัง.มีเรื่องพูดอีกยาว  แต่บางอย่าง

ก็ไม่อยากพูด..มันกระทบหลายฝ่าย......กระทั่ง กระทรวงศึกษา

...ท่านหลวงฯ  ขอให้ผมช่วยเผยแพร่ ฉันทลักษณ์.. ที่ถูกต้อง

ให้แก่คนรุ่นหลัง...ผมรับปากท่านไว้  ก็จะทำให้ดีที่สุด จนวาระ

สุดท้ายของชีวิต...วันพระราชทานเพลิงศพ..บุตรชายท่าน เพื่อน

ผม.. นำหลอดยาดมมาให้ผม  (..ขวัญ..อยากเห็นไปกดดูในเฟซฯ)

บอกผมว่า  ...อย่าไปจริงจังอะไรเลย ท่านพ่อห่วงเพราะท่านพ่อ-

เป็นศิลปิน...อ้อ..(  หลวงรามฯ  เป็นโขน..พระราม..ในสมัยรัชกาล-

ที่ ๖.  โปรดเกล้าให้บรรดาศักดิ์ที่..หลวงรามภรตศาสตร์ ) บุตรท่าน

....ชื่อ.เลิศเกียรติ....เป็นเพื่อนสนิทดื่มกันตั้งแต่ หนุ่มๆ...

( ขออนุญาต..นำมากล่าวในที่นี้ ) เรื่องนี้มีหลายเพื่อนที่รู้  แต่หลาย

เพื่อนก็กลับสวรรค์ไปแล้ว...แค่นี้ก่อนนะ  อยากรู้อะไร  ก็ถาม

จะเล่าสู่กันฟัง  ไม่ใช่เรื่องลับอะไร.  แต่ผู้ใหญ่บางท่าน ก็นำมา-

กล่าวไม่ได้  ต้องขออนุญาตก่อน........



#21 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

Posted 14 February 2013 - 03:10

ของผม โตมากับ "เจ้าฟ้ากุ้ง" กับ "นิราศนรินทร์อินทร์" ครับ

แปลกมาก ที่ตอนเด็กผมไม่อินกับท่านสุนทรภู่เลย 

ประมาณว่าริอกหักตั้งแต่เด็กตัวกะเปี๊ยกอย่างไรไม่ทราบ

ซาบซึ้งกับ 2 ท่านนี้นัก โดยเฉพาะโคลงบทนี้ ซึ้งและท่องได้มาตั้งแต่ 10 ขวบ  

สงสัย "จิตเดิม" จะอยู่ในยุคนั้นแน่ๆ



นิราศนรินทร์

๗.
รอยบุญเราร่วมพ้อง พบกัน

บาปแบ่งสองทำทัน เท่าสร้าง

เพรงพรากสัตว์จำผัน พลัดคู่
เขาฤา บุญร่วมบาปจำร้าง นุชร้างเรียมไกล


 

๘.
จำใจจากแม่เปลื้อง ปลิดอก
อรเอย เยียวว่าแดเดียวยก แยกได้

สองซีกแล่งทรวงตก แตกภาค
ออกแม่ ภาคพี่ไปหนึ่งไว้ แนบเนื้อนวลถนอม


 

๙.
โอ้ศรีเสาวลักษณ์ล้ำ แลโลม
โลกเอย แม้ว่ามีกิ่งโพยม ยื่นหล้า

แขวนขวัญนุชชูโฉม แมกเมฆ
ไว้แม่ กีดบ่มีกิ่งฟ้า ฝากน้องนางเดียว


 

๑๐.
โฉมควรจักฝากฟ้า ฤาดิน
ดีฤา เกรงเทพไท้ธรณินทร์ ลอบกล้ำ ฝากลมเลื่อนโฉมบิน บนเล่า
นะแม่ ลมจะชายชักช้ำ ชอกเนื้อเรียมสงวน
 

 

๑๑.

ฝากอุมาสมรแม่แล้ ลักษมี
เล่านา ทราบสวยมภูวจักรี เกลือกใกล้

เรียมคิดจบจนตรี โลกล่วง
แล้วแม่ โฉมฝากใจแม่ได้ ยิ่งด้วยใครครอง


Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 14 February 2013 - 04:23.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#22 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 14 February 2013 - 11:57

ขอบคุณ ผึ้งน้อยฯ ที่แวะมาเยือน..แถมเอา..นิราศนรินทร์ฯ ...

มาฝาก..เพื่อนๆอ่านกัน.........

.....ความจริง..โคลงนิราศนรินทร์...  ก็จะสาปสูญแล้ว เพราะ

ไม่มีใครค่อยกล่าวถึง  ....มีผู้นำมาประกอบเพลงอยู่บ้าง  ก็

ไม่มากนัก..น่าเสีย วรรณกรรมอีกชิ้นหนึ่งที่รอวันจะนอนนิ่ง

อยู่ใน...หอสมุดแห่งชาติ...บทที่  ๙ และ ๑๐  ดูจะอยู่ในบท

เพลง ..ลูกกรุง..ที่ผู้ประพันธ์เพลงนำมา  ..เกริ่น....จะขอ--

อนุญาต..คุณผึ้งน้อย ฯ เรียงตาม..ฉันทลักษณ์.. นะครับ

ขออธิบาย  การแต่งโคลงสุภาพก่อน.........

 

>>>>> โคลงมีหลายชนิด..โคลง ๒..โคลง ๓..โคลง ๔ สุภาพ

โคลง ดั้น  วิวิธมาลี..โคลง ดั้น บาทกุญชร...

 

การแต่งโคลงสุภาพ  ไม่ยากนัก  ( ๑ บท มี ๔ บาท )

( ๑ บาท แบ่งเป็น ๒ วรรค) ( วรรคหน้า ๕ คำ---วรรคหลัง ๒ คำ)

อาจมี ( คำสร้อย) ตามได้ ๒ คำ...................

 

>>>>>> โคลง ตัวอย่างที่ใช้ในแบบเรียน...จาก..ลิลิตพระลอ<<<<<<<

 

................. เสียงลือ เสียงเล่าอ้าง.......อันใด  ( พี่เอย)

...............เสียงย่อม ยอยศใคร...........ทั่วหล้า

...............สองเขือ พี่หลับใหล............ลืมตื่น   ( ฤๅพี่)

...............สองพี่ คิดเองอ้า................อย่าได้ถามเผือ......ฯลฯ

 

==============================================

 

>>>>> โฉมควร จักฝากฟ้า.............ฤๅดิน  ( ดีฤๅ)

.........เกรงเทพ ไท้ธรณินทร์............ลอบกล้ำ

........ฝากลม เลื่อนโฉมบิน..............บนเล่า  ( นาแม่)

........ลมจัก ชายชักช้ำ....................ชอกเนื้อเรียมสงวน....ฯลฯ

 

 

......แยกไว้ให้ผู้ที่สนใจ  ได้ศึกษา..สืบต่อ..วรรณกรรมไทย

ที่สูญไปหลายอย่างแล้ว..ปัจจุบันนี้  ผู้แต่งรุ่นใหม่  จะยึดเอา

แค่..เนื้อหาที่เกิดขึ้นปัจจุบัน.โดยละเลย..ฉันทลักษณ์..จะเขียน

เรื่องใดก็แล้วแต่.  เราเขียนเป็น( ร้อยแก้วหรือร้อยกรอง) เรา

ควรยึดฉันทลักษณ์ที่ถูกต้อง.ทำไม่ได้แล้วขืนทำ  ก็เท่ากับ-

ทำลาย  เอกลักษณ์..วรรคกรรม..ที่บรรดาท่านครู ยุคสมัย ได้

ค้นคว้าทำชำระไว้....ส่วนใหญ่แล้ว ผมจะเขียนตาม ตำราที่-

( ท่านหลวงธรรมาภิมณฑ์ ) ได้ชำระเรียบเรียงไว้  แต่บางครั้ง

ก็จะใช้รูปแบบ  การเขียนบทกวี..ยุคต้นกรุง...ขอแค่นี้ก่อน....

ยินดีรับฟัง. แลกความคิดเห็นกัน.อะไรที่ทำให้(ฉันทลักษณ์)

คงอยู่ได้  ยินดีร่วมมือ..........



#23 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

Posted 14 February 2013 - 14:54

พูดถึงคำกลอนตามฉันทลักษณ์ ผมคงให้ความเห็นได้ยสกเต็มที

แต่คำประพันธ์ร่วมสมัย ที่แม้ไม่ตรงหลักเป๊ะ แต่มีลูกเล่น เช่น

เมื่อมั่งมี มากมาย มิตรหมายมอง
เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
เมื่อไม่มี หมดมิตร มุ่งมองมา
เมื่อมอดม้วย แม้นหมูหมา ไม่มามอง

ก็เป็นคำประพันธ์ที่น่าสนใจ
ผมจำได้ว่า คำประพันธ์โบราณ ก็มีแบบนี้เหมือนกัน
แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นหมวดอักษร อ. ห. หรือตัวอื่น
คือจำอะไรไม่ไ้เลย แต่จำได้ว่ามี
ทั่นฤๅษี จะพอนึกออกบ้างรึไม่ อย่างไร?

กับอีกคำประพันธ์ร่วมสมัย ที่ผมนึกชื่นชม ก็คือ
การแต่งโคลงโลกนิติ เป็นภาษาอังกฤษ ของท่านเสนีย์



พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา
สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้
เขาสูงอาจวัดวา กำหนด
จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง

Fathoms deep though the seas may be,
Measurable are the seas in depth.
Scaled can mountains be in height.
Immeasurable is the depth, this heart of man.

ฝูงชนกำเนิดคล้าย คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
เว้นแต่ชั่วดีกระด้าง ห่อนแก้ฤๅไหว

Born men are we all and one,
Brown, black by the sun cultured.
Knowledge can be won alike.
Only the heart differs from man to man.

รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ
กลกบเกิดอยู่ใน สระจ้อย
ไปเห็นชเลไกล กลางสมุทร
ชมว่าน้ำบ่อน้อย มากล้ำลึกเหลือ

So little yet so much one knows,
Like a frog which grows in a puddle,
knowing not oceans so ever vast,
becomes befuddled by its small world.

ภูเขาเอนกล้ำ มากมี
บ่มิหนักแผ่นธรณี หน่อยไซร้
หนักนักแต่กระลี ลวงโลก
อันจักทรงทานได้ แต่พื้นนรกานต์

Mountains bear on earth and seas.
Even so, they're free of weight.
Heavy Evil, be earth's load.
Hell alone rebates the load of sins.

ใด ใด ในโลกล้วน อนิจจัง
คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่น อยู่นา
ตามแต่บาปบุญแล้ ก่อเกื้อรักษา

All sentient beings pass away.
What they've done do stay hereafter.
Like shadows, so do they follow Good,
Evil deeds forever till time does end.

ดารามีมากน้อย ถึงพัน
บ่เปรียบกับดวงจันทร์ หนึ่งได้
คนพาลมากอนันต์ ในโลก
จะเทียบเท่าปราชญ์ไซร้ ยากแท้ฤๅถึง

Millions though the stars combine,
Never can they outshine the moon.
Millions can one find small men on earth.
Can one just so soon discover a sage?

ภูเขาเหลือแหล่ล้วน ศิลา
หามณีจินดา ยากได้
ฝูงชนเกิดนานา ในโลก
หานักปราชญ์นั้นไซร้ เลือกแล้วฤๅมี

Mountains give only bare stones.
Rarely one finds diamonds of worth.
Midst millions scarcely none is sage.
truly, there's a dearth of the wise among men.

พริกเผ็ดใครให้เผ็ด ฉันใด
หนามย่อมแหลมเองใคร เซี่ยมให้
จันทน์กฤษณาไฉน ใครอบ หอมฤๅ
วงศ์แห่งนักปราชญ์ได้ เพราะด้วยฉลาดเอง

Hot chilies generate heat and health.
Thorns sharpen themselves, indeed.
Flowers do flowers help in fragrance.
wise men do not need wisdom from fools.

คัดจากหนังสือ Interpretative Translations of Thai Poets โดย มรว. เสนีย์ ปราโมช พ.ศ.๒๕๐๘

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#24 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 14 February 2013 - 14:57

  คนที่เขียนกลอน  รุ่นใหม่ๆ นี่  มักจะจำเอาอย่าง.คนดัง.

ไม่ได้ค้นคว้า..ฉันทลักษณ์..อย่างจริงจัง. คนดังบางคน

ก็ถือว่าดัง. ทำผิด.ฉันทลักษณ์..บ้าง ลงคำที่ไม่นิยมบ้าง

คนรุ่นหลังๆจึงแต่งผิด ๆ โดยไม่รู้ตัว ที่เห็นบ่อยก็มี สระ-

สัมผัสผิด( เอง-เอ็ง..  เด็ก-เลข.เด่น-เพ็ญ. ) พวกนี้ผิดหมด

ใช้สระ..คนละตัวเลย...แต่เห็นบ่อย..อีกเรื่องที่เห็นบ่อย คือ

เสียงปลายวรรค.  กลอนแปด ( ปลายวรรคแรก ไม่นิยม--

เสียง..สามัญ...เสียงตรี..)  คนรุ่นใหม่ที่ใช้ผิดผมไม่ว่าหรอก

แนะนำให้เขาไปค้นหา..ฉันทลักษณ์..ที่ถูกต้องได้  แต่พวก-

คนที่ถือตัวว่าดังแล้ว..คนพวกนี้ผมถือว่า..ทำลาย.ฉันทลักษณ์.

เผยแพร่สิ่งผิดๆ ให้คนรุ่นหลัง.มีเรื่องพูดอีกยาว  แต่บางอย่าง

ก็ไม่อยากพูด..มันกระทบหลายฝ่าย......กระทั่ง กระทรวงศึกษา

...ท่านหลวงฯ  ขอให้ผมช่วยเผยแพร่ ฉันทลักษณ์.. ที่ถูกต้อง

ให้แก่คนรุ่นหลัง...ผมรับปากท่านไว้  ก็จะทำให้ดีที่สุด จนวาระ

สุดท้ายของชีวิต...วันพระราชทานเพลิงศพ..บุตรชายท่าน เพื่อน

ผม.. นำหลอดยาดมมาให้ผม  (..ขวัญ..อยากเห็นไปกดดูในเฟซฯ)

บอกผมว่า  ...อย่าไปจริงจังอะไรเลย ท่านพ่อห่วงเพราะท่านพ่อ-

เป็นศิลปิน...อ้อ..(  หลวงรามฯ  เป็นโขน..พระราม..ในสมัยรัชกาล-

ที่ ๖.  โปรดเกล้าให้บรรดาศักดิ์ที่..หลวงรามภรตศาสตร์ ) บุตรท่าน

....ชื่อ.เลิศเกียรติ....เป็นเพื่อนสนิทดื่มกันตั้งแต่ หนุ่มๆ...

( ขออนุญาต..นำมากล่าวในที่นี้ ) เรื่องนี้มีหลายเพื่อนที่รู้  แต่หลาย

เพื่อนก็กลับสวรรค์ไปแล้ว...แค่นี้ก่อนนะ  อยากรู้อะไร  ก็ถาม

จะเล่าสู่กันฟัง  ไม่ใช่เรื่องลับอะไร.  แต่ผู้ใหญ่บางท่าน ก็นำมา-

กล่าวไม่ได้  ต้องขออนุญาตก่อน........

 

ขอคารวะในคำสัญญาที่คุณพระฤๅษีมีให้ต่อท่านหลวงราม

และยังคงรักษาสัญญานั้นไว้

 

ตามที่ขวัญข้าวเคยบอกว่า ครั้งหนึ่งที่ไปอยู่เชียงใหม่

วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งใจจะเป็นครูสอนเด็กตามดอย

ณ วันนั้น เหตุกาณ์พลิกผัน ไม่ได้เป็นตามที่ตั้งใจ

 

หากวันใดมีโอกาสจะกลับไปทำตามที่ตั้งใจไว้

ทุกวันนี้ พยายามเก็บข้อมูล และแนวคิด จากหลาย ๆท่าน

ที่มีความรู้ต่าง ๆ ในหลาย ๆ วิชาชีพ

เพื่อสะสมเป็นข้อมูล

 

เผื่อไปเล่าต่อให้เด็ก ๆ ได้ฟังเป็นวิทยาทาน

 

ตอนนี้เห็นคุณพระฤๅษีได้กระทำแล้ว

จะขอนำไปเป็นเยี่ยงอย่างเจ้าค่ะ


Edited by kwan_kao, 15 February 2013 - 09:37.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#25 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

Posted 14 February 2013 - 14:59

พูดถึงฉันทลักษณ์ ที่ถูกต้อง
จำได้(อีกละ) ว่ามีบทประพันธ์ ที่เขียนขึ้นมา
โดยใช้วรรณยุกต์ และอักษรเป็นตาย แบบตรงตัว
เพื่อใช้ท่องจำว่า ในแต่ละตำแหน่งต้องผันเสียงอะไร

หากคุณฤๅษีพอจำได้ ช่วยนำมาเป็นตัวอย่างให้ด้วย ได้ไหมครับ
ใช่บท .. เผือพี่ นั่นรึเปล่า?

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#26 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 14 February 2013 - 15:25

เอาบทแรกก่อนนะครับ  คุณเคนฯ   ( นั่นเรียกว่า กลกลอน )

หรือ ( กลบท)  ครับ  กลกลอน  มีการแต่งเล่นมากครับ  สมัย

รัชกาลที่ ๓  มีบทเด่นๆ นำจารึกไว้ ที่วัดโพธิ์  พระเชตุพน.มีชื่อ

ประจำแบบของผู้คิดค้นครับ  ..........

.....เช่น...กบเต้นสามตอน.อักษรสลับ. นาคราช.บาทสกุณี.

เบญจวรรณห้าสี.สะบัดสะบิ้ง.....กลบท  นักเลงกลอนยุคนั้น

จะเล่นแบบโชว์ความสามารถ. การใช้คำ ( ใน ๑ วรรค มี-

๗-๘-๙ คำ )  แต่จะไม่ถึง  ๑๐ คำ  กลบทที่ คุณเคนฯ  ยกมา

สังเกตุว่า ใช้ ( อักษร   ม.  เดียว )  เคยได้ยิน   แต่ก็จำไม่ได้ว่า

ใครเขียน.  ยุคสมัย เท่าที่จำได้..  ล่าสุด  ผู้ที่เขียน ..กลบท...

และชอบเขียน  ก็เห็นมีแต่ ( นคร  มังคลายน )  เป็นเพื่อนรุ่นพี่

ที่  ไปสวรรค์นานแล้ว. นอกนั้นก็ยังไม่เห็นใครอีก  ใน สรท เรานี่

ก็ถือว่ามีอยู่ท่านหนึ่ง    เคยอ่าน  กลบทสะบัดสะบิ้ง..ของท่าน

และคิดว่า  ท่านคงแต่งได้มากกว่านี้....นับเป็นกวีรุ่นใหม่ที่แท้จริง

ท่าน  ( วฤก )  ไปอ่านบทกวีของท่านในห้องกวีฯ  มีอยู่หลายสำนวน

นั่นแหละมือระดับกวีที่แท้จริง....วันนี้ขอแค่นี้ก่อน  มีธุระที่เฟซฯ

แล้วจะค่อยๆมาคุยกัน  ทีละแบบ  ทีอย่าง  ขอบคุณมากเลยครับ



#27 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 15 February 2013 - 13:46

ต่อจากเมื่อวาน  ครับ..คุณเคนฯ>>>>>>

>>>มีครับจำได้  ( แต่ต้องค้นตำรา.) เพราะที่อยู่ในสมอง

มันเสื่อมคุณภาพครับ..กาลเวลามันทำลายไปมากแล้ว...

.....มีมาแต่ ..อยุธยาตอนปลายแล้วคุณเคนฯ มาต้นๆกรุง

บ้านเมืองยังไม่สงบ  งาน.กวีนิพนธ์..ก็มีไม่มากนัก.แต่ว่า

กลอน ๔. กลอน๕.กลอน๖.กลอน๗.กลอน๘.กลอน๙.....

ก็ยังมีให้เห็นอยู่ ( ของเก่า) แต่พอกาลผ่านมาถึงยุค สมัย-

รัชกาลที่ ๒-๓ ..หรือยุค...ท่านสุนทรภู่...ก็มีให้เห็น แค่กลอน

๗-๘-๙...และถือ ..กลอนแปดสุภาพ...เป็นแม่แบบมีใช้กันมา

จนปัจจุบันนี้.ถึงยุค..รัชกาลที่ ๕-๖ ( ท่านหลวงธรรมาภิมณฑ์)

ก็ชำระกฏระเบียบ..สัมผัสในวรรค เป็นมาตรฐาน.และใช้เป็นแบบ-

เรียน..ภาษาไทย..ต่อมา..............

.......ส่วน..โคลงโลกนิติ.....ก็เหมือน..โคลงสุภาษิต..ทั่วๆ ไป มี-

หลายบทที่ยัง..ยกขึ้นมาเป็นข้อ..ติติง.ตำหนิ.หรือปลง.หรือชม.

...ถ้าจะแปลเป็นภาษาใดๆ  ก็จะติดขัดที่..ฉันทลักษณ์ ......... 

เพราะเหตุว่าจะต่างกันที่. ภาษา ..อักขรวิธี..บทกวีนั้น มีแทบทุก-

ประเทศทั่วโลก. ญี่ปุ่น ก็มี กวี.ไดกุ....จีนก็มี กวีหลายยุคสมัย

สมัย ราชวงศ์ ถัง...ถือว่า  กวีดังๆมากมาย ที่มีชื่อได้ยินมาถึง

บัดนี้คือ ( หลีไตแปะ...หรือ  ลี่ไต้เป้ )  ไม่รู้ชื่อแน่  เพราะอ่าน-

หลายเล่มก็ไม่ค่อยเหมือนกัน..เอาเป็นว่ากวีจีนท่านนี้ดัง ทะลุ

มิติ....พูดแล้วก็บ้าน้ำลาย..ยุโรป-เมกา-รัสเซีย-อินเดีย-ฯลฯ

เขามียอดกวีดังกันทั้งนั้น...เพียงแต่ว่า..ฉันทลักษณ์..มันต่างกัน

รูปแบบของเขามันออกมา..ดัง..ร่ายยาว..มหาชาติชาดก.  ร่าย

( คำประพันธ์ไทยมี ๓ ชนิด ..ร่ายสั้น..ร่ายยาว..ร่ายดั้น...) ใช้แต่ง

เดินเรื่องใน( ลิลิต ) แต่งร่ายสลับกับ..โคลง ๒-๓-๔ ไปเรื่อยๆ จน

จบเรื่อง )  บทกวีของต่างชาติ  จะออกมาในรูปแบบ..ร่ายหรือโศลก.

( จะเรียกว่า  คำคล้องจอง..คงได้.) ฉะนั้น  จะไม่มีกฏระเบียบ หยุม-

หยิมแบบของไทย..คุณไปอ่านของ..โชแป็ง..โมสาท.บีโทเฟ็น ชัย -

กอฟสกี้..บ๊าค..ฯลฯ  จะหาสัมผัสแทบไม่เจอ  แต่เขาก็ดังไปทั่วโลก

( คือ เอกลักษณ์  ประจำประเทศ นั้น ) ผมว่าของใครก็ของเขา. อย่า

เอา ฉันทลักษณ์..ของเราไปเทียบ ประเทศอื่นไม่ได้............

.......ทีนี้มาพูดถึง  ฉันทลักษณ์...ของไทยเรา.ผมเข้าใจว่า คนที่ดัง-

ประการหนึ่ง. ได้รับคำชมจากผู้ไม่รู้หลักภาษาไทย.  ไม่รู้ว่าผู้แต่ง ๆ

ผิด ฉันทลักษณ์.  เรื่องนี้มีมากจริงๆครับ. ประการต่อมา. ผู้แต่งรู้หลัก

แต่ว่า..เลี่ยง..หลักเพราะ ไม่เชี่ยวชาญใน..อักขรวิธี..คำกร่อน-ขยาย.

แผลง. สนธิ-สมาส...ถ้าไม่เป็นก็จะมีคำใช้น้อย...จะยกตัวอย่างให้ดู

คำเดียว ได้ตั้งหลายสัมผัส.แต่( ความหมายเดียวกัน) เช่น คำว่า (ใจ)

จิต.มโน.มนัส.กมล.แด.ฤดี.หทัย.ฯลฯ  ยังแผลงออกไปใช้ได้อีกมาก

เช่น( กมเลส.หทยา.หฤทยะ.)  นี่เพียงคำเดียวได้สัมผัสท้ายคำมากมาย

........แค่นี้ก่อน   ตาลายแล้ว.....สงสัยอะไรก็คุยกัน... 



#28 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 16 February 2013 - 11:07

คุณพระเจ้าตาค่ะ

วันก่อนที่ขวัญข้าวเรียกให้ดู

แฟนพันธุ์แท้ ตอน "สุนทรภู่"

ได้ดูหรือยังค่ะ

 

เมื่อคืนนี้  เป็นตอน "ท่านพุทธทาสภิกขุ" ค่ะ

(พระเจ้าตา เรียกให้ "ตัวเล็ก" ช่วยเปิดดูย้อนหลังก็ได้ค่ะ)

คนที่มาร่วมรายการฮาดีค่ะ ทั้งสองตอนเลย

 

 

ขอนำเสนอบทนี้ ชอบค่ะ

 

 

 

แม่น้ำคดส่วนน้ำนั้นไม่คด

 

ไม่แกล้งปดดูให้ดีมีเหตุผล

 

กายกับใจไม่ลามกไม่วกวน

 

แต่กิเลสแสนกลนั้นเหลือคด

 

จิตล้วนล้วนนั้นเป็นประภัสสร

 

กิเลสจรครอบงำทำยุ่งหมด

 

กิเลสเปรียบลำน้ำที่เลี้ยวลด


จิตเปรียบน้ำตามกฎไม่คดงอ

 

อันจิตว่างมีได้ในกายวุ่น

 

ในน้ำขุ่นมีน้ำใสไม่หลอกหนอ

 

ในสงสารมีนิพพานอยู่มากพอ

 

แต่ละข้องวยงงชวนสงกา

 

พระตรัสให้ตัดป่าอย่าตัดไม้

 

ไม่เข้าใจตัดได้อย่างไรหนา

 

รู้แยกน้ำจากแม่น้ำตามว่ามา

 

จึงนับว่าผู้ฉลาดสามารถเอยฯ


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#29 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 16 February 2013 - 11:14

พระเจ้าตาค่ะ

เอาคลิปย้อนหลัง ตอน "ท่านพุทธทาสภิกขุ"

แข่งเมื่อ 27 เม.ย. 55 มาให้ดูค่ะ

 

เด็กน้อย ณัฐวัตร อายุ 9 ขวบ เก่งมาก

พระเจ้าตาดูแล้ว ต้องเอ็นดูแน่เลยค่ะ

 

http://tv.ohozaa.com/player/Ukz2/

 

 

 

ส่วนคลิปนี้ เป็นการแข่ง

ตอน "สุนทรภู่" เมื่อ 18 ม.ค.56 ค่ะ

 

 

 

หมู่นี้พระเจ้าตาอารมณ์ดี

คงจะ ไม่ดุ ไม่ว่ากันนะเจ้าค่ะ

เอาโน่น เอานี่ มาแปะ

ให้เบา สักหน่อย

ค่อยต่อเรื่องบทเรียนนะเจ้าค่ะ

 

 

ถ้าจะดุ จะว่ากล่าวตักเตือน

เดี๋ยวจะตามไปรับคำกล่าว

ที่บ้านพระเจ้าตาแต่โดยดีเจ้าค่ะ


Edited by kwan_kao, 16 February 2013 - 11:51.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#30 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 16 February 2013 - 14:56

   บ้านนี้เปิดเพื่อตามหาสิ่งที่หายไป  ใครก็ได้ถ้าว่างช่วยกัน

ตามหามาเก็บไว้  ให้ผู้สนใจ.หรือ อนุชนรุ่นหลังต่อไป ได้เรียน

รู้ สิ่งที่ถูกต้องตาม บรรพชน  ท่านครู กวีได้สร้างไว้  .......

.....คุณขวัญฯ มีอะไรก็นำมาจารึกไว้ได้ทุกอย่าง  แต่ขอให้เป็น

ฉันทลักษณ์..วรรณกรรมไทยเรา..ยังมีอีกมาก  ...นี่แค่ตามหา

ครั้งแรก  แค่ กาพย์  อย่างเดียว...ยังมี  โคลง.ต่างๆ  ชนิด.......

กลอน...อีก ๑๐ กว่าชนิด.. คำฉันท์ อีก หลายสิบชนิด..ร่าย...

บอกไปแล้วว่ามี  ๓ ชนิด...ร่ายเป็นร้อยกรองที่แต่ง ง่ายที่สุด....

....จะแนะนำ  สักเล็กน้อย ( ๑. ร่ายสั้น...วรรคละ ๕ คำ ) สัมผัส-

( คำท้ายวรรค ๑----ส่งสัมผัสไปยัง คำที่ ๑-๒-๓..วรรค ๒ ) อย่างนี้

ไปเรื่อยๆ  จนจบตอน. เมื่อจบให้จบลงด้วย ( โคลง๒ ) ส่วนร่ายยาว

( ดูตัวอย่างใน  ..ทศชาติชาดก....ฉบับเทศน์มหาชาติ.....ส่วนร่ายดั้น

ก็ไม่ต่าง(ร่ายสั้น)ตัวอย่างร่าย.(ลิลิต นารายณ์สิบปาง) พระราชนิพนธ์

ในรัชกาลที่ ๖ ....( ฝ่ายขุนมารประหลาท   อสูรราชผู้ปู่  รู้เหตุว่านัดดา

ผู้กั่นกล้าทนง  ถูกขับลงไปลึก  ก็นึกสุดสงสาร  ไปเยี่ยมหลานแล้วว่า

อ้านัดดาเมื่อเริ่ม  เหิมอหังการไซร้  ปู่ก็ได้เตือนจิต  ว่าอย่าคิดพยาบาท

อย่าใจกาจอวดเก่ง  เตียนให้เกรงกลัวเดช.....ฯลฯ )   อยากอ่านก็หา-

หนังสือ ( ลิลิต นารายณ์สิบปาง )  อ่านนะ  คำต่างๆ  จาก( ต้นฉบับเดิม)

ทั้งนั้นนะ.   บางคำอาจจะสงสัย จึงบอกไว้.......



#31 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 16 February 2013 - 15:41

คุณ เคนฯ #25   ครับ   บทโคลงสี่สุภาพ  ที่  นำมาลงตัวอย่าง

เป็นโคลง ที่ วาง ( เอก ๗ โท ๔ )  ตามตำรา ใช้เป็นแบบเรียน

ภาษาไทย   ม. ปลาย.. ( แต่ตอนนี้ยังใช้อยู่หรือเปล่าไม่ทราบ)

เป็นโคลงจากเรื่อง( ลิลิตพระลอ)  ซึ่ง ลิลิตพระลอ..เรื่องนี้ก็เป็น

ที่ ถกเถียงกันมานาน  (ว่าสมัยใดแน่) เดิมทีว่า..อยุธยาตอนกลาง

ต่อมาก็ว่า..อยุธยาตอนปลาย.  ต่อมา อาจารย์ภาษาไทยท่านก็---

วิเคราะห์ว่า คำต่างๆ  มันดูเป็นภาษาใหม่ ๆ  ไม่เกินยุคต้นกรุง..

ฉะนั้น  ..ลิลิตพระลอ.. จึงยังหาข้อสรุปไม่ได้  ว่าเป็นวรรณกรรม-

ยุคสมัยใดแน่  มีโคลงท้ายเรื่อง ๒ บท กล่าวว่า..ยุพราช..นิพนธ์..

ก็มีแค่นั้น  สืบไม่ได้ว่าเป็น ..ยุพราช  ในรัชสมัยใด. คำหลายคำ ที่

เป็น..ภาษาเหนือ  ล้านนา..อย่างคำว่า( เขือ.เผือ.)  ก็ว่าไม่เก่าแท้

ถึงยุค  พญาเม็งราย....ซึ่งผมเองก็อ่านมาหลายบทวิเคราะห์ ก็สรุป

ไม่ได้เหมือนกัน(  ส่วนกลบท  อักษรกลอนตาย...) มีครับ ว่างไปแหงน

ดูตามยอดเสา  ศาลาวัดโพธ์ ครับ  มีมากมายครับ จารึกในสมัย --

รัชกาลที่ ๓ ครับ..( ส่วนการแจกอักษร) อีกชนิด ก็ต้องหาดูใน กาพย์-

( เรื่อง พระไชยสุริยา ) ครับ  ของท่านสุนทรภู่  เคยใช้เป็นแบบเรียน-

แม่ ( ก.กา ) ในยุคสมัยหนึ่งครับ.  ( ตัวอย่าง ).................

     

>> ขึ้นกก  ตกทุกข์ยาก............แสนลำบาก  จากเวียงไชย

....มันเผือก เลือกเผาไฟ...........มีผลไม้  ได้เป็นแรง.....ฯลฯ

 

 

 

>>>>>>หาหนังสือเรื่อง( กาพย์พระไชยสุริยา ) อ่านนะครับ.....



#32 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 19 February 2013 - 09:29

เวลาอ่านของ "สุนทรภู่" จะรู้สึกเพลิน ๆ ดี

 

 

ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง          มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา


โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา         ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย


ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ            พระสรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย


ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย                ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป


ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก         สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน


ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป             แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ

 

ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์               มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต

 

แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร           จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ


จงทราบความตามจริงทุกสิ่งสิ้น        อย่านึกนินทาแกล้งแหนงไฉน

 

นักเลงกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจ        จึงร่ำไรเรื่องร้างเล่นบ้างเอยฯ

 

"สุนทรภู่"  นิราศภูเขาทอง


Edited by kwan_kao, 19 February 2013 - 09:33.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#33 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 19 February 2013 - 14:03

พูดถีงเรื่องเมาหล้า

พี่ชายเป็นทหาร ดุมาก....

 

แกบอกว่า ถ้าวันไหนนึกอยากลองเหล้า, บุหรี่ ให้บอก

จะซื้อมาให้ลองกันตรงหน้า

อย่าริไปลองที่อื่น

 

นับว่าเป็นบุญที่ได้ "เพื่อนดี" :wub: 

ไม่เคยมีใครคิดจะดึงไปในทางเรื่องพวกนั้น

 

ก็ได้แต่ภาวนา ขอให้อนาคตของชาติทุกคน

โชคดี ได้เจอแต่กลุ่มเพื่อนดี ๆ กัน

จะได้ไม่มีใครดึงใคร ชักชวนกันให้เสียคน :rolleyes:

 

ส่วนเรื่องที่ให้ลองเหล้า บุหรี่ กันต่อหน้า

อันนี้ไม่รู้จะได้ผลกับทุกคนหรือเปล่า B)


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#34 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 19 February 2013 - 16:40

ท่านสุนทรภู่..คือต้นแบบของสัมผัสใน(คือในแต่ละวรรค ) จะมีสัมผัส

ทั้ง สองอย่าง คือ( บางแห่งก็สัมผัสสระ.บางแห่งก็สัมผัสอักษร)อย่าง

( ไม่เมาเหล้า ..แล้วแต่เรา...ยังเมารัก ) (คำโยนเป็นเสียง ..ร..๓ ตอน

เหล้า.เรา.รัก.) คล้าย( กลบท. ชื่อ  กบเต้นสามตอน) แถมยังมี ..สระ เอา.

อีกสามคำ...ตัวอย่างที่ ๒ ( ถึงโรงเหล้า  เตากลั่น  ควันโขมง) มีสัมผัส

ที่เรียกว่า...คำเทียบรถ สองคู่( เหล้า-เตา....กลั่น-ควัน)  เป็นสัมผัสสระ

ที่สวยงาม.การที่เราจะรู้ว่าใคร  ฝีมือขนาดไหน...โปรดดูที่ความรื่นไหล

ของสัมผัสในวรรค..เรียบรื่นตามกัน.ไม่โดด.ไม่สดุด..เสียงก็ราบเรียบ

ไม่ใช่แต่งใช้..อักษร สูง-กลาง..อยู่  เอาอักษรเสียงต่ำ แทรกเข้าไป..

กวี..เรียกกันว่า  ..เสียงตก...ฉะนั้น  คนเขียนกลอนคนไหน บอกว่าเอา

เนื้อหาสาระ..นั่นมันไม่ไหว..( เพราะจะเขียนกลอนอะไร..เอาพล๊อต-

เนื้อหาสาระตรงนั้นอยู่แล้ว.ไม่ใช่ข้ออ้าง ) เช่นเราจะเขียนการเมือง

อะไรตรงไหน? ต้องกำหนดเรื่องอยู่แล้ว. ถึงนำมา..ร้อยกรอง กาพย์.

หรือ กลอน...อีกเรื่องหนึ่งเคยพูดบ่อยๆ(แต่งตามคนดัง) ขอบอกให้ว่า

คนดังหลายคน. เคยโต้แย้งกันมาแล้ว.บางคนก็มีเหตุผล แก้ไข แต่บาง

คนมันก็รั้น แบบกูดัง....ก็..นานาจิตตัง....( เสียงปลายวรรคแรก เสียง-

สามัญ..ตรี.. ) มันอ่อนบาง  ท่านครูต่างๆ ก็บอกไว้แล้วว่า ..ไม่นิยม...

แต่ก็ยังมีคนใช้อยู่( เขาอ้างคำเดียวว่า ฉันทลักษณ์ ไม่ได้ห้าม) ก็จริง

ของเขา  ใน.ฉันทลักษณ์..ไม่ได้ห้ามไว้..แต่ท่านครูก็ย้ำว่า ..ไม่นิยม..

ถ้าจะเถียงว่า ( กลัวเสียเนื้อหาสาระ )  อันนี้ชาวเสรีไทยบอกว่า..แถ...

เพราะเนื้อหาฯ  ท่านสุนทรภู่  แต่งเนื้อหา  หลากหลายรูปแบบ  ก็ไม่

เห็นเสียอรรถรสอะไร.แม้กระทั่งที่เรียกว่า( บทอัศจรรย์) หรือ บท-

( ปากตลาด) (ไปหาอ่าน ตอน  นาง สุวรรณมาลี หึงหน้าป้อม) ไม่ว่า-

นางระเวงหรือนางสุวรรณมาลี. ก็ด่ากันแบบแม่ค้าปากตลาด ไม่สมกับ

เป็นลูกสาวเจ้าเมือง..( ถามว่าที่จริงใครด่าล่ะ?? ) ก็ท่านสุนทรภู่ด่าเอง

ทั้งนั้น..ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง.ว่า..( จะเขียนการเมืองหรือเนื้อหาฯอะไร

ก็ตาม)  อย่าเอา..ฉันทลักษณ์..ที่ท่านครูได้คิดค้นมาด้วยความยากลำบาก

มาอ้างให้เสื่อมเสีย.ฉะนั้น  ( ใครเก่งหรือไม่  อ่านดูก็รู้ ) กลอน-กาพย์ของ-

เขา แต่ละวรรคตอนราบเรียบหรือเปล่า....แค่นี้ก่อน  วันนี้ไปเยี่ยมคนป่วย

ที่ ร.พ จุฬา ฯ เพิ่งกลับมา... ส่วน โพสต์ ล่างไม่ต้องตอบก็ได้นะ  เพราะ

เหล้า-บุหรี่..เลิกมานานสัก  ๓๐ ปีคงได้...........



#35 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 20 February 2013 - 12:52

>>> กลอนจะไพเราะหรือไม่ <<<<<<<

 

>>>>> อีกอย่าง  จะขอบันทึกไว้ให้ดู ว่า  ( กลอนจะไพเราะ หรือไม่)

นั้น  มีหลายสาเหตุ...วันนี้จะพูดถึงอีก  สาเหตุหนึ่ง  ......

......เรื่อง   ( อักษร  ๓  หมู่ )  สูง...กลาง....ต่ำ...)  ท่านครูเล่าว่า....

กลอนจะไพเราะหรือไม่  อยู่ที่การใช้  ...อักษร...แต่ละ เสียง..

บวกกับ...กระบวนบรรยาย...เช่น.ถ้าเราจะเขียนกลอนใน กระบวน-

บรรยายที่ชื่อว่า ( พิโรธวาทัง ) ดุดัน.โกรธ.โทษะ.อารมณ์ร้อนแรง

...ท่านครูบอกว่า( ให้ใช้   อักษรเสียงสูง-กลาง )และ...คำตาย....

เช่น ( พระพิโรธ  โกรธกริ้ว  กระทืบบาท ......

........กัมปนาท  หวาดไหว  ถึงไตรภพ)......

 

>>>>  เห็นภาพเลยว่ามันกระเทือน  ถึงสามโลก..อ่านก็เข้าใจง่าย

ดูก็ขึงขังน่ากลัว...ที่นี้..มาดูบท.กระบวนบรรยายที่เรียกว่า ......

( นารีปราโมทย์ )  ( โอ้น้องนาง  ในฤดี  ของพี่จ๋า...

............................อย่าร้างลา  แรมไกล  ให้ใจหาย )

 

>> เห็นไหมล่ะ?? อักษร  จะใช้เสียงกลางเสียงต่ำ  ..ทำนองกลอน

จะอ่อนโยน เว้าวอน. ไม่มีเสียงแข็ง ไม่มี คำตาย..ไม่สดุดเลย...

>> ปัญหามันอยู่ที่.   คนส่วนใหญ่ไม่รู้..และแต่ง ไม่เป็น  เลยไม่รู้

สำนวนไหน. ถูกผิดประการใด..(เหมือน.ประชาธิปไตย...นั่นแหละ

รากหญ้า  คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้..จึงถูกแกนนำ ชักจูงไปได้  บทกวีก็

เหมือนกัน. คนส่วนใหญ่  ไม่รู้ ..ฉันทลักษณ์.. ไม่รู้ ..อักขระวิธี.....

พวกนี้อ่านก็คล้อยตาม.. ยิ่งกลอนของคนดังก็ยิ่งมีคนอ่านมาก-

......นี่ก็เป็นจุดเสื่อม   จุดหนึ่งของ..ฉันทลักษณ์..ไทย..ซึ่งผมคน-

เดียวยากจะต้านไหว..ค่ายเพลงวัยรุ่นต่างๆ..ที่เพลงวัยรุ่นร้อง แทบ-

จะไม่เป็นกลอนแล้ว.( ที่จริง..กลอนเพลง..เขามีนะ ) แต่วัยรุ่นเดี๋ยว-

นี้เขียนกันมั่วไปหมด. แถมร้องก็แทบไม่เป็นภาษามนุษย์ ..แต่ก็ทำ

ธุรกิจให้บริษัทเขาเจริญรุ่งเรืองได้...นี่ก็หมดหวังจะไปบอกบุญได้แล้ว

สถานศึกษา  ก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้..

>>>>> ความจริง  ผู้ที่แต่งเป็นอยู่แล้ว..ง่ายต่อการค้นหาอักขระวิธี

เพื่อพัฒนา  ฝีมือตนเอง..แต่ก็เปล่า  ( ทิฐิ...+  อัตตา ) เหนียวแน่นมาก

...สอนเด็ก  ง่ายกว่าจริงๆ ( ศิษย์คนหนึ่ง  เคยได้ ที่ ๑ ประจำจังหวัด ถึง

๒ ปี ซ้อน ) และศิษย์  อีกคนหนึ่ง  ( ได้เข้ารับพระราชทาน ) จากการ

ประกวดบท อาศิรวาท.. จัดโดย..คณะอักษรศาสตร์. ม.ศิลปากร..ทับแก้ว.

ได้ทั้งรางวัล...ทั้งเกียรติบัตร  จากคณะอักษรฯ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เอาจริง

กับการแต่งกวี. คนที่ได้รับพระราชทานรางวัล  ตอนหลังก็มาข่าวว่า จบ

นิติฯ ที่รามฯ  และได้ทุน  ไปต่อที่อังกฤษ... ส่วนคนที่แต่งโคลง ได้ที่ ๑

สองปีซ้อน  ข่าวว่า  มาจบที่  จุฬา ฯ  แล้วไม่ได้ข่าวอีกเลย..น่าเสียดาย

.......ในห้องกวีวรรณ..ก็มีกวีเก่งอยู่  ( ท่าน วฤก )  ถ้ามีเวลา  ก็เชิญท่าน

มาช่วยกัน  เผยแพร่....ฉันทลักษณ์... ให้คงอยู่.............. 



#36 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 21 February 2013 - 13:40

>>>>>>>>> น้ำตา.....ชาวใต้  <<<<<<<<<

 

 

>>๑.. น้ำตา  ชาวใต้ .............ร่ำไห้  หวนหา

.......มีใคร  ไหนมา ...............ช่วยพา  พ้นภัย

 

>>๒..แสนสลด  หดหู่.............ครูหนู  อยู่ไหน ?

.......ฆ่าท่าน  ทำไม.?.............ใยไม่  เมตตา

 

>>๓..พระสงฆ์  องค์เจ้า...........เสื่อมเศร้า  สังขาร์

.......เวียนวัน  เวลา..................มรณา  แน่นอน

 

>>๔..โจรา  หาเหตุ................สังเวช  สังหรณ์

.......ไร้โกรธ  โทษกรณ์..........แล้วรอน  ราญใย

 

>>๕..บ้านเมือง  เคืองเข็ญ.......มองเห็น  เป็นไฉน

.......หวังพึ่ง  ผู้ใด ?................เหมือนไม่  มีมา

 

>>๖..ร้อนอก  อัคนี...............ไพรี  บีฑา

.......โอ้อก  อนิจจา...............หันหน้า  หาใคร ? .....

 

 

>>> กลอน ๔ ....<<<///๒๑/๒/๕๖///

 

 

>>>>> กลอน ๔  ..กลอน ๕  ฯลฯ   เป็นกลอนที่  หายสาปสูญ

..ไปจาก...ผู้เขียนกลอน.. บางคนที่เขียน ..กลอนแปด..อาจจะ

..สงสัยว่า มีอยู่หรือ??  อยากจะขอแนะนำ ผู้ที่ สนใจในการ เขียน

กลอนว่า...ง่ายครับ  กลอน ๔.๕.๖.๗.๘.๙.  วันนี้  ขออธิบาย แค่

กลอน ๔ ...ก่อน เพราะมีตัวอย่างแล้ว...คนชอบเขียนกลอน ก็จะเห็น

แต่ กลอนแปดสุภาพ..( กลอนแปดฯ ถือว่าเป็นกลอนที่ลงตัวมาก-

ที่สุด )  จะยังไม่พูดถึงเพราะมีตัวอย่างมากมาย.........

.....จะเล่าถึง..กลอน ๔.. กลอน ๕ ...ซึ่งอันที่จริง  มีมาแต่ครั้ง กรุงเก่า

แล้ว .แต่ว่าเป็นการแต่งเสริมไปในบทวรรณกรรม  ไม่มากนัก  แลมา

ปรากฏในยุค ต้นกรุง..ฯ  ก็ไม่มากนัก และไม่เป็นที่นิยม  มีแต่งเป็น---

...กลบท..อยู่บ้าง ( แต่เราจะหาไม่พบ  หรือ มันไปจากสมองแล้ว) อันนี้

ก็ไม่รับรอง. เพราะ หลายอย่างที่ลืม..หลายอย่างที่คิดไม่ออก....

....แต่งง่ายครับ    ผู้ที่สนใจ..สัมผัส.วรรคตอน. เหมือนกลอนแปด.นั่นเลย

เพียงแต่ใช้...วรรคละ  ๔  คำ ..( คำที่๔ วรรค๑.ไปสัมผัสคำที่๒ วรรค๒ )

( คำที่๔ วรรค๒ สัมผัสคำที่๔ วรรค๓ และไปสัมผัสคำที่ ๒ วรรคท้าย)....

ถ้าเป็น( กลอน๕)  ก็เพิ่มอีกวรรคละ๑คำ ให้ได้ วรรคละ ๕คำ..สัมผัส ก็--

เหมือนกัน..  ชื่นชอบการเขียนกลอนก็ ทดรองดู  ไม่เข้าใจตรงไหนก็ เชิญ

ด้วยความยินดี.......

 

 

>>>>>>>>> พระฤๅษี...///๒๑/๒/๕๖///   ...( กลอน ๔ )



#37 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 23 February 2013 - 17:11

>>>> เล่าสู่กันฟัง <<<<

 

 

>> เริ่มเมื่อ..ตรุษจีน.. เพื่อนข้างบ้าน  คุณพ่อเป็น นายแพทย์ อายุ ๙๒ ปี

ท่านแม่คือ..หม่อมเจ้า  อมิตดา  สวัสดิวัตน์.. ไปสวรรค์ หลายปีแล้ว...

ลูกท่านเป็นเพื่อนรุ่นน้อง..เป็นเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างสนิท  เพราะมีบ้าน

คั่นอยู่หลังเดียวมีอะไรก็..ช่วยเหลือกันตามประสาเพื่อนบ้าน. ก่อนตรุษจีน

เพื่อนบอกจะเปิดห้องท่านแม่ชั้นบน  ทำความสะอาด พอดีก็หาคนช่วยทำ

ได้. หลังตรุษจีนไม่นานนัก  เพื่อนก็เอาของมาให้   เราก็คิดว่ามีแต่หนังสือ

เพราะเห็นหนังสือเก่าหายากอยู่  น่าจะ  ๒๐  กว่าเล่ม  ส่วนใหญ่จะเป็น ----

แจก  งานพระราชทาเพลิงศพ.. พูดตรง ๆ ก็คือ หนังสือ พิมพ์แจก...แต่ดู

แล้วเห็นว่าเป็นหนังสือที่....หาซื้อยาก.หรือหาไม่ได้ง่ายนัก....เช่น  หนังสือ

( ลิลิตนารายณ์สิบปาง )  พระราชนิพนธ์ใน  รัชกาลที่ ๖  พิมพ์แจกในงาน

พระราชทานเพลิงพระศพ  สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี.พระวรราชชายา-

ในรัชกาลที่ ๖ .( ๒/พ.ย/๒๕๑๙...)ฯลฯ  เมื่อว่าง รื้อดูว่าจะเก็บจากรังขึ้นชั้น

ก็พบหลายสิ่งที่ไม่แน่ใจ.( มี พระสังขจาย  ทำด้วยหยก  แผ่นหยกมีอักษรจีน.

เหรียญ. บาท รัชกาลที่ ๔.๕.๖. เหรียญสมเด็จพระเทพฯ  ติดปกเสื้อ. เหรียญ

มงกุฏ ในหลวง+ราชินี...มีเหรียญอีกหลายเหรียญ  ที่ไม่รู้จัก..ด้วยความไม่มั่น

ใจ. ก็เลยเก็บพระ.เหรียญ  ใส่ในโถเล็ก ๆ  ไปคืน  เพราะคิดว่าจะไม่ใช่ของให้-

ธรรมดาแล้ว..แต่ก็ผิดคาด  เมื่อเทออกดู  เพื่อนบอกว่า  ( ของท่านแม่ ให้พี่ )

อ้าว.ทำไมให้มากจัง. เพื่อนกลับบอกไม่มาก  แล้วพาไปดู ..ลมจะใส่  เหรียญ

อย่างเดียว  เกือบครึ่งปี๊บ..แถมยังหยิบแถมมาให้อีก 2-3 เหรียญ  พระบูชา

องค์เล็กองค์ใหญ่  เป็นสิบ.เงินเหรียญ รัชกาลต่างๆ เงิน พตด้วง. อยากได้-

อะไรก็เอา ไม่ต้องเกรงใจ.  ใจก็อยากได้  โลภตามประสามนุษย์  แต่คิดอีกที

ที่เพื่อนให้นี่ก็มากพอแล้ว  แล้วเราจะเอาไปทำไมอีก.ต่อมา เพื่อนก็บอกว่า

เรียกคนรับซื้อของเก่ามาดู  ตกลงขายไป ไม่กี่สิบเหรียญ  ได้เป็นแสน..

เพื่อนเล่าให้ฟังตอนไปเยี่ยมท่านน้า..ที่นอนป่วยอยู่  ร.พ จุฬาฯ  มาชวนเรา

ไปเป็นเพื่อน. คุยกันบอกว่าไม่นึกว่า  ราคาดี..แต่บอกว่ายังอยู่อีกมาก ปี๊บเล็ก

ยังมีเครื่องเพชรเครื่องทองพระราชทาน . เพื่อนบอกไม่กล้าขาย. เครื่องเงิน

พระนาม...พระนางเจ้า รำไพพรรณี. มีพระราชหัตถเลขา ใต่ถามทุกข์สุข --

หม่อมเจ้า  อมิตดา  ท่านแม่เพื่อน  ดูเป็นเกือบครึ่ง ชม. ดูไม่หมด. ดูแล้วเกิด

กิเลส..คืนนั้นเลยมานั่งปลงเพราะคิดว่า  ( เราจะโลภเอามาทำไม )?? ตายแล้ว

ก็เอาไปไม่ได้.เหมือนหม่อมท่านทิ้งไว้ให้ลูกท่านมากมาย เพื่อนเราก็ไม่มีครอบ

ครัว..อยู่กับคุณพ่อ  สองพ่อลูก...แถมท่านน้าที่นอนป่วยอยู่  ร.พ จุฬาฯ ก็ไม่มี-

ครอบครัว  อายุ  ๘๐ กว่าแล้ว  เป็น หม่อมเจ้า..เหมือนกัน..แต่ท่านพักอยู่ใน

วังสระปทุม..ขนาดสาวใช้ต้นห้อง ยัง  ๖๐  กว่า..

....เดี๋ยวว่างจะลงรูป เหรียญ  ให้ดู..มีหลายแบบ หลายรัชกาล........

แค่นี้ก่อน...วันนี้ไม่ได้คุยเรื่อง...กวีวรรณกรรม.....ขอโทษด้วย...

 

>>>>>> ๒๓///๒///๕๖ <<<<<<< 



#38 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

Posted 23 February 2013 - 18:40

>>>> เล่าสู่กันฟัง <<<<

 

 

>> เริ่มเมื่อ..ตรุษจีน.. เพื่อนข้างบ้าน  คุณพ่อเป็น นายแพทย์ อายุ ๙๒ ปี

ท่านแม่คือ..หม่อมเจ้า  อมิตดา  สวัสดิวัตน์.. ไปสวรรค์ หลายปีแล้ว...

ลูกท่านเป็นเพื่อนรุ่นน้อง..เป็นเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างสนิท  เพราะมีบ้าน

คั่นอยู่หลังเดียวมีอะไรก็..ช่วยเหลือกันตามประสาเพื่อนบ้าน. ก่อนตรุษจีน

เพื่อนบอกจะเปิดห้องท่านแม่ชั้นบน  ทำความสะอาด พอดีก็หาคนช่วยทำ

ได้. หลังตรุษจีนไม่นานนัก  เพื่อนก็เอาของมาให้   เราก็คิดว่ามีแต่หนังสือ

เพราะเห็นหนังสือเก่าหายากอยู่  น่าจะ  ๒๐  กว่าเล่ม  ส่วนใหญ่จะเป็น ----

แจก  งานพระราชทาเพลิงศพ.. พูดตรง ๆ ก็คือ หนังสือ พิมพ์แจก...แต่ดู

แล้วเห็นว่าเป็นหนังสือที่....หาซื้อยาก.หรือหาไม่ได้ง่ายนัก....เช่น  หนังสือ

( ลิลิตนารายณ์สิบปาง )  พระราชนิพนธ์ใน  รัชกาลที่ ๖  พิมพ์แจกในงาน

พระราชทานเพลิงพระศพ  สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี.พระวรราชชายา-

ในรัชกาลที่ ๖ .( ๒/พ.ย/๒๕๑๙...)ฯลฯ  เมื่อว่าง รื้อดูว่าจะเก็บจากรังขึ้นชั้น

ก็พบหลายสิ่งที่ไม่แน่ใจ.( มี พระสังขจาย  ทำด้วยหยก  แผ่นหยกมีอักษรจีน.

เหรียญ. บาท รัชกาลที่ ๔.๕.๖. เหรียญสมเด็จพระเทพฯ  ติดปกเสื้อ. เหรียญ

มงกุฏ ในหลวง+ราชินี...มีเหรียญอีกหลายเหรียญ  ที่ไม่รู้จัก..ด้วยความไม่มั่น

ใจ. ก็เลยเก็บพระ.เหรียญ  ใส่ในโถเล็ก ๆ  ไปคืน  เพราะคิดว่าจะไม่ใช่ของให้-

ธรรมดาแล้ว..แต่ก็ผิดคาด  เมื่อเทออกดู  เพื่อนบอกว่า  ( ของท่านแม่ ให้พี่ )

อ้าว.ทำไมให้มากจัง. เพื่อนกลับบอกไม่มาก  แล้วพาไปดู ..ลมจะใส่  เหรียญ

อย่างเดียว  เกือบครึ่งปี๊บ..แถมยังหยิบแถมมาให้อีก 2-3 เหรียญ  พระบูชา

องค์เล็กองค์ใหญ่  เป็นสิบ.เงินเหรียญ รัชกาลต่างๆ เงิน พตด้วง. อยากได้-

อะไรก็เอา ไม่ต้องเกรงใจ.  ใจก็อยากได้  โลภตามประสามนุษย์  แต่คิดอีกที

ที่เพื่อนให้นี่ก็มากพอแล้ว  แล้วเราจะเอาไปทำไมอีก.ต่อมา เพื่อนก็บอกว่า

เรียกคนรับซื้อของเก่ามาดู  ตกลงขายไป ไม่กี่สิบเหรียญ  ได้เป็นแสน..

เพื่อนเล่าให้ฟังตอนไปเยี่ยมท่านน้า..ที่นอนป่วยอยู่  ร.พ จุฬาฯ  มาชวนเรา

ไปเป็นเพื่อน. คุยกันบอกว่าไม่นึกว่า  ราคาดี..แต่บอกว่ายังอยู่อีกมาก ปี๊บเล็ก

ยังมีเครื่องเพชรเครื่องทองพระราชทาน . เพื่อนบอกไม่กล้าขาย. เครื่องเงิน

พระนาม...พระนางเจ้า รำไพพรรณี. มีพระราชหัตถเลขา ใต่ถามทุกข์สุข --

หม่อมเจ้า  อมิตดา  ท่านแม่เพื่อน  ดูเป็นเกือบครึ่ง ชม. ดูไม่หมด. ดูแล้วเกิด

กิเลส..คืนนั้นเลยมานั่งปลงเพราะคิดว่า  ( เราจะโลภเอามาทำไม )?? ตายแล้ว

ก็เอาไปไม่ได้.เหมือนหม่อมท่านทิ้งไว้ให้ลูกท่านมากมาย เพื่อนเราก็ไม่มีครอบ

ครัว..อยู่กับคุณพ่อ  สองพ่อลูก...แถมท่านน้าที่นอนป่วยอยู่  ร.พ จุฬาฯ ก็ไม่มี-

ครอบครัว  อายุ  ๘๐ กว่าแล้ว  เป็น หม่อมเจ้า..เหมือนกัน..แต่ท่านพักอยู่ใน

วังสระปทุม..ขนาดสาวใช้ต้นห้อง ยัง  ๖๐  กว่า..

....เดี๋ยวว่างจะลงรูป เหรียญ  ให้ดู..มีหลายแบบ หลายรัชกาล........

แค่นี้ก่อน...วันนี้ไม่ได้คุยเรื่อง...กวีวรรณกรรม.....ขอโทษด้วย...

 

>>>>>> ๒๓///๒///๕๖ <<<<<<< 

ต้องขอโทษปู่ ไม่ค่อยได้เข้ามาห้องนี้เลย จะรอดูนะครับ :P :wub:


ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#39 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 24 February 2013 - 09:24

ดูแล้วก็ปลงนะ กีรเต้...มี เหรียญ  หลากหลายที่ ...

เกิดมาก็ยังไม่เคยเห็น  ..แต่ก็นั่นแหละ  เรื่องพระ

เรื่องเหรียญ  ที่จริงก็ไม่มีความรู้  เรื่องนี้มากนัก

ลงรูปไว้หน้าเฟซฯ  พระสังขจาย หยก กับ เหรียญ

หยก.( อยากขอความรู้ ว่า ทำไม เนื้อ หยก ไม่เหมือน

 กัน..?  และ อักษรจีน..บนแผ่นหยก  แปลว่าอะไร..?

ใครรู้ช่วยแนะนำด้วย...)  ....แต่ต้องไปดูที่หน้าเฟซฯ

เพราะเอามานี่ไม่เป็น.......    



#40 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 24 February 2013 - 11:01

พระเจ้าตาค่ะ 

ขวัญข้าวขออนุญาตนำรูปธนบัตร, หยก

จาก fb ของพระเจ้าตา มาลงนะค่ะ

 

 

20.jpg

10.jpg

100.jpg

10-1.jpg

 

 

ดูภาพต่อที่ Reply 53 - 54 ค่ะ


Edited by kwan_kao, 26 February 2013 - 18:32.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#41 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

Posted 24 February 2013 - 11:14

เข้ามาแล้วครับ.....

แต่จะให้ร่วมสนทนากาพย์กลอนด้วย จนปัญญาจริงๆ....

 

ขอให้เปลี่ยนสีเป็น'ไพร่เสื้อแดง'ยังง่ายกว่า......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#42 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

Posted 24 February 2013 - 11:21

>>>> เล่าสู่กันฟัง <<<<

 

 

>> เริ่มเมื่อ..ตรุษจีน.. เพื่อนข้างบ้าน  คุณพ่อเป็น นายแพทย์ อายุ ๙๒ ปี

ท่านแม่คือ..หม่อมเจ้า  อมิตดา  สวัสดิวัตน์.. ไปสวรรค์ หลายปีแล้ว...

ลูกท่านเป็นเพื่อนรุ่นน้อง..เป็นเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างสนิท  เพราะมีบ้าน

คั่นอยู่หลังเดียวมีอะไรก็..ช่วยเหลือกันตามประสาเพื่อนบ้าน. ก่อนตรุษจีน

เพื่อนบอกจะเปิดห้องท่านแม่ชั้นบน  ทำความสะอาด พอดีก็หาคนช่วยทำ

ได้. หลังตรุษจีนไม่นานนัก  เพื่อนก็เอาของมาให้   เราก็คิดว่ามีแต่หนังสือ

เพราะเห็นหนังสือเก่าหายากอยู่  น่าจะ  ๒๐  กว่าเล่ม  ส่วนใหญ่จะเป็น ----

แจก  งานพระราชทาเพลิงศพ.. พูดตรง ๆ ก็คือ หนังสือ พิมพ์แจก...แต่ดู

แล้วเห็นว่าเป็นหนังสือที่....หาซื้อยาก.หรือหาไม่ได้ง่ายนัก....เช่น  หนังสือ

( ลิลิตนารายณ์สิบปาง )  พระราชนิพนธ์ใน  รัชกาลที่ ๖  พิมพ์แจกในงาน

พระราชทานเพลิงพระศพ  สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี.พระวรราชชายา-

ในรัชกาลที่ ๖ .( ๒/พ.ย/๒๕๑๙...)ฯลฯ  เมื่อว่าง รื้อดูว่าจะเก็บจากรังขึ้นชั้น

ก็พบหลายสิ่งที่ไม่แน่ใจ.( มี พระสังขจาย  ทำด้วยหยก  แผ่นหยกมีอักษรจีน.

เหรียญ. บาท รัชกาลที่ ๔.๕.๖. เหรียญสมเด็จพระเทพฯ  ติดปกเสื้อ. เหรียญ

มงกุฏ ในหลวง+ราชินี...มีเหรียญอีกหลายเหรียญ  ที่ไม่รู้จัก..ด้วยความไม่มั่น

ใจ. ก็เลยเก็บพระ.เหรียญ  ใส่ในโถเล็ก ๆ  ไปคืน  เพราะคิดว่าจะไม่ใช่ของให้-

ธรรมดาแล้ว..แต่ก็ผิดคาด  เมื่อเทออกดู  เพื่อนบอกว่า  ( ของท่านแม่ ให้พี่ )

อ้าว.ทำไมให้มากจัง. เพื่อนกลับบอกไม่มาก  แล้วพาไปดู ..ลมจะใส่  เหรียญ

อย่างเดียว  เกือบครึ่งปี๊บ..แถมยังหยิบแถมมาให้อีก 2-3 เหรียญ  พระบูชา

องค์เล็กองค์ใหญ่  เป็นสิบ.เงินเหรียญ รัชกาลต่างๆ เงิน พตด้วง. อยากได้-

อะไรก็เอา ไม่ต้องเกรงใจ.  ใจก็อยากได้  โลภตามประสามนุษย์  แต่คิดอีกที

ที่เพื่อนให้นี่ก็มากพอแล้ว  แล้วเราจะเอาไปทำไมอีก.ต่อมา เพื่อนก็บอกว่า

เรียกคนรับซื้อของเก่ามาดู  ตกลงขายไป ไม่กี่สิบเหรียญ  ได้เป็นแสน..

เพื่อนเล่าให้ฟังตอนไปเยี่ยมท่านน้า..ที่นอนป่วยอยู่  ร.พ จุฬาฯ  มาชวนเรา

ไปเป็นเพื่อน. คุยกันบอกว่าไม่นึกว่า  ราคาดี..แต่บอกว่ายังอยู่อีกมาก ปี๊บเล็ก

ยังมีเครื่องเพชรเครื่องทองพระราชทาน . เพื่อนบอกไม่กล้าขาย. เครื่องเงิน

พระนาม...พระนางเจ้า รำไพพรรณี. มีพระราชหัตถเลขา ใต่ถามทุกข์สุข --

หม่อมเจ้า  อมิตดา  ท่านแม่เพื่อน  ดูเป็นเกือบครึ่ง ชม. ดูไม่หมด. ดูแล้วเกิด

กิเลส..คืนนั้นเลยมานั่งปลงเพราะคิดว่า  ( เราจะโลภเอามาทำไม )?? ตายแล้ว

ก็เอาไปไม่ได้.เหมือนหม่อมท่านทิ้งไว้ให้ลูกท่านมากมาย เพื่อนเราก็ไม่มีครอบ

ครัว..อยู่กับคุณพ่อ  สองพ่อลูก...แถมท่านน้าที่นอนป่วยอยู่  ร.พ จุฬาฯ ก็ไม่มี-

ครอบครัว  อายุ  ๘๐ กว่าแล้ว  เป็น หม่อมเจ้า..เหมือนกัน..แต่ท่านพักอยู่ใน

วังสระปทุม..ขนาดสาวใช้ต้นห้อง ยัง  ๖๐  กว่า..

....เดี๋ยวว่างจะลงรูป เหรียญ  ให้ดู..มีหลายแบบ หลายรัชกาล........

แค่นี้ก่อน...วันนี้ไม่ได้คุยเรื่อง...กวีวรรณกรรม.....ขอโทษด้วย...

 

>>>>>> ๒๓///๒///๕๖ <<<<<<< 

 

 

คุณพี่ฯ ขอรับ หาก คุณพี่ฯ จะกรุณา โปรด ระบุชื่อ ของ ตะนิ่นตาญี ไว้ใน พินัยกรรม ด้วยได้ไหม ขอรับ?  :D 

 

ตะนิ่นตาญี คนดี ไม่โลภมาก ขอเพียงแค่ หนังสือ เท่านั้นเป็นพอ.....

 

๑ เล่ม ๒ เล่ม กี่เล่มก็ได้แล้วแต่ คุณพี่ฯ จะเมตตา  :P 

 

แก้ว-แหวน-เงิน-ทอง ตะนิ่นตาญี ไม่ต้องการ ขอแต่ หนังสือ เท่านั้นเอง ขอรับ  :lol: 

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันอาทิตย์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๑๑.๒๑ นาฬิกา


"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#43 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

Posted 24 February 2013 - 12:54

>>>> เล่าสู่กันฟัง <<<<

 

 

>> เริ่มเมื่อ..ตรุษจีน.. เพื่อนข้างบ้าน  คุณพ่อเป็น นายแพทย์ อายุ ๙๒ ปี

ท่านแม่คือ..หม่อมเจ้า  อมิตดา  สวัสดิวัตน์.. ไปสวรรค์ หลายปีแล้ว...

ลูกท่านเป็นเพื่อนรุ่นน้อง..เป็นเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างสนิท  เพราะมีบ้าน

คั่นอยู่หลังเดียวมีอะไรก็..ช่วยเหลือกันตามประสาเพื่อนบ้าน. ก่อนตรุษจีน

เพื่อนบอกจะเปิดห้องท่านแม่ชั้นบน  ทำความสะอาด พอดีก็หาคนช่วยทำ

ได้. หลังตรุษจีนไม่นานนัก  เพื่อนก็เอาของมาให้   เราก็คิดว่ามีแต่หนังสือ

เพราะเห็นหนังสือเก่าหายากอยู่  น่าจะ  ๒๐  กว่าเล่ม  ส่วนใหญ่จะเป็น ----

แจก  งานพระราชทาเพลิงศพ.. พูดตรง ๆ ก็คือ หนังสือ พิมพ์แจก...แต่ดู

แล้วเห็นว่าเป็นหนังสือที่....หาซื้อยาก.หรือหาไม่ได้ง่ายนัก....เช่น  หนังสือ

( ลิลิตนารายณ์สิบปาง )  พระราชนิพนธ์ใน  รัชกาลที่ ๖  พิมพ์แจกในงาน

พระราชทานเพลิงพระศพ  สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี.พระวรราชชายา-

ในรัชกาลที่ ๖ .( ๒/พ.ย/๒๕๑๙...)ฯลฯ  เมื่อว่าง รื้อดูว่าจะเก็บจากรังขึ้นชั้น

ก็พบหลายสิ่งที่ไม่แน่ใจ.( มี พระสังขจาย  ทำด้วยหยก  แผ่นหยกมีอักษรจีน.

เหรียญ. บาท รัชกาลที่ ๔.๕.๖. เหรียญสมเด็จพระเทพฯ  ติดปกเสื้อ. เหรียญ

มงกุฏ ในหลวง+ราชินี...มีเหรียญอีกหลายเหรียญ  ที่ไม่รู้จัก..ด้วยความไม่มั่น

ใจ. ก็เลยเก็บพระ.เหรียญ  ใส่ในโถเล็ก ๆ  ไปคืน  เพราะคิดว่าจะไม่ใช่ของให้-

ธรรมดาแล้ว..แต่ก็ผิดคาด  เมื่อเทออกดู  เพื่อนบอกว่า  ( ของท่านแม่ ให้พี่ )

อ้าว.ทำไมให้มากจัง. เพื่อนกลับบอกไม่มาก  แล้วพาไปดู ..ลมจะใส่  เหรียญ

อย่างเดียว  เกือบครึ่งปี๊บ..แถมยังหยิบแถมมาให้อีก 2-3 เหรียญ  พระบูชา

องค์เล็กองค์ใหญ่  เป็นสิบ.เงินเหรียญ รัชกาลต่างๆ เงิน พตด้วง. อยากได้-

อะไรก็เอา ไม่ต้องเกรงใจ.  ใจก็อยากได้  โลภตามประสามนุษย์  แต่คิดอีกที

ที่เพื่อนให้นี่ก็มากพอแล้ว  แล้วเราจะเอาไปทำไมอีก.ต่อมา เพื่อนก็บอกว่า

เรียกคนรับซื้อของเก่ามาดู  ตกลงขายไป ไม่กี่สิบเหรียญ  ได้เป็นแสน..

เพื่อนเล่าให้ฟังตอนไปเยี่ยมท่านน้า..ที่นอนป่วยอยู่  ร.พ จุฬาฯ  มาชวนเรา

ไปเป็นเพื่อน. คุยกันบอกว่าไม่นึกว่า  ราคาดี..แต่บอกว่ายังอยู่อีกมาก ปี๊บเล็ก

ยังมีเครื่องเพชรเครื่องทองพระราชทาน . เพื่อนบอกไม่กล้าขาย. เครื่องเงิน

พระนาม...พระนางเจ้า รำไพพรรณี. มีพระราชหัตถเลขา ใต่ถามทุกข์สุข --

หม่อมเจ้า  อมิตดา  ท่านแม่เพื่อน  ดูเป็นเกือบครึ่ง ชม. ดูไม่หมด. ดูแล้วเกิด

กิเลส..คืนนั้นเลยมานั่งปลงเพราะคิดว่า  ( เราจะโลภเอามาทำไม )?? ตายแล้ว

ก็เอาไปไม่ได้.เหมือนหม่อมท่านทิ้งไว้ให้ลูกท่านมากมาย เพื่อนเราก็ไม่มีครอบ

ครัว..อยู่กับคุณพ่อ  สองพ่อลูก...แถมท่านน้าที่นอนป่วยอยู่  ร.พ จุฬาฯ ก็ไม่มี-

ครอบครัว  อายุ  ๘๐ กว่าแล้ว  เป็น หม่อมเจ้า..เหมือนกัน..แต่ท่านพักอยู่ใน

วังสระปทุม..ขนาดสาวใช้ต้นห้อง ยัง  ๖๐  กว่า..

....เดี๋ยวว่างจะลงรูป เหรียญ  ให้ดู..มีหลายแบบ หลายรัชกาล........

แค่นี้ก่อน...วันนี้ไม่ได้คุยเรื่อง...กวีวรรณกรรม.....ขอโทษด้วย...

 

>>>>>> ๒๓///๒///๕๖ <<<<<<< 

 

 

คุณพี่ฯ ขอรับ หาก คุณพี่ฯ จะกรุณา โปรด ระบุชื่อ ของ ตะนิ่นตาญี ไว้ใน พินัยกรรม ด้วยได้ไหม ขอรับ?  :D 

 

ตะนิ่นตาญี คนดี ไม่โลภมาก ขอเพียงแค่ หนังสือ เท่านั้นเป็นพอ.....

 

๑ เล่ม ๒ เล่ม กี่เล่มก็ได้แล้วแต่ คุณพี่ฯ จะเมตตา  :P 

 

แก้ว-แหวน-เงิน-ทอง ตะนิ่นตาญี ไม่ต้องการ ขอแต่ หนังสือ เท่านั้นเอง ขอรับ  :lol: 

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันอาทิตย์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๑๑.๒๑ นาฬิกา

 

 

 

 

 

 

ไม่ละโมภ'ของดี'เลย....

 

พวกไพร่เสื้อแดง บัตรเติมเงินอ่านแล้ว ไม่เชื่อว่าเป็นความจริง.....

พวกไพร่เสื้อแดงปล้น" 7/11" เอาทุกอย่างที่ขวางหน้า.....

ยกเว้น "หนังสือ สิ่งตีพิมพ์....."ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

 

ปล.ได้ข่าวว่า"กระดาษชำระ"นิ่มๆ ก็หาย....

แต่"สิ่งตีพิมพ์"กระดาษหยาบหนา ไม่หาย....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


Edited by ปุถุชน, 24 February 2013 - 12:56.

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#44 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 24 February 2013 - 13:04

พระเจ้าตาค่ะ ขออ้างอิงบทอัศจรรย์ ที่เพื่อน สรท. นำมาคุยกันก่อนนะค่ะ

 

(เพื่อน ๆ ชาวเสรีไทย คุยได้ทุกแบบ จริง ๆ )

 

ที่พระเจ้าตาแนะนำ เอาไว้จะไปอ่านนะค่ะ

 

คุณผึ้่งน้อยตุหรัดตุเหร่


๏ พระเพื่อนสมสมรแล้ว...................ลอราชเชยชมแก้ว
แก่นไท้แพงทอง



ลิลิตพระลอนี่ที่สุดของที่สุด Erotic Literature แล้วครับ

๏ นางโรยนางเรียกด้วย.............คำงาม
ขวัญอ่อนดั่งขวัญกาม...............ยั่วแย้ม
ใบบัวหนั่นหนาตาม...................กันลอด ไปนา
หอมกลิ่นบัวรสแก้ม..................กลิ่นแก้มไกลบัว

๏ ใบบัวบังข้าขอบ...................ใจบัว
ดอกดั่งจะหัวรัว......................เรียกเต้า
เชยชมภิรมย์ชัว.......................ซมซาบ บัวนา
ถนัดดั่งเรียมชมเจ้า..................พี่เหล้นกับตน

๏ บัวนมบัวเนตรหน้า...............บัวบาน
บัวกลิ่นขจรหอมหวาน..............รสเร้า
บัวสมรละลุงลาญ....................ใจบ่า นี้นา
บัวบาทงามจวบเท้า..................เกศแก้วงามจริง

๏ โกมุศกาเมศแก้ว...................โกมล พี่เอย
หอมกลิ่นจงกลกล....................กลิ่นแก้ว
จงกามินีปน..............................รสร่วม กันนา
จงกอบอย่ารู้แคล้ว....................ก่อเกื้อกรีฑา

๏ สรนุกบัวซ้อนดอก................บัวพระ พี่นา
ปลาช่อนปลาไซ้พระ................ดอกไม้
สลิดโพตะเพียนพะ..................กันชื่น ชมนา
รวนเพรียกแนมหลิ่งไสร้...........เหยื่อหย้ามฟูมฟอง


ลิลิตพระลอโดนกวาดเรียบไปแล้ว "กากี" ก็เป็นคิวต่อไป

"บันดาลพลาหกเทวบุตร
ก็ผึ่งผุดตั้งทั่วทิศาศาล
โพยมพยับอับอึงอนธการ
สะท้านถึงเมรุราชสีขรินทร์


สัตภัณฑ์บรรพตก็ไหวหวั่น
คงคาลั่นเป็นระลอกกระฉอกสินธุ์
ฝูงมหามัจฉาในวาริน
ก็โดดดิ้นเล่นน้ำลำพองกาย


อันดอกดวงสิมพลีที่ตูมกลัด
ครั้นฝนซัดเชยแช่มแย้มขยาย
ที่ตูมบานก้านกลีบขจรจาย
รำพายกลิ่นรื่นรสเสาวคนธ์


แมลงภู่ทิพรีบเร่งมาเอาซาบ
อาบละอองต้องทั่วทุกขุมขน
สองสุขสองเกษมเปรมสกนธ์

สองกมลสองสวาทไม่คลาดกัน"

ข้างบนนี้พี่ครุฑเขาลักกากีไปเสพสม

กากียังมีฉาก Voyeurism ด้วยนะ คือ "แอบดูคนเขารักกัน"
คนธรรพ์แอบดูพี่ครุฑกับน้องกากี

ฝ่ายคนธรรพ์เป็นไรเข้าเร้นซ่อน............ที่บัญชรพิมานชัยไพศาล
ส่วนครุฑแนบนุชนงพาล........................สองสมานร่วมรสฤดีทวี


เปรียบดั่งองค์ปโรตเทวัญ.....................เมื่อฤดูวสันต์เกษมศรี
เมขลาชูช่วงดวงมณี............................อสุรีรามสูรก็โกรธา


ถือขวานเหาะทะยานขยิกไล่..................เวียนระไวในจังหวัดพระเวหา
นางแบแก้วแวววับให้จับตา...................อสุราขว้างขวานไปราญรอน


เมขลาล่อแก้วอสุรินทร์.........................ไม่สุดสิ้นที่จะร่วมสโมสร
เกิดสำหรับกัปกัลป์นิรันดร.....................เหมือนสมรสมานสุขสกุณินทร์


จบแค่นี้ก่อน

ปล.ขุนช้างขุนแผนก็คงใช่ย่อย
 


เห็น คุณผึ้งน้อยฯ พูดถึง บทอัศจรรย์ และ คุณ pinkฯ พูดถึง ขุนช้าง-ขุนแผน แล้ว

นึกถึง บทอัศจจรย์ บทนี้ขึ้นมาทันทีทันใดเลยครับ

ว่าพลางโลมเล้าเอามือลูบ.....ประจงจูบแก้มซ้ายแล้วย้ายขวา

อกแอบอิงสวาทไม่คลาดครา.....แนบหน้ามือประคองให้น้องนอน

กำเริบราคเสียวกระสันประหวั่นจิต.....หวุดหวิดวุ่นวายกายกระฉ่อน

พระพายพัดซัดคลื่นในสาคร.....กระท้อนกระทบกระทั่งฝั่งกระเทือน

เรือไหหลำแล่นล่องเข้าคลองน้อย.....ฝนปรอยฟ้าลั่นสนั่นเลื่อน

ไต้ก๋งหลงบ่ายศรีษะเชือน.....เบือนเขาติดตื้นแตกกับตอ


คนโบราณอ่านเสภา ขุนช้าง-ขุนแผน แล้วแก้มแดง จินตนาการได้ไกลไปไหนต่อไหน

เด็กรุ่นใหม่ใหม่อ่านให้ฟังแล้วบอกว่า "ลุงแปลให้ด้วย" ได้ยินแล้วอยากเขกหัวให้สักโป๊กหนึ่ง

เพียงแค่ เบือนเขาติดตื้นแตกกับตอ นี่ก็ฟุ้งซ่านไปได้ ๑๘ ตลบ แล้ว

พูดถึง ขุนช้าง-ขุนแผน แล้วก็ให้ขำ วันแต่งงานของ พลายแก้ว กับ นางพิม

แทนที่จะมีอะไรกันตามประสา ข้าวใหม่-ปลามัน ผัวหนุ่ม-เมียสาว

เจ้าพลายแก้ว ดันนอนเล่า รามเกียรติ์ ให้ นางพิม ฟัง

แหม...เล่าตั้งแต่ต้นจนจบ นี่ถ้าไม่สว่างแจ้งเห็นแสงไขย ก็ ร่ำร่ำ แสงอุทัยเริ่มสาดส่องแล้วกระมังครับ

จะมีอะไรต่ออะไรกันได้ไงก็ไม่รู้ อ่านแล้วก็ให้เห็นภาพตาม biggrin.png

ตะนิ่นตาญี

วันจันทร์ที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๒๐.๓๘ นาฬิกา

 

 

เกิดกุลาคว้าว่าวปักเป้าติด
กระแซะชิดขากบกระทบเหนียง
กุลาส่ายย้ายหนีตีแก้เอียง
ปักเป้าเหวี่ยงยักกะแผละกระแซะชิด
กุลาโคลงไม่สู้คล่องกระพร่องกระแพร่ง
ปักเป้าแทงแต่ละทีไม่มีผิด
จะแก้ไขก็ไม่หลุดสุดความคิด
ประกบติดตกผางลงกลางดิน


อันนี้ของนางผีเสื้อกับพระอภัย sleep.png
 


Edited by kwan_kao, 24 February 2013 - 13:10.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#45 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

Posted 24 February 2013 - 13:18

พระเจ้าตาค่ะ  ขวัญข้าวควรตัดบทพากย์ของคุณผึ้งน้อยฯ ออกไปดีไหมค่ะ

หรือปล่อยไว้ ขำ ๆ คลายเครียด ดีค่ะ

 

 

คุณผึ้งน้ิอย ลืมขุนช้างขุนแผนไปได้ไง
อย่างเยอะเลยนะ


>หื่นนนนนนนนนนนนนน
ปล.ขุนช้างขุนแผนก็คงใช่ย่อย


ก็ผมกลัวม็อดหาว่าหื่น ohmy.png

แหม...แต่สาวๆรีเควสต์มา อ้ะ...ม็อดก็ม็อดเหอะ ผึ้งน้อยยอมพลีกายเพื่องานนี้...
wub.png

ขุนช้างขุนแผนนี่...รวมครบทุกรสครับ โรแมนติก หื่น ปลุกปล้ำ ขำฮา ล่อลวงด้วยเล่ห์ ลักหลับ หลอกฟัน มีหมดเลย
ฝีมือการประพันธ์ก็ขั้นเทพ เป็น figure of speech คือเห็นภาพเรย ไม่ต้องตีความ

อันนี้ขุนแผนเปิดจิ้นบัวคลี่ กวีของไทยเขียนได้เห็นภาพมาก "ครั้งแรกน่ะมันเข้ายากขนาดนี้นะตัวเธอว์"
ฝ่ายชายต้องอาศัยลีลาเยอะมากกว่าจะ finish

"เกิดพยับพยุห์พัดอัศจรรย์ สลาตันเป็นระลอกกระฉอกฉาน
ทะเลลึกดังจะล่มด้วยลมกาฬ กระทบดานกระแทกดังกำลังแรง


สำเภาจีนเจียนจมด้วยลมซัด สลุบลัดเลียบบังเข้าฝั่งแฝง
ไหหลำแล่นตัดแหลมแคมตะแคง ตลบตะแลงเลาะเลียมมาตามเลา


ถึงปากน้ำแล่นส่งเข้าตรงร่อง ให้ขัดข้องแข็งขืนไม่ใคร่เข้า
ด้วยร่องน้อยน้ำคับอับสำเภา ขึ้นติดตั้งหลังเต่าอยู่โตงเตง
(อันนี้นึกภาพตามแล้วปวดตับเป็นอันมาก)

พอกำลังลมจัดพัดกระโชก กระแทกโคกกระท้อนโขดเรือโดดเหยง
เข้าครึ่งลำหายแคลงไม่โคลงเคลง จุ้นจู๊เกรงเรือหักค่อยยักย้าย
(โอ๊ย จะลำบากไปถึงหนาย...)

ด้วยคลองน้อยเรือถนัดจึงขัดขึง เข้าติดตรึงครึ่งลำระส่ำระสาย
พอชักใบขึ้นกบรอกลมตอกท้าย ก็มิดหายเข้าไปทั้งลำพอน้ำมา


พอฝนลงลมถอยเรือลอยลำ ก็ตามน้ำแล่นล่องออกจากท่า
ทั้งสองเสร็จสมชมชื่นดั่งจินดา ก็แนบหน้าผาศุกมาทุกวัน"

 


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#46 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

Posted 24 February 2013 - 18:36

^^

^^

^^

บทมหัศจรรย์นี้....

ตกอยู่ในมือเผาบ้านเผาเมือง...

น่าจะเป็น'เชื้อจุดไฟ'เผากรุงเทพมากกว่า

เป็นสิ่ง'มหัศจรรย์'ประโลมใจกลกาม....


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#47 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 25 February 2013 - 11:29

>>>>>>>> มาฆบูชา <<<<<<<<

 

 

>>> โลภหลง  ปลงปัด  สลัดสละ ......ตามพระ- พุทธองค์  ทรงสอน

......กุศล  ผลธรรม  นำจร ...............เมื้อมรณ์  มีสวรรค์  พรรณภา

 

>>> ละโกรธ  โทษร้าย  คลายทุกข์........เขษมสุข  สารพัน  หรรษา

......วางว่าง  ห่างพิษ  อวิชชา............สังขาร์  คลายราค  วิบากกรรม

 

 

 

>>>>>>>> ๒๕//๒//๕๖...( ขึ้น  ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ) <<<<<<<<



#48 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

Posted 25 February 2013 - 11:44

>>>>>>>> มาฆบูชา <<<<<<<<

 

 

>>> โลภหลง  ปลงปัด  สลัดสละ ......ตามพระ- พุทธองค์  ทรงสอน

......กุศล  ผลธรรม  นำจร ...............เมื้อมรณ์  มีสวรรค์  พรรณภา

 

>>> ละโกรธ  โทษร้าย  คลายทุกข์........เขษมสุข  สารพัน  หรรษา

......วางว่าง  ห่างพิษ  อวิชชา............สังขาร์  คลายราค  วิบากกรรม

 

 

 

>>>>>>>> ๒๕//๒//๕๖...( ขึ้น  ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ) <<<<<<<<

สวัสดีวันพระใหญ่ปู่ สาธุ


ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#49 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 25 February 2013 - 12:13

>> บท .อัศจรรย์  วรรณกรรม..แทบทุกเรื่องมี เป็นบทที่ใช้

วาทศิลป์  ( อ่านแล้วเห็นภาพพจน์ ) ลิลิตพระลอ... หาให้เจอ

ซิ ( ท้องแนบท้องโอ้ท้อง )  ๕๕๕๕  เกรงใจ แม่ขวัญ...เดี๋ยว

จะหาว่า ( ไอ้หนุ่มน้อยพวกนี้ !!!) ๕๕๕  เป็นสีสรรของกวีครับ

มีมาตั้งแต่วรรณกรรมเก่า..ยุคอยุธยาแล้ว.. ถ้าจะเปรียบก็น่าจะ

เหมือนการร้องเพลง..พื้นบ้าน ( ลำตัด )  ขี้เมาชอบ ร้องเกี้ยว-

แก้กัน สองแง่สองง่าม...ท่านผู้ บรรยายก็  แต่งได้เรียงร้อยงด

งามตามบทกวีแต่ละชนิด..( บอกให้หา..นางสุวรรณมาลี หึง-

หน้าป้อม )  ด่ากันมันหยด ระว่าง นางสุวรรณมาลี กับ นางละเวง.

......ปล่อยไว้เถอะ..แม่ขวัญ..ให้รุ่นหลังเขาได้เรียนรู้ ว่า  กวีเก่า

ของเรา..ท่านเขียนได้ทุกรูปแบบ.. ( อ่านแล้ว ไม่อนาจาร. ) เพราะ

ความไพเราะของการเรียงร้อย..ทำให้ผู้อ่าน  ติดในบทกวีมากกว่า

......มีบทอะไรที่จะเป็น  ประโยชน์ต่อ  ผู้สนใจรุ่นต่อๆ ไป ก็ขอความ

กรุณา..ช่วยกัน..  ขอบคุณทุกท่าน........

......วันนี้วันพระ....มาฆบูชา.... ขอให้ทุกท่านมีจิต...สงบ...สว่าง....
มีทางไปที่เป็น...กุศลกรรม......( เกิด...ตั้งอยู่....ดับไป...)  ตามกฏ

อริยสัจจ.....   ( ทางสองแพ่ง..กุศลา  ธัมมา....อกุศลา  ธัมมา  )....

......หลักความจริง..ที่เป็น...หลักใจของมนุษย์....ตามแต่ใครจะ-

เลือกเดินทางไหน........เทอญ 



#50 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

Posted 25 February 2013 - 13:07

ขอบคุณครับ  ที่ยังผ่านมาเยือน  คุณ ter 162525  กลอนสุภาพ

แต่งยากกว่า ( กาพย์ยานี ๑๑ ) ท่านครู  สอนผมตั้งแต่ ๘ ขวบ

เรียนประถม  ( ใช้กระดานชนวน.ดินสอหิน) .......... 

.....กลอนสุภาพ ..วรรคละ ๘ คำ ( ๗ได้ ๙ ได้) โดยอนุโลม มีสัมผัส

ที่ต้องท่องจำว่า ( ๘-๓.๘.๘-๓ ) ใน ๑ บท..........

.....แต่.กาพย์ยานี ๑๑  วรรคหน้ามี ๕ คำ.  วรรคหลังมี ๖ คำ.เป็น ๑๑ คำ

วรรคที่๔ จะรับสัมผัส หรือไม่ ก็ได้....ท่องจำว่า ( ๕-๓.๖-๕. ) วาง

มีหลายอย่างที่ไม่มีในตำรา..ฉันทลักษณ์..เป็นเพียงการจดจำกันต่อ ๆมา

เท่านั้น. แต่ละชนิด  จดจำสัมผัส ได้ไม่เกินชั่วโมง..ความจำดีๆ พักเดียว

ก็จำได้...ได้สัมผัสไว้ก่อน.  การแต่งต้อง เรียนรู้..อักขระวิธี..มากหน่อย

การใช้คำมาเรียงร้อย..ให้เรียบรื่น  ไม่สดุด.หรือโดด..................

 

 

 

 

ด้วยประสบการณ์ส่วนตัว...

ขอบอกว่าไ'ม่เชื่อครับ'...

ขออภัยครับ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...





0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users