Jump to content


Photo

.......... สิ่งที่หายไป....???? อยู่ไหน ...??


  • Please log in to reply
417 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:54

จริง ๆ   สัมผัสไม่ยาก  พักเดียวก็จำได้   ( เอาตัวอย่าง กาพย์ฉบัง ๑๖)

 

>>>> เภตรา มาใน น้ำไหล............ค่ำเช้า เปล่าใจ

........ที่ใน มหา วารี

 

>> ( ๑ บท มี  ๓ วรรค...วรรคแรก ๖ คำ ....เภตรา  มาใน  น้ำไหล  )

>> (วรรค ๒ มี ๔ คำ......ค่ำเช้า  เปล่าใจ )

>>( วรรค๓ มี ๖ คำ......ที่ใน  มหา  วารี  )

 

......เห็นไหมครับ..มีสัมผัสแค่   ๒  แห่ง  (  ปลายวรรคแรก..ไหล..)

....( ปลายวรรค ๒ ...ใจ....)  แค่นี้เอง  ส่วนคำว่า..ใน..วรรค๓ จะรับ

สัมผัสหรือไม่ก็ไม่ห้าม..(  จาก  กาพย์พระไชยสุริยา ) .......



#52 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:05

>>>>>>> กลายพันธุ์ <<<<<<<<

 

 

>>๑.. จากไพร่  อันธพาล............มาก่อการ  ทุรกรรม

.......ย่อยยับ  ระยำทำ................กะประเทศ  ประชาไทย

 

>>๒..จากไพร่  ผสมพัน-...........ธุ กระสันต์  สวาทใส

.......นั่งนับ  คะนึงใน.................มโนนึก  พิลึกแล

 

>>๓..ไพร่พัน-ธุ พาลเพิ่ม...........ก็ส่งเสริม  สร้างกระแส

.......จากไพร่  จะใจแปร............เป็นขี้ข้า  ชะน่าชม

 

>>๔..ทั่วทั้ง  ทำเนียบน้อย..........ก็นับร้อย  ระเริงสม

.......ขี้ข้า  คอยอาจม.................จากนักโทษ  ที่โฉดชน

 

>>๕..จากไพร่  กระหายโหย.......มากอบโกย  กันแข่งขน

.......แย่งอยาก  ดังยากจน..........มาพบทรัพย์  นับอนันต์

 

>>๖..ขี้ข้า  ก็กล้าหาญ............มิสะท้าน  สะเทือนขวัญ

.......เอาไง  ก็เอากัน..............ฤจะเกรง  ทุโทษกรณ์

 

>>๗..พันธุ์ไพร่  ที่เพี้ยนผ่า-........เหล่าขี้ข้า  ขี่กาสร

........ปั่นป่วน  กวนนาคร.............คะนองนำ  เข้าย่ำยี

>>๘..รากษส  กบฏราช............ทุรชาติ  ชะเผ่าผี

.......บงการ  ก่อกาลี.................อัปรีย์เปรต  เศษเดนคน......

 

 

 

>>>>>> ๒๖//๒//๕๖ <<<<<< ยานี ๑๑....

 

.............พระฤๅษี ...........



#53 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:21

อ้างถึง Reply ที่ 37, 40

 

1.jpg

2.jpg

3.jpg

4.jpg

5.jpg

6.jpg

7.jpg

 

22.jpg

21.jpg

 

 


Edited by kwan_kao, 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:24.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#54 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:28

8.jpg

 

9.jpg

 

10.jpg

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#55 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:43

ขอบคุณมาก  แม่ขวัญ   เพื่อน ๆ จะได้ดูกัน  ผมเองก็ไม่ค่อย

รู้จัก..เห็นเพื่อนบอกว่า  บางเหรียญ  ก็เข้าเฝ้ารับพระราชทาน

เช่นเหรียญ สมเด็จพระเทพฯ เป็นเหรียญติดอกเสื้อ  ส่วนใหญ่

ไม่รู้จัก  นอกจากอ่านตามในเหรียญ และใช้มือถือถ่าย  เรื่อง

พวกนี้ไม่ค่อย สันทัด มันก็ออกมาดีมั่ง  ไม่ดีมาก...ไม่เป็นไรนะ

จะกลับเฟซฯ  เลยแวะมาดู......เย็นแล้วไปล่ะ  อ้อ ..ถ้าเจอ ...

...ตะนิ่นตาญี..บอก ให้ บอกที่ส่งไว้ ( จอเล็ก ) จะส่งหนังสือให้..



#56 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:07

ขอบคุณมาก  แม่ขวัญ   เพื่อน ๆ จะได้ดูกัน  ผมเองก็ไม่ค่อย

รู้จัก..เห็นเพื่อนบอกว่า  บางเหรียญ  ก็เข้าเฝ้ารับพระราชทาน

เช่นเหรียญ สมเด็จพระเทพฯ เป็นเหรียญติดอกเสื้อ  ส่วนใหญ่

ไม่รู้จัก  นอกจากอ่านตามในเหรียญ และใช้มือถือถ่าย  เรื่อง

พวกนี้ไม่ค่อย สันทัด มันก็ออกมาดีมั่ง  ไม่ดีมาก...ไม่เป็นไรนะ

จะกลับเฟซฯ  เลยแวะมาดู......เย็นแล้วไปล่ะ  อ้อ ..ถ้าเจอ ...

...ตะนิ่นตาญี..บอก ให้ บอกที่ส่งไว้ ( จอเล็ก ) จะส่งหนังสือให้..

 

ขอบพระคุณ คุณพี่ฯ มากครับ ตะนิ่นตาญี พูดเล่นครับ คุณพี่ฯ พูดเล่นจริงจริงครับ

 

เพียงแค่อยากบอกว่า สำหรับ ตะนิ่นตาญี แล้ว "หนังสือ มีค่าที่สุด"

 

เหมือนดั่งที่ พี่ปุฯ ล้อ ตะนิ่นตาญี ไว้ว่า

 

โลภ "ของดี" นั่นแหละครับ...  :lol: 

 

ตะนิ่นตาญี ไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่นเลยครับ คุณพี่ฯ ครับ

 

อย่างไรก็ตาม ตะนิ่นตาญี ต้องขอขอบพระคุณ คุณพี่พระฤๅษี ที่กรุณาต่อ ตะนิ่นตาญี เป็นอย่างยิ่งครับ

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันพุธที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๑๗.๐๗ นาฬิกา


"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#57 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:17

คุณพระฤๅษี ค่ะ 

 

เศรษฐีใหม่มาเห็นเข้าคงตาลุกวาวเลยนะค่ะ

 

เสียดายนะค่ะ ที่ต้องปล่อยออกไป

 

--------------

 

ตอนแรกเคยสงสัยว่า

 

ทำไมมีธุรกิจที่รับซื้อกระเพาะปลาเก่า, เครื่องลายครามจีนเก่า

 

เค้าเอาไปทำอะไร

 

จนกระทั่งไปเจอบทความหนึ่ง

 

บอกว่า สมัยก่อนคนจีนลำบากมาก

 

ทุรกันดาร แห้งแล้ง อดอยาก

 

ต้องนั่งเรือไปตายเอาดาบหน้าที่ประเทศอื่น

 

มีการเอาเครื่องลายคราม,

 

กระเพาะปลาออกมาขายตาม

 

ตอนนี้ พวกเค้ามีเงินแล้ว

 

จึงเริ่มกลับมากว้านซื้อ เพื่อนำกลับไปประเทศจีนค่ะ


Edited by kwan_kao, 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:18.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#58 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

ตอบ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:51

ขอบคุณมาก  แม่ขวัญ   เพื่อน ๆ จะได้ดูกัน  ผมเองก็ไม่ค่อย

รู้จัก..เห็นเพื่อนบอกว่า  บางเหรียญ  ก็เข้าเฝ้ารับพระราชทาน

เช่นเหรียญ สมเด็จพระเทพฯ เป็นเหรียญติดอกเสื้อ  ส่วนใหญ่

ไม่รู้จัก  นอกจากอ่านตามในเหรียญ และใช้มือถือถ่าย  เรื่อง

พวกนี้ไม่ค่อย สันทัด มันก็ออกมาดีมั่ง  ไม่ดีมาก...ไม่เป็นไรนะ

จะกลับเฟซฯ  เลยแวะมาดู......เย็นแล้วไปล่ะ  อ้อ ..ถ้าเจอ ...

...ตะนิ่นตาญี..บอก ให้ บอกที่ส่งไว้ ( จอเล็ก ) จะส่งหนังสือให้..

ขอบคุณปู่ ที่เอาของดีๆมาให้ดู บางเหรียญคุณพ่อมี แต่เสียดายที่มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่ย้ายบ้านกันหลายครั้ง ทำให้สูญหายไปบ้าง คุณแม่จบ ป.4 แต่ท่านสะสมหนังสือไว้มากพอควร ส่วนมากเป็นพงศาวดารจีน เมื่อย้ายบ้านก็อุทิศให้กับห้องสมุดแห่งหนึ่งไป ผมยังไม่มีโอกาสกลับไปดู ไม่รู้ว่าจะยังคงมีเหลือไว้ให้อ่านไหม


ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#59 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:58

>>>>>>>> ไปเลือก  ฤๅ เลือกไป <<<<<<<

 

 

>> ๑..โมหันต์ มันให้ ใส่หัว.............มืดมัว ชั่วฝัง สังขาร์

........อุบาย ย้ายยัก กลืนนครา.........นิจจา บ้าใหญ่ ไม่เคยพอ

 

>>๒..เลือกดู  ดีดีหน่อย................คิดค่อยค่อย  คำนึงหนอ

.......เจ็บใจ  ***รอ....................ขี้ข้าสอง  มาครองเมือง

 

>>๓..หุ่นหนึ่ง นั่งชัก ยักย้าย...........ยักษ์ร้าย ระยำ ทำเรื่อง

.......โฉมฉ่ำ ช่ำชอง นองเนือง........สิ้นเปลือง เป็นบ้า กาลี

 

>>๔..หุ่นสอง  สิหอนหาว..............เอาเสียงฉาว  มาฉาบสี

.......เชิดชัก  หลักไม่มี...................มันหมายเหมา เข้าครอบงำ

 

>>๕..นักโทษฯ ถ่อยเถื่อน เบือนบิด......ปกปิด เป็นเล่ห์ เถลถลำ

.......โยงใย ใจชั่ว ตัวทำ......................ระยำ แยกญาติ ขาดทาง

 

>>๖..บ้านเมือง  มันมืดมิด.................ทุกชีวิต  ก็หมองหมาง

.......เห็นแสง  สุฯจางจาง..................จะจงใจ  ไปเลือกดู

 

>>๗..คบพาล มารต่ำ ทำร้าย...............ฉิบหาย วายหมด อดสู

.......วานด้วย ช่วยขจัด  ศัตรู................เชิญหมู่ นรชน  คนดีดี....

 

 

 

>>>>>>>>> พระฤๅษี<<<<<<<<<<

 

.........๒๘//๒//๕๖........กลอนสลับกาพย์.........



#60 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:10

>>>>>>ต้องขออภัยในกาพย์ยานี ๑๑ <<<<<

 

.....บทที่ ๒ วรรค ๓ ( ถูกแบนไป ๒ คำ )

 

.....ขอแทนดังนี้ครับ ( เจ็บใจ  อะไรรอ )......



#61 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:07

>>>>> ตัวอย่าง กลอน ๕.๖.๗.<<<<<

 

>>๑..เสียแก่ เสียเฒ่า เพราะเข้าซ่อง-........โจรจ้อง จับใจ พูดใส่หู

......กาฝาก ซากเปรต สังเกตุดู..............รู้รู ลู่ทาง  ทุกอย่างไป...( กลอน ๗)

 

>>๒..ขายเหง้า  เข้างำเงื่อน..........บิดเบือน  เลือนเหลวใหล

.......กัดกิน  กับเกียรติไกร.............ยากใย  ไม่ยืดยาว.....( กลอน ๕ )

 

>>๓..เสื่อมศักดิ์ เสียศรี ผีผัว.......ต่ำตัว ตกดิน สิ้นสาว

.......หมกไหม้ ไส้เอ็น เหม็นคาว.....แลราว รากษส หมดอาย..( กลอน ๖ )

 

 

 

 

>>>>>>>>>>> พระฤๅษี <<<<<<<<<<<

 

".............(กลอน ๕.๖.๗.).......๑//๓//๕๖.......



#62 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:14

>>วันนี้ มาคุยกันเรื่อง...บทกลอน..ที่ยังอยู่ และที่หายไป....

ทำไมกลอนจึงหายไป..ที่ว่าอยู่ ก็อยู่ ในหนังสือ  ในวรรณกรรม

ที่ว่าหาย..คือ  ไม่มีการนำมาแต่งใหม่  .............

.>> ทุกวันนี้  คนเขียนกลอน  ที่นำมาแต่งกันก็  มีแต่ กลอนแปด.

เป็นพื้น.และ  ( กาพย์ยานี ๑๑ ) ซึ่งได้กล่าวไว้แล้ว  ครั้งนี้จะพูด

เรื่องกลอน..ตั้งแต่  ( กลอน ๔.๕.๖.๗.๘.๙.) ตัวอย่างดูเหมือน-

จะมีอยู่หมดแล้ว.เรียนรู้เอาตามนั้น  ไม่ยาก............

>> เริ่มแต่  อยุธยาตอนปลาย....มีหนังสือกลอน อยู่เล่มหนึ่งที่ใช้

เป็นแบบอย่าง.มาจนทุกวันนี้  ( บางแห่งว่าของ หลวงศรีปรีชา.-

บางแห่งว่า..หลวงปรีชา..บางแห่งว่า หลวง เซ่ง..บางแห่งว่า-

หลวง ปรีชา เซ่ง ) ก็แล้วแต่ผู้ค้นคว้าจะ  เอาตามนามใด  บอกไว้หมด

เท่าที่ค้นพบมา.หนังสือ  ชื่อ ( ศิริวิบุลกิตติ์ )  เป็นกลอน.กลบท..ใคร

อยากรู้ให้มาก ไปห้องสมุดหาหนังสือนี้  ของท่านหลวงนี้  ไม่รู้ว่านาม

ใดแน่.แต่ค้นมาก็คล้ายๆกัน คงไม่ผิด.เราจะเรียกท่านว่า หลวงปรีชาเซ่ง.

ก็แล้วกัน.  ( ในหนังสือ  กลบท ศิริวิบุลกิตติ์ ) ของท่าน มี กลอนหลาย-

ชนิด กลบทหลากหลาย.. นอกจากจะพบกลอนต่างๆในหนังสือนี้แล้ว...

>>ก็ยังพบ  กลอนเหล่านี้ แต่งแทรกอยู่ตาม บทละคร ต่าง ๆ เช่น ......

บทละคร  สังข์ทอง. สำนวน ปลายอยุธยา.ก็พบ กลอน ๔ กลอน ๕ ......

แต่ไม่พบผู้ใดนำมาแต่งเป็นเรื่องยาว  จนมาถึงยุคสมัย รัชกาลที่ ๖.....

.....ก็พบว่าท่าน ( น.ม.ส.)  กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์...ได้นำกลอน ๖ มา

นิพนธ์เป็นเรื่องยาวชื่อ ( กนกนคร ) ใครสนใจก็หาอ่านเอา...

ต่อมา..กลอน ๗ ..ก็พบใน ศิริวิบุลกิตติ์..และแทรกตามบทละคร จน

กระทั่งท่าน ( น.ม.ส. ) นำมานิพนธ์ เป็นเรื่องยาว ชื่อ ( ลิลิตสามกรุง)

สนใจก็หาอ่านดูนะ...ตัวอย่างเรามีให้ดูแล้ว...แต่งเป็นอย่างเดียวก็เป็น

หมดทุกอย่าง เพียงแต่..เพิ่มคำ..ลดคำ..ตามลักษณะกลอนเท่านั้น

ส่วนสัมผัส.ก็คงที่.........สัมผัสใน ก็เล่นอักษรได้...............

>>>> สงสัยตรงไหน ก็คุยกันได้.....ใครมีรายละเอียดอะไรอีก เชิญนำ

มาเผยแพร่ได้..เป็น..วิทยาทาน..ให้คนรุ่นหลัง ได้ศึกษาเรียนรู้........

 

>>>>>> พระฤๅษี <<<<<<< ๔//๓//๕๖........... 



#63 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:59

สรุปว่า สิ่งที่หายไป คือสัมผัสนั่นเอง....


เข้าเซเว่นเลยน้า ถามหา เบบี้มายด์ !!!!

*สัมผัสที่นุ่มนวล คริคริ

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#64 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:03

กลอน ๖ ๗ ๕ ส่วนใหญ่ จะได้ยินในหนังจีน
เวลาเขาเปรยกลอน

นอกนั้น ไม่เห็นได้ใช้

ก็ไม่รู้ว่า ในหนังเจาแต่งเอง หรือ คนแปล(หนังสือ)เขาแต่งให้

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#65 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:24

ขอบคุณครับ  ที่มาเยี่ยมเยือน  พูดคุย ไม่เป็นไรครับ คลายเครียด

ถอยห่างจากการเมือง. คุณ  นามิ ฯ ก็เพื่อนสมาชิกคนหนึ่งใน สรท

ยินดีครับ. มีอะไรพอจะมา แนะนำ  คนรุ่นหลังได้ก็ยินดีครับ. มีการ-

เมืองก็ได้  แต่เป็นประเภท ( ยกทัพ  กลับหลัง  คืนลังกา ) นะครับ

ถ้าเป็น ( วรรณกรรม..คำประพันธ์..ทุกกระบวนบรรยาย ) เป็นฝีปาก

ผู้แต่งทั้งนั้น. ท่านเหล่านี้มี  ความสามารถสูงมาก  บรรยายได้ทุก-

กระบวนไม่ว่าจะเป็น ( เสาวรจนี..นารีปราโมทย์..พิโรธวาทัง..-----

สัลลาปังคพิสัย..) แต่ถ้าพูดถึง..ฉันทลักษณ์..แล้ว  ไทยเรามีแบบ

แผนที่ละเอียดละออมาก  ผมเองเขียนบทกวี  โดยมากก็จะยึด หลัก

ที่..หลวงธรรมาภิมณฑ์...ท่านได้ชำระไว้  แต่ครั้ง รัชกาลที่ ๕.๖. มี

บางครั้งผมก็เขียนกลอนแบบยุค ต้นกรุง..แต่เรื่อง ..สัมผัสใน...ผม

มันติดเป็นนิสัยแล้ว...ถ้าแต่งวรรคไหน สัมผัสไม่รับ..ไม่เรียบ.. ก็จะ-

วางมือ..บางครั้งก็ลืมทิ้งเลย....บทกลอนผมจึงไม่ยาวนัก..และมีไม่

มากนัก.  แต่ทุกสำนวน  จะยึดหลัก..ฉันทลักษณ์..ไม่สุกเอาเผากิน

.......ใน..สภากาแฟ คุณ นามิฯ จะเป็นใคร  เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ

แต่เมื่อคุณมาเยือนในนี้คุณคือมิตรที่ดีคนหนึ่ง  มีวรรณกรรมใด หรือ

บทกวีใดจะนำมา  เผยแพร่  ให้เป็นตัวอย่าง คนรุ่นหลัง  ผมจะยินดี-

มาก..เชิญครับ... 



#66 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:04

ผมเป็นคนที่ความจำแย่มากทางด้าน ฉันทลักษณ์
แต่มักใช้เซ้น หรือความเคยชินในการพร่ำพรรณา
เมื่อก่อนชอบครับ ชอบครูภาษาไทยท่านนึง
ท่านสอนภาษาไทยได้ช่ำชอง แม้ผมจะตามไม่ค่อยทัน
แต่คิดว่า เออ เยี่ยมเลย นี่แหละลูกศิษย์กรมพระของแท้
(ผมจบชิโนรสนะครับ :))

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเก่ง
แค่เห็นรูปหล่อท่านแล้ว ใจมันฮึกเหิม อยากจะเก่งเหมือนท่านน่ะฮะ ^^

แต่เดี๋ยวแต่งกลอนไใ่ค่อยไปละ ว่างๆ ปู่ฤๅษีเอง แหล่ ให้อ่านบ้างไรบ้างสิครับ
เผื่อจะเกิดอารมณ์คนธรรพ์กับเขาบ้าง

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#67 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:07

อ้อ ขอบคุณที่ยอมรับใน ตัวตนที่"ไม่มี"ตัวตนชัดเจน ของผมนะครับ

เรื่องกลอนจริงๆไม่ถนัด
ถนัดเย้นหยัน ยั่วล้อ มากกว่าขอรับ ;)

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#68 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:32

   เอาน่า คุณ นามิ ฯ      เด็ก ชิโนรส  กับ เด็ก วัดนวลฯ ก็แค่ ๆ

นั้นน่า..( เครียดนักมาพักที่นี่ )  ผ่อนคลายอารมณ์  ผมได้รับคำ

ร้องขอจาก..ผู้ที่เคารพ นับถือ.ท่านหนึ่ง ให้  เผยแพร่ บทกวี

ที่ถูกต้องตาม..ฉันทลักษณ์..ให้คนรุ่นหลัง  ผมก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้

ของแบบนี้มันต้องใจรัก. จะบังคับกันไม่ได้..แต่ละปีก็มีไม่กี่คน

ผมก็ไม่ได้กังวลอะไร. เท่าไรก็เท่านั้น. ในเฟซฯ ก็มีอยู่  เห็นที่จะ

ไปได้ก็มี..จาริยา ฯ   ผมเรียกแก.ยัยหุ่น..  แกเสียอย่างเดียวคือ

ใจร้อน...ถ้าแกใจเย็นลง. ( เอาคุณภาพ ) แกทำได้ดีทีเดียว.ใน

เสรีไทย..นี่ก็เห็น..วฤก ..  ที่เขียนบทกวีอยู่ในขั้น  แถวหน้า.....

.....วันนี้มี  ตัวอย่าง  ..กลอน ๕ ...มาลง  ๓ บท..  อันที่จริง ลงใน

ห้องกวีฯ แล้ว...แต่รวบรวมมา  ไว้ให้ผู้สนใจได้ศึกษากัน.........

 

==========================================

 

>>>>>> คำที่หายไป <<<<<<

 

 

>>๑..คำนั้น  อะไรหนอ.?.............อยากขอ  คืนได้ไหม .?

.......คำนั้น  คือ อัญไอ ................ไว้ใช้  ไพร่พวกพาล

 

>>๒..คำนั้น  เคยโดนนะ..............อักขระ  จ๊ะ ไม่หวาน

.......คำนั้น  มันประจาญ...............ให้มาร  มันจดจำ

 

>>๓..คำนั้น  ไม่ไพเราะ...............แต่เหมาะ  มากระหน่ำ

.......คำนั้น  นั่นแหละคำ...............ไว้ซ้ำ  ทรชน............

 

 

>>>>>>>> พระฤๅษี  <<<<<<<<

 

 

...........กลอน ๕ .....( ๕//๓//๕๖ ) ......... 



#69 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:07

คนฝั่งธนฯ เหมือนกัน

 

เด็กวัดอัปสรสวรรค์ค่ะ

 

 

(สมัย วัดอัปสรสวรรค์เป็นหญิงล้วน  ส่วนวัดนวลฯ เป็นชายล้วน, 

 

  เด็กวัดนวลฯ ชอบเกาะรั้วโรงเรียนวัดอัปสรฯ  

 

  คุณพระฤๅษีเคยไปเกาะรั้วบ้างหรือเปล่าค่ะ  :D )

 

 

คุณนามิค่ะ  เดิมบ้านคงไม่ได้อยู่ที่ซอยวัดสังข์กระจายนะค่ะ :P

 

 

ปล. คุณพระฤๅษี ตอนนี้ได้โควต้า like จาก 30/วัน เป็น 50/วัน แล้วค่ะ


Edited by kwan_kao, 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:10.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#70 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:12

อ่านเจอบทนี้มาค่ะ
 
 
อันอังคาร สังขาร ของกูนี้

ล่วงลับแล้ว สี่ร้อยปี หรือมิใช่

ถึงกายกู ตัวกู จะจากไป

วิญญาณไซร้ ยังแหนหวง ห่วงแผ่นดิน
 
แผ่นดินไทย ผืนนี้ ยังมีอยู่
 
เพราะกูกู้ สู้ไว้ เป็น ไทย ทั้งสิ้น
 
... ลูกหลาน เหลนโหลน ได้อยู่กิน
 
ครองไทยถิ่น สืบทอด ตลอดมา
 
วันกรุงศรี เคยคลุกคลี ด้วยสีเลือด
 
แผ่นดินเดือด เพราะชาติใกล้ ใจริษยา
 
มันยกพล โจมตี กี่ครั้งครา
 
ต้องถอยล่า แพ้เลือดไทย สู้ไหลริน
 
ถิ่นไทยนี้ ที่รัก และศักดิ์สิทธิ์
 
ผู้ใดคิด มุ่งร้าย มลายสิ้น
 
เพราะแรงใจ ไทยทั้งปวง หวงแผ่นดิน
 
ใครแรงสิ้น วิญญาณกู จะสู้เอง
 
ผศ.อนงค์ นาคสวัสดิ์
ประพันธ์ถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๑
 


Edited by kwan_kao, 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:13.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#71 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:28

ปู่จ๋า ... เราไม่เครียด .... ........ หรือเกลียด .... สิ่งการใด....

พึมพำ ...... มันเรื่อยไป ..... .... หาได้ ..... ขุ่นขัดเคือง ....  

รมณ์ดี ..... ไม่ดีบ้าง ...... ...... ก็ช่าง .... เดี๋ยวฉี่เหลือง     :D

ว่างว่าง .... มาชำเลือง ... ...... เปลืองคำ .... พร่ำบทกวี ....  ^_^

 

 

ไม่ใคร่ ..... อวดคำนัก ..... ฉันทลักษณ์ ..... ยังสับสน .... 

หากแต่ ..... ครู อดทน .... ย่ำบ่น... เดี๋ยวจำดี ..... 

 

เย่ เย่.. แต่งจนจบ  .... เขียนเขียน ลบหลายหน

บ่น บ่น ... มันส์ชอบกล .... ปน ปน  ... อารมณ์ดี 

:wub:

 

 

ปน ปน แปลว่ามั่ว อิอิอิ


ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#72 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:56

>> ดีใจครับ  ที่ได้อ่าน...กลอน ๕ ...ที่เฟซฯ ก็มีฝึกอยู่อีก ๒ คน

คุณนามิฯ เขียนได้ดี.  (ไม่ใช่ชมเพราะรักษาหน้า) ใครถูกใครผิด

ตรงไหนอย่างไร.. ผมจะพูดไปตามตรง..

>>กลอน ๕.. ก็คล้าย..กาพย์ยานี ๑๑.. เพียงแต่วรรคหลัง ตัดออก

๑.คำ  ให้เหลือวรรคละ ๕ คำ กลอนชนิดนี้  มีมาแต่ ปลายอยุธยา

แล้ว..ได้เขียนอธิบายไว้แล้ว......

>>คุณนามิฯ เขียนได้ถูกต้องจริงๆ  แม้แต่.เสียงปลายวรรคก็ใช้ได้

ถูกต้อง ( คำเกิน ก็เป็นคำที่ ไม่ประวิสรรชนีย์ ) เข้าใจใช้คำด้วย

ผมดู..กระบวนบรรยาย..แล้ว เหนือกว่า คนที่ดังๆหลายคน..เรื่อง

สัมผัส..ก็มีทั้ง สัมผัสอักษร...สัมผัสสระ..( มั่วที่ไม่มั่ว) ........



#73 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 11:04

>> ดีใจครับ  ที่ได้อ่าน...กลอน ๕ ...ที่เฟซฯ ก็มีฝึกอยู่อีก ๒ คน

คุณนามิฯ เขียนได้ดี.  (ไม่ใช่ชมเพราะรักษาหน้า) ใครถูกใครผิด

ตรงไหนอย่างไร.. ผมจะพูดไปตามตรง..

>>กลอน ๕.. ก็คล้าย..กาพย์ยานี ๑๑.. เพียงแต่วรรคหลัง ตัดออก

๑.คำ  ให้เหลือวรรคละ ๕ คำ กลอนชนิดนี้  มีมาแต่ ปลายอยุธยา

แล้ว..ได้เขียนอธิบายไว้แล้ว......

>>คุณนามิฯ เขียนได้ถูกต้องจริงๆ  แม้แต่.เสียงปลายวรรคก็ใช้ได้

ถูกต้อง ( คำเกิน ก็เป็นคำที่ ไม่ประวิสรรชนีย์ ) เข้าใจใช้คำด้วย

ผมดู..กระบวนบรรยาย..แล้ว เหนือกว่า คนที่ดังๆหลายคน..เรื่อง

สัมผัส..ก็มีทั้ง สัมผัสอักษร...สัมผัสสระ..( มั่วที่ไม่มั่ว) ........

 

ปู่ครับ .....................จะไปต่างจังหวัดสักพัก ออกเดินทางประมาณตอนบ่าย ที่ๆไปไม่มีเน็ต  ไม่มีสัญญานอะไรเลย  สบายใจจากเลือกผู้ว่าแล้ว ถือโอกาสไปพักผ่อน เลยเข้ามาลาครับ  :wub:  :wub: 


ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#74 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 11:50

ปลื้มคร้าบบบบบบบบบบบบบ :):):):)

ปลื้มสุดโต่ง มือสั่น แต่งกลอนไม่ไหว หุหุ

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#75 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:13

อาจารย์  อนงค์  นาคสวัสดิ์   คงจะเป็น  ลูกหลาน  ดร. อุทิศ  นาคสวัสดิ์

ผู้เชี่ยวชาญ  ( ดนตรีไทย) อีกท่านหนึ่งที่ ไปสวรรค์แล้ว.. ดร. อุทิศ  ท่าน

เป็นศิษย์   ..หลวงประดิษย์ไพเราะ ( ศร ศิลปบรรเลง ) 

>>บทกลอนของ อ.อนงค์ อยู่ในประเภท ..กลอนปลุกใจ..แม้ฉันทลักษณ์

จะไม่สมบูรณ์นัก..แต่ท่านก็จัดลง..เสียงปลายวรรค..ได้ไม่ผิด.

>> สาว.วัดอัปสรสวรรค์..สวยนักรึไง.?ฉันไม่เคยไปโหนดูให้เมื่อยหรอก

แต่เพื่อนมันเคยไป.  ตอนเด็ก ยังไม่ค่อยรู้เรื่องไรหรอก. หนีเรียน ซน-

ไปวันๆ ไปถูกเด็ก วัดสิงห์ฯ ไล่เตะ ก็เคย..เออ..อย่าเล่าเลย ความหลัง-

เสียเวลา  วันนี้ว่าจะมาลง...แนะนำเรื่อง การใช้เสียง ปลายวรรค.......

 

================================================

 

>> การใช้เสียง.ปลายวรรค.นั้น  เห็นใช้กัน ผิดๆ อยู่มาก บางทีก็ใช้-

เสียงที่ไม่นิยม...ซึ่ง..ไม่ผิด.. แต่ไม่นิยม...เรื่องนี้เคยคุยกัน  หลายคน

หลายครั้ง.ก็มีบางคนที่ยอมกลับเข้าสู่แบบแผน..แต่บางคน ( อัตตา )

สูง  หรืออาจจะคิดว่าเขาดังแล้ว..แต่ผมคิดว่า ( ดังแบบทำลาย)

ไม่ได้ถือว่า ( คนรักวรรณกรรมไทย)  ควรจะดังขึ้นมาแบบสร้างสรร

ดำรงไว้ซึ่งสิ่งที่ถูกต้อง..คนอ่านส่วนใหญ่ เขาไม่รู้เรื่อง (.ฉันทลักษณ์)

เหมือนคนนั่งหน้าเวที.ม็อบ.จะมีกี่คน ที่รู้เรื่อง..ประชาธิปไตย.........

>>คนดัง...ถือเป็นตัวอย่างของคนรุ่นหลัง.ถ้าเผยแพร่สิ่งผิดๆ .........

คนรุ่นหลังก็จะจำเอาสิ่งผิด ๆ ไป..แล้ว..กาลเวลา..ย่อมทำลายทุกสิ่ง..

แล้วความถูกต้องก็จะถูกคนจำพวกนี้  ทำลายไป. เหมือนการบังคับ-

ใช้กฏหมาย..ในเวลานี้..เหมือนตำรวจในเวลนี้. เหมือนนักการเมือง-

ในเวลานี้...( เอ๊ะ..!! ตาแก่นี่ พูดมาก เมื่อไรจะลงเสียงซ๊ะที ) เอาจ้ะ

>>>>>ว่าด้วยเสียงปลายวรรค...กลอน ๑ บท  มี ๔ วรรค  แต่ละวรรค

จะกำหนดเสียงปลายวรรคไว้  เพื่อความไพเราะของคำกลอน.....จะ

เอา  วรรณยุกต์..หรือคำตาย..( แทนเสียงเอก ในการแต่งโคลง) ก็ควร

ดูความเหมาะสม  .จะพูดถึงกลอน..เพราะว่า ร้อยกรองชนิดอื่น ไม่ได้

กำหนดไว้...เสียงปลายวรรค  ในกลอน  ๑ บท ๔ วรรค....ดังนี้

 

>> วรรคที่ ๑ ( เอก.โท.จัตวา....ไม่นิยมใช้เสียง สามัญ.ตรี  .)

 

>> วรรคที่ ๒ ( นิยมใช้เสียง. จัตวา....ห้ามใช้เสียง สามัญ.ตรี.)

 

>> วรรคที่ ๓ ( ห้ามใช้เสียง  เอก.โท.จัตวา....ให้ใช้เสียง สามัญ.ตรี.)

 

>> วรรคที่ ๔ ( ห้าม ฯ  เอก.โท.จัตวา.....ให้ใช้เสียง. สามัญ.ตรี...)

 

>>>> ใครที่สนใจการแต่งกลอน  ขอความกรุณา  เรียนรู้ สิ่งที่-

ถูกต้อง. ขอเตือนว่า ( คนดังบางคน  ..ยึดติด อัตตา...สูง) ขอให้ใช้

ปัญญาเหมือน ( พระสารีบุตร  อัครสาวก  ฝ่ายขวา )  วันนี้ขอเท่านี้

============================================ 



#76 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:32


อ่านอ่านไปแทบอึ้ง
ส่วนใหญ่ผมจำเป็นทำนองเพลง
(อาศัยชอบอ่านกลอนแบบออกเสียง และครูอ่านเพราะเลยจดจำห้วงทำนองได้)
ซึ่งไม่ได้จำว่าต้องผันเสียงที่วรรณยุกต์ไหน
แต่พอเทียบเสียงแล้ว ตรงตามที่ปู่เขียนมาให้อ่านเป๊ะๆเลยครับ

อืมมม มวยแชมป์ กับมวยวัดต่างกันตรงนี้ :)

ถึงว่า การอ่าน(ออกเสียง) เป็นการสร้างความเข้าใจได้ในระดับนึงนะคับ
แต่ต้องอ่านให้ถูกต้อง แบบมีครู
จำได้ว่า สมัยนั้น ม.ปลายแล้ว เด็กๆ จะอายที่ต้องอ่านแบบเอื้อย
มันจั๊กจี้ (แต่ผมชอบ)

Edited by นามิ ผู้พ่ายแพ้, 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:33.

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#77 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:16

บทท่อง อาขยาน..ไม่ทราบเหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า??

สมัยเรียนประถม..เราอยู่เด็กเล็ก  ได้ยิน ป.๒.๓.๔.เขาท่องตอนเย็น

แล้วก็ท่อง สูตรคูณ..เราก็ชอบฟัง ฟังไม่กี่ครั้งก็จำได้..

....เมื่อนั้น.....................ท้าวสามน สรวญสรร ไม่ผันผาย

เห็นนาง มณฑา ว่าวุ่นวาย..........จึงซังตาย  ดำเนิน  เดินมา

 

...เข้าไป ในทัพ เห็นลูกเขย............พ่อเจ้า  ลูกเอ๋ย งามนักหนา

น้อยหรือ รูปร่าง เหมือนเทวดา...........หน้าตา จิ้มลิ้ม  พริ้มเพรา...ฯลฯ

 

 

>>> บทละครเรื่อง  สังข์ทอง <<<  แต่จำไม่ได้นะ ว่า ป.๓ หรือ ป.๔

เขาท่องกันตอนเย็นก่อนเลิกเรียน.  มา..ถึง ม.ศ (  หลักสูตรเก่า).เขาก็

ท่อง ( บัดเดี๋ยวดัง หง่างเหง่ง วังเวงแว่ว.........

........สะดุ้งแล้ว เหลียวแล ชะแง้หา................

........เห็นโยคี ขี่รุ้ง  พุ่งลงมา...................

........ประคองพา ขึ้นไป  บนบรรพต.........ฯลฯ

 

ท่านครูแต่ก่อนก็ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้  เด็กสนใจอะไร  ท่านก็จะสอนให้

ผมยอมรับว่า  ..เรียงความ..เขียนไทย..ผมแย่  ท่านครูดุประจำ บอกว่า

ผมเขียนวกไปวนมา  พูดเหมือนแม่ค้า  ตลาดวัดกลาง...( ตลาดวัด-

กลาง ผมเคยวิ่งไปซื้อ หมากพลู.ให้ป้า...แล้วท่านครูเห็นผมสนใจ

บทกลอนก็ให้ท่องให้ฟัง.  ผมท่องได้แจ๋วเลย  แถมเขียนให้ท่านครูด้วย

จากนั้นมา  ท่านครูก็  สอนให้ผมแต่ง  ..กาพย์ยานี ๑๑...ตอนนั้น คิดว่า

อายุยังไม่10 ขวบแน่นอน  จำได้ว่า แต่งเป็น ยังไม่ได้อยู่ ป.๒ เลย....

>>>>คุยแค่นี้ก่อน....ไว้ว่างๆ ค่อยคุยกัน. อากาศเริ่มร้อนอีกแล้ว........



#78 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:43

ฝากถามคุณพระฤาษีหน่อยครับ ผมทำหนังสือบทกวีของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรหาย จำได้ว่าประทับใจอยู่สองบท บทแรกหาในเนตเจอครับ รู้สึกจะเป็นกาพย์เห่เรือ

 

งามทรงวงดังวาด                        งามมารยาทนาดกรกราย
 งามพริ้มยิ้มแย้มพราย                  งามคำหวานลานใจถวิล  

 

อีกอันที่ชอบพอๆกัน กลับหาไม่เจอ ??

พิศรูป ก็น่ารัก     พิศพักตร์ก็น่าชม

    อ้อนแอ้นอรเอวกลม    ชมขวัญน้องต้องตาชาย

 

สองบทนี้แค่แป๊บเดียวก็จำได้เลย เรื่องหลักฉันทลักษณ์ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเลยครับนอกจากพวกกลอนแปดหรือโคลงสี่สุภาพ ที่ชอบสองบทนี้เพราะรู้สึกได้ว่ามันสวยเหลือเกิน


หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#79 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:55

แถมให้อีกอย่างนะครับคุณพระฤาษี เพลงสมัยนี้ที่แต่งแบบมีสัมผัสก็มีนะครับ แต่ที่นึกออกจริงๆนั้นมีแค่เพลงเดียวครับ ( 55555 ) พอจะไหวมั้ยครับเพลงนี้ หลายคนรู้จักและชอบด้วยนะครับ

 

เพลงก้อนหินละเมอ ศิลปิน Soul after six

 

มองไปไกลที่ดวงดาวสุดขอบฟ้าไกล
อยากจะไปไปให้ถึงครึ่งทางแสงเธอ
ดวงดาราเหมือนไม่มีวันจะพบเจอ
อยากให้เธอส่องแสงลงบนพื้นดิน

มองจันทราเมื่อเวลามันกลบแสงดาว
กลัวทุกคราวเพราะว่าฉันนั้นคือก้อนหิน
กลัวดวงดาวไม่ทอแสงลงกระทบดิน
และก้อนหินอย่างฉันคงไม่สวยงาม

อยากให้ดาวดวงนั้นรู้ว่า
เมื่อดาราส่องแสงฉันดูสดใส
อยากให้ดาวดวงนั้นเข้าใจ
ขาดเธอไปตัวฉันคงหมดสิ้นกัน

อยากให้ความทรงจำ ที่เธอให้ไว้
ช่วยทอแสงประกายทุกวัน
เพราะเพียงแค่ความอบอุ่นจากเธอไม่นาน
จะต่อเติมความสำคัญฉันได้

 

 

เป็นกลอนแปดสามบท มีบทสุดท้ายที่ไม่ได้เป็นกลอน แต่ก็เพราะดีนะครับ( ในความรู้สึกผมนะ )


Edited by Gop, 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:31.

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#80 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:05

สังข์ทอง  ท่องบทนี้

 

 

ชิ้นหนึ่งทรงครรภ์กัลยา .................  คลอดลูก ออกมา เป็นหอยสังข์


ชิ้นสองต้องขับเคี่ยวเซซัง ...............อุ้มลูกมายังพนาลัย
 

ชิ้นสามอยู่ด้วยยายตา .................... ลูกยาออกช่วยขับไก่
 

ชิ้นสี่กัลยามาแต่ไพร ....................   ทุบสังข์ป่นไปกับนอกชาน
 

ชิ้นห้าบิตุรงค์ทรงศักดิ์ ................     ให้รับตัวลูกรักมาจากบ้าน
 

ชิ้นหกจองจำทำประจาน .............     ให้ประหารฆ่าฟันไม่บรรลัย
 

ชิ้นเจ็ดเพชฌฆาตเอาลูกยา ...........   ไปถ่วงลงคงคาน้ำไหล
 

เป็นเจ็ดชิ้นสิ้นเรื่องอรทัย ..............    ใครใครไม่ทันจะสงกา.


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#81 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:08

แล้วก็ท่อง

 

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒)

 

 

 

มัสมั่นแกงแก้วตา                    หอมยี่หร่ารสร้อนแรง

 

ชายใดได้กลืนแกง                  แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา

 

 

ยำใหญ่ใส่สารพัด                   วางจานจัดหลายเหลือตรา

 

รสดีด้วยน้ำปลา                      ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ

 

 

ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม            เจือน้ำสมโรยพริกไทย

 

โอชาจะหาไหน                      ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง

 

 

หมูแนมแหลมเลิศรส               พร้อมพริกสดใบทองหลาง

 

พิศห่อเห็นรางชาง                  ห่างหอหวนป่วยใจโหย

 

 

ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น                  วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย

 

รสทิพย์หยิบมาโปรย               ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ

 

 

เทโพพื้นเนื้อท้อง                   เป็นมันย่องล่องลอยมัน

 

น่าซดรสครามครัน                  ของสวรรค์เสวยรมย์

 

 

ความรักยักเปลี่ยนท่า              ทำน้ำยาอย่างแกงขม

 

กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม        ชมไม่วายคลับคล้ายเห็น

 

 

ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ               รสพิเศษใส่ลูกเอ็น

 

ใครหุงปรุงไม่เป็น                    เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ

 

 

เหลือรู้หมูป่าต้ม                      แกงคั่วส้มใส่ระกำ

 

รอยแจ้งแห่งความขำ              ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม

 

 

ช้าช้าพล่าเนื้อสด                    ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม

 

คิดความยามถนอม                 สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์

 

 

ล่าเตียงคิดเตียงน้อง               นอนเตียงทองทำเมืองบน

 

ลดหลั่นชั้นชอบกล                  ยลอยากนิทรคิดแนบนอน

 

 

เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า              รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน

 

เจ็บไกลใจอาวรณ์                   ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง

 

 

รังนกนึ่งน่าซด                        โอชารสกว่าทั้งปวง

 

นกพรากจากรังรวง                  เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน

 

 

ไตปลาเสแสร้งว่า                    ดุจวาจากระบิดกระบวน

 

ใบโศกบอกโศรกครวญ           ให้พี่เศร้าเจ้าดวงใจ

 

 

ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง            เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน

 

ผักหวานซ่านทรวงใน             ใคร่ครวญรักผักหวานนางฯ

 

 

 

ถ้าเป็นเย็นวันศุกร์

นักเรียนทุกห้องต้องยืนหน้าห้อง

ท่องบทสวดมนต์ ทำนองสรภัญญะ


Edited by kwan_kao, 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:16.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#82 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:34

พระเจ้าตา   นางสุวรรณมาลีหึงหน้าป้อม  อันนี้ใช่ไหมค่ะ

 

นางวัณฬาว่าเหม่มเหษี                         ขึ้นอ้ายอีออกทะเลาะล้วนเหมาะเหมง

เพราะปากกล้าว่าผัวมิกลัวเกรง              จึงเท้งเต้งต้องอดเหมือนมดตนอย

ชะชะเชือดเลือดเนื้อเถือกระดูก              อย่าดูถูกชาวลังกาไม่ล่าถอย

สักหน่อยหนึ่งก็จะพาเลือดตาย้อย           กูก็คอยจะใคร่เชือดเอาเลือดเนื้อ

ไปเส้นศพอุศเรนกับปิตุเรศ                     ใครต้นเหตุอยู่ที่ไหนมิให้เหลือ

ชะลูกสาวเจ้าผลึกทึมทึกเทื้อ                  มิเต็มเรื้อหรือจึงข้ามมาตามทวง

ประทานโทษโปรดปรานเถิดผ่านเกล้า      ช่วยคลึงเคล้าคลอเคลียเหมือนเสียขวง

ได้ดับทุกข์ยุคเข็ญให้เย็นทรวง                อย่าให้ง่วงงุ่นง่านทยานทเยอ ฯ

 

 

นางโฉมยงทรงฟังยิ่งคั่งแค้น                  มันตอบแทนทับทวีตีเสมอ

เพราะผ่านเกล้าเข้าด้วยพลอยอวยเออ    ได้ท้ายเธอปรักปรำยิ่งซ้ำเติม

กรรแสงทางพลางว่าอีฝาหรั่ง                 มันขึ้นซังสมนึกทำฮึกเหิม

อันข้อพ่อพี่ชายตายแต่เดิม                    ว่ากูเริ่มเหตุผลแต่ต้นมือ

แค้นแต่กูภูวไนยมึงไม่แค้น                    เธอทดแทนถึงที่กลับดีหรือ

อีแสนกลคนเขาออกเล่าลือ                   ไม่พ้นมือกูดอกวะอีลเวง

แล้วโศกาว่าพระทูลกระหม่อมแก้ว         ไม่เลี้ยงแล้วให้เมียน้อยคอยข่มเหง

เพราะให้ท้ายหมายได้จึงไม่เกรง            อีลเวงมันจองหองกับน้องนัก

มิเมตตาฆ่าเมียเสียให้ม้วย                     แต่อย่าช่วยเสริมซ้ำมาปรำปรัก

เสียแรงน้องรองบาทาสาพิภักดิ์              พระเหมือนหลักโลกเที่ยงอย่าเอียงเอน ฯ


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#83 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 21:20

ชายใด ไม่เที่ยว เที่ยวไป......... ทุกแคว้น แดนไพร 

ไม่อาจะประสบ พบสุข 

ชายใด อยู่เหย้า เนาทุกข์........ ไม่ด้นซนซุก 

ก็ชื่อว่าชั่ว มัวเมา.....

 

เมื่อนั้น..................................... ได้แต้ม ดาวแดง ช่างหวั่นไหว.. 

อันตัวข้า เห็นที จักต้องไป ............ ให้พ้น แดนตะไล ไม่น่าเยือน 

แรกเริ่ม เดิมที ไม่เหนื่อยล้า .......... ต่อกร บาทา ไม่อาสัญ..

ใครบ้า กรูก็บ้า จักเอามันส์ ............ ฟาดฟัน กันไป ให้ชิงดี

ประหนึ่ง เหมือนว่าใคร ช่างอาฆาต... คิดจะบาด เฉือนกัน ให้ฉิบหาย

จนกว่า ชีวา จะวาตย์วาย ............... มิงมิตาย กรูตาย ใครจักยอม

จึงขอลา หลวงปู่ เอาดาบหน้า ........ จักขอเผ่น โลกหล้า ไม่อาศัย

หากโลกนี้ โลกหน้า ยังอาลัย  ........ โปรดขอได้ เจอะกัน ปันปัญญา 

 

 

ธรณี นี่นี้ ....................เป็นพยาน 

เราก็ศิษย์ มีอาจราย์ .....หนึ่งบ้าง 

เราผิดท่านประหาร .......เราชอบ 

เราบ่ผิด ท่านประหาร ..ดาบนั้น คืนสนอง.. 

 

 

(ช่วงส่งการบ้าน) 

 กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘

เบื่อลิ้นสิ้นดี .... ที่นี่ มีคน .... ฉ้อฉลกลให้

กล่าวว่า หาความ... สำราญสราญใจ ...  ไล่เราเข้าได้..  คงตายหลับตา 

 

 

มันยากมากกกกกก แต่งอยู่ครึ่ง ชม. กว่าจะตรวจทาน ฉันทลักษณ์ได้ แต่คงไม่ครบถ้วนอยู่ดี

ไว้มีเวลา จะมาส่งการบ้านใหม่เด้อปู่ 

^^ 


Edited by นามิ ผู้พ่ายแพ้, 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 21:21.

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#84 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:41

ม้าก้านกล้วย

ไพวรินทร์ ขาวงาม

กวีนิพนธ์รางวัลซีไรต์ปี ๒๕๓๘

 

 

กลับบ้านกันเถิดเพื่อนรัก
ย้อนเยี่ยมอาณาจักรความหลัง

ชักม้าชวนม้าออกกำลัง

บ่ายหน้าบ่ายหวังออกจากเมือง

 

เมืองนี้อยู่นานแล้วเหน็ดเหนื่อย

เหน็บหนาวหนืดเนือยจนหน้าเหลือง

ควบม้าเพื่อนยากย่างเยื้อง

ผ่านทุ่งมุ่งเบื้องบูรพา

.............................

 

กราบพ่อขอโทษที่ลูกแพ้

กราบแม่ขอพรรำพึงแผ่ว

พ่อยิ้มแม่แย้มอยู่นั่นแล้ว

ปลอบว่า – ลูกแก้วอย่ากังวล

 

กินข้าวกินปลาเสียก่อนเถิด

แนบกายบ้านเกิดอีกสักหน

หายเหนื่อยพรุ่งนี้ไม่จำนน

อีกครั้งเริ่มต้นจะเป็นไร

 

น้ำตาข้าริมจะรินร่วง

สุขซึ้งถึงสรวงสวรรค์ได้

โลกยิ้มยินดีกับหัวใจ

รับขวัญวันใหม่ให้ม้าจร


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#85 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:57

ชายใด ไม่เที่ยว เที่ยวไป......... ทุกแคว้น แดนไพร 

ไม่อาจะประสบ พบสุข 

ชายใด อยู่เหย้า เนาทุกข์........ ไม่ด้นซนซุก 

ก็ชื่อว่าชั่ว มัวเมา.....

 

เมื่อนั้น..................................... ได้แต้ม ดาวแดง ช่างหวั่นไหว.. 

อันตัวข้า เห็นที จักต้องไป ............ ให้พ้น แดนตะไล ไม่น่าเยือน 

แรกเริ่ม เดิมที ไม่เหนื่อยล้า .......... ต่อกร บาทา ไม่อาสัญ..

ใครบ้า กรูก็บ้า จักเอามันส์ ............ ฟาดฟัน กันไป ให้ชิงดี

ประหนึ่ง เหมือนว่าใคร ช่างอาฆาต... คิดจะบาด เฉือนกัน ให้ฉิบหาย

จนกว่า ชีวา จะวาตย์วาย ............... มิงมิตาย กรูตาย ใครจักยอม

จึงขอลา หลวงปู่ เอาดาบหน้า ........ จักขอเผ่น โลกหล้า ไม่อาศัย

หากโลกนี้ โลกหน้า ยังอาลัย  ........ โปรดขอได้ เจอะกัน ปันปัญญา 

 

 

ธรณี นี่นี้ ....................เป็นพยาน 

เราก็ศิษย์ มีอาจราย์ .....หนึ่งบ้าง 

เราผิดท่านประหาร .......เราชอบ 

เราบ่ผิด ท่านประหาร ..ดาบนั้น คืนสนอง.. 

 

อ้าวอย่าเพิ่งไปสิครับ หาที่ผิดให้เจอก่อน


หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#86 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:49

ไม่ยากหรอกครับ คุณ Gop   กาพย์ เห่เรือ ..กาพย์ ห่อโคลง..

ใช้..กาพย์ยานี ๑๑ ..ทั้งนั้น.ท่านครูจึงสอน กาพย์ยานี ๑๑  ให้

ผมก่อนไงครับ  ท่านบอกว่า  แต่ง..ยานี ๑๑ ..เป็น..จะแต่ง--

กาพย์ห่อโคลงเป็น  ( เพราะ ขึ้น ..เกริ่น..โคลง.แล้วต่อด้วย-

กาพย์ยานี ๑๑  เดินเรื่อง.) กาพย์เห่เรือก็..เกริ่น.โคลง แล้วต่อ

กาพย์ยานี ๑๑.เดินเรื่อง..เหมือนกัน..จะเห่ชมอะไรก็ตาม ที่ผู้

แต่งจะ  ว่าไป.. ก็มีมาแต่  ยุคอยุธยา  นั่นแหละ..( ๗๘ )

===========================================

>> ( ๗๙ )   เรื่องเพลง มีครับ  ใน  (หลักภาษาไทย) ก็มีบอกไว้

...กลอนเพลง..เป็นกลอนอีกชนิดหนึ่ง..ที่ สามารถ ใช้คำ สั้น-ยาว

..สัมผัสกันได้.( ไว้--วาย ) ( เป็น คำ ครุ  เหมือนกัน ) แต่ เป็นคำ-

..( โฆษะ- วาย)( อโฆษะ-ไว้)  กลอนเพลง ๑วรรคไม่จำกัดคำ  แต่

..โบราณ  ก็นิยม  ( ๑ วรรค ไม่เกิน ๑๐ คำ ) ไม่ยากครับ กลอนเพลง

..ขอละไว้  ไม่กล่าวถึง.  เพราะเพลงแต่งง่าย...

>> ปฏิภาณกวี..ยังยากกว่า....เช่น พวก..กลอนหัวด้วน. ตลุ่มโปง.

.เพลงพื้นบ้านต่างๆ.ลิเก..ลำตัด..เพลงฉ่อย.เพลงเรือ.เพลงเกี่ยวข้าว.

.เพลงแม่ศรี.ฯลฯ..เพลงพื้นบ้านเหล่านี้ยังมีสัมผัส...โดยมากจะลง-

.ที่เรียกว่า...กลอนหัวด้วน.......ตัวอย่าง...

 

>>>>  ร้องไปเถิด  เกี้ยวไปเถอะ.......ระวังจะเจอะ  บาทา

....ไม่กลัว พี่ไม่เคยกลัว.........พี่มีติดตัว  นี่ หลวงพ่อชา

....โดนเท่าไรก็ไม่เคยหวั่น.......ความรักมันอั้น  อยู่ในอุรา
....ฯลฯ แต่งไปร้องไป แต่พอลงท้ายต้องลงสระอา=====

>>>> สัมผัสในวรรค แห่งเดียว  ( เถอะ-เจอะ) ( กลัว-ตัว)  

..ไม่ยาก....( เล่นกลอนลา.ก็ลงลา  ทุกวรรค  เล่นกลอน ไร-

..ก็ลง ไร..ทุกวรรค .....จำได้นะ......
 



#87 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:14

ขวัญ ข้าว ( 80.81.82.84.) สังข์ทอง  ตอนนี้ เรียกว่าตอน

( สลักชิ้นฟัก) คือสลักเล่าเรื่อง ตั้งแต่  ท้องนะ แต่ก็ยังดีนะ

แสดงถึงความละเอียดอ่อน  ช่างสังเกตุ........

....ถ้าเป็น แม่ขวัญ  กินหมดแล้ว  ถาม ก็หร่อยดี   ใครต้ม

ต้มกะโคลงไก่  รึเปล่า .?? ๕๕๕๕...

..ให้สังเกตุ สำนวนกลอน  ( เป็นกลอนบทละคร ) เป็นกลอน-

อีกแบบหนึ่ง..ในยุค รัชกาลที่  ๑-๒  จะมีกลอนบทละครมาก

หลายเรื่อง  โดยฉะเพาะ  รัชกาลที่ ๒ .มีทั้ง ละครนอก   และ

ละครใน.  พระราชนิพนธ์ ใน รัชกาลที่ ๒  ก็มีอยู่มาก..  ใน ๑-

วรรค  จะมีตั้งแต่  ๕-๖-๗-๘  คำ   และสัมผัสในแต่ละวรรค

ก็มิได้มีหลักตายตัว  จะสัมผัส  อักษรหรือ สัมผัสสระ ก็ตาม

เนื้อร้อง  ใช้ทำนองเป็นตัวบังคับ.  เพราะกลอนบทละคร  นั้น

ใส่ทำนอง เพลงไทยเดิม..เช่น...(  ถอนสมอ   เถา )

 

 

 



#88 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:28

>>>>เพลง  ถอนสมอ  เถา  ข้างบน  น่าจะเรื่อง  พระอภัยมณี ..

เพลงนี้ ( แขกขาว  ที่ ดร. ดุษฏี  ร้อง  น่าจะเรื่อง  อิเหนา )

 



#89 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:22

นี่แหละ  การแต่งใยุคนั้น  จึงไม่ถือ  สัมผัสในตายตัว เพราะจะ

ไม่เข้าทำนองร้อง. กาลต่อมา  ก็ท่านสุนทรภู่  นี่แหละ  ที่ใช้-

สัมผัสใน เพิ่มความไพเราะให้บทกลอน..เป็นตัวอย่างมาจน

สุนทรภู่   ไปสวรรค์ ในรัชกาลที่ ๔    ต่อมา  รัชกาลที่ ๕-๖

ก็ได้..( หลวงธรรมาภิมณฑ์ ) เก็บรวบรวมชำระ วางแบบแผน

เป็นมาตรฐานใช้ต่อมาถึง ปัจจุบัน...........

 

========================================

 

>>( ๘๑)  กาพย์  ชมเครื่อง  คาว-หวาน  ก็กาพย์ยานี ๑๑  ..

คงไม่ต้องกล่าวถึง  เพราะ  กาพย์ยานี ๑๑  กล่าวบ่อยแล้ว

>>(๘๒)  บท หึงหน้าป้อม....เป็นไง ??  ผู้หญิง ๒ คน ด่ากัน

จน ( แม้แต่  เสรีไทย ยัง แบนคำ )  ก็ฝีปาก ท่านสุนทรภู่  เท่า

นั้น.อยากจะชี้ให้เห็นว่า  ( คนเขียนกลอนยุคนี้ ) ที่ชอบอ้างว่า

กลัวจะเสีย เนื้อหาสาระ  มันจนในอักขรวิธี...มากกว่า สุนทรภู่

ท่านใช้คำ  สารพัด...เข้าสัมผัสเรียงร้อย...ทุกกระบวนบรรยาย

เรียบรื่น.  ไม่ติดขัด. พอ ลมเพ็ชรหึง.มันขึ้นหน้า  ก็ลืมหมด  ว่า

ตนเป็นลูกเจ้าเมือง  ( นี่แหละ โทษของ โทษะ ) แล้วเคยบอก

ว่า ( ใครด่ากัน)  ก็ท่านสุนทรภู่   ด่าเองทั้งนั้น..

>>>ฉะนั้น  ต่อไป ถ้าไปเจอคนแต่งกลอนมั่วๆ  แม้จะดัง  ก็รู้ไว้

เถอะว่า  เขาเผยแพร่   บทกลอน  ในแง่...ทำลายฉันทลักษณ์...

 

=========================================

 

 >>( ๘๔ )    ลักษณะกลอน   ยุคต้นกรุง....เล่นสัมผัสใน เป็น

อักษรสัมพันธ์.. ใช้คำวรรคละ ๖-๗-๘  คำ  แต่เสียงปลายวรรค

ของเขา   ยังยึด  ฉันทลักษณ์..ไม่ผิด...บทกลอนประเภทนี้  มี

แต่งกันมาก...สบาย ๆ  ไม่ต้องหาสัมผัสใน  ให้ยุ่งยาก...โดยปกติ

จะไม่ค่อยวิจารณ์  บทกวีคนดัง...เพราะมักจะมีคนโต้แย้ง  ว่า เขา

ไม่ถูกไม่ดี  แล้วดังมาได้อย่างไร....เราก็เสียคนไป   

>>>> เราไม่ได้บอก  ว่า( ไม่ถูกไม่ดี) เราชี้เพียงข้อเปรียบเทียบว่า

เขาเขียนกลอนตามยุคสมัยใด....ซึ่งหลายคนก็เคย พบหน้า  พูดคุย

แต่ก็นั่นแหละ...ความเป็นอิสระ....อัตตา...บางคนก็มีมาก  มีน้อย

ก็แล้วแต่   แต่ละผู้คน...แต่ละปีที่ผ่านมา  คนยึดตำรา กลอนของ--

( หลวงธรรมาภิมณฑ์) น้อยลง. เอาอย่างคนดังมากขึ้น   เรื่องนี้เคย

พูดแล้ว  หลายครั้ง   คนดังก็รับว่า( เขาก็ไม่มีเวที) จะอธิบาย..ก็น่า

เห็นใจ...ช่วยกันก็ดี  ( เอาเอกลักษณ์ ของไทยเราไว้ให้ได้).......



#90 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:34

>>( ๘๓) เคนอิจิ-นามิ.... 

 

>> ชายใด ไม่เที่ยว เทียวไป๖...............ทุกแคว้น แดนไพร๔

....ไม่อาจ ประสพ พบสุข๖............( กาพย์ ฉบัง ๑๖)

>>>>>> ๑ บทมี ๓ วรรค..๖-๔-๖......)

 

===========================================

 

>> ขึ้นว่า.....เมื่อนั้น.....บัดนั้น.....เป็นคำขึ้นของกลอน  บทละคร

..ตัวเอก  เช่น เจ้าเมือง.จะขึ้นว่า ( เมื่อนั้น )  ถ้าเป็นตัวละครที่---

ศักดิ์ต่ำกว่า  จะใช้ขึ้นว่า ( บัดนั้น)  .......................

>>>>>>>>>>เมื่อนั้น.............องค์ท้าว  ทศรถ  เรืองศรี....ฯลฯ

 

">>>>>>>> บัดนั้น..............ขุนกระบี่  รับใส่  เกศา.....ฯลฯ

 

==============================================

 

>>> โคลงศรีปราชญ์.....

 

>> ธรณี  นี่นี้.................เป็นพยาน

...เราก็ศิษย์ อาจารย์........หนึ่งบ้าง

...เราผิด ท่านประหาร.........เราชอบ

...เราบ่ผิด ท่านมล้าง...........ดาบนั้นคืนสนอง....

....โคลงศรีปราชญ์ บทนี้  ว่าแต่งที่เมือง นครศรีฯ ตอน ศรีปราชญ์

..เข้าหลักประหาร..เป็นที่วิจารณ์กัน  หลายกระแส  คือพูดตรงๆ

บางคนก็เชื่อ..บางคนก็ไม่เชื่อ   จากการวิจารณ์  หลายครั้ง  ต่าง

ก็มีเหตุผล..ที่ฟังได้.  ผมจะไม่วิจารณ์นะ..บอกตามตรงผมก็ ๕๐%

ไม่ค่อยมั่นใจ   สมัยพระมหาราชครู  อยุธยาตอนกลาง.ตอนนั้นไป

เมืองนครศรี ฯ  ง่ายนักเหรอ???ถามหน่อย  แค่ขี่ช้างไปแค่ กุยบุรี.

ปราณบุรี.ประจวบฯ  ก็จะเจอไข้ป่าตายกันหมด...ไม่ทันถึงชุมพร....

แล้วนี่จะไปถึงเมืองนครฯ แค่  ท่านสุนทรภู่ นิราศเมืองแกลง.....

นิราศเมืองเพชร...ยังโดนยุงชุมมารุมกัด  จนเป็นไข้  เกือบไม่รอด...

ฉะนั้น...เรื่องนี้  ขอตัว  ไม่กล้าวิจารณ์  แต่จะ บอกโคลง ต้นแบบ

ที่ใช้เป็นบทเรียน...เป็น...โคลงสี่สุภาพ.. จากเรื่อง.ลิลิตพระลอ...

ครบ  เอก ๗ โท ๔ ...   ( ตัวอย่าง)

 

>>> เสียงลือ เสียงเล่าอ้าง.............อันใด    ( พี่เอย)

......เสียงย่อม ยอยศใคร................ทั่วหล้า

......สองเขือ พี่หลับใหล................ลืมตื่น     ( ฤๅพี่ )

......สองพี่ คิดเองอ้า.....................อย่าได้ถามเผือ........

 

>>เรื่องพระลอนี่ก็เหมือนกัน   มีการวิจารณ์กันมาก.ไว้วันหลังจะเล่า

สู่กันฟัง.เอาไอ้ที่ยังจำได้   ไอ้ที่ลืมแล้วก็ช่างมัน.....

 

============================================

 

>> กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘......

 

>>>> เกือบจะหายไปแล้ว.แต่ยังมีคนแต่งอยู่บ้าง.  นาน ๆ จะได้อ่าน

..ความจริงก็ไม่ยากนะ. สัมผัสหลายแห่งหน่อย.แต่ก็แค่ วรรคละ ๔ คำ

๗ วรรค เอง.....ดูเหมือนเคยลงตัวอย่างไว้แล้ว...แต่ก็ลืมแล้ว เอาเดี๋ยว

ดูตัวอย่าง...ของเก่า...ในหนังสือเรื่อง( กาพย์พระไชยสุริยา ) ของท่าน

สุนทรภู่...เคยใช้เป็นแบบเรียน.แต่ว่ายุคใด   ไม่แน่ใจ........

 

>>> กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ ...

 

>>>(  แม่  กน  )  พระชวนนวลนอน.....เข็ญใจไม้ขอน.....เหมือนหมอนแม่นา

.....ภูธรสอนมนต์.....ให้บ่นภาวนา.....เย็นค่ำร่ำว่า......กันป่าไภยพาล....

 

>>> วันนั้นจันทร.....มีดารากร......เป็นบริวาร.....

.....เห็นสิ้นดินฟ้า.....ในป่าท่าธาร.....มาลีคลี่บาน......ใบก้านอรชร.....ฯลฯ
 

==============================================================================



#91 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 19:17

ถ้าเป็น แม่ขวัญ  กินหมดแล้ว  ถาม ก็หร่อยดี   ใครต้ม

ต้มกะโคลงไก่  รึเปล่า .?? ๕๕๕๕...

 

:D  :lol:  :P 

 

อายม้วนเลยเจ้าค่ะ


Edited by kwan_kao, 7 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 19:23.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#92 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:36

พระเจ้าตาค่ะ

 

แล้วการบ้านของ นักเรียน "เคนอิจิ-นามิ"

 

ได้เท่าไหร่ ค่ะ (เต็มสิบ)

 

เค้าก็เก่งนะ  ถ้าเอาดีทางนี้

 

พระเจ้าตา เอาแปรงขัด ๆ ถู ๆ หน่อย

 

แวววาว เลยใช่เปล่าค่ะ


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#93 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:08

คุณ เคน ฯ เขาก็มีแววอยู่..ถ้าจะช่วยเผยแพร่  ฉันทลักษณ์..

ให้คนรุ่นหลังก็ดี. ( มีสัมผัสผิด  หลายตอน ) ดูแล้วสัมผัสใน

ยังไม่รื่น...โดด เปลี่ยนเสียงเป็น ช่วง ๆ สังเกตุอักษรที่ใช้ ยัง

ไม่กลมกลืน...สัมผัสต่อเชื่อมระหว่างบทไม่มี.. ให้ศึกษาตาม

ตัวอย่าง..ให้แม่นสัมผัสก่อนพักเดียวก็จำได้.....



#94 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 00:10

อารมณ์ไม่ดี กวีไม่พริ้ว ^_^

ไม่อาจเอื้อม ไปเผยแพร่ที่ไหนหรอกครับ
ไม่ได้มีความสามารถ แค่มีทักษะ ไม่มีใครฝนให้

อีกอย่าง แค่ใช้คำให้ถูกต้องตามความหมายของคำทุกวันนี้ก็แย่แล้ว
อยากพูดเรื่องการใช้ภาษาไทยของคนไทยสมัยนี้ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่หายไป เท่าไหร่

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#95 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:08

ขอบคุณครับ..สิ่งที่พูด  ทุกอย่างล้วน เป็นแบบอย่างได้ทั้งนั้น.

คุณ เคน ฯ ต้องเข้าใจคำว่า..แบบอย่าง..  แบบอย่าง แบ่งเป็น

๒ แบบ. แบบที่ถูก..กับแบบที่ไม่ถูก.เราก็เหมือน แบบอย่าง--

ให้คนรุ่นหลังเก็บไปศึกษา. ถ้าคนรุ่นหลัง มีสติปัญญา ก็จะแยก

ออกว่า ไหนดี ไหนถูก...ไหนไม่ดี-ไม่ถูก.

>>> คุณเคน ฯ เข้าใจผิดว่า ( อารมณ์ไม่ดี เขียนกลอนไม่ได้ )

ไม่จริงครับ..สมมุติว่า เราเห็น บางสิ่งบางอย่าง..ไม่ถูกต้อง เรา

ก็เกิดโทษะในใจ.  อารมณ์โกรธหรือโทษะ  กลอนจะออกมา-

ในลีลา กระบวนบรรยายที่เรียกว่า ( พิโรธวาทัง). ๑ ใน ๔ ของ

กระบวนบรรยายใน...ฉันทลักษณ์..( กดไปอ่าน ..หึงหน้าป้อม)

..ระหว่างนางสุวรรณมาลี--กับนางละเวง...นั่นแหละ คือ กระบวน

บรรยายที่เรียกว่า...พิโรธวาทัง...( เห็นไหมครับ ว่าคุณก็ช่วยได้)

>>> โบราณว่า..ผิดเป็นครู...ไม่ใช่ผิดเป็นโจร...เท่าที่ดู คุณก็มี

อารมณ์กวีอยู่..เพียงแต่ยัง..ใจร้อนอยู่........

       

>>> โทสะ  นั่นคือโทษ.............ระงับโกรธ  ก็แจ่มใส

......ก่อโกรธ  กันทำไม.?...........เอาอัตตา  ออกจากตน

 

>>> รูปธรรม  แม้ล้ำเลิศ.............ฤจะเกิด  กับมรรคผล

......นามธรรม  นำกมล..............มรคา  นิพพานัง ฯ

 

>>>ศรัทธา  สาธุพุทธ................ปริสุท-ธิสมหวัง

......ภพพิศ  อนิจจัง....................มนะปลง ปฐมฌาญ....ฯลฯ

 

 

>>>>>พระฤๅษี<<<<< ( กาพย์ยานี ๑๑ ) ๙//๓//๕๖ .........



#96 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:00

เดือนนี้   ว่าจะพูดถึงเรื่อง ..บทกลอน..ทั้งของเก่า..ของใหม่..

ก็ได้พูดไปหลายแบบแล้ว..พร้อมทั้ง  เพื่อน ๆ ก็นำ.บทกวีเก่า

มาเป็นตัวอย่างหลายแบบ..วันนี้ขอนำ..บทกวีเก่า ในยุคสมัย

รัชกาลที่ ๑-๒  ...มาให้ได้ศึกษากัน เป็น.(กลอนบทละคร ) ใน

เรื่อง  ..รามเกียรติ์ .......................

 

>>>>> เมื่อนั้น............................พระยาพิเภก ยักษี

..เห็นพระองค์ทรงโศก โศกี..........อสุรี กราบลง กับบาทา

 

.....ทูลว่า พระลักษม์ สุริย์วงศ์...........ยังไม่ปลง ชีวัง สังขาร์

..อันโมกขศักดิ์  อสุรา.....................พรหมา ประสิทธิ์ ประสาทไว้

 

.....ทรงอานุภาพ ฤทธิรุธ..................ต้องใคร จะฉุด นั้นไม่ไหว

..แต่มียา  แก้หอกไชย.....................ให้ไว้ สำหรับ แก้กัน

 

.....แม้ละไว้ จนรุ่ง ราตรี...................ต้องแสง พระระวี  จะอาสัญ

..ขอให้ ลูกพระพาย เทวัญ...............ไปห้าม พระสุริยันต์ ในชั้นฟ้า

 

.....อย่าเพิ่ง รีบรถ บถจร..................ข้ามยุคนธร  ภูผา

..แล้วให้ ไปเก็บ ตรีชวา..................ทั้งยา ชื่อ สังกรณี

 

.....ยังเขา สรรพยา บรรพต...............ปรากฏ อยู่ยอด คีรีศรี

.. กับปัญจ มหานที..........................สรรพยา ครั้งนี้ มาให้ทัน

 

....................................จำได้แค่นี้....................................

 

>>  สังเกตุดู ให้ดี ๆ  บทกวี...ยุคนี้  ไม่ค่อยมี สัมผัสในวรรค

..แต่อ่านแล้วรื่น  ถ้อยคำเรียบตามกัน  ไม่มีสดุด........

>> ประการณ์หนึ่ง  จะเห็นว่า  เสียงปลายวรรค  ดีทุกวรรค

..น่าแปลก ที่ว่า  ( ปัจจุบันนี้) คนเขียนกลอนหลายคน..

..ใช้เสียง..สามัญ...ปลายวรรคแรก..อ่านเจอทีไร  จืดทุกที

..แต่  ดูบทกวีเก่านับร้อยปี    จะไม่ค่อยเจอ   แม้สัมผัสในจะ

..ไม่ค่อยมี แต่เสียงปลายวรรคสวยมาก.....

>> ไม่ใช่อ่านอย่างเดียวนะ   ศึกษาเรียนรู้ไปด้วย ถ้าสนใจ......

 

 

==========================================



#97 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 01:17

พระเจ้าตาขา ^^^^ บทนี้ก็ท่องเหมือนกันเจ้าค่ะ :)


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#98 ploychanpen

ploychanpen

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 198 posts

ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 05:29

เข้ามารายงานตัวค่ะพระเจ้าตา คิดถึงสมัยตอนเรียน ม .สี่่ค่ะ  วิชาภาษาไทยนี่ยากนะคะโดยเฉพาะเวลาที่ครูสอนแต่งกาพย์ กลอน ไม่คิดเลยว่าหลายสิบปีผ่านไปจะได้มาเรียนที่ห้องนี้อีกครั้ง ขอบพระคุณพระเจ้าตามากจริงๆค่ะ



#99 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:15

>> แดนหนาว ร้าวละ  ปวดกระดูก.....สงสารลูก เหลือล้น ทนอยู่

....ต่างถิ่น ฐานเก่า  เศร้าเลยตู.........คุดคู้  แค่ยก  กระดกไวท์

 

>> ต่างเมือง ต่างถิ่น แผ่นดินเกิด......เอาเถิด ทุกข์ท้น  พอทนไหว

....วาสนา  สาหัส  อึดอัดใจ............โหยไห้  ให้เหงา  เศร้ากมล

 

>> ว้าเหว่  เมรัย  ได้เป็นเพื่อน.........เมาเลือน  มึนหลับ  พับเหตุผล

....โอ้ ละเห่  เทวา ฟ้าเบื้องบน........ดับทุกข์คน  ไกลบ้าน วานช่วยที..

 

 

>>>>>พระฤๅษี <<<<< ๑๐//๓//๕๖,,,

 

 

>>>กลอนให้...... ploychanpen<<<< 



#100 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:28

( ฉันจำได้แค่นี้..แม่ขวัญ..ว่างหามาลงให้ครบตอนก็ดี ) ฉันแค่ไหน

ก็แค่นั้น..เอาเท่าที่จำได้..ค้นไม่ไหว  ..ขี้เกียจ..มีกำลังแค่ไหน..ว่าง

แค่ไหน.ก็เอาแค่นั้น..........

>>>>>>>  วันนี้วันหยุด   จะไปเดินเล่น จตุจักร...หาซื้อปุ๋ยต้นไม้

อาหารปลา.  และหาไรกิน.............






ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน