ประวัติคุณชายหมู...ทิ้งห่างเสาไฟฟ้าไม่เห็นฝุ่น...
ประวัติการศึกษา
ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ณ โรงเรียน Cheam (ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าโรงเรียน) และโรงเรียน Rugby ประเทศอังกฤษ (ดำรงตำแหน่ง หัวหน้า House หรือสี และได้รับทุนการศึกษาเรียนดีเด่น) (พ.ศ. 2506-พ.ศ. 2513)
ระดับปริญญาตรี (เกียรตินิยมอันดับ 2) และระดับปริญญาโทจาก Pembroke College มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ (เกียรตินิยม) สาขาวิชาปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์ (PPE) (พ.ศ. 2514 - พ.ศ. 2520)
ระดับปริญญาโทจาก มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางด้านสาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (พ.ศ. 2521)
ประวัติการทำงาน
- พ.ศ. 2523 - พ.ศ. 2539 - อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- พ.ศ. 2530 - พ.ศ. 2531 - ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
- พ.ศ. 2530 - พ.ศ. 2536 - ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- พ.ศ. 2531 - พ.ศ. 2532 - ที่ปรึกษาทางด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี (พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ)
- พ.ศ. 2532 - พ.ศ. 2534 - ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการกิจการรัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร
- พ.ศ. 2534 - พ.ศ. 2536 - นายกสมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย
- พ.ศ. 2535 - พ.ศ. 2537 - ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการพาณิชย์ฝ่ายต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์
- พ.ศ. 2535 - พ.ศ. 2536 - ประธานคณะทำงานร่วมอาเซียน-เวียดนาม
เพื่อศึกษาและเสนอแนะแนวทางส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียน-เวียดนาม
และประธานคณะทำงานร่วมอาเซียน-กัมพูชา-ลาว เพื่อศึกษาและเสนอแนะ
แนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียน-กัมพูชา-ลาว - พ.ศ. 2539 - พ.ศ. 2544 - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร
เขตเลือกตั้งที่ 6 (บางรัก สัมพันธวงศ์ สาทร แขวงยานนาวาและแขวงทุ่งมหาเมฆ)
พรรคประชาธิปัตย์ - พ.ศ. 2540 - พ.ศ. 2543 - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาลนายชวน หลีกภัย
- พ.ศ. 2544 - พ.ศ. 2548 - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
- พ.ศ. 2550 - พ.ศ. 2551 - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในระบบบัญชีระบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ โซน 6 กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และนนทบุรี
- 11 มกราคม พ.ศ. 2552 - 9 มกราคม พ.ศ. 2556 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประวัติทางการเมือง
รองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคนำไทย ร่วมกับนายอำนวย วีรวรรณ เมื่อ พ.ศ. 2537 และเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคนำไทย
ต่อมา รองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร เข้าเป็นกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 6 (บางรัก สัมพันธวงศ์ สาทร แขวงยานนาวาและแขวงทุ่งมหาเมฆ) เมื่อปี พ.ศ. 2539 และ 2544
ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2540 ถึง กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544
รองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 24 ของพรรคประชาธิปัตย์ จากการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค และดูแลงานทางด้านต่างประเทศและความมั่นคง ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2550
รองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร
ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบสัดส่วนโซน 6 กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ
และนนทบุรี ลำดับที่ 3 และชนะการเลือกตั้ง
ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 คณะกรรมการบริหารพรรค มีมติส่ง
รองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552 ซึ่ง รองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร จับสลากได้เบอร์ 2[1][2]
การตกลงเป็นตัวประกันในเหตุการณ์ยึดสถานทูตพม่า พ.ศ. 2542
ดูบทความหลักที่ เหตุการณ์ก๊อด อาร์มี่ บุกยึดสถานทูตพม่า พ.ศ. 2542 และบุกยึด ร.พ.ศูนย์ราชบุรี พ.ศ. 2543
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2542 ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เกิดเหตุการณ์กองกำลังติดอาวุธของนักศึกษาพม่า บุกเข้ายึดสถานเอกอัครราชทูตพม่า ประจำประเทศไทย ที่ถนนสาทรเหนือ และจับเจ้าหน้าที่สถานทูตเป็นตัวประกัน
หลังการเจรจาต่อรองเป็นเวลาหลายชั่วโมง ผู้ก่อการร้ายยินยอมปล่อยตัวประกัน แลกกับให้ทางการไทยจัดเฮลิคอปเตอร์ไปส่งที่ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
ซึ่งเป็นชายแดนไทย-พม่า โดย หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในขณะนั้น
เสนอตัวเป็นตัวประกันนั่งโดยสารไปด้วยเพื่อรับรองความปลอดภัยจนกระทั่งถึง
ที่หมาย ทำให้เหตุการณ์ครั้งนั้นยุติลงได้โดยไม่มีการสูญเสียชีวิต
การลงนามในบันทึกข้อตกลงปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา พ.ศ. 2543
ในปี พ.ศ. 2543 รองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศขณะนั้น
ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย)
ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา
ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก
ในระหว่างการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 14 - 16 มิถุนายน พ.ศ. 2543
บันทึกความเข้าใจดังกล่าว มีสาระสำคัญส่วนหนึ่ง คือ
การสำรวจและปักหลักเขตแดนทางบกจะดำเนินการโดยใช้เอกสารหลักฐานที่ผูกพันไทย
และกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศ คืออนุสัญญาฉบับลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์
ค.ศ. 1904 สนธิสัญญาฉบับลงวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1907 กับพิธีสารแนบท้าย
และ แผนที่แสดงเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชามาตราส่วน 1:200,000
ซึ่งจัดทำขึ้นตามผลงานของ คณะกรรมการปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 หลังเกิดกรณี นายนพดล ปัทมะ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ลงนามในเอกสารแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา
ซึ่งอาจมีผลเปลี่ยนแปลงเขตแดนประเทศไทยโดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เกิดการโจมตี
มรว.สุขุมพันธุ์ และ พรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับการลงนามในบันทึกความเข้าใจ ไทย-กัมพูชา พ.ศ. 2543 ที่ระบุให้การจัดทำหลักเขตแดนยึดตามแผนที่ฝรั่งเศส-สยาม (ค.ศ. 1904) เป็นแนวทาง โดยไม่ระบุ แผนที่แอล 7017 ของ สหรัฐอเมริกา ที่ ไทยใช้
อ้างอิง ซึ่งอาจตีความได้ว่ามีผลเปลี่ยนแปลงเขตแดนประเทศ มาตั้งแต่ พ.ศ.
2543 ก่อนการลงนามของนายนพดล ปัทมะ เรื่องดังกล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ชี้แจงว่าการระบุถึงแผนที่ ค.ศ. 1904
เป็นการระบุประกอบเอกสารหลักคือ อนุสัญญา ค.ศ. 1904 และ สนธิสัญญา ค.ศ.
1907 ซึ่งแผนที่จะขัดหรือแย้งไม่ได้ การลงนามในปี พ.ศ. 2543
จึงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงเขตแดนประเทศแต่อย่างใด [3]
ผลงานวิชาการ
รองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร
มีผลงานวิจัยและบทความเกี่ยวกับความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่าง
ประเทศมากมาย ซึ่งได้ตีพิมพ์และเผยแพร่ทั้งในและนอกประเทศ อาทิ
ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศญี่ปุ่น ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป็นต้น อีกทั้งได้มีผลงานทางวิชาการร่วมกับนักวิชาการระดับนานาชาติหลาย คน
อาทิ Professor Robert Scalapino
งานเขียนอื่น ๆ : เคยเขียนคอลัมน์ประจำให้แก่
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์ และ หนังสือพิมพ์แนวหน้า
เคยเขียนคอลัมน์รับเชิญให้แก่นิตยสารต่างประเทศหลายฉบับ รวมถึง Far Eastern
Economic Review, The International Herald Tribune, The Asian Wall
Street Journal
การดำรงตำแหน่งอื่นๆ
- ประธานมูลนิธิจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ถึงปัจจุบัน)
- เป็นกรรมการหรือสมาชิกของสถาบันระดับนานาชาติหลายแห่ง รวมถึง THE ASIA
SOCIETY แห่งนครนิวยอร์ก และ
สถาบันยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษาแห่งกรุงลอนดอน - กรรมการบริหารของสถาบันพระปกเกล้า (ปี 2544 ถึง ปัจจุบัน)
- อาจารย์พิเศษในสถาบันการศึกษาหรือหลักสูตรของหน่วยงานราชการ ต่าง ๆ เช่น กองทัพ กระทรวงมหาดไทย กรมตำรวจ กรุงเทพมหานคร
- อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยต่างประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยโคลัมเบียแห่งนครนิวยอร์ก และ มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์แห่งกรุงวอชิงตัน ดีซี
- วิทยากรบรรยายพิเศษให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยนเรศวร
- สมาชิก Commission For A New Asia (พ.ศ. 2537)
- ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร
เกียรติประวัติ
- ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในร้อยผู้นำระดับโลกในศตวรรษที่ 21 โดยนิตยสาร TIME ในปี พ.ศ. 2538
ทุกอย่างมาจากความรู้ความสามารถ+ฝีมือล้วนๆ
Edited by คนกรุงธน, 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:24.