ตอบ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:12
เพราะอันนี้หรือเปล่า
สมจิตต์ นวเครือสุนทร
จับตาการเมืองยึด ธกส. บีบ เจ๊ง เพื่อ จำนำข้าว?
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2556 ครม.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีมติเห็นชอบแต่งตั้งบอร์ดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธกส.รวม 13 คน โดยมี 6 รายมาจากฝ่ายการเมือง มีทั้งทนายคนเสื้อแดง และอดีตส.ส.สอบตก ท่ามกลางความเคลือบแคลงใจว่าการเมืองกำลังจะฮุบ ธกส.อย่างเบ็ดเสร็จเพื่อเดินหน้านโยบายจำนำข้าว หลังจากผู้บริหารธนาคารชุดปัจจุบันไม่เห็นด้วยที่จะให้นำสภาพคล่องของธนาคารมารองรับโครงการจำนำข้าว เพราะจะทำให้ธนาคารได้รับผลกระทบจนสั่นคลอนสถานะทางการเงินในที่สุด
สำหรับรายชื่อบอร์ดใหม่ 6 คนที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาลมีดังนี้ 1.) นายยรรยง พวงราช อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่แสดงบทบาทรับใช้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างออกนอกหน้า ถึงขั้นเคยถูกตั้งคำถามว่าปั้นตัวเลขเศรษฐกิจในเรื่องเงินเฟ้อจนถูกวิจารณ์อย่างหนักมาแล้ว และยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วยรัฐบาลผลักดันโครงการจำนำข้าวด้วย 2.) นายสมหมาย กู้ทรัพย์ นอกจากจะเคยเป็นหัวหน้าทีมทนายความให้กับลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีในคดีฆ่าดาบยิ้มแล้ว ยังเป็นทนายความคนเสื้อแดงด้วย
3.) นายธนรัชต์ วิเชียรรัตน์ เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เคยเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐมนตรีหลายคนของพรรคเพื่อไทย 4.)นายวศิน ธีรเวชญาณ มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) เพื่อทำหน้าที่การเจรจาในกรอบเจเบีซีกับฝ่ายกัมพูชา ในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าเจรจาเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชามากกว่ารักษาผลประโยชน์ให้ฝ่ายไทย จนถูกปลดออกในรัฐบาลอภิสิทธิ์ 5.) นายวิรัติ ศักดิ์จิรพาพงษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช (สอบตก) พรรคไทยรักไทย ปี 2544 6.) นายทวีป ตันพิพัฒนกุล เป็นที่ปรึกษา ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้บอร์ด ธกส.มีทั้งสิ้น 15 คน มีนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลังเป็นประธาน โดยกรรมการส่วนหนึ่งมาจากข้าราชการประจำ ซึ่งถูกครอบงำได้โดยฝ่ายการเมืองอยู่แล้ว เมื่อรวมกับบอร์ดใหม่ที่เป็นสายตรงของรัฐบาลจะทำให้มีคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งในการตัดสินใจเรื่องสำคัญที่จะกำหนดทิศทางการบริหารของ ธกส.ได้ จึงต้องจับตาว่าภายใต้การบริหารของบอร์ดชุดนี้จะมีการนำ ธกส.ไปตอบสนองนโยบายประชานิยมรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างไร โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวที่ ผู้บริหารชุดปัจจุบันของ ธกส.พยายามทัดทานไม่ให้มีการนำเอาสภาพคล่องของธนาคารมาดำเนินโครงการจำนำข้าวจนอาจทำให้ ธกส.ต้องประสบปัญหาขาดทุน เพราะรัฐยังไม่สามารถนำเงินที่ ธกส.จ่ายไปล่วงหน้ามาคืนให้ได้ เนื่องจากยังไม่สามารถระบายข้าวได้ตามแผนที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาระบุ
ปัจจุบัน ธกส.มีสภาพคล่องสำหรับดำเนินโครงการจำนำข้าวนาปรังปี 2556 ที่จะเริ่มในเดือนเมษายนนี้เพียงแค่ 2 หมื่นล้านบาท จากสภาพคล่องของธนาคารทั้งหมดประมาณ 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งต้องกันไว้สำหรับการดำเนินงานตามปกติของ ธกส.ด้วย แต่ฝ่ายการเมืองต้องการให้ ธกส.นำเงินมารองรับโครงการจำนำข้าวทั้งหมด โดยที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันให้ ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องใช้เงินสำหรับการจำนำข้าวถึง 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งหากนำเอาสภาพคล่องของ ธกส.มารองรับทั้งหมดย่อมส่งผลกระทบต่อสถานะของธนาคารให้สั่นคลอนจนอาจถึงขั้นเกิดปัญหาไม่แตกต่างจากเอสเอ็มอี แบ๊งก์และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ที่กำลังประสบปัญหาหนี้เน่ารวม 8 หมื่นล้านบาทอยู่ในขณะนี้ แต่วิกฤตที่จะเกิดขึ้นกับ ธกส.จะส่งผลกระทบโดยตรงไปถึงเกษตรกรโดยรวมด้วย
ก่อนหน้านี้ ธกส.เคยทำหนังสือทวงหนี้กระทรวงพาณิชย์ จนเป็นที่ฮือฮามาแล้วหลังจากที่ถูกเบี้ยวหนี้จำนวน 8.5 หมื่นล้านบาท แต่กระทรวงพาณิชย์จ่ายคืนให้ ธกส.เพียงแค่ 5.8 หมื่นล้านบาท โดยในปัจจุบันจากการเปิดเผยของนายบุญไทย แก้วขันดี รองผู้จัดการ ธกส.เปิดเผยว่ารัฐบาลยังค้างชำระเงินโครงการจำนำข้าวที่ต้องจ่ายให้ ธกส.ถึง 2.5 หมื่นล้านบาท
สำหรับ ธกส.นั้นไม่เพียงแต่ต้องตอบสนองนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังมีโครงการประชานิยมอีกหลายโครงการที่สร้างผลกระทบต่อรายได้ของธนาคาร อาทิ โครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร ได้ออกบัตรให้เกษตรกรแล้ว2,087,673 ราย วงเงินสินเชื่อ 40,467 ล้านบาท
โครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท แบ่งเป็นโครงการพักชำระหนี้ปี 54 มีเกษตรกรใช้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการ 403,734 ราย เป็นเงิน 46,680 ล้านบาท โครงการพักชำระหนี้และลดภาระหนี้ปี 55 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 2,225,794 ราย เป็นเงิน 250,592 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีโครงการรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิต ได้แก่ โครงการจำนำมันสำปะหลังปีการผลิต 2555/56 เริ่มดำเนินการ 1 ธ.ค. 55-31 มี.ค. 56 มีการทำสัญญาและจ่ายเงินกู้เกษตรกร 3,934 ราย ปริมาณมันสำปะหลัง 0.7 ล้านตัน เป็นเงิน 1,867 ล้านบาท และโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรในการรักษาเสถียรภาพราคายาง จ่ายเงินกู้แล้ว 22,000 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า ธกส.เป็นแหล่งเงินนอกระบบสำคัญของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในการใช้จ่ายเพื่อเดินหน้าโครงการประชานิยม ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับ ธกส.จนกระทบต่อเสถียรภาพของธนาคาร รัฐบาลยิ่งลักษณ์ คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
โลก นี้มีทรัพยากรสำหรับคนทุกคน แต่มีทรัพยากรไม่พอสำหรับคนโลภมากคนเดียว, ประเทศก็เช่นกัน... ไม่มีประเทศไหนมีทรัพยากรมากพอสำหรับคนละโมบโลภมากที่ไม่รู้จักพอ (โกงกินจนพังทั้งประเทศ)