สนับสนุน กรุงเทพเมืองจักยานด้วยคน
เขาว่าในรูปคือจังหวัดน่าน
ต่างประเทศมีเลนให้จักรยานโดยเฉพาะ ปลอดภัย
Edited by phoosana, 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:36.
ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:24
สนับสนุน กรุงเทพเมืองจักยานด้วยคน
เขาว่าในรูปคือจังหวัดน่าน
ต่างประเทศมีเลนให้จักรยานโดยเฉพาะ ปลอดภัย
Edited by phoosana, 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:36.
ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:03
สนับสนุน กรุงเทพเมืองจักยานด้วยคน
เขาว่าในรูปคือจังหวัดน่าน
ต่างประเทศมีเลนให้จักรยานโดยเฉพาะ ปลอดภัย
ถ้าอยู่เมืองไทย ไม่มีแมงกระไซไปวิ่ง ถีบหน้าผมได้เลย
ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:06
ทางเท้ามันยังวิ่งครับ ฮ่าๆ
ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:18
จริงๆ ไม่ต้องมีเลนจักรยาน ก็ขี่กันได้ครับ แค่ทุกคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน อย่ามองคนอื่นเป็นศัตรู
ถ้าเราทำได้
- ปล่อยวาง ไม่รำคาญ แท็กซี่ หรือรถยนต์แซะเบียดระยะกระชั้นชิด
- เพิกเฉยต่อ มอไซค์ปาดหน้า ขับสวนเลน
- เอื้อเฟื้อต่อคนเดินข้ามถนน เห็นเค้ามายืนรอ มีรถต่อเรามาอีกเพียบ หยุดให้ซักนิด คงไม่ทำให้เราช้าลงไปเกิน 5 นาที หรอก
- รักษากฎวินัยจราจร เคร่งครัด
เอาแค่นี้ ทำได้ การใช้พื้นที่ร่วมกัน ก็คงไม่มีปัญหา จะมีเลนจักรยานหรือไม่ มันไม่ใช่ประเด็นเท่าไร
ผมเป็นคนนึงที่เคยขี่จักรยานบนถนนในกรุงเทพ เจอคนเอื้อเฟื้อก็เยอะ ไม่ว่าจะตัวใหญ่อย่างรถเมล์ หรือรถเก๋งแพงๆ เจอมอไซค์ปาดพร้อมกับบ่น ก็ไม่น้อย การมาเป็นคนตัวเล็กบนถนนใหญ่ ก็เปิดมุมมองผมเยอะพอควรเหมือนกัน เผอิญช่วงนี้ใช้ทางด่วนบ่อย เลยไม่ค่อยได้ปั่นในถนน
แชร์ไอเดียครับ
ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:29
ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 11:47
ตอนที่คุณโทนี่กำลังปั่นจักรยานอยู๋ สงสัยมอเตอร์ไซค์ที่ชน
เค้าคงมองไม่เห็นจักรยานแหง(โดนบังมิด) แซวกันเล่นๆขำๆ นะครับ
แล้วตอนนี้ ร่างกายดีขึ้นหรือยังครับ ขอให้หายเร็วๆ ละกัน เดี๋ยวไขมัน 10 โลจะคิดถึง
อะแฮ่ม ! ความจริงเมื่อ 1 ปีก่อน ผมเคย หนักกว่าคุณโทนี่ 1 กิโล ถึงวันนี้ลดลงเหลือ 85
จุดเริ่มต้นมาจาก จักรยาน นี่แหละครับ ( ผมสูงกว่าคุณโทนี่ 7 cm )
รูปข้างบนไม่ใช่ผมนะครับ
ตอนนี้ ผมหนัก 100 กิโล สูง 178 ซม ครับ
ความจริง จุดที่ทำให้ผมอยากปั่นจักรยาน ไม่เิงว่าจะมาจากการอยากลดน้ำหนักอะไรหรอกครับ
เพราะว่าคงยาก ที่คนอวนอย่างผมจะเอาจริงอะไรได้ขนาดนั้น
เพียงแต่ อยากใช้เพื่อการพักผ่อนและเอาสนุกเสียมากกว่าครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:15
รูปข้างบนไม่ใช่ผมนะครับ
ตอนนี้ ผมหนัก 100 กิโล สูง 178 ซม ครับ
ความจริง จุดที่ทำให้ผมอยากปั่นจักรยาน ไม่เิงว่าจะมาจากการอยากลดน้ำหนักอะไรหรอกครับ
เพราะว่าคงยาก ที่คนอวนอย่างผมจะเอาจริงอะไรได้ขนาดนั้น
เพียงแต่ อยากใช้เพื่อการพักผ่อนและเอาสนุกเสียมากกว่าครับ
แหะ ๆ มีสูตรลดน้ำหนัก มาฝาก คุณ tony ครับผม
สูตรนี้ผมได้ มาแต่ ปูนา เข้ามาบริหารประเทศครับผม
ผมเลยลดทานข้าวลง เพราะกลัวข้าวแพง และ ทานกับข้าว เป็นแกงจืด สารพัดผัก แต่มีหมูบ้างนะครับ คุณแม่ทำให้ด้วยล่ะ
ผมทานแกงจืด ทุกมื้อเลยครับ ย้ำทุกมื้อ มาหลายเดือนแล้ว
น้ำหนักจาก ม.ค.55 86 กิโลกรัม ตอนนี้ เหลือ 69 กิโลกรัม ลดไป 17 กิโลกรัม ครับผม
ส่วนจักรยาน ผมขี่มาทำงานทุกวันอยู่แล้ว ก็มี ซิทอัพ และ ยกน้ำหนัก ด้วยครับ
ตอนนี้ เอวผม หายไป 3 นิ้ว แล้วครับ เคยจาก 39 ตอนนี้ เหลือ 36 และกำลังจะลดลงอีกครับ สังเกตจากรู เข็มขัดครับ
หวังว่า คุณโทนี่ จะเข้าชมรมกับผม นะครับ อะแฮ่ม ชมรม คนเคยมีกิน เอ้ยไม่ใช่ ชมรมคนเคยอ้วนครับ
ผมแถม ชมรม ชายโฉด เอ้ย ชายโสด ตลอดกาล ให้อีกชมรมครับ แฮ่ม
ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ
PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract
FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY
ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:02
ชอบคุณคุณทรงธรรมครับ
ยินดีและหวังจะร่วมชมรมเดียวกันกับคุณทรงธรรมครับ
หมายถึง ชมรมคนเคยอ้วนนะครับ
ส่วนชายโสด คงหมดหวังแล้วครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 00:35
สนับสนุน กรุงเทพเมืองจักยานด้วยคน
เขาว่าในรูปคือจังหวัดน่าน
ต่างประเทศมีเลนให้จักรยานโดยเฉพาะ ปลอดภัย
ถ้ามีเลนให้โดยเฉพาะแบบนี้มันก็ดีครับ แต่ดูสิของไทย รูปข้างบนที่บอกว่าเป็น จ.น่าน มีรถตู้มาจอดขวางเลนแล้ว
ตอบ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:49
น่าจะมีประโยชน์กับกระทู้นี้ครับ
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
ตอบ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 21:02
ความจริง เมื่อได้ย้อนกลับมาอ่านกระทู้นี้อีกครั้ง
ผมก็รู้สึกตามที่คุณ pouce ว่าเหมือนกันนะครับ
หวังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม คงยาก
เพราะองค์ประกอบมากมายที่ไม่เอื้อ
สิ่งที่สำคัญ คือเรื่องของความคิด น้ำใจ การเคารพกฏ เคารพในพื้นที่ของคนอื่น
สิ่งพวกนี้ คงต้องหาทางปลูกฝัง กลับมาเริ่มใหม่กันเสียที
ก่อนที่มันจะสายไปกว่านี้ (หรือสายไปแล้ว?)
ผมว่า นี่คือโจทย์ที่ยากที่สุด แต่เป้นไปได้มากที่สุด
มากไปกว่าเลนจักรยานแน่ๆ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:45
กลับมากระทู้นี้อีกที
ตอนนี้ ผมมีจักรยานเป็นของตัวเองแล้วครับ
คุยกับเพื่อนคนนึง ถึงรู้ว่าเค้ามีร่้านขายส่งจัรยานมือสองจากญี่ปุ่น
จึงไปเลือกจักรยานมือสองมาคันนึง ราคาไม่แพง
เพราะยังไม่แน่ใจในความตั้งใจจริงของตัวเองครับ
กลัวว่า ซื้อมาแพงๆ ขี่ไปไม่กี่วันจะเบื่อ
เอาไว้พิสูจน์ตัวเองได้ว่าชอบจริงจัง ค่อยหาคันดีๆ
วันอาทิตย์ที่แล้ว ผมตื่นแต่เช้า เอาจักรยานใส่ท้ายรถ
ลองไปขี่ที่สวนหลวง ร 9 มาครับ
ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ย่านนี้ ผมยังไม่เคยตื่นเช้ามาสวนสาธารณะเลยสักครั้ง
มาถึง จึงรู้ว่า สวนสาธารณะอย่างสวนหลวง ร 9 เป็นที่พึ่งของนักปั่นได้เยอะจริงๆ
ไม่เก็บค่าเข้าครับ
พอเข้ามา เอาจักรยานลง และเริ่มปั่น
ผมพบผู้คนจำนวนมากพอดู ที่มาขี่จักรยานกัน
มีทั้งคนแก่ หนุ่มสาว รวมถึงครอบครัว พ่อ แม่ ลูก
รวมทั้งกลุ่มบางกลุ่มที่ขี่จริงจัง
ใช้สวนหลวง ร9 เป็นที่พึ่งกันมากหน้าหลายตา
วันนี้ เวลานี้ ที่พึ่งของคนปั่นจักรยานจริงๆ
น่าจะยังไม่มีมากนัก
แต่ก็ขอบคุณ ที่สวนหลวง ร9 เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าได้ฟรีๆ
(กลางวันหรือเย็น ดูเหมือนจะเก็บตังค์ครับ)
ขอบคุณที่ BTS ยอมให้เอารถจักรยานขึ้นไปได้
(ผมเห็นภาพคนเอาจักรยานที่ไม่พับขึ้นไปได้ด้วยซ้ำครับ)
ขอบคุณบางถนน ที่เริ่มทำเลนจักรยานไปบ้างแล้ว
ถ้าผู้ว่าสุขุมพันธ์ สามารถผลักดันให้เกิดเมื่องจักรยานขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม
ผมจะเชียร์ท่านตลอดไปครับ
แม้วันนั้น ผมจะเลิกเห่อจักรยานไปแล้วก็ตาม
อย่างน้อย คนที่รักจริง เขาจะยังมีที่ยืนครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:12
ผมเพิ่งได้อ่านกระทู้นี้ ยินดีกับคุณ Tony ที่ได้จักรยานเป็นของตัวเอง ผมก็อยากขี่นะครับ แต่จริงๆชอบวิ่งมากกว่า
ช่วงพักร้อนเมื่อเดือนที่แล้ว เห็นคนขี่จักรยานบนวิภาวดีบ่อยๆทั้งกลางวันและกลางคืน เลยรู้สึกว่ามีคนขี่กันพอสมควรแล้ว
เลยจะ share สิ่งที่พบที่อเมริกาบ้าง ผมอยู่ในบริเวณ Bay Area ทางตอนเหนือของ California ที่นี่ถ้าไม่ใช่ทางด่วน ถนนจะมีเลนจักรยานเสมอ คนขี่จักรยานเป็นเรื่องธรรมดา แต่อีกด้านนึงที่ผมรู้มาจากเพื่อนผมก็คือในเมืองที่มีคน(รถ)มากๆอย่าง San Francisco จะมีอุบัติเหตุของจักรยานเกือบทุกวัน เพียงแต่ไม่ออกข่าวเท่านั้น ในห้อง ICU ของโรงพยาบาลนี่ถ้าไปนั่งในนั้นเต็มวัน จะต้องเจอเรื่องเกี่ยวกับจักรยานเสมอ แต่ถ้าไม่ใช่เมืองที่มีการจราจรหนาแน่นมากก็ไม่ค่อยมี ซึ่งผมคิดว่าไม่แปลก
สิ่งที่แตกต่างกันแบบเห็นๆของผู้ขับขี่ในอเมริกากับเมืองไทยคือ ที่อเมริกา คนเป็นใหญ่ ที่เมืองไทย รถเป็นใหญ่ ผมเคยขับรถที่ทางแคบๆ พอดีมีคนเดินอยู่ด้วย ผมก็ขับช้าๆผ่านไป แต่ใกล้กับคนเดินพอสมควร ปรากฏว่าเจอคนเดินถนนตำหนิว่ารอหน่อยไม่ได้เหรอ? คนกำลังเดิน เลยนึกว่าถ้าอยู่เมืองไทยนี่ คนขับรถคงด่าคนเดินว่าไม่เห็นรถหรือไงว๊ะ ดังนั้น ด้วยทัศนคติของคนขับรถในเมืองไทยยังเป็นแบบนี้อยู่ คงต้องระวังตัวมากๆถ้าจะใช้พื้นที่จราจรร่วมกับคนขับรถยนต์
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:27
สำหรับผมคิดว่าปัญหาอยู่ที่การจอดรถมากกว่าเรื่องขี่ไม่ได้สนใจเท่าไหร่
กลัวจอดแล้วหายรถก็ไม่ใช่บาทสองบาท เคยคิดจะขี่ไปทำงาน
เพราะระยะทางไม่ไกล แต่พอคิดถึงเวลาจอดแล้วเสียวหายทุกที
เอามาจอดในห้องทำงานส่วนตัวก็ได้แต่ยุ่งยากอีก
ผมคนกลางเอียงข้างความถูกต้อง
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 10:38
ตอนนี้เอกชนอย่างดีแทค ก็มีจัดจักรยานให้ประชาชนทั่วไปใช้
รายละเอียดไม่ทราบ แต่เห็นตั้งสถานีจักรยาน แถวจุฬา ช่วงเกือบถึงสำนังานใหญ่ดีแทค
ที่จามจุรีสแควร์ ถามว่าเห็นด้วยไหม ถ้าเริ่มสัก 20 ปีก่อนก็น่าจะเป็นรูปเป็นร่างง่าย
แต่ตอนนี้พูดยากครับ ปัจจัยก็เรื่องความปลอดภัยล้วนๆ
ปล.ใครยังมีใบขับขี่จักรยานอยู่บ้างครับ คิดถึงๆ
ดีแทคเขามีโครงการปั่นจักรยานเพื่อน้องด้วยครับ รู้สึกว่าจะทำทั่วประเทศติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แล้ว
เมื่อปีที่แล้วใน กทม. ผมติดธุระไม่ได้ไป เขาปิดถนนบรมราชชนนีให้ขึ้นไปปั่นกัน (ถ้าจำไม่ผิดนะ)
ประเทศเนเธอร์แลนด์เขาขี่ของเขาเองริเริ่มเอง ไม่ได้สนใจรัฐ ถ้าเฮียโจโฉพูดอย่างนี้ ดูจากอายุ
อานามแล้ว ผมขอตำหนินิดนึง ว่า แล้วทำไมคนรุ่นคุณ (และผมด้วย) ไม่ริเริ่มกันเองตั้งแต่เมื่อ 20
ปีก่อนล่ะครับ (ความจริงผมก็ตำหนิตัวเองด้วยนะ อิอิ)
เรื่องความปลอดภัย ถ้ายังไม่ได้ขี่ อย่าพึ่งจินตนาการความกลัวมาใส่ในใจเราก่อน ซักห้าหกโมงเย็น
ไปถึงสองทุ่ม ลองดูในเมืองน่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นสีลม สาทร ราชประสงค์ ปั่นกันเยอะมาก ปั่้นมาเรียน
มาทำงาน มาใช้ในชีวิตประจำวันเลยนะครับ แล้วถ้ามีเวลา ลองไปลานพระรูปครับ ลองดูวันเสาร์คนจะ
เยอะหน่อย ลองเดินเข้าไปถามครับ ว่ามาจากไหนกัน จะไปไหนกันต่อ รถราคาเท่าไหร่ ทำอาชีัพอะไร
แล้วเราจะพบคำตอบให้โลกเรากว้างมากขึ้น ความกลัวอาจจะหายไปก็ได้ครับ
ปล. ผมเคยเห็นใบขับขี่จักรยานของพ่อผมครับ แม่ยังเก็บไว้ดีอยู่ แต่ตอนนี้ยกเลิกไปแล้วครับ
มีสมาคมหนึ่งคิดว่าจะให้กลับมามีเหมือนเดิม แต่ก็โดนค้านอยู่พอสมควร เพราะอาจจะเป็นช่องทาง
ทำหาหากินให้ตะกวดได้อีกช่องทางหนึ่ง
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:03
ดีใจที่มีนักปั่นเพิ่มขึ้นมาอีกคนนึง ขี่ในสวนหรือในซอยออกกำลังกายก็ดีครับ
ถ้าปั่นทุกวัน ไม่สนใจระยะทาง และมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง มีแค่ทางสั้นๆ ในซอย
แล้วอยากผอมมีหัวใจดี ปอดดี สมาธิดี กล้ามเนื้อดี
หลังไมค์มา ผมมีสูตร ...... อิอิ
สวดยวดดดดดดดดดดดดดดด
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:14
ประเทศนี้มีอะไรพิเศษ เสียงส่วนน้อยไม่มีสิทธิและเสียงเท่ากับเสียงส่วนมาก
จักรยานก็เช่นกัน
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:17
กระทู้นี้ ไม่อยากเกี่ยวกับการเมือง หรือการเลือกตั้งผู้ว่านะครับ
บังเอิญ ไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องจักรยานในกระทู้ของคุณ bird
แล้วนึกถึงขึ้นมา
แต่ขอแว้งเกี่ยวกับผู้สมัครนิดนึงก็แล้วกัน
เห็นนโยบายหาเสียงของผู้สมัครแต่ละท่าน เรื่องจักรยาน
พงศพัศก็มี หม่อมก็มี สุหฤทก็มี หรือ ดร.โสภณก็มี
ความจริง ผมอยากสนับสนุนโครงการนี้
ไม่ว่าจะเป็นไอเดียของใคร
หมายความว่า หากใครได้เป็นผู้ว่า
ผมอยากจะให้ผู้สมัครที่เหลือแต่ละคน ที่มีนโยบายนี้
มาร่วมหัวกัน เพื่อดำเนินการให้สำเร็จอย่างจริงจัง
ตรงนี้ หากผู้ว่าคนใหม่ จะสามารถรับไอเดียใครมาพัฒนา
ผมก็เห็นดีด้วยทั้งสิ้นครับ
สังคมเพื่อนฝูงรอบๆ ตัวตอนนี้ หันมาขี่จักรยานกันอย่างจริงจังกันหลายกลุ่มครับ
ผมเอง กำลังมองหาอยู่สักคัน แต่ไม่ได้คิดจะออกสนามใหญ่ หรือออกนอกถนน
อย่างน้อยก็ในเร็ววันนี้
เพราะไม่เคยขี่จักรยานจริงๆ มา น่าจะไม่ต่ำกว่า 20 ปี
แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบเดินถ่ายรูป ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
เคยคิดบ่อยๆ ว่าบางครั้ง ถ้าเราตระเวณถ่ายรูปไปพร้อมกับการขี่จักรยาน
คงจะเพลิดเพลินไม่น้อย นึกถึงบรรยากาศบางแห่ง เช่น ปาย เชียงใหม่
อะไรแบบนี้แหละครับ
เลยคิดจะหาจักรยานแบบพับได้ ใส่ไว้ท้ายรถสักสองคัน
ไปไหนก็เอาไปด้วย มีสถานที่ก็เอาลงปั่นไป ถ่ายรูปไป
คงจะดีความสุขดีไม่น้อย
แต่ในสังคมรอบตัวผม
หลายคนเอาจริงเอาจังกับการปั่นจักรยานมาก
ถึงขนาดที่ว่า ไม่ใช้รถ แต่ใช้จักรยานและรถไฟฟ้ากันเลยทีเดียว
ไปไหนก็ไปด้วยจักรยาน ไปทำงานก็เอาเป้ใส่เสื้อผ้าไปอาบน้ำที่ออฟฟิศ
หลายคนก็เรียกร้องการเอาจริงเอาจังในเรื่องจักรยานมาก
เพราะความไม่ปลอดภัยและอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับจักรยาน
ไม่นานมานี้ มีโอกาสได้เห็นภาพข่าวจากเมืองๆ นึง
ที่เมื่อประมาณ 15-20 ปีก่อน เป็นเมืองที่แออัดไม่ต่างจากกรุงเทพ
จึงมีการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองที่สนับสนุนการใช้จักรยานอย่างจริงจัง
ทำเลนจักรยานแยกออกไป และไปถึงได้ทุกที่
รักษากฏระเบียบอย่างเคร่งครัด
การใช้รถยนต์ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
ถนนหนทางดูปลอดภัยมากขึ้น คนเริ่มมีความสุขกับการนั่ง เดิน พบปะกันบนท้องถนน
ความเปลี่ยนแปลงนั้น ใช้เวลาประมาณ 15-20 ปีเท่านั้นเอง
(ผมจำไม่ได้และหาลิงค์ไม่เจอครับ ว่าเป็นเมืองอะไร)
เทียบกับบ้านเรา
โอกาสในการสร้างเลนจักรยาน มีได้ยากเย็น
จะใช้ร่วมกับถนน (ดูเหมือนจะมีการขอทางให้แค่ 3 ฟุต)
ก็ยังจะเป็นเรื่องยากเย็น
เพราะเมื่อไหร่ที่ต้องใช้ร่วมถนนกับรถคันอื่น
แน่นนอนว่า จะต้องมีรถคันอื่นมาใช่ร่วม
มันจะกลายเป็นเลนมอเตอร์ไซด์ รถเมล์ และที่จอดรถตู้ รถยนต์ทั่วไปทันที
โอกาสจะเป็นไปได้และปลอดภัย ดูเหมือนจะต้องทำแบบเมืองที่ผมยกตัวอย่าง
คือกันพื้นที่ทางเท้ามาส่วนหนึ่ง
แต่บ้านเราก็ไม่มีทางเท้าให้มากเพียงพอจะทำพื้นที่ให้จักรยานได้
ไม่นับรวมพวกขายของ จอดรถ หรือะไรต่อมิอะไรบนทางเท้า
ผมนึกภาพไม่ออกเอาเลย
โอกาสที่เมืองใหญ่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร
จะสามารถใช้จักรยานร่วมกับรถคันอื่นบนท้องถนนอย่างปลอดภัยเพียงพอ
นอกเสียจากจะถูลู่ถูกังไปเอาเอง
หรือดีที่สุดสำหรับคนกรุงเทพ
จะเป็นไปได้แค่เพียงการออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ
เช่นสวนรถไฟ หรืออะไรอย่างนั้นไป
แม้ที่ผ่านมา
จะพอมีโครงการเกี่ยวกับรถจักรยานมากขึ้น
แต่ความจริงจังผมยังไม่เห็นชัดนักครับ
เพราะความเป็นไปได้ เกิดขึ้นได้ยากจริงๆ (ผมเชื่อว่างั้น)
อยากได้ไอเดียครับ
ว่าจะทำอย่างไร ให้กรุงเทพ สามารถใช้จักรยานร่วมกับรถคันอื่นบนท้องถนน
ตรงนี้ต่างหาก ที่เป็นเรื่องสำคัญ
มากไปกว่าจำนวนจักรยานที่ กทม จะมีให้เช่า
แต่ปล่อยให้ขี่กันไปตามยถากรรม
แม้ว่าวันนี้ อดีตผู้ว่าจะเริ่มทำโครงการเกี่ยวกับจักรยานไปบ้างแล้ว
เราสามารถหิ้วจักรยานขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว
ผมก็มองว่ามันยังไม่พอ
ผมอยากได้ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนกว่านี้ครับ
เผื่อวันนึง ผมอาจจะนึกอยากขี่มาทำงานบ้าง
(บ้านห่างจากออฟฟิศประมาณ 8-9 กิโลเท่านั้น)
แต่ตอนนี้ ยอมรับว่าไม่กล้าครับ
อยากได้ไอเดียเพื่อนสมาชิกครับ เราจะทำอย่างไรได้บ้าง
หรือจะนำเสนออะไรได้บ้าง ต่อผู้ว่าคนต่อไป
(หากใครอยากหาเสียงให้ผู้สมัคร กรุณาเอาความเป็นรูปธรรมมานำเสนอนะครับ)
ผมว่าเอาจริงๆ ยากครับ คนปั่นจักรยานจริง มีไม่เยอะหรอกครับ คุณ Tony น่าจะเคยอยู่ ตปท อากาศมันไม่ได้ร้อนเหมือนประเทศไทย
ยิ่งโซนยุโรป หน้าหนาว 9 เดือน หิมะตะสัก 3 เดือน หน้าร้อนอีก 3 เดือน โดยประมาณ ปั่นที่ต่างประเทศสบายครับ เคยปั่นแล้ว หน้าหนาว หรือช่วงเปลี่ยนฤดู ปั่นยังไง เหงือก็ไม่ออก คนส่วนใหญ่ ฝรั่งถ้าบ้านใกล้ ก็ปั่นไปทำงาน ขนาดบ้างไปรษณีย์บ้างประทศในยุโรป ยังส่งจดหมาย โดยการปั่นจักรยานครับ
ยิ่งหน้าร้อน อุณหภูมิที่ยุโรป ไม่ต่างกับไทยครับ แค่ที่ยุโรป มันร้อนแห้ง ร้อนแห้ง ความชื้นน้อย ปั่นยังไง เหงื่อก็ออกไม่เยอะ ได้แค่เหนือยหอบๆ แหกๆ เวลาขึ้นลงเนิน
เทียบกับสภาพอากาศประเทศไทย เจอหน้าฝน กี่เดือนละก็จบแล้ว ฝนตกทุกวัน หรือวันเว้นวัน ปั่นไปทำงานคงไม่ไหว
หน้าร้อนไม่ต้องพูดถึง ปั่นไม่เกินกิโล เหงือถามหาแน่ๆ เพราะประเทศไทยร้อนชื้น
ส่วนหน้าหนาวในไทย เหมือนจะไม่มี
แต่ถ้าจะสนับสนุน อยากให้สนับสนุน เป็นจุดๆ หรือเป็นเขตๆ ไป บ้างเขตบ้างพื้นที่ ทางสบายปั่นจักรยานสบาย แต่เอาจริง เทียบกับจำนวนคนอยู่ ผมคนหนึ่งละ อาจจะปั่นเล่นๆ หรือแค่ออกกำลังกายก็โอเค แต่ถ้าเอาจริงๆ จังๆ ความคิดผม คิดว่าค่อนข้างลำบาก และเป็นไปได้น้อย
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:30
http://www.iurban.in...ght/bikexenger/
https://www.facebook.com/BikeXenger
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:34
หน้าร้อนเมืองไทย กลางแดดเปรี้ยงๆ อุณหภูมิ 35 องศา
ปั่นความเร็วที่ 25 กม. ต่อ ชม. ลมพัดปะทะตัวเรา ที่มี
เหงื่อออกมา ทำให้เรารู้สึกเย็นสบาย หายร้อนไปได้เลย
กล้วดำก็มีครีมกันแดดยี่ห้อต่างๆ มีผ้าโพกหน้า มีปลอกแขน
กางเกงขายาว เสื้อผ้าทำจากวัสดุอย่างดี ไม่ร้อน ลมพัดที
เย็นฉะบายยยยย
ล่าสุดไปวัดอ้อน้อยมา 145 โล ไม่อยากจอดเลย จอดปุ๊บ
ต้องหาที่ร่มไม่งั้นแย่แน่ๆ แต่พอปั่นแล้ว เย็นสบาย กลับมา
ลดไปได้อีก 1.5 โล แต่พอทานมื้อเย็น แบบจัดหนัก ทำให้
สรุปว่าลดไปได้แค่ .5 โล ......... เซงงงงงงง
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:50
กระแสรถจักรยานกำลังมาแรงมากครับตอนนี้
สำหรับที่ กทม. ผู้ว่าสุขุมพันธ์แต่งตั้งคุณตรีดาว อภัยวงศ์ เป็นที่ปรึกษาและโฆษก ซึ่งคุณดาวและสามีต่างก็เป็นนักปั่นจักรยานทั้งคู่
ผมเชื่อว่า กรุงเทพฯเมืองจักรยาน น่าจะมีเห็นเป็นรูปธรรมมากกว่าแต่ก่อนแน่นอนครับ
ส่วนที่เชียงใหม่เคยมีการตีเส้นbike lane รอบคูเมืองด้านใน แต่ก็fail เพราะไม่เอื้อและไม่ปลอดภัยต่อการขี่จักรยานเท่าไหร่
แต่ก็กำลังมีการศึกษาเรื่องนี้อีกครั้ง ซึ่งก็หวังว่าจะทำได้จริงๆเพราะเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่เหมาะแก่การขี่จักรยานมากครับ
“ไม่เคยคิดว่าจะเป็นนักการเมืองนะแต่ก็มีคนมาชวนๆไปเล่นการเมืองซิแต่นิสัยเราไม่ใช่นักการเมืองแต่เราขอเป็นคนนอกที่สนใจบ้านเมือง บ้านเราจะคุยเรื่องการบ้านการเมืองอยู่เสมอมีความคิดแตกต่างกันบ้างแต่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พอมาเป็นโฆษกเราก็ต้องคำนึงถึงองค์กรเราก่อนไม่ใช่นางสาวตรีดาวเหมือนแต่ก่อนแล้วที่จะสามารถพูดได้เต็มปากเหมือนประชาชนทั่วไปแต่ต้องดูว่าบางอย่างพูดออกไปจะไปกระทบกับส่วนอื่นหรือไม่ซึ่งหน้าที่โฆษกของเราคือต้องสื่อสารให้ความรู้กับประชาชนในสิ่งที่ควรรู้ เพราะคนรู้เกี่ยวกับ กทม.น้อยมากแม้แต่ตัวเราเองซึ่งถ้าเราทำให้เขาเข้าใจมากขึ้นมันก็ดีนะ ส่วนในฐานะที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.พี่ขอดูเรื่องจักรยานเป็นลำดับแรกเลยเพราะพี่และสามีชอบปั่นจักรยานมาก รวมถึงในส่วนของสำนักการศึกษา สำนักวัฒนธรรมฯ กลุ่มกรุงเทพใต้ งานประชาสัมพันธ์ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพที่เราเคยทำมา”
Edited by paper punch, 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:59.
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:02
ที่เชียงใหม่มีชมรมจักยานเยอะครับ ร้านจักรยานดีๆ ก็มีเยอะ
คนขี่ก็เยอะ ปีหน้าทริปพิชิตยอดดอยอินทนนท์ ผมยังอยากไปเลย
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:25
โห คุณMoon จะขี่ขึ้นดอยอินทนนท์ แสดงว่าไม่ธรรมดาแล้วละครับ
เคยอ่านในเว็บ เห็นว่าใช้เวลากันประมาณ 6-7 ชม. นับถือจริงๆ
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:01
ผมยังพึ่งเริ่ม ยังไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นมือใหม่ด้วยซ้ำ
แต่ยังไม่คิดออกถนนใหญ่หรอกครับ
ฝึกขี่แถวบ้าน และสวนหลวง ร 9 รวมถึงรอบๆ บึงหนองบอนไปก่อน
จนกว่าจะสามารถควบคุมการขี่ให้ได้คล่องๆ สักหน่อยแล้วค่อยว่ากัน
เพราะผมเป็นคนตัวใหญ่ อ้วน การจะหักบิด หรือขยับใดๆ
อาจไม่ง่ายเท่าคนตัวเล็กๆ ทั่วไป
รวมถึงเกิดมาก็ไม่เคยขี่แบบมีเกียร์สักที
ตอนแรก ปรึกษาคุณมูนไว้เหมือนกัน ตั้งงบไว้ไม่กี่พัน
เมื่อเช้า เอาจักรยานไปเปลี่ยนยางนอกยางใน ซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม
ก็หมดไปอีกหลายตังค์ ตนจะได้เท่าซื้อรถใหม่ๆ แล้ว อิอิ
การขี่ขึ้นดอยอินทนนท์ ที่ผมพึ่งเข้าไปดูในพันทิพมา
เอาแค่เอารถยนต์ขึ้นไปยังเหนือยใจเลยครับ
ถ้าสามารถไต่ทางชันไปได้หลายสิบกิโล ไม่นับอากาศที่จะเปลี่ยนไปด้วย
นับว่า ต้องแสดงความนับถืออย่างสูงจริงๆ
ผมคิดไปถึงโอกาสที่เลนจักรยานจะสามารถเกิดได้ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพ
มองว่าเป็นไปได้ยากจริงๆ ครับ
ดังนั้น โอกาสที่จะมีได้ และดีที่สุด คือต้องออกไปปั่นกันให้เยอะๆ
เพื่อที่ผู้ขับขี่คันอื่นบนท้องถนน จะสามารถเห็นหัวคนขี่จักรยานได้มากกว่าที่เป็นอยู่
เมื่อนั้น สิ่งที่จะตามมา ก็น่าจะเป็นความปลอดภัยและวินัยจราจรในเลนซ้าย
ปัญหาของเมืองใหญ่ ผมมองว่าเลนซ้ายนี่แหละ
มีรถจอด มีรถวิ่งผิดประเภท แทกซี่ รถตู้ จอดรอผู้โดยสาร
ถ้าจำนวนผู้ขับขี่จักรยานมีสูงมากขึ้น มันก็จะสามารถผลักดันให้เกิดการเอื้ออาทรให้ได้มากขึ้น
อาจส่งผลอ้อมให้การรักษาวินัยจารจรไปได้อีกทาง
สิ่งที่ กทม, ตำรวจ, รัฐบาล จะเริ่มได้เลย
ก็คือการดูแลวินัยการจราจร ผู้ค้าขาย การจอดรถ ทางเท้า
รถเมล์ รถตู้ มอเตอร์ไซด์
นี่คือสิ่งที่ทำได้เลย และสมควรผลักดันอย่างยิ่ง
อากาศจะร้อน ผมมองว่า มันเป็นสิ่งที่เรายอมรับกันได้อยู่นะครับ สำหรับผู้ขี่จักรยาน
เพราะอย่างที่คุณมูนว่า ขับไป ลมตีหน้ามันก็ไม่ร้อนมาก
ถ้าเราขีบแบบไม่เอาเป็นเอาตาย ผมก็ว่ามันสบายๆ อยู่นะ
เว้นแต่เรื่องอากาศเสีย มลพิษ
ส่วนเรื่องดำ ผมไม่กลัวเท่าไหร่ ไม่ใช่ปัญหาครับ
เดี๋ยวขี่เก่งๆ แล้ว ต้นปีหน้า จะเอารูปผมไปปั่นที่ไหนสักแห่งในเชียงใหม่
หรือยอดดอยทางเหนือมาฝากครับ อิอิ
(แต่สาบานได้ ไม่ปั่นขึ้นดอยแน่ๆ กลัวจะตายซะก่อนตั้งแต่ตีนดอยครับ อิอิ)
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:08
โห คุณMoon จะขี่ขึ้นดอยอินทนนท์ แสดงว่าไม่ธรรมดาแล้วละครับ
เคยอ่านในเว็บ เห็นว่าใช้เวลากันประมาณ 6-7 ชม. นับถือจริงๆ
ครับ แก่แบบไม่ธรรมดา คนอื่น 6-7 ผมน่าจะ สิบ ช.ม. อัพครับ
คือทางชมรมเค้ามีเป้าหมายว่าจะไปงานประเพณีแบบนี้ครับ
ดอยอินทนนท์ ทริปนึง หัวหิน ทริปนึง เด็กๆ เขา่เริ่มซ้อมปั่น
ที่เขาใหญ่กันแล้ว เขาวางแผนซ้อมคือ ซ้อมที่แก่งกระจาน
เขาใหญ่ แล้วก็ภูทับเบิก แล้วเราจะขึ้นอินทนนท์ได้ง่าย
ส่วนตัวผม ยังไม่ได้ซ้อมขึ้นเขาเลยครับ ขี่แต่ทางเรียบอย่างเดียว
แต่พี่ๆ น้องๆ ไป เราก็ต้องไป ครับ ไม่ไหวก็เข็น แต่อย่างแรก
เราต้องตั้งใจไม่ให้เท้าแตะพื้นให้ได้ก่อน ถ้าไม่ไหว แตะที่ กม.
ไหนก็จำเอาไว้ แล้วคราวหน้าไปล้างแค้นใหม่
พอปั่นแล้วเจอพี่ๆ น้องๆ แล้วความบ้ามันจะมาพร้อมๆ กับสุขภาพ
ที่ดีครับ แล้วเราก็ได้ท่องเที่ยวไปด้วย พอวันศุกร์ก็ต้องแบ่งเวลา
มาวางทริป มาปรึกษากันว่า เสาร์อาทิตย์จะไปไหนกันดี ไปกินอะไร
ไปไหว้พระมั้ย มีน้องใหม่ไปด้วยมั้ย หรือมีแต่ขาแรง ฯลฯ หนุกดีครับ
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:20
เอาคำนี้มาฝากเฮียโทนี่ครับ
"จักรยานแพงคุยกัน 5 นาทีแต่ปั่นดีคุยกันเป็นวัน"
แล้วเฮียจะรู้ จะสัมผัสได้เองครับ ว่าคำนี้ จริงขนาดไหน
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:34
555555
เดี๋ยวรอถึงตอนผมปั่นดีก่อนเถ้อ คุณมูน
เดี๋ยวจะมาโม้ อิอิ
เมื่อวาน ผมเข้าไปตอบกระทู้นึงของผู้หญิงท่านนึง ที่มาปรึกษาเรื่องการเป็นมือใหม่ ไม่กล้าปั่นเพราะยังปั่นจักรยานไม่เป็น
ผมให้กำลังใจ บอกว่า งั้นก็มาเริ่มพร้อมผม เพราะผมยังไม่เป้นเหมือนกัน
แต่พอปั่นไป โดยเฉพาะปั่นตอนอากาศกำลังดีตอนเช้าๆ ในสวนหลวง
อย่างที่คุณบอกไว้ครับ ลมปะทะหน้า ถึงตอนนั้น มันสดชื่นกว่าตอนเดินเยอะเลย
เดี๋ยวจะพยายามให้ได้คุยได้เป็นวันครับ รอผมหน่อย
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:11
อ่านของคุณมูน นึกถึงตอนขี่ขึ้นวัดพระธาตุดอยสะเก็ดครั้งแรกเมื่อ3ปีที่แล้วครับ
เขาไม่สูง ไม่ชันมาก ระยะทางแค่200-300เมตรจากตีนดอย แต่ผมปั่นขึ้นไปไม่ถึง..
กลับไปบ้านคืนนั้นนอนไม่หลับเลยครับ คาใจมาก จนต้องกลับซ้ำอีกไม่กี่วันถัดมาแล้วถึงทำได้
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:25
ขี่จักรยานขึ้นเขาค่ะ ขาเป็นกล้ามเลย อิอิ
เปิดเทอมกลับไปเรียน บ้านห่างจาก
โรงเรียน 16 กิโลฯ แต่เป็นจักรยานแบบ
downhill มันช้าเกินไปค่ะ คิดจะเล่นเสือหมาบ
(แต่กลัวยางแตก ถนนห่วย) เลยเอาเสือภูเขาดีกว่า
เร็วกว่าdownhill เยอะ
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:02
555555
เดี๋ยวรอถึงตอนผมปั่นดีก่อนเถ้อ คุณมูน
เดี๋ยวจะมาโม้ อิอิ
เมื่อวาน ผมเข้าไปตอบกระทู้นึงของผู้หญิงท่านนึง ที่มาปรึกษาเรื่องการเป็นมือใหม่ ไม่กล้าปั่นเพราะยังปั่นจักรยานไม่เป็น
ผมให้กำลังใจ บอกว่า งั้นก็มาเริ่มพร้อมผม เพราะผมยังไม่เป้นเหมือนกัน
แต่พอปั่นไป โดยเฉพาะปั่นตอนอากาศกำลังดีตอนเช้าๆ ในสวนหลวง
อย่างที่คุณบอกไว้ครับ ลมปะทะหน้า ถึงตอนนั้น มันสดชื่นกว่าตอนเดินเยอะเลย
เดี๋ยวจะพยายามให้ได้คุยได้เป็นวันครับ รอผมหน่อย
จะรอวันนั้นครับ ...... แล้วเราจะได้เห็นเหงื่อกัน 5555+
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:04
อ่านของคุณมูน นึกถึงตอนขี่ขึ้นวัดพระธาตุดอยสะเก็ดครั้งแรกเมื่อ3ปีที่แล้วครับ
เขาไม่สูง ไม่ชันมาก ระยะทางแค่200-300เมตรจากตีนดอย แต่ผมปั่นขึ้นไปไม่ถึง..
กลับไปบ้านคืนนั้นนอนไม่หลับเลยครับ คาใจมาก จนต้องกลับซ้ำอีกไม่กี่วันถัดมาแล้วถึงทำได้
ฮ่วย ... แล้วผมจะพิชิตยอดอินทนนท์ได้มั้ยเนี่ย สงสัยผมจะต้องซ้ำหลายปีแล้วหละ
ผมโดนท้าเอาไว้แล้วด้วย ... เวลาไม่เป็นไร แต่ขาห้ามแตะพื้นโดยเด็ดขาด ... ซวยแน่ๆ
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:07
ขี่จักรยานขึ้นเขาค่ะ ขาเป็นกล้ามเลย อิอิ
เปิดเทอมกลับไปเรียน บ้านห่างจาก
โรงเรียน 16 กิโลฯ แต่เป็นจักรยานแบบ
downhill มันช้าเกินไปค่ะ คิดจะเล่นเสือหมาบ
(แต่กลัวยางแตก ถนนห่วย) เลยเอาเสือภูเขาดีกว่า
เร็วกว่าdownhill เยอะ
ขาเ็ป็นกล้าม แต่ไม่โป่ง ชิมิ ยิ่งขี่ขึ้นเขาซอยขาใช้เกียร์เบาๆ เยอะๆ
ไขมันจะยิ่งหายไป จนเหลือแต่กล้ามเนื้อ ... ผู้หญิงมีกล้ามสวยนะครับ
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:09
ผมขับรถขึ้นดอยอินทนนท์ ยังต้องแวะฉี่เลยครับ
ถ้าขึ้นดอยขาห้ามแตะพื้น ระวังน่องระเบิดเอานะครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:17
เข้าใจผิดแล้วครับ เราไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อน่องกดลงไปเท่านั้นครับ
เราใช้ทุกส่วนกดลงไปที่ลูกบันใดแล้วดึงขึ้นเบาๆ ครับ เราต้องใช้
เกียร์ให้เป็นครับ
เฮียโทนี่ลอง ใช้เกียร์หน้า 2 แล้วหลัง 3 ซิ ห้ามเปลี่ยนเกียร์
ตลอดระยะทางที่ขี่ แล้วใช้ขาแตะลูกบันใดลงไปเบาๆ ตลอดทาง
ขาจะเร็วยังไงปล่อยไป แล้วค่อยๆ คุมรอบขาเอา
รับรอง ไม่เกินรอบเดียว เหงื่อแตกพลั่กๆ เผลอ ๆ ไม่ถึงรอบซะด้วยซ้ำ
การใช้กล้ามเนื้อกดลงไปที่บันใดแรงๆ และหนักๆ ไม่ใช่การออกกำลังกาย
ที่ถูกต้องสำหรับผู้ที่เริ่มครับ นั่นคือการทำร้ายกล้ามเนื้อครับ
บอกแล้ว อยากได้สูตร หลังไมค์มา .......... อิอิ
[color=#000080;]จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง[/color]
ผมเป็นกลางนะครับ[color=#000080;] [/color]
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:28
เข้าใจผิดแล้วครับ เราไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อน่องกดลงไปเท่านั้นครับ
เราใช้ทุกส่วนกดลงไปที่ลูกบันใดแล้วดึงขึ้นเบาๆ ครับ เราต้องใช้
เกียร์ให้เป็นครับ
เฮียโทนี่ลอง ใช้เกียร์หน้า 2 แล้วหลัง 3 ซิ ห้ามเปลี่ยนเกียร์
ตลอดระยะทางที่ขี่ แล้วใช้ขาแตะลูกบันใดลงไปเบาๆ ตลอดทาง
ขาจะเร็วยังไงปล่อยไป แล้วค่อยๆ คุมรอบขาเอา
รับรอง ไม่เกินรอบเดียว เหงื่อแตกพลั่กๆ เผลอ ๆ ไม่ถึงรอบซะด้วยซ้ำ
การใช้กล้ามเนื้อกดลงไปที่บันใดแรงๆ และหนักๆ ไม่ใช่การออกกำลังกาย
ที่ถูกต้องสำหรับผู้ที่เริ่มครับ นั่นคือการทำร้ายกล้ามเนื้อครับ
บอกแล้ว อยากได้สูตร หลังไมค์มา .......... อิอิ
หนูใช้เกียร์เบาตลอดค่ะ แต่มันช้ามากเกิ้น
จักรยานแม่บ้านยังขี่แซงหนูเลย อยากทราบ
วิธีการสับเกียร์น่ะค่ะ เห็นพวกขี่ trek เขาขี่เร็วมากเลย
ขอบคุณค่ะ
ตอบ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:13
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:48
http://www.komchadlu...ml#.UbQjd_lvArU
วันเปลื้องผ้าขี่จักรยานโลก!!ชาวเม็กซิโก ซิตี้ หลายพันคน เปลื้องผ้าขี่จักรยานไปตามท้องถนน เนื่องในวันเปลื้องผ้าขี่จักรยานโลก
9 มิ.ย. 56 วันเปลื้องผ้าขี่จักรยานโลก ประจำปี 2556 จัดขึ้น ตามเมืองใหญ่ๆ อย่างน้อย 70 เมือง ใน 20 ประเทศทั่วโลกเมื่อวานนี้ ... ที่ประเทศเม็กซิโก นักขี่จักรยานหลายพันคนในเมืองเม็กซิโก ซิตี้ นุ่งน้อยห่มน้อยขี่จักรยานไปตามท้องถนน ... โดยจุดประสงค์หลัก ต้องการให้ผู้ขับขี่รถยนต์ ตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ขี่จักรยานมากขึ้น และการที่จะต้องเปลื้องผ้า ก็เป็นสัญลักษณ์แทนความบอบบางของร่างกายมนุษย์
อีกจุดประสงค์หนึ่งก็คือ เพื่อกระตุ้นให้โลกช่วยกันลดการพึ่งพาการใช้น้ำมันฟอซซิล สู่การใช้พลังงานสะอาด หรือการขี่จักรยานแต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เข้าร่วมจะต้องเปลื้องผ้าทั้งหมด ... โดยหลายคนใส่บิกินี่ หรือกางเกงขาสั้น
การรณรงค์ด้วยการเปลื้องผ้าขี่จักรยาน เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน เมื่อ 9 ปีก่อน ที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา และจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีในช่วงเวลาใกล้เคียงกันในอย่างน้อย 29 เมืองทั่วโลก
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
ตอบ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:43
การเปลื้องผ้าทำกิจกรรมใดๆ นี่ ผมเฉยๆ นะครับ
แต่การเปลื้องผ้าเพื่อปั่นจักรยานนี่ ผมไม่เห็นด้วยจริงๆ
อย่างที่เห็น
อานจักรยานสมัยนี้ ไม่เหมือนอานจักรยานแม่บ้านสมัยก่อน
ขนาดจะเรียวเล็กลงไปเยอะครับ
นึกภาพออกมั๊ยครับ
ตอนนี้ ผมเริ่มชินมากขึ้น
แต่ก็ยังเจ็บก้นกับเจ้าอานจักรยานแบบนี้อยู่ดี
ซื้อกางเกงแบบที่มีที่รองก้นก็ยังไม่หาย
เลยซื้อเจลรองเบาะ ที่ทำให้เบาะหนานุ่มขึ้น ก็พอรู้สึกดีขึ้นครับ
(นึกภาพคนอ้วนๆ น้ำหนักตัวร้อยนึงกับอานจักรยานแบบนี้ ไม่น่าจะเหมาะสมกันมาก)
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 05:56
ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการขี่จักรยานเปลื้องผ้า .....
.....
โดยมีผู้ชายมาร่วมด้วย ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:19
ขอขุดกระทู้คุณโทนี่นะครับ
วันนี้กทม.นัดประชุมทุกภาคส่วนเรื่องจักรยานเป็นครั้งแรกหลังมีการเลือกตั้งผู้ว่า
โดยคุณตรีดาว ที่ปรึกษาผู้ว่าฯเป็นประธานที่ประชุม ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีครับ
ติดตามความคืบหน้าที่
Bangkok Bicycle Campaign https://www.facebook.../BangkokBicycle
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:33
ถ้าเปลื้องผ้าแบบนี้ล่ะ
“ ...คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ,
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:07
ผมสังเกตุ มีชาวจักรยานเริ่มตื่นตัว อยากให้กรุงเทพมีเลนจักรยานกันเยอะแล้ว
เชื่อว่า ถ้า กทม จะเอาจริง พัฒนาถนนบางเส้นให้สามารถปั่นจักรยานได้โดยปลอดภัย
จะสามารถสร้างแรงจูงใจในการขี่จักรยานได้อีกเยอะเลยครับ
จริงอยู่ หลายท่านไม่กลัว และลองออกไปปั่น
แต่ผมนึกภาพ ถ้าเป็นคนแก่ หรือเด็ก หรือผู้หญิง อาจไม่กล้า
ถ้าผมมีลูก ผมก็ยังไม่กล้าให้ลูกปั่นจักรยานไปโรงเรียนในกรุงเทพแน่ๆ
หวังว่า กทม จะเอาจริงเสียที แม้จะทำได้แค่เพียงบางสายก็ยังดี
เพราะโอกาสจะเริ่มร้อมกัน พลิกกรุงเทพเป้นเมืองจักรยาน
ชาตินี้คงไม่ได้เห็น ข้อจำกัดมันเยอะแยะ
http://pantip.com/topic/30620033
นี่เป็นความพยายามที่สุหฤทได้เริ่มทำแล้ว
http://pantip.com/topic/30615998
นี่ก้เป้นประเด็นเดียวกับที่คุณ paper punch นำมาลงครับ
ชาตินี้ ประเทศเราจะได้เห็นแบบนี้มั๊ย
http://pantip.com/topic/30599086
Edited by tonythebest, 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:08.
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:12
อ้อ ลืมบอก ผมไปตั้งกระทู้ใหม่ในห้องชายคาแล้ว เพราะไกลการเมืองออกไปทุกทีครับ
http://webboard.seri...et/topic/35924-หาความรู้สำหรับมือใหม่ที่อย/
เชิญผู้สนใจอยากให้ความรู้และหาความรู้เกี่ยวกับจักรยานไปพูดคุยกันได้เลยครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:14
ผมเห็นด้วยเรื่องอานจักรยานมากครับ แบบว่า มันเจ็บตะหรูดแบบสุดๆ จริงๆ
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
ตอบ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 01:03
ลดเกาะกลาง เพิ่มทางเท้าและทางจักรยาน ทางจักรยานควรเป็นมากกว่าทางสำหรับขี่เล่นๆ แต่ควรใช้สำหรับสัญจรไปยังที่ต่างๆได้ด้วย
ไม่จำเป็นต้องเข้าทุกซอกทุกมุมก็ได้ ขอแค่ผ่านไปยังจุดสำคัญๆ ต่างๆ ได้ก็พอ
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม คือ ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง
คุณธรรมที่พร้ำสอน ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา ส่วน ประชาธิปไตยน่ะรึ เอาเข้าจริงๆ สำคัญอันใด??
ตอบ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 04:27
เรื่องที่สำคัญที่สุดที่มักถูกมองข้ามคือ "ที่จอดจักรยานทิ้งไว้ได้อย่างปลอดภัย" ครับ ปัญหาสำหรับการใช้จักรยานในชีวิตประจำวันเดี๋ยวนี้คือไปถึงที่หมายแล้วไม่รู้จะเอาจักรยานไปไว้ตรงไหน? เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเลยเพราะเท่ากับการเสี่ยงที่จะต้องเลิกใช้จักรยานอย่างทันทีทันใดโดยไม่เต็มใจ การวางเครือข่ายจักรยานต้องทำไปด้วยกันทั้งต้นทาง(คือมีจักรยานและใจที่จะปั่นออกมาจากบ้าน) ระหว่างทาง(ไบค์เลน การรณรงค์ให้มีน้ำใจกับผู้ขับขี่จักรยาน และปลายทาง(ระบบจอดจักรยานที่ปลอดภัย เก็บค่าบริการได้ไม่ต้องฟรี) ตรงนี้จึงจะสร้างองค์รวมที่ทำให้เกิดสังคมจักรยานขึ้นมาได้ ผมอยากให้มีบริษัทห้างร้านที่มีความยินดีที่จะ"ต้อนรับผู้ใช้จักรยาน"และพร้อมที่จะให้บริการผู้ใช้จักรยานอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่ทำตามแฟชั่นไปอย่างแกนๆโดยไม่ได้คิดว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร(ประเภทไปถึงที่แล้วมีราวเหล็กไว้ให้จอดล็อคไว้ข้างถนนโดยไม่มีการดูแลให้แต่อย่างใด ส่วนใหญ่โดนตัดล็อคขโมยไปในเวลาไม่เกินสิบนาที) กทม.เองก็เถอะ ...มันจะเป็นจะตายเลยหรือเปล่าที่จะให้ผู้ใช้จักรยานได้"เข็น"จักรยานเข้าไปในสวนสาธารณะ("เข็น"นะครับ ไม่ใช่"ขี่")เพื่อให้จักรยานอยู่กับเจ้าของไม่เสี่ยงโดนขโมย รปภ.เห็นจักรยานทีอย่างกับเห็นวัตถุระเบิดจะมาระเบิดสวนฯทิ้ง ก็ฝากคุณตรีดาวด้วยแล้วกัน
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน