เป็นเจ้าของกระทู้ ก็หัดใส่ใจ คนที่คอมเมนท์หน่อย .. ไม่ต้องกลัวหน้าแหรกหรอก มันแหรกไปแล้ว 5 5 5 5 + + +
http://www.bangkokbi...ม.ค.ขาดดุล.html
นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนม.ค. 2556 มีมูลค่า 18,269 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 16.09% ขณะที่การ นำเข้ามีมูลค่า 23,755.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 40.87% ส่งผลให้เดือนม.ค.มียอดขาดดุลการค้า 5,486.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขาดดุลสูงสุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม หากไม่คิดรวมการนำสินค้าเครื่องบินที่มีมูลค่านำเข้าถึง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าทองคำที่มีมูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็จะทำให้มูลค่าการขาดดุลการค้าเหลืออยู่เพียง 2,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนและวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิตสินค้า ทำให้ภาพรวมการนำเข้าสินค้าจนทำให้ขาดดุลการค้าจำนวนมากนั้นไม่น่าเป็นห่วงเพราะถือเป็นการนำเข้าเพื่อการส่งออกในอนาคต
ทั้งนี้ การส่งออกในเดือนม.ค.ที่ขยายตัวได้ดีและมีมูลค่าสูงสุดเมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ปีที่ผ่านๆมา ชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มการส่งออกเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ และคาดว่าไตรมาส 1 ปีนี้การส่งออกจะขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าการส่งออกเฉลี่ยทั้งปี 2556 จะเป็นไปตามเป้าหมายขยายตัว 8-9% มูลค่า 247,000-250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
"ปัจจัยค่าเงินบาทก็มีส่วนทำให้การนำเข้าสูงขึ้น เพราะเอกชนเห็นว่านำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบช่วงนี้จะเป็นโอกาสที่ดี แต่เชื่อว่าจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ และทำให้การส่งออกปีนี้สดใส ด้านส่วนการนำเข้าเดือนม.ค.มีการนำเข้าแบบไม่ปกติ คือ มีเครื่องบินและทองคำเข้ามาถ้าตัดสองรายการนี้ไปก็จะทำให้การขาดดุลลดลงเกือบครึ่ง" นางวัชรี กล่าว
สำหรับตลาดส่งออกที่สำคัญ พบว่าตลาดหลักขยายตัว 15.5% โดยญี่ปุ่น ขยายตัว 7.3% สหรัฐ 16.7% สภาพยุโรปเดิม 15 ประเทศ 24.5% ตลาดศักยภาพสูง ขยายตัว 22.2% โดยอาเซียน(9) 18% จีน 19.4% เอเชียใต้ 7.9% เฉพาะอินเดียขยายตัว 5.9% ฮ่องกง 74.1% เกาหลีใต้ 24.7% ส่วนตลาดอื่นๆ ภาพรวมลดลง 73.4% โดยสวิตเซอร์แลนด์ลดลง 88.5%
สินค้าส่งออกที่สำคัญ หมวดสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่มขึ้น 7.2% โดยสินค้าข้าวเพิ่มขึ้น 31.3% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 26.5% อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป 17.1% ขณะที่สินค้ายางพาราลดลง 2.7% น้ำตาลลดลง 36.6%
หมวดสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ เพิ่มขึ้น 20.9% โดยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ 20.8% เครื่องใช้ไฟฟ้า 20.5% ยานยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ 40.3% เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก 22.8% สิ่งทอ 12.8% วัสดุก่อสร้าง 103%
ส่วนการนำเข้าเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นทุกหมวดสินค้าได้แก่ หมวดเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้น 61% มูลค่า 3,993.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็น น้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 42.4% มูลค่า 2,744.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 135.1% มูลค่า 384.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก๊าซธรรมชาติปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 190.6% มูลค่า 652.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หมวดสินค้าทุน เพิ่มขึ้น 36.4% แบ่งเป็น เครื่องจักร 18.7% เครื่องจักรไฟฟ้า 27.5% เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ 35.8% หมวดวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 37.4% แบ่งเป็น เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่ง และทองคำ เพิ่มขึ้น 112% มูลค่า 3,042 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะ ทองคำเพิ่มขึ้น 132.9% มูลค่า 2,709 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ก.ย. 2554 ที่ผ่านมา
สาเหตุการนำเข้าสูงขึ้น เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะมีการขยายตัวของภาคการขนส่ง การผลิตและการส่งออก ส่วนการนำเข้าเครื่องจักรเพราะต้นปีเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการสับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่และมีเงินบาทที่แข็งค่าเป็นสิ่งจูงใจ
- See more at: http://www.bangkokbi...h.5e1nwVdE.dpuf