แฉ 'ปาหี่'โจรใต้ ยึดทีวีช่อง 5 ประกาศยุติศึก บิ๊กเหวียงคุยเขื่อง หารือมานานแล้ว 'ขุนทัพ'งงตาแตก 'อนุพงษ์'สวนกลับไม่รับทุกเงื่อนไข.!
ศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม 2551 09:01:01 น.
โจรใต้ยึดช่อง 5 ปาหี่ ประกาศยุติความรุนแรงใน 3 จว.ใต้ หลังต่อสู้นาน 100 ปี อ้างเพื่อความสงบสุขและสันติภาพ “เชษฐา” ลั่นคุยใต้ดินนานแล้ว ยันไม่มีข้อต่อรองใดๆ ไม่มีจัดฉากและไม่มีนัยทางการเมือง ขอปิด หน.กลุ่มไว้ก่อน ลั่นรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ขอ 30 วันพิสูจน์หยุดยิง ขณะที่แกนนำหลายฝ่ายเป็นงง ผบ.ทบ.ปัดคนแถลงไม่มีบทบาทนานแล้ว ยันไม่เกี่ยวกับรัฐ “บิ๊กฉิ่ง” เผยพบพิรุธเพียบ ทบ.ควรเป็น***าน แต่กลับผ่านตัวกลางนักการเมือง ย้ำแพร่ภาพช่อง 5 ยกระดับไปทั่วโลก “วาดะห์” ชี้จัดฉากผิดธรรมชาตินักต่อสู้ ห่วงบานปลาย “เด่น” ไม่รู้ตัวจริงตัวปลอม ผบ.สส.แนะรอดูผล 30 วัน มทภ.4 หนีสื่อไม่รับสายทั้งวัน โฆษก ทบ.ยันไม่รู้จักกลุ่มใต้ดิน ล่าสุดโจรยังไม่หยุดป่วน ซุ่มยิงทหารเจ็บ 1 นาย
โจรใต้ออกช่อง 5 ยุติรุนแรง
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ก.ค.51 สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้เผยแพร่ภาพหัวหน้ากลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศ และหัวหน้าทหารกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย ร่วมกันประกาศหยุดปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความว่า “ข้าพเจ้าในฐานะโฆษกของกลุ่มใต้ดินรวมทางของภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งได้ปฏิบัติการมานานหลาย 10 ปีแล้ว ขอประกาศให้ประชาชนชาวไทยทราบว่า ทางกลุ่มใต้ดินรวมได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ ประกาศคำสั่งให้มีการหยุดยิง ณ วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2551 เวลา 12 นาฬิกา ซึ่งตรงกับ 14 รายัด 1419 ปีฮิจเราะห์
หน่วยต่อสู้ทุกกลุ่มของเราทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายการเมืองจะสนับสนุนการเกิดสันติภาพในภาคใต้ของประเทศไทย นับจากบัดนี้เป็นต้นไป เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 หรือ พ.ศ.2452 ซึ่งใกล้จะครบ 100 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเราจึงตัดสินใจที่จะหยุดข้อพิพาทนี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราหวังว่าจะนำความสุขกลับคืนมาสู่ประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนได้มีความอยู่ดีกินดี พวกเราขอให้หน่วยทหารทุกหน่วย ทุกกองของเรา ตลอดจนหน่วยทางการเมืองยึดมั่นในคำสั่งการประกาศหยุดยิงนั่น หมายถึงให้มีการหยุดและเพิกถอนคำสั่งในการปฏิบัติการต่างๆ ทุกชนิด การปะทะกันทุกชนิดทางอาวุธ และการก่อความไม่สงบอื่นๆ โดยทันที
ข้าพเจ้าในฐานะโฆษกและผู้นำของกลุ่มใต้ดินรวมขอให้ทุกหน่วยหยุดปฏิบัติการก่อความไม่สงบต่างๆ โดยทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยต่อสู้ที่ยังไม่ได้รับทราบคำสั่งนี้มาก่อน จากการประกาศแถลงการณ์ถึงการตัดสินใจของเราในวันนี้ หากบุคคลหรือกลุ่มใดก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มใต้ดินของเรา ได้กระทำการใดๆ ขัดขืนต่อคำสั่ง ประกาศการหยุดยิงของเรา ไม่ว่าจะเป็นการก่อความไม่สงบต่างๆ การลักพาตัว หรือปะทะต่อสู้ต่างๆ พวกเราถือว่าพวกนี้เป็นพวกอาชญากรที่จะถูกตามจับ และหากจำเป็นก็จะถูกกำจัด พวกเราพร้อมยินดีที่จะอยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาทของพระเจ้าอยู่หัว และสนับสนุนความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทยภายใต้กฎของรัฐบาลไทย พวกเราต้องการเข้าสู่สถานการณ์ที่สงบสุขและสันติภาพ
พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก เราควรตระหนักถึงการหยุดยิงนี้ว่า เป็นการประทานพรจากพระเจ้าสำหรับประชาชนทางภาคใต้ และประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ เพื่อที่จะแสดงออกถึงความกตัญญู และความผูกพันที่มีต่อประเทศที่เรารัก ผู้นำทางศาสนา และผู้นำทางด้านการเมืองของเราในทุกระดับ การชุมนุมและการเฉลิมฉลองเพื่อให้พี่น้องเห็นถึงผลดีถึงการหยุดยิงนี้ พวกเราสนับสนุนให้ประชาชนทุกศาสนาในภาคใต้โดยเฉพาะชาวพุทธ และชาวมุสลิม ได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข พวกเราปรารถนาให้ประเทศเพื่อนบ้านได้เข้ามาร่วมในการให้คำปรึกษา การแก้ไขปัญหาการขัดแย้งนี้ด้วย
พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก ความต้องการสูงสุดของข้าพเจ้าและกลุ่มคือการยุติการนองเลือด และการสูญเสียชีวิตของทางภาคใต้ของประเทศไทยต่อไป เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้กลับมาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ข้าพเจ้าขอย้ำให้ประชาชนชาวไทยทราบอีกครั้งว่า หน่วยกำลังของกลุ่มใต้ดิน จะหยุดปฏิบัติการก่อความไม่สงบทุกชนิดนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก พวกเราทุกคนมีพระเจ้าองค์เดียวที่พวกเราต่างเชื่อถือและพวกเราทุกคนต่างรักและเคารพต่อพระเจ้าอยู่หัวองค์เดียวกัน ขอให้พระเจ้าคุ้มครองพระเจ้าอยู่หัวของเรา และประชาชนของเรา พวกเราปรารถนาให้มีความสงบสุข และสันติภาพเกิดขึ้นนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และตลอดไป”
“เชษฐา" ลั่นเจรจาลับมานานแล้ว
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เผยว่า เรื่องนี้เกิดมานานแล้ว ตนในฐานะที่มีความรับผิดชอบมาตั้งแต่รับราชการ และตั้งแต่เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ตนมีความสนใจเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และมีเหตุการณ์เกิดมาโดยต่อเนื่อง ตนเคยเป็น รมว.กลาโหม และ ผบ.ทบ. เคยลงพื้นที่หลายครั้ง พยายามแก้ปัญหาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ลุล่วง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการไปเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายเมื่อไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า คงใช้คำว่าเจรจาไม่ได้ เพราะถือว่าการพูดคุยครั้งนี้ไม่ได้เป็นทางการ หรือยกระดับ แต่เป็นการพูดคุยธรรมดา เพื่อหาข้อตกลงหรือหาข้อยุติให้ได้ และต้องยืนยันให้ได้ว่า ต้องเป็นข้อยุติที่แท้จริง ซึ่งตนทำมาโดยต่อเนื่อง ในทางลับเรามีสายติดต่อกันอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยโบราณ ส่วนจะเป็นผู้ก่อการร้ายจริงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องในรายละเอียด และเป็นเรื่องที่ลึกลับ การที่จะแยกแยะและชี้ให้ชัดออกไปยังไม่แน่นอน
ต่อข้อถามว่า หลังการเจรจาทุกอย่างจะยุติใช่หรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ใช่ แต่ยังไม่มีการประกาศที่ชัดเจน เราแค่ติดตามเพื่อพิสูจน์ทราบให้ชัดเจน ซึ่งกลุ่มนี้เป็นการรวมกันอย่างน้อย 11 กลุ่ม ที่ก่อการร้ายในพื้นที่ การพูดคุยครั้งนี้ ผู้ก่อการร้ายไม่มีเงื่อนไข เพราะหากมีเงื่อนไขเราคงรับไม่ได้ และทั้งหมดนี้ต้องแสดงความปรารถนาดี และความจริงใจว่า ต้องการเห็นความสงบจริง จึงจะมาพูดกันต่อไป
เมื่อถามว่า เหตุใดผู้ก่อความไม่สงบจึงยอมเจรจาด้วย พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า วันเวลาทำให้เปลี่ยนไป และเป็นความพยายามของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินการในส่วนนี้ กอ.รมน. และกระทรวงกลาโหม ไม่ได้เกี่ยวข้อง ตนจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน จึงจะเรียนให้รัฐบาลทราบ โดยผ่านทาง ผบ.ทบ. ซึ่งนายกฯ และ ผบ.ทบ. รู้ว่าตนทำอะไรอยู่ เพราะตนทำมานานแล้ว ตั้งแต่ พล.อ.อนุพงษ์ยังไม่เป็น ผบ.ทบ. และท่านก็รู้ว่าตนทำอะไรอยู่
ผบ.ทบ.กร้าวรับไม่ได้แถลงการณ์โจรใต้
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการกองทัพบก ยืนยัน กองทัพไม่เคยเปิดการเจรจากับกลุ่มที่ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพราะถือว่ากลุ่มคนดังกล่าว เป็นกลุ่มบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถเข้าไปเปิดการเจรจาได้ อีกทั้งยังต้องนำบุคคลเหล่านี้มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ยังยืนยันว่า
กองทัพไม่อาจรับได้กับการออกมาแถลงการณ์ยุติการก่อความไม่สงบของกลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย ที่มีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 5 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และถือว่าการดำเนินการดังกล่าวที่ผ่าน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร นั้น ไม่ได้ถือว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ทางราชการ และจะไม่มีผลต่อทางราชการแต่อย่างใด อีกทั้งเมื่อสอบถามไปทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 5 นั้น ได้รับทราบว่า ในตอนแรก พล.อ.เชษฐา ต้องการขอเข้ามาพูดคุยเรื่องปัญหาความไม่สงบเท่านั้น ไม่ได้เปิดเผยว่าจะมีการเผยแพร่เทปการออกแถลงการณ์ของกลุ่มดังกล่าวแต่อย่างใด
ส่วนบุคคลที่ออกมาแถลงการณ์ดังกล่าวนั้น ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า คือ นายมาร์ดี เพ็งคาน หัวหน้ากลุ่มอิสลามลังกาสุกะที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ ระหว่างปี 2527-2530 แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มอื่นๆ จนต้องยุติการเคลื่อนไหว ตั้งแต่ปี 2530 ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนั้น ขณะนี้ตนเรียนให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว
“บิ๊กฉิ่ง” ชี้มีพิรุธยกระดับโจรใต้
พล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า สัญญาณดังกล่าวมองได้หลายมิติ โดยเฉพาะหากเดินตามแนวทางสมานฉันท์ ถือว่าเป็นสิ่งดี ที่เราเริ่มต้นด้วยการพูดคุย แม้นว่าจะไม่สามารถหาหลักค้ำประกัน หรือยืนยันได้ว่า เหตุการณ์ใน 3 จังหวัด จะยุติหรือลดลงได้หรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ เพราะกลุ่มดังกล่าวไม่มีการแจกแจงว่ามีสมาชิกและขบวนการใดบ้างที่ตัดสินใจยืนอยู่บนอุดมการณ์เดียวกันเพื่อวางอาวุธ
“เชื่อว่าเบื้องหลัง คงมีการพูดคุยกันทั้งบนดินและใต้ดินแล้วถึงยอมเปิดเผยตัว และประกาศขอยุติความรุนแรงรวมถึงส่งสัญญาณไปยังกองกำลังในพื้นที่ แต่จากนี้ไปคงต้องติดตามดูว่าผู้ที่ออกมาแถลงครั้งนี้เป็นของจริง หรือของปลอมกันแน่” พล.อ.กิตติ กล่าว
อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ตั้งข้อสงสัยถึงการออกมาแถลงการณ์ขอยุติความรุนแรงในระยะนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์การเมืองอยู่ในภาวะเข้าด้ายเข้าเข็ม โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเขาพระวิหาร อีกทั้งการนำเทปดังกล่าวออกมาเผยแพร่ มีข้อสงสัยอยู่หลายประกาศ อาทิ วันประกาศยุติความรุนแรงคือวันที่ 14 ก.ค.เวลาเที่ยง แต่ถูกนำมาเผยแพร่ ในวันที่ 17 ก.ค.เวลาเที่ยง ทั้งที่เมื่อวันที่16 ก.ค.ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุระเบิดในยะลา 3 จุดทั้ง สภ.เมืองยะลา สถานีขนส่ง และที่ว่าการอำเภอ จึงทำให้เกิดความคลางแคลงใจไม่น้อย
วาดะห์ตั้งปมจัดฉาก-ผิดธรรมชาติ
นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานภาคใต้ กล่าวถึงกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย ว่า ตนเพิ่งทราบข่าวจากการที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ระบุว่าจะมีกลุ่มใต้ดินที่ก่อการร้ายในภาคใต้จะออกมาแถลงยุติการปฏิบัติการ ซึ่งตนมองว่าหากสามารถทำได้จริงก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะที่ผ่านมาพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องเดือดร้อนกับปัญหาไฟใต้มานานแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูสถานการณ์อีก 2-3 วัน นับจากที่มีการแถลงเพราะก่อนหน้าที่กลุ่มดังกล่าวจะออกมาแถลง ก็ยังมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นที่ จ.ยะลา เกิดขึ้นอีก
ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็น ส.ส.ในพื้นที่ ได้มีการหารือกับ ส.ส.ภายหลังที่มีการแถลงของกลุ่มใต้ดิน เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ขอตั้งข้อสังเกตุว่าการออกมาแถลงของกลุ่มที่อ้างว่าเป็นกลุ่มใต้ดินนั้น มีความน่าสงสัยหลายประการ เพราะคนที่ออกมาแถลงจะเอาใครมาแถลงก็ได้ และจะมีการสร้างความมั่นใจแค่ไหนตรงนี้ก็ไม่สามารถยืนยันได้ ข้อสังเกตุประกาศแรกคือ 1.ทำไมกลุ่มใต้ดินจึงไปเจรจากับ พล.อ.เชษฐา ซึ่งไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในปัจจุบัน แม้จะเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีในกระทรวงกลาโหม และเป็นอดีต ผบ.ทบ.แต่ทั้งนี้รัฐบาลเองก็มีช่องทาง มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลุ่มดังกล่าวก็น่าจะไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรงมากกว่า
หวั่นสถานการณ์บานปลาย
2.ตนมองว่า การแถลงของกลุ่มดังกล่าวผิดธรรมชาติของนักต่อสู้ที่ต่อสู้ถึงขั้นเลือดตกยางออก แต่กลับมาหยุดปฏิบัติการโดยไม่ได้เสนอข้อเรียกร้องหรือยื่นเงื่อนไขอะไร 3.ผู้แถลงทั้ง 3 คนไม่ได้แสดงตัวตนชัดเจน ไม่ได้แนะนำตัวว่ามาจากกลุ่มใดและมีหน้าที่ในส่วนใดบ้าง ผิดกลับเมื่อปี 2536 ที่มีเหตุการณ์เผาโรงเรียน ซึ่งตอนนั้นเลขาธิการกลุ่มพูโลออกมาพูดเอง รวมทั้งชี้แจงอุดมการณ์และเหตุผลของกลุ่ม
“เท่าที่ดูวันนี้ ในฐานะ ส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่มานานดูแล้วแปลกๆ มีจุดที่น่าสงสัยหลายส่วน ตรงนี้ผมไม่อยากไปพูดอะไรมาก เพราะจะทำให้ผู้ที่ตั้งใจแก้ปัญหาอาจเกิดความไม่สบายใจ เพราะถ้าหากปัญหายุติก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้ายุติไม่ได้จะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลายขยายวงไปอีก” นายอารีเพ็ญ ระบุ
ส.ส.กลุ่มวาดะห์ผู้นี้ ยังตั้งข้อสังเกตุอีกเรื่องหนึ่งว่า สำเนียงของกลุ่มที่ออกมาแถลงโดยเฉพาะคนที่พูดแปลเป็นภาษาไทย ดูแล้วเหมือนกับคนในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ส่วนคนที่พูดภาษามลายู ก็มีสำเนียงคล้ายแถวรัฐกลันตัน ซึ่งพูดออกมาไม่เหมือนนักต่อสู้เท่าไหร่ “ผมเป็นห่วงอย่างมากกับสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจจะตามมา เพราะหากคนที่ออกมาพูดไม่ได้เป็นแกนนำหรือมีอำนาจสั่งการได้จริงๆ หลังจากนี้ก็จะมีการแสดงศักยภาพจากกลุ่มที่เป็นของจริงโต้ตอบกลับมาอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะการที่ช่อง 5 ซึ่งเป็นของกองทัพบกเป็นผู้แพร่ภาพเอง ตรงนี้จะยิ่งทำให้เกิดการขยายวงกว้างไม่จบ” นายอารีเพ็ญ กล่าวทิ้งท้าย
“เด่น” มึนไม่รู้โจรใต้ตัวจริงตัวปลอม
นายเด่น โต๊ะมีนา ผู้ก่อตั้งกลุ่มวาดะห์ และอดีต สว.ปัตตานี เปิดเผยจากการติดตาม และรับฟังคำแถลงการณ์ของแกนนำ และโฆษกผู้อ้างว่าเป็นกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทยว่า ขณะนี้ไม่สามารถวิเคราะห์ หรือคาดเดาสถานการณ์ต่อจากนี้ได้ว่า เหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้จะเป็นเช่นไร ทั้งนี้เนื่องจากบุคคลที่ออกมาแถลงการณ์ประกาศยุติความรุนแรงนั้น ไม่สามารถยืนยัน หรือบอกได้ว่าเป็นกลุ่มไหน หรือองค์กรใด รวมทั้งขบวนการที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ให้การสนับสนุนแนวคิดหรืออุดมการณ์นี้ด้วยหรือไม่
“ผมไม่รู้ว่าคนที่ออกมาแถลงยุติความรุนแรงครั้งนี้เป็นตัวจริง หรือตัวปลอม แต่สิ่งเดียวที่จะตัดสินนั้น คือเหตุการณ์ความไม่สงบ จะเป็นดรรชนีชี้วัดที่สำคัญ ว่างานนี้คนชายแดนภาคใต้ รวมถึงคนไทยทั้งประเทศที่ติดตามการประกาศแถลงการณ์ครั้งนี้เป็นของจริงหรือของปลอม” นายเด่น กล่าว
นายเด่น กล่าวต่อว่า จากการสังเกตผู้แถลงการณ์ซึ่งสื่อสารด้วยภาษามาเลย์กลาง รวมถึงผู้ทำหน้าที่ล่ามแปลเป็นภาษาไทย แสดงท่าทางคล้ายกับการอ่านป้าย หรือสคริปต์บอร์ด และเมื่อประเมินรวมๆ แล้วทำให้ยังไม่ปักใจเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามก็จากการติดตามคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมีท่าทางมั่นใจมาก ซึ่งหากเหตุการณ์ยุติได้จริงขอต้องยกความดีให้ท่าน แต่หากสถานการณ์สวนทางคงต้องหาคำตอบให้กับสังคมในอนาคต
ผบ.สส.แนะรอดูผล 30 วัน
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่มองว่าเป็นอย่างไร แต่ต้องรอดูผลว่าจะเป็นอย่างไร และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะหยุดจริงหรือไม่ จากนั้นค่อยว่ากันอีกครั้ง ซึ่งการรอดูผลเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ตนไม่มีรายละเอียดเรื่องนี้มากนัก เพราะเป็นเรื่องของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และกองทัพบก ซึ่งต้องถามจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนกรณีที่หลายคนมองว่าเรื่องนี้เป็นการจัดฉากนั้น ขออย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะถ้าการก่อเหตุหยุดจริงก็เป็นเรื่องที่ดี
ขณะที่ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เป็นเรื่องทางยุทธศาสตร์ที่ต้องคุยกับทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้กระทรวงกลาโหมยังไม่ได้ตรวจสอบอะไร เพราะ พล.อ.เชษฐาเพิ่งแถลงข่าวไป อย่างไรก็ตาม พล.อ.เชษฐาเป็นผู้ใหญ่ที่พยายามจะช่วยเหลือ ทั้งนี้คาดว่าภายใน 1-2 วัน จะมีปฏิกิริยาตอบโต้จากกระทรวงกลาโหม ส่วนวิธีการดูง่ายๆ คือ รอดูเหตุการณ์ต่อไปว่าจะเกิดเหตุหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันสื่อมวลชนพยายามโทรศัพท์ติดต่อ พล.อ.อนุพงษ์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ พล.อ.อนุพงษ์ไม่รับโทรศัพท์ แม้ว่าสื่อมวลชนหลายแขนงจะพยายามติดต่อไปหลายครั้งก็ตาม รวมไปถึง พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ก็ไม่ได้รับสายสื่อมวลชนที่พยายามโทรติดต่อเช่นกัน
ผอ.ช่อง 5 เผยทำหน้าที่ “สื่อ” เท่านั้น
พล.ท.กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ เจ้ากรมทหารสื่อสาร และในฐานะผู้อำนวยททบ.5 กล่าวเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ว่า การที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและหัวหน้าพรรครวมใจชาติพัฒนา ใช้สถานีโทรทัศน์ ททบ.5 เพื่อแถลงและเผยแพร่ภาพการแถลงยุติก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้นั้น เป็นเพราะ พล.อ.เชษฐาติดต่อมาที่ ททบ. 5 และการอนุญาตให้ใช้ททบ.5 เพราะตนทำหน้าที่ของสื่อที่เสนอข้อมูลข่าวสาร ซึ่งหากเป็นเรื่องดีก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับประเทศ ทั้งนี้ ได้สอบถามไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก แล้ว แต่ พล.อ.อนุพงษ์ระบุว่าอย่าไปยุ่ง แต่ถ้า พล.อ.เชษฐาจะใช้ ททบ. 5 ก็ปล่อยไป เพราะถือว่าเราทำหน้าที่ของสถานีสื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่งเท่านั้น
“เชษฐา” ยันมีพระเจ้าองค์เดียวกับไทย
ต่อมา พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จากคำแถลงการณ์ของกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้น่าจะรู้ได้ว่าต้องการอย่างไร สรุปคือมีเจตนารมณ์โดยแท้จริงที่อยากจะยุติการปฏิบัติการและอยากจะเห็นความสงบสุขเกิดขึ้นในจังหวัดภาคใต้ ทั้งนี้ ยังกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือว่ามีพระเจ้าอยู่หัวองค์เดียวกับพวกเรา ซึ่งคิดว่าเมื่อเป็นเจตนารมณ์ของพวกเขาก็ควรตอบรับ ด้วยความยินดีอย่างยิ่งและขอให้ควบคุมการบังคับบัญชากันให้ดี จริงๆ แล้วเราจะรอผลการพิสูจน์จากนี้เป็นต้นไปตามที่ได้ประกาศ เรามีทีมงานทำมาตลอด แต่เข้มข้นประมาณปีเศษ
ไม่กลัวถูกหลอกขอหน้าแตกคนเดียว
เมื่อถามว่า รวมถึงกลุ่มบีอาร์เอ็น พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า เขาอยู่ตรงไหนไม่รู้ แต่เป็นตัวแทนกลุ่มทั้งหมดที่เรียกว่ากลุ่มใต้ดินรวมที่ปฏิบัติการในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อถามว่า ไม่คิดว่าเขาหลอก พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า มาถึงขั้นนี้แล้วจะหลอกหรือไม่คิดว่าได้ทำเต็มที่ที่สุดมาออกจังหวะนี้ได้แค่นี้ตนขอรับผิดชอบคนเดียว ถ้าหน้าแตกขอหน้าแตกคนเดียว
ใช้เวลาพิสูจน์ 30 วันรู้ผลหยุดยิง
เมื่อถามว่า ต้องใช้เวลาพิสูจน์นานเพียงใด พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า จากนี้ไป 30 วัน ถ้าหยุดยิง หยุดการปฏิบัติการทั้งหมด หากมีการก่อเหตุก็จะย้ำไป และดูว่าสามารถควบคุมได้จริงหรือไม่ คิดว่าดีที่สุดแล้ว แต่จะบอกร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วยืนยันไม่ได้ แต่กล้ารับผิดชอบ ตัวเองก็กลัวถูกหลอก แต่คิดว่าดีที่สุดที่เขาแสดงความปรารถนาออกมา ซึ่งจะให้บอกตัวจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ตนก็ไม่ยืนยัน
เมื่อถามว่า ไม่รอ 30 วันก่อนแล้วมาแถลง พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ที่เขาประกาศไปต้องบอกลูกน้องผ่านทางทีวี ตนเป็นห่วงว่าเขาสามารถติดต่อลูกน้องได้มากแค่ไหน ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ถือว่าแปลก เพราะการติดต่อเครื่องมือเขาไม่ทันสมัย แต่เมื่อออกทางทีวีเป็นภาษามาเลเซียส่วนหนึ่งก็เข้าถึงคนที่อยู่ในมาเลย์และภาษาไทย ซึ่งการออกที่วีอยากให้ทั่วถึง ยืนยันว่าการกระทำไม่ใช่การยกระดับ เพราะการกระทำไม่เกี่ยวกับราชการ ตนไม่มีระดับจึงไม่มีปัญหา การกระทำคงไม่ได้ยกระดับไปสู่โอไอซี
พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ทางโอไอซีไม่เกี่ยวกัน แค่กลุ่มที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีเจตนารมย์อย่างแท้จริง ส่วนผลจะออกมาอย่างไรต้องดูกันต่อไป ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเข้าออกนอกประเทศเป็นธรรมดา คนที่เป็นผู้นำพูดภาษาไทยไม่ได้ ทั้งนี้ หาก 30 วันไม่มีเหตุการณ์ก็สามารถควบคุมเหตุการณ์อย่างที่ประกาศไว้ได้ ส่วนจะมีการแถลงการณ์ร่วมกันหรือไม่นั้น ต้องดำเนินการไปตามที่ละขั้นตอน หากเจตนารมณ์เขาจริง การทำงานก็ง่าย แต่การดำเนินการไม่มีนัยและไม่ง่ายเกินไป ตนทำงานมาติดต่อเขาตลอดทั้งผ่านตัวกลางและใต้ดิน ซึ่งตัวกลางคือทุกประเทศที่เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างสหภาพยุโรปและอเมริกาก็สนใจหากมีความสงบ และอยากเห็นความสงบเหมือนไทย
ไม่หยุดป่วน! ซุ่มยิงทหารเจ็บ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 17 ก.ค.51 ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ซุ่มยิงทหารชุดลาดตระเวน ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย โดยเหตุเกิดริมถนนสาย 410 กรงปีนัง-บันนังสตา หมู่ 8 บ้านรือมุ ต.กรงปีนัง อ.กรงปีนัง จ.ยะลา
ก่อนเกิดเหตุ ทหารชุดลาดตระเวนได้ใช้รถกระบะออกปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ปรากฏว่า เมื่อเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ถูกคนร้ายซุ่มยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ทำให้นายทหารได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ยังไม่ทราบชื่อ นามสกุล ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบันนังสตาแล้ว