ความจะเจริญหรือล้าหลังของประเทศ อันที่จริงแล้วมันขี้อยู่กับวินัยของคนในชาติเป็นสำคัญครับ ถ้าเจ้าของกระทู้เคยไปในประเทศที่พัฒนาแล้วกว่าเรา สิ่งที่เจ้าของกระทู้จะรู้สึกได้ก็คือมีวินัยของคนในประเทศนั้นๆ .......
กลุ่มหนึ่งในสังคมให้ขาดวินัย ทำให้ประเทศเราล้าหลังเพื่อนบ้านบางประเทศไป 15 ปีเช่นกัน
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ วินัย สิทธิ หน้าที่ ขอเล่าให้ฟังเมื่อทำงาน กับญี่ปุ่นครับ
**ก่อนถูกส่งไปทำงานที่ตจว. ช่วงนั้นมีญี่ปุ่นมาวางแผนด้านช่าง มันขี้เมาครับ จะมาถึงออฟฟืซ ก่อน8โมง มันลงมืทำงานเลย พักเที่ยงส่วนใหญ่ มันจะสั่งข้าวมากินที่โต๊ะ ที่ทำงานไปกินไป เป็นประจำ พอ5โมงเย็นเป๊ง มันเปิดลิ้นชัก ที่มีเหล้าป่า ดองยาดอง ถ้าไม่มีนัดไปไหนมันก็จะก๊งไป คุยกับคนโน้น คนนี้ สัก2ทุ่มก็กลับ
ถ้าเป็นคืนวันศุกร์ละก็ ลืมบ้านเอาทีเดียว ...คนนี้ช่างรักที่สุด
ผมไปประจำตจว. 13-14ปี ก็ย้ายเข้ากท. ก็มาเจอญี่ปุ่นอีกคน มาเป็นที่ปรึกษาด้านช่าง ก็เคยคุ้นกันบ้าง เพราะหมอนี่ดอดไปจว.ที่ผมประจำบ่อย (มันกินเงินเดือนอัตราญี่ปุ่น ที่อยู่ฟรี มีรถพร้อมคนขับบริการ24ชม.) ทำไมจะไปไหนต่อไหนไม่ได้ เข้ามากท.ก็นั่งคู่กัน ระนาบเดียวกันโต๊ะทำงานเหมือนกัน แต่อำนาจต่างกันลิบลับ งานแรกที่ทำร่วมกันจริงๆคือการเตรียมงานเอเชี่ยนเกมส์ ที่เชียงใหม่ ทางบริษัทให้การสนับสนุนเป็นเงินกว่า20ล้าน ...ด้านสินค้า และด้านช่าง
เรื่องเหลือเชื่อเกิดครับ นักการเมืองที่ดูแลเรื่องสปอนเซอร์ ติดต่อมาที่ปธ.ขอรับการช่วยเหลือเป็นเงินสด ปธ. โยนมาให้ญี่ปุ่นคนนี้ตัดสินใจ ญี่ปุ่นบอก ถ้าช่วยก็จะช่วยแบบนี้ ถ้าจะเอาเงินสด ก็จะระงับการช่วยทั้งหมด ผู้ใหญ่ในการกีฬาต้องมาเคลียร์
เสร็จเรื่องเอเชี่ยนเกมส์ ก็เตรียมไปโอลิมปิค ที่อ๊อสเตรเลีย งานนี้งานใหญ่(ของญี่ปุ่นมัน..ผลงานของมันกับบ.แม่ทีเดียว) การช่วยเหลือก็รูปแบบเดิม ...ปัญหาใหญ่(ของผม) คือต้องจัดตารางงานทดแทนช่าง ที่ต้องเรียนภาษาก่อนไป, และช่วงไปประจำที่อ๊อสเตรเลียงานช่างในเมืองไทยต้องไม่เสียด้วย ..จับแพะชนแกะ เป็นงานชำนาญ
ผมได้เข้าประชุมร่วมกับเบอร์1 และ2 ทุกคนของบ. มีเบอร์3 ก็เป็นผ.ที่เกี่ยวข้องจริงๆ มีผมเป็นเบอร์5 คนเดียว มันเจาะจงครับ นอกจากที่กล่าวมา ยังมีญี่ปุ่นอีกคนมาจากเฮดออฟฟิซ ประชุมกันเรื่องโอลิมปิคนี่แหละ ไม่รู้ใครจัดที่ให้ ผมนั่งอยู่ระหว่างญี่ปุ่น2คน แค่เข้าประชุมก็ตื่นพอแล้ว ภาษาอ.ก็ไม่กระดิก
การประชุมก็เขา2คนเป็นพระเอก ปธ.นั่งฟังเอาแหนบมาถอนหนวดเล่น หลายคนก็ทำตาบ้องแบ๊ว ตอนแรกก็คุยกันดี คนหนึ่งพรีเซ้นท์ อีกคนนั่งฟัง สงสัยภาษาอ. มันคงไม่ดีทั้งคู่ คงพูดกันไม่รู้เรื่อง (คนหนึ่งเคยประจำที่เมกา อีกคนเคยประจำอังกฤษ) สุดท้ายไม่มีใครนั่งแล้ว ยืนคนละฝั่งพูดเสียงในฟิล์มกัน แล้วคนหนึ่งก็ทนไม่ไหว มันทุบโต๊ะเปรี้ยง ตรงเยื้องๆกับผม ....ปธ. ต้องตัดสิน ต้องยอมรับครับ ว่าท่านเก่ง
ตอนเย็น ก็ไปเลี้ยงต้อนรับ โดยเหมาเรือล่องเจ้าพระยา ผมนึกในใจสงสัย คงมีมวยญี่ปุ่นแน่ สัก4-5 ทุ่มผมเป็นเด็กก็ลงมาจับกลุ่มข้างล่าง(เรือ2ชั้น) ข้างบนมีแต่เสียงบันไซ เชียร์ส สลับกันอยู่ ...นั่งๆจับกลุ่ม กันอยู่ก็มีละอองน้ำกระเซ็นต์มาโดน ดูฟ้าก็ไม่น่าใช้ฝน ขึ้นไปดูชั้นบน มัน2คนกอดคอกันตะโกนบันไซๆ เยี่ยวบนชั้น2ครับ เนื่องจากมันกอดคอกันเสียมือหนึ่ง มันเลยบังคับทิศทางไม่ได้
สรุป ญี่ปุ่น(ที่ผมพบ) ไม่เคยโกงเวลาทำงาน ทุกคนทำงานก่อน8โมง เลิกงานเมื่องานเสร็จตามเป้า
ข้อขัดแย้ง เกิดในห้องประชุม เมื่อตกลงวิธีการได้ ข้อขัดแย้งนั้นจบ
ในวงกินเที่ยว ระดับผู้บริหาร2คน ที่ผมสนิทก็มีเบอร์2ของบ. (สมมติA) ผมเรียกน้า คนนี้อยู่ฝ่ายขาย คนนี้สมองดีมากครับ สมองดีและเรียบเรียงเป็นระเบียบด้วย อีกคนเป็นเบอร์3ของบ. (เป็นเบอร์1 ของสายช่าง (บริการ))
อีก3-4ปี ผมย้ายไปอีกหน่วยงาน ก็ยังเกี่ยวกับช่างอยู่(ช่างโรงงาน) วันหนึ่งในที่ประชุม จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร ผมเอ่ยไปว่า น้าA คูณเลขในใจ 2หลักได้ เจ้านายใหม่ แย้งทันที ก็ปีหนึ่ง คูณหน2หน แค่นั้น ผมเอะใจ เมื่อพบน้าเอ ก็ถามว่าเรื่องอะไรกัน น้าเอบอกว่า ในที่ประชุมระดับสูงของบ. 3-4 ปีมาแล้ว น้าเอ เคยแย้งในข้อมูล ที่นายใหม่ผมนำเสนอ ...แค่นั้นครับ หลังจากนั้นมีข่าวหนาหูขึ้นเรื่อยๆ ว่าผมไม่รอด
พอจะเห็นด้วยไหมครับ ว่าคนไทยขาดวินัย และความสำนึกในหน้าที่ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประเทศเราเป็นอย่างนี้