ต่อให้เฮ็นไตเถียงจนชนะ มันก็ไม่ทำให้อัตราคนว่างงานลดลงครับ พึงสำเหนียก
ต่อให้ท่าน แถ จนชนะมันก็ไม่ทำให้อัตราการว่างงานของ ม้ากสุดเทพ ดีกว่าปูหรอกครับ... (อย่างน้อยในตอนนี้)
พึงสังวรไว้.. เพราะมันเป็น ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ ความเชื่อ..
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:38
ต่อให้เฮ็นไตเถียงจนชนะ มันก็ไม่ทำให้อัตราคนว่างงานลดลงครับ พึงสำเหนียก
ต่อให้ท่าน แถ จนชนะมันก็ไม่ทำให้อัตราการว่างงานของ ม้ากสุดเทพ ดีกว่าปูหรอกครับ... (อย่างน้อยในตอนนี้)
พึงสังวรไว้.. เพราะมันเป็น ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ ความเชื่อ..
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:47
เท่าที่จำได้ ตลอดสมัยมาร์ค ตัวเลขอัตราการว่างงานของไทยเกือบจะต่ำที่สุดในโลกครับ
คุณเช เอาอีกแล้ว...
หลักฐาน อ้างอิงเคยมีบ้างไหม... หรือมีแค่... จำได้... คุ้นๆว่า...
ถามจริงๆครับ... เงิบมากี่รอบแล้วยังไม่เข็ด..
ผมบอกให้ก็ได้...
ม้าก ทำดีที่สุด คือ เดือน.. มิย 54 0.41%
ปูทำได้ดีที่สุดคือ พฤจิ 55 0.39 %
http://service.nso.g...le2553-2555.xls
Edited by hentai, 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:52.
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:50
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่วันเวลาที่เราเอาข้อมูลมาแปะกันหรอกครับ คุณเฮน
แต่คิดว่า คุณก็คงเข้าใจ จึงได้มี (อย่างน้อยในตอนนี้)
ค่าแรง 300 พึ่งปรับใช้ทั่วประเทศ เดือนมกราคม 56
ยังพอมีเวลาให้ผู้จ้างงานยื้อไปได้อีกสักพักใหญ่
ส่วนการที่ปี 55 กระเตื้องขึ้นจากปี 54 มันต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ
องค์ประกอบอื่นที่ผมว่ามามีอะไรบ้าง
เอาแค่น้ำท่วมประเทศอย่างเดียวก็คงได้เห็นกันแล้ว
เหมือนที่กระทู้ไหนพูดถึงเรื่อง GDP ระหว่าปี 54-55 นั่นแหละครับ
วันนี้ ข้อมูลหน้าก่อน เอาไปเฮกันก่อน
ไว้อีกปี ใครจำได้ กลับมาลองตั้งกระทู้กันดูใหม่ ดีมั๊ยครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:51
อัตราว่างงานตอนปลายสมัยมาร์คคือ 0.76% ครับ
แล้วอิเห็นเอาอัตราว่างงานปี 55 ที่ 300 บาทยังไม่ประกาศใช้ทั่วประเทศ มารวมกับ "มกราคม 2556" เดือนแรกของปีเนี่ยนะ
อิเห็นแมร่มบ้าปะวะครับ?
![]()
![]()
โถ... แมงวันก็ยังเป็นแมงวัน... แค่จะเปรียบเทียบของ เท่าๆกันเหมือนๆกัน ยังไม่มีปัญญา...
ผมไม่อยากสอนใครนะครับ... กรุณาหาความรู้ใส่ตัวเอง ด้วยการไป ดู สถิติ ตัวเลขการว่างงาน...
ว่่ามันเป็นแบบ seasoning หรือ เปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละเดือนของในแต่ละปี หรือป่าว...
ผมจะเปรียบเทียบ จึงเอามาจาก เดือนเดียวกัน คือ มกราคม ของ สองรัฐบาล... ครับ..
ทำไมถึงเป็นมกรา ไม่ใช่ สิงหา หรือ เมษา... เพราะ ถ้าจะมีผลกรทบจาก 300 บาท ตอนนี้ ผ่านมาแค่ สองเดือน
ข้อมูลผมมี แค่ เดือน มกรา ก็เลยเอาเท่านี้... ถ้าท่านมี กพ ... เชิญครับ...
แต่ กรุณา อย่า แถ... โถ พ่อทูนหัว ม้าก 0.76... มันเดือนไหนครับ... หรือ เฉลี่ยทั้งปี...
อยาก ดู ปู ทั่งปีไหมครับ...
แล้วที่ ผมเอาปี 55 มาด้วยเพราะ จะได้เห็นครับว่า... รัฐบาลไหน ผลงานทางด้านแรงงานเป็นอย่างไร... เมื่อเทียบกับ..
รัฐบาล แสนเก่ง..
คือ ต่อให้ มี 300 หรือ ไม่มี 300 อัตราการว่างงาน เดือน มกราคม ของ ปู.. ดีกว่าของ ม้าก อย่างไม่ต้องเถียงอยู่แล้ว...
เชื่อแล้ว "ควายแดง" อ่านหนังสือไม่เกิน 3 บรรทัด
อิเห็นย้อนผม
> กรุณา อย่า แถ... โถ พ่อทูนหัว ม้าก 0.76... มันเดือนไหนครับ... หรือ เฉลี่ยทั้งปี...
ผมเขียนไปแล้วนะ อิเห็นดันไม่อ่าน เจือกถามย้ำ
อัตราว่างงานตอนปลายสมัยมาร์คคือ 0.76% ครับ
ผมถึงถามไงครับ ว่า เดือนไหนครับ... สิงหา หรือครับ...
แล้วจะเอามาเปรียบเทียบกับ 300 บาท เดือน มกรา หรือครับ..
เค้าคุยเรื่อง อัตราว่างงานจาก 300 บาทจะเพิ่มหรือลดเทียบกับ สองรัฐบาล..
แมงวัน ไปเอา 0.76 จาก เดือน สิงหา มา อวย.. . เอาละครับ...
เถียงกับแมงวาปยังไงก็ไม่ชนะ..
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:57
ในต่างเมือง ที่เป็นเมืองอุตสาหกรรม ทุกสิ้นเดือน กรมแรงงานจะประกาศว่า เดือนนี้มีจำนวนคนตกงานเท่าไหร่ มากหรือน้อยกว่าเดือนเดียวกันในปีที่แล้วจำนวนกี่แสนคน
เป็นจำนวนตัวเลขที่แน่นอน เพราะเอาตัวเลขจากจำนวนคนขอรับเงินตกงาน
ต่างกับของประเทศไทย ตัวเลขคนว่างงานมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:00
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่วันเวลาที่เราเอาข้อมูลมาแปะกันหรอกครับ คุณเฮน
แต่คิดว่า คุณก็คงเข้าใจ จึงได้มี (อย่างน้อยในตอนนี้)
ค่าแรง 300 พึ่งปรับใช้ทั่วประเทศ เดือนมกราคม 56
ยังพอมีเวลาให้ผู้จ้างงานยื้อไปได้อีกสักพักใหญ่
ส่วนการที่ปี 55 กระเตื้องขึ้นจากปี 54 มันต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ
องค์ประกอบอื่นที่ผมว่ามามีอะไรบ้าง
เอาแค่น้ำท่วมประเทศอย่างเดียวก็คงได้เห็นกันแล้ว
เหมือนที่กระทู้ไหนพูดถึงเรื่อง GDP ระหว่าปี 54-55 นั่นแหละครับ
วันนี้ ข้อมูลหน้าก่อน เอาไปเฮกันก่อน
ไว้อีกปี ใครจำได้ กลับมาลองตั้งกระทู้กันดูใหม่ ดีมั๊ยครับ
จขกท เค้าถามหาข้อมูล... เผอิญผมมี... ผมก็เอามาให้ดูครับ..
ผมก็ออกตัวไปแล้วว่า.. .
ผมมาให้ข้อมูลเฉยๆนะครับ... เถียงกับผมใช้ข้อมูลนะครับ... อย่าใช้ความเชื่อ ผสม จินตนาการ...
คือผมยังไม่มีความเห็น ตรงนี้ ด้วยเหตุผลเดียวกับท่าน... คือ.. "มันเร็วไปที่จะบอกว่า ดีหรือไม่ดี"
กลับกัน... หลายท่าน สรุปไปแล้ว ถามว่าใช้ตัวเลขจากไหน... ถ้าท่านใช้ตัวเลขอัตราการว่างงานแล้วว่าไม่ดี
ผมก็ บอกได้ว่า... ไอ้ที่ว่าไม่ดี... แต่มันดันดีกว่า รัฐบาล ก่อนหน้า ที่เดือนเดียวกัน...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:02
^
^
^
ตามนั้น
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:11
แดงมาใหม่ ก็ช่วยกันถนอมๆหน่อย
อย่าไปแหย่มาก เดี๊ยว มัน เฉา ตายคามือ
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:15
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:33
ปัญหาที่จขกอาจทมองข้าม!!
1-ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นถ้วนหน้า แต่ค่าแรง300เฉพาะแรงงาน
2-อัตราการว่างงานเท่ากัน แต่แรงงานถูกลดเวลาการทำงาน ลดโอที ลดสวัสดิการ
3-ผู้ประกอบการถูกลดโอกาสในการแข่งขัน เศรษฐกิจยุโรปแย่อยู่แล้ว ยังต้องแบกภาระต้นทุนที่เพิ่ม อนาคตmicro/sme business คงต้านไม่ไหว
เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:43
แมงสาปตายกันเกลื่อนเลยวุ้ย
เก็บศพ ๆ ๆ
Edited by น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์, 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:45.
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:55
แมงสาปตายกันเกลื่อนเลยวุ้ย
เก็บศพ ๆ ๆ
เล่นง่ายเน๊อะ เดี๋ยวจะไป register ใหม่มั่ง ล๊อคอินเก่าเค้าจับทางได้แระ
อย่าเชื่อในสิ่งที่ไอ้แม้วและไอ้พวกแกนนำ นปช. พูด
แต่ให้ดูในสิ่งที่พวกมันทำ
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:12
คำถามของคุณน้องใหม่ฯ ยังไม่สามารถวัดผลได้ครับ
เพราอะไร
เพราะปัญหาค่าแรง 300 พึ่งประกาศใช้ไปเดือน มากราคม 2556 (ทั่วประเทศ)
ดังนั้น หากคุณจะวัดโดยเทียบกับอัตราว่างงาน
คุณต้องว่ากันในปีที่ประกาศใช้ครับ
ผมถึงเอามาลงให้ดูว่า ปีก่อนๆ เป็นอย่างไร
และการคาดการณ์ถึงปีนี้ทั้งปี เป็นอย่างไร
แม้มีตัวอย่างบ้าง แต่ยังไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงได้
หากคุณไม่คิดหลบไปเปลี่ยนลอคอินเป็นภาษาญี่ปุ่นตัวอื่นๆ
รอปลายปีสิครับ แล้วค่อยมาเฮ ถึงตอนนั้น คุณจะสามารถเยาะเย้ยแมงสาปได้เต็มที่ครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:36
อันดับต่อไปนี้ ขอเสนอ ความเห็นส่วนตัว ที่มีต่อ นโยบาย 300 บาท นะครับ
จะเห็นว่า ค่าแรง 300 บาท จะมีผลกระทบ ต่อ ต้นทุนประกอบการ ของ กิจการขนาดเล็ก มากที่สุด
เพราะสาเหตุใด เรามาดูกัน
สมมุติ บริษัท เดโชค้าไม้ เป็น บริษัท ค้าไม้เล็ก ๆ อยู่ในตัวเมือง ศรีสะเกษ
ค่าแรงที่เคยจ่ายอยู่ก่อน นโยบาย 300 คือ 159 บาทต่อวัน
หลังจาก นโยบาย 300 เพิ่มขึ้น 141 บาท ต่อวัน
อาเฮียกุ่ย เจ้าของร้าน ต้องจ่าย ค่าขึ้นลงไม้ลูกบาศก์ฟุตละ เดิม 0.30 บาท (สมมุตินะ) ขึ้นเป็น 0.55 บาท
นอกจากนั้น อาเฮีย ยังต้องจ่าย ค่าบรรทุก เพิ่มขึ้น จาก 6 ล้อ คันละ เดิม 3,000 (สมมุตินะ) เพิ่มเป็น 3,500 (แน่นอน คนขับรถ ต้องมีค่าแรง เหมือนกัน
นอกจากนั้น เวลาอาเฮีย ขายไม้ปาร์เกต์ หรือ โมเสค อาเฮีย ก็มักต้องพ่วง บริการ ปูพื้นไม้ เข้าไปด้วย
เพื่อจูงใจลูกค้า ว่าบริการเราดีนะ ครบถ้วน อาเฮีย ต้องจ่ายค่าปูพื้น เพิ่มอีกจาก ตารางเมตร (ตอนปูคิดเป็นตารางนะ ตามความรู้ผม ตอนทำบริษัทไม้) ละ 10 บาท เป็น 19 บาท (ตามส่วนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น)
นี่ยังไม่นับ ค่าวัสดุต่าง ๆ เช่น ค่ากระดาษทราย ค่าสายรัด ค่ากล่อง(ในกรณี ไม้พื้น)
ที่ต้องเพิ่มขึ้นตาม ต้นทุน ของบริษัท ที่เกี่ยวข้อง
สรุป อาเฮีย ถ้าไม่อยากขาดทุน ก็ต้องเพิ่มราคา ไม้ปาร์เกต์ โมเสค ไม้พื้น อีก ตารางเมตร ละ 10-20% เป็นอย่างต่ำ ถ้า 10 คงเกินทุนมานิดหน่อย แต่การเงินจะบีบรัดมาก ถ้าเก็บเงินลูกค้าได้ไม่ทัน จ่ายเจ้าหนี้
แต่ถ้า 20% การขายแต่ละครั้งก็จะลำบากมาก รู้ ๆ กัน ว่าคนสมัยนี้ รายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกอย่าง
โดยเฉพาะ ค่าอาหาร ค่าน้ำมันรถ ค่าเดินทาง
แล้วถ้าค่าไม้ที่จะเอามาทำพื้นยังเพิ่มราคา ตั้ง 20% ถามว่า แรงจูงใจที่จะเปลี่ยนพื้น กับ การหันไปยอมรับที่จะ ดูแลรักษาของเก่า
ตู๊ ๆ ใช้ไปก่อน อย่างไหนจะมากกว่า
แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ เศรษฐกิจ ระดับล่าง จะเคลื่อนไปอย่างไร
อย่าเอาบริษัท ใหญ่ ๆ มาเทียบ เพราะพวกนี้ มีฐานลูกค้า มากอยู่แล้ว
และค่าแรงตามมาตรฐาน ก็สูงกว่า ร้านค้าเล็ก ๆ มากมายอยู่แล้ว
ไม่งั้น แรงงานฝืมือ ส่วนใหญ่ จะหันไปหาบริษัท ใหญ่ ๆ ทำไม
แรงงานตามร้านค้าเล็ก ๆ จึงเป็นเพียงแรงงาน ที่ไม่มีความสามารถเพียงพอ ไปทำตาม บริษัทใหญ่ ๆ ได้
แล้วถ้าการจ้างงานยังเป็นอยู่แบบนี้
สักวัน อาเฮียกุ่ย คงเล็งเห็นว่า การเกษียณ ตัวเอง จำใจปิด ร้านค้าเดโชค้าไม้ อาจมาเร็ว กว่ากำหนด สัก 5-10 ปี เป็นแน่
ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ
PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract
FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:44
ผมว่า ตรรกะมันวิบัติ งี้เง่าตั้งแต่เริ่มแล้ว
หากคุรเปลี่ยนแปลงระบบ ย่อมเกิดผล จะผลดีหรือไม่ดีแล้วแต่
แต่ต้องมีผลเปลี่ยนแปลง
เพื่อไทยได้สัญญาว่า การเปลี่ยนแปลงค่าแรงจะส่งผลอันดีต่อเศษฐกิจและไม่มีการว่างงาน
แน่ละ สิ่งที่คาดหวังคือสิ่งที่ดีขึ้น หรือไม่ใช่
ไอ้ตรรกะห่าเหว ที่มาบอกไม่มีอะไรเปลี่ยนคือดี
บ้าสิ ถ้าเปลี่ยนแล้วไม่เปลี่ยนแปลงจะเปลี่ยนทำไม
คำถามที่ตั้งต้นด้วยตรรกะที่ผิด คือ ผิด เริ่มผิด ไม่ต้องไปต่อก็ผิดแล้ว
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:14
อันดับต่อไปนี้ ขอเสนอ ความเห็นส่วนตัว ที่มีต่อ นโยบาย 300 บาท นะครับ
จะเห็นว่า ค่าแรง 300 บาท จะมีผลกระทบ ต่อ ต้นทุนประกอบการ ของ กิจการขนาดเล็ก มากที่สุด
เพราะสาเหตุใด เรามาดูกัน
สมมุติ บริษัท เดโชค้าไม้ เป็น บริษัท ค้าไม้เล็ก ๆ อยู่ในตัวเมือง ศรีสะเกษ
ค่าแรงที่เคยจ่ายอยู่ก่อน นโยบาย 300 คือ 159 บาทต่อวัน
หลังจาก นโยบาย 300 เพิ่มขึ้น 141 บาท ต่อวัน
อาเฮียกุ่ย เจ้าของร้าน ต้องจ่าย ค่าขึ้นลงไม้ลูกบาศก์ฟุตละ เดิม 0.30 บาท (สมมุตินะ) ขึ้นเป็น 0.55 บาท
นอกจากนั้น อาเฮีย ยังต้องจ่าย ค่าบรรทุก เพิ่มขึ้น จาก 6 ล้อ คันละ เดิม 3,000 (สมมุตินะ) เพิ่มเป็น 3,500 (แน่นอน คนขับรถ ต้องมีค่าแรง เหมือนกัน
นอกจากนั้น เวลาอาเฮีย ขายไม้ปาร์เกต์ หรือ โมเสค อาเฮีย ก็มักต้องพ่วง บริการ ปูพื้นไม้ เข้าไปด้วย
เพื่อจูงใจลูกค้า ว่าบริการเราดีนะ ครบถ้วน อาเฮีย ต้องจ่ายค่าปูพื้น เพิ่มอีกจาก ตารางเมตร (ตอนปูคิดเป็นตารางนะ ตามความรู้ผม ตอนทำบริษัทไม้) ละ 10 บาท เป็น 19 บาท (ตามส่วนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น)
นี่ยังไม่นับ ค่าวัสดุต่าง ๆ เช่น ค่ากระดาษทราย ค่าสายรัด ค่ากล่อง(ในกรณี ไม้พื้น)
ที่ต้องเพิ่มขึ้นตาม ต้นทุน ของบริษัท ที่เกี่ยวข้อง
สรุป อาเฮีย ถ้าไม่อยากขาดทุน ก็ต้องเพิ่มราคา ไม้ปาร์เกต์ โมเสค ไม้พื้น อีก ตารางเมตร ละ 10-20% เป็นอย่างต่ำ ถ้า 10 คงเกินทุนมานิดหน่อย แต่การเงินจะบีบรัดมาก ถ้าเก็บเงินลูกค้าได้ไม่ทัน จ่ายเจ้าหนี้
แต่ถ้า 20% การขายแต่ละครั้งก็จะลำบากมาก รู้ ๆ กัน ว่าคนสมัยนี้ รายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกอย่าง
โดยเฉพาะ ค่าอาหาร ค่าน้ำมันรถ ค่าเดินทาง
แล้วถ้าค่าไม้ที่จะเอามาทำพื้นยังเพิ่มราคา ตั้ง 20% ถามว่า แรงจูงใจที่จะเปลี่ยนพื้น กับ การหันไปยอมรับที่จะ ดูแลรักษาของเก่า
ตู๊ ๆ ใช้ไปก่อน อย่างไหนจะมากกว่า
แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ เศรษฐกิจ ระดับล่าง จะเคลื่อนไปอย่างไร
อย่าเอาบริษัท ใหญ่ ๆ มาเทียบ เพราะพวกนี้ มีฐานลูกค้า มากอยู่แล้ว
และค่าแรงตามมาตรฐาน ก็สูงกว่า ร้านค้าเล็ก ๆ มากมายอยู่แล้ว
ไม่งั้น แรงงานฝืมือ ส่วนใหญ่ จะหันไปหาบริษัท ใหญ่ ๆ ทำไม
แรงงานตามร้านค้าเล็ก ๆ จึงเป็นเพียงแรงงาน ที่ไม่มีความสามารถเพียงพอ ไปทำตาม บริษัทใหญ่ ๆ ได้
แล้วถ้าการจ้างงานยังเป็นอยู่แบบนี้
สักวัน อาเฮียกุ่ย คงเล็งเห็นว่า การเกษียณ ตัวเอง จำใจปิด ร้านค้าเดโชค้าไม้ อาจมาเร็ว กว่ากำหนด สัก 5-10 ปี เป็นแน่
อย่างที่ผมเคยบอกไปครับ... ทุกนโยบายมีข้อดีและข้อเสีย... สิ่งที่เราต้องทำคือ ปรับตัวครับ... จะร้องให้ตายยังไงถ้า พท ยังเลือกตั้งชนะ..
นโยบายก็ไม่เปลี่ยน ถ้าเค้า ไม่คิดว่ามันไม่ดี... เค้ามองภาพรวม...
ถามว่า ผ่าตัดเจ็บไหม เสียเลือดไหม... แล้วเราตัดสินใจผ่าทำไม... นั่นคือภาพรวม.. การเสียเลือดการเจ็บตัว ไม่ใช่ภาพรวม..
มองมุมกลับ.. ค่าแรงสูง คนมีรายได้มากขึ้น... เค้าก็ซื้อสินค้ามากขึ้นใช่หรือป่าว...
ไม่งั้นรายได้ส่วนนั้นไปไหน... เก็บใส่ตุ่มหรือ... ต่อให้ เค้าออม... ธนาคารก็มีเงินมากขึ้น... แล้วมันจะไปไหนละครับ ก็
ออกมา ปล่อยสินเชื่ิอง่ายขึ้น ...
ต้องยอมรับครับว่า ระบบทุน ไม่เื้ือื้อต่อ ธุรกิจขนาดเล็ก.. เราต้องสร้างค่านิยมใหม่... เช่น..
- ซื้อของจากร้านใกล้บ้าน แทน ห้าง...
- อุดหนุนร้านใกล้บ้าน แม้ราคาแพงกว่า แต่ บริการดี แทน ร้านราคาถูก ไม่มีบริการ...
ขณะเดียวกัน ร้านค้าขนาดเล็ก ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง..
- ไม่ใช่เห็นหน้าขาจร. หรือ หมูมา. ฟันได้ฟัน... เมื่อขาจรรู้ว่าโดนฟัน.. เค้าก็ไปซื้อห้าง ที่โดนฟันพร้อมกันหลายคนดีกว่า...โดนคนเดียว และไม่ซื้อร้านท่านอีกเลย...
- บริการต้องดีกว่า ห้าง ไม่งั้น... คนซื้อหาเหตุผลที่จะื้ซื้อที่นี่ไม่ได้...
สุดท้ายอยู่ไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ครับ... ต้องถามว่า ทำไมคนที่อยู่ในธุรกิจเดียว
กันขนาดเล็กเหมือนกัน อยู่ได้... เค้าไม่มีปัญหาหรือ..
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:18
ความจริง สิ่งดีในนโยบายหาเสียงของเพื่อไทยอันนึง ที่ผมอยากให้มี
คือ “กระชากค่าครองชีพ”
หากว่า เพื่อไทยทำได้จริงนะครับ
ค่าแรง เงินเดือน ไม่ต้องวิ่งสูง เพราะมันจะกระทบทุกอย่าง (ตามตัวอย่างคุณทรงธรรม)
ดังนั้น การขึ้นค่าแรง นอกจากจะไม่ช่วยรากหญ้าเลย
เพราะค่าครองชีพพื้นฐาน มันวิ่งตามขึ้นไปรอตั้งแต่ก่อนขึ้นค่าแรงด้วยซ้ำ
แถมมันยังสร้างปัญหาให้คนระดับอื่น ที่ได้เงินเดือนเกินหมื่นห้าและค่าแรงสามร้อยด้วย
ไม่รวมนายจ้าง เจ้าของกิจการนะครับนั่น
คุณเคยกินข้าว จานละ 30 ลดลงมาเป็นจานละ 25 บาท วันละ 3 จานเดือนละ 90 จาน x 5 บาท
คุณประหยัดลงได้ 450 บาทแล้ว
ผู้ผลิตก็ไม่เป็นปัญหา ต่างประเทศก็ยังอยากมาลงทุน เพราะค่าแรงไม่แพงกว่าประเทศอื่น
ไม่ต้องคืนภาษีรถยนต์ล่อใจผู้ผลิต (เพราะนั่น มันคือเงินภาษีของคนไทยอยู่ดี)
มีเพียงปัจจัยพื้นฐาน ที่ได้รับผลกระทบบ้าง แต่โดยมา น่าจะเป็นปัจจัยภายในประเทศ
ซึ่งภาครัฐน่าจะอุ้มได้ ไม่เยอะเท่าแค่เรื่องคืนภาษีรถยนต์แค่อย่างเดียวก็หนักหนาว่ากันเป็นแสนล้านแล้ว
อยู่ที่รัฐบาลมีปัญญาทำรึปล่าว
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:18
รอปลายปี เก็บรถตู้คันเดิม ไว้เก็บศพควายแดง 5555 ขำๆหนะครับ
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:28
มองมุมกลับ.. ค่าแรงสูง คนมีรายได้มากขึ้น... เค้าก็ซื้อสินค้ามากขึ้นใช่หรือป่าว...
ไม่งั้นรายได้ส่วนนั้นไปไหน... เก็บใส่ตุ่มหรือ... ต่อให้ เค้าออม... ธนาคารก็มีเงินมากขึ้น... แล้วมันจะไปไหนละครับ ก็
ออกมา ปล่อยสินเชื่ิอง่ายขึ้น ..
อย่างที่ผมตอบไปข้างบน
คนชั้นแรงงานได้ค่าแรงสูงขึ้น แต่ค่าครองชีพพื้นฐาน ขึ้นไปรอตั้งแต่ค่าแรงยังไม่ขึ้น
เมื่อค่าแรงขึ้น มันก็ยังขึ้นอีกรอบกันด้วยซ้ำ
เมื่อเช้านี้ ในกรุ๊ปในเฟสบุคของผม
มีเพื่อนท่านนึง ตั้งคำถามถึงคนกรุงครับ
“.ณเมืองร้อยเอ็ด....เช้าวันนี้หลังจากไปส่งลูกก็กลับเข้าที่ทำงาน แต่ก่อนจะถึงที่ทำงานเราก็แวะซื้อข้าวไว้ไปกินตอนเที่ยง แพนงหมู1ถุงข้าวเปล่า1ถุง พอคิดตังค์...เท่าไรคะ ....60บาทคะ...หือ...60ไม่ทราบว่าแกงถุงละเท่าไรคะ...50บาทคะ ข้าวถุงละ10 แล้วถ้าข้าวราดแกงกล่องละเท่าไรคะ 40-45บาทคะกับข้าวอย่างเดียวถ้า2อย่าง50บาทคะ....โอ้ยกรูไม่ได้ซื้อข้าวราดแกงนานขนาดนั้นเลยเหรอวะ ดีนะมีตังค์60บาทพอดี๊พอดี เกินจากนั้นสงสัยต้องเอามอไซด์วางไว้ก่อนแน่ๆเลย....ว่าแต่เดี๋ยวนี้ที่กรุงเทพข้าวราดแกงราคาเท่าไร..เวลาไปสั่งกินจะได้รู้ว่าเงินพอไหม๊’
จริงอยู่ ผมก็ตอบไปว่า มันไม่ได้แพงไปซะทุกที่หรอก
ที่ถูกก็มี (เดินตามรอยไอ้โอ๊คก็ได้ เผื่อได้ร้านถูก)
แต่คุณจะยอมรับมั๊ย ว่าทุกอย่างมันขึ้นไว้รอแล้ว ตั้งแต่ต้น
ดังนั้น สำหรับแรงงาน ผมไม่มองว่า นั่นเป็นการได้เงินเพิ่ม
เพราะคุณต้องจ่ายเพิ่มขึ้นไปเหมือนกัน
แต่ลองคิดดู ถึงคนอีกกลุ่ม ที่ได้เงินเดือน 15000-18000 แล้วต้องผ่อนรถ
คนที่ได้เงินเดือน 2-30000 ที่ต้องผ่อนบ้าน
นายจ้าง ที่ต้องแบกภาระหาเงินเดือนมาให้พอค่าจ้างขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น
มันผันไปเป็นต้นทุนให้สินค้าทุกอย่างตามมา
ส่งผลให้ค่าครองชีพของชนทุกชั้นสูงขึ้น
สุดท้าย คุณเฮนบอกว่า มันเป็นเรื่องที่เราต้องปรับตัว
เพราะเขาคิดไปแล้ว ทำไปแล้ว
ผมก้ได้แต่แอบถามตัวเองไปเงียบๆ ว่า
แล้วมันเป็นเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบล่ะหรือ
แล้วถามว่า มันได้ประโยชน์กับใครครับ
ชนชั้นแรงงานได้ประโยชน์มั๊ย
ชนชั้นกลางได้ประโยชน์มั๊ย
นายจ้างได้ประโยชน์มั๊ย
ประเทศได้ประโยชน์มั๊ย
แต่เพื่อไทยได้เสียงข้างมากไปครองครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:30
อันดับต่อไปนี้ ขอเสนอ ความเห็นส่วนตัว ที่มีต่อ นโยบาย 300 บาท นะครับ
จะเห็นว่า ค่าแรง 300 บาท จะมีผลกระทบ ต่อ ต้นทุนประกอบการ ของ กิจการขนาดเล็ก มากที่สุด
เพราะสาเหตุใด เรามาดูกัน
สมมุติ บริษัท เดโชค้าไม้ เป็น บริษัท ค้าไม้เล็ก ๆ อยู่ในตัวเมือง ศรีสะเกษ
ค่าแรงที่เคยจ่ายอยู่ก่อน นโยบาย 300 คือ 159 บาทต่อวัน
หลังจาก นโยบาย 300 เพิ่มขึ้น 141 บาท ต่อวัน
อาเฮียกุ่ย เจ้าของร้าน ต้องจ่าย ค่าขึ้นลงไม้ลูกบาศก์ฟุตละ เดิม 0.30 บาท (สมมุตินะ) ขึ้นเป็น 0.55 บาท
นอกจากนั้น อาเฮีย ยังต้องจ่าย ค่าบรรทุก เพิ่มขึ้น จาก 6 ล้อ คันละ เดิม 3,000 (สมมุตินะ) เพิ่มเป็น 3,500 (แน่นอน คนขับรถ ต้องมีค่าแรง เหมือนกัน
นอกจากนั้น เวลาอาเฮีย ขายไม้ปาร์เกต์ หรือ โมเสค อาเฮีย ก็มักต้องพ่วง บริการ ปูพื้นไม้ เข้าไปด้วย
เพื่อจูงใจลูกค้า ว่าบริการเราดีนะ ครบถ้วน อาเฮีย ต้องจ่ายค่าปูพื้น เพิ่มอีกจาก ตารางเมตร (ตอนปูคิดเป็นตารางนะ ตามความรู้ผม ตอนทำบริษัทไม้) ละ 10 บาท เป็น 19 บาท (ตามส่วนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น)
นี่ยังไม่นับ ค่าวัสดุต่าง ๆ เช่น ค่ากระดาษทราย ค่าสายรัด ค่ากล่อง(ในกรณี ไม้พื้น)
ที่ต้องเพิ่มขึ้นตาม ต้นทุน ของบริษัท ที่เกี่ยวข้อง
สรุป อาเฮีย ถ้าไม่อยากขาดทุน ก็ต้องเพิ่มราคา ไม้ปาร์เกต์ โมเสค ไม้พื้น อีก ตารางเมตร ละ 10-20% เป็นอย่างต่ำ ถ้า 10 คงเกินทุนมานิดหน่อย แต่การเงินจะบีบรัดมาก ถ้าเก็บเงินลูกค้าได้ไม่ทัน จ่ายเจ้าหนี้
แต่ถ้า 20% การขายแต่ละครั้งก็จะลำบากมาก รู้ ๆ กัน ว่าคนสมัยนี้ รายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกอย่าง
โดยเฉพาะ ค่าอาหาร ค่าน้ำมันรถ ค่าเดินทาง
แล้วถ้าค่าไม้ที่จะเอามาทำพื้นยังเพิ่มราคา ตั้ง 20% ถามว่า แรงจูงใจที่จะเปลี่ยนพื้น กับ การหันไปยอมรับที่จะ ดูแลรักษาของเก่า
ตู๊ ๆ ใช้ไปก่อน อย่างไหนจะมากกว่า
แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ เศรษฐกิจ ระดับล่าง จะเคลื่อนไปอย่างไร
อย่าเอาบริษัท ใหญ่ ๆ มาเทียบ เพราะพวกนี้ มีฐานลูกค้า มากอยู่แล้ว
และค่าแรงตามมาตรฐาน ก็สูงกว่า ร้านค้าเล็ก ๆ มากมายอยู่แล้ว
ไม่งั้น แรงงานฝืมือ ส่วนใหญ่ จะหันไปหาบริษัท ใหญ่ ๆ ทำไม
แรงงานตามร้านค้าเล็ก ๆ จึงเป็นเพียงแรงงาน ที่ไม่มีความสามารถเพียงพอ ไปทำตาม บริษัทใหญ่ ๆ ได้
แล้วถ้าการจ้างงานยังเป็นอยู่แบบนี้
สักวัน อาเฮียกุ่ย คงเล็งเห็นว่า การเกษียณ ตัวเอง จำใจปิด ร้านค้าเดโชค้าไม้ อาจมาเร็ว กว่ากำหนด สัก 5-10 ปี เป็นแน่
อย่างที่ผมเคยบอกไปครับ... ทุกนโยบายมีข้อดีและข้อเสีย... สิ่งที่เราต้องทำคือ ปรับตัวครับ... จะร้องให้ตายยังไงถ้า พท ยังเลือกตั้งชนะ..
นโยบายก็ไม่เปลี่ยน ถ้าเค้า ไม่คิดว่ามันไม่ดี... เค้ามองภาพรวม...
ถามว่า ผ่าตัดเจ็บไหม เสียเลือดไหม... แล้วเราตัดสินใจผ่าทำไม... นั่นคือภาพรวม.. การเสียเลือดการเจ็บตัว ไม่ใช่ภาพรวม..
มองมุมกลับ.. ค่าแรงสูง คนมีรายได้มากขึ้น... เค้าก็ซื้อสินค้ามากขึ้นใช่หรือป่าว...
ไม่งั้นรายได้ส่วนนั้นไปไหน... เก็บใส่ตุ่มหรือ... ต่อให้ เค้าออม... ธนาคารก็มีเงินมากขึ้น... แล้วมันจะไปไหนละครับ ก็
ออกมา ปล่อยสินเชื่ิอง่ายขึ้น ...
ต้องยอมรับครับว่า ระบบทุน ไม่เื้ือื้อต่อ ธุรกิจขนาดเล็ก.. เราต้องสร้างค่านิยมใหม่... เช่น..
- ซื้อของจากร้านใกล้บ้าน แทน ห้าง...
- อุดหนุนร้านใกล้บ้าน แม้ราคาแพงกว่า แต่ บริการดี แทน ร้านราคาถูก ไม่มีบริการ...
ขณะเดียวกัน ร้านค้าขนาดเล็ก ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง..
- ไม่ใช่เห็นหน้าขาจร. หรือ หมูมา. ฟันได้ฟัน... เมื่อขาจรรู้ว่าโดนฟัน.. เค้าก็ไปซื้อห้าง ที่โดนฟันพร้อมกันหลายคนดีกว่า...โดนคนเดียว และไม่ซื้อร้านท่านอีกเลย...
- บริการต้องดีกว่า ห้าง ไม่งั้น... คนซื้อหาเหตุผลที่จะื้ซื้อที่นี่ไม่ได้...
สุดท้ายอยู่ไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ครับ... ต้องถามว่า ทำไมคนที่อยู่ในธุรกิจเดียว
กันขนาดเล็กเหมือนกัน อยู่ได้... เค้าไม่มีปัญหาหรือ..
1-แล้วคนที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้น้อยที่ต้องมารับการกระชากค่ครองชีพขึ้นไปด้วยจะทำยังไง!!
2-เมื่อธุรกิจปรับตัวไม่ได้เพราะการก้าวกระโดดของค่าแรง ทำให้ต้องลดวันทำงาน โอที และลดสวัสดิการ รายได้แรงงานมันเพิ่มขึ้นหรือลดลง แล้วจะไปทำให้เกิดกำลังในการซื้อจริงหรือ
3-ท่านจินตนาการแต่ด้านบวกแค่ว่าใครอยู่ได้หรือไม่ได้ โดยที่ไม่ได้รู้ว่าธุรกิจขนาดเล็กเหล่านั้นมีปัญหาอย่างไร
แล้วพอหลายๆกิจการปิด คนงานก็ประท้วง พอถามไปยังรัฐบาลที่ท่านอวยก็บอกเป็นเพราะผู้ประกอบการเอง
แล้วถ้าผู้ประกอบการเป็นผู้กำหนดค่าแรงเองเค้าจะเดือดร้อนกันไหม
เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:58
ค่าแรงสูงขึ้น พร้อมกับอัตราว่างงานเพิ่มขึ้น ก็เท่ากับการลดความเหลื่อมล้ำมีปัญหาเพิ่มขึ้น
คนตกงานเพิ่มขึ้น เท่ากับปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ก็เท่ากับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมันลดลง
อย่างนี้แล้ว นโยบายอัปปรีย์มันประสพความสำเร็จตรงไหนวะ อ้าย ควาย
ไอ้คว ายเชครับ ผมขอตัวเลขอัตราว่างงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์เปรียบเทียบกับรัฐบาลอภิสิทธิ์หน่อยครับ ว่าแตกต่างกันมากแค่ไหน
เสนอหน้าดีดดิ้นเข้ามาตั้งกระทู้ขายจิตวิญญาณ ทำไมไม่เอาตัวเลขคนตกงาน กับค่าครองชีพของ 2 รัฐบาลมาแปะล่ะ ดันมาขอให้คนอื่นหา ฟายซะ
Edited by Tatiana, 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:58.
กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:58
ไอ้อ้วน *คุณ*สรุปตัวเลขมาได้มะ ใครมากใครน้อยกว่ากัน ตัวหนังสือเยอะ ลายตาวะ
ขอนอกเรื่องหน่อยนะครับ ลืมเปลี่ยนล็อกอินป่าวครับ
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:54
ว่างงาน เพราะโดนไล่ออก จากนโยบาย 300 บาท แต่ถ้าไม่มีนโยบายนี้ พวกเค้าคงได้ทำงานต่อเหมือนเดิม
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 18:13
1-แล้วคนที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้น้อยที่ต้องมารับการกระชากค่ครองชีพขึ้นไปด้วยจะทำยังไง!!
2-เมื่อธุรกิจปรับตัวไม่ได้เพราะการก้าวกระโดดของค่าแรง ทำให้ต้องลดวันทำงาน โอที และลดสวัสดิการ รายได้แรงงานมันเพิ่มขึ้นหรือลดลง แล้วจะไปทำให้เกิดกำลังในการซื้อจริงหรือ
3-ท่านจินตนาการแต่ด้านบวกแค่ว่าใครอยู่ได้หรือไม่ได้ โดยที่ไม่ได้รู้ว่าธุรกิจขนาดเล็กเหล่านั้นมีปัญหาอย่างไร
แล้วพอหลายๆกิจการปิด คนงานก็ประท้วง พอถามไปยังรัฐบาลที่ท่านอวยก็บอกเป็นเพราะผู้ประกอบการเอง
แล้วถ้าผู้ประกอบการเป็นผู้กำหนดค่าแรงเองเค้าจะเดือดร้อนกันไหม
1- ค่าครองชีพเกี่ยวอะไรกับค่าแรงขั้นต่ำ.. ครับ... น้ำมันแพง ค่าครองชีพก็ สูง คนที่ไม่มีรายได้ หรือ มีรายได้น้อย โดนไปด้วย... ผมหา ค่าแรงขึ้นต่ำใน สมการ ค่าครองชีพไม่เจอ ..
ค่าแรงขึ้นต่ำเป็นผลจาก ค่าครองชีพ ไม่ใช่ กลับกัน...
2- บริษัทที่ลด OT วันทำงาน ก็มี ผลคือ แรงงานได้รายได้เท่าเดิม..... บริษัทที่ไม่ลดก็มี... ผลคือแรงงานได้รายได้มากขึ้น หรือป่าวครับ... แล้ว เงินที่เพิ่มไม่ซื้อของแล้วจะไปไหน... ลงตุ่มหรือครับ...
3- ผมจินตนการด้านบวก เพราะ พวกท่าน มองกันแต่ด้านลบ... ผม "bring balance to the force" ครับ...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 18:53
ค่าแรงขั้นต่ำเกี่ยวอะไรกับค่าครองชีพ
- ง่ายๆ ค่าแรงขั้นต่ำมันก็เกี่ยวอยู่กับค่าต้นทุนของสินค่าอุปโภคบริโภคไงล่ะครับ ยิ่งในกิจการแบบ SME ที่ไม่ได้รับประโยชน์
จากนโยบายลดภาษีของรัฐบาล ก็ยิ่งกระทบ ซึ่งเจ้าของกิจการก็จะเอาค่าต้นทุนแรงงานซึ่งกระโดดขึ้นทีเดียว 30% นี่แหละ
ไปบวกเข้ากับราคาสินค้า ดังนั้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคก็จะขึ้นราคาโดยถ้วนหน้า
และกิจการสินค้าอุปโภคบริโภคแบบ SME ที่ว่ามันอยู่ตรงไหน มันก็อยู่ใกล้ๆตัวรากหญ้านั่นแหละ ร้านข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยว
พ่อค้าแม่ขายในตลาดที่ต้องจ้างลูกจ้าง ก็โดนต้นทุนเพิ่มกันทั่วหน้า ทุกขั้นตอน
และสินค้าทุกวันนี้ไม่ได้เป็นแค่สินค้าปฐมภูมิอย่างเดียว อย่างเช่นก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชาม ที่แม่ค้าจะต้องจ่ายต้นทุนเพิ่มเพื่อจ้างเด็กเสิร์ฟ
เด็กล้างชามอย่างน้อย 1-2 คน ยังไม่รวมถึงราคาเส้นก๋วยเตี๋ยว เนื้อหมู ผัก ที่โดนบวกราคาต้นทุนมาจากต้นทางเรียบร้อยแล้วด้วย
แล้วคุณคิดว่าราคาก๋วยเตี๋ยวมันจะเพิ่มขึ้นอีกกี่เปอร์เซ็นต์จึงจะได้กำไรคุ้มที่จะประกอบกิจการ นี่เป็นกิจการเล็กๆแบบรากหญ้าแล้วนะครับ
ไม่ใช่กิจการใหญ่ๆอำมาตย์ๆ
อีกอย่างที่รากหญ้าลืมคิดก็คือ อำมาตย์อย่างพวกผมอยู่กันเป็นคนโสดบ้าง เป็นครอบครัวเดี่ยวที่มีสมาชิกครอบครัวไม่เกิน 3-4 คน
ถึงโดนกระทบก็รัดเข็มขัดกันไหว แต่ครอบครัวรากหญ้าเป็นครอบครัวใหญ่ บางทีเมียก็อยู่บ้านไม่ได้ทำงาน มีลูก 2-3 คน
แถมยังต้องส่งเงินให้ทางบ้านต่างจังหวัด ไม่ก็มีพ่อตาแม่ยายมาอาศัยอยู่ด้วย คน 1 คน หรือ 2 คน มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกแค่หัวละ
60 บาท อย่างมากก็ไม่เกิน 120 บาทต่อวัน แต่ต้องคูณค่ากินของสมาชิกอย่างน้อยที่ต้องเพิ่มขึ้น 10-20 บาทต่อหัวต่อมื้อ X 5 คน X 3 มื้อต่อวัน
ไม่รวมถึงค่าเช่าบ้านที่อาจจะขึ้นอีก ค่าเดินทางที่พลอยขึ้นด้วย ค่ารักษาพยาบาลและค่าอื่นๆอีกจิปาถะที่จะขึ้นตาม
คิดดูเอาเองก็แล้วกันว่าจะคุ้มหรือเปล่า...
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 18:57
บอกได้คำเดียวว่า รอวันหายนะ
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:47
รัฐบาลปูควรทำอะไรดีครับ
1 อยู่เฉยๆ วันละ200 ต่อไป
2 เพิ่มยี่สิบบาททุก 5 ปี
3 เพิ่ม 300อย่างที่ทำอยู่
4 กรุงเทพ เพิ่ม300 เมืองต่างจังหวัด 250 จังหวัดกันดาร 200
ผมชอบ ค่าแรงขั้นต่ำ 300 ส่วนรายย่อยหรือ แรงงานเกษตรกรรม ว่ากันเองเลย นายจ้างตัดสินใจเอง
แถวบ้านผมตอนนี้ แรงงานเกษตรกรรม เริ่มตั้งแต่ 150 ยัน 1200 ต่อวัน อยู่ที่ลูกจ้างและนายจ้าง
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน