ระบบเกียรติศักดิ์ที่นักเรียนเตรียมทหารทุกคนท่องจนขึ้นใจ
"เราจะไม่พูดปด คดโกง หรือลักขโมย และจะไม่ยอมให้พวกเราคนใดคนหนึ่งทำเช่นนั้นเป็นอันขาด - we weill neither lie, cheat, steal nor toleate among us those who do."
จูดี้(รุ่นสิบห้า)ท่องมาสองปีเต็มๆยังจำไม่ได้ กลับไปขโมยวิทยุเค้าซะงั้น
แล้วเราจะเชื่อได้ยังไงว่า ถ้าจูดี้ชนะเลือกตั้ง จูดี้จะจำนโยบายที่จูดี้พล่ามเอาไว้ตอนหาเสียงได้
เห็นทีเรื่องที่กล่าวมาจะไม่เข้าหูเข้าสมองพงศพัศ..ดังข่าวนี้ที่ผ่านมาค่ะ
V
V
พงศพัศแจงกกต.ยันไม่เคยขโมยวิทยุ
ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ยื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงต่อ กกต.กทม. คดีขโมยวิทยุ พร้อมยืนยันไม่ได้เปลี่ยนชื่อเพื่อขอพระราชทานยศตามที่มีคนกล่าวอ้าง ชี้ถูกใส่ร้าย
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ยื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีที่ถูกใส่ร้ายในคดีมีประวัติติดคุกคดีอาญา โทษฐานขโมยวิทยุที่สหรัฐอเมริกา สมัยได้รับทุนการศึกษา วิชาอาชญวิทยา ต่อ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรุงเทพมหานคร โดยยืนยันว่า คดีขโมยวิทยุไม่ใช่เรื่องจริง และเชื่อว่า ถูกใส่ร้ายมานานกว่า 10 ปี ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวจนได้ข้อยุติตั้งแต่ปี2543 ซึ่งผลการสอบสวนพบว่า ตนไม่มีความผิดแต่อย่างใด พร้อมเรียกร้องสื่อมวลชนยุติการนำไปขยายเป็นประเด็นทางโซเชียลมีเดีย หรือเฟซบุค เพราะอาจเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าตนเปลี่ยนชื่อเพื่อขอพระราชทานยศนั้น ยืนยันว่า การพระราชทานยศพลตำรวจตรีเริ่มตั้งแต่ปี 2540 ตั้งแต่ยังใช้ชื่อว่า ไพรัช จากนั้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น พงศพัศ ภายหลังได้รับพระราชทานยศในปี2541 ทั้งนี้ การยื่นเอกสารชี้แจงต่อ กกต.กทม.ในครั้งนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมและชี้แจงข้อเท็จจริงทั้ง ผลการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเอกสารการเปลี่ยนชื่อให้ กกต.พิจารณา พร้อมยืนยันว่าจะไม่ฟ้องร้องกับผู้ที่ออกมากล่าวหา แต่จะมุ่งหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ เปิดเผยว่า ภายหลังการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในวันที่25ม.ค.นี้ ทาง กกต.กทม.จะใช้เวลาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครภายใน 7 วัน จึงจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งภายในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ส่วนกรณีของ พล.ต.อ.พงศพัศ นั้น ขอให้ผู้ที่กล่าวหาระมัดระวังด้วย เนื่องจากอาจเข้าข่ายการใส่ร้าย ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา57 และมีความผิดทางอาญาได้
ที่มา http://morning-news....พันธ์-4253.html