สถาบันกษัตริย์ไทยเคยทำร้ายคนไทยเช่นนั้นหรือ
เป็นความจริงที่ว่าในอดีตจนถึงขณะนี้ สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยได้ถูกคนกลุ่มหนึ่งจ้องจะล้มล้างมาโดยตลอด แม้คนกลุ่มที่ว่านี้จะมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับคนไทยทั้งแผ่นดินก็ตาม ผู้คิดล้มล้างสถาบันกษัตริย์ไทยใช้กรรมวิธีต่าง ๆ มาโดยตลอด ส่วนกรรมวิธีหนึ่งที่ใช้ในปัจจุบันคือการชูประเด็นมาตรา112 ขึ้นมา แล้วแอบอ้างว่าเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศไทย
อ้างตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 บัญญัติว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี คำถามคือการมีกฏหมายมาตรานี้มันทำให้ประเทศไทยไม่พัฒนาอย่างไร
ผู้ที่ต้องการให้ล้มล้างสถาบันกษัตริย์คิดและเชื่อใช่ไหมว่า การที่จะทำให้ประเทศไทยเจริญได้ ก็ต้องสามารถแสดงอาการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระประมุข พระราชินี องค์รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้กระนั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นก็จงตอบให้ชัดด้วยว่า ทำไมจึงต้องหมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ แล้วการแสดงพฤติกรรมดังกล่าวจะช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างไร
อนุสนธิ์จากการเขียนบทความนี้เกิดมาจากการได้ดูรายการตอบโจทย์ ทางสถานีทีวีไทยเมื่อคืนวันพุธที่ 13 มีนาคม 2556 เมื่อดู ฟังแล้ววิเคราะห์จากเนื้อหารายการ โดยเฉพาะจากคำถามของพิธีกร (ภิญโญ สุริยธรรมา) ที่ถามวสิษฐ เดชกุญชร อดีตนายตำรวจประจำราชสำนัก แล้วตีความได้ว่า สังคมไทยกำลังเกิดคำถามว่า สถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญและจำเป็นต่อสังคมไทยมากน้อยเพียงใด
คำตอบที่ได้จากผู้ให้สัมภาษณ์คือจำเป็นและสำคัญมาก รวมถึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คนไทยจะต้องช่วยกันปกป้องรักษาสถาบันนี้ไว้ เนื่องจากมีคุณูปการมากมายนานัปการ ในขณะที่พิธีกรถามว่า พระมหากษัตริย์ทรงดำรงสถานะอย่างไรท่ามกลางความขัดแย้งด้านอุดมการณ์การเมือง และความขัดแย้งทางการเมือง
ผู้ให้สัมภาษณ์ตอบได้ชัดเจนว่า ทรงวางตัวเป็นกลางในความขัดแย้งทางการเมืองอย่างเคร่งครัด แต่ไม่สามารถจะทรงนิ่งเฉยได้กับความขัดแย้งด้านอุดมการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะในยุคที่ประเทศชาติกำลังตกอยู่ในภัยคุกคามของลัทธิเผด็จการคอมมิวนิสต์ เพราะหากปล่อยให้ลัทธิคอมมิวนิสต์มีอำนาจเหนือได้ ก็หมายความว่ารัฐไทยในระบอบประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์ก็จะต้องสิ้นสุดลงไปโดยปริยาย
การได้ดูรายการในคืนนั้น ทำให้ผู้เขียนได้ความจริงประการหนึ่งว่า สื่อมวลชนไทยกลุ่มหนึ่งยังคงแสดงอาการองุ่นเปรี้ยวมาโดยตลอด ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นลักษณะของพวกที่ยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ในด้านคุณวุฒิและวัยวุฒิ ชอบทำสิ่งที่หวือหวา ชอบแตะเรื่องที่วูบวาบฉาบฉวย โดยไม่สามารถลงลึกถึงแก่นสาร ผู้เขียนอาจอนุมานว่ารู้ความต้องการลึก ๆ ของผู้ดำเนินรายการในคืนนั้นโดยอาศัยข้อมูลจากการตั้งคำถามเป็นเกณฑ์ จึงขอฝากผู้ทำงานสื่อฯไว้ว่า หากคิดจะนำเสนอเพื่อสนับสนุนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์โดยไม่สามารถหาหลักฐานชัดเจนมาประกอบได้ ก็จงทบทวนการทำงานของตนเองเสีย แล้วต้องตอบให้ชัดก่อนว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยทำร้ายประชาชนไทยอย่างไร และเมื่อไร
ที่มา http://www.naewna.co.../columnist/5813
Edited by ดอกปีบ, 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:20.