Jump to content


Photo
- - - - -

คุณ 55555 และคุณ Bookmarks ขอความรู้เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงครับ


  • Please log in to reply
690 ความเห็นในกระทู้นี้

#651 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:13


ขออภัยคุณศรครับมิได้มีเจตนามาขัดจังหวะคุณอธิบายได้ดีเเล้วครับ ผมเเค่สงสัยว่าคุณนามิว่ามันยังไม่จบอีกหรือนี่...


โอ... ตามสบายเลยครับ คุณ PeaceMan

ช่วยๆ กันแสดงความคิดเห็น จะได้หลากหลายครับ

ผมกับคุณนามิซัดกันมาวันนึงเต็มๆ คงจะล้าทั้งคู่แหละครับ :D :D :D
หลายหลายมา สิบกว่าหน้าแล้วครับ แต่ไปลงที่ ความพอเพียงกันเกือบทั้งสิ้น

ผมไม่ได้บอกว่า ผมตีความถูก
แต่ถ้าคุณยังไม่เข้าใจว่า มันตีความอย่างอื่นได้อีก
ก็ไม่มีประโยชน์ไปคถยกันเรื่องมหาภาค

ในเมื่อ ทรงย้ำเตือนว่า มักจะเข้าใจกันผิดๆ
ผมจึงไม่คิดว่า การคิดแบบธรรมดาๆทั่วไปจะถูกที่สุด
คุณเข้าใจ ใช่ไหม? ^_^

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#652 ศรอรชุน

ศรอรชุน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:39

เดี๋ยวมาต่อ ขอเคลียร์งานหน่อยครับ


"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้  

              มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้

 

"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...


#653 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:56

เดี๋ยวมาต่อ ขอเคลียร์งานหน่อยครับ


เชิญ
ผมคงไม่ว่างตอบได้ตลอดเวลาเช่นกัน

ทานข้าวเช้าให้อิ่มนะครับ เด่วหมดแรงเถียง :D

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#654 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:17

ขออนุญาตให้ข้อมูลในส่วนของภาคธุรกิจที่น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงไปปฎิบัติ ตัวอย่างเศรษฐกิจพอเพียงภาคธุรกิจ.jpg


ขอบคุณมากครับ คุณ ซีดีเคพี
จากตัวอย่างทั้งหมด จะเห็นได้ ว่า การสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยง แต่เป็นผลกระทบของการดำเนินงาน
คำว่า ผลกระทบ ไม่ใช่เรื่อง เสียประโยชน์อย่างเดียวนะครับ
แต่หมายถึง ถ้าไม่จัดการ เราจะเสียประโยชน์จากตรงนั้น

เช่นเรื่องของ การจ้างพนักงานท้องถิ่น เพราะถือว่า เขาเป็นรั้วให้เรา
นั่นหมายถึง เราได้แรงงานแล้ว ยังได้ คนที่รู้จักทรัพยากรท้องถิ่นอีก
เมื่อคนท้องถิ่นรักบริษัท เขาจะช่วยป้องกัน และสนับสนุนรอบด้าน
อะไรแบบนั้น

มันกว้างกว่า risk management เยอะครับ
หรืออย่างของ ชื่อไทย.คอม ลองอ่านดู
มีแค่ จิวเวอรี่ ที่คุณศรนำยกมาเท่านั้น ที่พูดถึงเรื่องความเสี่ยงทางการเงิน
นอกนั้นจะพูดถึงอย่างอื่นเป็นส่วนใหญ่

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#655 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:36

ผมยอมรับว่าตีความคำว่า "ภูมิคุ้มกัน" แบบ risk management เช่นการกระจายความเสียงในการลงทุน ไม่ทุ่มกับสิ่งไดสิ่งหนึ่งมากเกินไป หาสินค้า หรือการผลิตอย่างอื่นที่สร้างรายได้นอกจากรายได้หลัก เพื่อเป็น "ภูมิคุ้มกัน" ไม่ให้เราต้องสูญเสียทุกสิ่ง เมื่อเราพลาด อย่าง Central ผมได้ยินว่า เค้าแยกสาขาชิดลม ออกจากบริษัท เพราะเค้ามองว่าถ้าผิดพลาดอย่างไร สุดท้ายก็ยังมีสาขานี้เอาไว้ให้ลูกหลานมีกินมีใช้

 

ซึ่งตรงนี้ น่าจะต่างจากที่คุณเคนอิจิตีความ ที่คุณเคนอิจิกล่าวถึงนั้น ผมมองว่าเป็น "ภูมิคุ้มกันของระบบ" ที่ต้องหามาตรการบางอย่าง ที่สามารถรับประกัน หรืออย่างน้อยเปรียบเสมือนตัวช่วยในยามที่สถานการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น อย่างเช่นถ้าทำการเกษตร ก็ต้องมีระบบชลประทานและระบบกักเก็บน้ำขนาดใหญ่เช่นเขื่อนป่าสัก เพื่อให้เป็น "ภูมิคุ้มกัน" ของเกษตรกร ว่าต่อให้ฝนตกไม่มากพอที่จะเก็บไว้เอง ทางรัฐก็สามารถจัดหาแหล่งน้ำสำรองไว้ได้ ( เพื่อใช้ในการทำเกษตรกรรมทฤษฎีใหม่ ) และทำให้ระบบเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่สะดุด

 

ประเด็นนี้น่าคิด ผมยอมรับว่า คาดไม่ถึงว่าภูมิคุ้มกันมีความหมายกว้างกว่าที่ผมคิด แต่ผมก็ยังมองว่า การตีความทั้งสองแบบสามารถใช้ไปด้วยกันได้นะครับ


หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#656 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:16

อ่านจากตัวอย่างของคุณ cddkp แล้ว ทำให้ผมมองว่า ความจริงแล้ว ภูมิคุ้มกันนั้น น่าจะหมายถึงมาตรการหรือกระบวนการ ที่ทำให้ระบบสามารถดำเนินไปได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารความเสี่ยง การใช้ทรัพยากรณ์ท้องถิ่นอย่างคุ้มค่า ฯลฯ

 

ถ้าเป็นไปได้ อยากเชิญชวนทุกท่าน ช่วยกันวิเคราะห์เรื่องภุมิคุ้มกันจากตัวอย่างของคุณ cddkp ทีละข้อๆ โดยละเอียด เพื่่อความกระจ่างของทุกคน


หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#657 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:56

อ่านจากตัวอย่างของคุณ cddkp แล้ว ทำให้ผมมองว่า ความจริงแล้ว ภูมิคุ้มกันนั้น น่าจะหมายถึงมาตรการหรือกระบวนการ ที่ทำให้ระบบสามารถดำเนินไปได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารความเสี่ยง การใช้ทรัพยากรณ์ท้องถิ่นอย่างคุ้มค่า ฯลฯ

ถ้าเป็นไปได้ อยากเชิญชวนทุกท่าน ช่วยกันวิเคราะห์เรื่องภุมิคุ้มกันจากตัวอย่างของคุณ cddkp ทีละข้อๆ โดยละเอียด เพื่่อความกระจ่างของทุกคน


ผมยอมรับว่า risk management เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องนำมาคิด โดยที่ผมเองอาจจะรู้จักคำว่า risk management น้อยไปก็ได้
แต่คำว่าภูมิคุ้มกันในส่วนของ ศก พอเพียง ผมไม่ได้มองว่าเป็น lack of financial หรือ lack of productivity แต่เป็น risk of lacking of economy
เศรษฐกิจพอเพียง เน้นเรื่องการจัดการเศรษฐกิจเอง ไม่ใช่ผลผลิต ไม่ใช่ทรัพยากร ไม่ใช่การเงิน หรืออีกนัยนึง ต้องรวมทุกอย่าง
จึงเป็นที่มาของคำว่า สามารถพึ่งตัวเองได้
นั่นหมายถึง เศรษฐกิจพึ่งพา นั่นเอง

เห็นด้วย กับการวิเคราะห์ ภูมิคุ้มกันของแต่ละตัวอย่าง
แต่อย่าลืมว่า เหล่านี้เป็นแนวทางที่แต่ละบริษัท พยายามหาแนวทางเพื่อบ. ตัวเอง
จะตรงบ้าง จะไม่ตรงบ้าง ก็ได้
แต่ไม่ใช่เป็น "แบบอย่าง" ของ ศกพอเพียงที่ถูกต้องที่สุดนะครับ
:)

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#658 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:08

253667_517707801608766_1965700966_n1.jpg


ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#659 ศรอรชุน

ศรอรชุน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:12

มีหลายจที่ผมเห็นแย้ง และเห็นด้วยกับคุณนามิ จะค่อยๆไล่ทีละประเด็นนะครับ

 

ไม่ได้ยึดติด แต่ต้องหาหลักให้เจอ
หากคุณเข้าใจตรงนี้ของผมแล้ว ระดับมหาภาค ผมก็จะพูดสิ่งเดียวกัน 

ไอ้เรื่องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาดิ้นได้ คือแนวทาง 
แต่หลักการ ต้องมีอย่างเดียว ไม่เปลี่ยนแปลง

 

"สามห่วง สองเงื่อนไข" นั่นแหละครับ คือ หลักการ คือแก่น คือหัวใจ คือสิ่งที่ต้องยึดถือ  (หรือจะเรียกอะไรก็ตามแต่ใจ)

หากคิดจะดำเนินไปตาม "เศรษฐกิจพอเพียง" 

 

เป็นเหมือนกับต้องมีให้ครบ หากไม่ครบ ก็ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง

 

หรือหากนอกเหนือจากนี้ เช่นมีไม่ครบ หรือ เปลี่ยนแปลงแก้ไข ใส่เพิ่ม  ก็ไม่ใช่แล้วครับ

(อาจเป็นเศรษฐกิจพอเพียง แบบประยุกต์ใหม่ แต่ไม่ใช่ดั้งเดิม  ผมถึงต้องเริ่มการสนทนา ด้วย สามห่วง สองเงื่อนไข ยังไงละครับ)

 

 

ในเมื่อ ทรงย้ำเตือนว่า มักจะเข้าใจกันผิดๆ 
ผมจึงไม่คิดว่า การคิดแบบธรรมดาๆทั่วไปจะถูกที่สุด

 

สิ่งนี้คุณนามิคิด ผมว่าสวนทางกับหลักของพระองค์ท่านเป็นอย่างยิ่ง

หลักการทรงงานของพระองค์ท่านก็ดี หรือพระบรมราโชวาทหลายๆบทก็ดี ท่านมักจะเน้นเสมอในเรื่อง 

"ทำให้ง่าย" 

 

เพราะฉะนั้นสิ่งที่พระองค์ยกมา หรือสอนคนไทย จึงไม่มีความสลับซับซ้อน มากไปกว่าที่พระองค์ท่าน ยกตัวอย่างเลยครับ

 

“หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”

http://www.nesdb.go....rn_workking.pdf

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

"ภูมิคุ้มกัน" มันกว้างกว่า risk management

 

อันนี้ถูกต้อง ที่ผมยกตัวอย่างเปรียบเทียบระหว่าทั้งสองอย่าง เพื่อง่ายในการเทียบเคียงกับระบบบริหารจัดการสมัยใหม่

 

อย่างที่บอกว่าพระองค์เน้นสิ่งเรียบง่าย  แต่ในสิ่งนั้นๆ สามารถประยุกต์ไปได้ร้อยแปดพันเก้า

หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามแต่ปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก และสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องครับ


"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้  

              มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้

 

"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...


#660 ศรอรชุน

ศรอรชุน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:41

3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล

 

สิ่งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ยากมาก การมีภูมิคุ้มกัน หากเป็น ศก ส่วนตัว หรือที่เรียกว่า personal finance ก็คือ เราจะจัดสรรรายรับรายจ่ายของเราอย่างไร นั่นคงเป็นเรื่องของการอดออม เพื่อความไม่ลำบาก แต่การนึกถึงผลกระทบ คือ สิ่งที่ทำหรือหามานั่นแหละ มีผลกระทบอะไรหรือไม่ ไม่ใช่ไปมองว่า หากเราใช้เงินหมด แล้วจะมีผลกระทบอะไร 

 

ตัวอย่างเช่น  หากเราซื้อรถสักคัน ก็ต้องมีที่จอดรถ สถานที่ ที่เราอยู่นั้น มีที่จอดรถหรือไม่ ถ้าไม่มี แปลว่าไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบ 

ถ้าอยู่คอนโด แบบ ไม่ได้มีที่จอดให้ การที่คุณจะซื้อรถสักคัน ต้องเอาไปจอดข้างนอก แถวนั้นมีลานจอดไหม หรือต้องไปเบียดเบียนข้างบ้าน ถ้าต้องเบียดเบียน หรือจอดรถไว้ข้างถนน แล้วเกิดความเสี่ยง นั่นถือว่า ไร้ภูมิคุ้มกัน "ในการซื้อรถ"

 

หากจะซื้อบ้านแพงแล้วจะไม่มีเงินเก็บ..... เรื่องแบบนี้ ไม่ต้องพอเพียงหรอกครับ คอมมอนเซ้นก็พอแล้ว    ^_^

 

ที่ขีดเส้นใต้ ตัวใหญ่ ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

 

ถามว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" มีไปเพื่ออะไร   (พูดในบริบท จุลภาค)

ก็ต้องตอบว่า เพื่อการดำรงชีวิตที่สมดุลย์ มีความสุขตามศักยภาพของแต่ละคน... ใช่หรือไม่ ?

 

เพราะฉะนั้น ภูมิคุ้มกัน  ก็ต้องมีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ชีวิต มีความทุกข์ ในภาวะวิกฤต หรือมีผลกระทบใดๆเข้ามา... ใช่หรือไม่ ?

 

แล้วคุณนามิ ทำไมไปเอา "ภูมิคุ้มกัน" ไปยึดติดกับวัตถุละครับ ?

 

กรณีซื้อรถ กับการมีหรือไม่มีที่จอดรถ ไม่ใช่อยู่ในห่วงของ "ภูมิคุ้มกัน"  แต่จะต้องไปอยู่ในห่วงของ "ความมีเหตุผล" 

ในแง่ที่ว่าบ้านไม่มีที่จอดรถ แล้วซื้อรถมา สร้างความลำบาก หรือไม่ อย่างไร มีผลกระทบอย่างไรจากการซื้อรถ ตามนิยามนี้ครับ

 

2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล

โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ


"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้  

              มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้

 

"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...


#661 ศรอรชุน

ศรอรชุน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:33

:)

 

เผื่อคุณนามิยังมีประเด็นแย้ง ในสิ่งที่ผมชี้แจงความเข้าใจผิดของคุณครับ  :)


"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้  

              มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้

 

"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...


#662 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:58


:)


เผื่อคุณนามิยังมีประเด็นแย้ง ในสิ่งที่ผมชี้แจงความเข้าใจผิดของคุณครับ :)
เห็นแล้ว แต่ยังไม่มีเวลานั่งวาดรูป ขีดๆเขียนๆ ไว้ว่างก่อน
เด็กสอนยากอย่างคุณนี่ เลี้ยงยากน่าดูนะ เราวา -_-

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#663 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 21:13

มีหลายจที่ผมเห็นแย้ง และเห็นด้วยกับคุณนามิ จะค่อยๆไล่ทีละประเด็นนะครับ

 

ไม่ได้ยึดติด แต่ต้องหาหลักให้เจอ
หากคุณเข้าใจตรงนี้ของผมแล้ว ระดับมหาภาค ผมก็จะพูดสิ่งเดียวกัน 

ไอ้เรื่องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาดิ้นได้ คือแนวทาง 
แต่หลักการ ต้องมีอย่างเดียว ไม่เปลี่ยนแปลง

 

"สามห่วง สองเงื่อนไข" นั่นแหละครับ คือ หลักการ คือแก่น คือหัวใจ คือสิ่งที่ต้องยึดถือ  (หรือจะเรียกอะไรก็ตามแต่ใจ)

หากคิดจะดำเนินไปตาม "เศรษฐกิจพอเพียง" 

 

เป็นเหมือนกับต้องมีให้ครบ หากไม่ครบ ก็ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง

 

หรือหากนอกเหนือจากนี้ เช่นมีไม่ครบ หรือ เปลี่ยนแปลงแก้ไข ใส่เพิ่ม  ก็ไม่ใช่แล้วครับ

(อาจเป็นเศรษฐกิจพอเพียง แบบประยุกต์ใหม่ แต่ไม่ใช่ดั้งเดิม  ผมถึงต้องเริ่มการสนทนา ด้วย สามห่วง สองเงื่อนไข ยังไงละครับ)

ทั้งสามห่วง และ 2 เงือนไข ต้องมีอยู่แล้ว แต่ว่า ต้องแปลให้ถูกทางว่า จะไปทางไหน 

ถ้าแปลไปในทางความพอเพียง มันก็แปลได้ แต่มันก็ได้แค่ ความพอเพียง 

แต่ไม่สามารถ สร้าง เศรษฐกิจได้ 

ในเมื่อ ทรงย้ำเตือนว่า มักจะเข้าใจกันผิดๆ 
ผมจึงไม่คิดว่า การคิดแบบธรรมดาๆทั่วไปจะถูกที่สุด

 

สิ่งนี้คุณนามิคิด ผมว่าสวนทางกับหลักของพระองค์ท่านเป็นอย่างยิ่ง

หลักการทรงงานของพระองค์ท่านก็ดี หรือพระบรมราโชวาทหลายๆบทก็ดี ท่านมักจะเน้นเสมอในเรื่อง 

"ทำให้ง่าย" 

 

เพราะฉะนั้นสิ่งที่พระองค์ยกมา หรือสอนคนไทย จึงไม่มีความสลับซับซ้อน มากไปกว่าที่พระองค์ท่าน ยกตัวอย่างเลยครับ

 

“หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”

http://www.nesdb.go....rn_workking.pdf

 

คำว่า ทำให้ง่าย นั่นหมายถึง ใช้วิถีชีวิตประชาชนเป็นตัวกำหนด นั่นก็คือ การประมาณการ ด้วยเหตุผลที่ดี  2 ห่วงแรกนั่นเอง ไม่ได้ผิดอะไร

แต่การทำให้ง่าย ไม่ใช่ง่ายแบบที่ต้องหาใหม่ทั้งหมด หรือ ทำให้ความเป็นอยู่เรียบง่าย แต่จริงๆมันเรียบไม่ได้ 

เช่นคนในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพ รถติด เช้าเร่งด่วน เย็นเร่งด่วน 

ต้องแก้ไข หรือเพิ่มเติมให้เหมาะสม ไม่ใช่ไปบอกว่า ให้เก็บรถไว้ที่บ้านให้หมด แล้ว ช่วยออกมาใช่ ขสมก 

ในเมื่อ ขสมก ไม่เพียงพอ ในการรองรับความต้องการของประชาชน 

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

"ภูมิคุ้มกัน" มันกว้างกว่า risk management

 

อันนี้ถูกต้อง ที่ผมยกตัวอย่างเปรียบเทียบระหว่าทั้งสองอย่าง เพื่อง่ายในการเทียบเคียงกับระบบบริหารจัดการสมัยใหม่

 

อย่างที่บอกว่าพระองค์เน้นสิ่งเรียบง่าย  แต่ในสิ่งนั้นๆ สามารถประยุกต์ไปได้ร้อยแปดพันเก้า

หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามแต่ปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก และสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องครับ

สิ่งที่จะเป็นกรรม ในการ  apply เป็นไปได้หลายทาง แต่ แต่ละทางนั้น ต้องมี goal หรือเป้าหมาย ที่ขึ้น หรือคล้องกับ 3 ห่วง ทั้งสิ้น 

ตรงนี้ ไม่ต้องอธิบายหรอก มันเป็นเรื่องพื้นๆ อยู่แล้ว  -_-

แต่การตีคาม ภูมิคุ้มกันต่างหาก ที่ต่างกัน 

 

 

3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล

 

สิ่งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ยากมาก การมีภูมิคุ้มกัน หากเป็น ศก ส่วนตัว หรือที่เรียกว่า personal finance ก็คือ เราจะจัดสรรรายรับรายจ่ายของเราอย่างไร นั่นคงเป็นเรื่องของการอดออม เพื่อความไม่ลำบาก แต่การนึกถึงผลกระทบ คือ สิ่งที่ทำหรือหามานั่นแหละ มีผลกระทบอะไรหรือไม่ ไม่ใช่ไปมองว่า หากเราใช้เงินหมด แล้วจะมีผลกระทบอะไร 

 

ตัวอย่างเช่น  หากเราซื้อรถสักคัน ก็ต้องมีที่จอดรถ สถานที่ ที่เราอยู่นั้น มีที่จอดรถหรือไม่ ถ้าไม่มี แปลว่าไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบ 

ถ้าอยู่คอนโด แบบ ไม่ได้มีที่จอดให้ การที่คุณจะซื้อรถสักคัน ต้องเอาไปจอดข้างนอก แถวนั้นมีลานจอดไหม หรือต้องไปเบียดเบียนข้างบ้าน ถ้าต้องเบียดเบียน หรือจอดรถไว้ข้างถนน แล้วเกิดความเสี่ยง นั่นถือว่า ไร้ภูมิคุ้มกัน "ในการซื้อรถ"

 

หากจะซื้อบ้านแพงแล้วจะไม่มีเงินเก็บ..... เรื่องแบบนี้ ไม่ต้องพอเพียงหรอกครับ คอมมอนเซ้นก็พอแล้ว    ^_^

 

ที่ขีดเส้นใต้ ตัวใหญ่ ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

 

ถามว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" มีไปเพื่ออะไร   (พูดในบริบท จุลภาค)

ก็ต้องตอบว่า เพื่อการดำรงชีวิตที่สมดุลย์ มีความสุขตามศักยภาพของแต่ละคน... ใช่หรือไม่ ?

 

เพราะฉะนั้น ภูมิคุ้มกัน  ก็ต้องมีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ชีวิต มีความทุกข์ ในภาวะวิกฤต หรือมีผลกระทบใดๆเข้ามา... ใช่หรือไม่ ?

 

แล้วคุณนามิ ทำไมไปเอา "ภูมิคุ้มกัน" ไปยึดติดกับวัตถุละครับ ?

ผมไปยึดติดกับวัตถุอย่างไรครับ? 

ผมพูดถึง availability ว่า ซื้อมาแล้ว มีที่จอดไหม ถ้าไม่มี ก็ต้องซื้อที่จอดรถด้วย (ไม่ใช่ละ :P

ถ้าไม่อย่างนั้น ภูมิคุ้มกันอย่างที่คุณจะอธิบาย ต้องคำนึงถึงอะไรครับ? 

เงินฝากในธนาคาร? 

 

ถ้าผมจะซื้อรถสักคัน บ้านสักหลัง  โทรศัพท์มือถือ มอไซ เรือยอชท สนามกอฟ ร้านอาหาร ...... ต่างๆ หรืออะไรที่ต้องกู้สัก 10 ปี 

ถามว่า ภูมิคุ้มกันที่คูรพูดถึง คือ ต้องมีเงินเก็บ เหมือนๆกันหมด ใช่หรือไม่ ?

 

 

กรณีซื้อรถ กับการมีหรือไม่มีที่จอดรถ ไม่ใช่อยู่ในห่วงของ "ภูมิคุ้มกัน"  แต่จะต้องไปอยู่ในห่วงของ "ความมีเหตุผล" 

ในแง่ที่ว่าบ้านไม่มีที่จอดรถ แล้วซื้อรถมา สร้างความลำบาก หรือไม่ อย่างไร มีผลกระทบอย่างไรจากการซื้อรถ ตามนิยามนี้ครับ

 

2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล

โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ

 

คำว่ารอบคอบ มันก็ขึ้นกับปัจเจก เลิกนำมาเป็นตัววัดดีกว่า 

รอบคอม ความรู้ ความดี  ไม่มีใครดีกว่าใคร เอาแค่ วิธีการคำนึงถึงการพอประมาณ มีเหตุผล และภูมิคุ้มกันดีกว่า 


ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#664 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 22:11

อันนี้จากเอกสารที่คุณเคนอิจิทำ Link ไว้ให้

 

n2knu.jpg

 

ผมรู้สึกว่าภูมิคุ้มกันเป็นประเด็นที่น่าวิเคราะห์ให้ดี จากข้อความนี้ ความหมายมันกว้างมากเลยครับ บริบทของสถานการณ์นั้นหลากหลาย ผมเลยมองว่าทั้ง risk management และความต่อเนื่องของการจัดสรรทรัพยากร ( ถ้าผมเข้าใจคุณเคนอิจิไม่ผิดนะ ) ก็ล้วนอยุ่ในส่วนของภูมิคุ้มกันได้ทั้งคู่


หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#665 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 22:18

อันนี้จากเอกสารที่คุณเคนอิจิทำ Link ไว้ให้

 

n2knu.jpg

 

ผมรู้สึกว่าภูมิคุ้มกันเป็นประเด็นที่น่าวิเคราะห์ให้ดี จากข้อความนี้ ความหมายมันกว้างมากเลยครับ บริบทของสถานการณ์นั้นหลากหลาย ผมเลยมองว่าทั้ง risk management และความต่อเนื่องของการจัดสรรทรัพยากร ( ถ้าผมเข้าใจคุณเคนอิจิไม่ผิดนะ ) ก็ล้วนอยุ่ในส่วนของภูมิคุ้มกันได้ทั้งคู่

 

คุณ Gop 

เรื่องภูมิคุ้มกันนี้ สำคัฯมากครับ เพราะเป็นสิ่งที่ บางครั้งอาจมองดูแล้ว ใหญ่เกินตัว 

แต่มันเป็นสิ่งทำเป็น ต้องทำ ก็คือต้องทำ 

ถ้าไม่เข้าใจตรงนี้ ก็จะไม่มีทางเข้าข้อสรุปได้ 

 

แน่นอน ผมมีธงของผม ซึ่ง ทุกคนพยายามจะบอกว่า ธงผมผิด 

แต่ตอนนี้ ผมยังพูดได้เรื่อยๆ ว่ามันไม่ผิด เพราะ มันเป็นไปได้หลากหลายกว่า การเก็บออมเงินไว้ใช้จ่ายยามยาก 

 

 

 

 

      “...โครงการต่างๆ หรือเศรษฐกิจที่ใหญ่ ต้องมีความสอดคล้องกันดีที่ไม่ใช่เหมือนทฤษฎีใหม่ ที่ใช้ที่ดินเพียง ๑๕ ไร่ และสามารถที่จะปลูกข้าวพอกิน กิจการนี้ใหญ่กว่า แต่ก็เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน คนไม่เข้าใจว่ากิจการใหญ่ๆ เหมือนสร้างเขื่อนป่าสักก็เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน เขานึกว่าเป็นเศรษฐกิจสมัยใหม่ เป็นเศรษฐกิจที่ห่างไกลจากเศรษฐกิจพอเพียง แต่ที่จริงแล้ว เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน...”
 
พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 
ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๒
 
กระทู้นี้ ทำให้ มุมมองของ เศรษฐกิจพอเพียงของผม เปลี่ยนไป...  
:D
 
ขออนุญาติ โควท 

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#666 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 22:34

อันนี้จากเอกสารที่คุณเคนอิจิทำ Link ไว้ให้

 

n2knu.jpg

 

ผมรู้สึกว่าภูมิคุ้มกันเป็นประเด็นที่น่าวิเคราะห์ให้ดี จากข้อความนี้ ความหมายมันกว้างมากเลยครับ บริบทของสถานการณ์นั้นหลากหลาย ผมเลยมองว่าทั้ง risk management และความต่อเนื่องของการจัดสรรทรัพยากร ( ถ้าผมเข้าใจคุณเคนอิจิไม่ผิดนะ ) ก็ล้วนอยุ่ในส่วนของภูมิคุ้มกันได้ทั้งคู่

 

คุณ Gop 

เรื่องภูมิคุ้มกันนี้ สำคัฯมากครับ เพราะเป็นสิ่งที่ บางครั้งอาจมองดูแล้ว ใหญ่เกินตัว 

แต่มันเป็นสิ่งทำเป็น ต้องทำ ก็คือต้องทำ 

ถ้าไม่เข้าใจตรงนี้ ก็จะไม่มีทางเข้าข้อสรุปได้ 

 

แน่นอน ผมมีธงของผม ซึ่ง ทุกคนพยายามจะบอกว่า ธงผมผิด 

แต่ตอนนี้ ผมยังพูดได้เรื่อยๆ ว่ามันไม่ผิด เพราะ มันเป็นไปได้หลากหลายกว่า การเก็บออมเงินไว้ใช้จ่ายยามยาก 

 

ผมมองว่าการตีความทั้งสองแบบนั้นถูกครับ และยอมรับว่าการมองแบบคุณเคนอิจินั้น ผมไม่เคยคิดมาก่อน

 

ความจริงแล้ว ผมคิดว่าถ้ามองดีๆ ที่เห็นว่าต่าง อาจจะเป็นสิ่งเดียวกันก็ได้ครับ เพียงแต่ตอนนี้ยังเห็นไม่ชัด ผมเลยอยากให้ลองวิเคราะห์มาตรการต่างๆที่คุณ cddkp ให้ตัวอย่างเอาไว้ ว่าสอดคล้องกับคำนิยามข้างต้นหรือไม่? อย่างไร? แต่ตอนนี้คงต้องรอให้คุณศรอรชุนมาตอบก่อน ผมไม่รีบครับ แล้วตอนนี้พิมยาวๆไม่ค่อยได้ด้วย เวลาไม่ค่อยมี


หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#667 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 22:39



อันนี้จากเอกสารที่คุณเคนอิจิทำ Link ไว้ให้


n2knu.jpg

ผมรู้สึกว่าภูมิคุ้มกันเป็นประเด็นที่น่าวิเคราะห์ให้ดี จากข้อความนี้ ความหมายมันกว้างมากเลยครับ บริบทของสถานการณ์นั้นหลากหลาย ผมเลยมองว่าทั้ง risk management และความต่อเนื่องของการจัดสรรทรัพยากร ( ถ้าผมเข้าใจคุณเคนอิจิไม่ผิดนะ ) ก็ล้วนอยุ่ในส่วนของภูมิคุ้มกันได้ทั้งคู่
คุณ Gop
เรื่องภูมิคุ้มกันนี้ สำคัฯมากครับ เพราะเป็นสิ่งที่ บางครั้งอาจมองดูแล้ว ใหญ่เกินตัว
แต่มันเป็นสิ่งทำเป็น ต้องทำ ก็คือต้องทำ
ถ้าไม่เข้าใจตรงนี้ ก็จะไม่มีทางเข้าข้อสรุปได้

แน่นอน ผมมีธงของผม ซึ่ง ทุกคนพยายามจะบอกว่า ธงผมผิด
แต่ตอนนี้ ผมยังพูดได้เรื่อยๆ ว่ามันไม่ผิด เพราะ มันเป็นไปได้หลากหลายกว่า การเก็บออมเงินไว้ใช้จ่ายยามยาก
ผมมองว่าการตีความทั้งสองแบบนั้นถูกครับ และยอมรับว่าการมองแบบคุณเคนอิจินั้น ผมไม่เคยคิดมาก่อน

ความจริงแล้ว ผมคิดว่าถ้ามองดีๆ ที่เห็นว่าต่าง อาจจะเป็นสิ่งเดียวกันก็ได้ครับ เพียงแต่ตอนนี้ยังเห็นไม่ชัด ผมเลยอยากให้ลองวิเคราะห์มาตรการต่างๆที่คุณ cddkp ให้ตัวอย่างเอาไว้ ว่าสอดคล้องกับคำนิยามข้างต้นหรือไม่? อย่างไร? แต่ตอนนี้คงต้องรอให้คุณศรอรชุนมาตอบก่อน ผมไม่รีบครับ แล้วตอนนี้พิมยาวๆไม่ค่อยได้ด้วย เวลาไม่ค่อยมี
เด่วพรุ่งนี้เย็นๆ จะมาวิแคะทีละตัวเลยว่า มีความสัมพันธ์กับอะไรได้บ้าง
พิมพ์เยอะไม่สะดวก ใช้มือถือ ทำไหล่เดี้ยงไปข้างแล้ว :(


ปล. เวลาผมบอกว่า ทุกคนทำ ไม่ได้หมายความถึงทุกคนจริงๆหรอกนะ :)
อย่างน้อยก็คุณก้อบไง ยิ้ววว ..

Edited by เคนอิจิ-นามิ ขี้แพ้, 27 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:38.

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#668 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:42

สำหรับท่านที่อยากอ่านแบบสบาย ๆ

 

เสนอให้อ่าน  นวนิยาย เรื่อง  "น้ำเล่นไฟ" ของ "กฤษณา อโศกสิน"

 

ซึ่งได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และ เกษตรทฤษฏีใหม่

 

มาสอดแทรกไว้ในผลงานประพันธ์ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

 

และเพื่อเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 84 พรรษา

 

เป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลพระราชทาน  นวนิยายดีเด่น ของ กระทรวงศึกษาธิการ

 

และ รางวัลเซเวีนบุ๊คอวอร์ด รางวัลชนะเลิศประภทนวนิยาย


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#669 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 19:34

สำหรับท่านที่อยากอ่านแบบสบาย ๆ

 

เสนอให้อ่าน  นวนิยาย เรื่อง  "น้ำเล่นไฟ" ของ "กฤษณา อโศกสิน"

 

ซึ่งได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และ เกษตรทฤษฏีใหม่

 

มาสอดแทรกไว้ในผลงานประพันธ์ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

 

และเพื่อเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 84 พรรษา

 

เป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลพระราชทาน  นวนิยายดีเด่น ของ กระทรวงศึกษาธิการ

 

และ รางวัลเซเวีนบุ๊คอวอร์ด รางวัลชนะเลิศประภทนวนิยาย

ขอบคุณครับ คุณขวัญ 

ถ้าไม่เป็นการรบกวน ช่วยเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่า เขาทำอย่างไร นะครับ 

เผื่อเพื่อนๆ (รวมทั้งผมด้วย) ไม่เคยได้อ่าน :)


Edited by เคนอิจิ-นามิ ขี้แพ้, 28 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:07.

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#670 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:06

ตัวอย่างเศรษฐกิจพอเพียงภาคธุรกิจ-scgs.jpg

 

เอาเฉพาะ ภูมิต้านทานนะครับ นอกนั้น คงจะเห็นคล้ายกันเป็นส่วนใหญ่ 

 

- ตระหนัก ถึงการมีส่วนร่วมของพนักงาน ในการแก้ไขปัญหาของบริษัท

การสร้างภูมิชั้นแรก ของเขา คือ การมีส่วนร่วมของพนักงาน เพราะเขาถือว่า คนทำงาน คือคนที่รู้ปัญหาดีที่สุด และเพราะเขาทำงานทางด้าน ปิโตรเคมี การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จึงเป็นเรื่องจำเป็น การคัดสรรบุคคล ที่ไว้ใจได้ ก็จำเป็น เมื่อเกิดเรื่องที่ไซท์งานไม่จำเป็นต้องเข้ามาส่วนกลางเพื่อรอรับคำปฏิบัติการ (นี่ผมโม้เอาหมดเลยนะ) ผลที่ได้คือ การแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว และเกิดความเสียหายน้อยที่สุด

- มีโครงการพัฒนาภาวะผู้นำขององค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลง 

มีเมื่อการให้ความไว้วางใจแก่บุคคลกรแล้ว สิ่งที่จำเป็น คือให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาของตัวงานด้วย และการแก้ไขปัญหา ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น 

- มีการจัดสรรทุนการศึกษาด้านต่างๆ เพื่อต่อยอดความรู้ของพนักงาน เป็นการสะสมทุนมนุษย์ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจในระยะยาว 

ก็คือ ให้ความสำคัญ กับทรัพยากรบุคคล นั่นเอง 

 

ซึ่ง มันเป็นคนละมุม กับแนวคิดที่ว่า บริษัทนี้ จะมีความเสี่ยงในเรื่องผลผลิต หรือทรัยพากร หรือไปแนนซ แล้วจะแก้ไขด้วยอะไร แต่เน่้นไปที่ ด้วยการดำเนินงานตามนี้ บริษัท จะมีความเข้มแข็ง และเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง 

 

 


  • Gop likes this

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#671 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:20

ชุมพร คาบาน่า (ของดรูปนคะครับ มองไม่ค่อยชัด) 

 

- มีการนำแนวคิดการ"ระเบิดจากภายใน" มาใช้ โดยให้พนักงานได้ลงมือทำกิจการรมต่างๆด้วยตนเอง เช่น การปลูกข้าวในรีสอร์ท ทำให้ได้ข้าวสาร อีกทั้งแกลบ และรำ นำมาทำเป็นปุ๋ยหมัก และทำประโยชน์อื่นๆได้อีกมาก 

โดยการที่เขาเป็นรีสอร์ท ผมเองก็ไม่แน่ใจว่า ลักษณะนี้ เขาต้องการอะไร ถ้าบอกว่า ปลูกพืช ทำสวน อันนี้ผมเข้าใจ เพราะว่า รีสอร์ท ต้องมีสวน ไว้เป็นไม้ประดับอยู่แล้ว แต่ถ้ามีการปลูกข้าวด้วย ก็คงไม่มากไปกว่า การปลูกข้าวไว้บรโภคส่วนหนึ่ง นำส่วนอื่น มาทำป๋ยหมักอย่างที่ว่า สิ่งเหล่านั้น นำมาใช้ในรีสอร์ทได้

 

ส่วนการระเบิดจากภายใน คงจะเป็น การให้บุคคลการมีส่วนร่วมเช่นกัน คือ การส่งเสริม ให้บุคคลากรมีความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาที่ประกอบอาชีพ เพื่อเป็นการรับประกันว่า ที่นา หรือ สวนที่เป็นของรีสอร์ท จะได้รับการดูแล โดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่เหมือนบางสถานที่ ที่ต้องจ้างคนนอกเข้ามาทำสวน 

 

- เน้นการจ้างบุคคลากรในท้องถิ่น โดยยึดหลักว่า "รั้วของเราคือชาวบ้าน" 

นี่ก็คือ ไม่มีการขโมย หรือทำลายทรัพย์สิน (ล่ำมั้ง) 


ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#672 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:37

บ้านอนุรักษ์กระดาษสา 

- ผลิตสินค้าหลากหลาย 

- ใช้แรงงานท้องถิ่นตัดปอสา และทำไร่ต้นสา ในจังหวัดเชียงราย 

- จัดสรรเงิน ออกเป็นเงินหมุนเวียน ประจำวัน และเงินสำรองในระยะยาว 

- ส่งเสริมการออมของพนักงาน 

 

อันนี้ ไม่น่าจะมีอะไรมาก ในทัศนะคติ ขององกรณ์อนุรักษ์ ย่อมไม่ปรารถนาจะมีการขยาตัวของกิจการแต่งอย่างใด จึงเน้นในเรื่องของการออม และจัดสรรเงินทุน 

 

แพรนด้า จิวเวอรี่ (ก็เช่นกัน) 

- กระจายผลิตภัณฑ์ในหลายระดับ และขยายตลาดในหลายประเทศ 

- มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิด 60% ของกำไรสุทธิ

- ประเมินความเสี่ยงของกิจการ ทุกๆ 6 เดือน 

- ป้องกันความเสี่ยงโดยการปริวรรตเงินตราไว้ล่วงหน้า 

สำหรับบริษัทนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรมาก เน้นทางด้านการจัดสรรเงินทุน และกำไร เช่นกัน 


ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#673 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:38

ชื่อไทย.คอม

- สร้างมูลค่าเพิ่ม จากการใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นภายในองกรณ์ ในการให้บริการลูกค้า 

เรื่องนี้ น่าจะเป็นการใช้บุคคลกรอย่างคุ้มค่า 

- มีความระมัดระวังในการรับพนักงานเพื่อให้ได้คุณสมบัติที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมภายในองกรณ์

น่าจะเล็งเห็นถึงปัญหาระหว่างพนักงาน เพราะการทำงานด้านเทคโนโยลี มักจะมีความเป็นอัตตาสูง (เหมือนผม :D) ดังนั้น การป้องกันการเกิดปัญหาระหว่างพนักงานคือ ต้องมีบุคคลิก หรือการตัดสินใจที่ใกล้เคียงกัน เวลาทำงาน จะได้กระทบกระทั่งกันน้อยที่สุด

- มีการปรับตัวพร้อมรับสถานการณ์ในช่วงธุรกิจคอทคอมถดถอย

- สร้างพันธมิตร ในการให้บริการ และร่วมในสมาคมที่เกี่ยวข้อง 

สร้างพันธมิตร ในการให้บริการ คงจะหมายถึง dealer ต่างๆ ที่ต้องอาศีย connection ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง device /machine /onsite support ต่างๆ 

 

 

 

จบครับ.. เชิญทัศนา  :D


ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#674 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:40

ความจริงแล้วหลายส่วนก็เห็นด้วย แต่ก็อยากจะเขียนในมุมมองของตัวเองดู

 

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ผมยึดข้อความนี้เป็นหลักนะครับ

 

n2knu.jpg

 

ผมแยกออกเป็นสามส่วนคือ

 

- การเตรียมการ

- ผลกระทบและความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ

- ความเป็นไปได้ของสถานกาณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

ผมพิจารณาแล้วพบว่า ถ้าเรามองจากข้อสุดท้าย คือสถานการณ์ในอนาคต ย้อนมาที่ผลกระทบ แล้วจบลงที่การเตรียมการ จะเห็นภาพที่ชัดเจนมาก ดังนั้นผมจะใช้วิธีการลำดับจากข้อสามมาข้อหนึ่งในการวิเคราะห์มาตรการเหล่านี้นะครับ

กรณีแรกคือบริษัท SCG

 

เอาเฉพาะ ภูมิต้านทานนะครับ นอกนั้น คงจะเห็นคล้ายกันเป็นส่วนใหญ่ 

 

- ตระหนัก ถึงการมีส่วนร่วมของพนักงาน ในการแก้ไขปัญหาของบริษัท

 

การสร้างภูมิชั้นแรก ของเขา คือ การมีส่วนร่วมของพนักงาน เพราะเขาถือว่า คนทำงาน คือคนที่รู้ปัญหาดีที่สุด และเพราะเขาทำงานทางด้าน ปิโตรเคมี การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จึงเป็นเรื่องจำเป็น การคัดสรรบุคคล ที่ไว้ใจได้ ก็จำเป็น เมื่อเกิดเรื่องที่ไซท์งานไม่จำเป็นต้องเข้ามาส่วนกลางเพื่อรอรับคำปฏิบัติการ (นี่ผมโม้เอาหมดเลยนะ) ผลที่ได้คือ การแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว และเกิดความเสียหายน้อยที่สุด

 

ผมคิดว่าข้อนี้วิเคราะห์ค่อนข้างยาก เพราะนโยบายค่อนข้างครอบจักรวาล แต่ก็สามารถมองเห็นแนวทางกว้างๆได้

 

๑ มาตรการนี้คำนึงถึงสถานการณ์ไดในอนาคต?

 

เนื่องจาก SCG เป็นองค์กรขนาดใหญ่ ปัญหามีหลายระดับมาก มาตรการนี้เป็นการมองปัญหาภายในองค์กรเป็นหลัก ไล่ตั้งแต่ปัญหาเล็กๆน้อยๆในการทำงาน ไปจนถึงระดับนโยบายขององค์กร ความผิดพลาด หรือปัญหาที่เกิดขึ้น ล้วนมีผลทำให้ประสิทธิผลขององค์กรลดลง

 

๒ มาตรการนี้มองถึงผลกระทบหรือความเปลี่ยนแปลงอะไร?

 

ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะทำให้องค์กรขาดประสิทธิภาพ เช่นความไม่เข้่าใจกันระหว่างพนักงาน อาจทำให้เกิดความแตกแยก และนำไปสู่ความเสียหายในระดับใหญ่ได้ หรือปัญหาเล็กๆน้อยๆ ในขั้นตอนการผลิต อาจทำให้บริษัทสูญเสียรายได้อย่างมหาศาล

 

๓ มาตรการนี้เตรียมการอะไร

 

เตรียมพร้อมรับข้อมูล และรับฟังความคิดเห็น โดยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเช่น เปิดช่องทางให้ร้องเรียนเป็นพิเศษ หรือ อนุญาตให้เข้าร่วมประชุมที่มีการตัดสินใจสำคัญๆ

 

 

- มีโครงการพัฒนาภาวะผู้นำขององค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลง 

มีเมื่อการให้ความไว้วางใจแก่บุคคลกรแล้ว สิ่งที่จำเป็น คือให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาของตัวงานด้วย และการแก้ไขปัญหา ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น 

 

๑ มาตรการนี้คำนึงถึงสถานการณ์ไดในอนาคต?

 

บริษัทขยายตัว องค์กรใหญ่ขึ้น และอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบของบริษัท เช่นกลายเป็นบริษัทข้ามชาติ หรือ แตกสายการผลิตนอกจากที่ทำอยู่ในปัจจุบัน

 

๒ มาตรการนี้มองถึงผลกระทบหรือความเปลี่ยนแปลงอะไร?

 

บริษัทที่ใหญ่ขึ้น ก็ต้องการบุคลากรที่มากขึ้น ทั้งระดับล่างและระดับบนในหลากหลายสาขา การบริหารยากขึ้น เงินหมุนเวียนมากขึ้น ฯลฯ

 

๓ มาตรการนี้เตรียมการอะไร

 

เตรียมทรัพยากรบุคคลระดับผู้บริหาร หรือตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูง เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทอย่างทันท่วงที

 

 

- มีการจัดสรรทุนการศึกษาด้านต่างๆ เพื่อต่อยอดความรู้ของพนักงาน เป็นการสะสมทุนมนุษย์ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจในระยะยาว 

ก็คือ ให้ความสำคัญ กับทรัพยากรบุคคล นั่นเอง 

 

๑ มาตรการนี้คำนึงถึงสถานการณ์ไดในอนาคต?

 

ตัวมาตการก็อธิบายไว้ค่อนข้างชัด ธุรกิจย่อมมีการแข่งขัน ในระยะยาว การแข่งขันก็ยิ่งสูง คู่แข่งขันทางธุรกิจนั้นไม่มีทางหยุดนิ่ง มีแต่จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

 

๒ มาตรการนี้มองถึงผลกระทบหรือความเปลี่ยนแปลงอะไร?

 

ถ้าองค์กรพัฒนาตามคู่แข่งไม่ทัน องค์กรก็ไม่สามารถยืนอยู่บนเส้นทางธุรกิจนี้ได้

 

๓ มาตรการนี้เตรียมการอะไร?

 

เพิ่มคุณภาพของทรัพยากรบุคคลในองค์กร เพื่อให้บุคลากรเหล่านี้สามารถพัฒนาองค์กรณ์และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้

 

 

ซึ่ง มันเป็นคนละมุม กับแนวคิดที่ว่า บริษัทนี้ จะมีความเสี่ยงในเรื่องผลผลิต หรือทรัยพากร หรือไปแนนซ แล้วจะแก้ไขด้วยอะไร แต่เน่้นไปที่ ด้วยการดำเนินงานตามนี้ บริษัท จะมีความเข้มแข็ง และเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง 

 

ผมกลับมองว่า แต่ละองค์กร ก็มีมุมมองในการประเมินสถานการณ์ที่ไม่เหมือนกัน อย่าง SCG นั้น ผมว่าเค้าใหญ่เกินจะมาระวังเรื่องเงินเป็นหลักแล้วครับ เท่าที่รู้ บริษัทนี้มั่นคงในด้านการเงินมาก ผมเชื่อว่าเค้ามองไปที่การเติบโตอย่างเข้มแข็ง และสามารถพัฒนาองค์กรให้แข่งขันกับบริษัทอื่นๆในตลาดโลกในระยะยาวมากกว่า คือมองเรืองโกอินเตอร์แล้วครับ

 

สำหรับผมการตีความเรื่องภูมิคุ้มกันนั้น ผมยึดหลักที่มีอยู่แล้วคือ

๑ การคาดการณ์สถานการณ์ในอนาคต

๒ ผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์เหล่านั้น

๓ การเตรียมมาตรการรองรับ

 

ไม่ว่ามาตรการไดๆ ที่สอดคล้องกับหลักการสามข้อนี้( ซึ่งรวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้วย ) ผมถือว่าเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันได้ครับ


Edited by Gop, 28 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:45.

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#675 New CanThai_16401

New CanThai_16401

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 93 posts

ตอบ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 00:30

กระทู้คุณภาพ...

#676 New CanThai_16401

New CanThai_16401

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 93 posts

ตอบ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 00:53

 

^_^
 
 
"ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง จึงประกอบด้วยคุณสมบัติ ดังนี้ 

1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ 
2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่างรอบคอบ 
3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต"

 
นี่คือ.."3 ห่วง"...ยังขาด 2 เงื่อนไข...4 มิติ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน

http://www.supradit....son3/10/01.html

Edited by New CanThai_16401, 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 01:09.


#677 New CanThai_16401

New CanThai_16401

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 93 posts

ตอบ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 01:22

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวปรัชญา สามารถตีความให้เหมาะกับตัวเอง ครอบครัว ธุรกิจ ชุมชน ประเทศชาติ ไม่มีสูตรสำเร็จ ต้องปรับใช้ให้เหมาะสม

การระเบิดจากภายในคือการตระหนักรู้ด้วยตนเอง ตระหนักรู้จากจิตใจของตนเองว่า "ความพอเพียง" ของตนเองนั้นประมาณไหน ความพอประมาณไม่ทำอะไรเกินตัว

คนมีมากก็พอเพียงได้ คนมีน้อยก็พอเพียงได้ แต่หมายถึงทำยังไงให้ใช้การพึ่งพาตนเองเป็นหลัก การใช้จ่ายจากสิ่งที่หาได้ให้มีเหตุผลรองรับคือไม่สุรุ่ยสุร่าย

จะกู้หรือไม่กู้ก็ต้องดูความเสี่ยง มองหนทางถอยเวลาที่พลาดพลั้งจะได้ไม่บาดเจ็บ เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ห้ามไม่ให้รวย แต่ให้รวยอย่างมีเหตุผลจากความรู้คู่คุณธรรม

เมื่อมองการพัฒนาในภาพรวมของประเทศชาติ ท่านให้มองทั้งเรื่อง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมเพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างสมดุลและพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงนั่นคือความยั่งยืนของการพัฒนา

#678 New CanThai_16401

New CanThai_16401

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 93 posts

ตอบ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 01:36

กรณีชุมพรคาบาน่า...เป็นแนวทาง "กรีน โฮเตล" คือผลิตวัตถุดิบในการทำอาการให้แขกผู้มาพักใช้ผลิตผลจาก "เกษตรอินทรีย์" ซึ่งเป็นที่ต้องการของคนมีเงินแต่ห่วงสุขภาพ

ในต่างจังหวัด มีหลายโรงแรมที่ปลูกพืชผักให้กับครัวโรงแรมของตนเอง โชว์เกษตรอินทรีย์ให้แขกเห็นที่หน้าโรงแรม ถือเป็นจุดขายที่กำลังมาแรง

นอกจากนั้นยังถือว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตของตนเองด้วย

#679 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:35



สำหรับผมการตีความเรื่องภูมิคุ้มกันนั้น ผมยึดหลักที่มีอยู่แล้วคือ
๑ การคาดการณ์สถานการณ์ในอนาคต
๒ ผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์เหล่านั้น
๓ การเตรียมมาตรการรองรับ

ไม่ว่ามาตรการไดๆ ที่สอดคล้องกับหลักการสามข้อนี้( ซึ่งรวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้วย ) ผมถือว่าเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันได้ครับ


แหม สรุปดี จนผมอายเลย
เป็น จขกท ซะเปล่า เหมือนทำการบ้านน้อยกว่าเลย 55555

ดีครับ มองได้ครอบคลุมดี และสามารถหาคำจำกัดความได้


เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวปรัชญา สามารถตีความให้เหมาะกับตัวเอง ครอบครัว ธุรกิจ ชุมชน ประเทศชาติ ไม่มีสูตรสำเร็จ ต้องปรับใช้ให้เหมาะสม
...
...
เมื่อมองการพัฒนาในภาพรวมของประเทศชาติ ท่านให้มองทั้งเรื่อง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมเพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างสมดุลและพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงนั่นคือความยั่งยืนของการพัฒนา


คำว่า สมดุล ก็เป็นคำที่ผมคิดว่าใช่อีกคำหนึ่ง
ที่ผมใช้คำว่า ระบบต้องมีการโคจรได้อย่างต่อเนื่อง
คือ หากมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น ย่อมต้องมีผลกระทบตามมา
และการจัดการผลกระทบต่างๆเหล่านั้น คือสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป

แน่นอน จะคิดทำการใดขึ้นมา ต้องรู้จักประมาณตนในส่วนหนึ่ง
แต่ถ้ามีความต้องการมาก เกินไป จนเกิดภาวะขาดแคลน
สิ่งที่ผู้บริหารประเทศต้องทำคือ เสริมปัจจัยไม่ให้ขาดแคลน
มิใช่ให้ประชาชน อยู่อย่าง อดอยาก
(คำว่า อดอยากนี้ แปลว่า "อด ความอยาก" คือ ลดความอยากลง แล้วจะพอเพียง)
ถ้าเป็นลักษณะนี้ คือ "ผิด" แนวทาง เศรษฐกิจพอเพียงครับ

หลายคนบอกว่า นำ ศก พอเพียงมาใช้ จะได้ไม่ต้องลงทุนมาก
นั่นก็ ผิด อีกครับ ^^
ศก พอเพียงคือ ลงทุนให้คุ้มค่า มิใช่ลงทุนแต่น้อยๆ ความหมายต่างกันเยอะฮะ

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#680 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:31

จะเห็นว่า หลายๆคน เน้นอยู่ที่คำว่าพึ่งพาตัวเอง ซึ่ง การพึ่งพาตัวเองนั้น เป็นคำพูดที่ถูก
แต่ที่ถูกที่สุด ต้องบอกว่า เศรษฐกิจพอเพียง คือ เศรษฐกิจสามารพึ่งพาตัวเศรษฐกิจเองได้

อย่างที่คุณก๊อบบอกไว้ แต่ละบริษัท หรือองกรณ์ มีความต่างเรื่อง ของ ขนาดและเปาหมาย ก็เหมือนกันกับการที่ ผม ได้แยกไว้ว่า เปนภาค องกรณ์ หรือ ครอบครัว หรือ ชุมชน จังหวัด ประเทศ

การพึงพาตัวเอง หมายถึง การที่ตัว เศรษฐ กิจนั้นสามารถพึ่งพาตัวเองได้ หากเรามองไปที่ สเกล ครอบครัว ก็คือ ครัวเรือน สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หากเราอยาก ทำแปลงเกษตร แปลงเกษตรต้องมีระบบหมุนเวียนเพื่อดูแลตัว เอง หากเราต้องการทำบริษัท จะบอกว่า บริษัทพึ่งพาตัวเองได้ก็ ไม่ใช่ แต่ต้องดูว่า ทำอย่างไร เพื่อให้บริษัท สามารถ จัดการหรือ แก้ไขปญหา ณ จุดเกิดเหตุได้ ดังนั้น การ พึ่งพาตัวเอง ก็คือ พึงพา พนักงานที่ทำงานอยู่ตรงนั้นนั่นเอง ซึ่ง ณ จุดนี้ นั่นคือการบริหาร ทรัพยากรบุคคล

หากเปรียบเทียบถึงภาคชุมชน ถ้าเราเปนรัฐบาล ที่ต้องดูแลประเทศ ก็ใช้แนวคิดนี้ สร้างองกรณ์ส่วนท้องถิ่นต่างๆ การกระจายอำนาจไปที่ท้องถิ่ น เพื่อให้ท้องถิ่น สามารถดูแลตัวเองได้ นี่คือ การสร้างภูมิคุ้มกัน สำหรับชุมชน ...

แต่หากพูดถึง "การสร้างองกรณ์บริหารท้องถิ่น" ขึ้นมาแล้ว ตัวองกรณ์ท้องถิ่นนี้ ย่อมต้องมี "เศรษฐกิจ" ใน ตัวมันเอง ซึ่งก็คือ 1 บุคคลากร 2 การเงิน 3 ทรัพยกร เหล่า นี้ ทำให้เกิด ศก อีกวงหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเราต้องนำ มันพิจารณาอีกว่า มีภูมิคุ้มกันอะไรที่ต้องรับมืออีกบ้าง

ซึ่งตามแนวของ SCG เอง เขาได้ให้ความสำคัญ ต่อการพัฒนาบุคคลากร เพื่ออง กรณ์ที่เข้มแข็ง ซึ่งนั่นก็เปนภูมิคุ้มกันอย่างหนึ่ง การจัดให้คนท้องถิ่น เปนรั้ว ขององกรณ์ ก็น่าจะเปรียบได้กับ การมีกรรมการหมู่บ้าน หรือการประชุม ท้องถิ่น เพื่อมีการระดมความรู้ความสามารถ และการตรวจสอบกันเองในท้องถิ่น ต่างๆเหล่านี้คือแนวทาง ซึ่ง หากมีการนำเสนอขึ้นจริง จะต้องมีการ "วางแผนงาน" เพื่อดำเนินงานต่อไป

ดังนั้น หากต้องการสร้าง "องกรณ์บริหารท้องถิ่น" ขึ้น จึงจำเปนต้องมี "แผนงาน" ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ ประชุม หรือ ระดมความคิดเพื่อดำเนินการโดยชาว บ้านผู้อยู่ในชุมชนขึ้นพร้อมๆ กันด้วย (อาจจะก่อนหลังไม่นาน)

มาดูทางด้านเกษตรบ้าง

เศรษฐกิจของการทำเกษตร คงไม่เกินไปจาก ผลิตผลทางการเกษตร ไม่ว่าจะเปน เทือกสวน ไร่นา การเลี้ยงสัตว์ ทำฟาร์ม ซึ่งขอเลยการ "เลี้ยงตัวเองให้พออยู่พอ กิน" แต่จะมองไปที่ ระบบภูมิคุ้มกัน

ตัวอย่างของแนวคิด 30303010 (เพราะผมไม่รู้แนวคิดอื่นแล้ว :P) นั่นคือ มีนา 30 บ่อน้ำ 30 เลี้ยงสัตว์ 30 และที่อยู่อาศัย 10

ผลผลิต คือข้าว.... ปจจัยของการทำนาข้าวก็คือน้ำ หากมีนาแล้วไม่มีน้ำ ก็หมดสิ้น กัน ดังนั้น สิ่งที่จำเปนสำหรับนาทุกแปลง ก็คือ บ่อน้ำ ดังนั้น หากมีการทำนา ต้อง มี บ่อน้ำ ที่พอเพียงไว้ด้วย นี่ คือ ภูมิคุ้มกันของการทำนา

ทีนี้ ภูมิคุ้มกันบ่อน้ำล่ะ? บ่อน้ำ มีไว้ดักน้ำฝน แต่ ไม่ได้แปลว่าฝน จะมีเพียงพอตลอดป บ่อบางบ่อ ไม่สามารถเก็บน้ำ ไว้ได้นาน หรือแม้เก็บได้นาน ก็ไม่แน่ว่า จะมีฝนมาให้เก็บ จึงจำเปน ต้องมี ภูมิคุ้มกันบ่อน้ำด้วย นั่นก็ คือ เขื่อน

ทีนี้ ภูมิคุ้มกันของเชื่อนล่ะ? หากมีเขื่อน แต่ไม่มี น้ำทำยังไง? หากฝนไม่ตกทำยังไง (อันนี้ผมคิดเองเอง) ก็ ต้องฝนเทียม แหละครับ :)

หากไม่มีฝนเทียมอีกล่ะ ทำยังไง? มันก็ต้องมีปญหาต่อไปเรื่อยๆ อยู่ที่ ความ "พอประมาณ" ด้วยว่า การจะทำนา แปลงนึง เราต้องคิดไปถึงฝนเทียม มันยิ่งใหญ่เกินตัวหรือไม่ ตรงนี้ตะหาก ที่ต้อง "ลด" ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม เพราะมัน เกินตัว เกินไป ไม่ใช่ไปลด "พื้นที่การทำนา"

แต่จริงๆแล้ว แนว 30303010 ได้ ผนวก ภูมิคุ้มกัน ของการขาดเขื่อนไว้แล้ว นั่นก็คือ พื้นที่ 30 ที่ 3 ที่มีไว้เลี้ยงสัตว์ หรือทำสวน หรือสร้างผลผลิต ที่ไม่ใช่นา นั่นเอง การ สร้างภูมิคุ้มกันไม่ใช่เพียงแค่ สร้างภูมิให้เศรษฐกิจหลัก แต่เปนการ เสริมเศรษฐกิจใหม่ เมื่อ เศรษฐกิจหลักไม่สามารถดำเนินไปได้ด้วย

เฉกเช่นเดียวกับ แบตเตอรีป่นไฟ ในที่ที่ไฟฟาเข้าไม่ถึงไงล่ะครับ

นี่คือความหมายของการสร้างภูมิคุ้มกันของผม

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#681 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:54

ต้องขอบคุณ คุณ ก้อบด้วย ที่อดทนมาจนถึงตอนนี้
และพยายาม มองต่างมุม จนเกิดไอเดียใหม่ขึ้น
เพราะถ้ายังไม่มีใครหลุดจากแนวคิด "ความพอเพียง"
ผมคงโพสเรื่อง เศรษฐกิจพึ่งพานี้ไม่ได้
:)

แต่ที่สำคัญ ผมไม่ได้บอกว่า แนวคิดผม "ถูกที่สุด" เพียงแต่เสนอแนวคิดของตัวเอง เพื่อแลกเปลี่ยนเท่านั้นครับ

ขอบคุณ น้าแคน ที่เข้ามาเยี่ยม และอธิบายความหมายของ ข้อมูลเชิงประยุกต์ ซึ่งไม่มีตามเวบไซท์


ขอบคุณที่สุดอีกคนก็คือ คุณ cddkpp ที่นำข้อมูลเชิงประยุกต์ ของบริษัทต่างๆขึ้นมาแนะนำ
ข้อมูลเชิงวิชาการ เราหาอ่านได้ทั่วไปก็จริง แต่เมื่อลองถามข้อมูลแนวประยุกต์ เรามักจะนึกไม่ออกกันว่า ควรคิดไปในแนวไหน และสุดท้าย แนวคิดพอเพียง จะเป็นแค่อีกหนึ่งคาถา เหมือนบทสวดมนต์ ที่เราท่องทุกวัน แต่นำมาใช้ในชีวิตจริงไม่ได้ เพราะยังประยุกต์ไม่เป็น


ขอบคุณเพื่อนๆหลายท่านที่ สนใจ และออกความเห็น
ขอบคุณ คุณขำกลิ้ง และที่คั่นหนังสือ ที่จุดประเด็นด้วย 5555

ขอบคุณมา ณ ตรงนี้ แต่ยังไม่จบนะครับ คุณศรเริ่มหายไปนาน
เห็นตาม-แย้งอย่างไร รออยู่นะครับ :)

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#682 New CanThai_16401

New CanThai_16401

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 93 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 11:50

"ปรัชญา" คือต้นเค้าให้คิดต่อ เหมือนความเชื่อแล้วไปสร้างทฤษฎีรองรับ เช่น เกษตรทฤษฎีใหม เกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสาน หรือ ธุรกิจเชิงสุขภาพ สิ่งแวดล้อม ธุรกิจแนวนิเวศน์ ฯลฯ

โดยใช้แนวคิด "พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และต้องอยู่ในเงื่อนไขใช้ความรู้คู่คุณธรรม"

เมื่อใช้ "ความรู้" ก็หมายรวมถึง ความรู้ใหม่ๆ เทคโนโลยี และความรู้ที่ปราชญ์ชาวบ้านเก็บมาจากการคิดค้นมาคู่ชุมชนและคิดเสริมต่อให้เกิดผลจริงจัง

เมื่อใช้เงื่อนไข "คุณธรรม" นั้นมีความหมายกว้างใกลมาก เพราะคุณธรรมนั้นมาจากศาสนา ความเชื่อที่จำเป็นที่จะต้องดูแลทั้งตนเองและสังคม

เมื่อ"ปรัชญา" เป็น "แนวคิด" คนที่นำไปใช้ไปคิดต่อก็จะรู้ได้ด้วยตนเองว่าควรจะทำอะไร ทำอย่างไร เพื่อผลอะไร

เป้าหมายของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก็อย่างที่บอกไปแล้ว คือ "ความสมดุลและยั่งยืน"

ซึ่งหากมองในภาพกว้างเพื่อประเทศชาติก็คือ "4 มิติ" ทั้ง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม

"แนวปรัชญา" ไม่ใช่ "ศาสนา" จึงไม่ต้องมี "ศีล" หรือ "ข้อปฏิบัติ" แต่ต้องตระหนักรู้ตรวจสอบว่าผลงานตนเองนั้นยังอยู่ในกรอบ "พอเพียง" หรือไม่?

แต่คนที่จะใช้แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ต้อง "ล้างใจตัวเอง" มองให้เห็น "ความจริงแท้" ว่า ตนเองนั้นต้องการอะไร ระดับชุมชนของตนเองต้องการแบบไหน

เริ่มที่ตนเองได้ผลมากก็แบ่งปัน มากเกินไปค่อยนำไปขาย อยู่กันแบบเอื้ออาทร ชุมชนจะยั่งยืนกับทรัพยากรที่มีได้อย่างไร นั่นเป็นระดับชุมชน

ส่วนระดับเมืองหรือประเทศชาติ ก็สามารถปรับหรือประยุกตืได้ด้วยการใช้หลักยึด "สามห่วง สองเงือนไข สี่มิติ" ดังกล่าว

แม้ไม่ได้ดับทุกข์ทั้งมวล แต่ทำได้แค่ ลดทุกข์ ไม่ให้ทุกข์มาก...ความสุขจริงแท้มันไม่มีหรอก...มีแต่ทุกข์มาก ทุกข์น้อย...

"การพึ่งพาตนเอง" คือการประกาศอิสรภาพของประชาชน เมื่อมีอิสรภาพ ไม่หวังพึ่งพิงคนอื่นก็สามารถมีที่ยืนชูธงความคิดอิสระของตนเองได้ ไม่ต้องกลัวใคร

"การพึ่งพาตนเอง" ในระดับประเทศชาติคงไม่ต้องอธิบายมาก เพราะความพอเพียงและเพียงพอในประเทศของตนเองคือการประกาศอิสรภาพอย่างแท้จริง

Edited by New CanThai_16401, 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:06.


#683 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:19

คำที่ใช่สำหรับผมอีกคำ คือ อิสระภาพ :)

อย่าผม คงไม่สามารถเขียนงานในแนวปรัชญาล้ำลึก ได้ จึงได้แต่ เอคโค่สิ่งที่น้าเขียนมา

อิสระแรก ของประชาชน อีก อย่าอยู่อย่าอด
ในทางพุทธคือ อย่าอยู่อย้างอยาก

ถ้าเจอทางวายกลางนี้ได้ ก็จะนำไปสู่ การพัฒนา ที่สมดุล

หากเราแค่พอเพียงไปวันๆ ผมว่า มันไม่เกิดความพัฒนาฮะ

สำหรับชาวพุทธ คำว่า อย่าโลภ มันทำให้ไม่เกิดความพัฒนา
ไม่เหมือนฝรั่ง เขาเน้นที่ ความสุข ความสบายในการดำรงชีวิตอยู่แล้ว

นี่ผมยังคงแยกคำว่า พอเพียง กับ ศกพอเพียงออกจากกันอย่างเด่นชัดอยู่นะฮะ

น้าเห็นด้วยไหมว่า
"ความพอ" มันจะทำให้การพัฒนาถอถอย

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#684 New CanThai_16401

New CanThai_16401

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 93 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:11

โลภได้...แต่อย่า โลภมาก

เพราะโลภมากลาภหาย

มนุษย์ที่ยังไม่บรรลุอรหันต์หรือพระอริยะ ก็คงยังมี โลภ โกรธ หลง เป็นธรรมดา มีราคะ โทสะ โมหะ เป็นปกติอยู่บ้าง

แต่เราจำกัดความโลภหรือกิเลสไว้ในกรอบ ไม่ให้โลภจนลืมระมัดระวังตัวเอง หรือโลภจนยึดติด "เงิน-ทรัพย์สิน" เป็นตัวตั้งมากเกินไป

มีกินมีใช้ พัฒนาตัวเอง ชุมชน ประเทศชาติ ไปแบบมีภูมิคุ้มกัน มีเป้าหมายชัดเจน ไม่บ้าตามทุนนิยมเสรีจนลืมความสุขที่หาได้ง่าย ๆ แค่พอเพียง

มีหนี้ได้แต่ต้องเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดผลผลิต ไม่ใช่ไม่ให้มีหนี้

#685 New CanThai_16401

New CanThai_16401

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 93 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:14

ความพอของมนุษย์ อยู่ที่การตั้งเป้าหมาย

เมื่อถึงเป้าหมายแล้วก็ถิอว่า "เหลือ" หรือเกินเป้าหมาย เราก็นำ "ส่วนเกิน" นั้นไปช่วยสังคมรอบข้าง

คือทำงานหรือใช้ชีวิตแบบไม่มีเป้าหมาย ก็ตายไปแบบไม่มีความสำเร็จในชีวิต

#686 New CanThai_16401

New CanThai_16401

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 93 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:17

ลองสังเกตมหาเศรษฐีทั่วโลกที่ว่าดังๆ สุดท้ายเค้าก็รู้ว่าทรัพย์สินของเค้าส่วนหนึ่งหรือเกือบทั้งหมด เค้าคืนสู่สังคมทั้งนั้น

เพราะเค้ารู้ว่าเมื่อมีเกินความจำเป็น มันก็ไม่ได้มีความสุขที่แท้...เพราะความสุขที่แท้มันอยู่ที่ "ทาน" หรือ "การให้"

#687 cddkpp

cddkpp

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 27 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 00:11

ต้องขอบคุณ คุณ ก้อบด้วย ที่อดทนมาจนถึงตอนนี้
และพยายาม มองต่างมุม จนเกิดไอเดียใหม่ขึ้น
เพราะถ้ายังไม่มีใครหลุดจากแนวคิด "ความพอเพียง"
ผมคงโพสเรื่อง เศรษฐกิจพึ่งพานี้ไม่ได้
:)

แต่ที่สำคัญ ผมไม่ได้บอกว่า แนวคิดผม "ถูกที่สุด" เพียงแต่เสนอแนวคิดของตัวเอง เพื่อแลกเปลี่ยนเท่านั้นครับ

ขอบคุณ น้าแคน ที่เข้ามาเยี่ยม และอธิบายความหมายของ ข้อมูลเชิงประยุกต์ ซึ่งไม่มีตามเวบไซท์


ขอบคุณที่สุดอีกคนก็คือ คุณ cddkpp ที่นำข้อมูลเชิงประยุกต์ ของบริษัทต่างๆขึ้นมาแนะนำ
ข้อมูลเชิงวิชาการ เราหาอ่านได้ทั่วไปก็จริง แต่เมื่อลองถามข้อมูลแนวประยุกต์ เรามักจะนึกไม่ออกกันว่า ควรคิดไปในแนวไหน และสุดท้าย แนวคิดพอเพียง จะเป็นแค่อีกหนึ่งคาถา เหมือนบทสวดมนต์ ที่เราท่องทุกวัน แต่นำมาใช้ในชีวิตจริงไม่ได้ เพราะยังประยุกต์ไม่เป็น


ขอบคุณเพื่อนๆหลายท่านที่ สนใจ และออกความเห็น
ขอบคุณ คุณขำกลิ้ง และที่คั่นหนังสือ ที่จุดประเด็นด้วย 5555

ขอบคุณมา ณ ตรงนี้ แต่ยังไม่จบนะครับ คุณศรเริ่มหายไปนาน
เห็นตาม-แย้งอย่างไร รออยู่นะครับ :)

         ต้องขอบคุณท่านที่ให้ข้อมูลด้วยครับถือเป็นประโยชน์อย่างมากและต้องขอขอบคุณท่าน แคนไทยอย่างมากที่สรุปได้ดีมาก ในแวดวงการพัฒนาด้านสังคมเรามักจะไม่มองว่าความคิดใครผิดใครถูกที่สุด แต่จะหล่อหลอมทุกความคิดเข้าด้วยกันเหมือนท่านอาจารย์แคนได้สรุปเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ผมขอชื่นชมทุกท่านที่ได้แสดงให้เห็นว่าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้นทำได้ ถ้าพวกเราทุกคนทำได้ตามแนวทางจะมากจะน้อย ประเทศเราจะอยู่รอดได้ ไม่มีประเทศไหนที่จะมาช่วยเราได้ตลอดนอกจากพวกเรากันเองครับที่ต้องพาประเทศชาติให้ก้าวเดินต่อไปไม่ให้สิ้นถูกกลืนชาติ

         ผมต้องขออนุญาตนำความคิดในกระทู้นี้ไปขยายผลหรือเป็นแนวทางอธิบายให้คนในหมู่บ้านชุมชน ซึ่งนับวันชุมชน/หมู่บ้านหลายหมู่บ้านมีสภาพคล้ายชุมชนเมืองมากยิ้งขึ้นซื้งในการอธิบายยกตัวอย่างเป็นไปได้ยากที่ทำให้เค้าเล่านั้นเห็นภาพ โอกาสหน้าจะตั้งกระทู้ สภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วิถีชีวิต ในช่วงยุคสมัยต่าง ๆ โดยช่วยกันเล่าเรื่องที่เห็น เพื่อให้สมาชิกได้มองเชื่อมร้อยจากอดีตสูปัจจุบัน เผื่อจะได้วิเคราะห์แนวโน้มที่จะเกิดในอนาคต



#688 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 2 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:07

ฟังเพลงเพราะ ๆ คั่นเวลา ก่อนนะ 

 

 

"อยู่อย่างพอเพียง"

 

 

 

 

"ความสุขที่มีก็คือพอเพียงนั่นเอง  ถ้าคนพอเพียง คนก็มีความสุข

 

เราก็มีความสุข ถ้าคนที่อยาได้โน่น อยากได้นี่ ถ้าไม่พอเพียง

 

เราก็ไม่มีความสุข..."

 

กระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

เมื่อวันที่ ๒๘  ส.ค. ๒๕๕๐


Edited by kwan_kao, 2 เมษายน พ.ศ. 2556 - 22:11.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#689 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 3 เมษายน พ.ศ. 2556 - 09:09

จาก MV เพลงด้านบน

 

 

คำพ่อสอน

 

เศรษฐกิจพอเพียง   เป็นเสมือนรากฐานของชีวิต

 

รากฐานความมั่นคงของแผ่นดิน  เปรียบเสมือนเสาเข็ม

 

ที่ถูกตอกรองรับบ้านเรือนตัวอาคารไว้นั่นเอง

 

สิ่งก่อสร้างจะมั่นคงได้ก็อยู่ที่เสาเข็ม

 

แต่คนส่วนมากมองไม่เห็นเสาเข็ม

 

และ ลืมเสาเข็มเสียด้วยซ้ำไป

 

พระบรมราโชวาท พระราชทานผ่านมูลนิธิชัยพัฒนา


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#690 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 3 เมษายน พ.ศ. 2556 - 09:30

อย่าว่าอย่างโน้น อย่างนี้ เลยนะค่ะ

ขออนุญาต เอามาจากหลาย ๆ Reply ค่ะ

 

 

 “เพียงพอ” “พออยู่พอกิน” ทำให้คนไทยทุกคนได้รู้จักยืนอยู่ได้ด้วยตนเองด้วยความพอดีโดยตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ดังปราชญ์ท่านกล่าวไว้ว่า “สูงนักมักจะลิ่วไปตามลม ต่ำนักมักจะจมลงบาดาล”

 

 

ทรงยึดหลักศาสนา ทรงศึกษาสรรพวิทยา ทรงนำมาปฏิบัติ ทรงขจัดปัญหาด้วยการพัฒนาโครงการพระราชดำริ ทรงเตือนสติด้วยการปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่าง ทรงสร้างค่านิยม ทรงห่วงใยประชาราษฎร์ทุกเมื่อ ทรงสละหยาดพระเสโท เพื่อประชาชนและประเทศไทยอย่างแท้จริง ทรงเป็นบุคคลที่หาได้ยากยิ่งในโลก ( ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก )

 

 

พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวพระราชดำริ ให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง

 

 

" กษัตริย์นักพัฒนา " พระราชดำริ แปรรูป ผลการเกษตร สายพระเนตร แปรประโยชน์ เพิ่มมูลค่า เป็นผลิตภัณฑ์ เผยแพร่ พัฒนา เป็นวิชา หาเลี้ยงชีพ ด้วยพอเพียง

 

 

พระองค์ทรงมีแนวทางพระราชดำริในการพึ่งตนเองเพื่อให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างอิสระ มั่นคง และสมบูรณ์

 

 

 


Edited by kwan_kao, 3 เมษายน พ.ศ. 2556 - 09:30.

ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#691 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

ตอบ 3 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:55


อย่าว่างั้นนี้นะครับ *เลียนแบบ
คุณขวัญช่วยอ่านความเห็นของเพื่อนๆ อย่างน้อยหน้าหลังๆ นี้ก็ดีนะครับ
เพื่อเพิ่มไอเดีย คำว่า
พึ่งพาตัวเองนั้นหมายถึงอะไร

คำที่เอามาใช้ แต่วะคำนั้นถูก แต่หลายคนยังตีความไม่ถึงจุดที่ทำให้การพึ่งพาตนเองเป็นไปได้จริง

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 





ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน