อย่าเพิ่งรีบไปครับ
คุณ Wat แนะนำได้เฉพาะ การล้าง แอร์หรือครับ
ถ้าจะกรุณา ช่วยสอนวิธี ล้างบาง เป็นวิทยาทาน เป็นตัวอย่างสัก ตระกูล
จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:28
อย่าเพิ่งรีบไปครับ
คุณ Wat แนะนำได้เฉพาะ การล้าง แอร์หรือครับ
ถ้าจะกรุณา ช่วยสอนวิธี ล้างบาง เป็นวิทยาทาน เป็นตัวอย่างสัก ตระกูล
จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:35
ในกรณีของคุณวัชร์ ต้องให้พลขับมาอ่านค่ะ จะได้บอกช่างได้ เพราะช่างจะไม่เชื่อผู้หญิงค่ะ
แต่กรณีคุณจักร์ ลองขอคำแนะนำจากพลขับอาจพอได้อยู่ อิอิ
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:58
ถ้าชื่อนี้พี่ก็คงสบายใจแล้วละ เพราะถ้าชื่อมันพิกล แบบนั้นคิดดู คนไปกินก็คงต้อง......ตามชื่อไปด้วย อิอิ
เคยเปิดยังเนี่ย จำไม่ได้ แต่มันก็เพราะดี ฟังซ้ำอีกทีจะเป็นไร
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:02
เคยเปิดยังเนี่ย จำไม่ได้ แต่มันก็เพราะดี ฟังซ้ำอีกทีจะเป็นไร
เคยเปิดแล้วครับ แต่ไม่ผิดกฎหากเปิดซ้ำเพราะชอบ
และไม่ผิด กติกา หาก ผม กด ลิเก เพราะชอบเหมือนกัน
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:13
เนี่ยนะ ถ้าพี่ไม่ออกตัวตั้งแต่ตอน start ว่าเป็นพวก สูงวัย ผมขาว แล้วละก้อ ต้องมีคนคิดว่าเรา 2 คนกะลังจีบกันแน่ๆ เปิดแต่เพลงแหววๆ ทั้งนั้น แต่ก็นะ เพลงมันก็มี รัก เศร้า ปรัชญา ยังไม่เคยมีเพลง ฉันเกลียดแกเลย
(หรือมีแต่ไม่รู้) ก็เลยจำต้องเปิดไม่หวานก็เศร้า เพราะถ้าจะเอาปรัชญาชีวิต ต้องรอคุณวัชร วันที่คุณจักร์ไป หมีสโนว์ (ต้องดูให้ดีว่าพิมพ์ถูกต้องแล้ว ไม่งั้นมีเรื่องแน่) คุณวัชรเอาเพลงร็อคมาเปิด แถมมีพิมพ์เนื้อมาด้วย
เหลือเชื่อ เหมือนเพลงเพื่อชีวิต ในสไตล์ของฝรั่งเลย แต่ที่ไม่ค่อยรู้ เพราะฟังไม่ทันเพลงมันเร็ว แล้วพี่ก็บังเอิญไม่ได้ จบจาก ยูนิเหวอซิติ้ ระดับ ท๊อปด้วย (เหมือนใครน๊า)
Edited by lazylemon, 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:15.
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:17
เนี่ยนะ ถ้าพี่ไม่ออกตัวตั้งแต่ตอน start ว่าเป็นพวก สูงวัย ผมขาว แล้วละก้อ ต้องมีคนคิดว่าเรา 2 คนกะลังจีบกันแน่ๆ เปิดแต่เพลงแหววๆ ทั้งนั้น แต่ก็นะ เพลงมันก็มี รัก เศร้า ปรัชญา ยังไม่เคยมีเพลง ฉันเกลียดแกเลย
(หรือมีแต่ไม่รู้) ก็เลยจำต้องเปิดไม่หวานก็เศร้า เพราะถ้าจะเอาปรัชญาชีวิต ต้องรอคุณวัชร วันที่คุณจักร์ไป หมีสโนว์ (ต้องดูให้ดีว่าพิมพ์ถูกต้องแล้ว ไม่งั้นมีเรื่องแน่) คุณวัชรเอาเพลงร็อคมาเปิด แถมมีพิมพ์เนื้อมาด้วย
เหลือเชื่อ เหมือนเพลงเพื่อชีวิต ในสไตล์ของฝรั่งเลย แต่ที่ไม่ค่อยรู้ เพราะฟังไม่ทันเพลงมันเร็ว แล้วพี่ก็บังเอิญไม่ได้ จบจาก ยูนิเหวอซิติ้ ระดับ ท๊อปด้วย (เหมือนใครน๊า)
นี้มันเป็น บริษัท ขาย ตรงครับ ผมเห็นแว๊บ แว๊บ ที่ใหนสักแห่ง
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:23
ก็ใช่ดิ พี่ไม่ชอบพวกขายตรง ชอบขายอ้อมๆ (เขียนไปเนี่ยจะโดนอีกไหม) เปิดเพลงดิ
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:27
หักมุข เป็น เบียร์หิมะร้านไรชื่อพิกล Bear Snow
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:30
หักมุข เป็น เบียร์หิมะร้านไรชื่อพิกล Bear Snow
ขอบค
เดี๋ยวนะครับ มุกนีัผมหัก ไม่ขาดครับ
ขอบค หมายถึงอะไร ตามไม่ทันจริงจริง
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:38
คุณ คน.....เพื่อนใหม่ ชอบฟังเพลงหรือเปล่าคะ ถ้าชอบสไตล์แหววชวนง่วงก็ตามนี้เลย แต่ถ้าชอบแนวอื่น หามาเปิดได้เลยค่ะ อิฉันจะได้ฟังแนวอื่นด้วยคน
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:39
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:42
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:42
ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะครับ
ชอบชื่อกระทู้ครับ อ่านรวดเดียวสิบหน้าไม่เบื่อ ฟังเพลงคลอไปด้วย
เมื่อหลายปีก่อนผมไปร้านเบียร์หิมะบ่อย ติดใจกุ้งทอดใบเล็บครุฑ สองลุงป้ายืนขายทอดอยู่หน้าร้าน เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เสียดายจังครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ. ปล.ผมชอบ Van morrison ครับ
ยินดีมากครับที่เข้ามาคุยกัน
เอาแบบ พี่ เพื่อน น้อง คุยกันทุกเรื่องครับ
สิ่งทียังคงอยู่......มิตรภาพในเวป ครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:46
ขอบคุณคะ ถือเป็นคำชมสำหรับชื่อกระทู้นี้ อย่างที่บอกค่ะ เอาไว้เขียนโน่นนี่ไปเรื่อย ช่วงนี้ยังนึกไม่คอยออก ไม่ค่อยลื่นไหล ไม่เกี่ยวกะท้องผูกนะคะ มอบเพลงนี้ให้ ไม่ทราบว่าถูกใจป่าว แต่จากใจค่ะ
ตอบ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:55
ถ้าซ้ำอีกขออำไพ คือมันเหมาะที่จะเปิด ณตอนนี้ ตอนจะปิดบ้านไง
Edited by lazylemon, 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:56.
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:13
อย่าเพิ่งรีบไปครับ
คุณ Wat แนะนำได้เฉพาะ การล้าง แอร์หรือครับ
ถ้าจะกรุณา ช่วยสอนวิธี ล้างบาง เป็นวิทยาทาน เป็นตัวอย่างสัก ตระกูล
จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
คงต้องให้เราเป็นเมืองขึ้นเค้าเสียก่อนสักยี่สิบ สามสิบปีนั่นแหละมั้งขอรับ ถึงจะเกิดสำนึกร่วมกัน แค้นเหมือนๆกันอย่างที่ชาวบ้านเค้าโดน แล้วสร้าง "อุดมการณ์กู้ชาติ" ขึ้นมา (ไม่ใช่กู้แบบเอาโกเต๊กไปฝังรูปฝังรอยบ้าบอ หรือกู้ล้างชาติ 2.2 ล้านๆ ใช้หนี้กันยันหลานบวช)... อาจจะพอมีหวังบ้าง...
ตราบใดยังเห็นการใช้ชีวิตประจำวันของเราด้วยความประมาท มักง่ายเกินมนุษย์มนาอย่างที่เห็นกันได้อย่างชาชินทุกวันนี้... ไอ้ที่ตายโหงตายห่านก็ตายกันไป ไอ้ที่อยู่ก็ไม่รู้แม่มจะมาเกยกรูวันไหนเยี่ยงนี้... อยากเป็นเศรษฐีมีอำนาจวาสนาก็ต้องไปเล่นการเมือง เสนอขายความว่างเปล่า, งมงายห่อด้วยแพคเกจสวยงามว่า "ประชาธิปไตย"... คนที่ซื้อเปิดออกมา... บ้างก็ว่ากลิ่นหอมชื่นใจ บ้างก็ว่าเหม็นชิหาย หรือบ้างก็บอกไม่เห็นมีอะไร... เมิงหลอกกรู... ซึ่งพวกสุดท้ายวันนี้ น่าจะเป็น "เสียงส่วนน้อย" ของสังคมนี้ขอรับ...
ฉะนั้นก็อย่างที่เคยกล่าวไว้ในสภาฯ... หากบอกประชาธิปไตยคือ "แอปเปิล" ตราบใดคนส่วนมากของแผ่นดินยังมองไม่ไปในทางเดียวกัน เห็นเป็นแอปเปิลแดง เขียว เหลืองบ้าง... หรืออย่างน้อยที่สุดเห็นเป็น "สาลี่" ก็ยังดีวะ... แต่ฟัง "ผู้นำจิตวิญญาณ" แต่ละตัวบอกนั่นคือมะม่วงมั่ง ไอ้นี่ก็บอกมะนาวโว้ย อีห่านนั่นบอกถั่วฝักยาวนะจ๊ะ... โน่นเลย... แล้วมันจะล้างบางความเชื่อต่างๆนี้ได้อย่างไรเล่าขอรับ... เพราะต่างก็มีศิษย์ประจำสำนักกันไปหมดแล้ว... ก็เหมือนพุทธฯนั่นแหละขอรับ... พระพุทธเจ้านามสมณโคดม ถือกำเนิดมาองค์เดียวในยุค... แต่เจื่อกมีนิกายแยกความเชื่อ, คำสอนของพุทธเป็นร้อยๆนิกาย ซึ่งหากพระศาสดายังอยู่คงปวดใจพิลึก... ท่านสอน, ท่านใช้เหตุผลสัจจะความจริงรบราปราบปรามความเชื่อที่ลุ่มหลง งมงายของคนเสียได้หมดแทบทุกเหล่า แต่เหล่าสาวกท่านเองทุกวันนี้... ปากบอกเป็นสาวก, ยกย่องพระองค์เป็นศาสดา... แต่เจื่อกกลับเดินย้อนไปทางแห่งความลุ่มหลง งมงายเหล่านั้นเสียเองแทบทั้งสิ้น... แล้วจะ "ล้างบาง" กันยังไงเล่าขอรับ...
อย่างกระพ๊มเคยว่าไว้นั่นแหละ... วันนี้กระพ๊มเชื่อว่าได้พบทางแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ลิบๆแล้ว... เร่งกระทำกาย วาจา จิตไปตามแผนที่ของพระตถาคต... ด้วยความวิริยะ พากเพียรไปตราบสิ้นชีวิต... ความเป็น "อริย" หรืออยู่อย่าง "ชาวอริย" อย่างแท้จริงนั้น... ยังหวังได้ง่ายกว่าวิธีจะ "ล้างบาง" พวกเหียกเสียจากแผ่นดินเสียอีกขอรับ...
เลิกฝันเห๊อะ... ตื่นๆๆๆ เอิ๊กๆๆๆๆ
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:32
เนี่ยนะ ถ้าพี่ไม่ออกตัวตั้งแต่ตอน start ว่าเป็นพวก สูงวัย ผมขาว แล้วละก้อ ต้องมีคนคิดว่าเรา 2 คนกะลังจีบกันแน่ๆ เปิดแต่เพลงแหววๆ ทั้งนั้น แต่ก็นะ เพลงมันก็มี รัก เศร้า ปรัชญา ยังไม่เคยมีเพลง ฉันเกลียดแกเลย
(หรือมีแต่ไม่รู้) ก็เลยจำต้องเปิดไม่หวานก็เศร้า เพราะถ้าจะเอาปรัชญาชีวิต ต้องรอคุณวัชร วันที่คุณจักร์ไป หมีสโนว์ (ต้องดูให้ดีว่าพิมพ์ถูกต้องแล้ว ไม่งั้นมีเรื่องแน่) คุณวัชรเอาเพลงร็อคมาเปิด แถมมีพิมพ์เนื้อมาด้วย
เหลือเชื่อ เหมือนเพลงเพื่อชีวิต ในสไตล์ของฝรั่งเลย แต่ที่ไม่ค่อยรู้ เพราะฟังไม่ทันเพลงมันเร็ว แล้วพี่ก็บังเอิญไม่ได้ จบจาก ยูนิเหวอซิติ้ ระดับ ท๊อปด้วย (เหมือนใครน๊า)
กระพ๊มก็แถไปเรื่อยตามนิยามของคำว่า "สิ่งที่ยังคงอยู่" ที่แปลเข้าข้างตัวเองในบางเวลาก็ว่า เพราะธรรมะยังคงอยู่ก็แหล่ธรรมะ เฮฟวี่ยังคงอยู่ก็แหล่เฮฟวี่ แอร์ยังไม่พัง ยังคง (ซ่อมได้) อยู่ ก็แหล่เรื่องแอร์ต่อขอรับ...
ยกเว้นแอร์กี่ที่แหล่มะด๊าย เพราะที่ยังคงอยู่ก๊ะยังไม่แก่ และกระพ๊มก็ยังไม่อยากต๊ายยยย.... เอิ๊กๆๆๆๆ
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:28
ลืมแจ้งยืนยันผลการล้างแอร์... เช้ามาแห้งสนิท เปิด 28.5 องศาเหมือนปกติทุกวัน แต่หนาวกว่าทุกคืนที่ผ่านๆมา เพราะรู้สึกได้เลยว่าลมมันเป่าแรงขึ้น... หวัดกินเล็กน้อยรุยขอรับ... เอิ๊กๆๆๆๆ เพราะฉะนั้น จุดสังเกตของกระพ๊มนั่นแหละตัวสำคัญ... หากมีฝุ่นไปเกาะมากจนไม่เห็นซี่ๆ ที่เป็นครีบสำหรับปั่นลมออกมา มันก็จะไม่กินลม หมุนๆไปให้เปลืองไฟหนักขึ้น เพราะกินลมได้น้อย ต้องทำงานมากขึ้นเพื่อให้ได้ลมไปสร้างอุณหภูมิตามต้องการขอรับ...
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:06
เมื่อตอนก่อนสงกรานต์ผมก็ลุกขึ้นมาล้างแอร์เอง ตัวนึงใช้เวลา1วันเต็ม ประกอบกลับอย่างเดิมไม่ได้ คาดว่าญี่ปุ่นทำน้อตมาเกิน เมียบ่นแต่ก็ยังดีเค้าให้ค่าล้างแอร์มาสามร้อยเชียว
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:39
เมื่อตอนก่อนสงกรานต์ผมก็ลุกขึ้นมาล้างแอร์เอง ตัวนึงใช้เวลา1วันเต็ม ประกอบกลับอย่างเดิมไม่ได้ คาดว่าญี่ปุ่นทำน้อตมาเกิน เมียบ่นแต่ก็ยังดีเค้าให้ค่าล้างแอร์มาสามร้อยเชียว
แถวบ้านกระพ๊มมันเอาตั้ง 700 แน่ะขอรับ มาแล้วทำจับโน่นจับนี่ มุขที่เจอประจำ (แล้วกระพ๊มก็เบรคประจำ) คือน้ำยาพร่องต้องเติม เพิ่มอีก 400 ไรเงี้ย... แต่ของคุงพันยาท่าน ท่านน่าจะเป็นคนเติมน้ำยาให้มากก่านะขอรับ ( ติดเรทมั้ยเนี่ย... คิกๆๆๆ)
รู้จักกรูน้อยไปซะแร๊ว... แอร์เป็นร้อยๆตัวกรูก๊ะสั่งมาแร๊ว... อิเวง... นึกว่ากรูอ่านเกจไม่เป็นเร๊อะ... นี่แค่หัดรื้อเองจากนั่งดูๆมันทำมานานแค่นั้นเองขอรับ...
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 13:45
แว๊บมาดูห้องตัวเอง เจอคุณวัชร กะคุณ....(ทำไงจะเรียกชื่อคุณให้สั้นกว่านี้ เอาเป็นว่าเติม 3 จุดข้างหลัง คงไม่ว่ากันะคะ)
เล่าให้คุณจักร์ฟังเรื่องเพลง เพราะที่อิฉันฟังๆอยู่ก็เวียนอยู่แค่นี้ และที่คุณวัชรเอามาเปิดให้ฟัง ถ้าปกติก็ฟังไปเรื่อยค่ะ เสียงกีต้าร์ กลอง ทำนองเพลง แต่พอคุณ ส่งเนื้อเพลงมาให้ด้วย พออ่านแล้ว เออนะ
ทำให้เรารู้ว่ายังมีสิ่งที่เราไม่รู้อีกมากมาย คนเราถ้าหยุดฟังคนอื่นบ้างสักนิด ฟังความคิดของคนอื่นบ้างจะเป็นไรไป อาจได้ความเห็นใหม่ๆ จากมุมองที่ต่างจากเดิม แต่ก็อย่างที่คุณว่า คงหวังยากอยู่สักหน่อย
ยังไม่ได้จัดกระเป๋าเลย ตอบเสร็จคงต้องไปทำ เพราะจะได้รู้ว่ายังขาดเหลืออะไรอีก กระเป๋าเดินทางของอิฉันเหมือนกระเป๋าโดเรมอนค่ะ จะเอาอะไรมีหมด เหมือนยกบ้านไปไว้ในกระเป๋า นี่กระทั่งไม้แคะหูยังเอาไปเลย
ไปนะคะ ตอนหัวค่ำ แวะมาคุยกันใหม่นะคะ
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:59
Edited by lazylemon, 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:42.
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:09
ฟัง You're The One แล้ว ลองมาฟัง She's The One บ้าง น่าจะรู้จักเป็นครั้งแรกจากเพลงนี้
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:18
ความเอื้อเฟื้อ ความมีน้ำใจ การช่วยเหลือ การแบ่งปัน เป็นสิ่งที่มีมาอยู่คู่กับสังคมไทยมานาน จนอาจเรียกได้ว่าคือเอกลักษณ์ของคนไทยดูจากตอนน้องน้ำล่ำบึ้กมาเยี่ยมเยียนนั่นปะไร ความช่วยเหลือมีมาให้เห็นแสนชื่นใจท่ามกลางความยากลำบาก แต่ละคนช่วยกันตามกำลังที่มีบ้างก็ส่งเสบียงให้ผู้หิวโหยที่ยังติดอยู่ตามที่อาศัย บ้างช่วยกันตักทรายใส่ถุง เพื่อมากั้นน้ำ ใครมีกำลังทรัพย์ก็ช่วยกันบริจาค(โดยไม่คิดจะติดชื่อ ไว้เอาหน้า)บ้างก็ระดมความคิดหาวิธีการเพื่อมาอำนวยความสะดวก แก่ผู้ประสบภัย ในที่สุดก็ฝ่าฟันกันไปได้สิ่งที่กล่าวมาอาจพูดได้ว่า คือความรัก คือรักในเพื่อนมนุษย์ คือใครก็ได้ ไม่สำคัญว่าจะรู้จักหรือไม่ อาจอยู่กันคนละฟากฝั่ง อยู่ห่างไกลเราก็พร้อมที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือ แบ่งปันให้กับผู้ที่ประสบความทุกข์ยาก ลำบากกว่าเรา เราสามารถเป็นผู้ให้ตามกำลังของเราที่มีอยู่โดยไม่มีการแบ่งแยก ช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่าเรา ไม่ว่าจะทางใด นั่นคือความสวยงามของการที่จะใช้ชีวิตบนโลกใบนี้แต่บางทีก็มีเส้นใยบางๆกั้นอยู่ ความรักในพวกพ้อง ต่างกันตรงที่ เราเลือกที่จะช่วย เฉพาะคนที่เรารู้จัก คนที่เราคุ้นเคยถ้าไม่ใช่เราก็มองข้ามไป เมินที่จะดูแลช่วยเหลือคนอื่น ที่บางครั้งบางที ยากลำบากกว่า คนที่เป็นพวกพ้อง ด้วยซ้ำไปและในที่สุดก็นำมาซึ่งสิ่งที่เรียกกันว่า ระบบอุปถัมภ์ ใครเป็นพวก ก็จะดูแลเป็นพิเศษ ถ้าไม่ใช่ก็คอยก่อนนะจ๊ะ มันทำให้สังคมค่อยๆเสื่อมลงไปทุกขณะ โดยไม่รู้ตัวสรุปว่าถ้าเราไม่ยอมเป็นพวกใคร ถ้าทำงานก็จะไม่ก้าวหน้า ต่อให้ทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต แต่คนที่เรียกง่ายๆว่ายอมเป็นขี้ข้า ก็จะได้ดีหรือถ้าอยู่ในสังคม วันนี้อยากหรูสักวัน เข้าไปร้านดัง ก็อาจโน่นได้ไปนั่งไกลๆ ตรงมุมเสาต้นใหญ่ (ยังกะแอบพากิ๊กมาเลย) เพราะตรงที่เรากำลังจะหย่อนก้นลงไปท่านจองไว้แล้ว ก็ตรงนี้วิวดี เหมาะแก่การจิบไวน์ ให้ได้อารมณ์ เข้าใจไหมสิ่งนี้ทำให้คนเราแตกแยกกันหรือเปล่า เข้าทำนองพวกมากลากไป ใครไม่ใช่ไปห่างๆ พร้อมที่จะจัดให้ สำหรับคนนอกกลุ่ม ที่บังอาจมาทำให้พวกพ้องน้องพี่ระคายตา ระคายใจ ไม่สบายหูอิฉันก็เลยมานั่งคิด(ตามประสาคนว่างงาน ผ่านชีวิตมา)ว่าระบบอุปถัมภ์เนี่ย มันคือสิ่งที่จำเป็น ที่จะต้องคงอยู่คู่คนไทยไปกระนั้นหรือใครโกรธเราโกรธตอบ ตามระบอบปัจจุบันเอาไหนก็เอากัน จงอย่าพรั่นอย่าพึงหนีใครมาท้าเราด่าไป ยิ่งมือไวก็ยิ่งดีใครกล้ามาราวี ต้องต่อตีอย่าละมัน(ขอบคุณคนแต่งทุภาษิตนี้ จากแนวทิวสน ที่แอบไปเก็บมาเจ้าค่ะ)
สิ่งที่เรียกว่าข้อดีของคนไทย มันกลายเป็นดาบสองคมในยุคปัจจุบันขอรับ ความง่ายๆกลายเป็นมักง่าย ความอ่อนน้อม, เชื่อฟังผู้ใหญ่กลายเป็นงมงายไร้สติ ความมีมิตรไมตรียิ้มง่ายกลายเป็นหน้ากากแฝงเล่ห์กล... ความที่ประกาศเป็นเมืองพุทธแต่กลายเป็นเมืองที่พระทุศีลแห่มาพร้อมกับทวยเทพทั่วทุกสารทิศ... เข้ามาหาแดรกกันอิ่มหมี... แล้วจะเหลืออันใดหนอ นอกไปจากตามกลอนนั่นแลขอรับ ถึงจะมี ถึงจะได้แบบที่พวกหน้าด้านเค้าทำกัน... หรือไม่งั้นก็คงต้องรู้รักษาตัวรอด เป็นยอดคนขอรับ...
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:23
สมัยอิฉันเรียนมหาลัย โชคดีได้มีโอกาส เรียนกับท่านอาจารย์ คึกฤทธิ์ในวิชาพื้นฐานอารยธรรมไทย ท่านสอนเกี่ยวกับเอกลักษณ์ของคนไทย มันก็เป็นดาบสองคมอย่างคุณวัชร ว่าแหละเจ้าค่ะ
อิฉันว่า สมัยนั้นคือความงาม แต่ปัจจุบันกลายเป็นความโง่ค่ะ คือความดีกลายเป็นถูกเอาเปรียบโดยพวกทุศีลเจ้าค่ะ ใครเป็นคนดี ดูจะเป็นของแปลกๆไปแล้วในปัจจุุบัน
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:26
"เสียงส่วนน้อย" ของสังคมนี้ขอรับ...
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:34
"เสียงส่วนน้อย" ของสังคมนี้ขอรับ...
กระพ๊มคนเดียวเร๊อะ... ตาเถร...
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:35
ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะครับ
ชอบชื่อกระทู้ครับ อ่านรวดเดียวสิบหน้าไม่เบื่อ ฟังเพลงคลอไปด้วย
เมื่อหลายปีก่อนผมไปร้านเบียร์หิมะบ่อย ติดใจกุ้งทอดใบเล็บครุฑ สองลุงป้ายืนขายทอดอยู่หน้าร้าน เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เสียดายจังครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ. ปล.ผมชอบ Van morrison ครับ
…..พูดถึง Van Morison ชาว Irish จะว่าไปแล้วก็เป็น แนว rock แต่ออกไปทาง Soul และ R&B
ฝีมือไม่ธรรมดา..........6 รางวัลแกรมมี่ มีชื่ออยู่ใน ร็อกแอนด์โรลฮอลออฟเฟม และ ซองไรเตอร์สฮอลออฟเฟม
เพลงบังคับที่ต้องเปิดครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:36
แล้วต้องตกตึกด้วยป่าว สมัยก่อน ต้องอุทานว่า ตาเถรตกตึก
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:43
ไม่มีอะไรจะเล่น... หนีไปนอนดื้อๆดีก่า... เอิ๊กๆๆๆๆ
อย่าลืมครับ
นั่งก่อนนอน สามคำจำให้แม่น
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:44
ไม่มีอะไรจะเล่น... หนีไปนอนดื้อๆดีก่า... เอิ๊กๆๆๆๆ
อย่าลืมครับ
นั่งก่อนนอน สามคำจำให้แม่น
กระพ๊มมีท่าประจำ... จากหลังตู้เสื้อผ้าขอรับ...
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:47
ไม่มีอะไรจะเล่น... หนีไปนอนดื้อๆดีก่า... เอิ๊กๆๆๆๆ
อย่าลืมครับ
นั่งก่อนนอน สามคำจำให้แม่น
กระพ๊มมีท่าประจำ... จากหลังตู้เสื้อผ้าขอรับ...
นึกออกครับ
นอนแบบใช้กำลังภายใน
เท้าชี้ฟ้า ห้วหนุนหมอน
ข้าน้อยขอคารวะจากใจจริง
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:51
เพลงนี้สมัยเรียนใช้เป็นตัวอย่างในการจำวิชาภาษาปะกิด I just can't help ต้องต่อด้วย verb ing (พวกพี่จาเรียกว่า อิ้ง ฟอร์ม)
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:59
เห็นพี่มะนาว เจ้าบทเจ้ากลอน ผมฝากด้วยสักบท นี้ก็แอบไปเก็นเค้ามาเหมือนกัน
บทกลอนจากคนไทยถึงคนแดนไกล
ธรณีนี้ของมึ งหรือ
อย่าหือ วางโตโอหัง
ของกูผู้เดียวเจียวฟัง
อ้ายงั่ง โทษมึ งถึงตาย!
eดิท เพราะถูกระบบคัดกรอง
มาแปลง ความจริง เป็นคำ สุภาพ
Edited by chackrapbong, 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:01.
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:04
ห้องนี้น่ะไม่ใช่ห้องกาแฟนะ แต่เป็นห้องต้มกาแฟ (ของคุณจักร์) นะเออ
พวกคนเดน ...อุบส์ แดนไกล ต้องให้อยู่ไกลๆละดี ไปอยู่ไหน แผ่นดินไหวที่ไหน
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน