วันนี้เปิดเพลงอย่างเดียว
ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:17
อิฉันละอ่านมาตั้งแต่ หนูนิด หนูไก่ หนูแจ๋ว เลยละค่ะ ต่วยตูน แล้วตอนหลังหันมาอ่านต่วยตูนพิเศษ เกี่ยวกะเรื่อง UFO พวกมนุษย์ต่างดาว ก็หนุกดี
นี่คุณจักร์ หายไปเลย หายไปในอวกาศ เหงาเล็กน้อย
นั่นก็มีขอรับ... เมื่อปีสองปีที่แล้วไปเจอตามร้านหนังสือเก่าเจ้าประจำ ตั้งแต่ยังเป็นเล่มใหญ่เล่มละ 5 บาท เหมามาได้เกือบๆยี่สิบเล่มขอรับ เอิ๊กๆๆๆ... ไอ้เล่มเล็กนี่กระพ๊มก็ซื้อตั้งกะเล่มแรกที่ออกเล่มละสิบบาทมาหลายปีเลยขอรับ...
ต่วยตูนพิเศษนี่อ่านตั้งแต่เล่มละยี่สิบ สามสิบบาทมั้งขอรับ... ซื้อต่อเนื่องมาเป็นสิบๆปีขอรับ แต่เดี๋ยวนี้... เลิกขาดแล้ว... รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบมากไปหน่อย...
ไปทะเลาะกับบรรณาธิการในเวปเค้าม๊า... คิกๆๆๆๆ
ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:26
วันนี้ตอนเย็นๆ ออกไปซื้ออาหารแมว รถติดหนุบหนับ เพราะปกติไม่ออกไปไหนตอนช่วงเลิกงาน แต่ถ้าไม่ซื้อ คืนนี้ไม่ได้นอนแน่ๆ เพราะแมวหิวข้าว อาหารหมดแต่ตอนเมื่อคืน ทั้งเอาหัวดัน เท้าแตะแก้ม
ยังไม่ได้ งับแขนมั่ง เอาเท้าตะกุยผม คือเริ่มจากเบาไปหาหนัก แมวอิฉันนี่ก็รู้เรื่องยุทธวิธีเชียวนะ ไม่ธรรมดา ตัวนี้เก็บมาจาก ที่พักแมวจร คือมีห้องแถวร้าง สำหรับแมวจรจะมาอยู่ พูดเสียหรูเชียว
มีปลอกคอมาด้วย ถามคนแถวนั้น บอกว่าเห็นมา 2-3 วันแล้ว โถ ไอ้หนู วันนึงมีบ้าน อีกวัน ไม่มีเสียแล้ว เลยอุ้มกลับบ้านเลย เข้าใจว่าถูกเลี้ยงมาดี ฉี่ที่ชักโครกด้วย แต่ตอนหลังชักนิสัยเสีย เวลาเราขัดใจ จะไปนั่งฉี่ตามกองผ้าแทน
ชักโครกซะงั้น
ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:28
น่าน...ไปทะเลาะกับเขาทำไมเจ้าคะ เถียงกันเรื่องมนุษย์ต่างดาวเนี่ยนะ
ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:31
ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:03
คุณจักรหายไปหลายวัน ป่วยป่าวเนี่ย ถ้าป่วยก็หายไวๆนะคะ
ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:17
น่าน...ไปทะเลาะกับเขาทำไมเจ้าคะ เถียงกันเรื่องมนุษย์ต่างดาวเนี่ยนะ
มันรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบมากไปนิด แถมเหมือนสถานการณ์พาไปด้วย... เลยส่ง จม. บอกลุงต่วยขอลาออกจากแฟนานุแฟนขอรับ...
... ตอนแรกก็เรื่องพวกที่ให้นักเขียนส่งเรื่องสั้นไปลงแล้วได้ตังนั่นแหละขอรับ (หน้าเรื่องสั้นสยองขวัญน่ะขอรับ) แล้วมีคนไปโพสในเวปประมาณว่ามีนักเขียนคนหนึ่งไปลอกเรื่องคนอื่นมาลง ขอให้อธิบายด้วย กระพ๊มก็อ่านแล้วยังเห็นด้วย... มันคุ้นมากๆกับแนวเรื่องสั้นหักมุมของมนันยาเรื่องหนึ่ง แต่ไม่กล้าคอนเฟิร์ม (ในตู้กระพ๊มมีเกือบครบ ขืนไปเปิดหาก็หูตูบพอดีเป็นร้อยๆเรื่อง) ได้แต่บอกไปถึงสำนวนและโครงเรื่องคุ้นมากๆ... ไอ้ตัวจำเลยคนเขียนเข้ามาในเวปก็วีนใส่เลย ไม่อธิบง อธิบายใดๆ... พวกกกระพ๊มก็เลยกระหน่ำกันซะ จนเหมือนเป็นผู้ดูแลออกมาไกล่เกลี่ยทำนองว่าน้องเค้าคงไม่รู้ เรื่องพวกนี้นักเขียนเค้าไม่ถือสากันหรอก... กระพ๊มก็... อ้าวไหงพูดม้าๆงี้ล่ะ แล้วก็โดนเหมือนไอ้ตัวเหียกในสภาตอนนี้แหละขอรับ... ทำนองจะจบมั้ย?
... เรื่องต่อมาคือเริ่มสังเกตุเห็นความชุ่ยเรื่องข้อมูลมากขึ้น แล้วความอัตตาของนักเขียนบางคนที่เขียนไป ปรามาสคนที่คิดไม่เหมือนกรูไป ว่ารู้ไม่จริง เก่งไม่ได้อย่างกรู (ไอ้ปราชญ์ขยะนั่นแหละ...) แล้วก็ที่กระพ๊มถึงจุดแตกหักก็คือเรื่อง... หน้าสีในเล่มขอรับ... สมัยก่อนกระพ๊มเห็นพวกหมวดงานศิลป์, วัตถุโบราณงามๆที่เป็นเรื่องเด่นของเล่ม จะมีรูปสีกระดาษอาบมันให้อยู่ห้าหกหน้า แต่ทุกวันนี้ขอขึ้นเป็น 80 แล้วบอกจะปรับปรุงเรื่องหน้าสีให้มากขึ้นแต่... ดันกลายเป็นหน้าสีกระดาษมันอย่างดีกลายเป็นตัวหนังสือค่อนหน้า มีรูปเล็กๆประกอบสองสามรูป... ในหน้างานศิลป์ประจำเล่ม... ไม่มีรูปสีเลย เป็นกระดาษขาวดำธรรมดาทั้งหมด... แล้วเริ่มมีโฆษณาเต็มหน้ามาแทรกมากขึ้น (ทีงี้ให้สีสันได้) กระพ๊มจึงเหมือนตั้งกระทู้คอมเม้นไป ครั้งแรกพ่อตัวดีตัวเดิมก็โผล่มาตอบ อ้างหมึกแพง ต้นทุนทุกวันนี้สูงอยู่แล้ว (พูดๆทำนอง 80 นี่ยังไม่พอไรเงี้ย) แล้วก็เงียบไป... มีวันหนึ่ง... กระพ๊มไปที่แผงประจำ ไปเจอหนังสือของเนชันแนล จีโอ... เล่มละ 120 แต่กระดาษสีทั้งเล่ม (กระดาษบางกว่าเล็กน้อย แต่สีสันครบถ้วน) กระพ๊มเลยตั้งกระทู้ใหม่เหมือนแซวๆเชิงเปรียบเทียบกับหนังสือดังกล่าว พ่อตัวดีตัวเดิมก็โผล่มาอ้างเหมือนเดิม ว่าไปเปรียบไม่ได้ทุนเค้าเยอะ... แล้วมีคนมาโพสเห็นด้วยต่อมั้ง (กระพ๊มด้วย) ว่าให้เล่มละร้อยยังได้ หากทำหน้าสีให้งามเหมือนเดิมสมัยก่อนไรเงี้ย... ปรากฏว่าวันต่อมา... กระทู้กระพ๊มโดนลบไปแล้ว...
... กระพ๊มมองแล้ว... กรูจริงใจซื้อมาเป็นสิบๆปีไม่เคยขาด แค่กระทู้ให้ความเห็นแค่นี้กลับโดนลบ กระพ๊มจึงทำกระทู้แจ้งลุงต่วย... ขอลาออกแล้วกัน หากแค่การติติงแค่นี้ถึงขนาดมาลบกระทู้ทิ้งกัน พ่อตัวดีตัวเดิมก็มาตอบทำนองไม่แฟร์ เค้าไม่ได้ลบ มันเป็นที่ระบบ ฯลฯ (กรูก็ทำบอร์ดมาก่อน... ไม่ใช่คว๊าย) แล้วหลังจากนั้นก็เลยเลิกขาดไปเลยขอรับ...
แต่จะว่าขาดก็ไม่เชิง แต่ไปซื้อแบบที่ขายย้อนหลัง เลหลังเหลือเล่มละ 15 - 20 บาทเอาบางเล่มขอรับ... เพราะดูแล้วคุณภาพน่าจะสมราคาแล้ว... คิกๆๆๆ
ตอบ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:36
ของ National Geographic ฉบับภาษาไทย อิฉันบอกรับเป็นสมาชิกตอนปีแรก รอเล่มแรกอย่างจดจ่อ มีหนังสือแถมมาด้วย ปรากฏว่าคุณนายเอาไปให้เพื่อนยืม แล้ว Gone with the dog ตอบง่ายๆว่าหาไม่เจอพี่หยิบติดรถไป
อิฉันโกรธจนควันออกหู หนังสือเล่มแรกที่ออกและมีของแถม เพราะจองพร้อมจ่ายก่อนเกือบปี คนอื่นอาจไม่สำคัญ แต่อิฉันเรื่องใหญ่ค่ะ หนังสือนี่มาหยิบฉวย ไปไม่ดูแล ทำหาย แล้วไปซื้อหนังสือห่วยๆอะไรก็ไม่รู้มาใช้คืน
เลยเป็นสมาชิกแค่ 2 ปี ช่วยบ่นอีกคน แก้ตัวเองเหงาค่ะ แหะๆ
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:41
ของ National Geographic ฉบับภาษาไทย อิฉันบอกรับเป็นสมาชิกตอนปีแรก รอเล่มแรกอย่างจดจ่อ มีหนังสือแถมมาด้วย ปรากฏว่าคุณนายเอาไปให้เพื่อนยืม แล้ว Gone with the dog ตอบง่ายๆว่าหาไม่เจอพี่หยิบติดรถไป
อิฉันโกรธจนควันออกหู หนังสือเล่มแรกที่ออกและมีของแถม เพราะจองพร้อมจ่ายก่อนเกือบปี คนอื่นอาจไม่สำคัญ แต่อิฉันเรื่องใหญ่ค่ะ หนังสือนี่มาหยิบฉวย ไปไม่ดูแล ทำหาย แล้วไปซื้อหนังสือห่วยๆอะไรก็ไม่รู้มาใช้คืน
เลยเป็นสมาชิกแค่ 2 ปี ช่วยบ่นอีกคน แก้ตัวเองเหงาค่ะ แหะๆ
ของกระพ๊มไอ้พวกยืมแล้วเยินกลับมานี่ทีเดียวเลิกคบเลยก๊ะด๊ายขอรับ... เอิ๊กๆๆๆ
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:30
วันนี้จับประเด็นเรื่อง "สังขตะ" กับ "อสังขตะ" ได้อีกเรื่อง ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง "อนัตตา" ที่เคยโพสขยายความไว้เดิมนะขอรับ...
... มีผู้ศึกษาพุทธวจนถามพระอาจารย์ถึงเรื่องนี้ว่าหมายถึงอย่างไร เค้ายังไม่ชัดแจ้งว่า "สัตว์" ไปเป็น "วิมุติญาณทัศน" ได้อย่างไร... เหมือนว่า "สัตว์" ที่ยังมีอวิชชาเป็นเครื่องกั้นเป็น "สังขตะ" แล้วกลายเป็น "วิมุติญาณทัศน" ซึ่งเป็น "อสังขตะ" ได้อย่างไร?...
... พระอาจารย์อธิบายได้ชัดแจ้งยิ่งนักว่า "สัตว์" และ "วิมุติญาณทัศน" นั่นคือศัพท์ที่พระตถาคตใช้กล่าวถึง "สภาวะ" ของสิ่งๆหนึ่งนั่นเอง... กล่าวคือ ทั้ง "สัตว์" และ "วิมุติญาณทัศน" ก็คือสิ่งเดียวกันในสภาวะที่แตกต่างกัน นั่นหมายถึง "อสังขตะ" เดิมนั่นตั้งอยู่อย่างนั้น แล้วไปยึดเอา "สังขตะ" มาห่อหุ้ม... การปฏิบัติมรรค 8 ของพระตถาคตก็คือการปลดสิ่งที่ห่อหุ้มนี้ออกไปจนถึงชั้น "อสังขตะ" นั่นก็คือ "นิพพาน" ซึ่งจะสอดคล้องกับพระสูตรอื่นๆที่กล่าวถึงขันธ์ทั้ง 5 ดังเป็นของหนัก แล้วนิพพานคือของเบาอันเป็นสุขอย่างยิ่งนั่นเอง...
การอธิบายนี้ ทำให้ชัดแจ้งถึงความเป็นอนัตตาตือ "การมีอยู่ชั่วคราว" ที่ห่อหุ้ม "อมตะ" ที่เวียนว่ายในสังสารวัฏนี้นี่เองขอรับ... ก็ไปสอดคล้องกับพระสูตรที่พระศาสดากล่าวถึงผู้ที่ว่า "วิญญาณเวียนว่ายตายเกิด" นั่นเป็น "โมฆะบุรุษ" ขอรับ...
เลยนำมาประกาศต่อ ให้สดับไว้ใคร่ครวญกันดูนะขอรับ...
ธรรมทั้งปวง เป็น อนัตตา
ธรรม ทั้ง ปวง ได้ แก่ปรมัตถธรรม ทั้ง ๔ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน
ธรรม ทั้ง ปวง เป็น อนัตตา คือ ไม่ใช่ ตัวตน ไม่อยู่ ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร
สังขารธรรม คือ ธรรม ที่เกิดขึ้น มีปัจจัยปรุงแต่ง คือธรรมที่ เกิด- ดับ
วิสังขารธรรม คือ ธรรม ที่ไม่เกิดขึ้น ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง คือธรรมที่ไม่เกิด-ดับ
จิต เจตสิก รูป เป็น สังขารธรรม เป็นโลกียะ คำว่า โลกียะหมายถึง แตกดับ ทำลาย
นิพพาน เป็น วิสังขารธรรม เป็นโลกุตตระ คำว่า โลกุตตระหมายถึง พ้นจาก โลก
เป็น อสังขตธรรม ไม่ใช่สังขตธรรม ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง จึงไม่ เกิด-ดับ
ชื่อว่า เป็น อนัตตา เพราะเหตุ ๔ เหล่า คือ โดยความเป็นของสูญ ๑
โดยความไม่มีเจ้าของ๑ โดยเป็นสิ่งที่ควรทำตามชอบใจไม่ได้ ๑ โดยปฏิเสธต่ออัตตา ๑.
โดยความเป็นของสูญ คือ มีแต่สภาพธรรม ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน
ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรเลยสูญไปเลย แต่ เป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่ สัตว์ บุคคล ตัวตน
โดยความไม่มีเจ้าของ คือ ไม่มีใครเป็นเจ้าของสภาพธรรม ที่คิดว่าเป็นเจ้าของ
เป็นแต่เพียงรูป ไม่มีใครที่เป็นเจ้าของได้จริงๆ ผู้ที่เป็นเจ้าของ ก็ต้อง
จากไป เพราะเป็นแต่เพียงธรรมที่เป็นอนัตตา
โดยเป็นสิ่งที่ควรทำตามชอบใจไม่ได้ คือ ไม่สามารถให้ จิต เจตสิก รูปและสภาพ
ธรรมเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น ตามใจชอบไม่ได้ ไม่ให้ดับไป จะให้ยั่งยืน
อยู่ตลอดเวลาก็ไม่ได้
โดยปฏิเสธต่ออัตตา คือ ปฏิเสธว่าไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตนอยู่ในสภาพธรรม
สัจจธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทั้งหมดเพื่อที่จะให้รู้ว่าธรรมมีจริงถ้าฟังแล้ว
เข้าใจว่า เป็นอัตตา เป็นตัวเรา เป็นตัวตน สัตว์บุคคล การฟังนั้นเป็นโมฆะไปแล้ว
จึงต้องเป็นผู้ละเอียด เพราะพระธรรมเป็น เรื่องละเอียดลึกซึ้ง ต้องมั่นคงว่าธรรม
ทั้งหลายเป็นอนัตตา พระไตรปิฎกมีเท่าไร
ทั้งหมดก็เพื่อให้เข้าใจถูกต้องว่าธรรม เป็นอนัตตา
เมื่อใด
บัณฑิตย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า
ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
เมื่อนั้น
ย่อมหน่ายในทุกข์
ความหน่ายในทุกข์
นั่นเป็น
ทางแห่งความหมดจด.
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 16:26
สัจจธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทั้งหมดเพื่อที่จะให้รู้ว่าธรรมมีจริงถ้าฟังแล้ว
เข้าใจว่า เป็นอัตตา เป็นตัวเรา เป็นตัวตน สัตว์บุคคล การฟังนั้นเป็นโมฆะไปแล้ว
จึงต้องเป็นผู้ละเอียด เพราะพระธรรมเป็น เรื่องละเอียดลึกซึ้ง ต้องมั่นคงว่าธรรม
ทั้งหลายเป็นอนัตตา พระไตรปิฎกมีเท่าไร
ทั้งหมดก็เพื่อให้เข้าใจถูกต้องว่าธรรม เป็นอนัตตา
เมื่อใด
บัณฑิตย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า
ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
เมื่อนั้น
ย่อมหน่ายในทุกข์
ความหน่ายในทุกข์
นั่นเป็น
ทางแห่งความหมดจด.
หากหมายถึงทุกอย่างคือการมีอยู่ชั่วคราว เมื่อถึงเวลาก็ต้องสลัดคืน หรือทิ้งไปนั่นก็เห็นด้วยขอรับ... เหมือนพระสูตรที่พระตถาคตตอบภิกษุที่ถามถึงเมื่อถึงสภาวะวิมุติแล้ว ธรรมทั้งหลายที่เรียนรู้มาจะทำอย่างไร... ตถาคตกล่าวว่าก็ธรรมก็เหมือนเรือแพ เมื่อข้ามถึงฝั่งแล้ว เรือแพเหล่านั้นจะทำอย่างไร... จะแบกขึ้นฝั่งไปด้วยหรือ?... ก็ทิ้งไว้ที่ฝั่งนั่นและขอรับ...
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:19
" เมื่อข้ามถึงฝั่งแล้ว เรือแพเหล่านั้นจะทำอย่างไร... จะแบกขึ้นฝั่งไปด้วยหรือ?... ก็ทิ้งไว้ที่ฝั่งนั่นและขอรับ..."
เป็นเพราะเรือแพเหล่านั้นหมดประโยชน์เลยทิ้งไว้ที่ฝั่ง และเป็นเพราะบาปที่ละเลยศีลทั้ง 5 ครบถ้วน ตอนนี้ต้องกลับไปลอยคออยู่ในทะเลอีก ควรจะทำไงดีเจ้าคะ
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:27
" เมื่อข้ามถึงฝั่งแล้ว เรือแพเหล่านั้นจะทำอย่างไร... จะแบกขึ้นฝั่งไปด้วยหรือ?... ก็ทิ้งไว้ที่ฝั่งนั่นและขอรับ..."
เป็นเพราะเรือแพเหล่านั้นหมดประโยชน์เลยทิ้งไว้ที่ฝั่ง และเป็นเพราะบาปที่ละเลยศีลทั้ง 5 ครบถ้วน ตอนนี้ต้องกลับไปลอยคออยู่ในทะเลอีก ควรจะทำไงดีเจ้าคะ
ร้องเพลง "ช่างแม่มัน" ให้มันไปเถิดขอรับ... ศีลยังไม่มีแล้วจะมีเรือแพได้อย่างไรเล่าขอรับ... เอิ๊กๆๆๆๆ
Edited by wat, 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:30.
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:07
นั่งมาทิ ฟังถ่ายทอดสดพระอาจารย์ก่อนขอรับ... เดี๋ยวมาป่วนช่วย...
ฮี่ๆๆๆ
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:10
ตอบคุณคน Pro ก่อน ใช่แล้วค่ะชุดนี้ที่ชอบมากๆ รู้สึกว่าจะมีอีกชุด ปกเป็นสีเขียว แต่ชอบชุดนี้มากกว่า ขอบคุณมากที่งานยุ่ง แล้วยังกรุณาหาให้พี่อีก พักบ้างนะคะ นี่คุณจักร์ก็งานยุ่งจนเบลอไปคนแล้ว
ช่วงนี้งานยุ่งมาก และค่อนข้างเคร่งเครียด เพราะเป็นงานที่ต้องรอบคอบ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ น้ำมัน ด้วย ผมปิดโทรศัพท์ไม่ได้เลยครับ stand by
ตลอด 24 ชั่วโมง กลับบ้านก็ต้องมาดูรายละเอียด เตรียมงานล่วงหน้า
เด็กรุ่นใหม่ หลายคน ที่มาช่วยงาน ส่วนใหญ่ก็เป็น gen Y ครับ เห็นเรื่องส่วนตัวสำคัญกว่าเนื้องาน
ผมยังนึกหวั่นใจอยู่ครับ ว่า ตอนนี้ต้องเริ่มส่งไม้ต่อ ให้ คนรุ่นถัดไปทีละไม้สองไม้ หากเป็นกันอย่างนี้ ไม้ที่ส่งให้คงตก เกลื่อนถนนแน่ครับ
โทรไปตอนเลิกงาน ก็บอกว่า พาแฟน ไปกินข้าวใต้แสงเทียน ผมเลยถามว่า ใช้เทียนอะไรจุด
เค้าตอบว่า เทียนเล่มเล็กเล็ก
ดีนะครับที่ไม่ใช้เทียนพรรษา ไม่งั้น เอ็งไมต้องทำงานกันแล้ว กินข้าวกับแฟนใต้แสงเทียนไปตลอดพรรษาแน่
ในที่สุด ความรับผิดชอบท้ายสุดก็ไม่พ้น ต้องตกทีผม พูดแล้วเหนื่อยครับ ยิ่งสูงยิ่งหนาวครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:30
สร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันป่าวเนี่ย เป็นธรรมดาค่ะของการทำงาน ก็ต้องดูเด็กค่ะ บางคนก็ตั้งใจดีนะ อยากก้าวหน้า แต่อีโก้จาสูงไปนิ๊ดดด เราเองก็ต้องเหนื่อยกับการตามงาน ปล่อยไม่ได้ พี่เองรอดจากการทำงานโดยไม่ต้องไปเที่ยวศาลก็บุญโขแล้วค่ะ
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:31
สร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันป่าวเนี่ย เป็นธรรมดาค่ะของการทำงาน ก็ต้องดูเด็กค่ะ บางคนก็ตั้งใจดีนะ อยากก้าวหน้า แต่อีโก้จาสูงไปนิ๊ดดด เราเองก็ต้องเหนื่อยกับการตามงาน ปล่อยไม่ได้ พี่เองรอดจากการทำงานโดยไม่ต้องไปเที่ยวศาลก็บุญโขแล้วค่ะ
ไม่ใช่แท่นครับ
ผมยังอุตส่าห์สะกด ผิด ให้ edit อีก
Edited by chackrapbong, 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:32.
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:36
ฟังเพลงนี้ "ยิ่งสูงยิ่งหนาว" แล้วดูคำบรรยาย ตอนแรกนึกว่าเนื้อเพลง เป็นเพียงข้อความ แต่มีความหมายดีๆ
ไม่ใช่แท่น งั้นก็เป็นบ่อละซิ เอ๊ะ ไปขุดที่สมุยป่าวเนี่ย
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:39
" เมื่อข้ามถึงฝั่งแล้ว เรือแพเหล่านั้นจะทำอย่างไร... จะแบกขึ้นฝั่งไปด้วยหรือ?... ก็ทิ้งไว้ที่ฝั่งนั่นและขอรับ..."
เป็นเพราะเรือแพเหล่านั้นหมดประโยชน์เลยทิ้งไว้ที่ฝั่ง และเป็นเพราะบาปที่ละเลยศีลทั้ง 5 ครบถ้วน ตอนนี้ต้องกลับไปลอยคออยู่ในทะเลอีก ควรจะทำไงดีเจ้าคะ
ร้องเพลง "ช่างแม่มัน" ให้มันไปเถิดขอรับ... ศีลยังไม่มีแล้วจะมีเรือแพได้อย่างไรเล่าขอรับ... เอิ๊กๆๆๆๆ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:49
พูดเรื่องเด็กกับงานสมัยนี้แล้วก็เซงเหมือนกันขอรับ... อยากได้เงินเดือนสูงๆ อยากถีบตัวเอง... แต่ไปถีบใครขึ้นมา... ก็ช่างแม่ม... เป็นอย่างนี้กันก็เยอะ... พวกอยากสบาย... แต่ไม่เคย, ไม่อยากลำบากก็เยอะ... หากันแต่ทางลัด หาไปหามากลายเป็นเกี่ยงงานซะงั้น...
วงการช่างของกระพ๊ม พวกจบใหม่มันหือกันได้ไม่นานหรอกขอรับ... ตายน้ำตื้นกันมาเยอะ... พวกระดับลูกน้องมันเขี้ยวลากดินทั้งนั้น มองก็รู้... ใครแน่ ไม่แน่... เรียนจบมาเป็นนายคนตามสายวิชา... แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นนายได้หรอกขอรับ... ขิงกว่าจะเผ็ดร้อนได้... มันดูดธาตุในดินกันกี่เดือนกี่ปี?... ยิ่งอยู่กับพวกเสือสิงห์กระทิงแรดด้วย... เซ่อๆซ่าๆก็โดนมันขวิดคาเขานั่นแหละ...
Edited by wat, 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:50.
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:50
พี่ก็มีนะ เก็บไว้นานมากแล้ว
เหลือแต่ซากทรงจำห้วงสำนีก
ยามรู้สึกอาลัยร้องไห้หา
อยากให้ภาพผ่านพ้นเวียนวนมา
ประหนึ่งว่าความหลังยังยั่งยืน
Unknown
Edited by lazylemon, 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:50.
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:53
วันนี้ความรู้สึกเหมือนวันที่ต้องอ่านหนังสือ
หน้าดำ คร่ำเครียด กลัวถูก รีไทร์เหมือนวันโน้น....
นึกถึง AL STEWART ขั้นมาทันที
พูดถึงเรื่องเรียนนี่... สมัยกระพ๊มไปเช็คกับฝ่ายทะเบียนว่าจบแน่หรือยัง... ได้สำเนาทรานสคริปถือออกมาจากห้องขณะนั้น... รู้ซึ้งถึงคำว่า "ยกภูเขาออกจากอก" มันเป็นอย่างนี้นี่เองเลยขอรับ... เอิ๊กๆๆๆ
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:56
อารมณ์ดี จิบน้ำสะระแหน่ดอง แกล้มหาเพลงซะหน่อยดีกว่า เอิ๊กๆๆ
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:58
วันนี้ความรู้สึกเหมือนวันที่ต้องอ่านหนังสือ
หน้าดำ คร่ำเครียด กลัวถูก รีไทร์เหมือนวันโน้น....
นึกถึง AL STEWART ขั้นมาทันที
พูดถึงเรื่องเรียนนี่... สมัยกระพ๊มไปเช็คกับฝ่ายทะเบียนว่าจบแน่หรือยัง... ได้สำเนาทรานสคริปถือออกมาจากห้องขณะนั้น... รู้ซึ้งถึงคำว่า "ยกภูเขาออกจากอก" มันเป็นอย่างนี้นี่เองเลยขอรับ... เอิ๊กๆๆๆ
อารมณ์ดี จิบน้ำสะระแหน่ดอง แกล้มหาเพลงซะหน่อยดีกว่า เอิ๊กๆๆ
ความรู้สึกไม่ต่างครับ
เป็นวัน่ที่ท้องฟ้าสดใส ที่สุดวันหนึ่งในชีวิต
จนมาเป็น BlueSky เหมือนทุกวันนี้( หรือไม่เกี่ยวกัน )
ผมก็ชัก ไปกันใหญ่ go big ไปดื้อดื้อ อย่างนี้ครับ
อย่าถือสาเลย เพราะหลายวันที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้เจอกัน
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:09
ของอิฉันตอนไปรับใบทรานสคริป สิ่งแรกที่ดูคือ หน่วยกิตครบป่าว เพราะวรรณคดี หน่วยกิตจะน้อยกว่า เอกอังกฤษ 6 หน่วย
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:20
กะลังจะบอกว่า คุณจักรถ้ายังเพลียค้าง (ไม่ใช่เมาค้าง) อ่านเฉยๆก็ได้ เดี๋ยวพี่เปิดเพลงเองก็ได้ โดยมีคุณวัชรคอยช่วย ถ้าไม่หนีไปนอนเสียก่อน แต่ก็ดี ฟัง Alan Parson บ้าง
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:26
วันเวลาที่ผ่านมา ประสบการณ์ที่สอนเรา ทำให้เราเป็นเรามาได้จนทุกวันนี้ น่าภูมิใจนะ เรายืนหยัดมาได้ขนาดนี้ด้วยสมองและสองมือของเรา
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:29
วันเวลาที่ผ่านมา ประสบการณ์ที่สอนเรา ทำให้เราเป็นเรามาได้จนทุกวันนี้ น่าภูมิใจนะ เรายืนหยัดมาได้ขนาดนี้ด้วยสมองและสองมือของเรา
ชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป
The Show Must Go On
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:45
คุณ คนไม่มา หลายวันเหมือนกัน
ตกหลุมดำ ไปกับงานที่หนัก
เคยถามผมว่า ทำไม ชอบ Pink Floyd
ถือโอกาสตอบตอนนี้เสียเลยว่า เป็น
phychedelic rock เพลงชวนฝัน
และมีแง่ให้ติดตาม ถ้าจะว่าไปแล้ว
มีคำถามต่อ ความเชือ ต่อสังคม
อีกวงที่ผมชอบคือ supertramp
ขอไปก่อนกับเพลงนี้อีกสักครั้งครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
ตอบ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:46
ถ้าชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นไป
ถ้าชีวิตไม่ดิ้น ก็สิ้นไป
ลาเหมือนกันค่ะ
Edited by lazylemon, 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:47.
ตอบ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:15
คุณ คนไม่มา หลายวันเหมือนกัน
ตกหลุมดำ ไปกับงานที่หนัก
เคยถามผมว่า ทำไม ชอบ Pink Floyd
ถือโอกาสตอบตอนนี้เสียเลยว่า เป็น
phychedelic rock เพลงชวนฝัน
และมีแง่ให้ติดตาม ถ้าจะว่าไปแล้ว
มีคำถามต่อ ความเชือ ต่อสังคม
เป็นวงที่ดังแต่กระพ๊มไม่เก๊ทเนื้อหารุย... เคยได้คอนเสริตมาดูตอนหนุ่มๆ... งงรับทานขอรับ... เค้าร้องเพลงแล้วฉากข้างหลังเป็นคนพายเรือแคนนู (มั้ง... ที่พายหันหลังน่ะขอรับ)... เอาเนื้อมานั่งดูด้วย... อึ้ง... มันสื่ออะไรกรูฟ๊ะ... ???
ปรัชญาลึกเกิน พอๆกับพวก dreamtheater เลย... แต่นั่นยังพอแปลความหมายที่สื่อออกบ้างขอรับ...
ตอบ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:18
ตอบ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:36
คุณวัชรก็ฟังเพลงหวานแหวว ด้วย วง Pink Floyd เนี่ย เด็กศิลปกรรมจาก เคมบริดจ์ ทีเดียวเชียว แนวคิดคงจะล้ำลึกพอควร ที่พูหญิงอย่างอิฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจ ชอบเพลงแนวเศร้าๆ หลอนๆเจ้าค่ะ อย่างของ Enigma
ก็ติดใจอยู่เพลงนึง
ตอบ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:45
คุณวัชรก็ฟังเพลงหวานแหวว ด้วย วง Pink Floyd เนี่ย เด็กศิลปกรรมจาก เคมบริดจ์ ทีเดียวเชียว แนวคิดคงจะล้ำลึกพอควร ที่พูหญิงอย่างอิฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจ ชอบเพลงแนวเศร้าๆ หลอนๆเจ้าค่ะ อย่างของ Enigma
ก็ติดใจอยู่เพลงนึง
คงจะพอกับมาโนช พุฒตาล หรือเธนศ วรากูลนุเคราะห์ ของเรานั่นแหละขอรับ สองชุดแรกก็กวีจ๋า ยิ่งเธนศชุดคนเขียนเพลงบรรเลงชีวิตนี่... เซ่อไปเลยขนาดภาษาไทยนะนั่น เอิ๊กๆๆๆๆ...
เธนศทำแล้วไม่รวยเลยต้องไปทำเพลงป๊อบๆ รวยไปเลยสามชุดรวด... ไม่เหมือนเฮียมาโนช พุฒตาล... นั่นรวยอยู่แล้วไม่สน กรูจะทำใครจะฟังก็ฟังไปขอรับ...
ตอบ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:48
ของธเนศ นี่ชุดแรกดิฉันก็ซื้อค่ะ ตอนสมัยนั้นก็ฟังได้ แต่ตอนนี้ สงกะสัยตัวเองว่าซื้อมาได้ยังไง
ดีใจที่คุณจักรแวะมา
ตอบ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:49
ว่าแล้วก็เอาให้ งงๆ หนึ่งเพลง... ฮี่ๆๆๆ
ตอบ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:52
ของธเนศ นี่ชุดแรกดิฉันก็ซื้อค่ะ ตอนสมัยนั้นก็ฟังได้ แต่ตอนนี้ สงกะสัยตัวเองว่าซื้อมาได้ยังไง
ดีใจที่คุณจักรแวะมา
โห... แต่ก่อนวงการนักสะสมเค้าหาตลับเทปกันให้ควั่กเลยนะขอรับนั่น... พวกเธนศชุดแรก อี๊ดโอภากุลชุดแรก สภาพดีๆแต่ก่อนร่วมๆพันเลยขอรับ...
แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้เลิกบ้ากันหรือยัง... เธนศชุดแรกนั่นถือว่าคุณภาพสุดๆแล้วขอรับ รองมาก็ชุดคนเขียนเพลงฯนี่แหละ...
Edited by wat, 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:52.
ตอบ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:52
ขอบคุณเจ้าค่ะที่ส่งมา 1 งง
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน