สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:19
แม่มะนาวชอบนะคะ ที่คุณวัชร เข้ามาขยายมุมมองให้พวกเรา เพราะบางทีเรายังรู้น้อย หรือรู้บ้างแต่ยังไม่ถูกต้องนัก ตอนนี้เริ่มๆฟังคำบรรยายของ อ. คุณหลวงอุตส่าห์ไปหามาให้ คือชวนแกมาฟัง ในเว็บ ที่คุณวัชรส่งมาให้ค่ะ
อาทิตย์ที่แล้วงอนเล็กๆ ที่อิฉันยังไม่ไปวัดนาป่าพง คือมันอากาศร้อนมากๆ เลยไม่อยากออกไปไหน
สมาชิกขั้นสูง
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:34
สงสัยคุณวัชร นั่งมาธิ แล้วคงนอนแล้ว วันนี้เลยไม่เจอ แต่ชอบมาตอนเช้าๆ แอบเอาของมาฝากเรื่อยๆ 
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:35
ความรักเสมอด้วยตนไม่มี
ทรัพย์เสมอด้วยข้าวเปลือกย่อมไม่มี
แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาย่อมไม่มี
ฝนต่างหากเป็นสระยอดเยี่ยม
ข้อความบางตอนจาก..นัตถิปุตตสมสูตร
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.
ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:39
ขอบคุณที่พยายามเข้าใจขอรับ... กระพ๊มเกรงจะไปล้ำเส้นเข้า แต่คิดดูแล้วมันก็คือสัจจะความจริงของพระตถาคต ก็เลยให้ลองสดับแล้วพิจารณาดูขอรับ...
ซ่าโน่น ซ่านี่ หนีไปนอนต่อ... ฮี่ๆๆๆ
Sometime...Sun shine through the rain...
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:47
ขอบคุณที่พยายามเข้าใจขอรับ... กระพ๊มเกรงจะไปล้ำเส้นเข้า แต่คิดดูแล้วมันก็คือสัจจะความจริงของพระตถาคต ก็เลยให้ลองสดับแล้วพิจารณาดูขอรับ...
ซ่าโน่น ซ่านี่ หนีไปนอนต่อ... ฮี่ๆๆๆ
การตรวจสอบ การสอบถาม การแลกเปลี่ยน
คือวิธี ศึกษาธรรมะ ที่ถูกต้องแล้วครับ
ไม่มีเส้นใหนใดในโลก ที่จะมาล้ำเส้นแห่งสัจจธรรมได้ครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:48
ไม่มีเส้นอะไรให้ล้ำเจ้าค่ะ ตอนอิฉันเข้ามาในเว็บนี้ใหม่ๆ ไม่ได้สนใจเท่าไรนัก หมายถึงสนใจใคร่รู้ อ่านที่คุณวัชรเขียนมาเรื่อย ก็เอ๊ะ ยังไม่ค่อยเข้าใจ เหมือนตอนที่เพื่อนๆอิฉันตั้งวงกันแล้วคุยเรื่องปรัชญาโกวเล้ง
ตามประสาผู้ชาย จนรำคาญที่ฟังเขาคุยแล้วไม่รู้เรื่อง จนต้องไปหามาอ่าน แต่ธรรมะคงไม่ง่ายเท่าหนังสือจีนหรอกเจ้าค่ะ ก็ฟังไปทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ ชีวิตจะได้มีอะไรที่มีประโยชน์มาเติมเต็มบ้าง
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:52
ถ้าจะว่าไปแล้ว เราคือเสียงส่วนน้อยครับ
หากเทียบกับคนบนโลกใบนี้ ที่นับถือ เชื่อถือ
ศาสนาพุทธ
ปริมาณแปรผกผันกัยคุณภาพ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:53
พี่กะคุณจักร์แย่งกันตอบ จนคุณวัชรไม่ได้นอนเลย เกินเวลานอนแล้วนะเจ้าคะ ระวัง short gun ข้างหลังนะเจ้าคะ อิอิ
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:03
คุณจักร์ คงถึงเวลา แยกย้ายแล้วเนอะ อีกคนละเพลงตามเคย
เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:20
งั้นวันนี้มีคาถามหาระรวยของพระตถาคตมาฝากขอรับ... อยากสมปารถนาพระตถาคตว่าต้องมี...
สัททา - ความเชื่อมั่นในธรรมของพระตถาคต
ศีล - การสำรวมรักษากาย(3) วาจา(4) จิต(3) (กุศลกรรมบท 10)
สุตตะ - สั่งสมพระธรรมคำสอนตถาคต (ไม่ใช่สะสมหนังสือให้ฝุ่นเกาะ หรือปลวกรอแทะนะขอรับ)
จาคะ - ให้ทานแก่สมณะผู้สมควรรับทาน ตามสมควร
ปัญญา - เจริญสติปัฐฐาน 4 ให้มาก
... พระตถาคตกล่าวว่า "ศีล" นั้นคือมหาทานชั้นเลิศ... "กายคตาสติ" 1 ในอานิสงค์นั้น... เมื่อเธอปารถนาสิ่งใด จักให้ผลได้ในทิฐธรรม... (ในปัจจุบันทันที) และเป็น "กุศลาสี" ที่แท้จริง (กองกุศลทั้งมวล)
ทำมากๆยิ่งกว่ามหาระรวย คืออาจหลุดพ้นได้เลยนะขอรับ...
ว่าแล้วก็วางระเบิดไว้ให้กู้อีก... พระตถาคตมีสอนเรื่องการกำหนด "ฤกษ์งามยามดี" ไว้นั้น... เป็นช่วงไหนเวลาไหนดีขอรับ?... ฮี่ๆๆ
Sometime...Sun shine through the rain...
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:10
"ฤกษ์งามยามดี" สำหรับตัวอิฉันเอง คิดว่าควรจะเป็นช่วงที่เราสะดวกสุด พร้อมสุด อะไรประมาณนั้น แต่บางทีก็แอบดูปฏิทินเหมือนกันเจ้าค่ะ ถ้าตกวันอุบาทก์ ก็ไม่ทำงานมงคล อย่าว่ากันนะเจ้าคะ นิดๆหน่อยๆ เชื่อบ้าง กันไว้ก่อน อิอิ
วันนี้ดูข่าวแล้วก็สลดใจนะคะ ถึงจะไม่รู้จักผู้นั้น แต่ก็รู้สึกแย่ๆ ที่ว่าแย่ คือบ้านเมืองเป็นอะไรไปแล้ว ความจริงข่าวพวกนี้ก็มีบ่อยๆ แล้วก็เห็นสัจจะธรรมคะ มาแต่ตัวก็ไปแต่ตัว แต่ที่เห็นภาพแล้วมันเกินจินตนาการไปเลย
ต้องขนาดนั้นเลย เพราะคนทำต้องการปกปิดหลักฐาน กล้าทำแต่กลัวเขาจับได้ เศร้าค่ะ ฆ่าคนนี่มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ
Edited by lazylemon, 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:10.
สมาชิกขั้นสูง
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:29
งั้นวันนี้มีคาถามหาระรวยของพระตถาคตมาฝากขอรับ... อยากสมปารถนาพระตถาคตว่าต้องมี...
สัททา - ความเชื่อมั่นในธรรมของพระตถาคต
ศีล - การสำรวมรักษากาย(3) วาจา(4) จิต(3) (กุศลกรรมบท 10)
สุตตะ - สั่งสมพระธรรมคำสอนตถาคต (ไม่ใช่สะสมหนังสือให้ฝุ่นเกาะ หรือปลวกรอแทะนะขอรับ)
จาคะ - ให้ทานแก่สมณะผู้สมควรรับทาน ตามสมควร
ปัญญา - เจริญสติปัฐฐาน 4 ให้มาก
... พระตถาคตกล่าวว่า "ศีล" นั้นคือมหาทานชั้นเลิศ... "กายคตาสติ" 1 ในอานิสงค์นั้น... เมื่อเธอปารถนาสิ่งใด จักให้ผลได้ในทิฐธรรม... (ในปัจจุบันทันที) และเป็น "กุศลาสี" ที่แท้จริง (กองกุศลทั้งมวล)
ชนเหล่าใดดำเนินไปตามมรรคา ที่พระตถาคตเจ้า ทรงประกาศแล้ว
สำรวมในศีลสังวรที่พระตถาคตเจ้าผู้มีจักษุเป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์ ทรงแสดงแล้ว
คุ้มครองอินทรีย์ มีสติทุกเมื่อ ไม่ชุ่มด้วยกิเลส
ตัดอนุสัยทั้งปวงอันแล่นไปตามกระแสบ่วงมาร
ชนเหล่านั้นแล บรรลุความสิ้นอาสวะ ถึงฝั่งคือนิพพานในโลกแล้ว.
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:35
"ฤกษ์งามยามดี" สำหรับตัวอิฉันเอง คิดว่าควรจะเป็นช่วงที่เราสะดวกสุด พร้อมสุด อะไรประมาณนั้น
" ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนโง่เขลา ผู้มัวคอยฤกษ์อยู่
ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวจักทำอะไรได้."
(พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม 3 ภาค2 หน้า 49 )
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:37
สวัสดีคุณจักร์ วันนี้ฝนตกอีกแล้ว แต่ไม่มากเหมือนเมื่อวาน บ้านพี่ละเจิ่งนองเลย สักชั่วโมงก็หายหมด แปลกนะบ้านพี่ฝนตกหนัก น้ำจะขัง แต่ตอนน้ำท่วม แห้งสนิท
เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:43
"ฤกษ์งามยามดี" สำหรับตัวอิฉันเอง คิดว่าควรจะเป็นช่วงที่เราสะดวกสุด พร้อมสุด อะไรประมาณนั้น
" ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนโง่เขลา ผู้มัวคอยฤกษ์อยู่
ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวจักทำอะไรได้."
(พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม 3 ภาค2 หน้า 49 )
พระตถาคตมีสอนเรื่องดูฤกษ์งามยามดีไว้จริงๆขอรับ...
... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
... สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย... ด้วยวาจา... ด้วยใจ... ในเวลาเช้า... เวลาเช้าก็เป็นเวลาเช้าที่ดีของสัตว์เหล่านั้น...
... สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย... ด้วยวาจา... ด้วยใจ... ในเวลาเที่ยง... เวลาเที่ยงก็เป็นเวลาที่ดีของสัตว์เหล่านั้น...
... สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย... ด้วยวาจา... ด้วยใจ... ในเวลาเย็น... เวลาเย็นก็เป็นเวลาเย็นที่ดีของสัตว์เหล่านั้น...
ฮี่ๆๆ นี่ไงขอรับฤกษ์งามยามดี... ของพระตถาคต...
Edited by wat, 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:44.
Sometime...Sun shine through the rain...
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:50
เถียงนิดนุง เวลาที่ดี กับฤกษ์งามยามดี มันเหมือนกันหรือเจ้าคะ
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:53
"ฤกษ์งามยามดี" สำหรับตัวอิฉันเอง คิดว่าควรจะเป็นช่วงที่เราสะดวกสุด พร้อมสุด อะไรประมาณนั้น
" ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนโง่เขลา ผู้มัวคอยฤกษ์อยู่
ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวจักทำอะไรได้."
(พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม 3 ภาค2 หน้า 49 )
... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
... สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย... ด้วยวาจา... ด้วยใจ... ในเวลาเช้า... เวลาเช้าก็เป็นเวลาเช้าที่ดีของสัตว์เหล่านั้น...
... สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย... ด้วยวาจา... ด้วยใจ... ในเวลาเที่ยง... เวลาเที่ยงก็เป็นเวลาที่ดีของสัตว์เหล่านั้น...
... สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย... ด้วยวาจา... ด้วยใจ... ในเวลาเย็น... เวลาเย็นก็เป็นเวลาเย็นที่ดีของสัตว์เหล่านั้น...
กายกรรม วาจากรรม มโนกรรม ความปรารถนาของท่าน เป็นประทักษิณ***
เป็นฤกษ์ดี มงคลดี แจ้งดี รุ่งดี ขณะดี ครู่ดี และเป็นการบูชาอย่างดี ในพรหมจารีทั้งหลาย
คนทำกรรมอันเป็นประทักษิณแล้ว ย่อมได้ประโยชน์อันเป็นประทักษิณ***
ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้มีประโยชน์อันได้แล้ว ถึงซึ่งความสุข งอกงามในพระพุทธศาสนา
เป็นผู้หาโรคมิได้ สำราญกายใจ พร้อมด้วยญาติทั้งปวงเทอญ.
***ประทักษิณ หมายถึง การกระทำความดีด้วย ความเคารพ โดยใช้มือขวาหรือแขนด้านขวา หรือที่หลายท่าน เรียกว่า “ส่วนเบื้องขวา”
ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่มีมาช้านานแล้ว ซึ่งพวกพราหมณ์ถือว่า การประทักษิณ คือ การเดินเวียนขวารอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบุคคลที่ตนเคารพนั้น
เป็นการให้เกียรติ และเป็นการแสดงความเคารพสูงสุด เป็นมงคลสูงสุด
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:59
มิน่าเวลาตะหานทำความเคารพ ถึงใช้มือขวา (พี่สรุปเองอ้ะ งั้นต่อไปถ้าจะตีเด็กๆจอมซน 7 ตัว พี่ก็ต้องใช้มือซ้ายละซิ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ดี) นี่พี่กำลังชักใบให้เรือเสียป่าวเนี่ย 
ขอโตด คร๊าบ
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:02
มิน่าเวลาตะหานทำความเคารพ ถึงใช้มือขวา (พี่สรุปเองอ้ะ งั้นต่อไปถ้าจะตีเด็กๆจอมซน 7 ตัว พี่ก็ต้องใช้มือซ้ายละซิ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ดี) นี่พี่กำลังชักใบให้เรือเสียป่าวเนี่ย
ขอโตด คร๊าบ
ตอนเด็ก ผมโดน ทั้งสองมือเลยครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:09
สวัสดีวันพุธ แล้วมีดอกไม้มาฝาก
Wednesday's child เด็กวันพูธ นี้ คือบรรดาพวกเด็กที่เกิดมา อยู่ตรงกลาง
มี่พี่ มีน้อง พวกฝรั้งบอกว่า มักจะมีปัญหา
ตามจริงแล้ว ผมก็เป็นเด็กวันพุธเหมือนกัน
ปัญหาผมคือ คอเคล็ดครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:13
ตอนเป็นนักเรียน ไม่เคยดดนตี เคยแต่โดนคาบไม้บรรทัด สมัยประถมซนสุดๆ อ. ละปวดหัวเลย เป็นเด็ก(นั่ง)แถวหลัง แต่เรียนแถวหน้า เคยนั่งอ่านนิยายขณะเรียนโดยเอานิยายที่ยืมจากห้องสมุดซ่อนไว้ข้างใน เอาหนังสือเรียนปิดไว้ข้างนอก
แต่ตอนมัธยมไม่กล้าหรอก เดี๋ยว อ. ไปฟ้องปู่
เรื่องคอเคล็ดนี่พี่ว่าไม่เกี่ยวกะ เป็นลูกคนกลางหรอก พี่ว่าเพราะคุณชอบเหลียวดูสาวเวลาเดินผ่านจนคอเคล็ดมากก่า เหอๆ
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:15
แย่งเพลงเราซะงั้น หาใหม่ก็ได้ 
แล้วอย่ามาว่าเราใจร้ายนะ
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:19
ตอนเป็นนักเรียน ไม่เคยดดนตี เคยแต่โดนคาบไม้บรรทัด สมัยประถมซนสุดๆ อ. ละปวดหัวเลย เป็นเด็ก(นั่ง)แถวหลัง แต่เรียนแถวหน้า เคยนั่งอ่านนิยายขณะเรียนโดยเอานิยายที่ยืมจากห้องสมุดซ่อนไว้ข้างใน เอาหนังสือเรียนปิดไว้ข้างนอก
แต่ตอนมัธยมไม่กล้าหรอก เดี๋ยว อ. ไปฟ้องปู่
เรื่องคอเคล็ดนี่พี่ว่าไม่เกี่ยวกะ เป็นลูกคนกลางหรอก พี่ว่าเพราะคุณชอบเหลียวดูสาวเวลาเดินผ่านจนคอเคล็ดมากก่า เหอๆ
เหลียวจนได้เรื่อง ครับ
ไม่งั้นจะมีสาวสวยข้างข้างผม คนนี้ได้อย่างไง
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
สมาชิกขั้นสูง
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:39
ต้องรีบเปิดเพลงหน่อย เพราะเด๊่ยวเด็กวันพุธคอเคล็ดต้องไปนอนพักแล้ว
เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:46
เถียงนิดนุง เวลาที่ดี กับฤกษ์งามยามดี มันเหมือนกันหรือเจ้าคะ
เถียงด้วยก่อนนอน... ฤกษ์ผานาทีของปริพาชกอาจเป็นเวลาชั่วโมงยามนั้นดี ยามนี้เลว ฤกษ์บนได้ดี แต่ฤกษ์ล่างได้ล่ะก๊ะแจ๋ว หรือวันนั้นดี วันนี้เลวขอรับ...
... แต่พระตถาคตบอกมันดีทั้ง 24 ชม. และทุกๆวันนั่นแหละ... ถ้าตอนนั้นเรากระทำทางกาย วาจา จิตเป็นกุศลกรรม และสุจริตขอรับ...
นอนได้ เอิ๊กๆๆๆๆ
Sometime...Sun shine through the rain...
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:49
เถียงนิดนุง เวลาที่ดี กับฤกษ์งามยามดี มันเหมือนกันหรือเจ้าคะ
... แต่พระตถาคตบอกมันดีทั้ง 24 ชม. และทุกๆวันนั่นแหละ... ถ้าตอนนั้นเรากระทำทางกาย วาจา จิตเป็นกุศลกรรม และสุจริตขอรับ...
มีประเด็นที่น่าสนใจ เกียวกับ โหราศาสตร์กับพุทธศาสนา
มีเวลา มากพอเมื่อไหร่ มาแลกเปลี่ยนความเห็น กันครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:52
เถียงนิดนุง เวลาที่ดี กับฤกษ์งามยามดี มันเหมือนกันหรือเจ้าคะ
... แต่พระตถาคตบอกมันดีทั้ง 24 ชม. และทุกๆวันนั่นแหละ... ถ้าตอนนั้นเรากระทำทางกาย วาจา จิตเป็นกุศลกรรม และสุจริตขอรับ...
มีประเด็นที่น่าสนใจ เกียวกับ โหราศาสตร์กับพุทธศาสนา
มีเวลา มากพอเมื่อไหร่ มาแลกเปลี่ยนความเห็น กันครับ
ลืม... รวมไปถึงสถานที่นั้นๆด้วยขอรับ... นั่นก็จะเป็นที่ๆมงคลดีด้วย... ไม่ต้องไปตัดไม้ข่มนามใดๆ...
นอนจริงแร๊ะ... ฮี่ๆๆ
Sometime...Sun shine through the rain...
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:53
พระตถาคตบอกมันดีทั้ง 24 ชม. และทุกๆวันนั่นแหละ... ถ้าตอนนั้นเรากระทำทางกาย วาจา จิตเป็นกุศลกรรม และสุจริตขอรับ...
แต่บางคนไม่ดีเลยทั้งวัน เพราะมัวแต่ไปเล่นน้ำทะเล เลยไม่มีเวลากระทำกาย วาจา จิต เป็นกุศล เหอๆ
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:55
นั่นก็จะเป็นที่ๆมงคลดีด้วย... ไม่ต้องไปตัดไม้ข่มนามใดๆ...
พรุ่งนี้ขยายความด้วยเจ้าค่ะ ไม่รบกวนเวลานอนจริงๆ (อีกครั้ง) ของคุณวัชรแล้ว
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:00
ส่วนคุณจักร์ เรามาแลกหมัดเอ๊ย..แลกเพลงกันอีกคนละเพลงก่อนแยกย้าย (ถ้าเป็นคนละหมัด อิฉันขอส่งคุณหลวงไปแทนละกัน)
แถมอีกเพลงเพราะเป็นคนจิตใจดี (กินยาธาตุก่อนนอนด้วยนะ)
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:04
ผมขอตามคุณ Wat ไปด้วยคนครับ
สวัสดีครับ
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.
ตอบ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:40
นั่นก็จะเป็นที่ๆมงคลดีด้วย... ไม่ต้องไปตัดไม้ข่มนามใดๆ...
พรุ่งนี้ขยายความด้วยเจ้าค่ะ ไม่รบกวนเวลานอนจริงๆ (อีกครั้ง) ของคุณวัชรแล้ว
ตามนี้เลยขอรับ...
ที่นั่ง - นอน - ยืน - เดิน อันเป็นทิพย์
“ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ! ที่นั่งนอนสูงใหญ่อันเป็นทิพย์ ซึ่งในบัดนี้พระโคดมผู้เจริญได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก โดยไม่ลำบาก นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
”พราหมณ์! ในกรณีนี้ เราเข้าอาศัยบ้านหรือนิคมใดอยู่ เวลาเช้าครองจีวร เที่ยวไปบิณฑบาตในบ้านหรือนิคมนั้น ครั้นเวลาหลังอาหารกลับจากบิณฑบาตแล้ว เที่ยวไปตามแนวป่า เรานั้น, วัตถุใดมีอยู่ในที่นั้นๆจะเป็นหญ้าหรือใบไม้ก็ตาม, คร่ามาแล้ว (ทำเป็นที่รองนั่ง) นั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรงดำรงสติเฉพาะหน้า...
เรานั้นสงัดจากกามและอกุศธรรมทั้งหลาย ย่อมเข้าถึง ฌานที่ ๑... ที่ ๒... ที่ ๓... ที่ ๔... อันไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่สติอันบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาแล้วแลอยู่...
พราหมณ์! เราขณะเมื่อเป็นอย่างนี้...
... ถ้าเดินอยู่ สถานที่ตรงนั้น ในสมัยนั้นก็ชื่อว่า... ที่เดินอันเป็นทิพย์...
... ถ้ายืนอยู่ สถานที่ตรงนั้น ในสมัยนั้นก็ชื่อว่า... ที่ยืนอันเป็นทิพย์...
... ถ้านั่งอยู่ สถานที่ตรงนั้น ในสมัยนั้นก็ชื่อว่า... อาสนะทิพย์...
... ถ้าสำเร็จการนอนอยู่ สถานที่ตรงนั้น ในสมัยนั้นก็ชื่อว่า... ที่นอนอันเป็นทิพย์...
พราหมณ์! นี้แล ที่นั่งนอนสูงใหญ่อันเป็นทิพย์ ซึ่งในบัดนี้ เราได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก โดยไม่ลำบากเลย...
แปลง่ายๆก็คล้ายกับฤกษ์ดียามดีนั่นแหละขอรับ สถานที่ใดที่กระทำกุศล ปราศจากอกุศล... ไม่ว่าจะที่ไหน... สถานที่นั้นก็เป็นที่มงคลอันเป็นทิพย์แล้วขอรับ... ไม่มีฮวงซุ้ยหลังต้องเขาฟูจี หน้าเป็นคลองแสนแสบ ข้างๆเป็นสวนจตุจักรถึงจะเป็นที่มงคลดี เจริญดีขอรับ... มีอีกพระสูตรที่กล่าวถึงสถานที่ๆไม่มีความตายบังเกิดขึ้นในโลกนี้... ไม่มี... แล้วพวกที่บอกการตายเป็นอัปมงคลมันจะไปเอาที่ไหนมายืน เดิน นั่ง นอนกันเล่าขอรับ... ป่าช้า เค้ายังเอามาทำหมู่บ้านกันกี่ยุค กี่สมัยไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว... ใต้บ้านเราเองขุดลงไปก็ไม่แน่... นั่นก็อาจจะใช่เสียด้วยซ้ำ พระตถาคตจึงกล่าวถึงเรื่องมงคลทั้งหลายเหล่านี้ว่าอยู่ที่กาย วาจา จิตของเราเท่านั้นนี่แหละขอรับ...
คิดมุมกลับของกระพ๊ม... ต่อให้กระพ๊มไปยืนอยู่ในสถานที่ๆใครเรียกว่าสุดยอดของที่มงคลในจักรวาล ใครได้มาเหยียบแล้วจะเป็นมงคลชีวิตติดตัวไปจนตาย... แต่กระพ๊มกลับไปตีกบาลไอ้คนข้างหน้าที่มันมาเหยียบเท้ากระพ๊ม หรือไปด่าไอ้คนที่มาแซงคิวกระพ๊มไป หรือเห็นเมียเค้านั่งอยู่งามนักอยากจะได้มาเกยสักทีไรเงี้ย... มันจะได้ความเป็นมงคลตรงไหนมั้ยหนอขอรับ...
Sometime...Sun shine through the rain...
เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.
ตอบ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:54
เถียงนิดนุง เวลาที่ดี กับฤกษ์งามยามดี มันเหมือนกันหรือเจ้าคะ
... แต่พระตถาคตบอกมันดีทั้ง 24 ชม. และทุกๆวันนั่นแหละ... ถ้าตอนนั้นเรากระทำทางกาย วาจา จิตเป็นกุศลกรรม และสุจริตขอรับ...
มีประเด็นที่น่าสนใจ เกียวกับ โหราศาสตร์กับพุทธศาสนา
มีเวลา มากพอเมื่อไหร่ มาแลกเปลี่ยนความเห็น กันครับ
ถ้าแนวนี้กระพ๊มยังไม่เคยศึกษารุยขอรับ ก็ลองนำมาให้สดับดูสิ ขอรับ เผื่อหาพระสูตรเทียบเคียงได้...
Sometime...Sun shine through the rain...
สมาชิกขั้นสูง
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:35
เรื่องโหราศาสตร์นี่สงสัยต้องคุยกันหลังงานคุณเสร็จดีไหม เวลาคุยจะได้สะดวกไม่มีเรื่องงานมากังวล เดี๋ยวคุยเพลินจะดึกเกินไป อันนี้พี่คิดเอาเองนะ
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:46
เรื่องโหราศาสตร์นี่สงสัยต้องคุยกันหลังงานคุณเสร็จดีไหม เวลาคุยจะได้สะดวกไม่มีเรื่องงานมากังวล เดี๋ยวคุยเพลินจะดึกเกินไป อันนี้พี่คิดเอาเองนะ
ดีครับ เอาไว้มีเวลา แต่บังเอิญผมมีเรื่องให้อ่านเรียกน้ำย่อย สักเรื่องครับ
วันหนึ่งภิกษุทั้งหลายนั่งประชุมกันในธรรมสภาตั้งเรื่องสนทนากันว่าท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ได้ยินว่าภิกษุโน้นมุ่งความสำเร็จโดยชื่อ ขอให้ช่วยหาชื่อที่เป็นมงคลให้ ครั้นพระบรมศาสดาเสด็จมาสู่ธรรมสภา ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายพวกเธอประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้นแม้ในกาลก่อนเธอก็มุ่งความสำเร็จเพราะชื่อเหมือนกัน แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธกดังต่อไปนี้ :-
ในอดีตกาลพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์บอกมนต์กะมาณพ ๕๐๐ ในพระนครตักกสิลา มาณพผู้หนึ่งของท่านชื่อปาปกะโดยนาม ถูกเขาเรียกอยู่ว่า มาเถิดปาปกะ ไปเถิดปาปกะ คิดว่าชื่อของเราเป็นอัปมงคลต้องขอให้อาจารย์ตั้งชื่ออื่นให้ใหม่ เขาไปหาอาจารย์ เรียนว่า ท่านอาจารย์ขอรับ ชื่อของกระผมเป็นอัปมงคล โปรดตั้งชื่ออย่างอื่นให้เถิดขอรับ ครั้งนั้นอาจารย์ได้กล่าวกะเขาว่า ไปเถิดพ่อเจ้าจงเที่ยวไปตามชนบทแล้ว กำหนดเอาชื่อที่เป็นมงคลชื่อหนึ่งที่ตนชอบใจอย่างยิ่งแล้วมา เราจักเปลี่ยนชื่อของเจ้าเป็นชื่อ อย่างอื่น เขารับคำว่า ดีแล้ว ขอรับ ถือเอาเสบียงออกเดินทางไปท่องเที่ยวไปตามคามนิคมชนบท ลุถึงนครแห่งหนึ่งในพระนครนั้นแหละ มีบุรุษผู้หนึ่ง ชื่อว่าชีวกะ(บุญรอด ) โดยนาม ตายลงเห็นหมู่ญาติกำลังหามเขาไปสู่ป่าช้า จึงถามว่าชายผู้นี้ชื่ออะไร ? หมู่ญาติตอบว่า จะชื่อว่า ชีวกะ(บุญรอด) ก็ดี อชีวก (ไม่รอดก็ดี) ก็ตายทั้งนั้น ชื่อเป็นเพียงบัญญัติสำหรับเรียกกัน เจ้านี่ เห็นจะโง่กระมัง. เขาฟังคำนั้นแล้ว มีความรู้สึกเฉย ๆในเรื่องชื่อ เดินทางกลับเข้าเมืองของตนครั้งนั้น พวกนายทุน กำลังจับนางทาสีผู้หนึ่งซึ่งไม่ให้ดอกเบี้ยให้นั่งที่ประตู เฆี่ยนด้วยเชือก และนางทาสีผู้นั้นก็มีชื่อว่า ธนปาลี (คนมีทรัพย์) เขาเดินเรื่อยไปตามท้องถนนเห็นนางถูกเฆี่ยน ก็ถามว่าเพราะเหตุไรนางไม่ยอมให้ดอกเบี้ย แล้วเขาถามว่าก็นางมีชื่ออย่างไรเล่า? พวกนายทุนตอบว่านางชื่อธนปาลี (คนมีทรัพย์) เขาถามว่าแม้จะมีชื่อ ธนปาลีโดยนาม ก็ยังไม่อาจให้เงินแค่ดอกเบี้ยหรือ? พวกนายทุนตอบว่าจะชื่อธนปาลี(คนรวย)ก็ดี จะชื่ออธนปาลี(คนจน)ก็ดีเป็นคนเข็ญใจได้ทั้งนั้น ชื่อเป็นเพียงบัญญัติสำหรับเรียกกัน เจ้านี่เห็นจะโง่แน่ เขายิ่งรู้สึกเฉยๆ ในเรื่องชื่อยิ่งขึ้น เดินออกจากเมืองไปตามทางในระหว่างทางพบคนหลงทาง ถามว่าผู้เป็นเจ้าเที่ยวทำอะไรอยู่เล่า?เขาตอบว่าข้าพเจ้าหลงทางเสียแล้วเขาย้อนถามว่าก็เจ้าชื่อไรเล่า? เขาตอบว่าข้าพเจ้าชื่อ ปันถก(ผู้เจนทาง) เขาถามว่า ขนาดชื่อปันถกะ ยังหลงทางอีกหรือ? คนหลงทางกล่าวว่าจะชื่อปันถกะ (ชำนาญทาง) หรือชื่ออปันถกะ(ไม่ชำนาญทาง) ก็มีโอกาสหลงทางได้เท่ากัน ชื่อเป็นบัญญัติสำหรับเรียกกัน ก็ท่านเองเห็นจะโง่แน่. เขาเลยวางเฉยในเรื่องชื่อ ไปสู่สำนักของพระโพธิสัตว์ ครั้นพระโพธิสัตว์ถามว่าอย่างไรเล่าพ่อคุณ เจ้าได้ชื่อที่ถูกใจมาแล้วหรือ? ก็เรียนท่านว่าท่านอาจารย์ขอรับ ธรรมดาคนเรา ถึงจะชื่อว่าชีวก แม้จะชื่ออชีวก คงตายเท่ากัน ถึงจะชื่อธนปาลี แม้จะชื่ออธนปาลี ก็เป็นทุคคตะได้ทั้งนั้น ถึงจะชื่อปันถกะแม้จะชื่ออปันถกะ ก็หลงทางได้เหมือนกัน ชื่อเป็นเพียงบัญญัติสำหรับเรียกกัน ความสำเร็จเพราะชื่อมิได้มีเลย ความสำเร็จมีได้เพราะการกระทำเท่านั้น พอกันทีเรื่องชื่อสำหรับกระผม กระผมขอใช้ชื่อเดิมนั่นแหละต่อไป พระโพธิสัตว์เทียบเคียงเรื่องที่เขาเห็น และกรรมที่เขากระทำแล้วกล่าวคาถานี้ ความว่า :-
" เพราะเห็นคนชื่อชีวกะตาย นางธนปาลีตกยาก นายปันถกะหลงทางในป่า เจ้าปาปกะจึงกลับมา" ดังนี้.
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:51
ตอบกลับคุณวัชร ก็ถูกค่ะที่คุณวัชรกล่าวมา แต่ในมุมของอิฉัน ถ้าได้ไปยืนในที่ที่เป็นมงคลแล้วนั้น อิฉันก็เชื่อว่าจิตใจของเราก็ต้องยอมรับในสิ่งอันเป็นมงคลนั้นอยู่แล้ว ไม่งั้นตอนไป S'pore อิฉันคงไม่ไปยืนเข้าคิวตรงน้ำพุ
ที่เขาว่ากันว่าเป็นจุดที่ฮวงจุ้ยดีที่สุด ได้อะไรมาอิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ไปยืนรับน้ำเย็นมาลูบหน้าก็ดีเหมือนกันค่ะ กับอากาศร้อนๆ ก็คิดแค่นี้ละค่ะ เรื่องลี้ลับอาจไม่มีในคำสอนขององค์พระตถาคต แต่ดิฉันว่าอาจมีนะคะ
หมายถึงเรื่องลี้ลับที่อธิบายไม่ได้ เพียงแต่พระองค์อาจไม่ต้องการให้คนทั้งหลายไปหลงงมงายและยึดติดกับมันก็ได้ เป็นไปได้ไหมคะ
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:52
nobody's child สมัยนี้ ต้องเป็นเด็กหลอดแก้วแน่ๆ อิอิ
สมาชิกขั้นสูง
สมาชิกขั้นสูง
ตอบ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:18
Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy
เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.
ตอบ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:20
ตอบกลับคุณวัชร ก็ถูกค่ะที่คุณวัชรกล่าวมา แต่ในมุมของอิฉัน ถ้าได้ไปยืนในที่ที่เป็นมงคลแล้วนั้น อิฉันก็เชื่อว่าจิตใจของเราก็ต้องยอมรับในสิ่งอันเป็นมงคลนั้นอยู่แล้ว ไม่งั้นตอนไป S'pore อิฉันคงไม่ไปยืนเข้าคิวตรงน้ำพุ ที่เขาว่ากันว่าเป็นจุดที่ฮวงจุ้ยดีที่สุด ได้อะไรมาอิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ไปยืนรับน้ำเย็นมาลูบหน้าก็ดีเหมือนกันค่ะ กับอากาศร้อนๆ ก็คิดแค่นี้ละค่ะ เรื่องลี้ลับอาจไม่มีในคำสอนขององค์พระตถาคต แต่ดิฉันว่าอาจมีนะคะ หมายถึงเรื่องลี้ลับที่อธิบายไม่ได้ เพียงแต่พระองค์อาจไม่ต้องการให้คนทั้งหลายไปหลงงมงายและยึดติดกับมันก็ได้ เป็นไปได้ไหมคะ
สิ่งแปลกประหลาด หมัศจรรย์ ล้วนมีมาแต่ก่อนพระตถาคตเกิดเสียด้วยซ้ำไปแล้วทั้งสิ้นขอรับ... เหมือนดังพระสูตรที่ชาวบ้านคนหนึ่งนั่งอยู่ริมหนองบัว แล้วครุ่นคิดถึงเรื่องทางโลกอยู่ จู่ๆก็มองเห็นกองทัพม้า ช้าง คนเดินทัพ เดินลงไปในรากบัวในหนองน้ำ... เค้าจึงวิ่งร้องตะโกนเข้าไปในชุมชนว่า... เราบ้าแล้วๆๆ... เมื่อหมู่ชนถามว่าบ้าเรื่องอะไร เค้าก็ตอบไปตามที่เห็น... หมู่ชนเหล่านั้นก็จึงกล่าวว่า... เออ นั่นแหละ ท่าจะบ้าจริงๆ...
... ความไปถึงพระตถาคต พระอานนท์จึงทูลถามว่าชายผู้นั้นเป็นบ้าไปแล้วจริงหรือ?... พระตถาคตจึงตรัสตอบว่า สิ่งที่ชายผู้นั้นเห็นเป็นเรื่องจริง เป็นกองทัพมารที่ไปทำสงครามกับเทวดาแล้วแพ้มา กำลังหนีกลับไปยังภพของตนทางรากบัว แล้วจึงกล่าวต่อถึงเรื่องราวแปลกประหลาดเหล่านี้... ยังมีอีกมากมายนักในโลก แต่ไม่ได้มีประโยชน์อันใดต่อมนุษย์ที่จะเข้าไปรับรู้ หรือสนใจใดๆ... เกิดมาแล้ว ก็ดับไปเป็นธรรมดา พรหม มาร เทวดา ปริพาชกมากมายทำสิ่งแปลกประหลาดเหนือมนุษย์อย่างเราทำได้ มีเยอะแยะไป... มีมาก่อนตถาคตบังเกิดแล้วด้วยซ้ำ... แต่สุดท้าย... ก็หนีไม่พ้นเกิด แก่ เจ็บ ตายทั้งสิ้น...
มันเป็น "อนิจจัง" ขอรับ... สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนที่พระตถาคตต้องการให้สาวกเดินไปถึงก็คือ "นิพพาน" เท่านั้น... นอกนั้นแล้วแต่อินทรีย์บารมีขอรับ...
มาตอบดึกๆ แล้วก็นอนเลย ฮี่ๆๆๆ วันนี้ฝนตกมันมว๊ากกกก...
Sometime...Sun shine through the rain...
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 7 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net
