ขนคนจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ 35000คนต่อวัน รถไฟ 1เที่ยวตีซะว่าขนเต็มๆ400คน ก็ราวๆ 90รอบ ต่อ 1 วัน เฉลี่ยวิ่ง15นาทีออกจากชานชาลา กรุงเทพ 1เที่ยว (ชานชาลายังไม่หายเปียกเลย เขยิบมาจอดเพื่อจะไปเชียงใหม่ละ คนก็แห่กันขึ้นภายใน10นาที 400คนเต็มตู้) แล้วทุกเที่ยวคนต้องเต็มตู้ ไม่เว้นแม้แต่5ทุ่มถึงตี5
คือแบบว่า คนไปเที่ยว หรืออพยพหนีสงครามเหลอครับ
นี่คือตัวอย่างดีๆ ของยอดผู้ใช้บริการของของรถไฟความเร็วสูงที่สุด ของสยามประเทศ
ดร.เอมอัชฌา พงศ์พรรณภาณุ ผู้จัดการส่วนมวลชนสัมพันธ์ บริษัทรถไฟฟ้าร.ฟ.ท.จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเดือนสิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา
มียอดผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าสาย Express Line สูงมากที่สุดตั้งแต่เคยเปิดให้บริการมา โดยมียอดผู้โดยสารรวมกว่า
90,434 คน ซึ่งเฉลี่ยต่อวันจะอยู่ที่วันละ 2,917 คน ซึ่งเป็นยอดรวมของผู้โดยสาร Express Line พญาไท-สุวรรณภูมิ-พญาไท
(Phaya Thai Express) จะมีรถให้บริการทุก 30 นาที และ ยอดผู้โดยสาร Express line มักกะสัน-สุวรรณภูมิ-มักกะสัน (Makkasan Express)
จะมีรถใหบริการทุก 40 นาที เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00-24.00 น. อัตราค่าโดยสารเที่ยวละ 90 บาท(ใช้ภายใน 1 วัน) และไป-กลับ 150 บาท
(ใช้ได้ภายใน 14 วัน)
http://portal.rotfai...iewtopic&t=5900
ปัจจุบันนี้ออกทุกชั่วโมงทั้ง 2 สถานีออกวันละ 19 เที่ยวในขาไปและ 19 เที่ยวในขากลับ รวม 76 เทียวต่อวัน
สมมติว่าผู้โดยสารเท่าตอนเดือนสิงหาคม 55 หรือประมาณ 3000 คนต่อวัน คิดเฉลี่ยได้ประมาณ 40 คนต่อเที่ยว หรือประมาณ
3,000 บาท/เที่ยว และทั้งที่ค่าโดยสารเพียง 150 ไปกลับบาทหรือเพียง 75 บาทต่อเที่ยว คนยังมาใช้ขนาดนี้และน่าภูมิใจมากกับรายได้ขนาดนี้
ไม่รู้อีกกี่ร้อยปีจะมีรายได้มาใช้หนี้จนหมด นี่ขนาดนังไม่หักต้นทุนค่าเดินรถต่อเทียวและต้นทุนแฝงอีกจิปาฐะ อ้อที่ผมไม่เอา City Line มาเกี่ยวเพราะ
จะอ้างอิงเรื่องความเร็วความถี่ในการเดินรถและความถี่ของจุดจอดกับรถไฟความเร็วสูงระว่างเมืองไม่ได้ครับ และรถไฟความเร็วสูงนี่ก็เอามาหารายได้
แบบรถไฟฟ้าในเมืองไม่ได้ครับ และ 2.2 ล้านที่พูดถึงนี่ก็ไม่ได้กล่าวถึงการลงทุนเกี่ยวกับการเดินรถระหว่างสถานีย่อยระหว่างทางด้วยครับ
กลับมาเรื่องขบวนรถไฟความเร็วสูงขบวนที่ไปเชียงใหม่ราคาค่าโดยสารขนาดนั้นจะต้องออกถี่ขนาดไหนและต้องขึ้นค่าโดยสารทางอื่นอีกเท่าไหร่
เพื่อจูงใจให้คนมาขึ้นรถไฟความเร็วสูง หรือต้องออกถี่ๆตาม qoute ข้างบน
ไม่ไม่อยากจินตนาการว่าอาจต้องยอมขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเพื่อให้เจ๊เกียวได้ขึ้นราคารถทัวร์เพื่อสร้างภาพว่าราคาไม่ได้ว่าแพงกว่ารถทัวร์มากนัก
หรือขึ้นราคาน้ำมันให้คนใช้รถส่วนตัวลดลงหรือเพิ่มภาษีสนามบินให้ตั๋วแพงขึ้น จนในที่สุดคนจะหันมาใช้เพิ่มขึ้น จนกลายเป็นภาพของความ
สำเร็จของโครงการนี้ และหวังว่าคงไม่ต้องตั้งลูกหลานนักการเมืองคนไหนมาใช้เป็น Mascot เหมือนบางโครงการด้วย