Jump to content


Photo
- - - - -

ความจริงที่เจ็บปวด : ทักษิณรู้เรื่องการลดค่าเงินล่วงหน้า


  • Please log in to reply
48 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:06

เปิดหลักฐาน ...  'ทักษิณ'ยอมรับรู้เรื่องประชุมลดค่าเงินบาท-มือมืดโทรแจ้งข่าวตอน 4 ทุ่ม

หมายเหตุ 'มติชนออนไลน์' เป็นคำพิพากษาศาลฎีกา(5730/2550)ยกฟ้องคดีที่นายโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก นายสุเทพ เทือสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กับหนังสือพิมพ์อีก 8 ฉบับเป็นเงินกว่า 2,500 ล้านบาท กรณีที่นายสุเทพอภิปรายในญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เมื่อวันที่ 26 กันายน 2540 โจมตีเรื่องการลดค่าเงินบาทว่า สงสัยนายโภคินจะนำความลับเรื่องการลดค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ของรัฐบาลไปบอก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้บริษัทของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์จากการลดค่าเงิน

คำพิพากษาดังกล่าวทำให้ สาธารณชนรู้ข้อเท็จจริงว่า ในการประชุมเรื่องการลดค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2540 ซึ่งเป็นความลับที่สุดยนั้น นอกจากมีพล.อ.ชวลิต ในฐานะนายกรัฐมนตรี นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเริงชัย มะระกานนท์  ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ในที่ประชุมแล้ว ยังมี นายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในที่ประชุมด้วยและข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้ศาลฎีกาชี้ให้เห็น 'ข้อพิรุธสำคัญ'จนกระทั่งนำไปสู่การยกฟ้องคดีที่นายโภคินฟ้องนายสุเทพ
--------------------------------

พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2540 และวันที่ 1 กรกฎาคม 2540 พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายเริงชัย มะระกานนท์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้น ร่วมปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท

ต่อ มาวันที่ 26 กันยายน 2540 มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐสภา เป็นการอภิปรายญัตติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีคือพลเอกชวลิต และมีการถ่ายทอดไขข่าวแพร่หลายทั้งการกระจายเสียงทางสถานีวิทยุและแพร่ภาพ ทางสถานีโทรทัศน์ จำเลยที่ 1(นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ซึ่งขณะนั้นป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้าน ส่วนโจทก์(นายโภคิน พลกุล)เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลของพลเอกชวลิต

จำเลย ที่ 1 ได้รับมอบหมายจากพรรคประชาธิปัตย์ให้อภิปรายญัตติไม่ไว้วางใจพลเอกชวลิตนายก รัฐมนตรีเกี่ยวกับการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาท และระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

จำเลยที่ 1 อภิปรายว่า "การที่มีคนมีกำไรอย่างนี้นะครับทำให้ผมสงสัยว่ามีคนอื่นที่ได้กำไร ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อพลเอกชวลิต แต่เป็นพวกที่เชื่อพลเอกชวลิต แล้วได้กำไรมีไหม มีครับท่านประธาน เพราะเขาเชื่อว่าพลเอกชวลิตจะตัดสินใจลดค่าเงินบาทเมื่อไร คนนี้เอาเปรียบคนไทยทั้งชาติ คนนี้เอาข้อมูลภายในไปแสวงหาประโยชน์

มี ข่าวลือกันมากในตลาดการเงินในประเทศไทยว่า ขาใหญ่ที่ร่ำรวยนั้น รวยถึงขนาดมีการันตีได้ว่า เลือกตั้งคราวหน้าสบายกันทุกคน ท่านประธานที่เคารพครับ ผมสงสัยเรื่องนี้แล้ว ท่านประธานต้องเห็นใจอย่างยิ่งที่ผมมีความสงสัย เพราะพลเอกชวลิตแสดงพิรุธ พลเอกชวลิตแสดงพิรุธ 2 ประการ

ประการที่ 1 พลเอกชวลิตแสดงพิรุธด้วยการมาพูดจาในที่สาธารณะต่อสื่อมวลชน ทั้งหนังสือพิมพ์ ทั้งทีวี ทั้งวิทยุ ว่าในการตัดสินใจครั้งสุดท้ายที่จะประกาศให้ค่าเงินบาทลอยตัวนั้น ทำอย่างเป็นความลับที่สุด รู้กัน 3 คน เท่านั้นเอง คือพลเอกชวลิต นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายเริงชัย มะระกานนท์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

ตรงนี้เป็นพิรุธครับท่านประธาน ผมสอบสวนมีพยานหลักฐานยืนยันได้ ถ้าพลเอกชวลิตต้องการรู้ว่า ต้องการที่จะเถียงกับผม ผมท้าให้ฟ้องศาลเรื่องนี้เพราะผมมีหลักฐาน พยานบุคคลยืนยันว่า วันที่ตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้รู้กันแค่ 3 คนมีคนที่ 4 รู้ด้วย

ท่านประธานที่เคารพครับ เข้าประตูทำเนียบนี่มียามรักษาการณ์ มีเจ้าหน้าที่ มีว่า วันนั้นเวลานั้นในห้องนายกรัฐมนตรีมีใครอยู่กี่คน ผมแอบได้ยินมาด้ว ว่า พูดอย่างไรด้วย มีคนเขาเล่าให้ผมฟัง เขาพร้อมที่จะเป็นพยานให้ผม

คนที่ 4 ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องและไม่สมควรที่จะนั่งอยู่ในการตัดสินใจครั้งสุด ท้าย ตามตำหนิรูปพรรณที่คนเขาให้การมา รวมทั้งแผลเป็นบอกว่าชื่อนายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ไม่เคยปรากฏว่า ในวันที่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจเรื่องสำคัญอย่างนี้จะต้องมีคนมานั่งใกล้ชิด กำกับอยู่ด้วย นายกรัฐมนตรีควรมีสติ มีปัญญาที่จะตัดสินวินิจฉัยได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องมีคนกำกับ

 ผมสงสัย ว่า นายโภคิน พลกุล ไปนั่งอยู่ทำไมในเวลานั้น ไม่ใช่หน้าที่ของนายโภคิน ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะให้นายโภคินล่วงรู้เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตัดสินใจ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกันตัดสินใจเท่านั้น

แต่เรื่องนี้ แม้พลเอกชวลิตจะมาพูดกับคนทั้งชาติว่ารู้กัน 3 คน แต่ที่จริงรู้กัน 4 คน นายโภคินนั่งอยู่ด้วยตลอดในเวลา 1 ชั่วโมง ที่หารือกันเรื่องนี้ หารือกันวันที่เท่าไร ท่านประธานครับ วันที่ 29 มิถุนายน เป็นวันอาทิตย์ เวลา 9.30 นาฬิกา เป็นต้นไป

ตรงนี้พลเอกชวลิตแสดงพิรุธอีก เพราะพลเอกชวลิตบอกกับสภานี้ว่าได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายที่จะประกาศที่จะให้ ค่าเงินบาทลอยตัวเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ความตรงนี้มีนัยที่น่าสนใจมาก

ท่าน ประธานครับ พลเอกชวลิตคล้ายๆ จะบอกกับสภานี้ว่า ตัดสินใจวันที่ 1 รุ่งขึ้นเช้าวันที่ 2 ประกาศเลย เหมือนกับเป็นการป้องกันตัวไว้ก่อนว่าไม่มีใครหยิบฉวยจังหวะตรงนี้ไปหา ประโยชน์ได้หรอก

ความจริงไม่ใช่ ไปปรึกษาการตัดสินใจครั้งสุดท้ายวันที่ 29 มิถุนายน เป็นวันอาทิตย์ 9.30 น. ก่อน หน้านี้มีคนนั่งกันอยู่ในห้องหลายคนมีผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ มีสภาพัฒน์ฯ พอ 3 คนนี้เข้าไปก็ให้คนอื่นออก แต่เหลือนายโภคินเอาไว้ แล้วตัดสินใจเสร็จ จากวันที่ 29 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ รุ่งขึ้นวันที่ 30 เป็นวันจันทร์ วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันอังคาร

พลเอกชวลิตมาพูดที่นี่ว่า วันที่ 1 เป็นวันหยุดกลางปีของธนาคาร ใครรู้อะไรก็ทำอะไรไม่ได้ ธนาคารแห่งประเทสไทยหยุด ท่าน ประธานครับ ธนาคารฮ่องกง ธนาคารสิงคโปร์ไม่หยุด รู้ล่วงหน้า 2 วัน ทำเงินได้หลายพันล้านบาทครับ ถ้าคนนั้นมีเงินในระดับที่จะไปลงทุนได้

ความ 2 ประการนี้เป็นพิรุธ พิรุธเรื่องที่บอกว่ารู้กัน 3 คน ทั้งๆ ที่รู้กัน 4 คน พิรุธเรื่องที่บอกว่า ตัดสินวันที่ 1 ทั้งๆ ที่ตัดสินเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พิรุธนี้ทำให้ผมสงสัยว่าอย่างไร สงสัยว่า เอาเวลาช่วงที่ขาดไปนั้นไปให้พรรคพวกของตัวเองได้ไปซื้อเงินดอลลาร์ไว้ล่วง หน้า ไปซื้ออัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้าแล้วทำกำไร

ท่านประธานที่เคารพครับวันนี้ผมยอมบาป คนที่ผมสงสัยมากที่สุดนั่งอยู่ตรงนั้นครับ ด็อกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร ครับผู้ต้องสงสัยของผม ท่านด็อกเตอร์ทักษิณไม่ได้ทำบาปอะไรหรอกครับ

ที่ ผมสงสัยคือสงสัยว่ารัฐมนตรีโภคินจะเป็นคนบอกความลับเรื่องนี้กับด็อกเตอร์ ทักษิณ แล้วด็อกเตอร์ทักษิณไปซื้อขายเงินไว้ล่วงหน้าทำกำไร

ท่านประธานที่เคารพครับ ท่านได้กำไรไปเยอะในขณะที่คนในชาติน้ำตาไหลกันทุกคน ผม ไม่แปลกใจว่า หลังจากนั้นไม่นาน ได้มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ก็เก่งขนาดทำเงินได้ 2 วัน 4,000,000,000 บาท ถึง 5,000,000,000 บาท ก็น่าจะให้เป็นหรอกครับ

ท่านประธาน นี่เป็นข้อสงสัยของผม ผมคาดคะเนสงสัยด้วยเหตุผลแวดล้อมอย่างนี้และผมมีประจักษ์พยานหลักฐานว่า หลังจากนายโภคินได้รับความลับเรื่องนี้ ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกับด็อกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร

เสียอย่างเดียว ว่า ผมไม่มีหูทิพย์ว่าพูดกันอย่างไรเท่านั้นเองครับ แต่ผมสงสัย และผมรู้ว่านายโภคินได้พูดความลับเรื่องนี้กับคนอื่นอีก ถ้าท่านรัฐมนตรีโภคินสงสัยฟ้องศาล จะได้รู้ว่า คนที่ท่านบอกนั้นจะเป็นพยานให้ท่านหรือจะเป็นพยานให้ผม

 การที่มีคนรู้ความลับและเอาความลับไปเปิดเผยแล้วไปหาประโยชน์กันมันผิดทั้งคุณธรรม ทั้งจรรยา

ผมต้องเรียนกับท่านประธานตรงๆ นะครับ ผมไม่สามารถจะสงสัยคนอื่นที่เปิดเผยความลับได้หรอกนอกจากรัฐมนตรีโภคิน เพราะว่า คนแรกคือนายกรัฐมนตรีผมเชื่อว่า ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นนายกรัฐมนตรีคงไม่บอกด้วยปากตัวเอง

คนที่ 2 คือ รัฐมนตรีฯ ทนง ถึงจะเคยมีความสัมพันธ์กับด็อกเตอร์ทักษิณมาก่อน ทำงานอยู่ด้วยกัน แต่ศักดิ์ศรีขุนคลังของประเทศคงไม่เปิดปาก

คนที่ 3 คือ นายเริงชัย มะระกานนท์ ที่รู้เรื่อง เขาเป็นลูกหม้อธนาคารแห่งประเทศไทยแบงก์ชาติ ผมว่า จิตวิญญาณเขาคงหนักแน่นไม่ทำอย่างนั้น

 คนที่ 4 ซึ่งไม่เกี่ยวกับเขาละสิครับไปนั่งอยู่ด้วยนี่สิครับ ไม่ให้ผมสงสัยได้อย่างไร นี่คือเหตุผลครับ ท่านประธานครับ...."

วันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้ลงพาดหัวข่าวการอภิปรายของจำเลยที่ 1

คดีมีปัญหาวินิจฉัยว่า คำอภิปรายของจำเลยที่ 1 เป็นการละเมิดต่อโจทก์หรือไม่

โจทก์ เบิกความว่า คำอภิปรายของจำเลยที่ 1 ได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์ว่า โจทก์ทราบว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาท ในวันที่ 29 มิถุนายน 2540 และโจทก์นำข้อมูลที่ทราบไปบอกด็อกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร ทำให้ด็อกเตอร์ทักษิณอาศัยข้อมูลที่ได้รับทราบจากโจทก์ไปทำการซื้อขายเงิน ตราในระยะเวลา 2 วัน ได้กำไร 4,000,000,000 บาท ถึง 5,000,000,000 บาท ทำให้ประชาชนน้ำตาไหล และพรรคพวกของโจทก์ได้ประโยชน์เป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรมจรรยา

โดย สรุปจำเลยที่ 1 กล่าวว่าโจทก์ร่วมกันหาประโยชน์กับด็อกเตอร์ทักษิณเกี่ยวกับข้อมูลที่จะ เปลี่ยนแปลงค่าเงินบาท ซึ่งเป็นการทำให้บ้านเมืองเสียหาย

ต่อ มาหนังสือพิมพ์หลายฉบับได้ลงพิมพ์โฆษณาพาดหัวข่าวและลงข้อความว่า โจทก์ทำกำไรเรื่องค่าเงินบาท ซึ่งข้อความที่จำเลยที่ 1 อภิปรายนั้นเป็นความเท็จ โจทก์ไม่ทราบว่าในวันที่ 29 มิถุนายน 2540 จะมีการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท โจทก์ไม่เคยติดต่อกับด็อกเตอร์ทักษิณ ทั้งไม่เคยร่วมมือกับด็อกเตอร์ทักษิณหรือบุคคลอื่นใดในการแสวงหาประโยชน์จาก ข้อมูลดังกล่าว คำอภิปรายของจำเลยที่ 1 ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

ส่วน จำเลยที่ 1 นำสืบต่อสู้ว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกชวลิตนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น จำเลยที่ 1 ได้อภิปรายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงลดค่าเงินบาท โดยก่อนวันที่โจทก์อภิปรายได้มีสื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองที่ว่า ความลับเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงลดค่าเงินบาทได้รั่วไหลไปสู่นักธุรกิจก่อน แล้ว

พลเอกชวลิตได้ออกมายืนยันว่า เรื่องนี้ได้ทำเป็นความลับและมีผู้รู้เพียง 3 คน เท่านั้น คือพลเอกชวลิต นายทนง พิทยะ ซึ่งขณะนั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายเริงชัย มะระกานนท์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

 เหตุที่จำเลยที่ 1 อภิปรายเกี่ยวกับโจทก์เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลจากนายภูษณ ปรีย์มาโนช และนายไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ ซึ่งเป็นเพื่อนของโจทก์ ทั้งได้ทราบจากนายเริงชัย มะระกานนท์ ด้วยว่า ในวันที่ 29 มิถุนายน 2540 ไม่ได้มีบุคคลเพียง 3 คนดังกล่าวข้างต้น แต่โจทก์ได้ร่วมประชุมด้วย

ใน การอภิปรายจำเลยที่ 1 ไม่เคยอภิปรายยืนยันว่า โจทก์ทุจริต จำเลยที่ 1 อภิปรายโดยตั้งข้อสงสัยในพฤติกรรมของโจทก์ว่า โจทก์จะนำความลับเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงลดค่าเงินบาทไปบอกด็อกเตอร์ทักษิณ

จำเลย ที่ 1 อภิปรายในฐานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคฝ่ายค้าน มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เป็นการอภิปรายตามหน้าที่ และเป็นการติชมโดยสุจริต อันเป็นวิสัยของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของ ประเทศชาติและประชาชน

เห็นว่า โจทก์เบิกความยืนยันว่า โจทก์ไม่ทราบว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท โจทก์ไม่เคยบอกด็อกเตอร์ทักษิณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาท โจทก์ไม่เคยร่วมมือกับด็อกเตอร์ทักษิณหรือบุคคลอื่นใดในการแสวงหาประโยชน์ จากการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท

การอภิปรายของจำเลยที่ 1 เป็นความเท็จทั้งหมดแต่กลับได้ความจากนายเริงชัยพยานโจทก์เองว่า ในวันที่ 29 มิถุนายน 2540 พยานกับนายทนง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เข้าพบพลเอกชวลิตนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อที่จะปรึกษาหารือเกี่ยวกับการลดค่าเงินบาท โจทก์ซึ่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั่งอยู่ด้วย

นายทนง พูดขึ้นว่า ที่มาพบก็เนื่องจากจะปรึกษาหารือเรื่อองสำคัญเกี่ยวกับการลดค่าเงินบาท พยาน(นายเริงชัย)จึงพูดขึ้นว่า เรื่องนี้จะนำมาพูดในขณะนี้สมควรหรือไม่ เนื่องจากมีโจทก์อยู่ด้วย

นายก รัฐมนตรีก็พูดขึ้นว่า ไม่เป็นไรให้โจทก์อยู่ด้วยได้ และรับทราบได้ ดังนั้นนายทนงซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงได้รายงานผลสรุปของ คณะกรรมการที่ได้เสนอต่อพยาน(นายเริงชัย) โดยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนเป็นแบบลอยตัว

นอกจากนี้นายทนง พยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความว่า ในวันที่ 29 มิถุนายน 2540 เวลาประมาณ 8 นาฬิกา พยาน(นายทนง)ได้ไปพบนายกรัฐมนตรีเพื่อร่วมปรึกษาหารือทางด้านเศรษฐกิจ นายเริงชัยได้ เข้าพบนายกรัฐมนตรีพร้อมกับพยาน และโจทก์ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งมีบางตอนที่นายกรัฐมนตรีถามที่ประชุมว่า หากประชาชนมีคำถามเกี่ยวกับนโยบายการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน จะให้ตอบอย่างไร นายเริงชัยได้ให้คำแนะนำว่า ให้นายกรัฐมนตรีปฏิเสธว่า ยังไม่มีการดำเนินการอย่างใด

ดังนี้ เห็นได้ว่า คำ เบิกความของพยานโจทก์ทั้งสองปากดังกล่าวข้างต้นแตกต่างขัดแย้งกับคำเบิกความ ของโจทก์โดยสิ้นเชิง พยานโจทก์ทั้งสองปาก(นายเริงชัยและนายทนง)ดังกล่าวเป็นประจักษ์พยานที่อยู่ ในเหตุการณ์วันที่ 29 มิถุนายน 2540 และไม่มีส่วนได้เสียในคดี ทั้งเป็นพยานที่โจทก์อ้าง จึงเชื่อว่า พยานโจทก์ทั้งสองปากเบิกความไปตามความจริง ซึ่งสอดคล้องกับทางนำสืบของจำเลยที่ 1

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าในวันที่ 29 มิถุนายน 2540 ขณะที่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและนายเริงชัย มะระกานนท์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ร่วมประชุมกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท โจทก์ได้ร่วมประชุมอยู่ด้วย

นอกจากนี้นายเริงชัยยังเบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่า ตามประเพณีปฏิบัติเกี่ยวกับการลดค่าเงินบาทจะรู้กันเพียง 3 คน เท่านั้น คือ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายกรัฐมนตรี

เหตุ ที่เป็นความลับเนื่องจากว่า หากบุคคลภายนอกซึ่งไม่เกี่ยวข้องล่วงรู้จะนำไปหาประโยชน์โดยแสวงหากำไร พยานจึงท้วงติงนายกรัฐมนตรีว่า ควรที่จะพูดเรื่องลดค่าเงินบาทในขณะนั้นหรือไม่เพราะมีโจทก์อยู่ด้วย เนื่องจากโจทก์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลก เปลี่ยน

ดังนี้ จึงเห็นว่า การที่จำเลยที่ 1 อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรว่า โจทก์ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องและไม่สมควรจะไปนั่งอยู่ด้วยในการประชุม ตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะให้ค่าเงินบาทลอยตัวนั้น ไม่ใช่ข้อความอันเป็นเท็จหรือฝ่าฝืนต่อความจริง  ฟ้องของโจทก์ในส่วนนี้ต่างหากที่ฝ่าฝืนต่อความจริง

ส่วนที่จำเลยที่ 1 อภิปรายต่อไปว่า จำเลยที่ 1 สงสัยว่า โจทก์เป็นคนบอกความลับเรื่องนี้แก่ด็อกเตอร์ทักษิณนั้น

ศาลฎีกาโดยมติของที่ประชุมใหญ่เห็นว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิและหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลพล เอกชวลิตได้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534 มาตรา 148 ถึงมาตรา 150 ส่วนโจทก์ซึ่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพลเอกชวลิตเป็น บุคคลที่ต้องรับการตรวจสอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งได้รับมอบหมายจากพรรคประชาธิปัตย์ให้ร่วมอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้ วางใจพลเอกชวลิตนายกรัฐมนตรี ได้อภิปรายถึงการทำงานของพลเอกชวลิตว่ามีข้อบกพร่องและไม่ถูกต้องอย่างไร นั้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูยแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2534 กำหนดไว้และการกระทำของพลเอกชวลิตที่ยอมให้ โจทก์ได้ร่วมรับรู้ถึงการปรึกษาหารือและตัดสินใจเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลก เปลี่ยนเงินบาท อันเป็นเรื่องความลับที่สุดซึ่งเกี่ยวกับประโยชน์และส่วนได้เสียของประเทศ และประชาชนจำนวนมากเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2540 ก่อนวันประกาศเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ถึง 3 วันทั้งๆ ที่โจทก์ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องหรือควรรับรู้ถึงการปรึกษาหารือและการตัดสิน ใจในครั้งนี้เลยและหลังจากนั้นยังยืนยันในที่สาธารณะต่อสื่อมวลชนมาโดยตลอด ว่า มีผู้รู้ถึงการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเพียง 3 คนเท่านั้น คือ ตัวพลเอกชวลิต นายทนง และนายเริงชัย เป็นข้อพิรุธสำคัญ

ประกอบกับพัน ตำรวจโททักษิณซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจการค้ารายใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบเสียหาย รุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอย่างผู้ประกอบธุรกิจการ ค้าใหญ่รายอื่นที่มีหนี้สินเป็นเงินตราต่างประเทศที่ต่างประสบความเสีย หายอย่างรุนแรง ย่อมเป็นมูลเหตุเพียงพอที่จะทำให้จำเลยที่ 1 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายตั้งข้อสงสัยโจทก์ได้

จำเลย ที่ 1 เพียงแต่ตั้งข้อสงสัยว่าโจทก์เป็นผู้นำเอาความลับที่สุดดังกล่าวที่รู้มาโดย ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องและไม่ควรจะรู้ไปบอกพันตำรวจโททักษิณ ไม่ได้เป็นการยืนยันข้อเท็จจริง

การตั้งข้อสงสัยดังกล่าวของจำเลยที่ 1 จึงมีมูลเหตุเพียงพอที่จะให้ตั้งข้อสงสัยเช่นนั้นได้ ไม่ได้ตั้งข้อสงสัยอย่างเลื่อยลอย อันจะทำให้เห็นเจตนาร้ายของจำเลยที่ 1 ที่จงใจฉวยโอกาสในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎพรรคฝ่ายค้าน ให้ร้ายโจทก์โดยปราศจากเหตุอันสมควร

 การอภิปรายของจำเลยที่ 1 ที่พาดพิงถึงโจทก์นั้นยังอยู่ในขอบเขตของการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของพลเอกชวลิตนายกรัฐมนตรีเพื่อผล ประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน อันเป็นวิสัยที่พึงกระทำคำอภิปรายของจำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์

ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น จึงไม่จำต้องวินิยฉัยฎีกาข้ออื่นของโจทก์อีกต่อไป



#2 serialnu

serialnu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 772 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:19

อ่านผ่านๆละ  ขอบคุณท่าน amp ครับ



#3 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:29

มาสรุปให้สั้นนะ

 

1 การเปลี่ยนค่าเงิน เป็นความลับสุดยอด

 

2 คนที่ควรรู้ มีไม่เกิน 4 คน

นายก

รัฐมนตรีคลัง

ผู้ว่าแบ้งค์ชาติ

และอาจจะรวมผู้จัดการทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอีกหนึ่งคน

 

3 ข้อเท็จจริงคือ ในการประชุมลับเรื่องนี้ นายโภคิน ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกลับร่วมประชุมด้วย

 

4 ผู้ว่าแบ้งค์ชาติท้วงติง แต่นายจิ๋วใช้อำนาจตัวเองอนุมัติ

 

5 ปรากฏอีกว่า ต่อมานายทักษิณบอกกับคนอื่นว่า รู้เรื่องการประชุมนี้

 

 

 

 

 

สรุปว่า คนมันจะโกง มันก็ทำทุกวิถีทาง

ประเทศชิบอ๋าย ก็ช่างประเทศสิ



#4 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:29

ความจริงที่เจ็บปวด : ทักษิณรู้เรื่องการลดค่าเงินล่วงหน้า
Started by amplepoor, Today, 12:06
 
 
ทักษิณยอมรับกับศาลยุติธรรม....
แต่ไม่ยอมรับใน"ใบบอก"..........ฮา
 
วราเทพยอมรับทักษิณยืมเงินจากที่อื่นโปะเงิน ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ....
แต่พวกไพร่เสื้อแดง บัตรเติมเงิน ไม่รับรู้เหมือนแกนนำเพื่อไทย.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
 
 

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#5 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:31

มาสรุปให้สั้นนะ

 

1 การเปลี่ยนค่าเงิน เป็นความลับสุดยอด

 

2 คนที่ควรรู้ มีไม่เกิน 4 คน

นายก

รัฐมนตรีคลัง

ผู้ว่าแบ้งค์ชาติ

และอาจจะรวมผู้จัดการทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอีกหนึ่งคน

 

3 ข้อเท็จจริงคือ ในการประชุมลับเรื่องนี้ นายโภคิน ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกลับร่วมประชุมด้วย

 

4 ผู้ว่าแบ้งค์ชาติท้วงติง แต่นายจิ๋วใช้อำนาจตัวเองอนุมัติ

 

5 ปรากฏอีกว่า ต่อมานายทักษิณบอกกับคนอื่นว่า รู้เรื่องการประชุมนี้

 

 

 

 

 

สรุปว่า คนมันจะโกง มันก็ทำทุกวิถีทาง

ประเทศชิบอ๋าย ก็ช่างประเทศสิ

 

 

จิ๋วไม่มั่นใจว่าเล่าแล้วทักษิณเข้าใจ....

จึงให้โภชินเล่าแทน.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


Edited by ปุถุชน, 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:59.

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#6 galaxy

galaxy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 662 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:32

เปลี่ยนหัวข้อเรื่อง ความจริงที่เจ็บปวด..เป็น ความจริงวันนี้ แบบไอ้เห้แกนนำควายแดงบางตัว ที่ออกมาท่องมนต์สะกดไพร่ควายแดง ได้ไหม...น่าจะกระตุ้นเตือนจิตสำนึก ใครได้ดีขึ้นบ้าง

#7 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:33

ป๋าแอมสรุปเกิน ๓ บรรทัดครับ  -_-


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#8 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:33

พวกบัตรเติมเงิน กลางสามโลก และอีแอบของสนธิทั้งหลาย...

ขี้สงสัยตั้งกระทู้ถามเรื่อยๆ...

ครั้นมีคนเมตตาชี้แจง กลับไม่เข้ามาอ่าน.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#9 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 12:59

คุณแอมฯ

 

เปิดทีเดียว 4 กระทู้

 

ตามอ่าน จนมึนเลยค่ะ


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#10 ดอน

ดอน

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 2,872 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:04

จริงๆแล้ว   ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท  จากการคาดการณ์

ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้  ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก   ผมคิดอย่างนั้น


จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง  โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)


#11 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:25

คุณแอมฯ

 

เปิดทีเดียว 4 กระทู้

 

ตามอ่าน จนมึนเลยค่ะ

 

รวบเป็นกระทู้เดียว เด๋วจะมีคนแดงมาป่วน

เลยเปิดให้ป่วนกันแบบเทกระจาด

แต่ที่จริงแล้ว สัจจะไม่ควรพูดน้อยๆ นะครับ

ต้องพูดซ้ำ พูดบ่อย ให้ยิ่งกว่าที่แดงถูกล้างสมอง

 

คือยุทธศาสตร์นี้ เอาใจคนจำไม่เก่งเป็นหลักน่ะครับ



#12 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:28

จริงๆแล้ว   ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท  จากการคาดการณ์

ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้  ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก   ผมคิดอย่างนั้น

 

จริงๆ แล้ว ทั้งประเทศในตอนนั้น มีแต่แม้วคนเดียวที่รีบไปประกันค่าเงิน

เป็นคนเดียว ที่ธุรกิจไม่เสียหายเลย....เก่งจังเนอะ แปลกจังเนอะ เทพจังเนอะ

 

ขนาดโอฬาร ที่ปรึกษาใหญ่ของจิ๋ว ยังพาแบ้งค์ไทยพานิชย์ดิ่งเหวเลย

ขนาดแบ้งค์ชาติ คนที่รับงานสู้ค่าเงิน ยังแพ้ยับเลย

 

มีทักษิณชนะอยู่คนเดียวท่ามกลางความล่มสลายของประเทศชาติ

ซึ่งล่มสลาย ก็เพราะฝีมือแม้วอีกด้วย



#13 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:32

ขอพาดพิงหน่อย เรื่องนี้ สนธิเคยพูดไว้นานแระ ตั้งแต่ถูกไล่ออกจากช่อง 9 ใหม่ ๆ 

 

ตอนนั้นสนธิแค้นทักษิณมาก ถึงขนาดเคยประกาศไว้ว่า ก่อนตายจะขอแฉชื่อคนที่ได้ประโยชน์จากการลดค่าเงินบาทล่วงหน้า

 

อันนั้นคือ ปี 48 มาจนบัดนี้ปี 56 เข้าไปแระ

 

8 ปีเข้าไปแร้ว

 

 

ไหนล่ะ ที่ว่าจะแฉอ่ะ

 

 

:lol:  :lol:  :lol: 


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#14 ดอน

ดอน

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 2,872 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:37

จริงๆแล้ว   ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท  จากการคาดการณ์

ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้  ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก   ผมคิดอย่างนั้น

 

จริงๆ แล้ว ทั้งประเทศในตอนนั้น มีแต่แม้วคนเดียวที่รีบไปประกันค่าเงิน

เป็นคนเดียว ที่ธุรกิจไม่เสียหายเลย....เก่งจังเนอะ แปลกจังเนอะ เทพจังเนอะ

 

ขนาดโอฬาร ที่ปรึกษาใหญ่ของจิ๋ว ยังพาแบ้งค์ไทยพานิชย์ดิ่งเหวเลย

ขนาดแบ้งค์ชาติ คนที่รับงานสู้ค่าเงิน ยังแพ้ยับเลย

 

มีทักษิณชนะอยู่คนเดียวท่ามกลางความล่มสลายของประเทศชาติ

ซึ่งล่มสลาย ก็เพราะฝีมือแม้วอีกด้วย

แอม...ก็เป็นอย่างนี้  ไม่เคยเปลี่ยน   พูดไปเรื่อยเปื่อย

คนอื่นไม่รู้จริงเหรอ  แล้ว  ผจก.  มันเอาข่าวที่ไหนมาลง  

P6514737-14.jpg


จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง  โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)


#15 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:42

 

จริงๆแล้ว   ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท  จากการคาดการณ์

ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้  ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก   ผมคิดอย่างนั้น

 

จริงๆ แล้ว ทั้งประเทศในตอนนั้น มีแต่แม้วคนเดียวที่รีบไปประกันค่าเงิน

เป็นคนเดียว ที่ธุรกิจไม่เสียหายเลย....เก่งจังเนอะ แปลกจังเนอะ เทพจังเนอะ

 

ขนาดโอฬาร ที่ปรึกษาใหญ่ของจิ๋ว ยังพาแบ้งค์ไทยพานิชย์ดิ่งเหวเลย

ขนาดแบ้งค์ชาติ คนที่รับงานสู้ค่าเงิน ยังแพ้ยับเลย

 

มีทักษิณชนะอยู่คนเดียวท่ามกลางความล่มสลายของประเทศชาติ

ซึ่งล่มสลาย ก็เพราะฝีมือแม้วอีกด้วย

แอม...ก็เป็นอย่างนี้  ไม่เคยเปลี่ยน   พูดไปเรื่อยเปื่อย

คนอื่นไม่รู้จริงเหรอ  แล้ว  ผจก.  มันเอาข่าวที่ไหนมาลง  

P6514737-14.jpg

 

แล้วมีใครรอดใหม นอกจากแม้ว

 

การเล่นค่าเงิน หลักก็คือ "เมื่อไหร่"

พูดน่ะพูดได้

 

แต่โยกเงินไปเล่นค่าเงิน ถ้าไม่ใช่เซียน ไม่มีใครกล้า

ตลาดค้าเงินใหญ่สุดในเอเชีย อยู่ที่สิงค์โปร์ และฮ่องกง

ทุกคนต้องใช้เครดิตทั้งนั้น ใครจะปล่อยกู้ให้เล่นค่าเงิน ถ้าไม่ใช่พวกกัน

 

ถ้าสิงค์โปร์มันรู้ล่วงหน้า ว่าไทยจะเปลี่ยนระบบ ....มันจะไม่เอาเปรียบหรือ



#16 kaidum

kaidum

    ขาดขา

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,125 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:43

มาสรุปให้สั้นนะ

 

1 การเปลี่ยนค่าเงิน เป็นความลับสุดยอด

 

2 คนที่ควรรู้ มีไม่เกิน 4 คน

นายก

รัฐมนตรีคลัง

ผู้ว่าแบ้งค์ชาติ

และอาจจะรวมผู้จัดการทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอีกหนึ่งคน

 

3 ข้อเท็จจริงคือ ในการประชุมลับเรื่องนี้ นายโภคิน ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกลับร่วมประชุมด้วย

 

4 ผู้ว่าแบ้งค์ชาติท้วงติง แต่นายจิ๋วใช้อำนาจตัวเองอนุมัติ

 

5 ปรากฏอีกว่า ต่อมานายทักษิณบอกกับคนอื่นว่า รู้เรื่องการประชุมนี้

 

 

 

 

 

สรุปว่า คนมันจะโกง มันก็ทำทุกวิถีทาง

ประเทศชิบอ๋าย ก็ช่างประเทศสิ

 

 

ธุรกิจของทักษิณไม่บอบช้ำใดๆจากสภาวะฟองสบู่แตกอีกด้วย  


ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร

#17 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:45

มาสรุปให้สั้นนะ

 

1 การเปลี่ยนค่าเงิน เป็นความลับสุดยอด

 

2 คนที่ควรรู้ มีไม่เกิน 4 คน

นายก

รัฐมนตรีคลัง

ผู้ว่าแบ้งค์ชาติ

และอาจจะรวมผู้จัดการทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอีกหนึ่งคน

 

3 ข้อเท็จจริงคือ ในการประชุมลับเรื่องนี้ นายโภคิน ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกลับร่วมประชุมด้วย

 

4 ผู้ว่าแบ้งค์ชาติท้วงติง แต่นายจิ๋วใช้อำนาจตัวเองอนุมัติ

 

5 ปรากฏอีกว่า ต่อมานายทักษิณบอกกับคนอื่นว่า รู้เรื่องการประชุมนี้

 

 

 

 

 

สรุปว่า คนมันจะโกง มันก็ทำทุกวิถีทาง

ประเทศชิบอ๋าย ก็ช่างประเทศสิ

 

 

ธุรกิจของทักษิณไม่บอบช้ำใดๆจากสภาวะฟองสบู่แตกอีกด้วย  

 

ประธานชินบอกผมเองว่า ในที่สุด ไทยจะเหลือ AIS กับ กสท. ที่ไม่โดนฮุบ

 

หึหึ



#18 ดอน

ดอน

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 2,872 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:50

 

 

จริงๆแล้ว   ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท  จากการคาดการณ์

ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้  ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก   ผมคิดอย่างนั้น

 

จริงๆ แล้ว ทั้งประเทศในตอนนั้น มีแต่แม้วคนเดียวที่รีบไปประกันค่าเงิน

เป็นคนเดียว ที่ธุรกิจไม่เสียหายเลย....เก่งจังเนอะ แปลกจังเนอะ เทพจังเนอะ

 

ขนาดโอฬาร ที่ปรึกษาใหญ่ของจิ๋ว ยังพาแบ้งค์ไทยพานิชย์ดิ่งเหวเลย

ขนาดแบ้งค์ชาติ คนที่รับงานสู้ค่าเงิน ยังแพ้ยับเลย

 

มีทักษิณชนะอยู่คนเดียวท่ามกลางความล่มสลายของประเทศชาติ

ซึ่งล่มสลาย ก็เพราะฝีมือแม้วอีกด้วย

แอม...ก็เป็นอย่างนี้  ไม่เคยเปลี่ยน   พูดไปเรื่อยเปื่อย

คนอื่นไม่รู้จริงเหรอ  แล้ว  ผจก.  มันเอาข่าวที่ไหนมาลง  

P6514737-14.jpg

 

แล้วมีใครรอดใหม นอกจากแม้ว

 

การเล่นค่าเงิน หลักก็คือ "เมื่อไหร่"

พูดน่ะพูดได้

 

แต่โยกเงินไปเล่นค่าเงิน ถ้าไม่ใช่เซียน ไม่มีใครกล้า

ตลาดค้าเงินใหญ่สุดในเอเชีย อยู่ที่สิงค์โปร์ และฮ่องกง

ทุกคนต้องใช้เครดิตทั้งนั้น ใครจะปล่อยกู้ให้เล่นค่าเงิน ถ้าไม่ใช่พวกกัน

 

ถ้าสิงค์โปร์มันรู้ล่วงหน้า ว่าไทยจะเปลี่ยนระบบ ....มันจะไม่เอาเปรียบหรือ

มีใครรอดหรือใครโดนกี่คนไม่ทราบ   แต่มั่นใจว่าคนอื่นที่รอดก็มี แต่ประเด็นมันคือทักษิณไม่ได้รู้คนเดียวตามที่

แอม  กล่าวหา  คนอื่นก็คาดการณ์ได้แบบทักษิณ  แต่จะแก้ไขทันหรือไม่อีกเรื่อง

ผมไม่ได้แก้ตัวแทนทักษิณ  ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้น   แต่ผมพูดตามข้อมูลที่ปรากฏ


จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง  โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)


#19 mmmmm

mmmmm

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 963 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:54

!!!



#20 mmmmm

mmmmm

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 963 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:00

ธนาคารหรือ สถาบันการเงิืน ที่ ช่วย รับแลกค่าเงิน บาท เป็น USD

 

คงต้อง ยอมขาดทุนแทน ชินคอร์ป  น่าจะหลายหมื่นล้านอยู่

 

และ  -ยอมขาดทุนแทน- แบบ รู้ล่วงหน้าด้วย

 

 

 

ตลกดี

 

 

 

 

am... ข่วย เฉลย ว่า เป็น ธนาคารหรือ สถาบันการเงิืน ใด

 

 

 

น่ากับเบื่อ จินตนาการ55 ที่โอ้อวด

 

 

 

.



#21 No more

No more

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 882 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:00

"know and forecast" are not the same thing.

Sadly, some, or perhaps all, red shirts don't understand the differences between them.

 

:(


Red shirts perhaps were not born idiots, but are acting idiotically and will die idiots. What a poor creature!

Red shirts in the cyber world are merely contract posters. These dumb fucks are worthless pieces of shit.

Stupidity and incompetence of the walking botox will run have run Thailand to the ground.

The magnitude of this disaster would have decreased exponentially if proper water management had been applied in time like since the inception of the Bang-Ra-Kum model.


#22 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:10

ธนาคารหรือ สถาบันการเงิืน ที่ ช่วย รับแลกค่าเงิน บาท เป็น USD

 

คงต้อง ยอมขาดทุนแทน ชินคอร์ป  น่าจะหลายหมื่นล้านอยู่

และ  -ยอมขาดทุนแทน- แบบ รู้ล่วงหน้าด้วย

ตลกดี

am... ข่วย เฉลย ว่า เป็น ธนาคารหรือ สถาบันการเงิืน ใด

น่ากับเบื่อ จินตนาการ55 ที่โอ้อวด

 

ห้าเอ็มเอ้ย...อย่ามาอวดโง่ในกระทู้ที่ต้องรู้จริง

ไปค้นกฏหมายให้ถ่องแท้ก่อนว่า ตลาด Forex เมืองไทยมีหรือเปล่า

ค่อยมาโม้ว่าใครได้ใครเสีย

 

 

 

กรรม....พวกนี้จะรู้จักตลาดฟอเรกส์หรือเปล่าหนอ

นึกว่าเดินไปที่แบ้งค์ข้างบ้าน แล้วก็เล่นค่าเงินได้หรือ



#23 kaidum

kaidum

    ขาดขา

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,125 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:11

 

 

 

จริงๆแล้ว   ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท  จากการคาดการณ์

ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้  ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก   ผมคิดอย่างนั้น

 

จริงๆ แล้ว ทั้งประเทศในตอนนั้น มีแต่แม้วคนเดียวที่รีบไปประกันค่าเงิน

เป็นคนเดียว ที่ธุรกิจไม่เสียหายเลย....เก่งจังเนอะ แปลกจังเนอะ เทพจังเนอะ

 

ขนาดโอฬาร ที่ปรึกษาใหญ่ของจิ๋ว ยังพาแบ้งค์ไทยพานิชย์ดิ่งเหวเลย

ขนาดแบ้งค์ชาติ คนที่รับงานสู้ค่าเงิน ยังแพ้ยับเลย

 

มีทักษิณชนะอยู่คนเดียวท่ามกลางความล่มสลายของประเทศชาติ

ซึ่งล่มสลาย ก็เพราะฝีมือแม้วอีกด้วย

แอม...ก็เป็นอย่างนี้  ไม่เคยเปลี่ยน   พูดไปเรื่อยเปื่อย

คนอื่นไม่รู้จริงเหรอ  แล้ว  ผจก.  มันเอาข่าวที่ไหนมาลง  

P6514737-14.jpg

 

แล้วมีใครรอดใหม นอกจากแม้ว

 

การเล่นค่าเงิน หลักก็คือ "เมื่อไหร่"

พูดน่ะพูดได้

 

แต่โยกเงินไปเล่นค่าเงิน ถ้าไม่ใช่เซียน ไม่มีใครกล้า

ตลาดค้าเงินใหญ่สุดในเอเชีย อยู่ที่สิงค์โปร์ และฮ่องกง

ทุกคนต้องใช้เครดิตทั้งนั้น ใครจะปล่อยกู้ให้เล่นค่าเงิน ถ้าไม่ใช่พวกกัน

 

ถ้าสิงค์โปร์มันรู้ล่วงหน้า ว่าไทยจะเปลี่ยนระบบ ....มันจะไม่เอาเปรียบหรือ

มีใครรอดหรือใครโดนกี่คนไม่ทราบ   แต่มั่นใจว่าคนอื่นที่รอดก็มี แต่ประเด็นมันคือทักษิณไม่ได้รู้คนเดียวตามที่

แอม  กล่าวหา  คนอื่นก็คาดการณ์ได้แบบทักษิณ  แต่จะแก้ไขทันหรือไม่อีกเรื่อง

ผมไม่ได้แก้ตัวแทนทักษิณ  ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้น   แต่ผมพูดตามข้อมูลที่ปรากฏ

 

มันก็ตอบยากนะ ทุนไม่ใหญ่จริง จะมีสักกี่มนุษย์ที่อยากจะเอาเงินไปแขวนไว้กับความเสี่ยงและเวลา

เว้นเสียแต่ มั่นใจ กว้างขวาง ทุนเยอะ นักธุรกิจคนอื่นอาจได้อานิสงค์บ้าง แต่ถ้าถามว่านักธุรกิจพวกนั้น

มั่นใจเหมือนทักษิณหรือไม่ ผมก็ว่าไม่ คุณดอนยอถึงได้ใช้คำว่า "แต่จะแก้ไขทันหรือไม่อีกเรื่อง"

 

จะอย่างไรก็ตาม ผมก็ตราหน้าคนพวกนี้ว่าเลวอยู่ดี สร้างฐานะบนความวอดวายของประเทศ

แต่บางคนอาจจะมองว่าฉลาด 


Edited by kaidum, 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:15.

ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร

#24 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:13

ธนาคารหรือ สถาบันการเงิืน ที่ ช่วย รับแลกค่าเงิน บาท เป็น USD

 

คงต้อง ยอมขาดทุนแทน ชินคอร์ป  น่าจะหลายหมื่นล้านอยู่

และ  -ยอมขาดทุนแทน- แบบ รู้ล่วงหน้าด้วย

ตลกดี

am... ข่วย เฉลย ว่า เป็น ธนาคารหรือ สถาบันการเงิืน ใด

น่ากับเบื่อ จินตนาการ55 ที่โอ้อวด

 

ห้าเอ็มเอ้ย...อย่ามาอวดโง่ในกระทู้ที่ต้องรู้จริง

ไปค้นกฏหมายให้ถ่องแท้ก่อนว่า ตลาด Forex เมืองไทยมีหรือเปล่า

ค่อยมาโม้ว่าใครได้ใครเสีย

 

 

 

กรรม....พวกนี้จะรู้จักตลาดฟอเรกส์หรือเปล่าหนอ

นึกว่าเดินไปที่แบ้งค์ข้างบ้าน แล้วก็เล่นค่าเงินได้หรือ

 

เค้าไม่รู้จัก Forex หรอกครับ

 

เค้ารู้จักแต่หวย ครับ ท่านแอมป์

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาา


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#25 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:13

จริงๆแล้ว   ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท  จากการคาดการณ์

ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้  ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก   ผมคิดอย่างนั้น

 

 

อย่าตะแบง เบี่ยงเบนประเด็น เป็นลูกผู้ชายหน่อย....

ถึงคาดการณฺ์ได้ ก็ไม่กล้าทุ่มสุดตัวเล่น"อัตราแลกเปลี่ยน".......

 

นักเล่นหุ้นคาดการณ์ได้ วิเคราะห์ได้...

แต่ไม่กล้าทุ่มซื้อเหมือนพวก"อินไซเดอร์"หรอกนะ....

'ดอนยอ'เลิกเสแสร้งเถอะ.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#26 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:15

"know and forecast" are not the same thing.

Sadly, some, or perhaps all, red shirts don't understand the differences between them.

 

:(

 

 

ทักษิณ know

แต่คนอื่นๆ forecast

 

ที่สำคัญ ถ้าไม่เตรียมการล่วงหน้า จะเล่นค่าเงินไม่ได้

ต้องเปิดบัญชี ต้องมีวงเงิน แล้วต้องทำคำสั่งซื้อ

พวกนี้ ทำในเมืองไทยเมื่อไหร่ ติดคุกไทยทันที

ทำในเมืองไทยเมื่อไหร่ ข่าวจะแพร่ไปยิ่งกว่าไฟไหม้ป่า

 

มีใครรู้บ้างว่าโซรอสจะเข้าซื้อเงินสกุลใหน เท่าไหร่ เมื่อไหร่....

เขาปิดเป็นความลับ เหมือนเราปิดว่าจะเปลี่ยนค่าเงินเมื่อไหร่

 

 

 

 

พวกผักแดงเน่าๆ เอ้ย ไปหากินกับอาจมเถอะ

เรื่องนี้สูงเกินไปสำหรับพวกเจ้า



#27 mmmmm

mmmmm

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 963 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:20

http://topicstock.pa...7/P6488167.html

P6488167-44.jpg
P6488167-45.jpg
P6488167-46.jpg



ฝรั่งจ๋า ... คุยฟุ้งเลยนะจ๊ะ ว่า "เตือนมาเป็นปีแล้ว" ...

P6488167-47.jpg

 

 

 

 

 

 

 

 

ธนาคารหรือ สถาบันการเงิืน ที่ ช่วย รับแลกค่าเงิน บาท เป็น USD

 

คงต้อง ยอมขาดทุนแทน ชินคอร์ป  น่าจะหลายหมื่นล้านอยู่

 

และ  -ยอมขาดทุนแทน- แบบ รู้ล่วงหน้าด้วย

 

ตลกดี

am
..am.... ข่วย เฉลย ว่า เป็น ธนาคารหรือ สถาบันการเงิืน ใด

 


น่ากับเบื่อ จินตนาการ55 ที่โอ้อวด



#28 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:31

คงไม่มีคนบ้าที่ใหนเอาเงินทั้งหมดของตัวเองไปเสี่ยงกับการคาดการณ์หรอกครับ 

 

ปล.คืนนี้ผีมาแน่นอน ขายบ้าน ขายรถ ถอนเงิน ไปแทงกันเลยนะครับ   :) 


Edited by ริวมะคุง, 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:32.

Posted Image

#29 ดอน

ดอน

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 2,872 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:31

ความจริงที่นี่ก็ดีหลายอย่าง  แต่  น่าเบื่อไอ้พวก คางคกขึ้นวอ ชอบอวดภูมินึกว่าข้าเก่งอยู่คนเดียว  ชอบตอแหล

พอโดนจับแหลได้ทำมึน


จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง  โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)


#30 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:37

ความจริงที่นี่ก็ดีหลายอย่าง  แต่  น่าเบื่อไอ้พวก คางคกขึ้นวอ ชอบอวดภูมินึกว่าข้าเก่งอยู่คนเดียว  ชอบตอแหล

พอโดนจับแหลได้ทำมึน

 

คงหมายถึง เหล่าบรรดาคนกลางแห่งสามโคก และ พวกลึงค์สนามหลวงแอนด์เดอะแก๊งค์ สินะครับ...!!! :lol: :lol:


ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย


#31 ดอน

ดอน

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 2,872 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:41

ความจริงที่นี่ก็ดีหลายอย่าง  แต่  น่าเบื่อไอ้พวก คางคกขึ้นวอ ชอบอวดภูมินึกว่าข้าเก่งอยู่คนเดียว  ชอบตอแหล

พอโดนจับแหลได้ทำมึน

 

คงหมายถึง เหล่าบรรดาคนกลางแห่งสามโคก และ พวกลึงค์สนามหลวงแอนด์เดอะแก๊งค์ สินะครับ...!!! :lol: :lol:

ไม่ใช่ครับ   คนเหล่านี้ไม่ค่อยทับถมคนอื่น  เท่าไหร่


จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง  โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)


#32 ดอน

ดอน

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 2,872 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:45

ผมมีคำพูดของทนง  พิทยะ  เกี่ยวกับเรื่องนี้  จะเชื่อกันหรือไม่

ก็แล้วแต่วิจารณะ  ของแต่ละคน   เขาว่าอย่างนี้ครับ

 

 

เมื่อถามถึงกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประโยชน์จากการลอยตัวค่าเงินบาทหรือไม่ ดร.ทนง กล่าวว่าที่ถูกโยง เนื่องจากกลุ่มชินวัตร เสียหายน้อย เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นเสียหายหนักมาก เป็นเพราะกลุ่มชินวัตร ด้านการเงิน ตนเองได้วางกรอบไว้ตั้งแต่ต้น  โดยเน้นให้ป้องกันความเสี่ยง แต่กรณีซื้อขายมือถือ ป้องกันไม่ได้ ขาดทุนปีละ 2-3 พันล้านบาท ขณะที่ด้านธุรกิจดาวเทียม การซื้ออุปกรณ์จะอยู่ในรูปดอลลาร์ ดังนั้น เวลาลูกค้าเช่าช่องสัญญาณ กลุ่มชินวัตร ก็จะให้ชำระเป็นดอลลาร์เช่นกัน เท่ากับว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ

นอกจากนั้น ยังกำหนดหนี้ต่อทุนของกลุ่มชินวัตร ให้น้อยกว่า 1:1 ขณะที่กลุ่มอื่นตอนนั้นมากกว่า  4:1 และอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเป็นหนี้ต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อค่าเงินบาทอ่อน ทำให้มูลค่าหนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็นส่วนใหญ่


จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง  โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)


#33 kaidum

kaidum

    ขาดขา

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,125 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:48

ผมมีคำพูดของทนง  พิทยะ  เกี่ยวกับเรื่องนี้  จะเชื่อกันหรือไม่

ก็แล้วแต่วิจารณะ  ของแต่ละคน   เขาว่าอย่างนี้ครับ

 

 

เมื่อถามถึงกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประโยชน์จากการลอยตัวค่าเงินบาทหรือไม่ ดร.ทนง กล่าวว่าที่ถูกโยง เนื่องจากกลุ่มชินวัตร เสียหายน้อย เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นเสียหายหนักมาก เป็นเพราะกลุ่มชินวัตร ด้านการเงิน ตนเองได้วางกรอบไว้ตั้งแต่ต้น  โดยเน้นให้ป้องกันความเสี่ยง แต่กรณีซื้อขายมือถือ ป้องกันไม่ได้ ขาดทุนปีละ 2-3 พันล้านบาท ขณะที่ด้านธุรกิจดาวเทียม การซื้ออุปกรณ์จะอยู่ในรูปดอลลาร์ ดังนั้น เวลาลูกค้าเช่าช่องสัญญาณ กลุ่มชินวัตร ก็จะให้ชำระเป็นดอลลาร์เช่นกัน เท่ากับว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ

นอกจากนั้น ยังกำหนดหนี้ต่อทุนของกลุ่มชินวัตร ให้น้อยกว่า 1:1 ขณะที่กลุ่มอื่นตอนนั้นมากกว่า  4:1 และอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเป็นหนี้ต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อค่าเงินบาทอ่อน ทำให้มูลค่าหนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็นส่วนใหญ่

 

ครับผมเชื่อ เพราะถ้าผมเป็นทนง พิทยะ ผมก็ต้องพูดเหมือนกัน


ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร

#34 samepong

samepong

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,603 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:52

จริงๆแล้ว ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท จากการคาดการณ์
ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้ ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก ผมคิดอย่างนั้น

จิ๋วพูด ช้า สาย บ่าย เย็นว่าไม่ลดๆๆๆๆๆๆๆ
รัฐธรรมนูญไม่ใช่ ประชาธิปไตย ความเสมอภาคบนหลักการที่ถูกต้องต่างหากคือ ประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญไม่สามารถสร้างประชาธิปไตยได้ คนที่ใช้รัฐธรรนูญต่างหากจะเป็นผู้สร้างประชาธิปไตย

#35 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:04

ผมมีคำพูดของทนง  พิทยะ  เกี่ยวกับเรื่องนี้  จะเชื่อกันหรือไม่

ก็แล้วแต่วิจารณะ  ของแต่ละคน   เขาว่าอย่างนี้ครับ

 

 

เมื่อถามถึงกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประโยชน์จากการลอยตัวค่าเงินบาทหรือไม่ ดร.ทนง กล่าวว่าที่ถูกโยง เนื่องจากกลุ่มชินวัตร เสียหายน้อย เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นเสียหายหนักมาก เป็นเพราะกลุ่มชินวัตร ด้านการเงิน ตนเองได้วางกรอบไว้ตั้งแต่ต้น  โดยเน้นให้ป้องกันความเสี่ยง แต่กรณีซื้อขายมือถือ ป้องกันไม่ได้ ขาดทุนปีละ 2-3 พันล้านบาท ขณะที่ด้านธุรกิจดาวเทียม การซื้ออุปกรณ์จะอยู่ในรูปดอลลาร์ ดังนั้น เวลาลูกค้าเช่าช่องสัญญาณ กลุ่มชินวัตร ก็จะให้ชำระเป็นดอลลาร์เช่นกัน เท่ากับว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ

นอกจากนั้น ยังกำหนดหนี้ต่อทุนของกลุ่มชินวัตร ให้น้อยกว่า 1:1 ขณะที่กลุ่มอื่นตอนนั้นมากกว่า  4:1 และอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเป็นหนี้ต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อค่าเงินบาทอ่อน ทำให้มูลค่าหนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็นส่วนใหญ่

 

ครับผมเชื่อ เพราะถ้าผมเป็นทนง พิทยะ ผมก็ต้องพูดเหมือนกัน

 

 

 

วันก่อนนั้น 'ทนง'เป็นนายธนาคารทหารไทย เป็นผู้มีพระคุณทักษิณ...

 

'วันนี้ ทนง พิทยะ' เป็น 'ยาสามัญประจำบ้าน' ของทักณิณ....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#36 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:12

จริงๆแล้ว ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท จากการคาดการณ์
ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้ ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก ผมคิดอย่างนั้น

จิ๋วพูด ช้า สาย บ่าย เย็นว่าไม่ลดๆๆๆๆๆๆๆ

 

 

ช่วงเวลานั้นนักธุรกิจใหญ่ มีธุรกิจใหญ่มากกว่าทักษิณ เช่น เจ้าสัวซีพี...ซีอีโอ'ประชัย'  'ปูนซิเมนท์'  สนง.ทรัพย์สินฯ ดร.โอฬาร กจก.ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น ล้วนเชื่อว่า บิ๋กจิ๋วพูดจริง ทำจริง จึงล้มทั้งยืน ซวดเซหลายปี....

 

จึงไม่มีใครเชื่อทักษิณวันนั้น คาดการณ์ มั่นใจ แม่นยำเหมือนข่าวจาก "อินไซเดอร์"ของ"โภชิน".......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

 

 

ปล."ยาสามัญประจำบ้าน" "ดอนยอ" "โภชิน" อมพระมาพูด ก็ไม่มีใครเชื่อ......อ่า อ่า อ่า ฮ่า


Edited by ปุถุชน, 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:14.

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#37 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:20

ผมมีคำพูดของทนง  พิทยะ  เกี่ยวกับเรื่องนี้  จะเชื่อกันหรือไม่

ก็แล้วแต่วิจารณะ  ของแต่ละคน   เขาว่าอย่างนี้ครับ

 

 

เมื่อถามถึงกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประโยชน์จากการลอยตัวค่าเงินบาทหรือไม่ ดร.ทนง กล่าวว่าที่ถูกโยง เนื่องจากกลุ่มชินวัตร เสียหายน้อย เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นเสียหายหนักมาก เป็นเพราะกลุ่มชินวัตร ด้านการเงิน ตนเองได้วางกรอบไว้ตั้งแต่ต้น  โดยเน้นให้ป้องกันความเสี่ยง แต่กรณีซื้อขายมือถือ ป้องกันไม่ได้ ขาดทุนปีละ 2-3 พันล้านบาท ขณะที่ด้านธุรกิจดาวเทียม การซื้ออุปกรณ์จะอยู่ในรูปดอลลาร์ ดังนั้น เวลาลูกค้าเช่าช่องสัญญาณ กลุ่มชินวัตร ก็จะให้ชำระเป็นดอลลาร์เช่นกัน เท่ากับว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ

นอกจากนั้น ยังกำหนดหนี้ต่อทุนของกลุ่มชินวัตร ให้น้อยกว่า 1:1 ขณะที่กลุ่มอื่นตอนนั้นมากกว่า  4:1 และอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเป็นหนี้ต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อค่าเงินบาทอ่อน ทำให้มูลค่าหนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็นส่วนใหญ่

 

ครับผมเชื่อ เพราะถ้าผมเป็นทนง พิทยะ ผมก็ต้องพูดเหมือนกัน

 

ผมกินเงินเดือนทักษิณ จะให้ผมพูดหรือ ว่า

 

ใช่ครับ

 

นายส่งผมไปลดค่าเงินโดยเฉพาะ

หลังจากที่นายกับนายจิ๋ว ฟาดผลประโยชน์กันจนอิ่ม

 

ก่อนจะลดค่าเงิน ผมก็ต้องรอให้บริษัทนาย ประกันความเสี่ยงสำเร็จหมด รวม 4 ครั้ง

แล้วก็ให้นายเจรจากับโซรอสและเทมาเสก ตกลงวงเงินที่จะใช้ให้เรียบร้อย

 

แม้แต่แผนแรกไม่สำเร็จ เพราะนายอำนวยมันบ้า มันสั่งให้สู้

ก็ยังมีแผนสอง โจมตีหนักกว่าเก่า เพราะรู้ตัวเลขในกระเป๋า...แหม คนของเราตั้งเท่าไหร่ในแบ้งค์ชาติ

ยิ่งผู้จัดการทุนนี่ สนิทกันม้ากกกมาก



#38 mmmmm

mmmmm

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 963 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:24

http://topicstock.pa...4/P5536944.html

500 ล้าน USD = 500*50 =25,000 ล้านบาท
ทุนบาท อยู่ 25 บาทต่อ 1 USD จะกำไร 10,000 ล้าน
หรือ ไม่ควรขาดทุน จากอัตราแลกเปลี่ยน มากถึง 9000 ล้านบาท

http://www.shincorp....l_shin_1997.pdf


1364631750-3032556145-o.gif

 

 




-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

http://topicstock.pa...8/P7468348.html




บริษัทนายกทักษิณซื้อดอลล่าร์ร่วม ๕๐๐ ล้านเหรียญก่อนลอยค่าเงินแค่ ๒ วัน ท่านคิดว่า
http://topicstock.pa...4/P5536944.html
กรณีความลับเกี่ยวกับการลดค่าเงินบาท
http://topicstock.pa...7/P6478317.html
เปิดหลักฐาน'ทักษิณ'ยอมรับรู้เรื่องประชุมลดค่าเงินบาท-มือมืดโทรแจ้งข่าวตอน 4 ทุ่ม ?????{แตกประเด็นจาก P6513411}
http://topicstock.pa...7/P6514737.html
เปิดคำพิพากษาไขความลับ'โภคิน-ทักษิณ' ลดค่าเงินบาทใครได้ประโยชน์ ???????
http://topicstock.pa...1/P6513411.html
เปิดหลักฐาน ... 'ทักษิณ'ยอมรับรู้เรื่องประชุมลดค่าเงินบาท-มือมืดโทรแจ้งข่าวตอน 4 ทุ่ม
http://topicstock.pa...7/P6488167.html



#39 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:28

หน้าที่ประจำ mmmmmmmmmmmmmmmmmmm

 

มอไซค์รับจ้างของพรรคเพื่อแม้ว

ถนัดส่งของ ไม่ถนัดอธิบาย



#40 คุณนายนอกบ้าน

คุณนายนอกบ้าน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,281 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:30

จริงๆแล้ว   ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท  จากการคาดการณ์
ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้  ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก   ผมคิดอย่างนั้น


ไม่จริงหรอกเรารู้จักนักธุรกิจคนหนึ่งมีตึกสูงแถวถนนรัชดา มีน้องทำงานระดับสูงในแบงค์ชาติยังแทบล้มทั้งยืนในคราวนั้น
และอีกหลายคนที่รู้จัก เกือบตาย คุณไม่โดนไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บปวดอย่างไรเมื่อเห็นธุรกิจที่สร้างมาเกือบ. 30 ปี ล้มลงชั่วข้ามคืน

#41 Mootang

Mootang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 507 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:33

 

 

จริงๆแล้ว   ผมว่านักธุรกิจไม่น้อยที่รู้เรื่องการลดค่าเงินบาท  จากการคาดการณ์

ซึ่งก็น่าจะคาดการณ์ได้  ไม่จำเป็นต้องมีใครบอกหรอก   ผมคิดอย่างนั้น

 

จริงๆ แล้ว ทั้งประเทศในตอนนั้น มีแต่แม้วคนเดียวที่รีบไปประกันค่าเงิน

เป็นคนเดียว ที่ธุรกิจไม่เสียหายเลย....เก่งจังเนอะ แปลกจังเนอะ เทพจังเนอะ

 

ขนาดโอฬาร ที่ปรึกษาใหญ่ของจิ๋ว ยังพาแบ้งค์ไทยพานิชย์ดิ่งเหวเลย

ขนาดแบ้งค์ชาติ คนที่รับงานสู้ค่าเงิน ยังแพ้ยับเลย

 

มีทักษิณชนะอยู่คนเดียวท่ามกลางความล่มสลายของประเทศชาติ

ซึ่งล่มสลาย ก็เพราะฝีมือแม้วอีกด้วย

แอม...ก็เป็นอย่างนี้  ไม่เคยเปลี่ยน   พูดไปเรื่อยเปื่อย

คนอื่นไม่รู้จริงเหรอ  แล้ว  ผจก.  มันเอาข่าวที่ไหนมาลง  

P6514737-14.jpg

 

แล้วมีใครรอดใหม นอกจากแม้ว

 

การเล่นค่าเงิน หลักก็คือ "เมื่อไหร่"

พูดน่ะพูดได้

 

แต่โยกเงินไปเล่นค่าเงิน ถ้าไม่ใช่เซียน ไม่มีใครกล้า

ตลาดค้าเงินใหญ่สุดในเอเชีย อยู่ที่สิงค์โปร์ และฮ่องกง

ทุกคนต้องใช้เครดิตทั้งนั้น ใครจะปล่อยกู้ให้เล่นค่าเงิน ถ้าไม่ใช่พวกกัน

 

ถ้าสิงค์โปร์มันรู้ล่วงหน้า ว่าไทยจะเปลี่ยนระบบ ....มันจะไม่เอาเปรียบหรือ

 

แล้วดอนยอคิดว่าคนอื่นใช้วิธีเดียวกันกับทักษิณหรือไงครับ? จริงอยู่คนทั่วไปแห่ตุนดอลล่าห์แต่ทำไมนักธุรกิจไม่ไปแห่ตุนดอลล่าห์ล่ะ?

ทำไม่ไม่เลือกวิธีที่ไม่ใช่แค่ตัวเองรอดไม่พอยังได้กำไรมหาศาลอีกด้วย? ก็เพราะมีแต่ทักษิณคนเดียวที่รู้ตั้งแต่ต้นและมั่นใจเต็มร้อยว่าจะต้องมีการลดค่าเงินบาทแน่ๆ ในขณะที่นักธุรกิจรายอื่นๆ ไม่มีใครมั่นใจว่าจะมีการลดค่าเงินเลยไม่หันไปถือดอลล่าห์ 

 

ดอนยอหาเหตุผลมาแย้งดิว่าทำไมนักธุรกิจคนอื่่นที่รู้ว่าจะมีการลดค่าเงินแน่ๆ ไม่หันไปตุนดอลล่า์เพื่อให้ตัวเองรอดแน่ๆ แทนที่จะไปใช้วิธีอื่น? แถมไม่รอดอีกด้วย?


Edited by Mootang, 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:36.


#42 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:33

อ่านคำให้การของคนในจากอีกมุมหนึ่ง

 

http://www.manager.c...D=9550000107446

http://www.manager.c...D=9550000110432

 

ยามหน้าสิ่วหน้าขวาน“อำนวย”ก็ทิ้งเก้าอี้“ขุนคลัง”ไปกลางคัน เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540!
       
       รุ่งขึ้น“บิ๊กจิ๋ว”กับ“น้าชาติ”จึงประชุมกันที่“บ้านมนังคศิลา” มีการเสนอคนชื่อ“โอฬาร ชัยประวัติ”มาเป็น“ขุนคลัง”คนใหม่
       
        “จารย์โต้ง”และผมได้ไปพบโอฬาร ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ แต่โอฬารปฏิเสธการเป็น“ขุนคลัง” ไพโรจน์ใช้ความคล่องตัวเข้าบ้านโน้นบ้านนี้ เพื่อเสนอ“ทนง พิทยะ”ให้เป็น“ขุนคลัง”ทันที และไพโรจน์ยังมาคุยกับจารย์โต้งและผมว่า “นงเป็นเพื่อนสนิทเรากับทักษิณที่ไว้ใจได้-สั่งได้”
 .    

.

และเมื่อตรวจสอบงบการเงินของบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2540 พบข้อมูลดังนี้
       
       หนึ่ง-บริษัทฯและบริษัทย่อยได้ทำสัญญา ซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย จำนวน 16 ฉบับ เพื่อป้องกันความเสี่ยงขาดทุน แต่ต่อมาได้มีการเปิดหลักฐานการเตรียมตัวล่วงหน้า ของบริษัทในเครือครอบครัวชินวัตร พบบัญชีวันปิดงบครึ่งปีก่อนลอยค่าเงินบาท 2 วัน มีสัญญาคุ้มครองความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสินค้าคงคลัง เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดถึง 2 เท่าตัว!
       
       จากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ยจากการชำระเงินกู้ และดอกเบี้ยภายใต้สัญญาเงินกู้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ เป็นจำนวนเงินถึง 264,831,200 ดอลลาร์ฯ หรือเป็นจำนวนเงินรวม 6,775,025,447 บาท ในขณะที่ไตรมาสแรกของปี 2540 ไม่พบหมายเหตุงบการเงินในลักษณะเดียวกัน
       
       สอง-บริษัทฯและบริษัทย่อย ได้ทำสัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าจำนวน 6 ฉบับ เพื่อป้องกันการขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา จากการชำระเงินกู้ภายใต้สัญญาเงินกู้ ที่เป็นเงินตราต่างประเทศจำนวน 61 ล้านดอลลาร์ฯ ที่ทำสัญญาไว้ ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2540 และวันที่15 สิงหาคม 2540 เป็นจำนวนเงินอีก 1,592.96 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสแรกในปีเดียวกัน ไม่พบงบการเงินในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน
       
       สาม-บริษัทฯและบริษัทย่อยพบว่า มีสินค้าคงเหลือจาก 869,541,000 บาท จากไตรมาสแรกของปี 2540 เพิ่มขึ้นกลายมาเป็น2,196,940,000 บาท มากกว่าไตรมาสแรกถึง 2.52 เท่าตัว มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ถึง 2.14 เท่า


Edited by amplepoor, 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:34.


#43 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:00

รายการแสดงบัญชีของแต่ละบริษัท มันแต่งกันได้นะครับ

 

จะเอา "ขาดทุนเท่าไหร่ กำไรอีกเท่าไหร่" ก็ทำได้

 

เพราะทุกวันนี้ บริษัททั้งหลายที่ยื่นงบฯ ให้ กระทรวงพาณิชย์

 

จะมีสักกี่ % ที่ยื่นรายการ "งบดุล" จริงๆ หล่ะครับ....!!! :lol: :lol:

 


 

ป.ล.ไม่นึกไม่ฝันและไม่เชื่อครับ ว่า "เสื้อแดง" ที่เก่ง(เรื่องการโกง)ไปทุกเรื่อง จะไม่รู้จักวิธีเลี่ยงภาษี โดยยื่นงบดุลจริง 100% :lol: :lol:
 


ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย


#44 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:07

เป็นความรู้ดี

ว่าแต่ว่า

ขอร้อง ห่านเอ็ม

แปะแล้วก็อธิบายด้วย

แล้วก็อย่าโยงไปมา ให้เวียนหัวตาลาย นะๆ

#45 คุณนายนอกบ้าน

คุณนายนอกบ้าน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,281 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:24

ธนาคารหรือ สถาบันการเงิืน ที่ ช่วย รับแลกค่าเงิน บาท เป็น USD
 
คงต้อง ยอมขาดทุนแทน ชินคอร์ป  น่าจะหลายหมื่นล้านอยู่
และ  -ยอมขาดทุนแทน- แบบ รู้ล่วงหน้าด้วย
ตลกดี
am... ข่วย เฉลย ว่า เป็น ธนาคารหรือ สถาบันการเงิืน ใด
น่ากับเบื่อ จินตนาการ55 ที่โอ้อวด

 
ห้าเอ็มเอ้ย...อย่ามาอวดโง่ในกระทู้ที่ต้องรู้จริง
ไปค้นกฏหมายให้ถ่องแท้ก่อนว่า ตลาด Forex เมืองไทยมีหรือเปล่า
ค่อยมาโม้ว่าใครได้ใครเสีย
 
 
 
กรรม....พวกนี้จะรู้จักตลาดฟอเรกส์หรือเปล่าหนอ
นึกว่าเดินไปที่แบ้งค์ข้างบ้าน แล้วก็เล่นค่าเงินได้หรือ

คงนึกว่าเล่นผ่านตู้ ATM ได้

#46 QueenBee

QueenBee

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 547 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 09:00

คุณแอมฯ
 
เปิดทีเดียว 4 กระทู้
 
ตามอ่าน จนมึนเลยค่ะ

 
รวบเป็นกระทู้เดียว เด๋วจะมีคนแดงมาป่วน
เลยเปิดให้ป่วนกันแบบเทกระจาด
แต่ที่จริงแล้ว สัจจะไม่ควรพูดน้อยๆ นะครับ
ต้องพูดซ้ำ พูดบ่อย ให้ยิ่งกว่าที่แดงถูกล้างสมอง
 
คือยุทธศาสตร์นี้ เอาใจคนจำไม่เก่งเป็นหลักน่ะครับ


คุณแอมสุภาพมากเลยค่ะ
แถวบ้านเรียกพวกจำไม่เก่งว่า...เอิ่ม...พวกสมองทึบ
เป็นคนธรรมดาๆที่รักในหลวงยิ่งชีวิตเบื่อผู้นำที่คิดไม่เป็นเชื่อว่าแม้วคือศัตรูของชาติรับไม่ได้กับแดงเผาเมือง

#47 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 09:35

 

 กรรม....พวกนี้จะรู้จักตลาดฟอเรกส์หรือเปล่าหนอ
นึกว่าเดินไปที่แบ้งค์ข้างบ้าน แล้วก็เล่นค่าเงินได้หรือ

คงนึกว่าเล่นผ่านตู้ ATM ได้

 

มุกนี้เอาไปห้ากระโหลกเลยครับ  55555

 

 

 

ฮา

 

เสื้อแดงฝากมาถามแบบงงฮาฟ

 

 

ฮา



#48 ชาตินี้ไม่เอาตระกูลชินวัตร

ชาตินี้ไม่เอาตระกูลชินวัตร

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,098 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:21

ทักษิณเป้็นักธุรกิจที่รู้ข่าวอยู่คนเดียว และ รวยคนเดียว จากเหตุการณ์นี้ สันดานคนมันไม่เคยเปลี่ยน



#49 RaRa

RaRa

    Seien Sie loyal zu Majesty

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,976 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 13:30

 

ความจริงที่นี่ก็ดีหลายอย่าง  แต่  น่าเบื่อไอ้พวก คางคกขึ้นวอ ชอบอวดภูมินึกว่าข้าเก่งอยู่คนเดียว  ชอบตอแหล

พอโดนจับแหลได้ทำมึน

 

คงหมายถึง เหล่าบรรดาคนกลางแห่งสามโคก และ พวกลึงค์สนามหลวงแอนด์เดอะแก๊งค์ สินะครับ...!!! :lol: :lol:

ไม่ใช่ครับ   คนเหล่านี้ไม่ค่อยทับถมคนอื่น  เท่าไหร่

 

แล้ว ทำไม "พวกนั้น" ถึงกล้า บิดเบือน และ กล่าวร้าย เพื่อนสมาชิก ที่ชื่อ คุณ "ตัวกลมแก้มป่อง - ที่ราชดำเนิน" หรือ คุณ "Lovelygam - ที่ สรท." หล่ะครับ...!!!

 

จะแก้ตัวแทน คนที่ทำผิดไปเพื่ออะไรครับ หรือว่า คุณนิยมชมชอบ คนที่ "ทำผิด" กับ "พวกที่ชอบบิดเบือนความจริง" ครับ <_< <_<


ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด

...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน