Jump to content


Photo
- - - - -

ความจริงที่เจ็บปวด : ทักษิณใช้หนี้ IMF ไปแค่ 30% แต่อ้างซะเต็มร้อย


  • Please log in to reply
91 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:50

รูปมันโป๊มากหรือครับถึงต้องเบลอกันขนาดนั้น

 

แค่รูปมันมีบอกว่าทักษิณเข้ามาแค่ 4 เดือนก็สามารถจ่ายเงินงวดแรกให้ imf ได้แล้วเขาเลยจงใจเบลอเอาไว้น่ะครับ  :D

 

 

 

นี่ยังไมพูดถึง"วราเทพ"ยอมรับกลางสภาผู้แทนฯ อีกนะ......!

วราเทพยอมรับข้อเท็จจริงอะไร...

ไปหาอ่าน(ฟัง)เอง.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#52 เดอะอำมาตย์

เดอะอำมาตย์

    อิคคิวเป่าปุ้น

  • Members
  • PipPipPip
  • 799 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 00:41

 

 

----------------------------------------------------------------------------------------------

หาข้อมูลหลักฐานได้ที่ imf และแปลเป็นไทยได้ที่ คลังกระทู้เก่า รดน

เงินกู้ imf คิดเป็นไทย เวลานั้น ประมาณ  5xx,xxx ล้านบาท

จ่ายคืน จาก ชวน2- ทักษิณ1   ตามเอกสาร สิงหา 44  แค่ 6x,xxx ล้านบาท

 

ให้ทักษิณเขาบอกเองละกันนะ 5m

 

วันนี้เป็นวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ชำระหนี้ก้อนสุดท้าย
เมื่อเย็นวันนี้ ได้ชำระก้อนสุดท้ายคืนไอเอ็มเอฟจำนวน 6 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งได้กู้ยืมมาในช่วงเกิดวิกฤตเมื่อปี 2540 โดยไอเอ็มเอฟอนุมัติวงเงินให้ไทย 14,500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เบิกมาใช้จริงเพียง 12,296 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.1 แสนล้านบาท โดยรัฐบาลชุดที่แล้ว(รัฐบาลนายชวน หลีกภัย) ได้ชำระไป 1 หมื่นล้านบาท แต่รัฐบาลนี้ได้ชำระครบทั้ง 5 แสนล้านบาท ทำให้ไทยพ้นจากพันธกรณีกับไอเอ็มเอฟ

 

 

 

แล้วมาดูกัน ว่าใครผิดใครถูก

 

เราใช้ ข้อมูลหลักฐาน จาก imf.org

 

ไม่ได้ ใช้จินตนาการ55 -----> 30%

 

 

รูปตัวอย่าง ที่ อ้างอิง link และ ข้อมูล จาก imf.org

 

1364647558-3032556180-o.jpg

 

กร๊ากกกกกกก เล่นมามุกนี้ ควา.ยสลิ่มเงิบสิครับ ทั่น :D

มันคงหาข้อมูลเองไม่เป็น เพราะเจ้าพ่อ บูล สกายยังไม่มา 

 

คริคริ

 

 

น่าสงสาร คุณแอม จริงจิ๊งงงง  มีแต่คนมาอวย แต่ไม่มีใครช่วยหาข้อมูล 

:)

 

ไม่ทราบว่าอ่านคำแย้งของคุณ baezae ไปรึยังถึงบอกว่าสลิ่มเงิบ + ไม่มีข้อมูลเนี่ย

 

ไม่ทราบว่าตาเป็นต้อรึเปล่าครับ หรือท่านไม่ชอบอ่านเกิน 3 บรรทัด

 

หรือว่าท่านชื่นชอบภาพเบลอๆ เห็นเวลาด่าสลิ่มทำตัวเป็นผู้มีปัญญาใช้ ค.ว.ย. (คิด วิเคราะห์ แยกแยะ) ประจำ

 

แต่พอมี mmmmm เอาภาพโป๊มาให้ดู กลับสมองปลิวซะไวว่อง อย่างงี้รึเปล่าที่เรียกว่า 2 มาตราฐาน


" เราควรรอให้คนอื่นยอมรับเรา หรือควรทำให้เราเป็นที่ยอมรับของผู้อื่น "

#53 เดอะอำมาตย์

เดอะอำมาตย์

    อิคคิวเป่าปุ้น

  • Members
  • PipPipPip
  • 799 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 00:44

ท่าทางการเขียนของผมจะเข้าใจยากไปแฮะ ใครอ่านไม่เข้าใจยกมือขึ้นหน่อยครับ

 

ไม่ต้องห่วงครับผมคนนึงล่ะที่อ่าน เผอิญผมไม่ได้เก่งกาจขนาดมองภาพโป๊ เป็นข้อมูลได้เหมือนใครก็ไม่รู้


" เราควรรอให้คนอื่นยอมรับเรา หรือควรทำให้เราเป็นที่ยอมรับของผู้อื่น "

#54 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:57

เอาเลขมาให้คิด 5 m จะร่วมคิดด้วยก็ยินดีนะครับ

 

คืนวันที่ 31 กรกฎาคม 2546 ทักษิณออกทีวีรวมการเฉพาะกิจ ประกาศปลดแอก IMF

ตามสรุปของสื่อ มีว่า

"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับ การที่ธนาคารแห่งประเทศได้ชำระหนี้ให้กับกองทุนไอเอ็มเอฟ งวดสุดท้าย เป็นจำนวนเงินกว่า 60,000 ล้านบาท ซึ่งการชำระหนี้ไอเอ็มเอฟครั้งนี้ทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศลดเหลือ 38 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าทุนสำรองฯ ยังอยู่ในระดับที่สูง และฐานะการเงินของประเทศยังคงแข็งแกร่ง"

 

ถามง่ายๆ เลยว่า เรากู้เงินมา 14 พันล้านเหรียญ

ทักษิณใช้หนี้ก้อนสุดท้าย ประมาณ 1.6 พันล้าน

 

ถามว่า อีก 12 พันล้านเศษที่ใช้คืนไปแล้ว

ฝีมือใคร

 

 

กร๊ากกก


Edited by amplepoor, 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:58.


#55 mmmmm

mmmmm

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 963 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 05:20

เอาเลขมาให้คิด 5 m จะร่วมคิดด้วยก็ยินดีนะครับ

 

คืนวันที่ 31 กรกฎาคม 2546 ทักษิณออกทีวีรวมการเฉพาะกิจ ประกาศปลดแอก IMF

ตามสรุปของสื่อ มีว่า

"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับ การที่ธนาคารแห่งประเทศได้ชำระหนี้ให้กับกองทุนไอเอ็มเอฟ งวดสุดท้าย เป็นจำนวนเงินกว่า 60,000 ล้านบาท ซึ่งการชำระหนี้ไอเอ็มเอฟครั้งนี้ทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศลดเหลือ 38 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าทุนสำรองฯ ยังอยู่ในระดับที่สูง และฐานะการเงินของประเทศยังคงแข็งแกร่ง"

 

ถามง่ายๆ เลยว่า เรากู้เงินมา 14 พันล้านเหรียญ

ทักษิณใช้หนี้ก้อนสุดท้าย ประมาณ 1.6 พันล้าน

 

ถามว่า อีก 12 พันล้านเศษที่ใช้คืนไปแล้ว

ฝีมือใคร

 

 

กร๊ากกก

ความท็จที่เจ็บของ amp...  : ทักษิณใช้หนี้ IMF ไปแค่ 30% แต่อ้างซะเต็มร้อย

 

 

 

 

เราก็อุส่าไปหามาจนเจอ

http://www.imf.org/e...sition_flag=YES

 

 

 

 

 

1364681773-3032556180-o.jpg

 

 

 

 

 

+5+

 

 

 

 

 

 

ยังมี อีก 2 link

และ เส้นสีแตง 3 เส้น ยังมีต่อ

 

 

 

.

 

 

.



#56 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 05:23

ตาย ๆๆ

 

รายงานประจำปีของ imf แบบละเอียด ก็มีบอกห้วงเวลาไว้ชัดเจน ว่าจริง ๆ แล้วการใช้หนี้เป็นแบบไหน ช่วงไหนเท่าไรอย่างไร

 

ลิงค์ในหน้าแรกก็สามารถเข้าถึงเอกสารรายงานประจำปีของ imf ได้อย่างไม่ลำบาก จะดูปีไหนก็เลือกเอา เลือกที่ Appendix 4 ไม่ก็ 5 ตามแต่ปี แต่จะในหัวข้อของ transaction

 

แสดงว่าข้อมูลที่ให้มันยาวไปสินะ


Edited by baezae, 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 05:40.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#57 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 05:51

แล้วรูปที่ห้าเอ็มแคปมาน่ะ ช่วยดูข้างล่างด้วยนะว่ามันมีข้อความว่า

 

The information provided is for your convenience and is not intended to replace other official IMF reports and statements.

 

http://www.imf.org/e...sition_flag=YES

 

หมายความว่า ตารางนี้เค้าสรุปมาให้ดูง่าย ๆ เป็นรวบยอดรายปี รายละเอียดที่ชัดเจนและถูกต้อง จะต้องไปดูในเอกสารรายงานประจำปีอย่างเป็นทางการ

 

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว งวดในการส่งเงินคืนระหว่างประเทศไทยกับ imf จะไม่ได้มีลักษณะ มค. ถึง ธค. ตามที่ตารางนั้นแสดงให้เห็น โดยหากอ้างตามเอกสารรายงานประจำปีแล้ว จำนวนเงินที่เค้านัับแต่ละรอบ จะเป็น พค. ถึง เมย.

 

ตายห่า เกิน ๓ บรรทัดอีกละ


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#58 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 06:20

ต้องขอบใจ
ห่านเอ็ม ที่มันแค่เบลอรูป
ยังพอ อ่านได้ ไม่เวียนหัว
หาก เมื่อไร
ที่ห่านเอ็ม โยงไปโยงมา
กุยอมรับเลยว่า
กุไม่อ่าน ของมัน
เวียนหัว

#59 ม่านน้ำ

ม่านน้ำ

    ผมเพิ่งมาครับ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,373 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 06:44

ปล่อยให้ ห ้า เอ็มทะลักข้อมูลมาเรื่อยๆอน่างนี้ก็ดีครับ

ผมมีนัดกินข้าวกับเพื่อนที่เป็นควายแดงพรุ่งนี้
จะได้รู้ทางหนีทีไล่ของมันเสียหน่อย
แถมมีข้อมูลเอาไปใช้ถีบหน้ามันจากเพื่อนสมาชิกอีกด้วย

ขอบคุณครับ

Posted Image


#60 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:26

5m ช่วยตอบหน่อยดิ ว่าทำไมทักษิณต้องโกหกประชาชนด้วย

วันนี้เป็นวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ชำระหนี้ก้อนสุดท้าย เมื่อเย็นวันนี้ ได้ชำระก้อนสุดท้ายคืนไอเอ็มเอฟจำนวน 6 หมื่นกว่าล้านบาทซึ่งได้กู้ยืมมาในช่วงเกิดวิกฤตเมื่อปี 2540 โดยไอเอ็มเอฟอนุมัติวงเงินให้ไทย 14,500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เบิกมาใช้จริงเพียง 12,296 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.1 แสนล้านบาท

 

ทำไมจึงบอกว่า วงเงินกู้คือ 14.5 พันล้าน แทนที่จะเป็น 17.2 พันล้าน

แล้วบอกว่าเบิกมาเพียง 12.2 พันล้าน ทั้งๆ ที่เบิกมา 14 พันล้าน

 

 

วัยรุ่นงง



#61 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:55

เอาเลขมาให้คิด 5 m จะร่วมคิดด้วยก็ยินดีนะครับ

 

คืนวันที่ 31 กรกฎาคม 2546 ทักษิณออกทีวีรวมการเฉพาะกิจ ประกาศปลดแอก IMF

ตามสรุปของสื่อ มีว่า

"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับ การที่ธนาคารแห่งประเทศได้ชำระหนี้ให้กับกองทุนไอเอ็มเอฟ งวดสุดท้าย เป็นจำนวนเงินกว่า 60,000 ล้านบาท ซึ่งการชำระหนี้ไอเอ็มเอฟครั้งนี้ทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศลดเหลือ 38 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าทุนสำรองฯ ยังอยู่ในระดับที่สูง และฐานะการเงินของประเทศยังคงแข็งแกร่ง"

 

ถามง่ายๆ เลยว่า เรากู้เงินมา 14 พันล้านเหรียญ

ทักษิณใช้หนี้ก้อนสุดท้าย ประมาณ 1.6 พันล้าน

 

ถามว่า อีก 12 พันล้านเศษที่ใช้คืนไปแล้ว

ฝีมือใคร

 

 

กร๊ากกก

ความท็จที่เจ็บของ amp...  : ทักษิณใช้หนี้ IMF ไปแค่ 30% แต่อ้างซะเต็มร้อย

 

 

 

 

>เราก็อุส่าไปหามาจนเจอ

http://www.imf.org/e...sition_flag=YES

 

 

 

 

 

1364681773-3032556180-o.jpg

 

 

 

 

 

+5+

 

 

 

ยังมี อีก 2 link

และ เส้นสีแตง 3 เส้น ยังมีต่อ

 

 

ไม่ทราบว่าต่อจากที่เห็นจะเป็นยังไงหรือครับ เส้นจะสานกันจนเป็นรูปหัวใจ???

 

ถ้าผมเป็นคุณนะ ผมจะรีบแย้งคุณ baezae ครับ อย่างเร็วเลยด้วย

 

หรือว่าติดกับดักตัวเองอีกแล้ว??


หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#62 Mootang

Mootang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 507 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:19

เส้นสีแดง 3 เส้นโยงมาเพื่อจะให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าประเทศไทยใช้หนี้ไอเอ็มเอฟทุกๆ สิ้นปีใช่ไหม? จะได้อ้างว่าเป็นผลงานของรัฐบาลแม้วคนเดียวเพียวๆ

 

แม้วว่าหน้าด้านแล้วนะ ไอ้คนช่วยแถนี่ด้านกว่ากันเยอะเลย



#63 นิติรั่ว

นิติรั่ว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,513 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:36

ห่าเอ็มสู้ๆๆ ห่าเอ็มสู้ตาย เคนจิ-นามิไว้ลาย คุณsonอย่ามายุ่ง555 555


ผมไม่ใช่คนเก่งกฎหมาย แค่รู้กฎหมาย แต่ไม่เคยคิดใช้ช่องว่างของกฎหมายมาทำให้กฎหมายขาดความเป็นธรรม

#64 No more

No more

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 882 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:44

I'd really like to read solid arguments by red shirts.

As it turns out, it was just my wishful thinking.

Red shirts always provide only misleading data or fabricated stories.

Red shirts then try to process wrong data to get the right info?

How would that be possible?

Red shirts then try to draw conclusion from the wrong info above and praise the fugitive and one another?

 

If the above process is done unintentionally, these red shirts are really dumb.

If done deliberately, these red shirts are just shameless pricks.

:(


Red shirts perhaps were not born idiots, but are acting idiotically and will die idiots. What a poor creature!

Red shirts in the cyber world are merely contract posters. These dumb fucks are worthless pieces of shit.

Stupidity and incompetence of the walking botox will run have run Thailand to the ground.

The magnitude of this disaster would have decreased exponentially if proper water management had been applied in time like since the inception of the Bang-Ra-Kum model.


#65 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:07

เอาวิธีคิดง่าย ๆ โดยอิงตามปฏิทินงบประมาณของประเทศไทยก็ได้ จะได้ไม่งง

 

ตามที่ผมวางลิงค์ไว้ในหน้าแรกสุด จะเห็นว่า ปฏิทินงบประมาณกำหนดให้เริ่มมีการตั้งเรื่องพิจารณางบประมาณตั้งแต่เริ่มไตรมาสที่ ๑ และต้องจบไม่เกิน มค. คือต้นไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณเดียวกัน เพื่อให้งบประมาณของปีถัดไปเสร็จก่อนอย่างน้อยราว ๓ ไตรมาส

 

เช่น การตั้งงบของปี ๔๓ (เริ่ม ๑ ตค. ๔๒ ถึง ๓๐ กย. ๔๓) จะต้องตั้งให้เสร็จตั้งแต่ มค. ของปี ๔๒ การจ่ายหนี้ใด ๆ ที่จะมีขึ้นในปีงบประมาณ ๔๓ จะต้องมีการตั้งงบล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นตั้งแต่ต้นปี ๔๒

 

และนั่นหมายความว่า รัฐจะต้องมีเงินทั้งหมด ๒ ขยัก คือ ๑. เงินที่จะต้องใช้จ่ายตลอดปี ๔๒ และ ๒. เงินที่จะต้องเตรียมไว้ใช้จ่ายในปี ๔๓

 

ดังนั้น การใช้เงินงบประมาณนั้น จะต้องไม่ใช่การใช้แบบ หาได้ปี ๔๒ ใช้ปี ๔๓ เพราะไม่งั้นจะไม่สามารถตั้งงบประมาณตั้งแต่ต้นปีแบบนี้ได้ เพราะยังไม่มีเงินในมือ และยังไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแน่นอนว่า จะมีรายได้ขนาดไหน เท่าไร เพียงพอต่อการใช้หนี้ และใช้จ่ายอื่น ๆ หรือไม่ อีกทั้งพอต้นปีงบใหม่ หน่วยงานต่าง ๆ ก็เริ่มเบิกกันทันที (จริง ๆ เงินต้องมารอให้เบิกก่อนแล้วด้วย) จึงทำให้ งบของปี ๔๓ จะต้องเป็นเงินที่รัฐหามาได้ก่อนตั้งงบตอนต้นปี ๔๒ หรือก็คือ อีก ๑ ปีก่อนหน้านั้นเป็นอย่างน้อย

 

เมื่อพิจารณาตรงนี้แล้ว (ตรงนี้จะย้ำที่เคยพิมพ์ไปแล้วอีกที ใครขี้เกียจไม่อ่านก็ได้นะครับ) การใช้หนี้ของเราจะเป็นดังนี้

 

เงินที่ใช้หนี้ปี ๔๓ เป็นเงินที่หามาได้และเตรียมไว้จากรายได้ของปี ๔๑ (เป็นอย่างกระชั้นที่สุด)

 

เงินที่ใช้หนี้ปี ๔๔ เป็นเงินที่ได้มาจากรายได้ของปี ๔๒

 

เงินที่ใช้หนี้ปี ๔๕ เป็นเงินที่ได้มาจากรายได้ของปี ๔๓

 

เงินที่ใช้หนี้ปี ๔๖ เป็นเงินที่ได้มาจากรายได้ของปี ๔๔

 

ยิ่งถ้าเอามาประกอบกับรายละเอียดการใช้หนี้ตามเอกสารรายงานประจำปีอย่างเป็นทางการของไอเอ็มเอฟ จะยิ่งเห็นชัดถึงการใช้หนี้ของเราในแต่ละปี และถ้าเอามาคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ จะเห็นได้ว่า รัฐบาลไหนหาเงินมาเตรียมไว้จ่ายหนี้ร้อยละเท่าไร

 

ก็อย่างที่บอกไว้หน้าที่แล้ว จากวิธีการตั้งงบประมาณตามปฏิทิน และการจ่ายหนี้ตามรายงานอย่างเป็นทางการ ใครกันที่เป็นคนหาเงินมาจ่ายหนี้? และใครที่มาเอาหน้าแถมป้ายขี้คนอื่น?

 

เวร เกิน ๓ บรรทัดอีกละ


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#66 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:11

อ่านตามท่าน baezae เข้าใจง่ายดี

 

ถ้าอ่านตาม ห่าเอ็ม นี่ ผมงง สุด ๆ

 

มันไม่อธิบายอะไรเลย

 

ลากเส้น ไป ๆ มาๆ ขนาดมันยัง งง สิ่งที่ตัวเองสื่อเลย


Edited by พอล คุง, 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 10:12.

ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#67 Fructose

Fructose

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 65 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:15

เอาวิธีคิดง่าย ๆ โดยอิงตามปฏิทินงบประมาณของประเทศไทยก็ได้ จะได้ไม่งง

 

ตามที่ผมวางลิงค์ไว้ในหน้าแรกสุด จะเห็นว่า ปฏิทินงบประมาณกำหนดให้เริ่มมีการตั้งเรื่องพิจารณางบประมาณตั้งแต่เริ่มไตรมาสที่ ๑ และต้องจบไม่เกิน มค. คือต้นไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณเดียวกัน เพื่อให้งบประมาณของปีถัดไปเสร็จก่อนอย่างน้อยราว ๓ ไตรมาส

 

เช่น การตั้งงบของปี ๔๓ (เริ่ม ๑ ตค. ๔๒ ถึง ๓๐ กย. ๔๓) จะต้องตั้งให้เสร็จตั้งแต่ มค. ของปี ๔๒ การจ่ายหนี้ใด ๆ ที่จะมีขึ้นในปีงบประมาณ ๔๓ จะต้องมีการตั้งงบล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นตั้งแต่ต้นปี ๔๒

 

และนั่นหมายความว่า รัฐจะต้องมีเงินทั้งหมด ๒ ขยัก คือ ๑. เงินที่จะต้องใช้จ่ายตลอดปี ๔๒ และ ๒. เงินที่จะต้องเตรียมไว้ใช้จ่ายในปี ๔๓

 

ดังนั้น การใช้เงินงบประมาณนั้น จะต้องไม่ใช่การใช้แบบ หาได้ปี ๔๒ ใช้ปี ๔๓ เพราะไม่งั้นจะไม่สามารถตั้งงบประมาณตั้งแต่ต้นปีแบบนี้ได้ เพราะยังไม่มีเงินในมือ และยังไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแน่นอนว่า จะมีรายได้ขนาดไหน เท่าไร เพียงพอต่อการใช้หนี้ และใช้จ่ายอื่น ๆ หรือไม่ อีกทั้งพอต้นปีงบใหม่ หน่วยงานต่าง ๆ ก็เริ่มเบิกกันทันที (จริง ๆ เงินต้องมารอให้เบิกก่อนแล้วด้วย) จึงทำให้ งบของปี ๔๓ จะต้องเป็นเงินที่รัฐหามาได้ก่อนตั้งงบตอนต้นปี ๔๒ หรือก็คือ อีก ๑ ปีก่อนหน้านั้นเป็นอย่างน้อย

 

เมื่อพิจารณาตรงนี้แล้ว (ตรงนี้จะย้ำที่เคยพิมพ์ไปแล้วอีกที ใครขี้เกียจไม่อ่านก็ได้นะครับ) การใช้หนี้ของเราจะเป็นดังนี้

 

เงินที่ใช้หนี้ปี ๔๓ เป็นเงินที่หามาได้และเตรียมไว้จากรายได้ของปี ๔๑ (เป็นอย่างกระชั้นที่สุด)

 

เงินที่ใช้หนี้ปี ๔๔ เป็นเงินที่ได้มาจากรายได้ของปี ๔๒

 

เงินที่ใช้หนี้ปี ๔๕ เป็นเงินที่ได้มาจากรายได้ของปี ๔๓

 

เงินที่ใช้หนี้ปี ๔๖ เป็นเงินที่ได้มาจากรายได้ของปี ๔๔

 

ยิ่งถ้าเอามาประกอบกับรายละเอียดการใช้หนี้ตามเอกสารรายงานประจำปีอย่างเป็นทางการของไอเอ็มเอฟ จะยิ่งเห็นชัดถึงการใช้หนี้ของเราในแต่ละปี และถ้าเอามาคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ จะเห็นได้ว่า รัฐบาลไหนหาเงินมาเตรียมไว้จ่ายหนี้ร้อยละเท่าไร

 

ก็อย่างที่บอกไว้หน้าที่แล้ว จากวิธีการตั้งงบประมาณตามปฏิทิน และการจ่ายหนี้ตามรายงานอย่างเป็นทางการ ใครกันที่เป็นคนหาเงินมาจ่ายหนี้? และใครที่มาเอาหน้าแถมป้ายขี้คนอื่น?

 

เวร เกิน ๓ บรรทัดอีกละ

 

ผมว่าไม่ใช่แล้วครับ

 

1. การทำงบประมาณ ไม่จำเป็นต้องเสร็จก่อนอย่างน้อย 3 ไตรมาส โดยปกติจะนำเรื่องเข้าสภาประมาณ พ.ค - มิ.ย

 

2. เงินรายได้ของงบประมาณแต่ละปี เป็นการประมาณการจากรายได้ที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณนั้นๆ หมายความว่า รายได้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงเท่าไร ยังไม่มีเงินในมือ แต่ก็ทำแผนใช้จ่ายเงินไว้ล่วงหน้า

 

ส่วนเรืองส่วนราชการต้องเบิกเงินตั้งแต่ต้นปีงบประมาณเลยนั้น จริง แต่ผมไม่แน่ใจว่ากรมบัญชีกลางใช้เงินส่วนไหนมาจ่ายส่วนนี้ อาจเป็นการนำเงินคงคลังมาใช้ก่อน



#68 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:34

ที่จริงเงินใช้หนี้ มีคนบอกหลายคนแล้วว่า ไม่ใช่ความสามารถของรัฐ

แต่เป็นของประชาชน

 

คือ ทุกรัฐ ต้องมีรายได้อยู่แล้วคือจากภาษี ในการตั้งงบก็ต้องใส่ยอดลงในช่องใช้หนี้ก่อนเสมอ

ดังนั้น คิดตามวิธีของท่าน baezae ก็ต้องย้อนไปดูว่า เงินที่ทักษิณใช้หนี้ก่อนกำหนด มีบรรจุในแผนงบประมาณหรือเปล่า

 

เชื่อว่าไม่มี เพราะถ้ามีก็คงเอามาค้านกันในสภาก่อนอนุมัติ



#69 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:50

เรื่อง...ไอ้นักโทษหนีคุก..พูดจา.ตอแหล. นี่ผมมี ( พยานบุคคล )

สามารถยืนยันได้  อย่างน้อยก็ 2 คน  คนหนึ่ง  ชื่อ  ( เหนาะ )

พูดประจาน..บนเวที   พธม  ( มีทั้งภาพทั้งเสียง )  ยืนยันได้

>>> บุคคลอีกหนึ่งนาม ( โหวงเหวง) ก็ประจานความชั่วของ

( นักโทษหนีคุก ) ในเวทีเดียวกัน ( มีทั้งภาพทั้งเสียง) ยืนยัน

.......ใครจะเถียงว่าไม่จริง  ( ให้ไปถาม  เหนาะ-เหวง  ดูเอง )

ไอ้.กะล่อนคู่นี้....มันรู้ ว่า ไอ้นักโทษหนีคุก...ชั่วขนาดไหน...

มันรู้...แต่มัน.....กะล่อน...ไง....



#70 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 13:52

กระทู้รวมญาติ หลายคนไม่เห็นมานาน หลายคนไม่ค่อยตอบ

 

เป็นกระทู้ที่รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ

หลังจาก พรบ กู้เงินสองล้านล้านที่ผ่านมา

 

 

ทำให้ หม่นใจและเศร้าใจ

แม้จะรู้อยู่ก่อนแล้ว

ทีคนบอกว่าเส้นทางผ่านรถไฟถูกกว้างซื้อโดยคนใน หมดแล้ว



#71 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:42

ผมว่าไม่ใช่แล้วครับ

 

1. การทำงบประมาณ ไม่จำเป็นต้องเสร็จก่อนอย่างน้อย 3 ไตรมาส โดยปกติจะนำเรื่องเข้าสภาประมาณ พ.ค - มิ.ย

 

2. เงินรายได้ของงบประมาณแต่ละปี เป็นการประมาณการจากรายได้ที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณนั้นๆ หมายความว่า รายได้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงเท่าไร ยังไม่มีเงินในมือ แต่ก็ทำแผนใช้จ่ายเงินไว้ล่วงหน้า

 

ส่วนเรืองส่วนราชการต้องเบิกเงินตั้งแต่ต้นปีงบประมาณเลยนั้น จริง แต่ผมไม่แน่ใจว่ากรมบัญชีกลางใช้เงินส่วนไหนมาจ่ายส่วนนี้ อาจเป็นการนำเงินคงคลังมาใช้ก่อน

 

๑. ตาม ปฏิทินแล้ว ต้องเป็นไปตามนั้นครับท่าน ปกติงบประมาณต้องพิจารณาทำเสร็จใน ๑๐๕ วัน โดยจะเริ่มราว ตค. และจบในราว มค. อย่างกรณีงบรายจ่ายปี ๕๕ เริ่มพิจารณาก็ช่วง ตค. เป็นต้นมาของปี ๕๔ ดังนี้ครับ

 

http://www.khaosod.c...REE1TVRFMU5BPT0=

 

๒. เงินรายได้เป็นเงินประมาณใช่ครับ แต่เงินรายจ่ายนี่ไม่ได้ประมาณครับ แต่เป็นเงินจริงที่ต้องจ่ายแน่ ๆ เพราะต้องมีการทำโครงการขอเงินงบประมาณ ซึ่งตรงนี้แหละ จะพันไปยังข้อที่ ๓

 

๓. เงินคงคลังไม่ใช่นึกจะเบิกก็เบิกครับ แต่ละหน่วยงาน หรือกรมบัญชีกลาง อาจจะมีเงินเก่าที่ยังไม่ได้เบิกเก็บไว้บ้าง แต่การอนุมัติเงินนั้น จะต้องได้รับเงินส่งมาจากคลังเสียก่อนจึงจะเบิกได้ และต้องเป็นเงินที่ตรงกับงบประมาณที่จะขอด้วย  ยกเว้นจะเป็นการสลับงบ ตัวอย่างของกรณีนี้ ก็เช่นการขอเบิกเงินไปสร้างสนามกีฬาหนองจอกนั่นไง งบไม่ลงมา ขอไปก็ไม่ได้ ต้องโยกงบเอา


Edited by baezae, 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 20:50.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#72 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 22:52

ตัวเลขจากพันทิพ 2546 อ่านแล้วตลกดีครับ

 

http://www.atriumtec...0/P2393300.html

     ความคิดเห็นที่ 5
    นั่นแหละครับ คุณ superK แต่อย่าเอ็ดไป แถวนี้ "หมาเฝ้าบ้านจรัลฯ" เยอะครับ
    สิ่งที่คุณแบดแมน บอกมาแม่นแล้ว ... ประเทศไทยเข้า IMF ปี 2540 ช่วงรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ วงเงิน $17,200 ล้าน แต่เบิกมาใช้จริงแค่ $14,000 ล้าน
    เงินกู้ไอเอ็มเอฟ มีการทยอยๆชำระคืนไปแล้ว $10,000 ล้าน และเหลือค้างอยู่ประมาณ $4,800 ล้าน เส้นตายคือปี 2548 แต่รัฐบาลต้องการใช้คืนก่อนกำหนด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าเจตนาประโคมข่าวนั้นเป็นอีกเรื่อง
    ดังนั้น คุณบัณฑูร ท่านถึงได้เห็นว่า "ควรให้เครดิตทุกรัฐบาลที่ผ่านมา" ไงครับ ..... ก็ไม่เข้าใจว่า คำพูดกลางๆแบบนี้ทำไมจึงไปสร้างความขุ่นเคืองแก่ "ลูกหาบท่านผู้นำ" ก็ไม่ทราบ
    แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 46 20:47:19
    จากคุณ : United States of America - [ 31 ก.ค. 46 20:42:38 ]



    ความคิดเห็นที่ 6
    ขอยกคำพูดนายกก็แล้วกัน หนี้ทั้งหมด 510000 ล้านบาทรัฐบาลที่แล้วใช้คืน 10000 ล้านรัฐบาลนี้ใช้คืน 500000 ล้านบาท สรุปรัฐบาลชุดที่แล้วใช้คืน 2% รัฐบาลชุดนี้ 98%
    จากคุณ : เดชา - [ 31 ก.ค. 46 21:25:50 A:203.113.51.5 X: ]



#73 Fructose

Fructose

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 65 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:04

ผมว่าไม่ใช่แล้วครับ

 

1. การทำงบประมาณ ไม่จำเป็นต้องเสร็จก่อนอย่างน้อย 3 ไตรมาส โดยปกติจะนำเรื่องเข้าสภาประมาณ พ.ค - มิ.ย

 

2. เงินรายได้ของงบประมาณแต่ละปี เป็นการประมาณการจากรายได้ที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณนั้นๆ หมายความว่า รายได้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงเท่าไร ยังไม่มีเงินในมือ แต่ก็ทำแผนใช้จ่ายเงินไว้ล่วงหน้า

 

ส่วนเรืองส่วนราชการต้องเบิกเงินตั้งแต่ต้นปีงบประมาณเลยนั้น จริง แต่ผมไม่แน่ใจว่ากรมบัญชีกลางใช้เงินส่วนไหนมาจ่ายส่วนนี้ อาจเป็นการนำเงินคงคลังมาใช้ก่อน

 

๑. ตาม ปฏิทินแล้ว ต้องเป็นไปตามนั้นครับท่าน ปกติงบประมาณต้องพิจารณาทำเสร็จใน ๑๐๕ วัน โดยจะเริ่มราว ตค. และจบในราว มค. อย่างกรณีงบรายจ่ายปี ๕๕ เริ่มพิจารณาก็ช่วง ตค. เป็นต้นมาของปี ๕๔ ดังนี้ครับ

 

http://www.khaosod.c...REE1TVRFMU5BPT0=

 

๒. เงินรายได้เป็นเงินประมาณใช่ครับ แต่เงินรายจ่ายนี่ไม่ได้ประมาณครับ แต่เป็นเงินจริงที่ต้องจ่ายแน่ ๆ เพราะต้องมีการทำโครงการขอเงินงบประมาณ ซึ่งตรงนี้แหละ จะพันไปยังข้อที่ ๓

 

๓. เงินคงคลังไม่ใช่นึกจะเบิกก็เบิกครับ แต่ละหน่วยงาน หรือกรมบัญชีกลาง อาจจะมีเงินเก่าที่ยังไม่ได้เบิกเก็บไว้บ้าง แต่การอนุมัติเงินนั้น จะต้องได้รับเงินส่งมาจากคลังเสียก่อนจึงจะเบิกได้ และต้องเป็นเงินที่ตรงกับงบประมาณที่จะขอด้วย  ยกเว้นจะเป็นการสลับงบ ตัวอย่างของกรณีนี้ ก็เช่นการขอเบิกเงินไปสร้างสนามกีฬาหนองจอกนั่นไง งบไม่ลงมา ขอไปก็ไม่ได้ ต้องโยกงบเอา

 

ปฏิทินงบประมาณมีการปรับเปลี่ยนทุกปีครับ โดยแต่ละหน่วยงานจะเริ่มเตรียมทำคำของบประมาณของปีถัดไป ประมาณ พ.ย.และดำเนินเรื่อยมาโดยจะผ่านขั้นตอนต่างๆพอสมควรซึ่งกว่าจะเขาสภาได้ก็ ประมาณ พ.ค- มิ.ย โดยประมาณ


ส่วนตามลิ้งค์ข่าวนั้น เป็นกรณีพิเศษครับ เพราะรัฐบาลทำงบปี 2555 ไม่ทัน มีการประกาศใช้งบปี 2544 ไปพลางก่อน และกว่าจะนำงบปี 2555 เข้าสภาก็เดือน พ.ย. 2544 ซึ่งปีงบประมาณ 2555 เริ่มไปแล้ว


ในปี 2546 มีการตั้งงบประมาณสำหรับจ่ายเงินกู้ ประมาณ สองหมื่นล้าน ทักษิณจ่ายหนี้ไปประมาณหกหมื่นล้าน

ดูจากตัวเลขรายได้ที่เกิดขี้นจริงมากกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ แสนล้านบาท
ซึ่งเป็นไปได้ว่า เอาเงินตรงนี้มาจ่าย แต่ก็เป็นไปได้ว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากการกู้เงินมาจากแหล่งอื่น
เพราะ ตามงบประมาณ เงินกู้ก็ถือเป็นรายได้ครับ และอีกอย่าง ปี 2545 มีการออก พรก กู้เงินมาฉบับหนึ่ง ก็ไม่แน่ใจว่าเงินมาจากตรงนี้หรือเปล่า



 



#74 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:30

 

ผมว่าไม่ใช่แล้วครับ

 

1. การทำงบประมาณ ไม่จำเป็นต้องเสร็จก่อนอย่างน้อย 3 ไตรมาส โดยปกติจะนำเรื่องเข้าสภาประมาณ พ.ค - มิ.ย

 

2. เงินรายได้ของงบประมาณแต่ละปี เป็นการประมาณการจากรายได้ที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณนั้นๆ หมายความว่า รายได้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงเท่าไร ยังไม่มีเงินในมือ แต่ก็ทำแผนใช้จ่ายเงินไว้ล่วงหน้า

 

ส่วนเรืองส่วนราชการต้องเบิกเงินตั้งแต่ต้นปีงบประมาณเลยนั้น จริง แต่ผมไม่แน่ใจว่ากรมบัญชีกลางใช้เงินส่วนไหนมาจ่ายส่วนนี้ อาจเป็นการนำเงินคงคลังมาใช้ก่อน

 

๑. ตาม ปฏิทินแล้ว ต้องเป็นไปตามนั้นครับท่าน ปกติงบประมาณต้องพิจารณาทำเสร็จใน ๑๐๕ วัน โดยจะเริ่มราว ตค. และจบในราว มค. อย่างกรณีงบรายจ่ายปี ๕๕ เริ่มพิจารณาก็ช่วง ตค. เป็นต้นมาของปี ๕๔ ดังนี้ครับ

 

http://www.khaosod.c...REE1TVRFMU5BPT0=

 

๒. เงินรายได้เป็นเงินประมาณใช่ครับ แต่เงินรายจ่ายนี่ไม่ได้ประมาณครับ แต่เป็นเงินจริงที่ต้องจ่ายแน่ ๆ เพราะต้องมีการทำโครงการขอเงินงบประมาณ ซึ่งตรงนี้แหละ จะพันไปยังข้อที่ ๓

 

๓. เงินคงคลังไม่ใช่นึกจะเบิกก็เบิกครับ แต่ละหน่วยงาน หรือกรมบัญชีกลาง อาจจะมีเงินเก่าที่ยังไม่ได้เบิกเก็บไว้บ้าง แต่การอนุมัติเงินนั้น จะต้องได้รับเงินส่งมาจากคลังเสียก่อนจึงจะเบิกได้ และต้องเป็นเงินที่ตรงกับงบประมาณที่จะขอด้วย  ยกเว้นจะเป็นการสลับงบ ตัวอย่างของกรณีนี้ ก็เช่นการขอเบิกเงินไปสร้างสนามกีฬาหนองจอกนั่นไง งบไม่ลงมา ขอไปก็ไม่ได้ ต้องโยกงบเอา

 

ปฏิทินงบประมาณมีการปรับเปลี่ยนทุกปีครับ โดยแต่ละหน่วยงานจะเริ่มเตรียมทำคำของบประมาณของปีถัดไป ประมาณ พ.ย.และดำเนินเรื่อยมาโดยจะผ่านขั้นตอนต่างๆพอสมควรซึ่งกว่าจะเขาสภาได้ก็ ประมาณ พ.ค- มิ.ย โดยประมาณ


ส่วนตามลิ้งค์ข่าวนั้น เป็นกรณีพิเศษครับ เพราะรัฐบาลทำงบปี 2555 ไม่ทัน มีการประกาศใช้งบปี 2544 ไปพลางก่อน และกว่าจะนำงบปี 2555 เข้าสภาก็เดือน พ.ย. 2544 ซึ่งปีงบประมาณ 2555 เริ่มไปแล้ว


ในปี 2546 มีการตั้งงบประมาณสำหรับจ่ายเงินกู้ ประมาณ สองหมื่นล้าน ทักษิณจ่ายหนี้ไปประมาณหกหมื่นล้าน

ดูจากตัวเลขรายได้ที่เกิดขี้นจริงมากกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ แสนล้านบาท
ซึ่งเป็นไปได้ว่า เอาเงินตรงนี้มาจ่าย แต่ก็เป็นไปได้ว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากการกู้เงินมาจากแหล่งอื่น
เพราะ ตามงบประมาณ เงินกู้ก็ถือเป็นรายได้ครับ และอีกอย่าง ปี 2545 มีการออก พรก กู้เงินมาฉบับหนึ่ง ก็ไม่แน่ใจว่าเงินมาจากตรงนี้หรือเปล่า



 

 

ตามรายละเอียดของคุณฟรุคโตส ถูกต้องครับ ตรงนี้ผมผิดพลาดเอง เพราะแผนรายละเอียดต้องทำเสร็จราว มค. จริง แต่เข้าสภาพิจารณาราว เมย.

 

แต่ก็ยังไม่พ้นที่ว่า เงินงบประมาณที่จะเอามาใช้หนี้นั้น ต้องเป็นเงินที่ตั้งและกันไว้ก่อนครับ ไม่ใช่ไปหาเอาดาบหน้า โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาไปถึงรอบการจ่ายในแต่ละปีตามที่ imf มีในรายงานอย่างเป็นทางการ ก็จะเห็นว่า เราต้องมีเงินเตรียมไว้แล้วครับ ไม่งั้นไม่ทันจ่ายตามรอบ ซึ่งเหลื่อมกับปีงบประมาณของเรา

 

อันนี้ยกเว้นไปกู้มาจ่ายหนี้แบบที่หน้าเหลี่ยมมันทำนะครับ (อารมณ์เหมือนเอาบัตรใบหนึ่งไปรูดจ่ายหนี้ของอีกใบ อย่างนั้นเลย)

 

ตามที่คุณฟรุคโตสสันนิษฐานก็ถูกครับ งวดสุดท้ายที่เทลงไป หน้าเหลี่ยมมันกู้มาจ่ายจริงๆ วราเทพ เป็นคนหลุดออกมาเองเมื่อไม่นาน

 

ดูไม่ว่าจะทางไหน เงินที่รัฐบาลหน้าเหลี่ยมเป็นผู้เตรียมมาใช้หนี้ ก็ตกราวร้อยละ ๓๐ ของจำนวนที่ใช้จริงอยู่ดีครับ

 

แต่โฆษณารับเครดิตไปเต็มร้อย แถมป้ายขี้ให้คุณชวนเป็นคนกู้แบบหน้าด้าน ๆ ด้วย


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#75 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 23:48

    ความคิดเห็นที่ 6
    ขอยกคำพูดนายกก็แล้วกัน หนี้ทั้งหมด 510000 ล้านบาทรัฐบาลที่แล้วใช้คืน 10000 ล้านรัฐบาลนี้ใช้คืน 500000 ล้านบาท สรุปรัฐบาลชุดที่แล้วใช้คืน 2% รัฐบาลชุดนี้ 98%
    จากคุณ : เดชา - [ 31 ก.ค. 46 21:25:50 A:203.113.51.5 X: ]

 

มาดูรายละเอียดลึกลงอีกหน่อย

 

เงื่อนไขชำระคืนของ IMF คือ เริ่มชำระในปีที่ 3

การกู้เริ่มเมื่อสิงหา 2540 ดังนั้นก็ต้องชำระงวดแรกราวๆ สิงหาคม 2543 หรือก่อนนั้น

เดือนสิงหา 2543 นั้นนายกชื่อชวน และเป็นไปจนถึงพฤศจิกายน 2543

 

ดังนั้น ถ้าทักษิณไม่โกหก ก็หมายความว่า IMF ใจกว้างเหลือเชื่อ

ยอมรับการชำระเงินสองงวด (จาก 8 งวด) เป็นจำนวนเงิน 2% ของยอดรวม

โอว......กินเนสต้องบันทึกไว้ซะแล้น เจ้าหนี้ที่ใจดี หรือโง่ที่สุด

 

หรืออาจจะบันทึกว่า

 

ทักษิณคือนายกรัฐมนตรีที่ตอแหลและหน้าหนาที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

คือกล้าโกหกตาใสใส่ประชาชนและชาวโลก ในเรื่องที่ใครๆ ก็สามารถตรวจสอบได้

 

ด้านจริงๆ



#76 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 00:20

    ความคิดเห็นที่ 6
    ขอยกคำพูดนายกก็แล้วกัน หนี้ทั้งหมด 510000 ล้านบาทรัฐบาลที่แล้วใช้คืน 10000 ล้านรัฐบาลนี้ใช้คืน 500000 ล้านบาท สรุปรัฐบาลชุดที่แล้วใช้คืน 2% รัฐบาลชุดนี้ 98%
    จากคุณ : เดชา - [ 31 ก.ค. 46 21:25:50 A:203.113.51.5 X: ]

 

มาดูรายละเอียดลึกลงอีกหน่อย

 

เงื่อนไขชำระคืนของ IMF คือ เริ่มชำระในปีที่ 3

การกู้เริ่มเมื่อสิงหา 2540 ดังนั้นก็ต้องชำระงวดแรกราวๆ สิงหาคม 2543 หรือก่อนนั้น

เดือนสิงหา 2543 นั้นนายกชื่อชวน และเป็นไปจนถึงพฤศจิกายน 2543

 

ดังนั้น ถ้าทักษิณไม่โกหก ก็หมายความว่า IMF ใจกว้างเหลือเชื่อ

ยอมรับการชำระเงินสองงวด (จาก 8 งวด) เป็นจำนวนเงิน 2% ของยอดรวม

โอว......กินเนสต้องบันทึกไว้ซะแล้น เจ้าหนี้ที่ใจดี หรือโง่ที่สุด

 

หรืออาจจะบันทึกว่า

 

ทักษิณคือนายกรัฐมนตรีที่ตอแหลและหน้าหนาที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

คือกล้าโกหกตาใสใส่ประชาชนและชาวโลก ในเรื่องที่ใครๆ ก็สามารถตรวจสอบได้

 

ด้านจริงๆ

 

เท่าที่ดูรายละเอียด การแบ่งจ่ายเราจ่ายงวดแรกคือไตรมาส ๔ ของปี ๔๓ (น่าจะราว สค. ตามที่ว่า) และงวดสุดท้ายคือ ไตรมาส ๒ ของปี ๔๗ (ส่วนที่ว่าเหลี่ยมใช้ก่อนกำหนด ๒ ปี นั้น รวมในส่วนที่ต้องจ่าย J-Exim ที่เริ่มจ่ายไตรมาส ๔ ปี ๔๖ และสิ้นสุดไตรมาส ๒ ปี ๔๘ ซึ่งน่าจะทุก ๆ ๒ ไตรมาสเช่นเดียวกัน)

 

หากการใช้หนี้ imf มีกำหนด ๘ งวด ก็แสดงว่าเราจะต้องจ่ายเงินทุก ๆ ๒ ไตรมาส คือตอนไตรมาส ๔ ของปีหนึ่ง และไตรมาสที่ ๒ ของปีถัดไป เป็นการครบหนึ่งรอบ ซึ่งตรงกับที่เอกสารอย่างเป็นทางการของไอเอ็มเอฟระบุไว้ คือ ตัดหนึ่งรอบปีที่ ๓๐ เมย.

 

รอบไตรมาส ๔ นี่ยังไม่เท่าไร เพราะเป็นปลายปีงบประมาณ แต่รอบไตรมาส ๒ นี่ เรียกว่ายังต้นปี ซึ่งเรื่องต้องชงมาตั้งแต่ต้นปีของปีงบที่แล้ว ตรงนี้ยิ่งทำให้ไม่พ้นเลยว่า ต้องมีการเตรียมเงินเพื่อใช้หนี้ไว้ก่อนหน้า อย่างน้อย ๆ ก็ ๒ ปีงบ

 

ยกเว้นถ้าจะมากู้เพื่อมาหมุนแบบไอ้หน้าเหลี่ยม อันนี้อาจจะไม่ถึง


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#77 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 01:24

ถูกต้องครับ ที่จริงแผนการใช้หนี้มันวางไว้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2542

เมื่อธารินทร์ขอหยุดรับเงิน 4 งวดที่เหลือ



#78 prisonbreak

prisonbreak

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,138 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:00

หนี้ IMF ดอกเบี้ยต่ำจนติดดิน

ทักษิณยอมไปกู้เงินที่ดอกเบี้ยสูงกว่ามาปลดหนี้ IMF

แถมยังยอมเสียค่าปรับชำระหนี้ก่อนกำหนดเติมเข้าไปให้อีก

 

เทพมวาก

ไม่โง่ ไม่เอี้ย ไม่กล้าทำนะเนี่ย

 

อยากรู้ครับ ว่า แม้วมันไปกู้เงินมาจากไหน ดอกเบี้ยเท่าไหร่

(มีข้อมูลจะดีมาก ^^)



#79 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:15

ตัวเลขจากพันทิพ 2546 อ่านแล้วตลกดีครับ

 

http://www.atriumtec...0/P2393300.html

     ความคิดเห็นที่ 5
    นั่นแหละครับ คุณ superK แต่อย่าเอ็ดไป แถวนี้ "หมาเฝ้าบ้านจรัลฯ" เยอะครับ
    สิ่งที่คุณแบดแมน บอกมาแม่นแล้ว ... ประเทศไทยเข้า IMF ปี 2540 ช่วงรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ วงเงิน $17,200 ล้าน แต่เบิกมาใช้จริงแค่ $14,000 ล้าน
    เงินกู้ไอเอ็มเอฟ มีการทยอยๆชำระคืนไปแล้ว $10,000 ล้าน และเหลือค้างอยู่ประมาณ $4,800 ล้าน เส้นตายคือปี 2548 แต่รัฐบาลต้องการใช้คืนก่อนกำหนด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าเจตนาประโคมข่าวนั้นเป็นอีกเรื่อง
    ดังนั้น คุณบัณฑูร ท่านถึงได้เห็นว่า "ควรให้เครดิตทุกรัฐบาลที่ผ่านมา" ไงครับ ..... ก็ไม่เข้าใจว่า คำพูดกลางๆแบบนี้ทำไมจึงไปสร้างความขุ่นเคืองแก่ "ลูกหาบท่านผู้นำ" ก็ไม่ทราบ
    แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 46 20:47:19
    จากคุณ : United States of America - [ 31 ก.ค. 46 20:42:38 ]



    ความคิดเห็นที่ 6
    ขอยกคำพูดนายกก็แล้วกัน หนี้ทั้งหมด 510000 ล้านบาทรัฐบาลที่แล้วใช้คืน 10000 ล้านรัฐบาลนี้ใช้คืน 500000 ล้านบาท สรุปรัฐบาลชุดที่แล้วใช้คืน 2% รัฐบาลชุดนี้ 98%
    จากคุณ : เดชา - [ 31 ก.ค. 46 21:25:50 A:203.113.51.5 X: ]

คห6 มันเอา$10,000ล้าน มา เป็น 10,000ล้านบาท หรือปล่าวนะ :lol:  

 

แต่ว่านะครับ 510,000 บาทจากIMF กลายเป็นเด็กไปเลยเทียบกับ 2ล้านล้านของอีปู


Edited by ริวมะคุง, 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:16.

Posted Image

#80 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:28

สมกับเป็น "คลังหญ้าคา" ... แห่งพันดริฟท์จริง  :lol:


อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#81 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:27

ในวันที่ทักษิณประกาศปลดหนี้
ดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศตกปีละ 8 % ดอกเบี้ย IMF คือ 0.25 %
คิดเป็นส่วนต่าง  7.75 %

เงินที่ปลดหนี้คือ 4,800 ล้านเหรียญ เท่ากับประมาณ 196,000 ล้านบาท

(อัตราแลกเปลี่ยนช่วงนั้นคือ เหรียญละ 40 บาทเศษ)
เงินก้อนนี้ จึงมีภาระดอกเบี้ยราวๆ 1 พันล้านบาท(หย่อนนิดหน่อย)
แต่จะได้ดอกเบี้ยราวๆ สองหมื่นแปดพันล้านบาท ถ้าปล่อยกู้ในประเทศ
หรือไม่ต้องเสียดอกจำนวนเท่านี้ ถ้าต้องกู้ในประเทศ เท่ากับทำกำไรได้สองหมื่นเจ็ดพันล้าน

แต่ทักษิณไม่ทำครับ

ไม่ยอมบริหารหนี้ให้เกิดรายได้

แต่ดันไปโยกเงินที่ภาระดอกเบี้ยสูงกว่า มาใช้หนี้ก้อนที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า(มาก) นี้
และยอมจ่ายค่าปรับกรณีชำระหนี้ก่อนกำหนดอีก 2 % เพิ่มเข้าไปอีก

 

เพื่อจะมาโกหกประชาชนให้คนเขาจับได้....555555

นี่หรือนายกคนเก่ง...เก่งบิดามารดาท่านน่ะสิ



#82 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 09:22

บอกตามตรงว่า เสียดายมากที่เพิ่งเห็นกระทู้นี้ทั้งๆที่ติดตามเสรีไทยมาตั้งนาน

 

 

เอ่อ ว่าแต่ว่า ไอ้เส้นโยงๆสามเส้นของ 5m มันจะไปจบที่ไหนกันนะ



#83 MOD X

MOD X

    Moderator

  • Moderators
  • 4,393 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 11:08

คนที่มันไปเซ็นกู้ จนประเทศเป็นหนี้ กับ คนที่ไม่ได้เป็นคนกู้ ทำไม คนเรามันไปด่าไปเกลียดคนที่ไม่ได้กู้มาล่ะ

 

แล้วปี 40 นี่มันเกิดขึ้นเพราะใครอ่ะ


---------------------------------------


#84 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 12:39

คนที่มันไปเซ็นกู้ จนประเทศเป็นหนี้ กับ คนที่ไม่ได้เป็นคนกู้ ทำไม คนเรามันไปด่าไปเกลียดคนที่ไม่ได้กู้มาล่ะ

 

แล้วปี 40 นี่มันเกิดขึ้นเพราะใครอ่ะ

เอาเป็นว่า ควายแดงมันอยากจะโทษใครมันก็โทษครับ ขอให้คนๆ นั้นไม่ใช่พวกมันเป็นพอ 



#85 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 12:58

เก่งมากครับเรื่องชุบมือเปิบ สนามบินทำมาตั้งนานมาเสร็จสมัยมันก็บอกผลงานมัน

คนเขาจ่ายหนี้มาตั้งนาน มาหมดในสมัยมัน ก็บอกผลงานมัน

หมอสงวนผลักดันโครงการสุขภาพมาตั้งนาน มันก็เอาไปทำ แล้วก็บอกว่า ผลงานมัน

ส่วนอะไรไม่ดี เป็นของรัฐบาลก่อนทั้งหมด  -_-


" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~

#86 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 13:00

30% ถือเป็นกึ่งหนึ่งของหนี้ทั้งหมด

 

 

ท่านทักษิณชนะเลิศ :lol: 



#87 Benten

Benten

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 474 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 13:35

เสียงส่วนใหญ่ คือความถูกต้อง ด๊อกว่าไว้ :blink:



#88 เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง

เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,247 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 13:51

กู้มาจ่าย แถมเสียดอกเบี้ยอันมิควรไปอีกบานตะเกียง ไม่รู้จะบอกมันจ่ายดีรึเปล่า


ทักษิณเป็นเทพเจ้าจริงๆนะ ไม่เชื่อถาม เสื้อแดง ดูสิ

#89 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:12

ไม่รู้ต้องเจ็บปวดกันอีกเท่าไหร่

 

คนไทยถึงจะตื่น

 

หลายเดือนมานี่ ค้นพบว่าคนทั่วไปเค้าเชื่อข่าวทีวี และนสพ จริงๆ

 

บอกสื่ออื่นเฟค

 

ทำไงดี



#90 puggi

puggi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,869 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:32

เก่งมากครับเรื่องชุบมือเปิบ สนามบินทำมาตั้งนานมาเสร็จสมัยมันก็บอกผลงานมัน

คนเขาจ่ายหนี้มาตั้งนาน มาหมดในสมัยมัน ก็บอกผลงานมัน

หมอสงวนผลักดันโครงการสุขภาพมาตั้งนาน มันก็เอาไปทำ แล้วก็บอกว่า ผลงานมัน

ส่วนอะไรไม่ดี เป็นของรัฐบาลก่อนทั้งหมด  -_-

เรื่องสนามบิน  สมัยชวน ต้องทำการถมดินรอการทรุดตัว เป็น ปีๆ กว่าจะเริ่มก่อสร้างรันเวย์ได้

 

ชวน ยังไปทำพิธีตัด ท่อ ที่ใช้สำหรับถมดิน ที่เรียกว่าระบบ PVD 

 

พอ ปลายสมัยชวน เริ่มประมูลสนามบินครั้งแรก  แต่กว่าเกินงบที่ตั้งเลยล้มประมูล  งบตั้งไว้ประมาณ 85000 ล้านบาท 

 

โดยครั้งนั้น ประมูล สร้างสนามบิน ให้สามารถรองรับผุ้โดยสารได้ 50 ล้านคน ต่อปี 

 

เมื่อไม่ได้ ก็ปรับลดสปคลงมา  ช่วงระหว่างปรับลดสเปค  ก็ยุบสภาเลือตั้งใหม่

 

ไอ้เหลี่ยมเข้ามา ปรับสเปค เป็น 45 ล้านคนต่อปี  

 

แต่ว่างบประมาณก่อสร้าง บานเป็น 120000 ล้านบาท

 

แต่มันมาตีกิน

 

นี่แหละความระำยำของไอ้เหน้าเหลี่ยม



#91 หมื่นปีขอมีทักษิณคนเดียว

หมื่นปีขอมีทักษิณคนเดียว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,167 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:35

พวกอำมาต เอาธปท ไปสู้ค่าเงินกับโซรอส จนเจ๊ง 

 

พอแม้วเข้ามา จะให้เป็นภาระคลังของประชาชน ก็ให้ ธปท ตัวก่อเรื่องเอาไปใช้ ก็ถูก

 

จากนั้นประเทศก็อู้ฟู้ ประชาชนกล้าใช้จ่ายกันมากขึ้น จนเกิดพวกอกตัญญูปี49 ขึ้นมาไงละ 



#92 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:04

พวกอำมาต เอาธปท ไปสู้ค่าเงินกับโซรอส จนเจ๊ง 

 

พอแม้วเข้ามา จะให้เป็นภาระคลังของประชาชน ก็ให้ ธปท ตัวก่อเรื่องเอาไปใช้ ก็ถูก

 

จากนั้นประเทศก็อู้ฟู้ ประชาชนกล้าใช้จ่ายกันมากขึ้น จนเกิดพวกอกตัญญูปี49 ขึ้นมาไงละ 

 

 

:D ใครบ้างหรอ...


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai





ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน