วาทกรรม < ระบอบทักษิณ > พวกคุณโค่นล้มสำเร็จลงแล้วหรือยัง?
#51
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:20
#52
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:26
ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะเนี้ยฮ้าฟ
คุณก็บอกเองว่า "ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง"
แล้วคำจำกัดความของคุณ ระบอบทักษิณคืออะไรครับ ไม่งั้นผมคงถกประเด็นนี้ได้ไม่ถูกครับ
แล้วที่บอกว่า "ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะ"
ก็ต้องบอกว่าไม่เคยครับ ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยไปทำเนียบรัฐบาลมาก่อน
แล้วที่บ้านไม่ได้ติด ASTV ด้วยครับ
#53
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 19:30
ระบอบทักษิณ คือสูตรในการสร้างความเติบโตให้กับเศรษฐกิจไทย แนวทางแรกคือ กระตุ้นการส่งออก การลงทุนจากต่างประเทศ และการท่องเที่ยว
เพื่อนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในประเทศ และแนวทางที่สองคือ การกระตุ้นไปในระดับรากหญ้า มุ่งไปที่เกษตรกร ซึ่งทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า
และประชาชนส่วนใหญ่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ผู้เดือนร้อนก็มีมากเหมือนกัน เช่นกลุ่มทุนผูกขาด อำนาจโบราณ ระบบส่วย การค้าของเถื่อน ค้ายาเสพติด อิธิพลมืด ต้องสูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก
และที่เลวร้ายไปกว่านั้น อำนาจเถื่อนต่างๆ ถูกลดทอน โดยระบอบทักษิณ จึงจำเป็นต้องทำการยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากประชาชน เพื่อรักษาผลประโยชน์
ของกลุ่มตนเอง การจะล้มล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซาก จึงเป็นการยากเพราะเป็นระบอบ ระบบที่ทำให้คนส่วนใหญ่พึงพอใจ
การโฆษณาชวนเชื่อ ดังข้างบน ก็จัดว่าอยู่ใน ระบอบทักษิณ เหมือนกัน
พวกนี้มีอาการ'เพ้อ'ติดต่อกันด้วย......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#54
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:25
เมนต์แรกในกระทู้นี้ เข้ามาก็แถก่อนเลยนะครับ ตลกจัง ปัญญาจะตอบกระทู้ไม่มีหรือ
แถตรงไหน ตอบตรงๆ
อ่านหนังสือไม่ clear เหรอครับท่าน
เอาฮานะท่าน
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#55
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:27
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#56
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 22:13
#57
ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 23:22
แบบนี้ย่อมถูกสมาชิกโจมตีแน่นอน โดยเฉพาะตัวคุณทักษิณ ไม่ทราบว่าผมคิดถูกหรือไม่ว่าท่านเจ้าของกระทู้และพลพรรคน่าจะมีเรื่องอึดอัดขัดใจอะไรกับคุณทักษิณจนอยากจะเอ่ยปากด่าเหลือเกิน แต่อาจเป็นเพราะความเคารพรักแบบสุดหัวใจจึงมิกล้าจะเอ่ยปากด่า แต่ถ้าไม่ด่าก็นอนไม่หลับไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็คงเป็นเพราะความฉลาดเฉียบแหลมของท่านและพลพรรคเองนั่นแหละ จึงเปิดกระทู้ให้สมาชิกช่วยด่าแทน
เพราะรู้สึกท่านจะคอยนับอยู่นะ เช่น 8 คน ก็ 8 ความเห็น ผมคิดว่าท่านต้องการเยอะกว่านั้นมาก ยิ่งด่าเหมือนเวที พธม ท่านจะยิ่งชอบมากเพราะเห็นเน้นทางเวที พธม อยู่ เห็นใจท่านเถอะครับ ช่วยให้ท่านได้นอนตาหลับ ท่านสมาชิกผู้มีใจกุศลช่วยกันหน่อยครับ
#58
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 01:47
แรงจนขี้กรากขี้เกลื้อนกระเด็นกระดอน
แต่ระบอบทักษิณยังไม่ตายครับ
เพราะขี้กรากขี้เกลื้อน ยังวนเวียนอาระวาดอยู่ตามเวปบอร์ด
บอร์ดนี้ก็ยังมีอีก 2-3 เม็ด
ขี้กรากขี้เกลื้อนพวกนี้ ยังคอยหวังให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม
เหมือนวันที่พวกมันเกาะอยู่ตามร่องรูทวารหนักของไอ้เหลี่ยม
คอยเก็บกินหนังตามเคล้าเนื้ออุจจาระของไอ้เหลี่ยม
กลิ่นขี้ไอ้ทักษิณยังวนเวียนตามซอกรูจมูกไม่เสื่อมคลาย
กรากเกลื้อนพวกนี้ ยังหวังจะยินยลชมดมกลิ่นขี้ทักษิณไม่เสื่อมคลาย
ปล. กระทู้นี้อย่าเสือกแถว่าผมไม่ตอบคำถามหรือตอบไม่ตรงคำถามล่ะ
ที่ผมตอบ ตรงคำถามเสียยิ่งกว่าคำตอบของเอ็งในอีกกระทู้มาก
เอ็งตะแบงไม่กล้าตอบคำถามเสียเองนะ วันหลังอย่าเสือกไปว่าใครเค้าล่ะ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
#59
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 02:51
แค่ กะทู้สวะๆ ที่ เด็กอนุบาล ควรจะถามมากกว่า ไร้คุณค่าควรแก่การเสวนา ด้วยประการทั้งปวง ...
#60
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 08:54
ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะเนี้ยฮ้าฟ
คุณก็บอกเองว่า "ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง"
แล้วคำจำกัดความของคุณ ระบอบทักษิณคืออะไรครับ ไม่งั้นผมคงถกประเด็นนี้ได้ไม่ถูกครับ
แล้วที่บอกว่า "ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะ"
ก็ต้องบอกว่าไม่เคยครับ ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยไปทำเนียบรัฐบาลมาก่อน
แล้วที่บ้านไม่ได้ติด ASTV ด้วยครับ
มันเป็นวาทกรรมที่ประดิดประดอยขึ้นมา เพื่อจะใช้ปลุกกระดมหลอกควายเท่านั้นเอง
โดยที่พวกมันเองก็ยังไม่รู้ความหมาย คืออะไร แค่แห่ตามกันไป เมื่อได้ยินได้ฟัง ทักษิณจะขายชาดดดด
ดูจากสักษณะการตอบ ที่ถ่ายทอดออกจากสมองไม่มีอะไรที่พอจะทำให้เข้าใจได้ ถูกแป๊ะลิ้มล้างสมอง แน่นอน
#61
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 09:01
ที่พวกคุณชูการโค่นล้มระบอบทักษิณ ในการออกมาเคลื่อนไหวครั้งก่อน
ไม่ทราบว่าภารกิจศักดิ์ที่พากันทำ มันสำเร็จลงเเล้วหรือยัง ??
อะไรหรือครับความหมายของคำว่า "ระบอบทักษิณ" ??
เปลืองน้ำลายป่าว
ความเท็จแม้นเร้นได้ในปัจจุบัน แต่ก็เหมือนซ่อนสุริยันไว้หลังเมฆ
อย่านึกถึงแต่ความผิดพลาด จงระลึกถึงต้นเหตุของความผิดพลาด
#62
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 09:16
บอกกล่าวไม่มีเรอะครับ มันคืออะไร น่าสงสาร ๆๆ ถูกแป๊ะลิ้มหลอกใช้
#63
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 09:34
ครอบครัวแตกแยก สุดท้ายหนีไม่พ้นบาปกรรมที่ได้สร้างไว้แน่นอน
#64
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 09:47
วาทกรรม < ระบอบทักษิณ > พวกคุณโค่นล้มสำเร็จลงแล้วหรือยัง? พรรคแมงสาบและพวกสิ้นคิด โค่นระบบทักษิณสำเร็จนะครับ แต่ระบบทักษิณมันล้มมาทับกะบาลตัวเอง ไปไหนไม่ได้ เป็นฝ่ายแค้นคือเก่า ..หึหึ และก็จะเป็นฝ่ายแค้นไปอีกนาน ปล..วาทกรรมอีกอย่างที่ผมฟังแล้วน้ำตาไหลทุกที <ทักษิณและพวกโกงประเทศไทยจนเเหลือแต่กระดูก> จนต้องพากันออกมากู้ชาติ ที่ผมน้ำตาไหลก็เพราะไม่คิดว่าคนไทยจะโง่บรรไลอะไรปานนี้ ..ฮึฮึๆๆๆ
ผมก็น้ำตาไหล นายกคนปัจจุบันมัวแต่เอาอยู่น้ำท่วมฉิบหายไปทั้งประเทศเลย บ้านหนูตอมโดนด้วยเปล่า
ถ้าไอ้แม้วอยู่คงไม่ลำบากขนาดนี้ แต่มันคงกินประเทศจนเหลือแต่ชื่อ
#65
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 09:49
กลัวเปลืองน้ำลาย หรือไม่มีสติปัญญา หรือมันจะกลวง บอกกล่าวไม่มีเรอะครับ มันคืออะไร น่าสงสาร ๆๆ ถูกแป๊ะลิ้มหลอกใช้
กลวงน่ะอีปู ถามอะไรก็บอกไม่รู้ๆ
#66
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:29
กลัวเปลืองน้ำลาย หรือไม่มีสติปัญญา หรือมันจะกลวง
บอกกล่าวไม่มีเรอะครับ มันคืออะไร น่าสงสาร ๆๆ ถูกแป๊ะลิ้มหลอกใช้
ไม่เข้าใจคุณ.....มีคนอธิบายพร้อมด่าให้ฟังยืดยาวก็พยายามที่จะไม่รับรู้ หรือการรับรู้ของคุณมีจำกัด
กระทู้นี้เลยตอกย้ำว่าคนเป็นไพร่แดงจะไม่ฟังข้อเท็จจริงใดๆทั้งสิ้น
นอกจากความเชื่อของตัวเอง ไอระบอบทักขี้เฮงซวยก็เห็นๆอยู่ว่ามันโคตรทุนนิยม
ใช้วัตถุนิยมเข้ามาล่อมันไม่ยั่งยืน เพื่อหลอกควายแดงว่าสิ่งที่มันมอมเมานั่นคือความสุข
ลองมองผลระยะยาวนะ ถ้าจิตใจคุณปกติเหมือนคนทั่วๆไป
แล้วขอถามอีกข้อ คุณกลัวอะไรนักหนาในเมื่อเสียงส่วนใหญ่(ไพร่แดง)ก็เป็นรัฐบาล
กุมอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ในมือ ทั้งๆที่มันไม่เคยมีสมองจะช่วยประเทศ หวังแต่จะช่วยพี่ชาย
และวงศ์ตระกูลมันเท่านั้น
คุณต้องลงมือ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง "คานธี"
กฏของเสียงข้างมาก จะใช้กับเรื่องของมโนธรรมไม่ได้ "คานธี"
#67
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:17
เมนต์แรกในกระทู้นี้ เข้ามาก็แถก่อนเลยนะครับ ตลกจัง ปัญญาจะตอบกระทู้ไม่มีหรือ
ตอบเราบ้างสิ นาย .....
เอาดีๆครับ กระทู้นี้อยากให้คนรับรู้ ว่าระบอบทักษิณ คือ อะไร
มันเลวร้ายแค่ไหน พวกคุณถึงได้ออกมาโค่นล้ม
ในทางนิยาม ระบอบทักษิณ ประกอบด้วย คนเห็นแก่ตัว ทำอะไรก็ได้ทุกอย่างแม้แต่ขายชาติ ล้มล้างสถาบัน เพียงเพื่อให้ตนเอง ได้สิทธิ์เหนือคนอื่น ....
ในทางบุลากร ระบอบทักษิณ ประกอบด้วย เทพเจ้าแม้ว กับควายแดง ที่ชาบูๆ เทพเจ้าแม้ว ครับ ....
.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..
ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม
#68
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:44
ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะเนี้ยฮ้าฟ
ความชั่วทำไว้เยอะมั้งคับ ปิดตรงโน่นก็โผล่ตรงนี้ มั่วไปหมด ซึ่งก็คงไม่แปลก ที่ต่างคนจะเห็นความชั่วต่างมุมไปบ้าง
แต่ที่เห็นร่วมกันก็คงเป็น "มันชั่วจริงๆ" ละมั้งคับ
ซึ่งการเห็นต่างก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะต่างคนต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง
ไม่ได้ถูกหลอมถูกหล่อออกมาเป็นบล็อคๆเหมือนกัน เหมือนคนถูกล้างสมอง ที่จะเห็นที่จะเชื่ออะไรเหมือนๆกันไปหมด
ขนาดเมฆก้อนนึงรูปร่างมันคล้ายอะไร 100 คนมอง ยังมองเห็นไม่เหมือนกันทุกคนเลยคับ แต่แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่ามันคือเมฆ
^______________________^
อำนาจก็เปรียบเหมือนคมดาบที่ไร้ด้าม ถ้าเราไม่รู้จักปล่อยวางลงเสียบ้าง สุดท้ายมันจะทำลายแม้ตัวเราเอง
ม้าดีที่ "ตายแล้ว"
หาใช่ "ม้าดี"
หากคือ "ม้าตาย"
#69
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 12:02
กลัวเปลืองน้ำลาย หรือไม่มีสติปัญญา หรือมันจะกลวง
บอกกล่าวไม่มีเรอะครับ มันคืออะไร น่าสงสาร ๆๆ ถูกแป๊ะลิ้มหลอกใช้
ที่บอกว่า กลัวเปลืองน้ำลายคงจะหมายความว่า พูดไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะคุณมันคนใจแคบรับฟังความเห็นต่างหรือสิ่งที่ไม่ถูกใจไม่ได้น่ะสิครับ
เค้าก็อธิบายกันหลายคนแล้วตามความคิดของแต่ล่ะคน รับไม่ได้หรอถ้าจะได้คำตอบไม่โดนใจ นี่ไม่ใช่ห้องสอบนะเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ รับฟังความเห็นคนอื่นบ้างนะ อย่าป่วนนักเลย
---------------------------------------
#70
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 12:52
ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะเนี้ยฮ้าฟ
คุณก็บอกเองว่า "ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง"
แล้วคำจำกัดความของคุณ ระบอบทักษิณคืออะไรครับ ไม่งั้นผมคงถกประเด็นนี้ได้ไม่ถูกครับ
แล้วที่บอกว่า "ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะ"
ก็ต้องบอกว่าไม่เคยครับ ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยไปทำเนียบรัฐบาลมาก่อน
แล้วที่บ้านไม่ได้ติด ASTV ด้วยครับ
มันเป็นวาทกรรมที่ประดิดประดอยขึ้นมา เพื่อจะใช้ปลุกกระดมหลอกควายเท่านั้นเอง
โดยที่พวกมันเองก็ยังไม่รู้ความหมาย คืออะไร แค่แห่ตามกันไป เมื่อได้ยินได้ฟัง ทักษิณจะขายชาดดดด
ดูจากสักษณะการตอบ ที่ถ่ายทอดออกจากสมองไม่มีอะไรที่พอจะทำให้เข้าใจได้ ถูกแป๊ะลิ้มล้างสมอง แน่นอน
อึ้ม ก็คุยกันได้นี่ ก็มีปัญญาตอบนี่ เอาแต่อวดเก่งตาสว่างไม่ฟังใครพูด ตกร่องน่ะมันมีแต่พวกขี้เมาเท่านั้น
หรือว่างหายเมาแระ สินะ
#71
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 13:58
ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะเนี้ยฮ้าฟ
คุณก็บอกเองว่า "ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง"
แล้วคำจำกัดความของคุณ ระบอบทักษิณคืออะไรครับ ไม่งั้นผมคงถกประเด็นนี้ได้ไม่ถูกครับ
แล้วที่บอกว่า "ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะ"
ก็ต้องบอกว่าไม่เคยครับ ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยไปทำเนียบรัฐบาลมาก่อน
แล้วที่บ้านไม่ได้ติด ASTV ด้วยครับ
มันเป็นวาทกรรมที่ประดิดประดอยขึ้นมา เพื่อจะใช้ปลุกกระดมหลอกควายเท่านั้นเอง
โดยที่พวกมันเองก็ยังไม่รู้ความหมาย คืออะไร แค่แห่ตามกันไป เมื่อได้ยินได้ฟัง ทักษิณจะขายชาดดดด
ดูจากสักษณะการตอบ ที่ถ่ายทอดออกจากสมองไม่มีอะไรที่พอจะทำให้เข้าใจได้ ถูกแป๊ะลิ้มล้างสมอง แน่นอน
สรุปแล้วว่าคุณเจ้าของกระทู้ก็ไม่สามารถให้คำนิยามของ ระบอบทักษิณ ได้ใช่ไหมครับ
งั้นผมขอใช้คำนิยาม ระบอบทักษิณ ที่ผมคิดก็แล้วกันนะครับ
ผมคิดว่าระบอบทักษิณยังอยู่ เพราะมีรัฐบาลที่ให้ความคิดเห็นของทักษิณเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอยู่ครับ
ผมตอบคำถามของกระทู้แล้วนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่ตอบคำถามอีกนะครับ
#72
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:35
ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
พระบรมราโชวาท 11 ธันวาคม 2512
#73
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:37
จนป่านนี้เค้ายังปักใจเชื่อว่าคนที่นี่เป็นสาวก ASTV อยู่แฮะ ติดตามอ่านมาหลายกระทู้แล้ว ขำว่ะ
เขาไม่เคยรับรู้ข่าวสารอื่่น ต้อนจากข่าวของเสื้อแดงอะครับ
ขำ ขำ เหมือนกัน
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#74
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 20:37
คำตอบผมมีแค่นี้
ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
พระบรมราโชวาท 11 ธันวาคม 2512
#75
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 21:24
จนกว่าโลกนี้จะไม่มีคนชื่อ "ทักษิณ" นั่นแหละครับ
คำตอบผมมีแค่นี้
"ชินวัตร"ด้วยอ่ะ จะได้เป็นคนเดียวกัน
คุณต้องลงมือ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง "คานธี"
กฏของเสียงข้างมาก จะใช้กับเรื่องของมโนธรรมไม่ได้ "คานธี"
#76
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 23:04
เลวแค่ติดเยี้ย 1-5 ของโลกกำลังพยายามไต่อันดับ 1
เอาดีๆครับ กระทู้นี้อยากให้คนรับรู้ ว่าระบอบทักษิณ คือ อะไร
มันเลวร้ายแค่ไหน พวกคุณถึงได้ออกมาโค่นล้ม
ติด 1 ใน 5 ของโลกก็เก่งมากแล้วนะครับ
ต้องชื่นชมด้วยซ้ำไป แค่นี้ก็เอาไปคุยได้แล้วครับ
ไม่ต้องไปถึงอันดับหนึ่งหรอกครับ แค่นี้ก็จะตายกันแล้ว
#77
ตอบ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 07:48
ระบบทักษิณคือระบบที่สิ่งไหนไม่ตรงกับใจคุณทักษิณหรือคุณทักษิณไม่ได้ประโยชน์จะกลายเป็นถูกกลั่นแกล้ง 2 มาตราฐาน แต่หากสิ่งไหนได้ประโยชน์ก็จะว่าดีแล้วยุติธรรมแล้ว เช่นตอน ปฏิวัติ รสช ตอนนั้นคุณทักษิณได้ประโยชน์เกี่ยวกับสัมปทานดาวเทียมไทยคม ตอนหลังก้ออกมาพูดถึงประธานรสช ว่าหากไม่มีพี่ชายคนนี้คงไม่มีผมในวันนี้ แต่พอตนเองโดนปฏิวัติก็มาบอกว่าไม่เป็นประชาธิปไตยบ้างโดนกลั่นแกล้งบ้างที่พวกคุณชูการโค่นล้มระบอบทักษิณ ในการออกมาเคลื่อนไหวครั้งก่อน
ไม่ทราบว่าภารกิจศักดิ์ที่พากันทำ มันสำเร็จลงเเล้วหรือยัง ??
อะไรหรือครับความหมายของคำว่า "ระบอบทักษิณ" ??
#78
ตอบ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 08:51
ไม่รู้จริงๆเหรอว่าเลวร้ายยังไง ป่วยการที่จะอธิบาย เพราะอธิบายไปก็ไม่รับรู้ ไม่สนใจที่จะยอมรับเหตุผล ดูอันดับ 1ใน5ของโลกก็น่าจะพอเห็นภาพกันได้แล้วนะ
เลวแค่ติดเยี้ย 1-5 ของโลกกำลังพยายามไต่อันดับ 1
เอาดีๆครับ กระทู้นี้อยากให้คนรับรู้ ว่าระบอบทักษิณ คือ อะไร
มันเลวร้ายแค่ไหน พวกคุณถึงได้ออกมาโค่นล้ม
ติด 1 ใน 5 ของโลกก็เก่งมากแล้วนะครับ
ต้องชื่นชมด้วยซ้ำไป แค่นี้ก็เอาไปคุยได้แล้วครับ
ไม่ต้องไปถึงอันดับหนึ่งหรอกครับ แค่นี้ก็จะตายกันแล้ว
#79
ตอบ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 09:00
ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะเนี้ยฮ้าฟ
เอ่อ...ถ้าคุณต้องการคำตอบเดียวกันผมคงเกรงว่าคนในเว็บบอร์ดแห่งนี้คงให้ไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมีความคิดของตัวเอง
ไม่ใช่เหมือนพวกเสื้อแดงอย่างพวกคุณ ที่มีดีแต่ท่องจำ เพราะวาทะกรรม "ระบอบทักษิณ" นั้นต่างคนต่างพูด แต่อ่านและพิจารณาดีๆ
มันจะมีความหมายสื่อไปในทิศทางเดียวกันหมด คือการโกงด้วยยวิธีต่างๆ ของทักษิณแค่นั้นเอง ก็แค่นั้นเอง
แต่ผมคงไม่โทษว่าท่านหรอกครับถ้าคุณจะไม่รู้ว่าทักษิณโกงอย่างไร แบบไหน เพราะคนอย่างคุณมันไร้สมอง ไม่รู้จักคิดหรอก พิจารณา
#80
ตอบ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 09:04
#81
ตอบ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:13
ลองพิจารณาหน่อยสิครับ
ถึงวันนี้ ผมก็ยังยืนยันว่า ที่ตัวเองไปขับไล่ทักษิณนั้น ถูกต้องแล้ว
และก็จะยังร่วมกับคนอื่นๆ กำจัดทักษิณต่อไป
เพราะทักษิณคือตัวแทนของกลุ่มอำนาจที่ผมเห็นว่า ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เมืองไทยเคยมีมา
พวกซ้ายกลายพันธุ์นี้แหละ ตัวสำคัญ
#82
ตอบ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:40
คิดว่าชาตินี้คงตายแบบไร้แผ่นดินไทยกลบหน้าแน่นอน
#83
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:02
รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ในการเคลื่อนไหวของแนวร่วมกลุ่มจารีตนิยม-ราชการ ปัญญาชนขวาจัด และปัญญาชนตีสองหน้า เพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2540
อาวุธทางการเมืองที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของพวกเขาคือ วาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ ซึ่งถูกใช้มาตั้งแต่เริ่มต้นก่อกระแส ไปจนถึงรัฐประหาร 19 กันยายน
แล้วก็ยังถูกใช้ต่อมาอีกเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐประหาร
คำว่า ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิชาการรัฐศาสตร์-คอลัมนิสต์ที่เป็นพวกขวาจัด อิงแอบอยู่กับสถาบันจารีตประเพณีมาต่อต้านประชาธิปไตย
ปฏิเสธทุนนิยม และต่อต้านโลกาภิวัฒน์ วาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ เป็นการจงใจผสมปนเปทางความคิดด้วยการจับเอาระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ 2540
ตลอดจนสถาบันการเมืองประชาธิปไตยทั้งหมด มาผูกติดกับตัวบุคคลนักการเมือง แล้วตั้งฉายาแบบเหมารวมว่า ‘ระบอบทักษิณ’ ชูขึ้นเป็นเป้าโจมตี บิดเบือน ใส่ร้าย
โดยมิเพียงทำลายตัวบุคคล แต่มุ่งโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยและฉีกรัฐธรรมนูญทั้งหมด แล้วโยนบาปไปให้นักการเมือง ปกปิดความจริงที่ว่า
พวกจารีตนิยมนั่นแหละที่เป็นปัจจัยขัดขวางประชาธิปไตยมาทุกยุคสมัย
ผู้ประดิษฐ์และใช้วาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ อ้างว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2540 ได้มีนักการเมืองชนะเลือกตั้งเข้ามาเกาะกุมระบบการเมือง
แล้วใช้อำนาจไปทำลายประชาธิปไตย ละเมิดรัฐธรรมนูญและสิทธิมนุษยชน แทรกแซงองค์กรอิสระ ทำให้กลไกตรวจสอบถ่วงดุลไม่ทำงาน
รวมถึงการซื้อเสียงหลอกลวงประชาชน และนโยบายเศรษฐกิจแบบเบ็ดเสร็จที่กอบโกยประโยชน์เข้าสู่พวกตน ผลก็คือ แม้จะยังมีรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง
แต่ทั้งหมดก็ถูกนักการเมืองครอบงำอย่างเบ็ดเสร็จ
ฉะนั้น ทั้งประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ‘ได้ถูกทำลาย’ หรือ ‘ถูกรัฐประหารโดยทักษิณ’ ไปนานแล้วก่อนวันที่ 19 กันยายน
ระบอบการเมืองที่ว่านี้แหละ ที่เรียกว่า ‘ระบอบทักษิณ’
ตรรกะ ‘ระบอบทักษิณ’ ดังกล่าว ได้แพร่กระจายดุจเนื้องอกมะเร็งร้ายไปสู่นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักเคลื่อนไหวองค์กรพัฒนาเอกชน ราษฎรอาวุโส
สมาชิกวุฒิสภาปีกขวาจัด สื่อสารมวลชน และนักการเมืองพรรคฝ่ายค้าน คำว่า ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกใช้เป็นคำด่าทอเพื่อปลุกอารมณ์เกลียดชังคลุ้มคลั่ง
อย่างไร้เหตุผลในหมู่มวลชนจำนวนหนึ่ง ก่อเป็นการประท้วง ยั่วยุ สร้างความรุนแรงให้เป็นวิกฤตการเมือง ทั้งหมดเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ทีละขั้นตอนโดยพวกจารีตนิยม
กระทั่งสำเร็จเป็นรัฐประหาร 19 กันยายนตามต้องการ
เป้าหมายทางการเมืองตั้งแต่ต้นของแนวร่วมจารีตนิยม-ราชการ และปัญญาชนขวาจัดคือ ต้องการโค่นล้มประชาธิปไตยและฉีกรัฐธรรมนูญ
แต่เพื่อปกปิดเป้าประสงค์ที่แท้จริง พวกเขาจึงต้องใช้กุศโลบายเอาตัวบุคคลนักการเมืองมาเป็นเปลือกห่อหุ้มปิดบังระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ 2540 ไว้
แล้วเรียกเหมารวมว่า ‘ระบอบทักษิณ’ จากนั้นก็โจมตี ใส่ไคล้ บิดเบือน ป้ายสี ด้วยข้อมูลเท็จต่างๆ นานา ผสมกับการปลุกอารมณ์คลั่งชาติอย่างสุดขั้ว
ทำให้นักการเมืองที่ถูกใช้ห่อหุ้มรัฐธรรมนูญอยู่นั้นกลายเป็น ‘อภิทรราชและมหาอสุรกายจากนรก’ ‘จอมขายชาติ’ และ ‘พวกจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์’
จากนั้น ก็ชูคำขวัญ ‘โค่นล้มระบอบทักษิณ’ ซึ่งเนื้อแท้คือการเรียกร้องให้โค่นล้มระบอบประชาธิปไตยและฉีกรัฐธรรมนูญนั่นเอง
และนี่เป็นความชั่วร้ายประการหนึ่งของวาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ เพราะมันอำพรางเป้าประสงค์ที่แท้จริงที่ต้องการทำลาย
ด้วยการเบี่ยงเบนความสนใจจากระบบการเมืองและรัฐธรรมนูญไปที่ตัวบุคคลนักการเมือง ทำให้ผู้คนหลงเข้าใจว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการ
‘ขับไล่ทักษิณและทำลายเครือข่ายระบอบทักษิณ’ ไม่ใช่การโค่นล้มประชาธิปไตยและฉีกรัฐธรรมนูญ นับเป็นอุบายที่ได้ผล สามารถหลอกใช้ปัญญาชนส่วนหนึ่งที่อ่อนหัดได้
เพราะคนพวกนี้คิดว่า ตนต้องการประชาธิปไตย แต่เกลียดชังนักการเมืองทุจริต พอได้ยินคำขวัญ “โค่นล้มระบอบทักษิณ” ก็พากันตื่นเต้น ตะลีตะลานวิ่งตามด้วยกลัวว่าจะ
‘ตกขบวน’ กระโดดเข้าร่วมขับไล่ทักษิณกันอย่างคึกคัก โดยเชื่ออย่างไร้เดียงสาว่า พวกตนกำลัง ‘ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยการขับไล่นักการเมืองทุจริต
และจะโค่นล้มทักษิณลงได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อรัฐธรรมนูญ’
แต่หารู้ไม่ว่า การโค่นล้ม ‘ระบอบทักษิณ’ ก็คือการโค่นล้มประชาธิปไตย ฉีกรัฐธรรมนูญ และรื้อฟื้นระบอบเผด็จการอำนาจนิยมแบบเปิดเผยของพวกจารีตนิยมขึ้นมาอีกครั้ง
#84
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:02
ได้ถูกละเมิดหรือทำลายไปก่อนแล้วโดยทักษิณ และในเมื่อ ‘ระบอบทักษิณ’ เป็นเผด็จการทรราชย์ของนักการเมืองที่ทุจริตและขายชาติ รัฐประหาร 19 กันยายน
จึงไม่ใช่การโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยและฉีกรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการ ‘โค่นล้มระบอบทักษิณที่เป็นเผด็จการและทุจริต’ รัฐประหาร 19 กันยายนจึงมี
‘ลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนรัฐประหารทั้งปวงในอดีต’ ไม่ใช่ ‘รัฐประหารที่เลว’ หากแต่เป็นรัฐประหารที่ ‘จำเป็นและเลี่ยงไม่ได้’ เพื่อโค่นล้มเผด็จการของนักการเมืองและเพื่อ
‘ปฏิรูปการเมือง’ นำมาซึ่งการเมืองที่ขาวสะอาดบริสุทธิ์และปราศนักการเมืองชั่วอีกต่อไป
และนี่คือตรรกะเลวร้ายที่บรรดาปัญญาชนขวาจัด ปัญญาชนเดือนตุลา รวมถึงนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย องค์กรพัฒนาเอกชน ราษฎรอาวุโส
ล้วนใช้เป็นเหตุผลดาหน้ากันออกมาสนับสนุนรัฐประหารกันอย่างครึกครื้นและไร้ยางอาย แม้แต่พวกปัญญาชนตีสองหน้า
โดยเฉพาะนักวิชาการอาวุโสบางคนด้านประวัติศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ก็ยังใช้ตรรกะดังกล่าวมาแก้ตัวว่า
“ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร แต่ถึงอย่างไร รัฐประหารยังเลวน้อยกว่าระบอบทักษิณ”
อัปลักษณ์ทางตรรกะมาถึงจุดสูงสุดในปัจจุบัน เมื่อเราได้เห็นบทความ คอลัมน์หนังสือพิมพ์ และการเสวนาอภิปรายของคอลัมนิสต์
นักวิชาการ และราษฎรอาวุโส ที่ทำตัวเป็นทนายแก้ต่างให้กับเผด็จการ พากันสาธยายว่า บัดนี้ ได้เกิดปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดขึ้นในการเมืองไทยแล้วคือ
ระบอบรัฐประหารของคณะทหารที่มีปืนอยู่ในมือและปกครองด้วยประกาศ คำสั่งและกฎอัยการศึกในขณะนี้ กลับ ‘สุภาพอ่อนโยน’ ไม่เป็นเผด็จการ คุมระบบราชการไม่ได้
และไม่สามารถใช้อำนาจรุนแรงเด็ดขาดได้เท่ากับ ‘ระบอบทักษิณ’ ที่เป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จได้ทั้งๆ ที่มีรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ มากมาย นี่แหละคือข้อพิสูจน์ว่า
กลุ่มทุนการเมืองนั้นแยบยลและเลวร้ายเพียงใดเพราะ ‘สามารถเป็นเผด็จการได้ด้วยการเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย’ ฉะนั้น ระบอบรัฐประหาร 19 กันยายนจึง
‘ไม่เป็นเผด็จการ’ หากแต่เป็น ‘ประชาธิปไตยปฏิรูป’ หรืออย่างมากก็เป็นแค่ ‘เผด็จการครึ่งใบ’
คนที่อ้างว่า ‘รัฐประหารเลวน้อยกว่าระบอบทักษิณ’ ก็เพื่อผัดหน้าทาแป้ง ปกปิดใบหน้าปีศาจของระบอบเผด็จการทหาร คนพวกนี้มีทัศนะ แนวคิด
และมาตรฐานประชาธิปไตยที่บิดเบือนกลับตาลปัตรอย่างแท้จริง เพราะภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลไทยรักไทยเป็นเวลา 5 ปี
แม้จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่เป็นประชาธิปไตยในมาตรฐานสูงเท่าประเทศที่เจริญแล้ว แต่ก็พอจะถือได้ว่า ‘เป็นประชาธิปไตยค่อนข้างมาก’
สำหรับการเมืองไทยตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา อันเนื่องมาจากคุณลักษณะที่ก้าวหน้าของรัฐธรรมนูญ 2540 จริงอยู่ว่า ผู้นำรัฐบาลและนักการเมืองฝ่ายบริหาร
มีอำนาจมาก คุมรัฐสภาผ่านการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากที่เหนียวแน่น มีอิทธิพลสูงต่อองค์กรอิสระผ่านวุฒิสภา ทั้งดำเนินมาตรการบางอย่างที่หมิ่นเหม่ต่อประชาธิปไตย
(เช่น สงครามปราบยาเสพติด) แต่สถาบันการเมืองประชาธิปไตยส่วนใหญ่ก็ยังคงทำงานต่อไปได้ และยังสามารถทำการตรวจสอบถ่วงดุลได้ระดับหนึ่ง
รวมทั้งยังมีพรรคฝ่ายค้าน สื่อมวลชนอิสระ ตลอดจนสถาบันตุลาการที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจของรัฐบาล
แต่การยอมรับว่า ‘สถาบันการเมืองประชาธิปไตยถูกกระทบกระเทือนและหมิ่นเหม่’ นั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับการสรุปว่า
‘รัฐธรรมนูญและสถาบันการเมืองประชาธิปไตยถูกทำลายไปแล้ว’ เราจึงได้เห็นสื่อสารมวลชนทุกแขนง แม้แต่สื่อของรัฐเอง
ต่างรุมโจมตีรัฐบาลไทยรักไทยได้ต่อเนื่องยาวนาน มีการชุมนุมประท้วงที่ล่วงละเมิดกฎหมายและสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นมากที่สุด
ทั้งยั่วยุด่าทอ และท้าทายให้เกิดความรุนแรงที่ยืดเยื้อยาวนาน โดยที่รัฐบาลไทยรักไทยตกเป็นฝ่ายรับและไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย
นี่ละหรือ ‘ระบอบทักษิณ’ ที่เป็นเผด็จการทรราชเบ็ดเสร็จจากขุมนรก!
วาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ ยังบิดเบือนเนื้อแท้ของระบบการเมืองไทยก่อน 19 กันยายนให้เป็นระบบการเมืองที่นักการเมืองและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทั้งที่ความจริงแล้ว แม้แต่ระบอบรัฐธรรมนูญ 2540 ในท้ายสุด ก็ยังเป็นเพียงเปลือกนอกของระบอบอำนาจนิยมแฝงเร้นของพวกจารีตนิยม
ที่ยึดกุมอำนาจรัฐจริงมาตั้งแต่รัฐประหาร16 กันยายน 2500 โดยมีเปลือกนอกสลับกันเป็นช่วงๆ ระหว่างเผด็จการทหารกับการเมืองแบบเลือกตั้งเท่านั้น
เพียงแต่ว่า ในช่วง 4 ปีแรกของรัฐบาลไทยรักไทย อำนาจของพวกจารีตนิยมได้แฝงเร้นมากขึ้นและปล่อยให้รัฐธรรมนูญ 2540 ได้แสดงผลสะเทือนทางประชาธิปไตย
ออกมาได้ระดับหนึ่ง แต่ในที่สุด พวกจารีตนิยมก็ทนไม่ได้ ต้องกระโดดออกมาในที่โล่งแจ้งอีกครั้งเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549
ด้วยการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและฉีกเปลือกที่เป็นรัฐธรรมนูญ 2540 ทิ้ง
ข้อนี้เห็นได้จากความจริงที่ว่า รัฐบาลไทยรักไทยได้เริ่มสูญเสียอำนาจจริงไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2549 เมื่อกลุ่มจารีตนิยมเคลื่อนไหวอย่างลับๆ
โดยด้านหนึ่ง ก็สนับสนุนการชุมนุมประท้วงขับไล่บนท้องถนน และให้พรรคฝ่ายค้านคว่ำบาตรการเลือกตั้ง สร้างเป็นสถานการณ์วิกฤตนอกสภา
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ในระบบการเมืองและราชการ ก็เข้าแทรกแซงหน่วยงานรัฐบาล ทหารตำรวจ องค์กรอิสระ สื่อมวลชนของรัฐ
ไปจนถึงสถาบันตุลาการ ทำให้รัฐบาลไทยรักไทยเป็นอัมพาตและตายไปทีละส่วน
รัฐประหาร 19 กันยายนเป็นเพียงการตัดสายใยชีวิตการเมืองอันบอบบางที่เหลืออยู่เป็นเส้นสุดท้ายของรัฐบาลไทยรักไทยเท่านั้น
ความชั่วร้ายของวาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ ก็คือ มันปิดบังความจริงที่ว่า แท้จริงแล้ว ภายใต้ร่มเงาแห่งอำนาจแฝงเร้นของกลุ่มจารีตนิยมตั้งแต่ปี 2500 เป็นต้นมา
รัฐบาลจากการเลือกตั้งทุกชุดล้วนอ่อนแออย่างยิ่ง แม้แต่รัฐบาลไทยรักไทยซึ่งเข้มแข็งยิ่งกว่ารัฐบาลเลือกตั้งในอดีตด้วยเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ 2540
ในท้ายสุด ก็ยังอ่อนแอและไร้พลังโดยสิ้นเชิงในการต่อกรกับอำนาจจารีตนิยม
เนื้อแท้ของวาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ ยังมีนัยว่า ระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ 2540 นั่นแหละที่เป็นต้นเหตุรากเหง้าของพฤติกรรมชั่วร้ายของนักการเมือง
ผู้ประดิษฐ์และใช้วาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ จึงเป็นพวกต่อต้านประชาธิปไตยและการเมืองแบบเลือกตั้ง โดยมองว่า ประชาธิปไตยไม่ว่าที่ไหนในโลก
แม้แต่ในประเทศที่เจริญแล้ว ล้วนเลวทรามทั้งสิ้น คือผลิตแต่นักการเมืองเลวๆ ขึ้นสู่อำนาจทั้งนั้น เพราะมองไปทางไหน ประเทศใด ก็เห็นแต่นักการเมืองในลักษณะดังกล่าว
พวกนิยมวาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ จึงมีลักษณะร่วมกันคือ เกลียดชังต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกลียดชังตะวันตก ประณามระบบการเมืองประชาธิปไตยในประเทศเหล่านั้นว่า
‘จอมปลอม เป็น ‘ประชาธิปไตยสามานย์’ คนพวกนี้เชื่อในลัทธิชนชั้นผู้นำและระบอบอภิสิทธิ์ชน เชื่อว่า การเมืองต้อง ‘ให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง’ และ ‘ผู้นำต้องมีคุณธรรมจริยธรรม’
ซึ่งเอาเข้าจริงก็ล้วนคลุมเครือ เป็นอัตวิสัย และจอมปลอม เพราะในท้ายสุด ‘คนดี มีคุณธรรมจริยธรรม’ ที่สมควรมีอำนาจปกครองในความคิดของพวกเขาก็คือ พวกเขาเองนั่นแหละที่มีทั้งชาติ
วงศ์ตระกูล ทรัพย์ ภูมิปัญญา การศึกษา และ ‘คุณธรรมจริยธรรม’ เพียบพร้อม และมีจำนวนคนน้อยนิดบนสุดยอดปิรามิดของสังคม
พวกนิยมวาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ ปฏิเสธแนวคิดที่ว่า ในเมื่อผู้ปกครอง ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นนำจากตระกูลสูงส่งเพียงใด เป็นสกุลผู้ดีสืบเนื่องมานับร้อยปี
หรือสามัญชนและนักการเมืองทั่วไป ทุกชาติทุกภาษาทั่วโลก ล้วนเป็นมนุษย์ธรรมดาที่เห็นแก่ประโยชน์ตนกันทั้งนั้น ล้วนชอบใช้อำนาจ ไม่ชอบถูกตรวจสอบ
ไม่ชอบข้อจำกัดทางกฎหมาย มักเล่นพรรคเล่นพวก และมีแนวโน้มทุจริตถ้ามีโอกาส
ฉะนั้น จุดประสงค์ของการเมืองจึงไม่ใช่เป็นเรื่อง ‘ให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง’ แต่เป็นการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ
รวมถึงระบบกฎหมาย องค์กรอิสระ ตลอดจนสถาบันและประเพณีปฏิบัติทางประชาธิปไตยต่าง ๆ ตามหลักการตรวจสอบและถ่วงดุล
เพื่อเป็นกรอบจำกัดและกดดันให้ผู้ปกครองและนักการเมืองมีพฤติกรรมการใช้อำนาจไปในแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด
เราจะเห็นความบิดเบี้ยวของวาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ ได้ชัดเจนเมื่อนำตรรกะเดียวกันไปใช้ในต่างประเทศ เช่น ในสหรัฐอเมริกา เราก็จะได้วาทกรรม
‘ระบอบบุชง เพราะจอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นประธานาธิบดีที่ถูกกล่าวหาว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชนมากที่สุด ทั้งให้ดักฟังโทรศัพท์ชาวอเมริกันโดยศาลไม่รับรอง
กักขังผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายที่อ่าวกวนตานาโมนานนับปีโดยไม่ตั้งข้อกล่าวหา และมีข่าวพัวพันกับนักลอบบี้ที่ทุจริต ส่วนรองประธานาธิบดิกเชนีย์ก็ถูกกล่าวหาว่า
ทุจริตมาตั้งแต่ชนะเลือกตั้งสมัยแรก แม้ว่าพรรคเดโมแครตจะชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากในสภา ก็ยังทำอะไรบุชไม่ได้ ฉะนั้น ทางออก ‘ที่เลียงไม่ได้’
ก็คือ ต้องให้กองทัพสหรัฐฯ ออกมาก่อรัฐประหารขับไล่บุชและฉีกรัฐธรรมนูญ!? ส่วนในอังกฤษ เราก็จะมี “ระบอบแบลร์” เพราะโทนี่ แบลร์
เป็นนายกรัฐมนตรีที่ออกกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายที่ถูกหาว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชนคนอังกฤษ ใช้เสียงข้างมากในสภาผู้แทน
นำประเทศเข้าสู่สงครามอิรักโดยไม่ฟังเสียงประชามตินอกสภา ในขณะที่ภริยาก็เคยถูกกล่าวหาว่า รับประโยชน์ที่ไม่ชอบธรรม
ส่วนพรรคฝ่ายค้านก็ไร้น้ำยาเพราะพรรคแรงงานของนายแบลร์มีเสียงข้างมาก ‘เป็นเผด็จการรัฐสภา’ ฉะนั้น ทางออกคือ ต้องเรียกร้องขอ
‘นายกฯมาตรา 7’ จากพระราชินีอลิซาเบ็ธ หรือให้ฝ่ายทหารออกมาทำรัฐประหาร!?
แต่ความชั่วร้ายประการสำคัญที่สุดของวาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ คือ มันเบี่ยงเป้าบิดประเด็นไปจากต้นเหตุปัญหาที่แท้จริงของการเมืองไทย
โดยจับเอานักการเมือง รัฐธรรมนูญ 2540 และสถาบันประชาธิปไตยทั้งหมด มาผสมปนเปกันเข้าแล้วขึงพืดขึ้นบนตะแลงแกง ให้เป็นเป้าของการด่าทอ
ทุบทรมาน โบยตี ฟันแทงต่างๆ ด้วยความเคียดแค้นเกลียดชัง ให้ผู้คนเข้าใจว่า นี่แหละคือต้นเหตุแห่งความฉิบหายทางการเมืองตลอดหลายปีมานี้
ทั้งที่ต้นเหตุปัญหาที่แท้จริงของการเมืองไทยคือ พวกจารีตนิยม ซึ่งผูกขาดแกนในอำนาจรัฐมายาวนานตั้งแต่ปี 2500 ถึงปัจจุบัน เป็นรากเหง้าของรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่า
ตลอดหลายสิบปีมานี้ และเป็นอำนาจแฝงเร้นที่ขัดขวาง กัดเซาะ และบ่อนทำลายประชาธิปไตย
ทำให้รัฐธรรมนูญและสถาบันการเมืองประชาธิปไตยอ่อนแอ ขี้โรค ไม่พัฒนา และถูกทำลายได้ง่ายตลอดมา
PM Thaksin! You’ll Never Walk alone.
http://thaksin.wordpress.com/
#85
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:20
ผมไม่ถามมากนะ
แต่ อ ที่คุณยกบทความมาแกสอนเศรษฐศาสตร์
คุณเข้าใจความต่างระหว่างเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ไหม?
#87
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:36
ระบอบทักษิณ 8 คน ก็ตอบไปแปดอย่าง ไม่ได้ฟังมาจากในทำเนียบด้วยกันเรอะเนี้ยฮ้าฟ
คนมีสมองของตัวเองเขาก็ตอบตามความเข้าใจของตัวเอง ไม่ต้องให้ใครจูงจมูก
ส่วนบทความข้างบน ไปก๊อปใคร คิดเองไม่เป็นหรือ สมกับเป็นเสื้อแดงจริงๆ
#88
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:51
‘ระบอบทักษิณ"
รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
"มีนักการเมืองชนะเลือกตั้งเข้ามาเกาะกุมระบบการเมืองแล้วใช้อำนาจไปทำลายประชาธิปไตย ละเมิดรัฐธรรมนูญและสิทธิมนุษยชน
แทรกแซงองค์กรอิสระ ทำให้กลไกตรวจสอบถ่วงดุลไม่ทำงาน
รวมถึงการซื้อเสียงหลอกลวงประชาชน และนโยบายเศรษฐกิจแบบเบ็ดเสร็จที่กอบโกยประโยชน์เข้าสู่พวกตน
ผลก็คือ แม้จะยังมีรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งแต่ทั้งหมดก็ถูกนักการเมืองครอบงำอย่างเบ็ดเสร็จ
ฉะนั้น ทั้งประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ‘ได้ถูกทำลาย’ หรือ ‘ถูกรัฐประหารโดยทักษิณ’ ไปนานแล้วก่อนวันที่ 19 กันยายน
ระบอบการเมืองที่ว่านี้แหละ ที่เรียกว่า ‘ระบอบทักษิณ’
PM Thaksin! You’ll Never Walk alone.
แน่นอน..PM(Pret (เปรต) Manager) Thaksin ไม่โดดเดี่ยวแน่ เพราะจะมี pret ตามขอส่วนบุญเป็นพรวน
"ทำดี(ผู้อื่น)เห็นผลช้า"
#89
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 10:54
ไม่เข้าใจความแตกต่างอ่ะครับ รู้แค่ เศรษฐศาสตร์ กับ รัฐศาสตร์ เขียนและสระกดไม่เหมือนกันอ่ะ
เชิญท่าน sigree ชี้แนะ จะรับฟังอย่างตั้งใจ....
ไม่เห็นท่านหลายวัน ตามัวๆ ขี้ไม่ค่อยออก บอกจะมาทำให้เราตาสว่าง ไม่เห็นหัวเห็นหางเรยนะท่าน
ไม่ต้องไปรู้มันไอ้ชื่่อเรียกยากๆเกินความต้องการของเราคนเสื้อแดง
เอาแค่ประชาธิปไตยพอ เรื่องถนัด แค่นี้ สลิ่ม โกเต๊ก ยังตามัว ขี้ไม่ออกอยู่นะท่าน
#90
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:09
งั้นก็ระดับความรู้ เลวร้ายกว่าที่คิดมาก ผมไม่ได้สอนด้านนี้ แต่ขอบคุณที่บอกว่าไม่เข้าใจความแตกต่างอ่ะครับ รู้แค่ เศรษฐศาสตร์ กับ รัฐศาสตร์ เขียนและสระกดไม่เหมือนกันอ่ะ
เชิญท่าน sigree ชี้แนะ จะรับฟังอย่างตั้งใจ....
ไม่รู้
แปลกดีที่คนไม่รู้ดันไปตำหนิคนที่รู้ว่าไม่เข้าใจระบบนี้
#91
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:13
ช่วงนี้หาเวลามาเล่นไม่ค่อยได้ จมน้ำอยู่ ข้อมูล ความรู้ ถูกกระแสน้ำพัดพาหายไปกว่าครึ่ง ช่วงที่หายไป...
ไม่ได้พอกพูนงอกเงยความรู้เสริมเพิ่มเลย ต้องใช้ของเก่าหายกินไปพลางๆก่อน
http://forum.seritha...t=32006#p564899
#92
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:15
kwun เอาหลักการของระบอบ"ประชาธิปไตย"อย่างง่ายๆไปศึกษาก่อน แค่4-5 หน้าเอง
ช่วงนี้หาเวลามาเล่นไม่ค่อยได้ จมน้ำอยู่ ข้อมูล ความรู้ ถูกกระแสน้ำพัดพาหายไปกว่าครึ่ง ช่วงที่หายไป...
ไม่ได้พอกพูนงอกเงยความรู้เสริมเพิ่มเลย ต้องใช้ของเก่าหายกินไปพลางๆก่อน
http://forum.seritha...t=32006#p564899
ชื่อนายเวร มันเน่ามากขนาดต้องเปลี่ยนชื่อเลยหรือ?
แต่เปลี่ยนชื่อแต่ความโง่ไม่เคยเปลี่ยน
#93
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:23
งั้นก็ระดับความรู้ เลวร้ายกว่าที่คิดมาก ผมไม่ได้สอนด้านนี้ แต่ขอบคุณที่บอกว่า
ไม่เข้าใจความแตกต่างอ่ะครับ รู้แค่ เศรษฐศาสตร์ กับ รัฐศาสตร์ เขียนและสระกดไม่เหมือนกันอ่ะ
เชิญท่าน sigree ชี้แนะ จะรับฟังอย่างตั้งใจ....
ไม่รู้
แปลกดีที่คนไม่รู้ดันไปตำหนิคนที่รู้ว่าไม่เข้าใจระบบนี้
ผมอ่านในหนังสือของ รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ช่วงแรกๆแกก็เขียนเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์
พอเกิดการรัฐประหาร แกก็หันมาเน้นเขียนเรื่องเกี่ยวกับการเมืองโดยตรง ลงในประชาไท และประชาทรรศน์(หนังสือพิมพ์)
ผมว่าท่านก็เขียนเนื้อหาดีเยี่ยมเข้าใจง่ายเลยทีเดียว หนังสือชื่อ การกลับมาของ อำมาตยาธิปไตย อะไรประมาณนี้ล่ะ
#94
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:30
kwun เอาหลักการของระบอบ"ประชาธิปไตย"อย่างง่ายๆไปศึกษาก่อน แค่4-5 หน้าเอง
ช่วงนี้หาเวลามาเล่นไม่ค่อยได้ จมน้ำอยู่ ข้อมูล ความรู้ ถูกกระแสน้ำพัดพาหายไปกว่าครึ่ง ช่วงที่หายไป...
ไม่ได้พอกพูนงอกเงยความรู้เสริมเพิ่มเลย ต้องใช้ของเก่าหายกินไปพลางๆก่อน
http://forum.seritha...t=32006#p564899
โอเคๆ จะอ่านก่อน คงได้คุยกะท่านนะ
วิทยากร นี่แต่ดั้งเดิม ก็ใสๆดีนะ เด๋วนี้ไม่รู้ว่าเจ๋งขึันมากแค่ไหน
เรื่องประชาธิปไตยนี่ สนุกนะ แขก ฝรั่ง จีน เวียต เขมร ลากไปลากมา จนเละเทะ ดูสำส่อนจัง
#95
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:32
kwun เอาหลักการของระบอบ"ประชาธิปไตย"อย่างง่ายๆไปศึกษาก่อน แค่4-5 หน้าเอง
ช่วงนี้หาเวลามาเล่นไม่ค่อยได้ จมน้ำอยู่ ข้อมูล ความรู้ ถูกกระแสน้ำพัดพาหายไปกว่าครึ่ง ช่วงที่หายไป...
ไม่ได้พอกพูนงอกเงยความรู้เสริมเพิ่มเลย ต้องใช้ของเก่าหายกินไปพลางๆก่อน
http://forum.seritha...t=32006#p564899
ชื่อนายเวร มันเน่ามากขนาดต้องเปลี่ยนชื่อเลยหรือ?
แต่เปลี่ยนชื่อแต่ความโง่ไม่เคยเปลี่ยน
เน่าอะไรกันครับ เห็นๆมีแต่ นายเวร ไล่กวาดล้างเหลืองเกรียน ซะป่าราบ สาบสูญ
แกก็เคยโดน ยังไม่เข็ด ชิมิ ไหนบอกไม่อยากเข้าเว็บเพราะมีข้าป่วน ที่แท้ก็โดนข้าไล่เบี้ย กระทู้ที่แกใส่ร้ายเค้า
http://forum.seritha...php?f=2&t=32813
ที่เปลี่ยนชื่อบ่อยๆ เพราะถูกแบนถาวรหมดเว้ย ถามม็อดโน้น ทำไมแบนได้แบนดีจัง
ปล... ผมเปลี่ยนนิสัยแล้วครับท่านผู้ดูแล ไว้ใจได้
#96
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:46
งั้นตกลงคุณรู้หรือไม่รู้ในความต่างของ เสรษฐศาสตร์ และ รัฐศาสตร์
งั้นก็ระดับความรู้ เลวร้ายกว่าที่คิดมาก ผมไม่ได้สอนด้านนี้ แต่ขอบคุณที่บอกว่า
ไม่เข้าใจความแตกต่างอ่ะครับ รู้แค่ เศรษฐศาสตร์ กับ รัฐศาสตร์ เขียนและสระกดไม่เหมือนกันอ่ะ
เชิญท่าน sigree ชี้แนะ จะรับฟังอย่างตั้งใจ....
ไม่รู้
แปลกดีที่คนไม่รู้ดันไปตำหนิคนที่รู้ว่าไม่เข้าใจระบบนี้
ผมอ่านในหนังสือของ รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ช่วงแรกๆแกก็เขียนเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์
พอเกิดการรัฐประหาร แกก็หันมาเน้นเขียนเรื่องเกี่ยวกับการเมืองโดยตรง ลงในประชาไท และประชาทรรศน์(หนังสือพิมพ์)
ผมว่าท่านก็เขียนเนื้อหาดีเยี่ยมเข้าใจง่ายเลยทีเดียว หนังสือชื่อ การกลับมาของ อำมาตยาธิปไตย อะไรประมาณนี้ล่ะ
คุณบอกว่าแกเขียน เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ คุณรู้ได้ไงเขียนเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์จริงๆ
หรือคุณรู้จักมัน?
ผมถามง่ายๆ เรียบง่ายว่าคุณรู้ความต่างมันไหม
จะคุยลึกคุยได้ แต่คุณรู้จริงในสิ่งที่นำมาไหม?
ตอบง่ายๆ ทั้ง 2 อย่างคืออะไร ต่างยังไง
#97
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 11:55
ส่วน รัฐศาสตร์ มันเกี่ยวกับ การเมืองการปกครอง เอาตามความรู้เดิมผม
คุยลึกก็คุยเกี่ยวกับ วาทกรรม ระบอบทักษิณ นะครับ
#98
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 12:25
คำตอบของคุณแสดงว่าคุณรู้น้อยมากเรื่องเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์มีเรื่องเงินๆทองๆเป็นส่วนประกอบ แต่ขอบเขตมันกว้างกว่านั้นเศรษฐศาสตร์ มันเกี่ยวกับ เศรษฐกิจ ตัวเลข เรื่องเงินๆทองๆนี่ล่ะ
ส่วน รัฐศาสตร์ มันเกี่ยวกับ การเมืองการปกครอง เอาตามความรู้เดิมผม
คุยลึกก็คุยเกี่ยวกับ วาทกรรม ระบอบทักษิณ นะครับ
ดีครับ เข้าใจง่ายดีว่าคุณทราบระดับไหน
บทความที่คุณยกมา ในย่อหน้าที่ 2
คำว่า ‘ระบอบทักษิณ’ ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิชาการรัฐศาสตร์-คอลัมนิสต์ที่เป็นพวกขวาจัด อิงแอบอยู่กับสถาบันจารีตประเพณีมาต่อต้านประชาธิปไตย
ปฏิเสธทุนนิยม และต่อต้านโลกาภิวัฒน์ วาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ เป็นการจงใจผสมปนเปทางความคิดด้วยการจับเอาระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ 2540
คำว่า ทุนนิยม เป็นหนึ่งในคำที่อธิบายสภาพเศรษฐกิจ ระบบเศรษฐกิจแบบเสรี
คุณกำลังอ่านนิยมคำว่า ระบบทักษิณ ในมุมมองแบบเศรษฐศาสตร์ครับ
หากคุณไปถาม นักนิติศาสตร์และนักกฏหมาย คุณจะได้อีกนิยมหนึ่ง ในมุมเดียวกันหากคุณไปหาอ่านบทความนักรัฐศาสตร์ และ นักสังคมวิทยาคุณก็จะได้นิยามอีกนิยามหนึ่ง แม้แต่ในมุมนักบริหารก็จะอีกนิยาม
แต่ทั้งหมด อ้างอิงสภาพประเทศในช่วงที่ทักษิณดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น
การอ้างอิงจากมุมหนึ่งว่าถูกที่สุด จึงเป็นการมองเพียงมุมหรือด้านเดียว
จะว่าไปด้านเดียวที่คุณอ้างคือเศรษฐศาสตร์ คุณก็ยังเข้าใจมันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
วาทะกรรม ระบอบ ทักษิร เกิดนานกว่าการทำรัฐประหาร
กรณี ยายไฮ เองก็เป็นหนึ่งในจุดเริ่มของคำว่า ระบอบทักษิณ
เพราะยายไฮ ได้ที่คืนจากคำของทักษิณ ปราศจากขั้นตอน กระบวนการทางกฏหมาย แค่คำสั่งทักษิณ
จะว่าไปไม่ได้มีการประเมินเสียด้วยว่าการเสียเขื่อนไป เสียงบประมาณไปเท่าไหร่ ไม่มีการเอาผิดคนที่ทำเขื่อนด้วย
กรณีนี้พูดกันเยอะมาก และเป็นที่มาของวาทะกรรมถึงการบริหารประเทศของเขา
#99
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 14:04
kwun เอาหลักการของระบอบ"ประชาธิปไตย"อย่างง่ายๆไปศึกษาก่อน แค่4-5 หน้าเอง
ช่วงนี้หาเวลามาเล่นไม่ค่อยได้ จมน้ำอยู่ ข้อมูล ความรู้ ถูกกระแสน้ำพัดพาหายไปกว่าครึ่ง ช่วงที่หายไป...
ไม่ได้พอกพูนงอกเงยความรู้เสริมเพิ่มเลย ต้องใช้ของเก่าหายกินไปพลางๆก่อน
http://forum.seritha...t=32006#p564899
ชื่อนายเวร มันเน่ามากขนาดต้องเปลี่ยนชื่อเลยหรือ?
แต่เปลี่ยนชื่อแต่ความโง่ไม่เคยเปลี่ยน
เน่าอะไรกันครับ เห็นๆมีแต่ นายเวร ไล่กวาดล้างเหลืองเกรียน ซะป่าราบ สาบสูญ
แกก็เคยโดน ยังไม่เข็ด ชิมิ ไหนบอกไม่อยากเข้าเว็บเพราะมีข้าป่วน ที่แท้ก็โดนข้าไล่เบี้ย กระทู้ที่แกใส่ร้ายเค้า
http://forum.seritha...php?f=2&t=32813
ที่เปลี่ยนชื่อบ่อยๆ เพราะถูกแบนถาวรหมดเว้ย ถามม็อดโน้น ทำไมแบนได้แบนดีจัง
ปล... ผมเปลี่ยนนิสัยแล้วครับท่านผู้ดูแล ไว้ใจได้
ไอ้เวร เปลี่ยนเป็นนิสัยเลวกว่าเดิมนะไม่ว่า
คดียิง RPG ใส่วัดพระแก้วนี่ แดงแท้นะโว๊ย แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเสื้อแดงมันมีอาวุธสงครามจริงๆ
#100
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 14:26