ไฟใต้มันสงบไปตั้งแต่ "นโยบายใต้ร่มเย็น" ของท่านแม่ทัพหาญ ลีนานนท์แล้วครับ หลังจากนั้นไม่ว่าใครจะมาเป้นรัฐบาล ถึงจะมีการพยายามสร้างสถาณการณ์บ้าง แต่ก็ไม่มีเหตุต้องฆ่ากันตาย มีเพียงแอบเผาโรงเรียนบ้าง ลอบถอดหมุดรางรถไฟบ้าง ฯลฯ
มากลับรุนแรงเอาอีกครั้งก็ตอนที่มี ไอ้ สัตว์ นรก บางตัว ประกาศนโยบายคิดใหม่ทำใหม่ คิดอัปปรีย์ ทำ*** ไม่ว่าจะเป็นประกาศสงครามปรามยาเสพติดในปี 2546 (เพราะลูกบังเกิดเกล้าของมันติดยา) หรือการพยายามล้างบางพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามออกจากภาคใต้ และการพยายามสถาปนารัฐตำรวจอัปปรียื***ขึ้นมาในสามจังหวัดชายแดนใต้ ฯลฯ ตั้งแต่นั้นนั้นมาภาคใต้ก้ระเบิดกันวินาศสันตะโรเรื่อยมา
27 มีนาคม 2545
พล.อ.หาญ ลีนานนท์ ส.ว.สตูล ประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาความมั่นคงในจังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า แนวคิดในการแก้ปัญหาภาคใต้กองทัพไม่มีบทบาทสำคัญเหมือนยุคสงครามเย็นแล้ว ดังนั้นข้อเสนอที่จะให้ยุบ พตท.43 ตนเห็นด้วย ส่วนปัญหาภาคใต้เคยพูดนานแล้วว่าต้องให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมในการเลือก ผวจ.เข้ามาดำรงตำแหน่งใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรงนี้อาจจะใช้วิธีการสรรหาโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย อาจตั้งตัวเลือกคนที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ4-5คนแล้วให้ประชาชนในพื้นที่เลือก
"ตราบใดที่ยังไม่มีเอกภาพในหน่วย พตท.43 ตนเห็นด้วยที่จะยุบ จะได้รู้ว่าปัญหารากเหง้าที่แท้จริงอยู่งไหน เมื่อตำรวจจะขอเข้าไปดูก็อยากให้บรรจุคนดีๆเข้าไปทำงานในพื้นที่เหล่านั้น กลไกของรัฐคือเจ้าหน้าที่จะต้องจริงใจกับชาวบ้านในพื้นที่ สมัยที่ตนเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ใช้วิธีนี้ชาวบ้านจะบอกการข่าวให้ทหารเกือบทั้งหมด"อดีตแม่ทัพภาค 4 กล่าวทิ้งท้าย
ผมให้น้ำหนักไปที่การวางระเบิดสถานีรถไฟหาดใหญ่ครั้งแรก เมื่อ 2544 มากที่สุด
เหตุการณ์นี้เสมือนการทดสอบอำนาจการก่อการร้ายของขบวนการ
-------------------
เหตุระเบิดที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่
ข่าวราชการ มติคณะรัฐมนตรี -- อังคารที่ 10 เมษายน 2544 17:00:24 น.
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่สรุปได้ดังนี้
1. ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
วันที่ 7 เมษายน 2544 เวลา 14.26 น. ได้เกิดเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่บริเวณหน้าห้องประชาสัมพันธ์ แรงระเบิดเกิดเป็นหลุมลึกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 60 เซนติเมตร ลึก 20 เซนติเมตร ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่มีผู้โดยสารกำลังรอขึ้นขบวนรถเร็วที่ 172 เดินระหว่างสถานีสุไหงโกลก - สถานีกรุงเทพ ที่จะเข้าสู่สถานี
2. ความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือ
2.1 มีผู้โดยสารเสียชีวิต จำนวน 1 ราย บาดเจ็บ 38 ราย (พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย 5 ราย/ผู้โดยสาร 33 ราย) ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ดังนี้
- ผู้เสียชีวิต : ช่วยเหลือค่าจัดงานศพ 75,000 บาท/ราย
- ผู้ได้รับบาดเจ็บ : ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด รวมทั้งการเยี่ยมเยียนเพื่อให้ขวัญและกำลังใจ
2.2 จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นภายในอาคารและชานชาลาสถานีรถไฟหาดใหญ่ ปรากฏว่าได้รับความเสียหายประมาณการเป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท
3. มาตรการป้องกัน มีดังนี้
3.1 เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา โดยอาศัยความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการเตือนภัยจากฝ่ายบ้านเมืองในรูปของการข่าว
3.2 พิจารณากำหนดมาตรการป้องกันที่เป็นรูปธรรมขึ้น โดยจะพิจารณาติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิดสำหรับสถานีรถไฟหลักทั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการที่สถานีรถไฟในเขตภาคใต้ โดยเฉพาะสถานีรถไฟที่มีประวัติถูกลอบวางระเบิดบ่อยครั้ง และสถานีรถไฟสำคัญ ๆ ก่อน เช่น สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีรถไฟหาดใหญ่ และสถานีรถไฟสุไหง-โกลก เป็นต้น ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะได้ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาดำเนินกาารในเรื่องนี้ต่อไป นอกจากนี้จะได้พิจารณาติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิดในบริเวณที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งหลักของประเทศด้วย เช่น ท่าอากาศยานและสถานีขนส่งต่าง ๆ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 10 เม.ย.2544
http://www.ryt9.com/s/cabt/269713
25xx -> 2546 ปรับเปลี่ยนยุทธ์ >>> ซ่องสุม >>> ฝึกอาวุธ >>> ทดสอบ >>> 2547 ก่อการร้าย
ส่วนของผมให้น้ำหนักกับการฆ่าตัดตอนยาเสพติดแบบมั่วๆของไอ้แม้วโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติะรรม ที่ทำให้เกิดรอยแค้นกับคนในพื้นที่ ก่อเกิดการขยายแนวร่วมในพื้นที่ นำไปสู่การปล้นปืนที่ทำให้ไอ้แม้วเสียหน้ามาก แล้วไอ้แม้วก็ตอบโต้ด้วยวาทะโจรกระจอก ตามมาด้วยด้วยเหตุการตากใบ-กรือเซะ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ตากใบ-กรือเซะ คือจุดที่ไม่อาจย้อนกลับ-รอมชอมกันได้อีกระหว่างรัฐไทยกับคนแนวร่วมในพื้นที่
ผมไม่มีตัวเลขการฆ่าของตำรวจในภาคใต้เลย
แต่แปลกที่ฆ่าทั้งประเทศ ทำไมมาแตกฝีที่ชายแดนภาคใต้แห่งเดียว
น้ำหนักตัวที่สอง ผมให้การยุบ ศอ.บต
การยุบหน่วยงานนี้ ไม่ใช่ชนวนเหตุโดยตรง แต่การโอนงานฝ่ายปราบปรามให้สันต์
นี่สิ ระเบิดลูกใหญ่ มันสร้างความเจ็บช้ำให้กับผู้ถูกกระทำ
เพราะสีกากี เป็นเหมือนแขนขาของคนนอกศาสนาที่ยื่นมาทำร้ายพี่น้องมุสลิม
ราว 2530 ผมเคยเข้าเก็บข้อมูลในสามจังหวัดภาคใต้
ความแปลกแยกนั้นมี แต่ไม่ใช่การแตกแยก
แท็กซี่วิ่งระหว่างหาดใหญ่ - ปัตตานีได้สบาย
นานๆ มีดักปล้นบ้างประปราย แต่ความรุนแรงมาจากโจรจีน ไม่ใช่มุสลิม
เทียบไปแล้วก็ไม่ต่างจากออกภาคสนามที่สุรินทร์หรือสารคาม
ที่จริงคอมมิวนิสต์อีสาน น่ากลัวกว่าโจรจีนมลายูมากมาย
2 มี.ค.45 - คนร้ายลอบวางระเบิดรถบัสสีฟ้า ทะเบียน 10-0093 สุพรรณบุรี ของบริษัทสมบูรณ์- พัฒนาทัวร์สายกรุงเทพฯ-ท่าช้าง ที่จอดอยู่เยื้องๆ ด้านหน้าโรงแรมไดอิชิ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กับรถบัส สีเหลืองจากประเทศมาเลเซีย ทะเบียน w e s 2374 ที่จอดอยู่ทางด้านทิศเหนือคนละฟากถนนกับโรงแรม ทำให้ช่วงใต้ท้องรถทั้งสองคันฉีกขาด-ร้านอาหารใกล้เคียงได้รับความเสียหาย-รถยนต์ที่จอดใกล้เคียงเสียหาย 4 คัน จากการตรวจสอบพบสายไฟ ถ่านไฟฉาย เศษชิ้นส่วนพลาสติก-เศษชิ้นส่วนนาฬิกาตกใต้ ท้องรถทั้งสองคัน สรุปผลเบื้องต้นว่าน่าจะเกิดจากการขัดแย้งผลประโยชน์ของโรงแรม-การขัดแย้ง ผลประโยชน์ของรถที่โดนระเบิดทั้ง 2 คัน เหตุผลที่ต้องเน้นหนักเรื่องความขัดแย้งเพราะที่ผ่านมาไม่ เคยปรากฏว่ามีการลอบวางระเบิดรถยนต์ และ การลอบวางระเบิดไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง ทาง พล.ต.ต.สุเทพ สุทธิวรา ผบก.ภ.สงขลา แต่งตั้งชุดเฉพาะกิจคลี่คลายคดี 2 ชุด ชุดละ 10 นาย แยกเป็น ชุดสอบสวน มี พ.ต.อ.เสรี วิไลลักษณ์ รอง ผบก.ภ.สงขลา เป็นหัวหน้าชุด และชุดสืบสวนมี พ.ต.อ.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ รอง ผบก.ภ.สงขลา เป็นหัวหน้าชุด
4 มี.ค.45 - พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ระบุการลอบวางระเบิดมองได้ 2 สาเหตุ คือขัดแย้งทางธุรกิจ และ ลองของ เมื่อรู้ว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รมว.มหาดไทย จะไปตรวจพื้นที่
5 มี.ค.45 - พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รอง ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วย ผบช.ก. ร่วมกับ ผบช.ภ.9 คลี่คลายคดีโดยเร็ว- รายงานผลให้ทราบภายใน 30 วัน
7 มี.ค.45 - พล.ต.สัมพันธ์ แจ้งเจนเวช ผบ.มณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีคำสั่งย้ายนายทหารยศพันเอกนายหนึ่ง ออกนอกพื้นที่ เนื่องจากพบว่ามีชื่อพัวพันกับบ่อนการพนันที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ
8 มี.ค.45 - พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ รอง ผบ.ตร.ระบุหลังสอบพยานแล้วเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากการชิงผลประโยชน์ระหว่างคนในเครื่องแบบ ที่เข้าไปรับรักษาความปลอดภัยโรงแรมและบริษัท ห้างร้าน และกิจการผิดกฎหมายในหาดใหญ่ ส่วนตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องทราบแล้วว่าเป็นชั้นประทวน ไม่กี่คน
11 มี.ค.45 - เจ้าหน้าที่จากกองปราบปราม-ตำรวจในพื้นที่ จ.สงขลา ตรวจค้นบ้าน จ.ส.ต.ประพันธ์ ทองมา หรือ "จ่าน้อย" สังกัดกองบัญชาการตำรวจ สันติบาล ตั้งอยู่เลขที่ 178 หมู่บ้านการ์เด้นฮิลล์ ถนนปุณณะกัณฑ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นคนสนิทของนายพลตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนาย เนื่องจากสงสัย จะมีส่วนเกี่ยวพันกับคดีลอบวางระเบิดรถบัส พบการตรวจค้นพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก ซึ่งมีทะเบียน ถูกต้อง นอกจากนี้ยังพบกระสุนปืนเอ็ม-16 และกระสุนปืนชนิดต่างๆ รวมกันกว่า 500 นัด แม็กกาซีนอาวุธปืนเอ็ม-16 จำนวน 3 อัน เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว เครื่องชอร์ตไฟฟ้า 1 อัน และการตรวจค้นที่บริษัทรักษาความปลอดภัย(รปภ.)ภาคใต้พิทักษ์กิจ ซีเคียวริตี้การ์ด จำกัด ซึ่งเป็นของ "จ่าน้อย" ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ โรงแรมไดอิชิ พบเอกสารจำนวนมาก กระสุนปืนเอ็ม-16 จำนวน 41 นัด พร้อมแม็กกาซีน 2 อัน กระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 6 นัด ซึ่ง "จ่าน้อย" ยอมรับว่าเป็นกระสุนปืนของตนเอง ส่วนหนึ่งได้จากการขอจากเพื่อนๆ บางส่วนได้จากการออกทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ไม่ได้ส่งคืนเจ้าหน้าที่จ่ากอง ในขณะที่อีกชุดหนึ่งเข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 529 และ 531 ของโรงแรมไดอิชิ ที่นายสำลี โคกาอินทร์ หรือ "เสือฝ้าย" คนสนิทของ นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย และ ส.อ.กฤษดา วังคุ้มภัย หรือ "จ่าดา" ทหารประจำกองพันสารวัตรทหารบกที่ 11 เข้าพักระหว่างเดินทางไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ "จ่าน้อย" เมื่อ 7 มี.ค.45 พบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก กระสุน 15 นัด จึงแจ้งข้อหา ส.อ.กฤษดา ในข้อหาพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดย ไม่มีเหตุอันควร จากนั้นตำรวจนำจ่าน้อย, เสือฝ้าย และจ่าดา ไปสอบปากคำที่ สภ.อ.หาดใหญ่
11 มี.ค.45 - เวลา 22.10 น.คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่สายตรวจประจำจุดตรวจบ้านลาโละ อ.รือเสาระ จ.นราธิวาส ทำให้ ด.ต.พัศดี เดชรัตน์ หัวหน้า- จุดตรวจ ได้รับบาดเจ็บ
12 มี.ค.45 - เวลา 19.30 น.คนร้ายใช้ปืนอาก้ายิงถล่มจุดตรวจหน่วยบริการประชาชน ริม ถ.บันนังสตา-เบตง เขตเทศบาล ต.เบตง อ.บันนังสตา โดย ด.ต.ปัญญา ชัยกิจ ถูกยิงที่หน้าอกซ้ายเสียชีวิต เวลา 19.50 น.คนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มป้อมยามตำรวจ ที่จุดบริการประชาชนบ้านม่วงเตี้ย หมู่ 2 บ้านคูระ ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี กระสุนถูก ส.ต.ท.ชลทิศ แดงกล้าหาญ และ ส.ต.ต.กิจษณะ สังวาลย์ เสียชีวิต และ จ.ส.ต.สามารถ ปล้องอ่อน บาดเจ็บ (เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 18 มี.ค.45) เวลา20.20 น.คนร้ายขว้างระเบิดไม่ทราบชนิดใส่จุดตรวจบ้านเจาะบาตัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา แรงระเบิดทำให้จุดตรวจ เสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เวลา 23.15 น.คนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มใส่ป้อมตำรวจ ที่อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย
13 มี.ค.45 - 19.00 น.คนร้ายใช้ปืนอาก้ายิงเข้าไปในร้านอาหารจงโภชนาของ นายวิชัย นิพนธ์รัตน์ ในตลาดดูซงยอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ทำให้ ส.ต.ท.วิรัตน์ วิชัยนาราพงศ์ ผบ.หมู่งานปราบปรามสภ.อ.จะแนะ เสียชีวิต บาดเจ็บ 2 นาย คือ ร.ต.ท.เสวก ละมั่งทอง รอง สวส.สภ.อ.จะแนะ และ ส.ต.ต.นิพนธ์ วิชัยกิจ ซึ่งทั้งหมดเพิ่งลาดตระเวนกลับมา และแวะรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย คือนายวิชัย เจ้าของร้านอาหาร และนายมะ ไม่ทราบนามสกุล เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นคนร้ายกลุ่ม เดียว กับที่ยิงตำรวจเสียชีวิต 5 ศพเมื่อวันที่ 12 มี.ค.
14 มี.ค.45 - พ.ญ.พรพิชญ์ พัฒนกุลเลิศ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นกระทู้สดถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ในระหว่างการประชุมสภาฯ เรื่องปัญหาการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐในเขต 3 ภาคใต้ โดย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ชี้แจงแทนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งเรื่อง ของยาเสพติด การจับรถจักรยานยนต์และผู้ที่ทำไม่ใช่โจรก่อการร้าย อยากให้มองเป็นเพียงโจรธรรมดาทั่วไป การมุ่งร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจถือเป็นการ ล้างแค้นและมีการสมอ้างในการปฏิบัติงาน แต่ความจริงเป็นการว่าจ้างโจรกลุ่มนี้ขึ้นมาเพื่อทำงาน
15 มี.ค.45 - พล.ต.อ.สันต์ ผบ.ตร.ว่ากรณีระเบิดรถทัวร์ที่หาดใหญ่ชัดเจนว่าเป็นความขัดแย้งทาง ด้านธุรกิจล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจบันเทิง และธุรกิจผิดกฎหมายที่เชื่อมโยงกัน รวมทั้งการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะ ขณะที่การลอบยิงตำรวจนั้นหวังผลด้านอื่นด้วย เช่น ทำให้เสียหน้า ดิสเครดิตให้เกิดการปรับย้าย กดดันให้มีการย้ายผู้บังคับบัญชาระดับสูงในภาค 9 ที่ไม่ร่วมมือกับพวกนี้ แต่เมื่อวันที่ ครม. ีมี มติเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายผู้บังคับบัญชาระดับสูงโดยไม่มีชื่อคนที่ต้องการก็สร้างสถานการณ์ทันทีเห็น ชัดเจนว่าพวกนี้ไม่พอใจ
- เวลา 20.30 น.เกิดระเบิดที่ร้านเฟื่องฟ้าคาราโอเกะ ซอย 10 ถนนหนองจิก หน้าวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ทำให้กันสาดหน้าข้าง ร้านพังลงมา จักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างร้านประมาณ 10 คัน รถกระบะ 3 คัน ได้รับความเสียหาย มีผู้ถูกเศษกระจกจากแรงระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน เวลา 21.45 น. เกิดระเบิดที่หน้าห้องอาหารในโรงแรมปาร์ควิว เขตเทศบาลนครยะลา ทำให้ป้ายร้านอาหารด้านหน้าเสียหาย กระจก ห้องอาหารแตกกระเด็นออกมาพร้อมทั้งรถจักรยานยนต์ 5 คัน และรถยนต์อีกหลายคันได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ วันเดียวกัน ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รมว.มหาดไทย เดินทางไปรับฟังรายงานสรุปที่ จ.สงขลา ระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มมีสีกลุ่มหนึ่งกับกลุ่มโจรธรรมดา ร่วมทำกันเป็นขบวนการ ประมาณ 20 คน ซึ่งกลุ่มนี้ทำธุรกิจนอกกฎหมายเรียกค่าไถ่ เรียกค่าคุ้มครอง และเป็นกลุ่มเดียวกับพวกที่ก่อคดีฆ่าตัดคอเรียกค่าไถ่ 2 ศพ พร้อมกันนี้ได้ไปตรวจจุดเกิดเหตุระเบิดที่คาราโอเกะเฟื่องฟ้าที่ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นฝีมือกลุ่มใด "กลุ่มที่ลงมือมุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเป็นหลัก การกระทำครั้งนี้เป็นการข่มขู่และจากการวิเคราะห์เชื่อว่าจะได้ตัวคนร้าย ซึ่งหลังจากนี้ผมจะเดินทางไปดูจุดเกิดเหตุที่ยะลาเลย"
16 มี.ค.45 - 15.30 น. ขณะที่กองกำลังผสมระหว่างตำรวจ ทหารนาวิกโยธิน ทหารพราน ประมาณ 45 นาย นำโดย พล.ต.ต.ธานี ทวิชศรี ผู้ช่วย ผบช.ภ.9 ออกลาดตระเวนเพื่อพิสูจน์ทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุใน 3 จังหวัดภาคใต้ ถึงบริเวณกลางทุ่งนา บ้านจำปากอ หมู่ 1 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส พบขนำหลังหนึ่งอยู่กลางทุ่งนา และมีเด็กวิ่งเล่นอยู่ห่างจากขนำประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปพูดคุยกับเด็ก ระหว่างนั้นกลุ่มคนร้าย 7 คน ที่อยู่ในขนำใช้อาวุธปืนอาก้า เอ็ม-16 และคาร์บิน ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเกิดการยิงโต้ตอบกัน พบศพผู้เสียชีวิต 3 ศพ เบื้องต้นทราบชื่อเพียงศพเดียว คือนายซอรี แซะเซ็ง หรืออาแว กอและ หัวหน้ากลุ่ม ซึ่งเป็นคนร้ายที่ต้องสงสัยว่าเชื่อมโยงกับคดียิงตำรวจเสียชีวิตในอ.สายบุรี จ.ปัตตานี และมีหมายจับเลขที่ 1/2545 คดียิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2544 รวมทั้งคดีฆ่าตัดคอตัวประกัน ส่วนอีก 2 ศพ คือ นายตอและ ดอเลาะ อายุ 30 ปี อยู่เลขที่ 91 หมู่ 1 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และนายมะดอซา ยาแม อายุ 19 ปี อยู่เลขที่ 60 หมู่ 2 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา โดยในขนำที่เกิดเหตุพบกระสอบปุ๋ยเขียนคำว่า ตันตาอิสลามปัตตานีและระเบิดแสวงเครื่องจำนวนหนึ่ง เสาวิทยุสื่อสาร
- "ร.ต.อ.ปุระชัย" กล่าวระหว่างมอบนโยบายให้กับข้าราชการใน จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ถึงสถานการณ์ในภาคใต้ว่า ขอให้ทุกฝ่ายถือว่าเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นเป็นฝีมือคนร้ายธรรมดา ไม่ใช่ฝีมือโจรก่อการร้าย เพราะตนทราบเบื้องลึกดี บางเหตุการณ์เกิดจากความขัดแย้งด้านธุรกิจ บางเรื่องเกิดจากเรื่องยาเสพติด อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นฝีมือ ขจก.กลุ่มโน้นกลุ่มนี้และขอเตือนไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังของการก่อการร้ายว่าถ้าตรวจสอบพบจะถูกดำเนินการอย่างหนัก "ระบบข้าราชการตอนนี้ต้องกำจัดกาฝากให้สิ้นซาก ไอ้พวกโจรในเครื่องแบบนี่แหละเป็นตัวป่วนสถานการณ์ใต้จนประชาชนเกิดความหวาดกลัว"
17 มี.ค.45 - ญาติที่เดินทางมาดูศพคนร้ายที่ระบุว่าชื่อ นายนาซอรี ยืนยันว่าไม่ใช่-ไม่ยอมรับศพกลับไป ขณะที่ นางมะรือเยาะ ฮามะ ที่ขอดูศพ ณ สภ.อ.บาเจะ ยืนยันว่าศพดังกล่าวเป็น นายมูสอสา และน้องชายที่หายตัวไปจากบ้านประมาณ 4-5 เดือน โดยไม่ทราบว่าไปร่วมขบวนการโจรก่อการร้าย
18 มี.ค.45 - "ปุระชัย" ให้สัมภาษณ์ว่าเท่าที่ลงไปดูพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ใช่ยุทธการ "ใบไม้ร่วง" จากการตรวจสอบพบประเด็นที่เชื่อมโยงและเกี่ยวพันกับอาวุธสงครามไม่น้อยกว่า 2 กระบอก โดย กระสุนที่พบมาจากปืนกระบอกเดียวกับที่ใช้ในเหตุการณ์ตั้งแต่ปี 2542, 2544 และ 2545 ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีในชั้นศาล มีการพิพากษายกฟ้องคดีเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2544 และได้ ติดตามว่าเกิดอะไรขึ้นจึงพบประเด็นปัญหาหลักว่าฝ่ายตำรวจบกพร่องในหน้าที่ในขั้นตอนการ เบิกความในชั้นศาล ไม่ติดตามพยานเท่าที่ควร และพยานอาจโดนข่มขู่จึงยกฟ้อง โดยเหตุการณ์ ระเบิดที่ อ.หาดใหญ่ ขณะนี้ทราบว่าใครเป็นตัวหลักในการวางระเบิดรถทัวร์ 2 คัน ส่วนเหตุการณ์ ตำรวจถูกยิงเสียชีวิตเมื่อ 13 มี.ค. มีหลักฐานเบื้องต้นทำให้เชื่อว่าเป็นการจ้างวานโดยขบวนการ ค้ายาเสพติด
- พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ-รมว.กลาโหม ว่าดูหมอมาแล้วไม่มีอะไร เรื่องนี้ไม่ใช่ขบวนการโจรก่อการร้าย อย่าไปสนใจมาก
19 มี.ค.45 - เวลา 16.00 น.คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะใช้ปืน.357 ยิงกลางหลัง ส.ต.ต.วรศักดิ์ ชำนิธุรการ อายุ 30 ปี ตำรวจ สภ.อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ขณะขี่จักรยานยนต์กลับบ้านพักในเขต ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา จนเสียชีวิต นับเป็นศพที่ 8 ในรอบเดือน มี.ค.
- เวลา 02.30 น.พบวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ในรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโนวา สีดำ จอดอยู่ในลานจอดรถ ห้องอาหารเซ็คเกิ้นแฮนด์ เยื้องโรงแรม อินเตอร์ทาวเวอร์ กลางตลาดไนท์บาซาร์ ซอยพาณิชย์ 3 เขตเทศบาลตำบล สุไหงโก-ลก หลังจากกู้ได้สำเร็จพบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบซีโฟร์(C-4) ซุกซ่อนไว้ 3 จุด คือช่องเก็บ เครื่องมือใต้เบาะนั่ง, ช่องไส้กรองอากาศ และช่องใส่น้ำมันออโตลูป น้ำหนักระเบิดจุดละ 2 ปอนด์ ห่อหุ้มด้วยดินขยายระเบิด ต่อเชื้อปะทุไฟฟ้า เชื่อมโยงไปยังนาฬิกาปลุกที่ตั้งเวลาระเบิดไว้ที่ 21.30 น. โดยใช้ถ่านไฟชนิด สี่เหลี่ยม 1 ก้อน เป็นตัวจุดเชื้อปะทุ รัศมีการทำลายประมาณ 500 เมตร โดยดินขยายระเบิดที่พบยี่ห้อซูเปอร์พาวเวอร์เจลเป็นชนิดเดียวกับ ดินขยายระเบิดที่ตรวจยึดได้จากขนำในที่เกิดเหตุปะทะกับกลุ่มขบวนการ ก่อการร้ายที่ อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.45 สันนิษฐานว่า เป็นฝีมือของคนร้ายกลุ่มเดียวกัน
20 มี.ค.45 - พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการ กอ.รมน.ระบุที่ผ่านมาข่าวด้านทหาร-ตำรวจไม่ค่อยตรงกัน ทั้งที่มี ศอ.บต.เป็นศูนย์ประสาน-งานกลาง สมัยก่อนการสั่งการและการบังคับบัญชาในพื้นที่ภาคใต้จะมีความเป็นเอกภาพ แต่เวลานี้มีการสั่งการและการบังคับบัญชาแยกกันรับผิดชอบทำให้ ขาดเอกภาพในการทำงาน ตนเห็นว่าควรปรับปรุงจุดนี้เป็นจุดแรก ส่วนการยุบกองกำลังผสมพลเรือนตำรวจทหารที่ 43 (พตท.43) จะดำเนินการเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตามจะคงหน่วยข่าวไว้แต่จะให้ทหารออกไปเสริมความมั่นคงบริเวณชายแดน และว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การกระทำของ ขจก.แต่เป็นโจรก่อ- ความไม่สงบแอบอ้างกลุ่มมูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี
- พล.ต.ต.ปรุง บุญผดุง รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล(รอง ผบช.ส.) รักษาราชการแทน ผบช.ส. มีคำสั่งที่ 44/2545 ให้ จ.ส.ต.ประพันธ์ หรือจ่าน้อยทองมา ผบ.หมู่ สำนักงานตำรวจสันติบาล ออกจากราชการไว้ก่อน หลังจาก คกก.สอบสวนเห็นว่ามีความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ กรณี ตำรวจตรวจค้นคฤหาสน์หรูราคา 4 ล้านบาท ในหมู่บ้านการ์เดนฮิลล์ และบริษัทรักษาความปลอดภัยของ จ.ส.ต.ประพันธ์ ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื่อง จากสงสัยว่าจะมีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีวางระเบิดรถทัวร์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งการตรวจค้นพบเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจ อนุญาตให้มีและใช้ได้
21 มี.ค.45 - คนร้ายใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะใช้ปืนขนาด .357 ยิง นายรุ่งโรจน์ อำภาพร อายุ 30 ปี อาจารย์ 1 ระดับ 4 โรงเรียนบ้านบูเก๊ะตาโมง หมู่ 12 ต.ปูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านยานิง หมู่ 1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง มาตามถนนจารุเสถียร มุ่งหน้าไปโรงเรียน จำนวน 5 นัดซ้อน กระสุนเข้ากลางหลัง 3 นัด แขนซ้ายและขวาอีกข้างละ 1 นัด เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง นายรุ่งโรจน์เสียชีวิตทันที ผลการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปว่าการเสียชีวิตมาจากเรื่องส่วนตัว เพราะนายรุ่งโรจน์มีนิสัยเจ้าชู้ ชอบเล่นการพนัน-มีหนี้สิน ไม่ใช่การกระทำของ ขจก.
22 มี.ค.45 - นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงวิธีการแก้ปัญหาภาคใต้ว่าฝ่ายปราบปราม ฝ่ายพัฒนา และประชาชนต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะกองบัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหาร(พตท.) ที่ 43 ถือว่าเป็นประโยชน์หากมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน หน่วยทหารไม่ได้เป็น อุปสรรคในการแก้ปัญหา แต่จะเป็นประโยชน์เพราะสามารถหาข่าวได้ดีกว่าฝ่ายอื่น
- พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมต.ประจำสำนักนายกฯ ระบุเห็นด้วยกับการยุบ พตท.ที่ 43 และ ให้อำนาจเบ็ดเสร็จกับ ผบช.ภ.9 ในการดูแลสถานการณ์ภาคใต้ ในขณะที่ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.ว่าปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไป เพราะมีกองทัพภาค มี ศอ.บต. มีตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จึงน่า จะจัดโครงข่ายใหม่ ซึ่งการทำงานของตำรวจในภาคใต้ต้องทุ่มเทมากขึ้น เสียสละชีวิตมากขึ้น เพื่อความ สงบสุขของบ้านเมืองก็ต้องยอม และว่าได้สั่งตั้งศูนย์บัญชาการขึ้นมาควบคุมดูแล มี พล.ตอ.โกวิท วัฒนะ รอง ผบ.ตร.ปป.1 เป็นหัวหน้าศูนย์ ร่วมกับ พล.ต.ท.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ปป.11 พล.ต.ท.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบช.ส. พล.ต.ท.ธวัชชัย จุลสุคนธ์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.สาโรจน์ ปัญญา ผบช.ตชด. เป็นผู้ช่วยศูนย์ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
- ที่ประชุมสมาพันธ์ครู จ.นราธิวาส และชมรมครู อ.ระแงะ มีมติให้ครูในสังกัด สปอ.ระแงะ 41 แห่ง และ สปอ.เจาะไอร้อง 16 แห่ง รวม 57 แห่ง หยุด สอนไม่มีกำหนด-ให้สมาพันธ์ครู จ.นราธิวาส เรียกประชุมครูทั้งจังหวัดเพื่อหาข้อยุติ
- เวลา 21.00 น.เกิดระเบิดในสวนยางพารา บ้านปาเซ หมู่ที่ 7 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้ จ.ส.อ.เจตน์ บำรุงกุล อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยลาดตระเวนระยะไกลที่ 5 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร (ค่ายบางปะกง) อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับบาดเจ็บนิ้วมือขวาขาด 3 นิ้ว หน้าอกถูกสะเก็ดระเบิด 1 แผล
23 มี.ค.45 - พล.ต.ต.เจตนากร นภีตะภัฏ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส สั่งการให้ พ.ต.อ.วิทยเดช วรดิลก ผกก.สภ.อ.เมือง นราธิวาส พ.ต.ต.กัมพล พลภักดี สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง นราธิวาส และ ร.ต.ท.ทรงพล จุ๊ยมณี ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส สอบปากคำ จ.ส.อ.เจตน์ ที่ถูกระเบิดในสวนยางพารา ให้การว่ารับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด ก่อนเกิดเหตุถูกคนร้ายจับกุมตัวประกันใช้ผ้าดำปิดตา แล้วยัดระเบิดเอ็ม-67 ใส่มือหวังสังหาร แต่ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่นิ้วมือนิ้วขาด
- "ร.ต.อ.ปุระชัย" ว่าสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งในอดีตและปัจจุบันได้รวบรวมพยานหลักฐานมากว่า 1 ปี ยังไม่พบหลักฐานใดยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้นมีขบวนการก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนมาเกี่ยวข้อง ส่วนการโยกย้ายข้าราชการ ในพื้นที่จะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้หรือไม่ เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการการปกครอง ทางผู้บังคับบัญชาสามารถทำได้ เพื่อ รอผลการสืบสวนให้ชัดเจนเสียก่อน หากไม่มีการโยกย้ายอาจทำให้ผู้ถูกกล่าวหาไปทำลายพยานหลักฐานในเรื่องที่เกิดขึ้นได้
24 มี.ค.45 - พ.ต.ต.กัมพล พลภักดี สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองนราธิวาส และ ร.ต.ท.ทรงพล จุ๋ยมณี ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ ตรวจจุดเกิดเหตุที่ระเบิดใน สวนยางพารา ปรากฎว่าไม่พบสะเก็ดระเบิด ทาง พล.ต.ต.เจตนากร นะภีตะภัฎ ผบก.ภ.ยะลา จึงสั่งให้พนักงานสอบสวนส่งเสื้อผ้า จ.ส.อ.เจตน์ ที่ใส่ วันเกิดเหตุให้กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจเขม่าดินระเบิดว่าเป็นชนิดใด
26 มี.ค.45 - พล.ต.อ.สันต์ ยืนยันว่าหากมอบหมายให้ บช.ภ.9 รับผิดชอบหน่วยงานเดียวในภาคใต้ โดยไม่ต้องมี พตท.ที่ 43 จะทำให้การดูแลมี ประสิทธิภาพขึ้น เพียงแต่ต้องขออำนาจในการเข้าถึงพื้นที่
27 มี.ค.45 - พล.อ.หาญ ลีนานนท์ ประธาน กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาความมั่นคงในจังหวัดภาคใต้ วุฒิสภา กล่าวระหว่างประชุม กมธ.ว่าเห็นด้วยกับ แนวคิดให้ยุบ พตท.43 เพราะหากไม่ให้อำนาจหน้าที่ ทหารดำเนินการก็สมควรยุบ ส่วนปัญหาภาคใต้เห็นควรให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือก ผวจ. เข้ามาดำรงตำแหน่งใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้
29 มี.ค.45 - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.ทบ.ให้ความเห็นต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ระหว่าง ที่รัฐบาลประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.นราธิวาสว่า มีความจำเป็นที่ พตท.43 ต้องคงอยู่ต่อไปเพราะยังมีประโยชน์ โดยเสนอว่าในควรปรับบทบาท พตท.43 แทนการยุบให้หันไปดูงานด้านมวลชน, ด้านสังคมจิตวิทยา, งานพัฒนาเพื่อความมั่นคง และงานข่าวเพื่อการป้องกัน
- ตำรวจจับกุม นายอารง เจ๊ะนุ อายุ 27 ปี และนายภูรี ยามี อายุ 27ปี พร้อมของกลางปืนขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ที่อาจ เกี่ยวพันกับการสังหาร ส.ต.ท.วรศักดิ์ ชำนิธุรการ สภ.อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี โดยทั้งสองได้ประกันตัวในชั้นศาล ต่อมาผลการตรวจสอบพบว่าปืนที่ยึดได้ เป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้ยิง ส.ต.ท.วรศักดิ์ จึงออกหมายจับในคดีฆ่าตำรวจอย่างเป็นทางการ
3 เม.ย.45 - ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) มีมติปรับโครงสร้างศูนย์อำนวยการบริหาร จ.ชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยเน้นบทบาทแต่ละ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นศูนย์กลางบริหารเหมือนกับจังหวัดทั่วไป มีรูปแบบการบริหารแบบเดียวกับจังหวัดโครงการทดลองแบบบูรณาการเพื่อการ-พัฒนา (ซีอีโอ) และถ้าจังหวัดมีปัญหาขัดข้องเกิดความขีดความสามารถถึงจะให้หน่วยงานอื่นเข้าไปช่วย ส่วน พตท.43 ที่มีอยู่เดิมจะไม่ยุบ เพียงแต่ขณะนี้ ปัญหาชายแดนและการแบ่งแยกดินแดนเบาลง จึงปรับให้ไปทำงานด้านพัฒนา ดูแลเรื่องของปัญหาชายแดน การข่าว
4 เม.ย.45 - ตำรวจออกหมายจับ จ.ส.ต.ประพันธ์ ทองมา หรือจ่าน้อย สังกัดกองกำกับการตำรวจสันติบาล จ.ส.อ.ประนอม ล้อมเมือง สห.มทบ.42 และ นายมานะ ยัฆพันธ์ ทองมา ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดรถทัวร์นักท่องเที่ยว เมื่อ 2 มี.ค.
5 เม.ย.45 - ตำรวจจับกุม นายมานพ หรือสุวิทย์ ยัฆพันธุ์ อายุ 35 ปี ขณะย้อนกลับมาเยี่ยมภรรยา-บุตรที่ซอย 15 ถ.รัตนอุทิศ อ.หาดใหญ่ โดยสารภาพ ว่าได้รับการจ้างวานจาก นายสมชาย รัตนรัตน์ คนสนิท "จ่าน้อย" วงเงิน 20,000 บาท ให้นำกล่องใส่ถุงพลาสติกวางใต้ท้องรถบัส แต่ไม่ทราบว่าเป็นระเบิด เพราะนายสมชายบอกว่าเป็นกล่องยาเสพติด และว่าวางระเบิดรถบัสเพียง 1 คน ส่วนอีก 1 คันไม่ทราบว่าใครทำ
9 เม.ย.45 - เจ้าหน้าที่นำ จ.ส.อ.ประนอม ล้อมเมือง สารวัตรทหารสังกัด มทบ.42 ค่ายเสนาณรงค์ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.ต.สมพร ขัติยะ สว.ส.สภ.อ.หาดใหญ่ โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่ารู้จักกับ จ.ส.ต.ประพันธ์ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการวางระเบิดรถที่โรงแรม จากนั้นนำ จ.ส.ต.ประนอม ให้นายทหารพระธรรมนูญนำไปควบคุมที่ มทบ.42
19 เม.ย.45 - เกิดเหตุระเบิดภายในงานมหกรรมสินค้าส่งออก 4 ภาค บริเวณสี่แยกทางเข้าตลาดเมืองใหม่ ถนนสิโรรสตัดกับถนนวิภากุล เขตเทศบาล นครยะลา อ.เมืองยะลา โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าร้านตลาดนัดเครื่องเสียงบ้านหม้อ แรงระเบิดทำให้ตู้ลำโพงได้รับความเสียหายแตกละเอียดกว่า 18 ตู้ และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน บก 7889 ยะลา ได้รับความเสียหาย โดยกระจกประตูด้านซ้ายแตกละเอียด ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นระเบิดแบบแสวงเครื่อง โดยคนร้ายตั้งเวลาจุดระเบิดไว้ที่เวลา 14.40 น. และนำระเบิดใส่ถุงพลาสติกมาวางไว้ข้างตู้ลำโพงหน้าร้าน เครื่องเสียงบ้านหม้อของนางบุญกอบ แสงเจริญ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/451 หมู่ 15 ต.บางแม่ค้าง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ที่มาเช่าร้านขายเครื่องเสียง ในงาน คาดว่าคนร้ายต้องการก่อกวนสร้างสถานการณ์มากกว่าเป็นฝีมือ ขจก.
30 เม.ย.45 - "ทักษิณ" ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 123/2545 ปรับรูปแบบ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กลับคืน ก.มหาดไทย หรือยุบ ศอ.บต.โดยให้รองปลัด ก. มหาดไทยดูแล 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล และสงขลาให้อยู่ ในระบบบริหารและพัฒนาแบบ บูรณาการ หรือผู้ว่าฯ ซีอีโอ ทั้งนี้ การรายงานสถานการณ์ 5 จังหวัด นอกจากรายงานให้ทาง ก.มหาดไทยรับทราบ ยังต้อง รายงานตรงกับนายกฯ เพื่อให้เห็น ภาพที่สอดคล้องกัน และไม่เหมือน กับระบบนำร่องผู้ว่าฯ ซีอีโอที่ทำไปแล้ว โดยจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วน พตท. 43 จะคืนให้กับกองทัพภาค 4 หรือ กอ.รมน.ภาค 4 หรือยุบไปเช่นเดียวกัน โดยการยุบจะไม่มีการตั้งหน่วยงานขึ้นมาแทน ผู้ที่มีตำแหน่งอยู่ต้องกลับพื้นที่ ที่เป็นทหารกลับกองทัพภาค 4 พลเรือนกลับมหาดไทย
6 พ.ค.45 - เวลา 20.30 น.คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ยิงจรวดอาร์พีจี-สาดกระสุนปืนอาก้าถล่ม สภ.อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส หลังปะทะกันนานกว่า 10 นาที ฝ่ายคนร้ายที่มี 4 คนหลบหนีไป โดย นายมะหามะพอซี มารู อายุ 32 ปี ชาวกิ่ง อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี หนึ่งในคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ส่วนฝ่ายตำรวจปลอดภัย เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นคนร้ายที่รับจ้างสร้างสถานการณ์มากกว่าเป็นกลุ่ม ขจก.
7 พ.ค.45 - นายมาหามะพอสี บารู สารภาพเพิ่งเดินทางมาจากประเทศมาเลเซียเนื่องจากได้รับจ้างจากโจรก่อการร้ายไม่ทราบกลุ่มให้ถล่มโรงพักด้วยเงิน 40,000 บาท จากการสอบสวนไม่พบว่าบารูเป็นสมาชิกขบวนการใดหรือเคยต้องโทษมาก่อน
9 พ.ค.45 - พล.ต.ท.โสภณ สะวิคามิน ผู้ช่วยผบ.ตร. ตรวจสถานที่เกิดเหตุคนร้ายยิงถล่มสภ.อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส และร่วมสอบปากคำนายมาหะมะฟอสี บารู ผู้ต้องหาที่ถูกยิงบาดเจ็บ ระบุการสอบสวนคืบหน้ามากแต่ยังเปิดเผยรายละเอียไม่ได้ มั่นใจว่าจะขยายผลสาวไปถึงผู้บงการได้
28 พ.ค.45 - คนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงใส่จุดตรวจบ้านรานอ ริมถนนสาย 410 ยะลา-เบตง หมู่ 8 ต.ตาโน๊ะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้จ.ส.ต.วิชาญ นาคขวัญ และ ส.ต.อ.วิชา วิระบรรณ เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 ซึ่งเป็นอาวุธ ประจำกายของตำรวจ 2 นาย ไปเป็นปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 กระบอก ปืนเอชเค 1 กระบอก และเครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 อีก 1 กระบอกรวม 5 กระบอก ก่อนหลบหนีไป คาดการณ์ว่าเป็นฝีมือของขบวนการก่อการร้ายมูจาฮิดีนอิสลามปัตตานี
29 พ.ค.45 - พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.เข้าพบ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รมว.มหาดไทย เพื่อหารือกรณีดังกล่าว และให้สัมภาษณ์ว่าการ สอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้อมบันนังสตาขัดคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่สั่งให้มีการจัดเวรยามน้อยที่สุดผลัดละ 5 คน เวลาที่กินข้าวอาบน้ำ พักผ่อน ฯลฯ ต้องมีตำรวจอย่างน้อย 1 คนพร้อมอาวุธคอยป้องกัน จึงถือเป็นความประมาทของตำรวจ ส่วนตำรวจอีก 3 นายไม่ทราบว่าละทิ้ง หน้าที่หายไปไหน ทั้งที่ความจริงต้องมีทั้งหมด 5 คน โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนว่าตำรวจที่หายไป มีการลาถูกหรือไม่ ถ้ามีการ ลาใครเป็นผู้อนุญาต เชื่อว่าไม่ใช่การกระทำของผู้ก่อการร้าย แต่เป็นโจรธรรมดาที่ต้องการสร้างอิทธิพล
31 พ.ค.45 - คนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาดลอบยิง ด.ต.สุพจน์รัตนบุตร อายุ 42 ปี สังกัดกองร้อย ตชด. 444 บ้านโต๊ะตีเต อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 39/9 ม.8 ต.ปะกาฮารัง ต.เมือง จ.ปัตตานี ขณะวิ่งออกกำลังกาย บริเวณหน้าโรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองปัตตานี ถนนสายบ้านปะกาฮารัง-ปากาจีน อ.เมือง จ.ปัตตานี กระสุนปืนเข้าบริเวณชายโครงซ้ายและขวารวม ได้รับบาดเจ็บสาหัส
7 มิ.ย.45 - "พล.ต.อ.สันต์" ให้ พล.ต.ต.ประจักษ์ มุสิกสุคนธ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 โดยแต่งตั้ง พล.ต.ต.สมชาย เพชรสุวรรณ ผู้ช่วยผบช.ภาค 9 รักษาการในตำแหน่งผบก.ภ.จว.ยะลา แทน มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.โดยสาเหตุย้ายด่วน เพราะผู้บังคับบัญชามองว่า พล.ต.ต.ประจักษ์ ไม่กำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติตามนโยบาย ปล่อยให้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่จุดตรวจในพื้นที่ อ.บันนังสตา ถึง 2 ครั้ง ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 3 นาย
11 มิ.ย.45 - คนร้าย 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์2คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนอาก้าและลูกซองยาว ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ขณะปฏิบัติหน้าที่เสียชีวิต 2 ศพ ได้แก่ ส.ต.ต.สมเกียรติ ศิริไชย อายุ 32 ปี และ ส.ต.ต.สาธิต ทวีสุข อายุ 26 ปี วันเดียวกัน "ผบ.ตร." เดินทาง ไปประชุมเร่งรัดการปฏิบัติหน้าที่ราชการตำรวจภูธรภาค 9 ที่ห้องประชุม สภ.อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีหัวข้อสำคัญเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรม -แนวทางแก้ไขการปรับระบบราชการในพื้นที่ภาคใต้- ปัญหาชายแดนภาคใต้ โดยย้ำว่า 4-5 ปีที่ผ่านมานายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ ชายแดนตอนล่าง ค่อนข้างเฉือยชา-ด้อยประสิทธิภาพ
14 มิ.ย.45 - "พล.ต.อ.สันต์" กล่าวหลังเข้าพบ "ทักษิณ" ว่า ได้ขออนุมัติจัดซื้อเสื้อเกราะให้ตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนายกฯอนุมัติให้ใน จ.ยะลา นราธิวาส และปัตตานี จังหวัดละ 500 ตัว ใช้งบประมาณกลาง โดย "พล.ต.อ.สันต์" ยืนยันว่าสถานการณ์ภาคใต้ในขณะนี้สามารถดูแลได้ รับรองว่าเหตุการณ์ในภาคใต้จะดีขึ้น
- เวลา 23.15 น.เกิดไฟไหม้ป้อมตำรวจจุดตรวจ ต.เกาะเปาะ หมู่ 2 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตั้งอยู่ติดกับอาคารร้าง สภ.ต.เกาะเปาะ สอบสวนทราบว่า มีกลุ่มคนร้ายใช้น้ำมันเบนซินราดแล้วจุดไฟเผา เนื่องจากป้อมจุดตรวจดังกล่าวอยู่ในพื้นที่เปลี่ยวและมืด คนร้ายจึงฉวยโอกาสลงมือเพื่อเป็นการสร้าง สถานการณ์ให้เห็นว่าบ้านเมืองไม่สงบสุข ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ได้มีคำสั่งให้ยกเลิกภารกิจจุดตรวจดังกล่าวไปแล้วเมื่อ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา
18 มิ.ย.45 - พ.ต.อ.ปริญญา ขวัญยืน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ระบุจากการวิเคราะห์คำให้การของพยานบุคคลที่เห็น เหตุการณ์คนร้ายสังหาร ส.ต.ต.สมเกียรติ ศิริไชย และ ส.ต.ต.สาธิต ทวีสุข ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.อ.ระแงะ เมื่อ 11 มิ.ย.พอทราบแล้วว่า กลุ่มสมาชิกแนวร่วมของ นายนาซิรี แซะเซ็ง หรือ นายอาแว แฆและ ซึ่งมีจำนวน 7 คนที่ลอบลงมือก่อเหตุ แต่ไม่แน่ชัดว่า นายนาซอรี มีส่วนเกี่ยวพัน อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ในขณะที่สายทหารประจำรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย แจ้งว่าขณะนี้ 2 ใน 7 คนร้ายที่ก่อเหตุยิง 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลักลอบ เดินทางเข้ารัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียแล้ว เพื่อรายงานผลการก่อเหตุที่ลงมือปฏิบัติการยังศูนย์บัญชาการหรือกองบัญชาการใหญ่ (เอ็ม.พี.) MERKAS PUSAT พร้อมมีการประชุมการวางแผนปฏิบัติการก่อเหตุซ้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเป้าหมายหลักในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ในการ ลักลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อำเภอบาเจาะ ยี่งอ รือเสาะ และพื้นที่อำเภอจะแนะ เพื่อให้เป็นการปรับแผนให้รับกับแผนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมไว้ตอบโต้
20 มิ.ย.45 - เวลา 00.10 น.คนร้าย 4 คน แต่งกายชุดดำ สวมหมวกไหมพรมปิดใบหน้า ใส่รองเท้าคอมแบต-สวมถุงมือ บุกปล้นสำนักงาน อุทยานแห่งชาติบางลาง หมู่ 5 ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จับลูกจ้างชั่วคราวที่เข้าเวรรักษาความปลอดภัยมัดมือมัดเท้า ก่อนกวาดอาวุธปืนเอชเค 17 กระบอก อาวุธปืนลูกซอง 16 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวนมากใส่กระสอบก่อนหลบหนีไป โดยไม่ได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นสงสัย เป็นฝีมือคนร้ายชุดเดียวกับที่ลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจจุดตรวจบ้านรอนอ อ.บันนังสตา เสียชีวิต 2 ศพ
29 มิ.ย.45 - เวลา 21.00 น.คนร้าย 5 คน แต่งชุดไอ้โม่ง ใช้ปืนอาก้า,เอ็ม-16 และปืนพกขนาด .357 เป็น อาวุธบุกปล้นฐานปฏิบัติการของทหารภายในสำนักงานโครงการปศุสัตว์เกษตรมูโนะ ซึ่งเป็นโครงการ พระราชดำริฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พร้อมยิง ส.ท.วิโรจน์ ทองคง ทหาร สังกัดกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.สุไหงปาดี ทำหน้าที่ ผบ.หมู่ประจำชุด ควบคุมและประสานงานโครงการปศุสัตว์เกษตรมูโนะ บาดเจ็บ
1 ก.ค.45 - เวลา 1.30 น.พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายก.-รมว.กลาโหม บรรยายพิเศษที่โรงเรียน จปร.กรณีการปล้นอาวุธปืนกองพันทหารพัฒนาที่ 4 อ.ตากใบว่า การก่อเหตุลักษณะดังกล่าวตั้งข้อสังเกตได้ว่า จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นตามมา ฝ่ายทหารต้องหาข่าวเต็มที่เพื่อจะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นแน่ ต่อมาเวลา 16.00 น.เกิดระเบิดที่ด้านหลังที่ว่าการ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส บริเวณห้องทำงานของฝ่ายป้องกัน-ห้องทำงานของ ป่าไม้อำเภอ อาคารเสียหายบางส่วน-รถจักรยานยนต์เสียหายประมาณ 10 คัน ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตรวจสอบทราบว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขี่รถจักรยานยนต์ ที่ซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องไว้มาจอดทิ้งไว้ โดยตั้งเวลาระเบิดไว้ที่เวลา 16.00 น. ต่อมาเวลา 16.20 น.เกิดระเบิดที่ด้านหลังที่ว่าการ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส พื้นที่ระหว่างธนาคารออมสินกับตัวอำเภอแรงระเบิดทำให้สถานที่สองแห่ง ได้รับความเสียหาย พบว่าใช้ ระเบิดติดกับรถจักรยานยนต์เช่นกรณีแรก เจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นไว้ 2 เรื่องคือ กลุ่มโจรที่ต้องการก่อกวน ความสงบและ กลุ่มที่ไม่พอใจ การทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จึงวางระเบิดเพื่อข่มขวัญและสร้างสถานการณ์
2 ก.ค.45 - พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ- รมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้ว่า อาจจะเป็นเรื่องของพวกมือบอนที่อาศัยช่วงโอกาสกระทำการ และว่า ขอใช้คำนายกรัฐมนตรีว่า ถ้าเราไป"โอเวอร์รีแอ๊ก"ก็จะทำให้คนที่ก่อเหตุเกิดความสนุกสนาน บอกแล้วว่าเป็นเรื่อง ของเด็กมือบอนมากกว่า
3 ก.ค.45 - ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รมช.มหาดไทย ระบุว่าเหตุการณ์ภาคใต้ไม่ใช่ฝีมือของ กลุ่มขบวนการมูจาฮีดีน แต่น่าจะเป็นกลุ่มโจร รับจ้างที่มีผู้อยู่เบื้องหลังออกมาสร้างสถานการณ์ และว่า "ผู้ที่มีตำแหน่งมีอำนาจอยู่ในมือแทนที่จะให้เกียรติกับชาติกำเนิดของตัวเองกลับทำร้ายตัวเองด้วย การทุจริต อย่างเหตุการณ์รุนแรงในภาคใต้ ผมไม่ได้เจาะจงหมายถึงช่วงใดช่วงหนึ่งมีปัญหาว่าคน ของรัฐเองเป็นคนวางระเบิดประเทศของตัวเองทั้งที่คนเหล่านั้นปฏิญาณตนไว้ว่าจะปกป้องผืนแผ่นดินนี้ จะรักประเทศตัวเอง แต่ยังทำได้ มันน่าสมเพชพอจะโยกย้ายทีก็มีการลูบหน้าปะจมูก โยนกันว่าสีโน้น สีนี้ทำ ไม่มีสีไหนสำคัญกว่าสีธงชาติต้องเด็ดขาด ฟันให้ขาดสองท่อนเพราะอยู่ในแผ่นดินยังเนรคุณ เป็นคนของรัฐแต่ทำลายชาติตัวเอง มันเลี้ยงไว้ไม่ได้ต้องถอดสัญชาติ เหมือน "เหว่ย เซียะ กัง"
- ชุดสืบสวนสอบสวนคดีคนร้ายลอบวางระเบิดที่ว่าการอำเภอศรีสาคร และสุคิริน มีข้อมูลระบุว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 คน ระบุ ได้คนเดียวคือ นายมะลีเป็ง มะฮะ อายุ 27 ปี อยู่ หมู่ 5 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุยืนยันว่าเห็นนายมะลีเป็งในช่วงเกิดเหตุ
- นายนัจมุดดีน อูมา ส.ส.นราธิวาส พรรคไทยรักไทย ร่วมกับ ส.ส.ภาคใต้ ยื่นญัตติต่อ กมธ.ตำรวจ สภาฯ ให้พิจารณาปัญหาการก่อความไม่สงบใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้เชิญ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว รวมทั้งพิจารณากรณี นายพักรูรอซี ดอเลาะห์ ส.จ.นราธิวาส ถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัวไปตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.
4 ก.ค.45 - "ทักษิณ" เป็นประธานประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่สงบในภาคใต้ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดย "ทักษิณ" ขอให้ทุกหน่วยร่วมกันทำงานตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายให้ไว้ และให้ประสานงานกันอย่างไม่เป็นทางการเพื่อทำงานอย่างเป็นทางการ, ให้ตรวจดูการ ทำงานของข้าราชการว่าเข้ากับประชาชนได้หรือไม่ หากมีข้าราชการที่หย่อนสมรรถภาพมีปัญหากับมวลชนให้พิจารณาปรับเปลี่ยน และว่าปัญหา ในภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของบุคคลที่เป็นสมาชิกของกลุ่มโจรมาปฏิบัติการแบบโจรธรรมดา สร้างความสับสนวุ่นวาย และมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องสอบสวนเจ้าหน้าที่ด้วย ที่สำคัญคือความเข้มงวดของหน่วยงานส่วนราชการในพื้นที่นั้นถือเป็นหัวใจสำคัญ จะเห็นได้ว่าใน จ.ปัตตานี จะไม่มีปัญหา เหล่านี้เลย ไม่เหมือนที่นราธิวาสกับยะลา
6 ก.ค.45 - พล.ต.ต.เจตนากร นภีตะภัฎ ผู้บังคับการตำรวจภูธร(ผบก.ภ.)นราธิวาส มีหนังสือสั่งการให้ตำรวจ 13 โรงพักเพิ่มกำลังสายตรวจออก ลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ หลังได้เบาะแสขบวนการโจรก่อร้ายกลุ่มมูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี เตรียมก่อวินาศกรรมใน จ.นราธิวาส อีกครั้ง โดยเฉพาะสถานีรถไฟ 5 แห่งใน จ.นราธิวาส ประกอบด้วย สถานีรถไฟรือเสาะ, ตันหยงมัส, เจาะไอร้อง, สุไหงปาดี และสุไหงโก-ลก รวมถึง เส้นทางรถไฟและสะพานต่างๆ
8 ก.ค.45 - เวลา 18.15 น. เกิดระเบิดขบวนรถไฟสายสุไหงโก-ลก-ยะลา ขบวนที่ 454 ที่เดินทางมาจาก อ.สุไหงโก-ลก จอดปลายทางที่ชานชาลาที่ 3 สถานีรถไฟยะลา ซึ่งผู้โดยสารลงรถหมดแล้ว โดยจุด เกิดเหตุอยู่บนโบกี้โดยสารแรกที่นั่งระหว่างหมายเลข 33 กับ 35 ทำให้ นายมะกอเซ็ง สาเมาะ รปภ.และ ส.ต.ท.นเรศ ไชยเทพ ตำรวจรถไฟ ที่ นายปรีดา นวลประจักษ์ เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดรถไฟ เรียกให้ไป ตรวจสอบกระเป๋าสีดำที่วางใต้ที่นั่งดังกล่าว เมื่อยกกระเป๋าจึงเกิดระเบิดทำให้ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดชนิดเพาเวอร์เจลโดยใช้ซาวนด์อะเบาต์ ต่อวงจรตั้งเวลาระเบิด ซึ่งถือ เป็นครั้งแรกที่พบใน จ.ชายแดนภาคใต้ ส่วนดินระเบิดเป็นชนิดเดียวกับที่กลุ่มมูจาฮิดีนอิสลามปัตตานี ใช้ในการก่อวินาศกรรมโรงแรมปาร์ควิว จ.ยะลา ร้านอาหารเฟื่องฟ้า จ.ปัตตานี ร้านคาราโอเกะใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และที่ที่ว่าการอ.สุคิรินและ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส นอกจากนี้ยังเป็นชนิดเดียวกับที่ชุดปราบปรามโจรก่อการร้ายตรวจยึดได้ที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส หลังการปะทะกับขบวนการมูจาฮีดีอิสลามปัตตานี กลุ่มนายนาซอรี แซ๊ะเซ็ง หรืออาแว แฆและ
9 ก.ค.45 - ผบ.ตร.ระบุเหตุระเบิดบนรถไฟเพราะความใจร้อนของตำรวจรถไฟและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานีที่รีบแกะวัตถุต้องสงสัย โดยพลการ ไม่รอเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดของตำรวจตระเวนชายแดน จึงเป็นเหตุให้ระเบิดทำงาน และว่าผู้นำระเบิดมาวางคงปลอมตัวเป็นประชาชน ธรรมดาแล้วนำระเบิดมาวางไว้บนโบกี้ ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มที่มีการวางระบบการปฏิบัติการที่ดี ขณะนี้มีเพียงกลุ่มมูจาฮีดินอิสลามิกปัตตานี(GMIP)
10 ก.ค.45 - เวลา 15.10 น.จ.ส.ต.นำ จุลเทพ อายุ 45 ปี และ ส.ต.ท.ชัยรัตน์ ชุมคง อายุ 32 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.อ.สุไหงปาดี ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ครู-นักเรียนประถมศึกษา ร.ร.ตาเซะเหนือ ร.ร.ตาเซะใต้ ร.ร. รูโบ๊ะบาตู ร.ร.บ้านละหาร 4 ร.ร. ถูกคนร้ายยิงด้วยอาวุธสงครามเสีย ชีวิตข้างรถจักรยานยนต์ ตราโล่ 42636 บนถนนระหว่างหมู่บ้านสายบ้านต้นไม้สูง-บ้านตาเซะเหนือ หมู่ที่ 2 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ข้างศพมีปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และอาก้าตกอยู่ โดยคนร้ายยึดปืนเอชเคที่ จ.ส.ต.จุล ถือเป็นอาวุธ และปืน .357 อีก 1 กระบอก โดยไม่สนใจปืน .38 ที่เอวของ ส.ต.ท.ชัยรัตน์
- "ร.ต.อ.ปุระชัย" ระบุตำรวจจะเตรียมภาพถ่าย-ประกาศจับให้สินบนโจรก่อการร้าย 10 คน ระดับหัวหน้ามี 1 คน รางวัล 3 แสนบาท รองหัวหน้า 1.5 แสนบาท ลูกน้อง 5 หมื่น-1 แสนบาท ผู้ที่ให้เบาะแสในการจับกุมจะ ได้รางวัลนำจับทันทีไม่ต้องรอให้พิจารณาถึงชั้นศาล โดยได้มีการประสานกับประเทศมาเลเซียแล้ว เพราะ บุคคลทั้ง 10 คน ถือสองสัญชาติ หากจับกุมได้จะถอนสัญชาติทันที และขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องผู้ก่อการร้ายอัล เคดา เข้ามาร่วมก่อกวน เป็นการปล่อยข่าวลือ
- "พล.ต.อ.สันต์" ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความขัดแย้งส่วนตัว แต่เป็นฝีมือของกลุ่มที่ต้องการสร้างสถานการณ์ ส่วนที่ว่าเกิดเหตุการณ์ซ้ำถือเป็น การท้าทายหรือไม่นั้น เห็นว่ายิ่งท้ามายิ่งดีจะได้เร่งทำงานโดยเพิ่มมาตรการให้มากขึ้น
- ส่วนกรณีวางระเบิดรถไฟนั้น ตำรวจยะลาร่วมกับตำรวจสันติบาล ได้หาเบาะแสพบว่ากลุ่มคนร้ายประกอบด้วยนายการิม จัง และไซนุง และนายการิม กะลูบัง ทั้งหมดเป็นสมาชิกมูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี ซื้ออุปกรณ์การประกอบวัตถุระเบิดในพื้นที่ อ.รามัน จากนั้นประกอบชิ้นส่วนระเบิดที่บริเวณหมู่บ้านบ้านสะโลปาแต ห่างจาก อ.รามัน ประมาณ 3 กิโลเมตร คนร้ายนำระเบิดใส่กระเป๋าสีดำขึ้นรถไฟที่สถานีย่อยบ้านปาแต แล้วนำระเบิดซุกไว้ใต้ที่นั่งขบวนรถไฟ พอสถานีรถไฟ ไม้แก่นซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายก่อนถึงสถานีปลายทางจ.ยะลา คนร้ายลงที่สถานีรถไฟไม้แก่น โดยมีคนร้ายอีกคนหนึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์จอดรอรับกลับ- รอฟังข่าวจนเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้น
11 ก.ค.45 - "ทักษิณ" กล่าวถึงเหตุการณ์ไม่สงบภาคใต้ว่า "ร.ต.อ.ปุระชัย" จะเป็นผู้รับผิดชอบ-ดูแลในเรื่องฝ่ายปกครองกับตำรวจ ส่วน "พล.อ.ชวลิต" จะลงไปอยู่ในพื้นที่พบกับผู้นำศาสนาเพื่อรับทราบถึงปัญหาที่แน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้น โดยจะร่วมกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.คมนาคม ดูแลร่วม กับผู้นำศาสนา
- เวลา 06.30 น. "ร.ต.อ.ปุระชัย" และคณะเดินทางไป จ.นราธิวาส ตรวจที่เกิดเหตุยิงตำรวจเสียชีวิตที่ อ.สุไหงปาดี และเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยมอบ เงินให้ครอบครัวละ 10,000 บาท จากนั้นเดินทางร่วม ประชุมกับผู้นำศาสนา ประธานหอการค้าจังหวัด และผู้นำธุรกิจการค้า ที่ศาลากลาง จ.นราธิวาส พร้อมมอบ นโยบายเชิงรุกให้ 6 ด้านคือ 1.ป้องกัน 2.ปราบปราม 3.งานบริการและพัฒนา 4.การข่าว 5.ประชาสัมพันธ์ 6.ประเมินผล "ยืนยันว่าสถานการณ์ ขณะนี้รัฐบาลคุมได้ ไม่ได้รุนแรงอย่างที่เข้าใจกัน..." และว่าขณะนี้ ตำรวจออกหมายจับ-ตั้งค่าหัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด 20 คน เช่น นายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะค่าหัว 3 แสนบาท, นายนาซอรี เซาะเซ็ง อาแว, นายนาแซ ซะนิง ค่าหัวคนละ 2 แสนบาท, นายมาหามะแมเราะ, นายอัสมิน โซะสะอิ, นายมารูดี ปิยา, นายเมาโซ เงาะ, นายนาซอรี เซะเซ็ง, นายอิสบือราเฮงดาเล้ง หรือ ปะดอเฮง เจาะกือเยะ, นายมานาเซร์ เจ๊ะเด, นายอายิ นะยะอิ และ นายสุไหมี ดิแล ตานา ซึ่งเกือบทั้งหมด เป็นผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ ตามหมายจับของ สภ.อ.บาเจาะ สภ.อ.เจาะไอร้อง และ สภ.อ.สายบุรี จ.นราธิวาส
-เวลา 19.30 น. คนร้ายแต่งชุดไอ้โม่ง 12 คน แบ่งออกเป็น 4 ชุด ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นโนวา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ แยกย้ายปล้น อาวุธปืนลูกซองของอาสาสมัครพัฒนาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อพปร.) ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านอูแบสาลอ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่ง 1 ใน 4 จุดนี้ เป็นบ้านของ นายมือริ อาแว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านอูแบสาลอ โดยยึดอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ หลบหนีไป พร้อมกับพรรคพวกอีก 3 ชุด ที่บุกเข้าปล้นบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน ได้อาวุธปืนลูกซองอีก 1 กระบอก และอาวุธปืน 9 ม.ม.ไปอีก 1 กระบอก โดยที่กลุ่มคนร้ายใช้เส้นทางหลบหนี มุ่งหน้าไปทาง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลัง คณะของ ร.ต.อ.ปุระชัย และข้าราชการระดับสูงของ ก.มหาดไทย เพิ่งเสร็จจากการตรวจสถานการณ์ในพื้นที่ จ.นราธิวาส และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ไม่กี่ชั่วโมง
12 ก.ค.45 - คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้ชะแลงงัดประตู-หน้าต่าง ที่ทำการอุทยานแห่งชาติซีโป หมู่ 3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ลักอาวุธปืน ลูกซองชนิดบรรจุ 5 นัด จำนวน 8 กระบอก ก่อนหลบหนีไป ในขณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติซีโป กรมป่าไม้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเดินทางไปประกอบ พิธีทางศาสนาที่มัสยิด
- "พล.อ.พัลลภ" ให้ความเห็นถึงนโยบาย "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" ของ "ร.ต.อ.ปุระชัย" ว่า สถานการณ์มีแต่จะเลวร้ายลง ยืนยันว่าต้องใช้การเมืองนำการทหาร และว่า "ผมรู้สึกอึดอัดใจอย่างมากในการทำงานที่ กอ.รมน. เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ เป็นแค่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานทำอะไรก็ต้องร่วมกับตำรวจ ถ้าตำรวจไม่ช่วยไม่ร่วมมือด้วยเราต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย ยิ่งผมมีเรื่องด่าตำรวจ ด่า มท.1 ตำรวจเขาไม่ค่อยพอใจผม ไม่พอใจ กอ.รมน.จึงไม่ค่อยร่วมมือ ยิ่งคิดยิ่งอึดอัด นอนคิดมาสองสามคืนแล้วว่าควรจะลาออกดีกว่า เพราะอยู่ไปสักวันหนึ่งอาจต้องติดคุกตอนแก่"
- คนร้าย 12 คน ใช้อาวุธสงครามบุกปล้นบ้าน นายมือลี อาแว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลตะลุวอ อำเภอเมืองนราธิวาส ขนเอาปืนลูกซองยาว 5 นัด ไป 2 กระบอก และปืนพกขนาด 9 มม. 1 กระบอก
13 ก.ค.45 - จากการที่ "พล.อ.พัลลภ" รอง ผอ.กอ.รมน.ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากอึดอัดกับการทำงานที่ไม่มีกฎหมายรองรับ-ไม่ได้ รับความร่วมมือจากตำรวจ ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงในภาคนั้นนั้น พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. ช่วยราชการ กอ.รมน. "เสธ.แดง" ทำจดหมายเปิดผนึกผ่านสื่อมวลชน ระบุ ""ผมอยากบอกว่าไฟใต้ที่มันลุกขึ้นอีกครั้ง ความจริงทหารกับตำรวจในพื้นที่เขาทำงานร่วมกันด้วยดี มาตลอด มีการจัดชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ร่วมกันใน 4 จังหวัดภาคใต้ ทำงานกันมาตลอดตั้งแต่สมัย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ท่านเป็นผู้พัน ผมเอง เป็นผู้หมวด เราร่วมกันปราบ ผกค.ด้วยกันมา แต่ระดับบนไม่รู้ ไปหาว่าทหารตำรวจมีปัญหากัน ทั้งๆ ที่เขาทำงานด้วยกันมาอย่างดี แต่ที่ทหารไม่ได้เป็น เป้าหมายของการถูกทำร้าย เพราะทหารเกณฑ์ในภาคใต้ก็เป็นลูกหลานชาวมุสลิมทั้งนั้น ความจริงที่ตำรวจถูกยิงตายในเครื่องแบบขณะปฏิบัติหน้าที่เป็น สิบศพอย่างนี้แล้วน่าจะมีคนรับผิดชอบ ทหารได้เสียสละชีวิตแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภาคใต้มาจนเรียบร้อยแล้ว ทหารไทยต้องตายในลาว เวียดนามเท่าไหร่ กองทัพต้องเร่งให้นักเรียนนายร้อย จปร.เรียนแค่ 3 ปี จบออกมาเป็นทหารออกรบ ตั้งแต่รุ่น 4-11 และมาถึงรุ่น 12-16 ที่ต้องรบกับ ผกค.มาโดยตลอด มีนายร้อยพิเศษอีก 8 รุ่นออกไปรบ มาตอนนี้มีจำนวนมากที่จะเกษียณอยู่แล้วยังเป็นแค่พันเอกพิเศษ ไม่ได้เป็นนายพลให้ลูกหลานภาคภูมิใจ ทหารเสียสละมาเยอะ แม้แต่ปัญหาภาคใต้ทหารก็ช่วยทำงานมาตลอด พล.ต.อ.สันต์ มักจะให้สัมภาษณ์ทุกวันและหลายครั้งกระทบทหาร พูดตลอด พูดเองเสียจนโฆษกตำรวจไม่มีงานทำ แต่ที่ยอมไม่ได้คือมาด่า พล.อ.พัลลภ ทั้งๆ ที่ พล.อ.พัลลภ รอง ผอ.รมน.ถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชาของตนเอง เพราะ พล.ต.อ.สันต์ มีตำแหน่งเป็น ผช.ผอ.รมน. แต่กลับมาด่านายของตัวเอง นี่ดีนะที่เป็น พล.อ.พัลลภ ถ้าเป็นยุค พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อาจจะมีการปลดไปแล้ว เหมือนที่ เสธ.หนั่นปลด พล.ต.อ.สล้าง"
15 ก.ค.45 - "พล.อ.ชวลิต" เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หารือแนวทางการ แก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ที่ประชุมตกลงจะให้จัดตั้งศูนย์ประสานการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ อยู่ภายใต้การดูแลของ ก.มหาดไทย, จำเป็นต้องมีศูนย์รวมด้านการข่าวเพื่อช่วยเหลือการทำงานของ ตำรวจภูธรในพื้นที่, มีการชี้แจงข้อมูลต่อสื่ออย่างเป็นเอกภาพไม่ให้เกิดความสับสนเช่นที่ผ่านมาโดย มีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนแยก 2 เป็นศูนย์รวมด้านการข่าว ทั้งนี้ศูนย์ที่ตั้งขึ้นมาในส่วนกลางจะต่างจากบทบาทของ ศอ.บต. โดย ศอ.บต.จะดูแลทุกเรื่องในการ ดำเนินการตามนโยบายจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนศูนย์ที่ตั้งขึ้นใหม่ทำหน้าที่ประสานการดำเนินการ แก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และน่าจะเป็นศูนย์เฉพาะกิจมากกว่าศูนย์ถาวร
16 ก.ค.45 - "หลวงพ่อคูณ" เดินทางไปปลอบขวัญ-แจกวัตถุมงคลแก่ทหาร ตำรวจ ณ วัดชลธาราสิงเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ในขณะที่ "พล.ต.อ.สันต์" และคณะ เดินทางพบผู้นำศาสนาที่สำนักงาน คกก.อิสลามนราธิวาส จ.นราธิวาส
- ขณะเดียวกันมีผู้นำระเบิดวางไว้ด้านหลังอาคารสวนอาหารโฟร์.บี.คาเฟ่ ถ.เจริญเขต อ.สุไหงโก-ลก จากการกู้ระเบิดพบว่าเป็นระเบิดชนิดเพาเวอร์-เจล ชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 8 กิโลกรัม ตั้งเวลาระเบิดที่ 14.00 น. หลังจากนำระเบิดไปมอบให้ พล.ต.อ.สันต์ ที่ จ.นราธิวาส ผบ.ตร. ระบุระเบิด ดังกล่าวน่าจะวาง
มา หลายวันแล้วไม่ใช่เพิ่งวางวันนี้
17 ก.ค.45 - นายชวน หลีกภัย ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภาฯ ให้ความเห็นกรณีรัฐบาลตั้งศูนย์ประสานการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ว่า เมื่อครั้งที่ รัฐบาลยกเลิกศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) อาจประเมินเหตุการณ์ไม่ชัดเจน แต่พอยกเลิกไปแล้วก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น ทำให้มาหา ทางออกโดยไม่ยอมตั้งองค์กรที่ยกเลิกไปแล้ว เพราะถ้าตั้ง ศอ.บต.ขึ้นมาอีกจะกลายเป็นว่ารัฐบาลตัดสินใจผิดพลาด ดังนั้นองค์กรที่ตั้งขึ้นใหม่คงจะทำ หน้าที่เป็นตัวประสาน ส่วนการที่ "พล.อ.ชวลิต" ระบุจะใช้ 'ยุทธการณ์ดอกไม้บาน' เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้นั้น ไม่แน่ใจว่าบานที่ไหน-ดอกอะไร ถ้าเป็นดอกอุตพิดก็เหม็น
- มีผู้วางระเบิดเพาเวอร์เจลไว้ในช่องกรองอากาศ-ถังน้ำมันรถจักรยานยนต์ซูซูกิ คริสตัล ทะเบียน ล 7733 เชียงราย ที่จอดทิ้งไว้ริมถนนสุไหงโก-ลก-สุไหงปาดี เยื้องสำนักงานการประถมศึกษา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาสเจ้าหน้าที่สามารถ กู้ระเบิดได้ทัน
19 ก.ค.45 - นายวิจิต วิชัยสาร ผวจ.สตูลสั่งการให้ตรวจสอบโรงโม่หินเพื่อตรวจวัตถุระเบิดที่ใช้ในการ ระเบิดหินอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวัตถุระเบิดที่ใช้ในโรงโม่หินจะเป็นชนิดแก๊ป-ดินระเบิด แต่ไม่มีการใช้ ระเบิดเพาเวอร์เจลแต่อย่างใด
- เวลา 20.50 น. นายรอนิง ลามา อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.สากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ถูกคนร้ายตามประกบยิง 4 นัด ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ซูซูกิ คริสตัล สีดำ ไปรับลูกที่เรียนหนังสือที่มัสยิดบ้านกาเยาะมาตี หมู่ 2 ต.สากอ อาการสาหัส รักษาตัวที่ ร.พ.ยะลา
20 ก.ค.45 - "ทักษิณ" นั่งเครื่องบินเจ็ตของกรมการบินพาณิชย์เดินทางไป จ.นราธิวาส โดยไม่มีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้าเพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากชาวบ้านโดยตรงโดยไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าตำรวจชุด คุ้มครองครูเสียชีวิต 2 ศพ ที่บ้านต้นไม้สูง หมู่ 2 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี โดย กล่าวว่าความไม่สงบที่เกิดขึ้นไม่ได้ระบุว่า เป็นฝีมือขบวนการโจรก่อการร้าย หรือขบวนการใด แต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคนที่เสียประโยชน์ในพื้นที่ เช่น ยาเสพติด และต้องยอมรับว่า การลงมือก่อเหตุบางครั้งเป็นการลงมือของกลุ่มโจรจริงๆ สำหรับนโยบายเชิงรุกที่รัฐบาลจะใช้จ เป็น นโยบายผสมผสานกัน หากรู้ว่าบุคคลใดเป็นโจรแน่ชัดต้องใช้ไม้แข็งจัดการเด็ดขาด อีกส่วนหนึ่งเป็นนโยบายมวลชน คือ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างความใกล้ชิดกับหน่วยงานของรัฐต้องให้ความเข้าใจวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของ ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้นเดินทางไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ติดตามความคืบหน้ากรณีคนร้ายเข้า ปล้นอาวุธสงคราม
- " พล.อ.พัลลภ" เปลี่ยนใจจะทำงานในตำแหน่งรอง ผอ.กอ.รมน.ต่อไป เพราะเพิ่งทราบว่าการดำเนินการเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อใช้แทน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ที่ยกเลิกไป ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของ คกก.กฤษฎีกาแล้ว หลังจากที่แช่แข็งที่สภาความมั่นคง แห่งชาติ(สมช.) จึงทำให้มีกำลังใจที่จะทำงานต่อไปด้วยเต็มใจ
- คนร้ายโปรยแผ่นปลิวลงนาม ขจก.มูจาฮีดีน แจกจ่ายในพื้นที่ อ.ระแงะ มีข้อความว่า จะลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ระแงะทั้งโรงพัก
21 ก.ค.45 - "ทักษิณ" พร้อม นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย และคณะผู้ติดตาม เดินทางออกจากโรงแรมซีเอส ปัตตานี แวะรับประทานอาหาร บริเวณตลาดโต้รุ่ง ถนนพิพิธ ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยได้พบปะชาวบ้านบริเวณ ตลาดสด, เยี่ยมป้อมตำรวจที่จุดตรวจบ้านเนียง ต.เป๊าะเซ็ง อ.เมือง จ.ยะลา จากนั้นเดินทางกลับโดยเฮลิคอปเตอร์จาก ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ไปท่าอากาศยานหาดใหญ่ เพื่อกลับกรุงเทพฯ โดยให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งทีม สอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ต้องการให้มีทีมที่ต่อภาพของเหตุการณ์ ทั้งหมด ซึ่งถ้าต่อภาพทั้งหมดแล้วจะเห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดไม่ใช่เป็นเรื่องของขบวนการก่อการร้ายที่มีอุดมการณ์ จะแยกดินแดนแบบสมัยก่อนเป็นคนละเรื่องกัน "ถ้าเราต่อภาพได้จะเห็นว่ามันไม่ได้เป็นขบวนการอย่างที่เราคิดกัน และถ้าเราไปตั้งข้อสันนิษฐานผิดก็จะ แก้ปัญหาผิด เสียเวลาและสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นใหม่"
22 ก.ค.45 - นายเจ๊ะกูแม ปูเต๊ะ ประธานขบวนการมูจาฮีดีน ประกาศแผนการปฏิบัติอุ้มสายข่าวของตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อป้องกันการแจ้ง เบาะแสความเคลื่อนไหวของสมาชิกและแนวร่วม ซึ่ง ขจก.มีรายชื่อชาวบ้านที่เป็นสายให้เจ้าหน้าที่รัฐรวม 13 คน และรายชื่อผู้นำท้องถิ่นที่ให้ความร่วมมือ กับทางการอีก 6 คน
23 ก.ค.45 - คนร้ายลอบวางเพลิงเผารถแบ็กโฮของบริษัทดามาวัสดุ จำกัด บริเวณริมถนนสายนิบง-ลาเตาะ หมู่ 2 บ้านนิบง อ.กาบัง จ.ยะลา ในที่เกิดเหตุ พบเศษยางในรถจักรยานยนต์ที่ไฟเผาไหม้ไม่หมด รวมทั้งพบคราบน้ำมันไฮโดรลิกและน้ำมันก๊าด สันนิษฐานว่าคนร้ายทุบกระจกห้องบังคับเครื่องแล้วใช้ยาง ในรถจักรยานยนต์ใส่เข้าไปก่อนราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผา
- "ทักษิณ" แต่งตั้งทีมเฉพาะกิจ 5 คนประจำพื้นที่ภาคใต้ 30 วัน เพื่อสังเกตการณ์-แก้ไขปัญหาภาคใต้ มี พล.อ.ชัยศึก เกตุทัต จเรทหารทั่วไปเป็นประธาน และ พล.ต.ท.อรรถพล แช่มสุวรรณวงศ์ ซึ่งรับราชการอยู่ทำเนียบฯ ซึ่งเคยเป็นผู้บังคับบัญชาตำรวจอยู่ภาคใต้หลายปี นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร รองอธิบดีกรม การปกครอง และเคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ดร.จรัล มะรูลีม ผู้มีความรู้ทางศาสนาอิสลาม และนักกฎหมายจากอัยการ เป็นคณะทำงาน
24 ก.ค.45 - ที่ประชุมสมาพันธ์ครู 14 จังหวัดภาคใต้ มีมติทำหนังสือยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐบาล 3 ข้อคือ 1.ให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาภาคใต้ด้วยความ จริงใจ ให้เหตุการณ์คลี่คลายโดยเร็ว 2.ให้รัฐบาลสนับสนุนเงินงบประมาณเพื่อการศึกษาเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเพิ่มอัตราครูที่ขาดแคลน งบประมาณก่อสร้างอาคาร และงบประมาณซื้อเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย 3.ให้จัดสวัสดิการเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ครูเป็นพิเศษ โดยหากยื่นหนังสือแล้วรัฐบาลยังเพิกเฉย ก็ให้รายงานผลและยื่นข้อเรียกร้องไปยังสมาพันธ์ครูอาเซียน ผ่านทางสถานทูตของประเทศต่างๆ เพื่อกดดันให้รัฐบาลหันมาให้ความสนใจและแก้ไข ปัญหานี้อย่างรวดเร็ว
25 ก.ค.45 - เวลา 12.15 น. ขณะขบวนที่ 463 สายพัทลุง-สุไหงโก-ลก วิ่งออกจากสถานีรือเสาะ มุ่งหน้าไปสถานีมะรือโบ ขณะถึงบริเวณหลัก ก.ม.ที่ 1084 บ้านกีเยาะ หมู่ 8 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ มีคนร้ายลอบยิงกระจกด้านหน้าของหัวรถจักรแตก จากการตรวจสอบพบว่ามีลูกแก้วกลมตกด้านหน้าหัวรถจักร 1 ลูก สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของคนมือบอน ใช้ยิงด้วยหนังสติ๊ก
26 ก.ค.45 - ตำรวจจับ นายอนุรักษ์ มูหะมะสาเระ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.กาบัง และนายอับดุลเลาะ หรือดอเลาะ มูหะมะสาเระ ผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายลอบ เผารถแบ๊กโฮของบริษัทดามาวัสดุ จำกัด ที่รับเหมาก่อสร้างถนนสายบ้านนิบง-ลาเตาะ หมู่ 2 ต.กาบัง เบื้องต้นทั้งคู่ยังยืนกรานปฏิเสธ
28 ก.ค.45 - ตำรวจจับกุม นายอัลดุลรอหะมาน หรือลอแม บาเหม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.กาบัง ตั้งข้อหามีส่วนร่วมในการลอบวางเพลิงรถแบ็กโฮ แต่ปฏิเสธเช่นกัน
31 ก.ค.45 - ขบวนการเบอร์ซาตูออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของขบวนการพูโล ในหัวข้อถึงผู้เกี่ยวข้อง ลงชื่อ หะยีลุกมาน บินลีม่า โดยเขียนข้อความ เป็นภาษาอังกฤษระบุว่า ประชาชนชาวปัตตานีมีความโกรธแค้น อย่างมากที่รัฐบาลส่งกองกำลังทั้งตำรวจและทหารเข้ามากระจายเต็มพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะฉะนั้นจึงขอเตือนไปยังผู้เกี่ยวข้องว่าขบวนการมีแผนที่จะตอบโต้กองกำลังที่เข้ามารักษาความปลอดภัย ในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมระบุวิธีการแก้ปัญหาของรัฐบาล โดยส่งถึง ร.ต.อ.ปุระชัย และ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา, พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เดินทางมาดูพื้นที่เองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ยังไม่ตรงประเด็น
1 ส.ค.45 - นายอภัย จันทนะจุลกะ อธิบดีกรมการปกครอง เรียกประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบภาคใต้ โดยให้ปลัดอำเภอเป็นผู้ประสานงาน ข้อมูลข่าวสารระหว่างฝ่ายราชการ-ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนั้นยังเพิ่มกำลังผู้ช่วย- ผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบทั่วประเทศ1,000คน เฉพาะใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มากกว่าภาคอื่น
- ตำรวจจับกุมตัว นายดอรอแม บาโร๊ะ หรือ ขจก.อาบูยาบะ หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธ ขจก.ศรีนาฆารอ ขณะขับรถจักรยานยนต์ผ่านจุดตรวจบ้านตอหลังหมู่ 3 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพราะนายดอรอแมเป็น 1 ใน 20 ขจก.ที่มีชื่ออยู่ในทำเนียบคนร้ายที่ทางการตั้งค่าหัวไว้ 200,000 บาท แต่ เจ้าตัวปฏิเสธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมสถานที่ราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้(จ.ยะลา-นราธิวาส-ปัตตานี)
4 ส.ค.45 - เกิดระเบิดที่ใต้รางรถไฟของขบวนรถไฟที่ 172 สายสุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ ซึ่งออกเดิน ทางจาก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และกำลังวิ่งไป ถึงพื้นที่หมู่ 1 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา ช่วงระหว่าง สถานีรถไฟไม้แก่น-ยะลา ตรงเสาเลขที่ 1046/11-1046/12 บ้านบูเก๊ะตียอ ห่างจากสถานีรถไฟไม้แก่น ประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้โบกี้ขบวนรถไฟกระจกแตกเสียหาย ส่วนรางรถไฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุพบกระดาษสีน้ำตาลเขียนว่าพาวเวอร์เจลแม็กนั่ม สันนิษฐานว่า คนร้ายประกอบระเบิดแล้วนำมาวางไว้ที่รางรถไฟ เมื่อรถไฟวิ่งมาทับจะระเบิดทันที แต่ ปรากฎว่าเชื้อดินระเบิดชนิดนี้มีแรงระเบิดไม่มาก จึงไม่สามารถที่จะทำให้ขบวนรถไฟได้รับความเสียหาย
13 ส.ค.45 - นายอุสมาน ปูโรง อายุ 24 ปี ลูกจ้างที่ทำการอุทยานแห่งชาติบางลาง (น้ำตกธารโต) อ.บันนังสตาร์ ถูกสังหารที่ริมถนนสาย 410 ยะลา-เบตง ห่างจากหลักกิโลเมตรที่ 47 ประมาณ 40 เมตร บริเวณ ม.5 บ้านกาโซด ต.บันนังสตาร์ อ.บันนังสตาร์ โดยสภาพศพถูกมัดมือมัดเท้าปิดปากและปิดตา จากนั้นใช้ของแข็ง ทุบบริเวณหน้าและลำตัวจนเสียชีวิต ทั้งนี้ตอนเกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกปล้นอาวุธปืนที่อุทยานแห่งชาติบางลาง ก่อนหน้านี้ตำรวจเคยนำตัว นายอุสมานมาสอบสวน-ตรวจคนที่บ้านด้วย แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
10 ก.ย.45 - ตำรวจจับ นายกอเซ็ง อุเซ็ง อายุ 21 ปี และ นายมูฮัมมัด ลาเต๊ะ อายุ 35 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.โคกสตอ ตามหมายจับของ สภ.อ.ศรีสาคร ที่ 15/2545 ในฐานะผู้ต้องสงสัยวางระเบิดที่ว่าการอำเภอศรีสาคร นราธิวาส เมื่อ 1 ก.ค.45 โดยจากการตรวจค้นบ้านนายมูฮัมมัด พบอาวุธปืนลูกซองยาว 2 กระบอก ปืนคาบิน 1 กระบอก ปืนสั้นขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก ระเบิดลูกเกลี้ยง 2 ลูก กระสุนปืนลูกซอง 15 นัด กระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. 10 นัด ยาแก้ไอ 30 ขวด และยาบ้า 2 เม็ด บัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตั้งข้อกล่าวหานายมูฮัมมัดเพิ่มว่ามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนและวัตถุระเบิด ไว้ในครอบครอง และมียาแก้ไอ ยาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนการ ตรวจค้นที่บ้านของนายกอเซ็ง พบอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก เบื้องต้นนายมูฮัมมัดรับสารภาพข้อกล่าวหาคดี ยาเสพติดและมีอาวุธปืน ส่วนคดีลอบวางระเบิดให้การปฏิเสธ ส่วนนายกอเซ็งให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
29 ต.ค.45 - เวลา 02.00 น.เพลิงไหม้โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หมู่ 3 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว 3 ห้องเรียน 1 ห้องวิทยาศาสตร์ วอดทั้งหลัง, เวลา 02.16 น. เพลิงไหม้ โรงเรียนบ้านลำไพล หมู่ 2 ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวควบคุมเพลิง ไว้ได้ภายในเวลา 30 นาที ห้องเรียนเสียหาย 2 ห้อง, เวลา 02.20 น. เพลิงไหม้โรงเรียนบ้านตาแปด หมู่ 5 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา เป็นอาคารเรียนชั้นเดียว ห้องเรียนเสียหาย 2 ห้อง, เวลา 03.00 น.เกิดระเบิดบริเวณบันไดขั้นที่ 13-14 ทางขึ้นวิหารพระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ หมู่ 2 บ้านช้างให้ตก ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทำให้พื้นหินขัดและราวบันไดเสียหายเป็นหลุมกว้างประมาณ 6 นิ้ว, เวลา 05.40 น. เพลิงไหม้โรงเรียนบ้านนาหว้า หมู่ 1 ต.นาหว้า อ.จะนะ จ.สงขลา อาคารเสียหายเล็กน้อย, เวลา 09.30 น. เพลิงไหม้โรงเรียนวัดคงคาสวัสดิ์ หมู่ 5 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ดับได้ทัน ห้องเรียน เสียหาย 2 ห้อง จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ 5 แห่งพบว่าคนร้ายใช้กระสอบป่านเป็นเชื้อเพลิง-ใช้ก๊าซชนิดเติมปืนลมยี่ห้อบูก้าเฟรมขนาด 320 กรัม กระป๋องละ 53 บาท เป็นตัวเร่งความรุนแรงของเพลิงทำให้แต่ละจุดเสียหายมากกว่าที่ควรจะเป็น ต่อมาเวลา 07.10 น. พบระเบิด 1 ลูกวางข้างโอ่ง ในสุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ริมถนนปัตตานี-นราธิวาส ก.ม.7 หมู่ 3 บ้านกรือเซะ ต.ตันหยงลุโละ อ.เมืองปัตตานี เป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดเพาเวอร์เจล นาฬิกาปลุก 1 เรือน พร้อมถ่านไฟฉาย สามารถเก็บกู้ไว้ได้ และตอนสายมีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มโทรศัพท์แจ้ง สภ.อ.หลายแห่งใน จ.นราธิวาส ว่ามีระเบิด ซุกซ่อนในสถานีรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ สถานีสุไหงปาดี สถานีสุไหงโก-ลก และสถานีรือเสาะ แต่จากการ ตรวจสอบไม่พบวัตถุ ต้องสงสัย, เวลาประมาณ 23.15 น.เกิดระเบิดที่ลานจอดรถของโรงแรมมายการ์เด้น อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้รถยนต์กระบะได้รับ ความเสียหาย 3 คัน จักรยานยนต์ 5 คัน กระจกโรงแรมบริเวณล็อบบี้แตกละเอียด 12 บาน โดยคนร้ายนำระเบิดชนิดแสวงเครื่องตั้งเวลามาวางไว้ บนรถจักรยานยนต์ใกล้ล็อบบี้ของโรงแรม ไม่มีผู้บาดเจ็บ ต่อมาเวลา 23.15 น.คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีฟ้า ทะเบียน กธย-98 ปัตตานี ผูกติดระเบิดนำมาจอดทิ้งไว้จนเกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้กระจกโรงแรมเสียหาย รถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายหลายสิบคัน เกิดขึ้นภายหลังจาก นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.มหาดไทย เดินทางกลับจากการเรียกประชุม 5 ผวจ.ชายแดนภาคใต้ ที่ จ.สงขลา ประมาณ 3 ชั่วโมง นอกจากนั้น ยังตรวจพบวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่ในรถจักรยานยนต์ บริเวณหน้าร้านอาหารวิลล่า คาเฟ่ จากการกู้ระเบิดพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องอีมัลชั่น ยี่ห้อเพาเวอร์เจลหนัก 2 กก. (ย้อนอดีตเหตุวางเพลิงในภาคใต้)
- พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ ดูแลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะรับผิดชอบเรื่องความมั่นคง-พื้นที่ ชายแดนภาคใต้ พร้อมระบุ "...พวกนี้เป็นพวกที่ขี้ขลาด ลอบกัดเป็นประจำ และไม่น่าเป็นเรื่องทางการเมืองอะไรมากมาย แต่คงเป็นความไม่พอใจ อะไรบางอย่าง" และยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการก่อการร้ายข้ามชาติ
30 ต.ค.45 - "ทักษิณ" ระบุเหตุการณ์ลอบวางระเบิดเป็นการกระทำของกลุ่มที่มีปัญหากับรัฐบาลที่เข้าไปจัดการในภาคใต้ สันนิษฐานว่าเป็นการ แสดงออกถึงความไม่พอใจ ต่อต้าน สร้างสถานการณ์ "ขอเรียนได้เลยว่าจากข่าวที่ออกมาประชาชนไม่ต้องห่วงใยเลยว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของ ประเทศ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องภายใน รับรองคนร้ายพูดภาษาไทยแน่นอน ไม่ได้เป็นคนร้ายอินเตอร์"
- "วันมูหะมัดนอร์ มะทา" กล่าวที่ จ.สระบุรีว่า การเผาโรงเรียน 5 แห่งใน จ.สงขลา -ลอบวางระเบิดศาสนสถาน 2 แห่งใน จ.ปัตตานี ถือว่าพวกนี้เป็น พวกก่อกวน สร้างความแตกแยกให้พี่น้องศาสนิกชนในไทย "ในฐานะที่ผมเป็นคนมุสลิมและดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ถ้าไม่สามารถระงับเหตุการณ์หรือ ป้องกันได้ ถือว่าผมไม่มีความสามารถ ไม่ควรเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผมไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง แต่เมื่อมารับหน้าที่ทุกคนรู้หน้าที่ อย่าให้ การเมืองมาก่อนความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว เนื่องจากมีศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง"
31 ต.ค.45 - สอบปากคำ นายมูฮัมหมัด สะเตง และนายนิมะ นิโต๊ะ เนื่องจากสงสัยว่าอาจจะมีส่วนพัวพันการ ลอบวางเพลิง แต่ทั้งสองให้การปฏิเสธ-ปล่อยตัวไป
1 พ.ย.45 - เวลา 22.30 น.คนร้าย 5 คนใช้รถกระบะอีซูซุเป็นพาหนะใช้ปืนอาก้ายิงถล่มรถยนต์สายตรวจของ สภ.อ.ยะรัง จ.ปัตตานี จนเสียหลักตกข้างทางทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
3 พ.ย.45 - ตำรวจสอบปากคำ นายอับดุลกาแดร์ ซาอะ โต๊ะครูสอนโรงเรียนท่าใหญ่วิทยา เป็น นักธุรกิจและเกษตรดีเด่นของ จ.ปัตตานี ซึ่งผู้ต้องสงสัย ลอบยิงตำรวจที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หลังจับกุมได้ ที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 9 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยพบของกลางระเบิดเพาเวอร์เจล น้ำหนักประมาณ 1.26 กิโลกรัม และจดหมายเรียกค่าคุ้มครองปั๊มน้ำมันประทับตราขบวนการบีอาร์เอ็นจำนวนหนึ่ง การสอบสวน เบื้องต้นให้การปฏิเสธ ตำรวจแจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง
4 พ.ย.45 - นายมูหะหมัด สะเตง ผู้ต้องสงสัยวางเพลิง 5 โรงเรียน จ.สงขลา สารภาพว่าเป็นผู้ลงมือ เผาโรงเรียนบ้านนากัน ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย โดยร่วมกับพวกอีก 4 คน วงเงินค่าจ้าง 200,000 บาท แต่หลังเกิดเหตุยังได้รับเงินค่าจ้างไม่ครบตามจำนวน โดยขณะนี้ผู้จ้างงานหลบหนีไปกบดานในประเทศ มาเลเซียแล้ว ส่วนโรงเรียนอีก 4 โรงที่ถูกเผาไม่ทราบว่าใครเป็นคนลงมือ
5 พ.ย.45 - นายกาลิม กาลุปัง ที่ถูกออกหมายจับคดีเผาโรงเรียนชุมชนบ้านนากัน อ.สะบ้าย้อย เข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยให้การปฏิเสธ แต่การสอบสวนทราบว่านายมะลีเป็งเป็นผู้ตัดตอนรับเงินค่าจ้างจำนวน 200,000 บาทมาจากตัวผู้บงการแล้วนำมาจ้างวานให้นายกาลิมและนายมูหะหมัด เป็นผู้ลงมือเผา โรงเรียน โดยทั้ง 3 คนเป็นราษฎรในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย ถูกตั้งข้อหาลอบวางเพลิงสถานที่ราชการอันเป็นสาธารณประโยชน์ วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จับตัว นายเมาโซ เงาะ หรือชื่อจัดตั้งว่า "เมาะโซ" อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 406 หมู่ 7 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นผู้ต้องหา ที่มีหมายจับของ ตำรวจภาค 9 รวม 20 กว่าคดี มีค่าหัว 1.5 แสนบาท จับกุมได้ที่โรงแรมปาร์ค อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ส่วนใหญ่เป็นคดีประทุษร้าย เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ครู กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านหลายคดี คดีสำคัญใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่กลุ่มตำรวจขณะนั่งรับประทานอาหารในตลาดดุซงยอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้ ร.ต.ท.เสวก ระฆังทอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิด ก.ค. 2544 ยิงนายรุ่งโรจน์ อำภาพร ครูโรงเรียนบ้านบูเกะตามอง อ.เจาะไอร้อง เสียชีวิต ขณะไปโรงเรียน ฯลฯ ทางการตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ผู้ต้องหายังปฏิเสธ
6 พ.ย.45 - ตำรวจสอบปากคำ "เมาโซ เงาะ" คดียิงนายมะอาแซ หะยีดือราซิ ช่างตัดผม เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2544 คดียิงนายรุ่งโรจน์ อาภาพร อาจารย์ 1 ระดับ 4 โรงเรียนบ้านบูเกะตาโมง เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2545 และยิงนายช่วย แซ่ภู่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปิเหล็ง วันที่ 2 มกราคม 2545 แต่ให้การปฏิเสธทุกข้อหา จากนั้นนำตัวควบคุมต่อที่เรือนจำ จ.นราธิวาส ขณะเดียวกัน ตำรวจได้จับคนร้ายลอบวางเพลิงเผาอาคารเรียนโรงเรียน ชุมชนบ้านนากัน ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เพิ่มอีก 2 คน คือ นายมะรีกี ดอเลาะ และนายการิม ฟอริดา โดยนายมะรีเป็งสารภาพเป็นผู้รับเงินจาก ผู้จ้างวานซึ่งอยู่ในประเทศมาเลเซีย เพื่อก่อเหตุวางเพลิงโรงเรียนบ้านนากันเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 2 แสนบาท หลังจากนั้นจึงติดต่อกับเพื่อนในกลุ่มอีก 3 คน ที่จับกุมได้เพื่อขอให้ร่วมงาน โดยให้ค่าจ้างทำงานคนละ 10,000 บาท
11 พ.ย.45 - เจ้าหน้าที่จับกุม นายเจ๊ะแอ กอเน็ง อายุ 40 ปี ตามหมายจับในข้อหาใช้ จ้างวานคดีเผาโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหรือตัวบงการที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จับกุมได้ในขณะนี้
12 พ.ย.45 - ไปรษณีย์ควนโดน จ.สตูล แจ้งว่ามีผู้ส่งระเบิดแสวงเครื่องชนิดทีเอ็นที ใช้นาฬิกาปลุกตั้งเวลาไว้ที่เวลา 12.00 น. บรรจุกล่องไปรษณีย์เบอร์ 1 รหัส พี 6166 มีน้ำหนัก 2,600 กรัม ระบุชื่อผู้ส่งคือ นายสมชาย สุขสง่า บ้านเลขที่ 53 ซอยมายอ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ส่วนชื่อผู้รับ คือคุณดรุณี ไกรรักษ์ บ้านเลขที่ 22 ซอยสง่าอุทิศ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่กู้ระเบิดได้
13 พ.ย.45 - นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่ภาคใต้ว่า ความจริง 3 จังหวัดภาคใต้ที่มีปัญหา จริงๆ คือยะลา ปัตตานี นราธิวาส ส่วนสงขลากับสตูลไม่มีปัญหา ซึ่งใน 3 จังหวัดที่มีปัญหานั้นกลุ่มวาดะห์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับกลุ่มชนต่างๆ มากกว่า พรรคประชาธิปัตย์ โดยข้อเท็จจริงกระบวนการแบ่งแยกดินแดนปัตตานีเพื่อให้เป็นรัฐอิสระยังมีอยู่ และปัจจุบันยังมีกองบัญชาการอยู่ที่รัฐกลันตัน และ ทำงานกันตลอด ทั้งมีการฝึกอาวุธที่ตะวันออกกลาง และได้รับการสนับสนุนเงินจากต่างประเทศ เขาก็รู้จักกัน โยงกันทั้งหมด ทั้งนักการเมืองระดับท้องถิ่น ระดับชาติ ซึ่งผมคิดว่ากลุ่มวาดะห์จะรู้เรื่องดี "ขอตั้งข้อสันนิษฐานว่าทุกครั้งที่กลุ่มวาดะห์ขึ้นมามีอำนาจในกระทรวงมหาดไทยไม่ว่าจะเป็นสมัยของนายเด่น โต๊ะมีนา หรือปัจจุบัน ซึ่งมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็น รมว.มหาดไทย นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ เป็นเลขาฯก็สังเกตได้ว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้น พวกที่ กระทำรู้ว่าพวกที่มีอำนาจโดยตรงที่อยู่ในกระทรวงมหาดไทยจะไม่เอาจริงกับมัน ถึงได้รุนแรงอย่างนี้"
- ส่วนการพบพัสดุต้องสงสัยว่ามีวัตถุระเบิดที่ไปรษณีย์ควนโดน ปรากฎว่า นายอนันต์ หวันอาลี ครูสอนศาสนามุสลิม โรงเรียนดารุลอูลูม อ.ควนโดน จ.สตูล ให้การว่าต้องการต้องการส่งนาฬิกาปลุกให้กับ น.ส.ดารุณี ไกรรักษ์ ซึ่งเรียนที่สถาบันราชภัฏยะลา เพื่อใช้ปลุกเตือนให้ตื่นขึ้นมารับประทานอาหารหลังเที่ยงคืน ในเดือนถือศีลอดตามคำร้องขอของ น.ส.ดารุณี ไม่ได้เป็นระเบิดแต่อย่างใด
17 พ.ย.45 - นายนิสนันท์ หรือมะนัง นิโซ๊ะ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคดีเผาโรงเรียนชุมชนบ้านนากัน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อ 29 ต.ค.45 เข้ามอบตัวต่อสู้คดี เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอไปให้การในชั้นศาล
4 ธ.ค.45 - เวลา 19.52 น.เกิดเพลิงไหม้อาคารเรียน โรงเรียนวัดตันติการาม บ้านตอนหลัง หมู่ที่ 3 ต.ตันหยงลิมอ จ.นราธิวาส ค่าเสียหายประมาณ 2 แสนบาท ด้านนายกรัฐมนตรียืนยันว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ไม่ใช่การก่อความไม่สงบของขบวนการก่อการร้าย
26 เม.ย.46 - ชาวบ้านมะนังกือเปาะ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลายพันคนรุมประชาทัณฑ์ ส.ต.อ.โสภณ ชลชาลี และ ส.ต.ท.สมคิด เจิมขุนทด ตชด.หน่วยพลร่มนเรศวร ที่เป็น ตร.ชุด มวลชนสัมพันธ์ เสียชีวิต ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนร้าย "นินจา" ที่ออกปล้นชาวบ้านในพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้หลายจังหวัด เนื่องจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านเคยสอบถาม ตชด.ทั้งสองนายแล้วแต่ไม่ได้รับ คำตอบ-ขับรถ จักรยานยนต์หลบหนี จนวันเกิดเหตุ ตชด.2 นายกลับเข้าไปในพื้นที่อีกครั้ง จึงถูกชาวบ้าน ควบคุมตัว-รุมประชาทัณฑ์ แม้ว่าจะมีกำลังตำรวจเข้าไป ควบคุมสถานการณ์ก็ตามแต่ไม่สำเร็จ และยังทำร้าย พ.ต.อ.นพดล เผือกโสภณ ผกก.สภ.อ.ระแงะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส
27 เม.ย.46 - นายศิวะ แสงมณี รองปลัด ก.มหาดไทย พล.ต.ต.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายธีระ โรจนพรพันธ์ ผวจ.นราธิวาส พล.ต.ต.วรเวทย์ วินิตเนตยานนท์ และนายนัจมุจดีน อูมา ส.ส.เขต 3 จ.นราธิวาส พรรคไทยรักไทย ร่วมกันแถลงข่าวที่ห้องประชุมระแงะ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส กรณีประชาชนรุมประชาทัณฑ์ตำรวจถึงแก่ความตาย โดยนายธีระระบุเหตุการณ์ดังกล่าวมีการสรุป 2 ประเด็น คือ ประชาชนเข้าใจและเชื่อมั่นว่า 2 ตชด.คือกลุ่มนินจาหรือไอ้โม่งที่ก่อเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอาจมีผู้ไม่หวังดีหรือผู้สูญเสียประโยชน์ สร้างสถานการณ์ให้ประชาชนเกลียดชังเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นการสร้างความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้ส่วนตัวไม่เชื่อว่านินจา หรือไอ้โม่ง จะมีตัวตนจริง แต่ นายนัจมุจดีน กลับยืนยันว่ากลุ่มนินจาหรือไอ้โม่งมีตัวตนจริง เป็นกลุ่มที่ก่อเหตุร้ายในพื้นที่ แต่ไม่ทราบจุดประสงค์ที่แท้จริง หรือ กลุ่มใดเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่เชื่อว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้มีความตั้งใจสร้างความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แน่นอน
- พล.ต.ต.พงศพัศ ระบุจากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าประชาชนที่รุมประชาทัณฑ์ 2 ตชด.เป็นคนนอกพื้นที่ มีชาวจังหวัดปัตตานี ยะลาและนราธิวาส จำนวนหนึ่งช่วยกันรุมทำร้าย แต่ไม่มีคนในพื้นที่ทำร้ายแน่นอนในครั้งนี้ได้ สั่งการเป็นภารกิจเร่งด่วน 3 ข้อหลัก คือให้ตำรวจมวลชนสัมพันธ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำการติดตามตรวจ สอบเรื่องราวนินจาหรือไอ้โม่งเพื่อหาข้อเท็จจริงให้สนองนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามเพื่อเอาชนะยาเสพติด ประกาศเป็นที่ปลอดยาเสพติด ปลอดแล้วต้องไม่มียาเสพติดในพื้นที่โดยเด็ดขาด สุดท้ายให้ทำเสนอรายงานเพื่อ ปรับมาตรการด้านมวลชนสัมพันธ์ เพื่อปรับแผนใหญ่ที่จะมีขึ้น และว่าสำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทาง พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.มอบนโยบายเพิ่มเติมให้ตำรวจชุดชุมชน มวลชนสัมพันธ์ปสอดส่องดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดให้มากขึ้น โดยเฉพาะในชุมชนที่ปลอดยาเสพติดแล้ว
- พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่ใช่ปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างข้าราชการตำรวจกับชาวบ้าน เพราะเดิมชาวบ้าน ไม่ได้คิดว่าเป็นข้าราชการหรือไม่ใช่ข้าราชการ เพราะรถที่นำเข้าไปไม่มีทะเบียน และไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ประกอบกับชาวบ้านมีความกลัวเรื่องนินจา เข้าไปขโมยของ ซึ่งมีการตั้งเวรยามกันอยู่ ชาวบ้านเกรงว่าจะใช่นินจาหรือไม่ ตำรวจก็วิ่งหนีโดยไม่พูดจาอะไร จึงทำให้เกิดความไม่เข้าใจต่อเนื่อง ถือเป็นบทเรียนของทางฝ่ายราชการที่ต้องดูว่าการนำเอาคนนอกท้องที่ไปอยู่ในท้องที่จะต้องเข้าใจเรื่องจิตวิทยามวลชนและความรู้สึกของคนด้วย ว่าสถานการณ์ขณะนั้นเป็นอย่างไร
- นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.นราธิวาส พรรคไทยรักไทย ระบุตำรวจไม่มีการตัดสินใจที่เด็ดขาดในการคลี่คลายสถานการณ์ เพราะที่ผ่านมาหลายเดือน ได้เกิดปรากฏการณ์ที่ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือนราธิวาส ยะลา และปัตตานี มีการพูดกันมากในเรื่อง "โจรนินจา" มีพฤติกรรมขโมย ของตามบ้านประชาชน โดยการใส่ชุดดำและปิดหน้าด้วยผ้าดำ ดังนั้นเมื่อมีการจับกุมตำรวจทั้งสองได้โดยที่ตำรวจไม่ยอมแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ จึงเกิดความเข้าใจผิด เพราะสถานการณ์ตั้งแต่ประชาชนใน 3 จังหวัดรู้ข่าวว่ามีการจับกุมโจรนินจาได้ จึงมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แต่ตำรวจ ในพื้นที่กลับไม่รีบขอกำลังมาคลี่คลายสถานการณ์ ปล่อยให้ตำรวจเพียง 17 คนดูพื้นที่ จึงทำเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
28 เม.ย.46 - เวลา 02.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนปล้นอาวุธปืนที่หน่วยทักษิณพัฒนาที่ 12 สังกัด หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ (ฉก.นย.ภต.) ตั้งอยู่ที่บ้านบาลูกายาอิง ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ทำให้ พ.จ.อ.ธงชัย ลิมปิฐาภรณ์ อายุ 22 ปี, จ.อ.วรรณโชค สุทธิรักษ์ อายุ 47 ปี, จ.ต.ภูมิเดชา แสงสงวน อายุ 43 ปี และ พลฯอับดุลเลาะห์ เลาะมาลู อายุ 22 ปี เสียชีวิต ส่วน ร.ท.พลอย แทนทอง อายุ 47 ปี หัวหน้าชุด พัฒนาและช่วยเหลือชาวบ้าน และว่าที่ ร.ต.วัฒนา วาตะยัง อายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บ อาวุธปืนเอ็ม-16 หายไป 14 กระบอก พร้อมกระสุนอีกจำนวนมาก
- ต่อมาเวลา 03.00 น. คนร้าย อาวุธครบมือประมาณ 15 คน บุกปล้นคลังอาวุธของหน่วยทหารชุดทักษิณพัฒนาที่ 5 ของทหารบก หมู่ 4 บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ซึ่งมีกำลังพล 20 นาย นอนหลับอยู่ในฐานมี ร.ท.วิรัช ไกรนุ่ย เป็นหัวหน้าหน่วย ได้ปืนไปประมาณ 20 กระบอก เป็นปืนเอ็ม-16 จำนวน 18 กระบอก ปืนเอ็ม 203 อีก 2 กระบอก และคนร้ายใช้ปืนขนาด 11 ม.ม. ยิง จ.ส.อ.สมคิด ภักดี ถูกขาซ้ายบาดเจ็บ จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายอ้อมไปทางด้านหลังของฐานทหารแล้วใช้ปืนจี้ ส.ท.ทวิช จันทะรัตน์ และ พลฯเปาซี หะยีรอเฮง ยามรักษาการณ์ โดยใช้เทปกาวมัดมือมัดเท้าก่อนจะลากให้ไปชี้คลังอาวุธ ขณะเดียวกัน คนร้ายอีกส่วนหนึ่งใช้ปืนจี้บังคับ ทหารที่อยู่ในบ้านพักไม่ให้ขัดขืน แล้วงัดกุญแจห้องคลังอาวุธขนอาวุธไปทั้งหมดหลบหนีไป โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ พบหลักฐานของคนร้ายเป็นสายเป้สนาม แมกกาซีนพร้อมกระสุนเอ็ม 16 อีก 20 นัด กระสุนปืนลูกซองอีก 6 นัด
(โครงการทักษิณพัฒนาเป็นโครงการที่กองทัพบกได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 4 ให้จัดชุดทักษิณพัฒนาเข้าไปทำงานในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนภาคใต้คือยะลา ปัตตานี นราธิวาส เน้นการทำงานด้านการพัฒนาและงานมวลชน ที่ผ่านมามักจะไม่ค่อยปรากฏว่ากลุ่มคนร้ายจะเข้าไปปล้นอาวุธในหน่วยทักษิณพัฒนา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กลุ่มคนร้ายมุ่งปล้นอาวุธปืนของหน่วยทหาร ที่ทำงานด้านมวลชนในพื้นที่)
- "ทักษิณ" ระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบมาก่อนหน้าหนึ่งสัปดาห์ที่แล้วว่าจะมีพวกหัวรุนแรงที่ผ่านการฝึกมาอย่างดีเข้ามาในประเทศไทยจากมาเลเซียประมาณ 30 คน สร้างสถานการณ์เพื่อสร้างผลงาน เพราะช่วงนี้เป็นฤดูกาลที่กลุ่มเหล่านี้จะได้รับงบประมาณจากตะวันออกกลาง ทำเป็นอาชีพ ไม่ เกี่ยวกับการก่อการร้าย แต่การทำงานของเจ้าหน้าที่ของไทยยังประสานงานกันอ่อนไป และในพื้นที่ก็ไม่ระมัดระวัง "การข่าวรู้หมด แต่การเตรียมการ การเฝ้าระวัง เราแย่มาก ผมได้กำชับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ ให้เรียกประชุมหน่วยงานเหล่านี้ด่วน แล้วถ้าจัดการพวกนี้ไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงต้องรับผิดชอบ มันยังอยู่ต้องไปจัดการให้ได้ ต้องไล่ล่าให้ได้ ล่าไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะถือว่าเป็นเรื่องไม่ยาก แต่เราไม่ดูแล"
29 เม.ย.46 - พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม ซึ่งเดินทางไป จ.นราธิวาส ตั้ง ข้อสันนิษฐานว่า คนร้ายที่ก่อเหตุปล้นหน่วยทักษิณพัฒนาเคยเป็น ขจก ที่หลบหนีไปเปิดกิจการอยู่ในมาเลเซีย แต่ถูกทางการมาเลเซียผลักดันกลับมาร่วมมือกับผู้สูญเสียผลประโยชน์จากยาเสพติด ก่อเหตุขึ้นเพื่อทำลายอำนาจรัฐ มีจุดมุ่งหมายขยายอิทธิพลเรียกค่าคุ้มครอง
- ว่าที่ ร.ต.วัฒนา วาตะยัง รอง หน.นทพ.12 ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จากการถูกปล้นอาวุธ ณ หน่วยทักษิณพัฒนาที่ 12 จ.นราธิวาส เสียชีวิตบนเฮลิคอปเตอร์ ระหว่างถูกนำส่งไป ร.พ.สงขลานครินทร์หาดใหญ่ จ.สงขลา นับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 5 เฉพาะหน่วยทักษิณพัฒนา
30 เม.ย.46 - "ทักษิณ" ให้สัมภาษณ์ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ในภาคใต้ว่า "ผมให้เวลา 1 เดือน ถ้าจัดการเอาตัวคนร้าย มาได้ไม่ว่าจับเป็น จับตาย ได้ทั้งนั้น จะถือว่าทุกอย่างจบ ไม่มีปัญหา ถือเป็นบทเรียนต่อไป แต่ถ้าจัดการไม่ได้ ต้องมีคนถูกลงโทษแน่นอน"
- พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.และคณะ เดินทางไป จ.นราธิวาส พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการปล้นอาวุธปืนทหารที่ อ.ธารโต จ.ยะลา และ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส มีความแตกต่างกัน ที่จ.ยะลา เป็นการปล้นปืนแต่ไม่สังหาร เจ้าหน้าที่ทหาร และไม่มีความตั้งใจที่จะเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ ซึ่งส่อพิรุธหลายอย่าง ส่วนการปล้นของกลุ่มโจรที่ จ.นราธิวาส เป็นความตั้งใจที่จะสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร มีการวางแผนเป็นอย่างดี เป็นกลุ่มโจรอาชีพที่ได้รับการฝึกฝน อย่างชำนาญในการบุกจู่โจม เพราะการบุกปล้นและสังหารใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น และว่ากลุ่มที่ ลงมือไม่ใช่กลุ่มเดียวกันแน่นอน ส่วนสาเหตุการ ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ขณะนี้เชื่อมั่นว่า เป้าหมายเพื่อทำลายภาพพจน์เจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะเป้าหมายใหญ่ คือทำลายความเชื่อมั่นต่อการทำงานและ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- ตำรวจและทหารจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายที่ปล้นปืนทหารได้ 3 คน ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ มากมูล และนายอาหะมะ อีแต ส่วนอีกคน เจ้าหน้าที่กันไว้เป็นพยาน โดยชาวบ้านเป็นผู้แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ว่าคนร้ายดังกล่าวเป็นผู้ตัดต้นไม้ขวางถนน และผูกระเบิดตามเส้นทางที่กลุ่มโจรปล้นปืนใช้หลบหนี เพื่อสกัดการตามล่าของเจ้าหน้าที่
- คนร้าย 1 คนใช้ปืน.38 ยิง ส.ต.ท.วิเชียร ปุริยะพันธุ์ อายุ33ปี ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.อ.เมืองปัตตานี ที่บ้านพักกลางเมืองปัตตานี เสียชีวิต เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับคดีปล้นปืนทหาร หรือประชาทัณฑ์ 2 ตชด.เสียชีวิต เนื่องจาก ส.ต.ท.วิเชียร เคยก่อเหตุยิงชาวบ้าน ที่ปะนาเระเสียชีวิตเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา จึงโดนจับกุมดำเนินคดี และถูกพักราชการกว่า 1 ปี ต่อมา ส.ต.ท.วิเชียรต่ อสู้คดีจนหลุด และขอกลับ เข้ามารับราชการเมื่อประมาณ 1 ปีเศษ กระทั่งมาโดนยิง
1 พ.ค.46 - "พล.ต.ต.พงศพัศ" และชุดตำรวจชุมชนมวลชนสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่บ้านทับทอง อ.ระแงะ จว.นราธิวาสว่า โจรนินจาเป็นเพียงข่าวลือ จากนั้นไปร่วมสอบสวนผู้ต้องสงสัย 2 รายคือ นายปรีชา มากมูล อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 ม.6 .ต.พงจรเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง และนายอาหามะ อีแต อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 215 ถ. ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เบื้องต้นให้การปฏิเสธ
- ตำรวจ สภ.อ.เจาะไอร้อง จว.นราธิวาส จับกุมแกนนำของกลุ่มที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายในคดีปล้นปืนทหารได้ 1 ราย เป็นครูสอนในโรงเรียนปอเนาะสัมพันธ์วิทยา เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครอง
2 พ.ค.46 - พนักงานสอบสวนออกหมายจับ นายอิสมะแอะ เจ๊ะและ อายุ 25 ปี เหตุการณ์รุมประชาทัณฑ์ ตชด. เพราะทำกระเป๋าตกไว้ในที่เกิดเหตุ
7 พ.ค.46 - เวลา 22.30 น.คนร้ายใช้ปืนลูกซองยาวยิง ส.ต.ต.เศกศักดิ์ เอียดวารี อายุ 30 ปี ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม ที่ศีรษะ ใบหน้า ลำตัว และแขน ที่บ้านเช่าเลขที่ 138/9 หมู่ 2 ต.ตุยง ห่างจาก สภ.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ประมาณ 1 กิโลเมตร เสียชีวิต ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้ 4 คน ประกอบด้วย นายสะการียา ยีมามะ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 5 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก นายเจ๊ะดาโอ๊ะ อูมาร์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 4 ต.ตุยง อ.หนองจิก นายมะแอ อาแว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 214 หมู่ที่ 4 ต.ท่ากำชำ และนายสักกือรี แมปาแด อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ที่ 1 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ข้อร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานและร่วมกันลักทรัพย์
8 พ.ค.46 - เวลา 01.30 น. คนร้ายลอบวางเพลิงตู้โทรศัพท์สาธารณะ 2 แห่งในหมู่บ้านปาลอบาตะและหมู่บ้านบือแนกาเซ็ง ริมถนนข้างมัสยิดดารุลตะเล็ม หมู่ 2 ต.ลูโบ๊ะบายะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส จนเสียหายใช้การไม่ได้ กระจกด้านหลังตู้มีรอยไฟเผาจนแตก และพบกระสอบป่านชุบน้ำมันก๊าด เป็นเชื้อเพลิง
9 พ.ค.46 - พ.ต.อ.อนุรุต กฤษณะการะกตุ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ ตชด.ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน ซึ่งเป็นราษฎรใน ต.เฉลิม อ.ระแงะ
10 พ.ค.46 - เวลา 03.00 น.คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะตระเวนทุบกระจกตู้โทรศัพท์สาธารณะ บริเวณถนนกาญจนา 2 เขตเทศบาลนครยะลา หน้าตลาดนัดจตุจักร ถนนรถไฟ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นติดยาที่โกรธแค้นเจ้าหน้าที่ที่กวาดล้างยาเสพติด
12 พ.ค.46 - ตำรวจภาค 9 สอบปากคำ นายลอยือรัน เปาะเฮงนายยูโซ๊ะ อีแตรือเงาะ นายกาซียาดือแมงาเซ เอลิรอ ผู้ต้องหาร่วมกันประชาทัณฑ์ ตชด.ค่ายนเรศวร เสียชีวิต 2 นาย และนำภาพถ่าย ผู้ต้องสงสัยจำนวน 10 คน มาให้ชี้ตัว 1 ใน 10 ที่ร่วมก่อเหตุด้วยคือ นายมะกอเร ยาแตอายุ 22 ปี โดย วันเกิดเหตุเป็นคนใช้ขวานและจอบฟัน ตชด. 2 นายเสียชีวิต การสอบสวนนายลอยือรัน ผู้ต้องหา ที่พูดภาษาไทยได้คนเดียว อ้างว่าไม่รู้ว่าทั้ง 2 คนเป็นตำรวจ เข้าใจว่าเป็นโจรนินจา เลยร่วมกับชาวบ้านทำร้าย
14 พ.ค.46 - เวลา 10.20 น.เกิดเพลิงไหม้อาคารเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ซอยกำปงบารู ถนนพิชิตบำรุง อ.เมือง จ.นราธิวาส ต้นเพลิง เกิดขึ้นบริเวณห้องทำงานของ นางนิภาภรณ์ ทองสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 2 ใช้เวลาดับเพลิงประมาณ 15 นาที ค่าเสียหายประมาณ 8 หมื่นบาท
16 พ.ค.46 - เวลา 07.00 น.คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ใช้ปืน.357 ยิง ส.ต.ท.อดิศัย อูแมะ อายุ 32 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.อ.สุไหงปาดี รวม 7 นัด จนเสียชีวิตบนถนนสายสุไหงปาดี-อำเภอแว้ง หมู่ที่ 1 บ้านบาลูกา ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส โดยคนร้ายนำปืนเอ็ม-16 ของ ส.ต.ท.อดิศัย ไปด้วย
20 พ.ค.46 - คนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย.ใช้ปืน.357 ยิง จ.ส.ต.อาแว ลีมิง อายุ 42 ปี ผบ.หมู่งาน ป.ชุดเคลื่อนที่เร็ว เสียชีวิต บนถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ที่บ้านส้มป่อย หมู่ 4 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
27 พ.ค.46 - เวลา07.00 น.คนร้ายใช้ปืน 9 ม.ม.ยิง นายฮาแว แมงมาซา อายุ 43 ปี เทศมนตรีฝ่ายการศึกษา เทศบาลตำบลมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตหน้าบ้านพัก หมู่ 4 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากปัญหาส่วนตัว
28 พ.ค.46 - คนร้ายใช้อาวุธปืนสั้นลอบยิง นายทัศนัย บุญส่ง อายุ 38 ปี ครูอาสาสมัคร ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน(กศน.) อ.มายอ จ.ปัตตานี เสียชีวิต บริเวณถนนชลประทาน หมู่ที่ 1 บ้านเปาะดอฆอ ต.กอลำ อ.ยะรัง
3 มิ.ย.46 - กลุ่มคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์บุกปล้นปืนที่บ้าน นายเจ๊ะยิ อาลีฮา อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 4 ซึ่งเป็นอาสาสมัครพัฒนาป้องกันตนเอง (อพป.) ในพื้นที่บ้านตันหยง ต.บาแระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้ปืนลูกซองยาว 5 นัดจำนวน 1 กระบอก แต่ไม่มีเครื่องกระสุนบรรจุอยู่
- นายเจะอามิง โตะตาหยง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม ว่ามีกลุ่มลัทธิใหม่ "วาฮาบี" นำมาปะปนกับการสอนศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ระบุว่าได้รับ รายงานจากหน่วยข่าวกรองว่ากลุ่มสอนศาสนาดังกล่าวมีการเคลื่อนไหวในลักษณะครูสอนศาสนา โดยมีเป้าหมายเพื่อแบ่งแยกดินแดนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการกล่าวหาองค์กรด้านศาสนา บิดเบือนจากข้อมูลที่เป็นจริง เสมือนเป็นการยัดเยียดข้อกล่าวหาให้องค์กรหรือผู้นำศาสนา ทำให้ประชาชน เข้าใจอย่างคลาดเคลื่อน กรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ารัฐบาล ขาดข้อมูล-ยังไม่เข้าใจถึงการแก้ปัญหาทางภาคใต้อย่างชัดเจน โดยยืนยันว่ากลุ่มวะห์บีเป็นกลุ่มสอนศาสนาอิสลามอย่างเดียว ไม่มีการเคลื่อนไหวด้านการเมืองหรือด้านอื่นใดแอบแฝง
6 มิ.ย.46 - เวลา 13.00 น.คนร้ายบุกปล้นปืนอาสาสมัครพัฒนาป้องกันหมู่บ้าน (อพป.) รวม 5 จุด โดย 2 จุดอยู่ที่หมู่ 3 บ้านสูแฆ ต.ดุชงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส, หมู่7 ต.ตือกอ อ.จะแนะ และอีก 2 จุดที่หมู่ 1 บ้านไอร์กูบู ต.สุไหงปาดี ได้อาวุธปืนไปทั้งหมด 5 กระบอก
7 มิ.ย.46 - เวลา 20.30 น.คนร้าย 5 คนใช้อาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก เอชเค 2 กระบอก และเอ็ม-16 อีก 2 กระบอก บุกยึดอาวุธปืนเอ็ม-16 จำนวน 1 กระบอกของ นายมะยา กอเด เจ้าหน้าที่อส. พนักงานขับรถของนายประคอง คงแก้ว นายอำเภอรามัน จ.ยะลา ในบ้านเลขที่ 102 หมู่3 ต.จ๊วะก๊วะ อ.รามัน จ.ยะลา โดยหลบหนีไปได้
9 มิ.ย.46 - เวลา 6.20 น.คนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านพอแม็ง หมู่ 4 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ห่างจาก สภ.อ.รามัน ประมาณ 2 ก.ม. โดยห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย ที่บริเวณประตูทางเข้า หน้าต่างและยังมีอุปกรณ์การเรียน เก้าอี้และกระเป๋า นักเรียนถูกเพลิงไหม้เสียหาย จาก การตรวจสอบพบเศษยางในรถยนต์ที่บริเวณประตูทางเข้าของอาคารเรียน และพบด้ามไม้เสาธงจำนวน 3 ด้าม เศษผ้าที่ถูกเผาไหม้เกรียม นอกจากนี้ที่บริเวณด้านหน้าป้ายโรงเรียน ซึ่งเป็นทางเข้ายังพบว่าธงที่ปักไว้จำนวน 3 อัน ประกอบด้วย ธงชาติ ธงกีฬาสีฟ้า และสีแดงหายไป ต่อมาเวลา 19.00 น. นายกิตติ กิตติโชควัฒนา ผวจ.ยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่แถลงข่าวการจับกุม นายอารูดิน เซะบากอ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 4 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ในข้อหาลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านพอแม็ง โดยสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือเผาโรงเรียนด้วยตนเองเพียงผู้เดียว เนื่องจากโกรธแค้นกับครูที่ว่ากล่าว ในระหว่างที่นายอารูดินเข้าไปช่วยบิดาซึ่งเป็นนักการภารโรงของโรงเรียนดังกล่าว โดย นายอารูดินมักจะช่วยบิดาเฝ้าโรงเรียนในเวลากลางคืน และมักจะเข้าไปรื้อสิ่งของต่างๆในห้องพักครู ทำให้ครูไม่พอใจดุด่า
3 ก.ค.46 - เวลา 19.20 น.คนร้าย 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะใช้อาวุธสงครามถล่ม ป้อมตำรวจบ้านแหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำให้ ส.ต.อ.อนันต์ ดำอุไร อายุ 31 ปี ส.ต.ต.รอหีม บินหมุด อายุ 27 ปี ส.ต.ต.นิวัช ยาววาหาบ อายุ 27 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตทั้ง 3 ศพ เวลาใกล้เคียงกัน คนร้ายยิงถล่มป้อมยามบ้านมะนังดาลัม ต.มะนังดาลัม อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้นายรุสลาม โอสถเวช อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185/7 หมู่ 1 ต.มะนังดาลัม ซึ่งมีบ้านพักอยู่หลังป้อมยามมะนังดาลัม โดนกระสุนปืนเสียชีวิต และเวลา 19.30 น.คนร้ายยิงถล่ม ป้อมยามตำรวจบ้านดาโต๊ะ อ.หนองจิก ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย ได้แก่ ด.ต.วิเชียร ลายพรม และ ส.ต.อ.ไพบูลย์ แสงศรีบาดเจ็บ 3 นาย
4 ก.ค.46 - "ทักษิณ" ลงนามแต่งตั้ง คกก.แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีนายวันมูหะมัดนอร์ เป็นผู้อำนวยการ นายศิวะ แสงมณี เป็นเลขาธิการ โดยใช้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) เดิม ที่ จ.ยะลา เป็นที่ตั้งศูนย์ การทำงานจะต่างกับ ศอ.บต.เดิม โดยมี รมว.มหาดไทยเป็นหลัก และมีอำนาจเต็มที่ กรณีเหตุการณ์จำเป็นจะมีกำลังทั้งตำรวจ ทหารเข้ามาช่วยได้ และในอนาคตจะให้ผู้นำศาสนาเข้ามานั่งเป็นที่ปรึกษา
13 ก.ค.46 - คนร้ายซุ่มยิง นายอาแวกือจิ ดอฆอ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 ม.4 บ้านกูเว อดีตทหารเกณฑ์ที่เคยปะทะกับขจก.มาหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีกระสุนฝังในอยู่ในศีรษะไม่สามารถผ่าออกได้ จนต้นสังกัดมีคำสั่งปลดเพราะพิการ ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นสายข่าวทหาร รายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มขจก. และการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ โดยถูกยิงบริเวณสามแยก ถ.สายบูกิต-ไอสะเตียร์ ม.4 บ้านกูเว ต.บูกิต จ.นราธิวาส จนเสียชีวิต วันเดียวกัน คนร้ายยิง นายอามะ หรืออาหะมะ ปาแน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/3 ม.1 ต.เรียง เป็นสายข่าวให้ฝ่ายทหาร รายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้มีอิทธิพลค้ายาเสพติดในพื้นที่ จนเสียชีวิตภายในร้านกาแฟ เลขที่ 31 ม.8 บ้านกำปงบารู ต.เรียง อ.รือเสาะ
15 ก.ค.46 - จับกุมคนร้ายใช้ปืนยิง ส.ต.ท.อดิศัย กูแมะ ผบ.หมู่ สภ.อ.สุไหงปาดี เสียชีวิต เมื่อ 16 พ.ค.46 ประกอบด้วย นายเปาชี มามุ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.2 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี และนายหัสมี หรือสือบี ตาลีหะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 ม.2 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ถูก แจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาว่าร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
28 ส.ค.46 - นายมาหามะ แมะเราะ อายุ 26 ปี หัวหน้ากลุ่มย่อย ขจก.กลุ่มมูจาฮีดีน อิสลามปัตตานี ใช้อาวุธปืนอาก้ากราดยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างล้อมจับกุมแหล่งซ่องสุม อาวุธที่บ้านเลขที่ 45 บ้านสุไหงปาแน หมู่ 1 ต.บานา อ.เมืองปัตตานี ทำให้ จ.ส.ต.รุ่งโรจน์กาหมอ อายุ 35 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ-ท้องน้อยเสียชีวิต, ส.ต.อ.นพ บัวศรี อายุ 30 ปี ถูกยิงที่ ขาขวาได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายมาหามะได้หลบหนีไป ต่อมา พ.ต.อ.มานิตย์ รัตนาวิน ผกก.สภ.อ.เมืองปัตตานี พร้อมตำรวจกว่า 30 นาย เข้าตรวจ ค้นบ้านดังกล่าวอีกครั้งทำให้ พ.ต.อ.มานิตย์ เสียชีวิตระหว่าง แย่งปืนกับนายมาหามะ นอกจากนี้คนร้ายยังยิง พ.ต.ท.มนตรี มูลพินิจ รอง ผกก.ป. ที่ศีรษะเสียชีวิตอีกหนึ่งนาย และหลบหนีเข้าป่าละเมาะ แต่ถูก ตชด.ที่ปิดล้อมยิงเสียชีวิต จากการพิสูจน์ศพพบว่านายมาหามะใส่เสื้อเกราะกันกระสุน-สวมเสื้อกั๊กทับ มีซองกระสุนอาก้าในเสื้อกั๊ก 8 ซอง นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนขนาด .357 และขนาด 9 ม.ม.อย่างละ 1 กระบอก กระสุนจำนวนหนึ่ง ระเบิดเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก และพบบัตรประจำตัวทหารระบุชื่อ พลฯ มาหามะ แมะเราะ สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ปลดประจำการเมื่อปี 2542 ส่วนการค้นบ้านพบหนังสือเกี่ยวกับขบวนการเจไอ และเอกสารภาษามาเลเซียจำนวนหนึ่ง พาสปอร์ตของชาวกัมพูชา 2 คน ระบุชื่อนายมูซา กริยา และนายสุโก สมาท อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 5 ต.มะนังยง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี สรุปว่ามีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 6 นายและชาวบ้านอีก 1 นาย
7 ต.ค.46 - คนร้ายใช้ปืนขนาด.357 ยิง ด.ต.คณิตศักดิ์ บุตตะจีน อายุ 46 ปี ผบ.หมู่ กก.ตชด.447บ้านเจาะวา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เสียชีวิตบนถนนจารุเสถียร เขตรอยต่อบ้านบือราแงกับบ้านเจาะวา หมู่ 3 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี สำหรับจุดที่เกิดเหตุเป็นจุดเดียวกับที่เคยเกิดเหตุสังหาร พ.ต.สุธรรม ศรีริกานนท์ นายทหารหน่วยส่งกำลังบำรุงนพค.41กรป.กลาง คนสนิทนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.มหาดไทย เมื่อต้นปี
25 ต.ค.46 - เวลา 18.15 น.คนร้าย 6 คน ใช้อาวุธสงครามอาก้ายิงถล่มตำรวจที่จุดตรวจป้อมยามบ้านม่วงหวาน ต.สาคอบน อ.มายอ จ.ปัตตานี ทำให้ ส.ต.อ.เกรียงไกร คีรีสุทธิ อายุ 32 ปี เสียชีวิต นอกจากนี้ คนร้ายอีกกลุ่มจำนวน 6 คน บุกเข้าไปในฐานกองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาาส ขณะเจ้าหน้าที่กำลังรับประทานอาหารเย็น จากนั้นใช้อาวุธปืนสงครามยิง ทำให้ อส.สอแล็ะ มาน๊ะ เสียชีวิต 1 นาย ส่วน อส.มะนารี อาแซ อายุ 29 ปี และ อส.นาแว ดิง อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดย อส.นาแว ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ คนร้ายยัง กวาดอาวุธปืนทางราชการคืออาวุธปืน เอช เค 3 กระบอก อาวุธปืน เอ็ม-16 เอ็มทู 1 กระบอก รวมเป็น 4 กระบอกไปด้วย
27 พ.ย.46 - กลุ่มคนร้าย 8 คน อาวุธครบมือ-ใส่ชุดพรางบุกเข้าโจมตีห้องวิทยุ กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.เทพา จ.สงขลา หลัง ที่ว่าการอำเภอเทพา ห่างจาก สภ.อ.เทพา เพียง 30 เมตร โดยปะทะกับ อส.เพื่อม พุฒิวรากุล หน.ชุด อส.เทพา ผู้เข้าเวรยามได้รับบาดเจ็บจากการยิงปะทะ ที่แขนข้างซ้าย ในขณะที่กลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณพื้นที่ ต.ตาแปด ซึ่งเป็นตำบลรอยต่อกับ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทำให้ ส.ต.ท.ถนัด สังข์น้อย ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ต.ห้วยปลิง ที่ไล่ติดตามคนร้ายได้รับบาดเจ็บ
20 ธ.ค.46 - ตำรวจ สภ.อ.เทพา จับเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อส.) เทพา 6 นาย ประกอบด้วย นายอนุกูล หนูเอียด นายสักการิยา การียะ นายชาลี อ่อนข้าง นายไพโรจน์ อดทน นายปรีชา อุ่นแดง และนายจักรวรรดิ์ กาฬสงค์ ข้อหาร่วมกันปล้นอาวุธปืนและยิงถล่มบก.ร้อย อส.อ.เทพา ซึ่งเป็นต้นสังกัด เมื่อ 27 พ.ย.46 แต่ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ถูกนำตัวฝากขังที่ศาล จ.สงขลา
22 ธ.ค.46 - กลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และชาวบ้าน อ.เทพา จ.สงขลา กว่า 200 คน ยื่นหนังสือผ่าน นายธำรงค์ เจริญกุล ปลัดจังหวัดสงขลา ถึง นายสมพร ใช้บางยาง ผวจ.สงขลา เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ อส.เทพา 6 นาย เนื่องจากไม่เชื่อว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ พร้อม ขอประกันตัวแต่หลักทรัพย์ไม่พอ
24 ธ.ค.46 - กลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ พร้อม นายบรรจิต รัตนโชติ นายอำเภอเทพา พ.ต.ท.วิจิตร สุวิทย์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และนายจรัล สุวรรณะ กรรมการฝ่ายการฝ่ายกฎหมายสภาทนายความ ขอประกันตัว อส.เทพา 6 คน โดยใช้ตำแหน่งและหลักทรัพย์ต่าง ๆ รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท โดยผู้พิพากษาอนุมัติให้ประกันตัวในวงเงินคนละ 800,000 บาท