444 ความเห็นในกระทู้นี้

[HiddenMan]

ขนาดเป็นคนออกนโยบาย 300 บาทเอง... กว่าจะเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการก็ปาเข้าไปเมื่อไหร่กัน?

 

http://www.manager.c...D=9560000004309

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบข้อเสนอจากคณะกรรมการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อบรรเทาผลกระทบการปรับ ค่าจ้างขั้นต่ำและเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการธุรกิจ เอสเอ็มอี แบ่งเป็น 5 มาตรการหลัก 15 มาตรการย่อย

 

 

เป็นรัฐบาลมาตั้งแต่เมื่อไหร่... ออกนโยบายตั้งแต่ก่อนเป็นรัฐบาล แต่มาตรการช่วยเหลือเพิ่งมี

ขนาดรัฐบาลยังช้าขนาดนี้ แล้วจะมาคาดคั้นให้ผู้ประกอบการปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยที่ไร้ความช่วยเหลือจากคนออกนโยบาย....

 

 

ผู้ประกอบการทุกคนรู้ตั้งแต่เพื่อไทยชนะลือกตั้งปี 54 แล้วนะครับว่าค่าแรงต้องขึ้นเป็น 300 บาท

รัฐบาลเขาชะลอมาให้จนนี่ปี 56 แล้ว ยังจะเอาเป็นขั้นบันไดอีก ไม่รอขั้นบันไดไปชาติหน้าเลยหล่ะครับ

 

 

 อย่างที่ผมบอกไงรัฐบาลก็รู้... รู้ก่อนนานด้วยตั้งแต่ยังไม่เป็นรัฐบาล

แต่ไม่มีมาตรการอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปล่อยไปตามลม ทั้งๆที่รู้ว่าต้องมีปัญหา

ผู้ประกอบการก็ต้องพยายามปรับตัว ใหญ่ๆไม่ต้องพูดถึง... แล้ว SME ล่ะ

ต้องปรับตัวได้เองโดยไร้การช่วยเหลือใดๆจากรัฐบาลหรอ

 

ผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดเป็นคนมีอันจะกินหรือไง

 

 

รัฐบาลออกนโยบายที่ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ทัน กลับกลายเป็นความผิดของผู้ประกอบการ

[son]

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

[เช never die]

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

 

เออวะ..  กุออกทะเลกะพวกกุก็ได้ ชิส์ส์ส์ .... 

[HiddenMan]

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

 

ขอโทษที่ร่วมออกทะเล... แต่งานนี้ son ตั้งกระทู้ใหม่อาจจะง่ายกว่า

[Leeporter ขี้แพ้]

 

 

 

 

 

ถ้า 500 บาทต่อวันมันเหมาะสม ก้ต้องขึ้นค่าแรงให้แรงงานเป้นวันละ 500 บาทครับ ผมไม่คัดค้าน แต่ค่อยๆทยอยปรับขึ้นเป็นขั้นบันได 6 เดือน - 1 ปี คราวละ 20% - 30% ไม่เกิน 3 - 4 ปี ก็ได้ค่าแรงวันละ 500 บาท แล้วโคดพ่อโคดแม่มันจะขาดใจตายหรือไงครับ มันจึงทุรนทุรายอะไรหนักหนาจึงต้องปรับขึ้นพรวกพราดทีเดียวครั้งเดียว 100%

 

 

 

ผมถามหน่อยว่าทำไมต้องค่อยๆ ปรับ

หากคุณคิดว้ามันเป็นค่าแรงที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับลูกจ้าง คุณควรให้เขาย้อนหลังด้วยซ้ำ

นายจ้างขูดรีดแรงงานมานานหลายปี จนร่ำรวยหลายร้อยล้าน

คุณควรให้เงินค่าจ้างย้อนหลังเขาด้วยซ้ำนะครับเช

 

แล้วไอ้โรงงานที่มันเจ๊งไปหน่ะ ก็เพราะมันทำธุรกิจสู้เขาไม่ได้ มันก๋ต้องเจ๊งไป

คุณจะไปอุ้มโรงงานพวกนั้น โดยให้ลูกจ้างหาเช้ากินค่ำเป็นคน subsidize ไปอีก 2-3 ปี มันไม่ถูก

 

คุณลี ครับ

 

คุณเป็นอย่างที่หลาย ๆ คนว่าจริง ๆ

 

คุณมองด้านเดียวว่า แรงงานต้องได้ 300 จึงจะช่วยเค้า

 

แต่คุณคิดถึงคนที่ไม่ได้ค่าแรง 300 สิ

 

ชาวนา ชาวไร ชาวสวน หรือ แม้แต่ สาวร้านโอเกะ 

 

ค่าครองชีพ มันสูงขึ้นตาม ค่าแรงที่ขึ้นกัน 

 

อย่าง 300 บาท พอขึ้นแล้วอะไรเกิดขึ้นตามมา ของแพง ค่าจ่ายใช้เยอะขึ้น ค่าอะไรต่อมิอะไร แพงขึ้น

 

คนที่เค้าไม่ได้ค่าแรง 300 นะ เค้าจะอยู่ยังไง

 

ผมไม่ได้ห้ามไม่ให้ขึ้นค่าแรง แต่ควรจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ขึ้น ที่เดี่ยวเกืือบ 100 บาท

 

เฮ้อ

 

เห็นใจคนที่เค้าไม่ได้ค่าแรงบ้าง

 

ผมบอกไว้แล้วในอีกกระทู้ว่าชาวไร่ชาวนาก็ควรขายสินค้าได้แพงขึ้น ผักกำละ 10 บาทมันไม่ได้แพงอะไรเลยหากค่าแรงคนที่ต้องซื้อผักมากินมันสูงขึ้น

 

นี่คุณเล่นไปกดมันหมดทั้งค่าแรง ราคาสินค้าเกษตร เพื่อให้คนในเมืองได้กินของถูกด้วยค่าจ้างต่ำๆ ที่ได้รับ

 

หากสาวโอเกะยอมทิ้งเรือกสวนไร่นาที่มีผลตอบแทนจากผลิตราคาสูงมาทำงานด้วยค่าแรงเพียงไม่กี่บาท อันนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาเลือกวิถีชีวิตแบบโง่ๆ ของเขาเองครับ

 

แต่ปัจจุบันคุณไปกดราคาอาหาร สินค้าการเกษตรเพื่อให้สอดคล้องกับค่าแรงต่ำๆ แบบลาวกำลังจะไล่ทัน แล้วคุณก็เอาหางไปพันหัวตัวเองแล้วบอกว่าไม่มีทางออก

 

เข้าใจละ ว่า ำไมคุณลี ถึงได้ตรรกะเพี้ยนแบนี้

 

ค่าแรงก่อนจะขึ้น 300 บาท เค้าปรับกันตามความเหมาะสม หรือ ค่าครองชีพ ในแต่ละที่อยู่แล้ว

 

แต่การที่ขึ้น ค่าแรงเป็น 300 ทีเดียวเลยนะ มันไม่ช่วยอะไรเลยนะ

 

ค่าอะไรแพงค่าเป็นเงาตามตัว ค่าข้าวปลาอาหาร ค่ารถ ค่านั่นค่านี้

 

สินค้าเกษตรมันก้อเป็นไปตามกลไกด้วย มันก้อขึ้น ๆ ลงๆ อยู่แล้วตามฤดูกาล ตามความต้องการ

 

เมื่อก่อนเค้าอยู่ได้กัน ค่อย ๆ ปรับกันไป ถ้าค่าครองชีพสูงขึ้น เค้าก้อปรับค่าแรงขึ้นตามค่าครองชีพ

 

เฮ้อ

 

พวกตรรกะเีพี้ยนนี้มีเยอะเหลือเกิน

Pkung

 

คุณเข้าใจหรือเปล่าว่าโครงสร้างค่าแรงและราคาสินค้าทางการเกษตร/อาหารของเรามันผิดเพี้ยนไปจากที่มันควรจะเป็นมานานมากแล้วเพราะการส่งเสริมการส่งออกและส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติเป็นหลัก

 

มันทำให้คนไทย "จน" กว่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจไทยมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ดีกว่าประเทศกากๆ ในยุโรปหลายประเทศด้วยซ้ำ

 

เพราะเราไปตัดตอนทำให้เกษตรกรไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ทำให้ทุกอย่างมันไม่ไหลลื่นอย่างที่มันควรจะเป็น

 

เกษตรกรและแรงงานราคาถูกช่วยกัน subsidize ผู้ส่งออกและบริษัทต่างชาติมานานมากเกินไปแล้ว ได้เวลาที่เราต้องปล่อยให้มันเลื่อนกลับจุดสมดุลที่มันควรจะเป็นได้แล้วครับ

 

ผมก้บอกแล้วไง ถ้าค่าแรงที่เหมาะสมมันต้องเป้นวันละ 1000 บาท ก็ต้องให้เค้าวันละ 1000 บาท เพื่อคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมของแรงงาน แต่มัน เงี่ยน เสี้ยน ปรี้ดดด.. 4ss อย่างไร ทำไมมันประกาศปรับขึ้นทีละ 20% - 30% ปีละ 2 ครั้งไม่ได้ ทำไมจะต้องน้ำแตกฉ่าปรี้ดๆๆๆ... ขึ้นค่าแรงทีเดียว 100%

 

 

30% ปีละ 2 ครั้ง ใช้เวลาปีครึ่ง

 

จากสิงหา 54 ถึง เมษา 56 เกินปีครึ่งแล้ว เช

ดีกว่าข้อเสนอของคุณอีก

 

โรงงานเหล่านั้นได้เงินไปหมุนฟรีๆ กินดอกเบี้ยไปปีครึ่งแล้ว

 

โรงงานที่เขาตั้งใจจะปรับตัวเขาก็ค่อยๆทยอยขึ้นไปแล้วหล่ะ เขาไม่เดือดร้อนอะไร

 

เหลือแต่ไอ้พวกที่กะว่ารัฐบาลเขาจะลืมหรือเปลี่ยนนโยบาย

 

มันไม่มีข้ออ้างแล้วเช

[เช never die]

 

ขนาดเป็นคนออกนโยบาย 300 บาทเอง... กว่าจะเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการก็ปาเข้าไปเมื่อไหร่กัน?

 

http://www.manager.c...D=9560000004309

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบข้อเสนอจากคณะกรรมการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อบรรเทาผลกระทบการปรับ ค่าจ้างขั้นต่ำและเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการธุรกิจ เอสเอ็มอี แบ่งเป็น 5 มาตรการหลัก 15 มาตรการย่อย

 

 

เป็นรัฐบาลมาตั้งแต่เมื่อไหร่... ออกนโยบายตั้งแต่ก่อนเป็นรัฐบาล แต่มาตรการช่วยเหลือเพิ่งมี

ขนาดรัฐบาลยังช้าขนาดนี้ แล้วจะมาคาดคั้นให้ผู้ประกอบการปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยที่ไร้ความช่วยเหลือจากคนออกนโยบาย....

 

 

ผู้ประกอบการทุกคนรู้ตั้งแต่เพื่อไทยชนะลือกตั้งปี 54 แล้วนะครับว่าค่าแรงต้องขึ้นเป็น 300 บาท

รัฐบาลเขาชะลอมาให้จนนี่ปี 56 แล้ว ยังจะเอาเป็นขั้นบันไดอีก ไม่รอขั้นบันไดไปชาติหน้าเลยหล่ะครับ

 

 

 อย่างที่ผมบอกไงรัฐบาลก็รู้... รู้ก่อนนานด้วยตั้งแต่ยังไม่เป็นรัฐบาล

แต่ไม่มีมาตรการอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปล่อยไปตามลม ทั้งๆที่รู้ว่าต้องมีปัญหา

ผู้ประกอบการก็ต้องพยายามปรับตัว ใหญ่ๆไม่ต้องพูดถึง... แล้ว SME ล่ะ

ต้องปรับตัวได้เองโดยไร้การช่วยเหลือใดๆจากรัฐบาลหรอ

 

ผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดเป็นคนมีอันจะกินหรือไง

 

 

รัฐบาลออกนโยบายที่ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ทัน กลับกลายเป็นความผิดของผู้ประกอบการ

 

เพื่อนผมที่เป้นผุ้ประกอบการ SME ยังต้องนั่งสั่งข้าวราดแกงยายแช่มข้างทางหน้าโรงงานกินร่วมกับพวกคนงานอยู่เลยครับ เห็นแล้วอนาถ

[Leeporter ขี้แพ้]

 

 

ขนาดเป็นคนออกนโยบาย 300 บาทเอง... กว่าจะเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการก็ปาเข้าไปเมื่อไหร่กัน?

 

http://www.manager.c...D=9560000004309

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบข้อเสนอจากคณะกรรมการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อบรรเทาผลกระทบการปรับ ค่าจ้างขั้นต่ำและเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการธุรกิจ เอสเอ็มอี แบ่งเป็น 5 มาตรการหลัก 15 มาตรการย่อย

 

 

เป็นรัฐบาลมาตั้งแต่เมื่อไหร่... ออกนโยบายตั้งแต่ก่อนเป็นรัฐบาล แต่มาตรการช่วยเหลือเพิ่งมี

ขนาดรัฐบาลยังช้าขนาดนี้ แล้วจะมาคาดคั้นให้ผู้ประกอบการปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยที่ไร้ความช่วยเหลือจากคนออกนโยบาย....

 

 

ผู้ประกอบการทุกคนรู้ตั้งแต่เพื่อไทยชนะลือกตั้งปี 54 แล้วนะครับว่าค่าแรงต้องขึ้นเป็น 300 บาท

รัฐบาลเขาชะลอมาให้จนนี่ปี 56 แล้ว ยังจะเอาเป็นขั้นบันไดอีก ไม่รอขั้นบันไดไปชาติหน้าเลยหล่ะครับ

 

 

 อย่างที่ผมบอกไงรัฐบาลก็รู้... รู้ก่อนนานด้วยตั้งแต่ยังไม่เป็นรัฐบาล

แต่ไม่มีมาตรการอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปล่อยไปตามลม ทั้งๆที่รู้ว่าต้องมีปัญหา

ผู้ประกอบการก็ต้องพยายามปรับตัว ใหญ่ๆไม่ต้องพูดถึง... แล้ว SME ล่ะ

ต้องปรับตัวได้เองโดยไร้การช่วยเหลือใดๆจากรัฐบาลหรอ

 

ผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดเป็นคนมีอันจะกินหรือไง

 

 

รัฐบาลออกนโยบายที่ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ทัน กลับกลายเป็นความผิดของผู้ประกอบการ

 

เพื่อนผมที่เป้นผุ้ประกอบการ SME ยังต้องนั่งสั่งข้าวราดแกงยายแช่มข้างทางหน้าโรงงานกินร่วมกับพวกคนงานอยู่เลยครับ เห็นแล้วอนาถ

 

กินข้าวราดแกงร่วมกับคนงานมันอนาถตรงไหนวะเช?

[เช never die]

 

 

 

 

 

 

ถ้า 500 บาทต่อวันมันเหมาะสม ก้ต้องขึ้นค่าแรงให้แรงงานเป้นวันละ 500 บาทครับ ผมไม่คัดค้าน แต่ค่อยๆทยอยปรับขึ้นเป็นขั้นบันได 6 เดือน - 1 ปี คราวละ 20% - 30% ไม่เกิน 3 - 4 ปี ก็ได้ค่าแรงวันละ 500 บาท แล้วโคดพ่อโคดแม่มันจะขาดใจตายหรือไงครับ มันจึงทุรนทุรายอะไรหนักหนาจึงต้องปรับขึ้นพรวกพราดทีเดียวครั้งเดียว 100%

 

 

 

ผมถามหน่อยว่าทำไมต้องค่อยๆ ปรับ

หากคุณคิดว้ามันเป็นค่าแรงที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับลูกจ้าง คุณควรให้เขาย้อนหลังด้วยซ้ำ

นายจ้างขูดรีดแรงงานมานานหลายปี จนร่ำรวยหลายร้อยล้าน

คุณควรให้เงินค่าจ้างย้อนหลังเขาด้วยซ้ำนะครับเช

 

แล้วไอ้โรงงานที่มันเจ๊งไปหน่ะ ก็เพราะมันทำธุรกิจสู้เขาไม่ได้ มันก๋ต้องเจ๊งไป

คุณจะไปอุ้มโรงงานพวกนั้น โดยให้ลูกจ้างหาเช้ากินค่ำเป็นคน subsidize ไปอีก 2-3 ปี มันไม่ถูก

 

คุณลี ครับ

 

คุณเป็นอย่างที่หลาย ๆ คนว่าจริง ๆ

 

คุณมองด้านเดียวว่า แรงงานต้องได้ 300 จึงจะช่วยเค้า

 

แต่คุณคิดถึงคนที่ไม่ได้ค่าแรง 300 สิ

 

ชาวนา ชาวไร ชาวสวน หรือ แม้แต่ สาวร้านโอเกะ 

 

ค่าครองชีพ มันสูงขึ้นตาม ค่าแรงที่ขึ้นกัน 

 

อย่าง 300 บาท พอขึ้นแล้วอะไรเกิดขึ้นตามมา ของแพง ค่าจ่ายใช้เยอะขึ้น ค่าอะไรต่อมิอะไร แพงขึ้น

 

คนที่เค้าไม่ได้ค่าแรง 300 นะ เค้าจะอยู่ยังไง

 

ผมไม่ได้ห้ามไม่ให้ขึ้นค่าแรง แต่ควรจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ขึ้น ที่เดี่ยวเกืือบ 100 บาท

 

เฮ้อ

 

เห็นใจคนที่เค้าไม่ได้ค่าแรงบ้าง

 

ผมบอกไว้แล้วในอีกกระทู้ว่าชาวไร่ชาวนาก็ควรขายสินค้าได้แพงขึ้น ผักกำละ 10 บาทมันไม่ได้แพงอะไรเลยหากค่าแรงคนที่ต้องซื้อผักมากินมันสูงขึ้น

 

นี่คุณเล่นไปกดมันหมดทั้งค่าแรง ราคาสินค้าเกษตร เพื่อให้คนในเมืองได้กินของถูกด้วยค่าจ้างต่ำๆ ที่ได้รับ

 

หากสาวโอเกะยอมทิ้งเรือกสวนไร่นาที่มีผลตอบแทนจากผลิตราคาสูงมาทำงานด้วยค่าแรงเพียงไม่กี่บาท อันนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาเลือกวิถีชีวิตแบบโง่ๆ ของเขาเองครับ

 

แต่ปัจจุบันคุณไปกดราคาอาหาร สินค้าการเกษตรเพื่อให้สอดคล้องกับค่าแรงต่ำๆ แบบลาวกำลังจะไล่ทัน แล้วคุณก็เอาหางไปพันหัวตัวเองแล้วบอกว่าไม่มีทางออก

 

เข้าใจละ ว่า ำไมคุณลี ถึงได้ตรรกะเพี้ยนแบนี้

 

ค่าแรงก่อนจะขึ้น 300 บาท เค้าปรับกันตามความเหมาะสม หรือ ค่าครองชีพ ในแต่ละที่อยู่แล้ว

 

แต่การที่ขึ้น ค่าแรงเป็น 300 ทีเดียวเลยนะ มันไม่ช่วยอะไรเลยนะ

 

ค่าอะไรแพงค่าเป็นเงาตามตัว ค่าข้าวปลาอาหาร ค่ารถ ค่านั่นค่านี้

 

สินค้าเกษตรมันก้อเป็นไปตามกลไกด้วย มันก้อขึ้น ๆ ลงๆ อยู่แล้วตามฤดูกาล ตามความต้องการ

 

เมื่อก่อนเค้าอยู่ได้กัน ค่อย ๆ ปรับกันไป ถ้าค่าครองชีพสูงขึ้น เค้าก้อปรับค่าแรงขึ้นตามค่าครองชีพ

 

เฮ้อ

 

พวกตรรกะเีพี้ยนนี้มีเยอะเหลือเกิน

Pkung

 

คุณเข้าใจหรือเปล่าว่าโครงสร้างค่าแรงและราคาสินค้าทางการเกษตร/อาหารของเรามันผิดเพี้ยนไปจากที่มันควรจะเป็นมานานมากแล้วเพราะการส่งเสริมการส่งออกและส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติเป็นหลัก

 

มันทำให้คนไทย "จน" กว่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจไทยมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ดีกว่าประเทศกากๆ ในยุโรปหลายประเทศด้วยซ้ำ

 

เพราะเราไปตัดตอนทำให้เกษตรกรไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ทำให้ทุกอย่างมันไม่ไหลลื่นอย่างที่มันควรจะเป็น

 

เกษตรกรและแรงงานราคาถูกช่วยกัน subsidize ผู้ส่งออกและบริษัทต่างชาติมานานมากเกินไปแล้ว ได้เวลาที่เราต้องปล่อยให้มันเลื่อนกลับจุดสมดุลที่มันควรจะเป็นได้แล้วครับ

 

ผมก้บอกแล้วไง ถ้าค่าแรงที่เหมาะสมมันต้องเป้นวันละ 1000 บาท ก็ต้องให้เค้าวันละ 1000 บาท เพื่อคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมของแรงงาน แต่มัน เงี่ยน เสี้ยน ปรี้ดดด.. 4ss อย่างไร ทำไมมันประกาศปรับขึ้นทีละ 20% - 30% ปีละ 2 ครั้งไม่ได้ ทำไมจะต้องน้ำแตกฉ่าปรี้ดๆๆๆ... ขึ้นค่าแรงทีเดียว 100%

 

 

30% ปีละ 2 ครั้ง ใช้เวลาปีครึ่ง

 

จากสิงหา 54 ถึง เมษา 56 เกินปีครึ่งแล้ว เช

ดีกว่าข้อเสนอของคุณอีก

 

โรงงานเหล่านั้นได้เงินไปหมุนฟรีๆ กินดอกเบี้ยไปปีครึ่งแล้ว

 

โรงงานที่เขาตั้งใจจะปรับตัวเขาก็ค่อยๆทยอยขึ้นไปแล้วหล่ะ เขาไม่เดือดร้อนอะไร

 

เหลือแต่ไอ้พวกที่กะว่ารัฐบาลเขาจะลืมหรือเปลี่ยนนโยบาย

 

มันไม่มีข้ออ้างแล้วเช

 

อย่ามั่วครับลี รัฐบาลประกาศใช้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 เมื่อไหร่ ตอบผมมา แต่ผมยืนยันว่าไม่ใช่สิงหา 54 แน่นอน

Edited by เช neverdie, 9 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:43.

[เด็กอมมือ]

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

ก็อย่างที่บอกคุณสนครับ ถ้าคุณสนบอกว่า พวกสลิ่มอย่างผม ตีโพยตีพาย 300 ทั่วประเทศ เจ๊งทันที เดี๋ยวนี้เลย

ผมก็บอกว่า พวกสลิ่ม อย่างผม ก็เกินไปนะครับ (พวกสลิ่มอย่างผมนี่ ก็กระต่ายกันเกินไปนะ  )

 

จะมีก็แต่บาง โรงงาน ที่ปิดทันที ปลดคนงานทันทีก็เท่านั้นและที่สำคัญ ค่าครองชีพก็ขึ้นทัน และยังคงมีสัญญาณสภาวะเศรษฐกิจชลอตัว

และจะเกิดปัญหาในระยะยาวแน่นอนครับ

 

แต่ที่ผมอ่านของเพื่อนๆหลายคน ที่บอกว่า การขึ้นค่าแรงพรวดเดียว 300 บาท จะทำให้อำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น ผมก็ว่าเพิ่มนะ แต่บางกลุ่มเท่านั้น

ส่วนเกษตรกร นโยบายนี้ ไม่ได้มีผลต่อเกษตรเท่าไหร่ เพราะคุณจะสังเกตุได้ว่า ทำไมค่าแรงขึ้นแล้ว ราคาสินค้าการเกษตรกลับตกต่ำ ทั้งๆที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

[Leeporter ขี้แพ้]

 

 

 

 

 

 

 

ถ้า 500 บาทต่อวันมันเหมาะสม ก้ต้องขึ้นค่าแรงให้แรงงานเป้นวันละ 500 บาทครับ ผมไม่คัดค้าน แต่ค่อยๆทยอยปรับขึ้นเป็นขั้นบันได 6 เดือน - 1 ปี คราวละ 20% - 30% ไม่เกิน 3 - 4 ปี ก็ได้ค่าแรงวันละ 500 บาท แล้วโคดพ่อโคดแม่มันจะขาดใจตายหรือไงครับ มันจึงทุรนทุรายอะไรหนักหนาจึงต้องปรับขึ้นพรวกพราดทีเดียวครั้งเดียว 100%

 

 

 

ผมถามหน่อยว่าทำไมต้องค่อยๆ ปรับ

หากคุณคิดว้ามันเป็นค่าแรงที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับลูกจ้าง คุณควรให้เขาย้อนหลังด้วยซ้ำ

นายจ้างขูดรีดแรงงานมานานหลายปี จนร่ำรวยหลายร้อยล้าน

คุณควรให้เงินค่าจ้างย้อนหลังเขาด้วยซ้ำนะครับเช

 

แล้วไอ้โรงงานที่มันเจ๊งไปหน่ะ ก็เพราะมันทำธุรกิจสู้เขาไม่ได้ มันก๋ต้องเจ๊งไป

คุณจะไปอุ้มโรงงานพวกนั้น โดยให้ลูกจ้างหาเช้ากินค่ำเป็นคน subsidize ไปอีก 2-3 ปี มันไม่ถูก

 

คุณลี ครับ

 

คุณเป็นอย่างที่หลาย ๆ คนว่าจริง ๆ

 

คุณมองด้านเดียวว่า แรงงานต้องได้ 300 จึงจะช่วยเค้า

 

แต่คุณคิดถึงคนที่ไม่ได้ค่าแรง 300 สิ

 

ชาวนา ชาวไร ชาวสวน หรือ แม้แต่ สาวร้านโอเกะ 

 

ค่าครองชีพ มันสูงขึ้นตาม ค่าแรงที่ขึ้นกัน 

 

อย่าง 300 บาท พอขึ้นแล้วอะไรเกิดขึ้นตามมา ของแพง ค่าจ่ายใช้เยอะขึ้น ค่าอะไรต่อมิอะไร แพงขึ้น

 

คนที่เค้าไม่ได้ค่าแรง 300 นะ เค้าจะอยู่ยังไง

 

ผมไม่ได้ห้ามไม่ให้ขึ้นค่าแรง แต่ควรจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ขึ้น ที่เดี่ยวเกืือบ 100 บาท

 

เฮ้อ

 

เห็นใจคนที่เค้าไม่ได้ค่าแรงบ้าง

 

ผมบอกไว้แล้วในอีกกระทู้ว่าชาวไร่ชาวนาก็ควรขายสินค้าได้แพงขึ้น ผักกำละ 10 บาทมันไม่ได้แพงอะไรเลยหากค่าแรงคนที่ต้องซื้อผักมากินมันสูงขึ้น

 

นี่คุณเล่นไปกดมันหมดทั้งค่าแรง ราคาสินค้าเกษตร เพื่อให้คนในเมืองได้กินของถูกด้วยค่าจ้างต่ำๆ ที่ได้รับ

 

หากสาวโอเกะยอมทิ้งเรือกสวนไร่นาที่มีผลตอบแทนจากผลิตราคาสูงมาทำงานด้วยค่าแรงเพียงไม่กี่บาท อันนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาเลือกวิถีชีวิตแบบโง่ๆ ของเขาเองครับ

 

แต่ปัจจุบันคุณไปกดราคาอาหาร สินค้าการเกษตรเพื่อให้สอดคล้องกับค่าแรงต่ำๆ แบบลาวกำลังจะไล่ทัน แล้วคุณก็เอาหางไปพันหัวตัวเองแล้วบอกว่าไม่มีทางออก

 

เข้าใจละ ว่า ำไมคุณลี ถึงได้ตรรกะเพี้ยนแบนี้

 

ค่าแรงก่อนจะขึ้น 300 บาท เค้าปรับกันตามความเหมาะสม หรือ ค่าครองชีพ ในแต่ละที่อยู่แล้ว

 

แต่การที่ขึ้น ค่าแรงเป็น 300 ทีเดียวเลยนะ มันไม่ช่วยอะไรเลยนะ

 

ค่าอะไรแพงค่าเป็นเงาตามตัว ค่าข้าวปลาอาหาร ค่ารถ ค่านั่นค่านี้

 

สินค้าเกษตรมันก้อเป็นไปตามกลไกด้วย มันก้อขึ้น ๆ ลงๆ อยู่แล้วตามฤดูกาล ตามความต้องการ

 

เมื่อก่อนเค้าอยู่ได้กัน ค่อย ๆ ปรับกันไป ถ้าค่าครองชีพสูงขึ้น เค้าก้อปรับค่าแรงขึ้นตามค่าครองชีพ

 

เฮ้อ

 

พวกตรรกะเีพี้ยนนี้มีเยอะเหลือเกิน

Pkung

 

คุณเข้าใจหรือเปล่าว่าโครงสร้างค่าแรงและราคาสินค้าทางการเกษตร/อาหารของเรามันผิดเพี้ยนไปจากที่มันควรจะเป็นมานานมากแล้วเพราะการส่งเสริมการส่งออกและส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติเป็นหลัก

 

มันทำให้คนไทย "จน" กว่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจไทยมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ดีกว่าประเทศกากๆ ในยุโรปหลายประเทศด้วยซ้ำ

 

เพราะเราไปตัดตอนทำให้เกษตรกรไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ทำให้ทุกอย่างมันไม่ไหลลื่นอย่างที่มันควรจะเป็น

 

เกษตรกรและแรงงานราคาถูกช่วยกัน subsidize ผู้ส่งออกและบริษัทต่างชาติมานานมากเกินไปแล้ว ได้เวลาที่เราต้องปล่อยให้มันเลื่อนกลับจุดสมดุลที่มันควรจะเป็นได้แล้วครับ

 

ผมก้บอกแล้วไง ถ้าค่าแรงที่เหมาะสมมันต้องเป้นวันละ 1000 บาท ก็ต้องให้เค้าวันละ 1000 บาท เพื่อคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมของแรงงาน แต่มัน เงี่ยน เสี้ยน ปรี้ดดด.. 4ss อย่างไร ทำไมมันประกาศปรับขึ้นทีละ 20% - 30% ปีละ 2 ครั้งไม่ได้ ทำไมจะต้องน้ำแตกฉ่าปรี้ดๆๆๆ... ขึ้นค่าแรงทีเดียว 100%

 

 

30% ปีละ 2 ครั้ง ใช้เวลาปีครึ่ง

 

จากสิงหา 54 ถึง เมษา 56 เกินปีครึ่งแล้ว เช

ดีกว่าข้อเสนอของคุณอีก

 

โรงงานเหล่านั้นได้เงินไปหมุนฟรีๆ กินดอกเบี้ยไปปีครึ่งแล้ว

 

โรงงานที่เขาตั้งใจจะปรับตัวเขาก็ค่อยๆทยอยขึ้นไปแล้วหล่ะ เขาไม่เดือดร้อนอะไร

 

เหลือแต่ไอ้พวกที่กะว่ารัฐบาลเขาจะลืมหรือเปลี่ยนนโยบาย

 

มันไม่มีข้ออ้างแล้วเช

 

อย่ามั่วครับลี รัฐบาลประกาศใช้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 เมื่อไหร่ ตอบผมมา แต่ผมยืนยันว่าไม่ใช่เมษา 54 แน่นอน

 

22 มิ.ย. ยิ่งลักษณ์หาเสียงชูนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท

 

http://www.krobkruak...ั้นต่ำ-300.html

 

สิงหา 54 ยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้งเข้ามา

คนเขารู้กันทั้งประเทศ

คุณเป็นผู้ประกอบการคุณนั่งเฉยๆ รอเขาลืมหรือ?

ขั้นตอนการดำเนินการอย่างเป็นทางการมันก็ใช้เวลานาน คุณก็รู้อยู่แล้วตั้งแต่ปี 54

นั่งเฉยๆ เป็นปี แล้วมาบอกว่าไม่รู้มาก่อน

บ้าหรือเปล่าวะเช

[เด็กอมมือ]

ไม่ได้ออกทะเลหรอก ลุงเช Hiddenman ประเด็นนี้ มันกว้างนะ อยู่ที่ว่าจะหยิบตรงไหนมาถกกันครับ

[เช never die]

 

 

 

ขนาดเป็นคนออกนโยบาย 300 บาทเอง... กว่าจะเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการก็ปาเข้าไปเมื่อไหร่กัน?

 

http://www.manager.c...D=9560000004309

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบข้อเสนอจากคณะกรรมการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อบรรเทาผลกระทบการปรับ ค่าจ้างขั้นต่ำและเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการธุรกิจ เอสเอ็มอี แบ่งเป็น 5 มาตรการหลัก 15 มาตรการย่อย

 

 

เป็นรัฐบาลมาตั้งแต่เมื่อไหร่... ออกนโยบายตั้งแต่ก่อนเป็นรัฐบาล แต่มาตรการช่วยเหลือเพิ่งมี

ขนาดรัฐบาลยังช้าขนาดนี้ แล้วจะมาคาดคั้นให้ผู้ประกอบการปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยที่ไร้ความช่วยเหลือจากคนออกนโยบาย....

 

 

ผู้ประกอบการทุกคนรู้ตั้งแต่เพื่อไทยชนะลือกตั้งปี 54 แล้วนะครับว่าค่าแรงต้องขึ้นเป็น 300 บาท

รัฐบาลเขาชะลอมาให้จนนี่ปี 56 แล้ว ยังจะเอาเป็นขั้นบันไดอีก ไม่รอขั้นบันไดไปชาติหน้าเลยหล่ะครับ

 

 

 อย่างที่ผมบอกไงรัฐบาลก็รู้... รู้ก่อนนานด้วยตั้งแต่ยังไม่เป็นรัฐบาล

แต่ไม่มีมาตรการอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปล่อยไปตามลม ทั้งๆที่รู้ว่าต้องมีปัญหา

ผู้ประกอบการก็ต้องพยายามปรับตัว ใหญ่ๆไม่ต้องพูดถึง... แล้ว SME ล่ะ

ต้องปรับตัวได้เองโดยไร้การช่วยเหลือใดๆจากรัฐบาลหรอ

 

ผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดเป็นคนมีอันจะกินหรือไง

 

 

รัฐบาลออกนโยบายที่ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ทัน กลับกลายเป็นความผิดของผู้ประกอบการ

 

เพื่อนผมที่เป้นผุ้ประกอบการ SME ยังต้องนั่งสั่งข้าวราดแกงยายแช่มข้างทางหน้าโรงงานกินร่วมกับพวกคนงานอยู่เลยครับ เห็นแล้วอนาถ

 

กินข้าวราดแกงร่วมกับคนงานมันอนาถตรงไหนวะเช?

 

เรื่องนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจความรุ้สึกของพวกขี้ครอกคนงานเท่าไหร่นะครับ แต่ในระดับผู้ประกอบการด้วยกัน ถ้าออกไปติดต่องานข้างนอกบริาัท มื้อกลางวันอย่างต่ำๆก็ซิสเล่อร์ในห้างแหละ อันนี้ถ้าไม่นั่งกินข้าวในสนามกอล์ฟอ่ะนะ ดีหน่อยก็มีแม่บ้านจัดให้ยัดห่าในออฟฟิส แต่การไปนั่งแดรกข้าวราดแกงยายแช่มปากซอยร่วมกับคนงานทุกวันๆๆ แง่นึงมันก็บ่งบอกว่ามิงค่อนข้างมีปัญหาทางด้านการเงินแล้วละ แต่อีกแง่นึงก็มองได้ว่ามิงก็กำลังประจบประแจงลูกจ้างมิงไม่ให้ทิ้งบริษัทเพราะมิงจ่ายค่าจ้างตามที่รัฐบาลประกาศไม่ใหว

 

แต่ไม่ว่าในแง่ใหนทั้งสองแง่ มิงก็อนาถแล้ว คุณลีพอจะเข้าใจไหมครับ

[ทัชชี่]

ไม่รู้ว่า เคยไปเดินสำรวจรึยังครับ

 

ผลจากค่าแรง 300 ทำให้เราได้

 

จากผัก 5 กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาท

พนักงานรายวัน โดนลดทำโอที หรือ ไม่มีโอที แต่เพิ่มกะ ทำให้รายได้พนักงานที่ควรได้ 410 บาท ต่อวัน(รวมโอที) โดนลดมาเหลือ 300 บาท แล้วตัดโอทีทิ้ง ลองไปถามพนักงาน NXP ที่ถนนแจ้งวัฒนะดูก็ได้ครับ

ข้าวแกงปกติ 25 บา พิเศษ 30 ตอนนี้กลายเป็น 35 พิเศษ 45

จำนวนโรงงานพากันปิดตัวใน ตจว. หรือไม่ก็ย้ายฐานไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแทน (รวมทั้งโรงงานชิ้นส่วนมือถือโนเกียที่เคยอยู่ในไทย ตอนนี้ก็ย้ายไปเวียดนามแล้ว)

อันนี้แค่น้ำจิ้มนะ

 

ที่เหลือคิดว่า น่าจะคิดต่อได้ไม่ยากว่า จะเกิดอะไรขึ้น

 

 

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณนะ

ผัก 5กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาทมันเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น ยิ่งกำละ 10 บาทได้ยิ่งดี

คณคุยโทรศัพท์มือถือกับเพื่อนเรื่องไร้สาระหมดเงินไป 10 บาทได้ไมบ่น แต่ซื้อผัก 10 บาทมากินนี่กลับมีปัญหา

บริษัทมือถือรวยเอารวยเอาจากการใช้โทรศัพท์ของคุณ แต่เกษตรกรยังยากจนอยู่ คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ว่าสังคมมันผิดปกติ?

เกษตรกรคือฐานล่างของปิระมิด เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นก็จะมีเงินหมุนเวียนเข้ามาจากการจับจ่ายใข้สอยของเกษตรกร บริษัทที่ขายของก็สามารถขายของได้เยอะขึ้น ก็มีเงินมาจ้างแรงงานและมนุษย์เงินเดือนมากขึ้น

ที่ผ่านมาเราไปกดราคาสินค้าเกษตรทำให้เงินมันไม่หมุนเวียน มันถูกดูดไปอยู่ตรงหัวปิระมิดตลอดเวลา

ตอนผมอยู่ที่ตรังนะ ช่วงไหนยางราคาดีเศรษฐกิจในเมืองนี่สะพัดเลย ช่วงในยางราคาตกเศรษฐกิจในเมืองก็ตกลงไปด้วย

ใส่เงินเข้าไปให้ถูกจุดต้องใส่เข้าไปที่เกษตรกรถูกต้องแล้วครับ

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

คุณควรหยุดบ่นเรื่องผักแพงแล้วไปบ่นเรื่องค่าโทรศัพท์มือถือแพงดีกว่า

 

ส่วนเรื่องค่าแรง ผมถามหน่อยว่าแรงงานไทยควรได้รับค่าแรงต่ำกว่าในเวียดนาม/ลาว/พม่าหรือ เมืองไทยจึงจะอยู่รอด???

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณ???

 

ผักมันไม่ได้แพงขึ้น เพราะเกษตรกรขายแพงครับ แต่มันแพงเพราะ "พ่อค้าคนกลาง" ที่มันมีต้นทุนเพิ่มขึ้น มันก็เลยทำให้ของราคามันขึ้น

ไม่เข้าใจหรือครับ

[Leeporter ขี้แพ้]

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

ก็อย่างที่บอกคุณสนครับ ถ้าคุณสนบอกว่า พวกสลิ่มอย่างผม ตีโพยตีพาย 300 ทั่วประเทศ เจ๊งทันที เดี๋ยวนี้เลย

ผมก็บอกว่า พวกสลิ่ม อย่างผม ก็เกินไปนะครับ (พวกสลิ่มอย่างผมนี่ ก็กระต่ายกันเกินไปนะ  )

 

จะมีก็แต่บาง โรงงาน ที่ปิดทันที ปลดคนงานทันทีก็เท่านั้นและที่สำคัญ ค่าครองชีพก็ขึ้นทัน และยังคงมีสัญญาณสภาวะเศรษฐกิจชลอตัว

และจะเกิดปัญหาในระยะยาวแน่นอนครับ

 

แต่ที่ผมอ่านของเพื่อนๆหลายคน ที่บอกว่า การขึ้นค่าแรงพรวดเดียว 300 บาท จะทำให้อำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น ผมก็ว่าเพิ่มนะ แต่บางกลุ่มเท่านั้น

ส่วนเกษตรกร นโยบายนี้ ไม่ได้มีผลต่อเกษตรเท่าไหร่ เพราะคุณจะสังเกตุได้ว่า ทำไมค่าแรงขึ้นแล้ว ราคาสินค้าการเกษตรกลับตกต่ำ ทั้งๆที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

 

 

หลังจากค่าแรงขึ้น รัฐต้องปล่อยราคาอาหารและสินค้าทางการเกษตรให้ขึ้นตามอำนาจซื้อของคนสิครับ

ข้าว เนื้อหมู ไข่ ฯลฯ ราคาสูงขึ้น แรงงานก็จะหันไปทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้นเพราะผลตอบแทนสูงกว่ามาใช้แรงงานในเมือง

เกษตรกรมีกำลังซื้อมากขึ้น ก็จะมาซื้อของที่ผลิตจากในเมืองเพิ่มขึ้น ธุรกิจก็จะมีเงินมาจ้างแรงงานเพิ่ม ซึ่งจะหาแรงงานยากขึ้นเพราะแรงงานไปทำภาคเกษตรเพิ่มขึ้น ค่าแรงมันก็จะเพิ่มขึ้นเพื่อพยายามดึงดูดคนเข้ามา สุดท้ายมันก็จะสมดุลกันไปเอง

 

แต่คุณต้องเริ่มปล่อยมันก่อน เหมือนเด็กเริ่มหัดเดิน มันล้มบ้างลุกบ้าง แต่หากคุณไม่ปล่อยมันก็ไม่สามารถเดินได้

[เช never die]

 

 

 

 

 

 

 

 

ถ้า 500 บาทต่อวันมันเหมาะสม ก้ต้องขึ้นค่าแรงให้แรงงานเป้นวันละ 500 บาทครับ ผมไม่คัดค้าน แต่ค่อยๆทยอยปรับขึ้นเป็นขั้นบันได 6 เดือน - 1 ปี คราวละ 20% - 30% ไม่เกิน 3 - 4 ปี ก็ได้ค่าแรงวันละ 500 บาท แล้วโคดพ่อโคดแม่มันจะขาดใจตายหรือไงครับ มันจึงทุรนทุรายอะไรหนักหนาจึงต้องปรับขึ้นพรวกพราดทีเดียวครั้งเดียว 100%

 

 

 

ผมถามหน่อยว่าทำไมต้องค่อยๆ ปรับ

หากคุณคิดว้ามันเป็นค่าแรงที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับลูกจ้าง คุณควรให้เขาย้อนหลังด้วยซ้ำ

นายจ้างขูดรีดแรงงานมานานหลายปี จนร่ำรวยหลายร้อยล้าน

คุณควรให้เงินค่าจ้างย้อนหลังเขาด้วยซ้ำนะครับเช

 

แล้วไอ้โรงงานที่มันเจ๊งไปหน่ะ ก็เพราะมันทำธุรกิจสู้เขาไม่ได้ มันก๋ต้องเจ๊งไป

คุณจะไปอุ้มโรงงานพวกนั้น โดยให้ลูกจ้างหาเช้ากินค่ำเป็นคน subsidize ไปอีก 2-3 ปี มันไม่ถูก

 

คุณลี ครับ

 

คุณเป็นอย่างที่หลาย ๆ คนว่าจริง ๆ

 

คุณมองด้านเดียวว่า แรงงานต้องได้ 300 จึงจะช่วยเค้า

 

แต่คุณคิดถึงคนที่ไม่ได้ค่าแรง 300 สิ

 

ชาวนา ชาวไร ชาวสวน หรือ แม้แต่ สาวร้านโอเกะ 

 

ค่าครองชีพ มันสูงขึ้นตาม ค่าแรงที่ขึ้นกัน 

 

อย่าง 300 บาท พอขึ้นแล้วอะไรเกิดขึ้นตามมา ของแพง ค่าจ่ายใช้เยอะขึ้น ค่าอะไรต่อมิอะไร แพงขึ้น

 

คนที่เค้าไม่ได้ค่าแรง 300 นะ เค้าจะอยู่ยังไง

 

ผมไม่ได้ห้ามไม่ให้ขึ้นค่าแรง แต่ควรจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ขึ้น ที่เดี่ยวเกืือบ 100 บาท

 

เฮ้อ

 

เห็นใจคนที่เค้าไม่ได้ค่าแรงบ้าง

 

ผมบอกไว้แล้วในอีกกระทู้ว่าชาวไร่ชาวนาก็ควรขายสินค้าได้แพงขึ้น ผักกำละ 10 บาทมันไม่ได้แพงอะไรเลยหากค่าแรงคนที่ต้องซื้อผักมากินมันสูงขึ้น

 

นี่คุณเล่นไปกดมันหมดทั้งค่าแรง ราคาสินค้าเกษตร เพื่อให้คนในเมืองได้กินของถูกด้วยค่าจ้างต่ำๆ ที่ได้รับ

 

หากสาวโอเกะยอมทิ้งเรือกสวนไร่นาที่มีผลตอบแทนจากผลิตราคาสูงมาทำงานด้วยค่าแรงเพียงไม่กี่บาท อันนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาเลือกวิถีชีวิตแบบโง่ๆ ของเขาเองครับ

 

แต่ปัจจุบันคุณไปกดราคาอาหาร สินค้าการเกษตรเพื่อให้สอดคล้องกับค่าแรงต่ำๆ แบบลาวกำลังจะไล่ทัน แล้วคุณก็เอาหางไปพันหัวตัวเองแล้วบอกว่าไม่มีทางออก

 

เข้าใจละ ว่า ำไมคุณลี ถึงได้ตรรกะเพี้ยนแบนี้

 

ค่าแรงก่อนจะขึ้น 300 บาท เค้าปรับกันตามความเหมาะสม หรือ ค่าครองชีพ ในแต่ละที่อยู่แล้ว

 

แต่การที่ขึ้น ค่าแรงเป็น 300 ทีเดียวเลยนะ มันไม่ช่วยอะไรเลยนะ

 

ค่าอะไรแพงค่าเป็นเงาตามตัว ค่าข้าวปลาอาหาร ค่ารถ ค่านั่นค่านี้

 

สินค้าเกษตรมันก้อเป็นไปตามกลไกด้วย มันก้อขึ้น ๆ ลงๆ อยู่แล้วตามฤดูกาล ตามความต้องการ

 

เมื่อก่อนเค้าอยู่ได้กัน ค่อย ๆ ปรับกันไป ถ้าค่าครองชีพสูงขึ้น เค้าก้อปรับค่าแรงขึ้นตามค่าครองชีพ

 

เฮ้อ

 

พวกตรรกะเีพี้ยนนี้มีเยอะเหลือเกิน

Pkung

 

คุณเข้าใจหรือเปล่าว่าโครงสร้างค่าแรงและราคาสินค้าทางการเกษตร/อาหารของเรามันผิดเพี้ยนไปจากที่มันควรจะเป็นมานานมากแล้วเพราะการส่งเสริมการส่งออกและส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติเป็นหลัก

 

มันทำให้คนไทย "จน" กว่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจไทยมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ดีกว่าประเทศกากๆ ในยุโรปหลายประเทศด้วยซ้ำ

 

เพราะเราไปตัดตอนทำให้เกษตรกรไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ทำให้ทุกอย่างมันไม่ไหลลื่นอย่างที่มันควรจะเป็น

 

เกษตรกรและแรงงานราคาถูกช่วยกัน subsidize ผู้ส่งออกและบริษัทต่างชาติมานานมากเกินไปแล้ว ได้เวลาที่เราต้องปล่อยให้มันเลื่อนกลับจุดสมดุลที่มันควรจะเป็นได้แล้วครับ

 

ผมก้บอกแล้วไง ถ้าค่าแรงที่เหมาะสมมันต้องเป้นวันละ 1000 บาท ก็ต้องให้เค้าวันละ 1000 บาท เพื่อคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมของแรงงาน แต่มัน เงี่ยน เสี้ยน ปรี้ดดด.. 4ss อย่างไร ทำไมมันประกาศปรับขึ้นทีละ 20% - 30% ปีละ 2 ครั้งไม่ได้ ทำไมจะต้องน้ำแตกฉ่าปรี้ดๆๆๆ... ขึ้นค่าแรงทีเดียว 100%

 

 

30% ปีละ 2 ครั้ง ใช้เวลาปีครึ่ง

 

จากสิงหา 54 ถึง เมษา 56 เกินปีครึ่งแล้ว เช

ดีกว่าข้อเสนอของคุณอีก

 

โรงงานเหล่านั้นได้เงินไปหมุนฟรีๆ กินดอกเบี้ยไปปีครึ่งแล้ว

 

โรงงานที่เขาตั้งใจจะปรับตัวเขาก็ค่อยๆทยอยขึ้นไปแล้วหล่ะ เขาไม่เดือดร้อนอะไร

 

เหลือแต่ไอ้พวกที่กะว่ารัฐบาลเขาจะลืมหรือเปลี่ยนนโยบาย

 

มันไม่มีข้ออ้างแล้วเช

 

อย่ามั่วครับลี รัฐบาลประกาศใช้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 เมื่อไหร่ ตอบผมมา แต่ผมยืนยันว่าไม่ใช่เมษา 54 แน่นอน

 

22 มิ.ย. ยิ่งลักษณ์หาเสียงชูนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท

 

http://www.krobkruak...ั้นต่ำ-300.html

 

สิงหา 54 ยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้งเข้ามา

คนเขารู้กันทั้งประเทศ

คุณเป็นผู้ประกอบการคุณนั่งเฉยๆ รอเขาลืมหรือ?

ขั้นตอนการดำเนินการอย่างเป็นทางการมันก็ใช้เวลานาน คุณก็รู้อยู่แล้วตั้งแต่ปี 54

นั่งเฉยๆ เป็นปี แล้วมาบอกว่าไม่รู้มาก่อน

บ้าหรือเปล่าวะเช

 

อย่างที่บอกครับ ส่วนของผมๆไม่เดือดร้อน เพราะอยู่ส่วนบนของห่วงโซ่ธุรกิจจ่ายค่าแรงระดับ non mechanichal skill เกิน 500 บาทมาก่อนที่จะประกาศค่าแรง 300 มาหลายปีแล้วครับ

 

แต่คนที่เพิ่งกระโจนเข้ามาเป้นผู้ประกอบการ เพิ่งจะเอาสมบัติพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดไปค้ำโอดีจากธนาคาร ยังไม่ทันจะเริ่มมีรายรับ ก็โดนยัดเยียดให้ต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้น 100% ผู้ประกอบการพวกนี้กลุ่มนี้เค้าทำความผิดอะไรครับ

[พอล คุง]

 

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

ก็อย่างที่บอกคุณสนครับ ถ้าคุณสนบอกว่า พวกสลิ่มอย่างผม ตีโพยตีพาย 300 ทั่วประเทศ เจ๊งทันที เดี๋ยวนี้เลย

ผมก็บอกว่า พวกสลิ่ม อย่างผม ก็เกินไปนะครับ (พวกสลิ่มอย่างผมนี่ ก็กระต่ายกันเกินไปนะ  )

 

จะมีก็แต่บาง โรงงาน ที่ปิดทันที ปลดคนงานทันทีก็เท่านั้นและที่สำคัญ ค่าครองชีพก็ขึ้นทัน และยังคงมีสัญญาณสภาวะเศรษฐกิจชลอตัว

และจะเกิดปัญหาในระยะยาวแน่นอนครับ

 

แต่ที่ผมอ่านของเพื่อนๆหลายคน ที่บอกว่า การขึ้นค่าแรงพรวดเดียว 300 บาท จะทำให้อำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น ผมก็ว่าเพิ่มนะ แต่บางกลุ่มเท่านั้น

ส่วนเกษตรกร นโยบายนี้ ไม่ได้มีผลต่อเกษตรเท่าไหร่ เพราะคุณจะสังเกตุได้ว่า ทำไมค่าแรงขึ้นแล้ว ราคาสินค้าการเกษตรกลับตกต่ำ ทั้งๆที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

 

 

หลังจากค่าแรงขึ้น รัฐต้องปล่อยราคาอาหารและสินค้าทางการเกษตรให้ขึ้นตามอำนาจซื้อของคนสิครับ

ข้าว เนื้อหมู ไข่ ฯลฯ ราคาสูงขึ้น แรงงานก็จะหันไปทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้นเพราะผลตอบแทนสูงกว่ามาใช้แรงงานในเมือง

เกษตรกรมีกำลังซื้อมากขึ้น ก็จะมาซื้อของที่ผลิตจากในเมืองเพิ่มขึ้น ธุรกิจก็จะมีเงินมาจ้างแรงงานเพิ่ม ซึ่งจะหาแรงงานยากขึ้นเพราะแรงงานไปทำภาคเกษตรเพิ่มขึ้น ค่าแรงมันก็จะเพิ่มขึ้นเพื่อพยายามดึงดูดคนเข้ามา สุดท้ายมันก็จะสมดุลกันไปเอง

 

แต่คุณต้องเริ่มปล่อยมันก่อน เหมือนเด็กเริ่มหัดเดิน มันล้มบ้างลุกบ้าง แต่หากคุณไม่ปล่อยมันก็ไม่สามารถเดินได้

 

คุณลี ครับ รัฐไม่ได้เป็นคนกดราคาสินค้าเกษตรนะครับ แค่เริ่มก้อมั่วละ

 

พ่อค้าคนกลาง หรือ คนที่รับซื้อต่อจากชาวสวนครับ

 

เค้าจะกดราคา ทำให้เค้าต้องขายในราคาถูกแล้วมาขายแพงให้พวกเรา ๆ ท่าน ๆ

 

แสดงว่า คุณไม่ได้รู้จักชีวิตเกษตรกร ห่าไรเลย

Edited by พอล คุง, 9 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:57.

[Leeporter ขี้แพ้]

อย่างที่บอกครับ ส่วนของผมๆไม่เดือดร้อน เพราะอยู่ส่วนบนของห่วงโซ่ธุรกิจจ่ายค่าแรงระดับ non mechanichal skill เกิน 500 บาทมาก่อนที่จะประกาศค่าแรง 300 มาหลายปีแล้วครับ

 

แต่คนที่เพิ่งกระโจนเข้ามาเป้นผู้ประกอบการ เพิ่งจะเอาสมบัติพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดไปค้ำโอดีจากธนาคาร ยังไม่ทันจะเริ่มมีรายรับ ก็โดนยัดเยียดให้ต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้น 100% ผู้ประกอบการพวกนี้กลุ่มนี้เค้าทำความผิดอะไรครับ

 

 

เขาหูหนวกตาบอดหรือครับที่ไม่ได้ข่าวว่าจะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่ปี 54 มาแล้ว?

[พอล คุง]

 

 

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

ก็อย่างที่บอกคุณสนครับ ถ้าคุณสนบอกว่า พวกสลิ่มอย่างผม ตีโพยตีพาย 300 ทั่วประเทศ เจ๊งทันที เดี๋ยวนี้เลย

ผมก็บอกว่า พวกสลิ่ม อย่างผม ก็เกินไปนะครับ (พวกสลิ่มอย่างผมนี่ ก็กระต่ายกันเกินไปนะ  )

 

จะมีก็แต่บาง โรงงาน ที่ปิดทันที ปลดคนงานทันทีก็เท่านั้นและที่สำคัญ ค่าครองชีพก็ขึ้นทัน และยังคงมีสัญญาณสภาวะเศรษฐกิจชลอตัว

และจะเกิดปัญหาในระยะยาวแน่นอนครับ

 

แต่ที่ผมอ่านของเพื่อนๆหลายคน ที่บอกว่า การขึ้นค่าแรงพรวดเดียว 300 บาท จะทำให้อำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น ผมก็ว่าเพิ่มนะ แต่บางกลุ่มเท่านั้น

ส่วนเกษตรกร นโยบายนี้ ไม่ได้มีผลต่อเกษตรเท่าไหร่ เพราะคุณจะสังเกตุได้ว่า ทำไมค่าแรงขึ้นแล้ว ราคาสินค้าการเกษตรกลับตกต่ำ ทั้งๆที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

 

 

หลังจากค่าแรงขึ้น รัฐต้องปล่อยราคาอาหารและสินค้าทางการเกษตรให้ขึ้นตามอำนาจซื้อของคนสิครับ

ข้าว เนื้อหมู ไข่ ฯลฯ ราคาสูงขึ้น แรงงานก็จะหันไปทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้นเพราะผลตอบแทนสูงกว่ามาใช้แรงงานในเมือง

เกษตรกรมีกำลังซื้อมากขึ้น ก็จะมาซื้อของที่ผลิตจากในเมืองเพิ่มขึ้น ธุรกิจก็จะมีเงินมาจ้างแรงงานเพิ่ม ซึ่งจะหาแรงงานยากขึ้นเพราะแรงงานไปทำภาคเกษตรเพิ่มขึ้น ค่าแรงมันก็จะเพิ่มขึ้นเพื่อพยายามดึงดูดคนเข้ามา สุดท้ายมันก็จะสมดุลกันไปเอง

 

แต่คุณต้องเริ่มปล่อยมันก่อน เหมือนเด็กเริ่มหัดเดิน มันล้มบ้างลุกบ้าง แต่หากคุณไม่ปล่อยมันก็ไม่สามารถเดินได้

 

คุณลี ครับ รัฐไม่ได้เป็นคนกดราคาสินค้าเกษตรนะครับ แค่เริ่มก้อมั่วละ

 

พ่อค้าคนกลาง หรือ คนที่รับซื้อต่อจากชาวสวนครับ

 

เค้าจะกดราคา ทำให้เค้าต้องขายในราคาถูกแล้วมาขายแพงให้พวกเรา ๆ ท่าน ๆ

 

แสดงว่า คุณไม่ได้รู้จักชีวิตเกษตรกร ห่าไรเลย

 

แล้วอีกอย่างนะ คุณลี

 

ถ้าราคาสินค้าเกษตรถูกลง รัฐก้อสามารถแทรงแซงราคา หรือ จะรับซื้อก้อได้ ซึ่งก้อโอเค

 

แต่มันควรเป็นไปตามกลไกราคา มากกว่า

 

สิ่งที่รัฐต้องทำคือ ช่วยเกษตรกร หาแหล่งจำหน่ายสินค้า

 

วกกลับมาเรื่อง ค่าแรง

 

คุณรู้ไหมว่า ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกร เป็นหนี้หนักขึ้น คุณรู้ไหมว่าทำไม

[Leeporter ขี้แพ้]

 

 

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

ก็อย่างที่บอกคุณสนครับ ถ้าคุณสนบอกว่า พวกสลิ่มอย่างผม ตีโพยตีพาย 300 ทั่วประเทศ เจ๊งทันที เดี๋ยวนี้เลย

ผมก็บอกว่า พวกสลิ่ม อย่างผม ก็เกินไปนะครับ (พวกสลิ่มอย่างผมนี่ ก็กระต่ายกันเกินไปนะ  )

 

จะมีก็แต่บาง โรงงาน ที่ปิดทันที ปลดคนงานทันทีก็เท่านั้นและที่สำคัญ ค่าครองชีพก็ขึ้นทัน และยังคงมีสัญญาณสภาวะเศรษฐกิจชลอตัว

และจะเกิดปัญหาในระยะยาวแน่นอนครับ

 

แต่ที่ผมอ่านของเพื่อนๆหลายคน ที่บอกว่า การขึ้นค่าแรงพรวดเดียว 300 บาท จะทำให้อำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น ผมก็ว่าเพิ่มนะ แต่บางกลุ่มเท่านั้น

ส่วนเกษตรกร นโยบายนี้ ไม่ได้มีผลต่อเกษตรเท่าไหร่ เพราะคุณจะสังเกตุได้ว่า ทำไมค่าแรงขึ้นแล้ว ราคาสินค้าการเกษตรกลับตกต่ำ ทั้งๆที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

 

 

หลังจากค่าแรงขึ้น รัฐต้องปล่อยราคาอาหารและสินค้าทางการเกษตรให้ขึ้นตามอำนาจซื้อของคนสิครับ

ข้าว เนื้อหมู ไข่ ฯลฯ ราคาสูงขึ้น แรงงานก็จะหันไปทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้นเพราะผลตอบแทนสูงกว่ามาใช้แรงงานในเมือง

เกษตรกรมีกำลังซื้อมากขึ้น ก็จะมาซื้อของที่ผลิตจากในเมืองเพิ่มขึ้น ธุรกิจก็จะมีเงินมาจ้างแรงงานเพิ่ม ซึ่งจะหาแรงงานยากขึ้นเพราะแรงงานไปทำภาคเกษตรเพิ่มขึ้น ค่าแรงมันก็จะเพิ่มขึ้นเพื่อพยายามดึงดูดคนเข้ามา สุดท้ายมันก็จะสมดุลกันไปเอง

 

แต่คุณต้องเริ่มปล่อยมันก่อน เหมือนเด็กเริ่มหัดเดิน มันล้มบ้างลุกบ้าง แต่หากคุณไม่ปล่อยมันก็ไม่สามารถเดินได้

 

คุณลี ครับ รัฐไม่ได้เป็นคนกดราคาสินค้าเกษตรนะครับ แค่เริ่มก้อมั่วละ

 

พ่อค้าคนกลาง หรือ คนที่รับซื้อต่อจากชาวสวนครับ

 

เค้าจะกดราคา ทำให้เค้าต้องขายในราคาถูกแล้วมาขายแพงให้พวกเรา ๆ ท่าน ๆ

 

แสดงว่า คุณไม่ได้รู้จักชีวิตเกษตรกร ห่าไรเลย

 

 

ถูกต้องครับ พ่อค้าคนกลางกดราคาเพราะเหนือหัวเขาก็มีราคาอาหารและกำลังซื้อของผู้บริโภคคนสุดท้ายบังคับอยู่

 

พอคุณทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น คนสามารถกินกระเพราไก่จานละ 70 บาทในตลาดได้โดยไม่บ่น พ่อค้าคนกลางก็จะมีช่องว่างด้านล่างให้สามารถขยับราคารับซื้อขึ้นมาได้สูงขึ้น

 

ที่สุดของที่สุด รัฐบาลกำหนดราคาขั้นต่ำไปเลยว่าราคารับซื้อกระเพราจากมือเกษตรกรต้องไม่ต่ำกว่าโลละ 40 

 

หรือคุณไม่ต้องการเห็นเกษตรกรมีรายได้มากกว่า white collar อย่างคุณ?

[เช never die]

อย่างที่บอกครับ ส่วนของผมๆไม่เดือดร้อน เพราะอยู่ส่วนบนของห่วงโซ่ธุรกิจจ่ายค่าแรงระดับ non mechanichal skill เกิน 500 บาทมาก่อนที่จะประกาศค่าแรง 300 มาหลายปีแล้วครับ

 

แต่คนที่เพิ่งกระโจนเข้ามาเป้นผู้ประกอบการ เพิ่งจะเอาสมบัติพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดไปค้ำโอดีจากธนาคาร ยังไม่ทันจะเริ่มมีรายรับ ก็โดนยัดเยียดให้ต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้น 100% ผู้ประกอบการพวกนี้กลุ่มนี้เค้าทำความผิดอะไรครับ

 

 

เขาหูหนวกตาบอดหรือครับที่ไม่ได้ข่าวว่าจะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่ปี 54 มาแล้ว?

 

กว่าจะขอโอดีธนาคารผ่าน กว่าจะสร้างตัวโรงงานเสร็จ กว่าจะวางเครื่องจักร ทั้งหมดนี้ 3 วันเสร็จหรือครับ

 

แล้วพอลงมือสร้า้งโรงงานไปแล้ว สั่งซื้อเครื่องจักรไปแล้ว ขอโอดีธนาคารไปแล้ว ตกลงราคาซื้อขายกับซัพพลายเออร์กับคัสตอมเมอร์แล้ว คำนวนดอกเบี้ยเสร้จสรรพแล้ว แต่ไม่ได้คำนวนว่าต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มอีก 100% จะให้เค้าทำไงครับ

 

คิดประสาคนงานขี้ครอกแบบคุณมันง่ายครับ แต่ทำแบบผู้ประกอบการจริงมันไม่ง่ายครับ 

Edited by เช neverdie, 9 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:06.

[เด็กอมมือ]

 

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

ก็อย่างที่บอกคุณสนครับ ถ้าคุณสนบอกว่า พวกสลิ่มอย่างผม ตีโพยตีพาย 300 ทั่วประเทศ เจ๊งทันที เดี๋ยวนี้เลย

ผมก็บอกว่า พวกสลิ่ม อย่างผม ก็เกินไปนะครับ (พวกสลิ่มอย่างผมนี่ ก็กระต่ายกันเกินไปนะ  )

 

จะมีก็แต่บาง โรงงาน ที่ปิดทันที ปลดคนงานทันทีก็เท่านั้นและที่สำคัญ ค่าครองชีพก็ขึ้นทัน และยังคงมีสัญญาณสภาวะเศรษฐกิจชลอตัว

และจะเกิดปัญหาในระยะยาวแน่นอนครับ

 

แต่ที่ผมอ่านของเพื่อนๆหลายคน ที่บอกว่า การขึ้นค่าแรงพรวดเดียว 300 บาท จะทำให้อำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น ผมก็ว่าเพิ่มนะ แต่บางกลุ่มเท่านั้น

ส่วนเกษตรกร นโยบายนี้ ไม่ได้มีผลต่อเกษตรเท่าไหร่ เพราะคุณจะสังเกตุได้ว่า ทำไมค่าแรงขึ้นแล้ว ราคาสินค้าการเกษตรกลับตกต่ำ ทั้งๆที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

 

 

หลังจากค่าแรงขึ้น รัฐต้องปล่อยราคาอาหารและสินค้าทางการเกษตรให้ขึ้นตามอำนาจซื้อของคนสิครับ

ข้าว เนื้อหมู ไข่ ฯลฯ ราคาสูงขึ้น แรงงานก็จะหันไปทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้นเพราะผลตอบแทนสูงกว่ามาใช้แรงงานในเมือง

เกษตรกรมีกำลังซื้อมากขึ้น ก็จะมาซื้อของที่ผลิตจากในเมืองเพิ่มขึ้น ธุรกิจก็จะมีเงินมาจ้างแรงงานเพิ่ม ซึ่งจะหาแรงงานยากขึ้นเพราะแรงงานไปทำภาคเกษตรเพิ่มขึ้น ค่าแรงมันก็จะเพิ่มขึ้นเพื่อพยายามดึงดูดคนเข้ามา สุดท้ายมันก็จะสมดุลกันไปเอง

 

แต่คุณต้องเริ่มปล่อยมันก่อน เหมือนเด็กเริ่มหัดเดิน มันล้มบ้างลุกบ้าง แต่หากคุณไม่ปล่อยมันก็ไม่สามารถเดินได้

คุณลีครับ ถ้าเป็นอย่างที่คุณลีบอก แรงงานหันไปทำเกษตรมากขึ้น supply มากขึ้น demand ลด แล้วราคาจะสูงขึ้นได้อย่างไรครับ?

 

ที่ผมชี้ คือ การเพิ่มค่าแรง 300 บาท ทั่วประเทศ มันไม่ตอบโจทย์ไงครับว่าจะทำให้คนส่วนใหญ่มีรายได้มากขึ้นหากใช้นโยบายนี้อย่างคนไม่มีความรู้

 

คุณลีก่อนอื่นคุณต้องยอมรับก่อนว่า ค่าแรงคือปัจจัยพื้นฐานในการผลิต เราเข้าใจตรงกันนะครับ

 

ผมยกตัวอย่าง ชาวนาปลูกข้าว +ค่าแรงเก็บเกี่ยว

                      โรงสี               +ค่าแรงผลิต

                      ขนส่ง              +ค่าแรงบริษัทขนส่ง

                      ข้าวถุง             +ค่าแรงโรงงานบรรจุ

                      ห้างค้าส่ง         +ค่าแรงบริการ

 

คุณจะเห็นว่า ทุกๆขบวนการ มีการเพิ่มของค่าแรง แสดงว่า ถ้าคุณจ่ายเงิน แพงกว่าเดิม แต่เกษตรกร ก็ได้เงินเท่าเดิมครับ

ในขณะที่ประชากรบริโภคข้าวเท่าเดิม แล้วเกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มจากนโยบายค่าแรงได้อย่างไรครับ

 

อย่างที่ลุงเชบอกครับว่า ค่าแรงต้องเพิ่มเพื่อสะท้อนกับ เงินเฝ้อ แต่ก็ต้องมีมาตราการอื่นมาช่วยแทรกแซง รองรับ ค่อยๆปรับเปลี่ยน อีกทั้ง

ค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ จะทำให้การแข่งขันของ แต่ละจังหวัดมีปัญหา จะเกิดสภาวะเคลื่อนย้ายแหล่งผลิตแน่นอนครับ

[พอล คุง]

 

 

 

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

ก็อย่างที่บอกคุณสนครับ ถ้าคุณสนบอกว่า พวกสลิ่มอย่างผม ตีโพยตีพาย 300 ทั่วประเทศ เจ๊งทันที เดี๋ยวนี้เลย

ผมก็บอกว่า พวกสลิ่ม อย่างผม ก็เกินไปนะครับ (พวกสลิ่มอย่างผมนี่ ก็กระต่ายกันเกินไปนะ  )

 

จะมีก็แต่บาง โรงงาน ที่ปิดทันที ปลดคนงานทันทีก็เท่านั้นและที่สำคัญ ค่าครองชีพก็ขึ้นทัน และยังคงมีสัญญาณสภาวะเศรษฐกิจชลอตัว

และจะเกิดปัญหาในระยะยาวแน่นอนครับ

 

แต่ที่ผมอ่านของเพื่อนๆหลายคน ที่บอกว่า การขึ้นค่าแรงพรวดเดียว 300 บาท จะทำให้อำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น ผมก็ว่าเพิ่มนะ แต่บางกลุ่มเท่านั้น

ส่วนเกษตรกร นโยบายนี้ ไม่ได้มีผลต่อเกษตรเท่าไหร่ เพราะคุณจะสังเกตุได้ว่า ทำไมค่าแรงขึ้นแล้ว ราคาสินค้าการเกษตรกลับตกต่ำ ทั้งๆที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

 

 

หลังจากค่าแรงขึ้น รัฐต้องปล่อยราคาอาหารและสินค้าทางการเกษตรให้ขึ้นตามอำนาจซื้อของคนสิครับ

ข้าว เนื้อหมู ไข่ ฯลฯ ราคาสูงขึ้น แรงงานก็จะหันไปทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้นเพราะผลตอบแทนสูงกว่ามาใช้แรงงานในเมือง

เกษตรกรมีกำลังซื้อมากขึ้น ก็จะมาซื้อของที่ผลิตจากในเมืองเพิ่มขึ้น ธุรกิจก็จะมีเงินมาจ้างแรงงานเพิ่ม ซึ่งจะหาแรงงานยากขึ้นเพราะแรงงานไปทำภาคเกษตรเพิ่มขึ้น ค่าแรงมันก็จะเพิ่มขึ้นเพื่อพยายามดึงดูดคนเข้ามา สุดท้ายมันก็จะสมดุลกันไปเอง

 

แต่คุณต้องเริ่มปล่อยมันก่อน เหมือนเด็กเริ่มหัดเดิน มันล้มบ้างลุกบ้าง แต่หากคุณไม่ปล่อยมันก็ไม่สามารถเดินได้

 

คุณลี ครับ รัฐไม่ได้เป็นคนกดราคาสินค้าเกษตรนะครับ แค่เริ่มก้อมั่วละ

 

พ่อค้าคนกลาง หรือ คนที่รับซื้อต่อจากชาวสวนครับ

 

เค้าจะกดราคา ทำให้เค้าต้องขายในราคาถูกแล้วมาขายแพงให้พวกเรา ๆ ท่าน ๆ

 

แสดงว่า คุณไม่ได้รู้จักชีวิตเกษตรกร ห่าไรเลย

 

 

ถูกต้องครับ พ่อค้าคนกลางกดราคาเพราะเหนือหัวเขาก็มีราคาอาหารและกำลังซื้อของผู้บริโภคคนสุดท้ายบังคับอยู่

 

พอคุณทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น คนสามารถกินกระเพราไก่จานละ 70 บาทในตลาดได้โดยไม่บ่น พ่อค้าคนกลางก็จะมีช่องว่างด้านล่างให้สามารถขยับราคารับซื้อขึ้นมาได้สูงขึ้น

 

ที่สุดของที่สุด รัฐบาลกำหนดราคาขั้นต่ำไปเลยว่าราคารับซื้อกระเพราจากมือเกษตรกรต้องไม่ต่ำกว่าโลละ 40 

 

หรือคุณไม่ต้องการเห็นเกษตรกรมีรายได้มากกว่า white collar อย่างคุณ?

 

โอ้ย ๆ ๆ คุณนี่ ไม่ได้รู้ห่าไรเลยจริง ๆ

 

ต่อให้ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น แต่ชาวนาชาวสวนเค้าได้ไหมมมมมมมมมมมมมมมม

 

คุณรู้ไหมว่า ค่าแรง 300 นะ ไม่ได้เกี่ยวห่าไรกับ การรับซื้อสินค้าการเกษตรเลย

 

สินค้าการเกษตรซื้อขายตามฤดูกาล ถ้าผลผลิตมาก ก้อขายราคาถูก

 

ถ้าผลผลิตน้อยก้อราคาสูงขึ้น

 

ถามจริง ๆ นะ คุณรู้จัก ชาวนา ชาวสวนดีแค่ไหน

Edited by พอล คุง, 9 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:05.

[Leeporter ขี้แพ้]

ผมบอกแล้วว่านโยบายของเพื่อไทยที่เขาออกมาเพิ่มค่าแรง และเพิ่มผลตอบแทนของสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นมันเดินมาถูกทางแล้ว

เขาอาจจะทำแล้วมีปัญหาในทางปฎิบัติบ้าง ก็แก้กันไป

แต่เขาน่าจะเดินมาถูกทางแล้ว เพราะกลไกทั้งสองอย่างมันบิดเบี้ยวมาหลายสิบปี

ไม่วันใดวันหนึ่งเราก็ต้องปล่อยมันเพราะฝืนต่อไม่ไหว

 

ผมไปกินข้าวก่อนนะ

[พอล คุง]

โอ้ย ๆ ๆ เกลียดจริง ๆ พวกโลกสวย

 

ตัวเองไม่เคยรู้จักชาวนา ชาวสวน แต่กลับพูดน้ำลายไหล

[จิ้งเหลน]

โอ้ย ๆ ๆ เกลียดจริง ๆ พวกโลกสวย

 

ตัวเองไม่เคยรู้จักชาวนา ชาวสวน แต่กลับพูดน้ำลายไหล

[HiddenMan]

 

ไม่รู้ว่า เคยไปเดินสำรวจรึยังครับ

 

ผลจากค่าแรง 300 ทำให้เราได้

 

จากผัก 5 กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาท

พนักงานรายวัน โดนลดทำโอที หรือ ไม่มีโอที แต่เพิ่มกะ ทำให้รายได้พนักงานที่ควรได้ 410 บาท ต่อวัน(รวมโอที) โดนลดมาเหลือ 300 บาท แล้วตัดโอทีทิ้ง ลองไปถามพนักงาน NXP ที่ถนนแจ้งวัฒนะดูก็ได้ครับ

ข้าวแกงปกติ 25 บา พิเศษ 30 ตอนนี้กลายเป็น 35 พิเศษ 45

จำนวนโรงงานพากันปิดตัวใน ตจว. หรือไม่ก็ย้ายฐานไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแทน (รวมทั้งโรงงานชิ้นส่วนมือถือโนเกียที่เคยอยู่ในไทย ตอนนี้ก็ย้ายไปเวียดนามแล้ว)

อันนี้แค่น้ำจิ้มนะ

 

ที่เหลือคิดว่า น่าจะคิดต่อได้ไม่ยากว่า จะเกิดอะไรขึ้น

 

 

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณนะ

ผัก 5กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาทมันเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น ยิ่งกำละ 10 บาทได้ยิ่งดี

คณคุยโทรศัพท์มือถือกับเพื่อนเรื่องไร้สาระหมดเงินไป 10 บาทได้ไมบ่น แต่ซื้อผัก 10 บาทมากินนี่กลับมีปัญหา

บริษัทมือถือรวยเอารวยเอาจากการใช้โทรศัพท์ของคุณ แต่เกษตรกรยังยากจนอยู่ คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ว่าสังคมมันผิดปกติ?

เกษตรกรคือฐานล่างของปิระมิด เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นก็จะมีเงินหมุนเวียนเข้ามาจากการจับจ่ายใข้สอยของเกษตรกร บริษัทที่ขายของก็สามารถขายของได้เยอะขึ้น ก็มีเงินมาจ้างแรงงานและมนุษย์เงินเดือนมากขึ้น

ที่ผ่านมาเราไปกดราคาสินค้าเกษตรทำให้เงินมันไม่หมุนเวียน มันถูกดูดไปอยู่ตรงหัวปิระมิดตลอดเวลา

ตอนผมอยู่ที่ตรังนะ ช่วงไหนยางราคาดีเศรษฐกิจในเมืองนี่สะพัดเลย ช่วงในยางราคาตกเศรษฐกิจในเมืองก็ตกลงไปด้วย

ใส่เงินเข้าไปให้ถูกจุดต้องใส่เข้าไปที่เกษตรกรถูกต้องแล้วครับ

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

คุณควรหยุดบ่นเรื่องผักแพงแล้วไปบ่นเรื่องค่าโทรศัพท์มือถือแพงดีกว่า

 

ส่วนเรื่องค่าแรง ผมถามหน่อยว่าแรงงานไทยควรได้รับค่าแรงต่ำกว่าในเวียดนาม/ลาว/พม่าหรือ เมืองไทยจึงจะอยู่รอด???

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณ???

 

ผักมันไม่ได้แพงขึ้น เพราะเกษตรกรขายแพงครับ แต่มันแพงเพราะ "พ่อค้าคนกลาง" ที่มันมีต้นทุนเพิ่มขึ้น มันก็เลยทำให้ของราคามันขึ้น

ไม่เข้าใจหรือครับ

 

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

 

 

 ตอนนี้รายได้เกษตรกรต่อหัวต่อวันเท่าไหร่กันครับ ถึงมีแรงจูงใจให้ไปทำ?

[เช never die]

ผมบอกแล้วว่านโยบายของเพื่อไทยที่เขาออกมาเพิ่มค่าแรง และเพิ่มผลตอบแทนของสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นมันเดินมาถูกทางแล้ว

เขาอาจจะทำแล้วมีปัญหาในทางปฎิบัติบ้าง ก็แก้กันไป

แต่เขาน่าจะเดินมาถูกทางแล้ว เพราะกลไกทั้งสองอย่างมันบิดเบี้ยวมาหลายสิบปี

ไม่วันใดวันหนึ่งเราก็ต้องปล่อยมันเพราะฝืนต่อไม่ไหว

 

ผมไปกินข้าวก่อนนะ

 

โกหกตอแหลครับ นโยบายของเพื่อไทยเขามาเพื่อ "สร้างคะแนนนิยมแบบโง่ๆ" โดยไมสนใจว่า "โครงสร้างการผลิตของชาติจะฉิบหายวายป่วงอย่างไร" ต่างหาก

Edited by เช neverdie, 9 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:21.

[พอล คุง]

 

 

ไม่รู้ว่า เคยไปเดินสำรวจรึยังครับ

 

ผลจากค่าแรง 300 ทำให้เราได้

 

จากผัก 5 กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาท

พนักงานรายวัน โดนลดทำโอที หรือ ไม่มีโอที แต่เพิ่มกะ ทำให้รายได้พนักงานที่ควรได้ 410 บาท ต่อวัน(รวมโอที) โดนลดมาเหลือ 300 บาท แล้วตัดโอทีทิ้ง ลองไปถามพนักงาน NXP ที่ถนนแจ้งวัฒนะดูก็ได้ครับ

ข้าวแกงปกติ 25 บา พิเศษ 30 ตอนนี้กลายเป็น 35 พิเศษ 45

จำนวนโรงงานพากันปิดตัวใน ตจว. หรือไม่ก็ย้ายฐานไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแทน (รวมทั้งโรงงานชิ้นส่วนมือถือโนเกียที่เคยอยู่ในไทย ตอนนี้ก็ย้ายไปเวียดนามแล้ว)

อันนี้แค่น้ำจิ้มนะ

 

ที่เหลือคิดว่า น่าจะคิดต่อได้ไม่ยากว่า จะเกิดอะไรขึ้น

 

 

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณนะ

ผัก 5กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาทมันเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น ยิ่งกำละ 10 บาทได้ยิ่งดี

คณคุยโทรศัพท์มือถือกับเพื่อนเรื่องไร้สาระหมดเงินไป 10 บาทได้ไมบ่น แต่ซื้อผัก 10 บาทมากินนี่กลับมีปัญหา

บริษัทมือถือรวยเอารวยเอาจากการใช้โทรศัพท์ของคุณ แต่เกษตรกรยังยากจนอยู่ คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ว่าสังคมมันผิดปกติ?

เกษตรกรคือฐานล่างของปิระมิด เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นก็จะมีเงินหมุนเวียนเข้ามาจากการจับจ่ายใข้สอยของเกษตรกร บริษัทที่ขายของก็สามารถขายของได้เยอะขึ้น ก็มีเงินมาจ้างแรงงานและมนุษย์เงินเดือนมากขึ้น

ที่ผ่านมาเราไปกดราคาสินค้าเกษตรทำให้เงินมันไม่หมุนเวียน มันถูกดูดไปอยู่ตรงหัวปิระมิดตลอดเวลา

ตอนผมอยู่ที่ตรังนะ ช่วงไหนยางราคาดีเศรษฐกิจในเมืองนี่สะพัดเลย ช่วงในยางราคาตกเศรษฐกิจในเมืองก็ตกลงไปด้วย

ใส่เงินเข้าไปให้ถูกจุดต้องใส่เข้าไปที่เกษตรกรถูกต้องแล้วครับ

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

คุณควรหยุดบ่นเรื่องผักแพงแล้วไปบ่นเรื่องค่าโทรศัพท์มือถือแพงดีกว่า

 

ส่วนเรื่องค่าแรง ผมถามหน่อยว่าแรงงานไทยควรได้รับค่าแรงต่ำกว่าในเวียดนาม/ลาว/พม่าหรือ เมืองไทยจึงจะอยู่รอด???

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณ???

 

ผักมันไม่ได้แพงขึ้น เพราะเกษตรกรขายแพงครับ แต่มันแพงเพราะ "พ่อค้าคนกลาง" ที่มันมีต้นทุนเพิ่มขึ้น มันก็เลยทำให้ของราคามันขึ้น

ไม่เข้าใจหรือครับ

 

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

 

 

 ตอนนี้รายได้เกษตรกรต่อหัวต่อวันเท่าไหร่กันครับ ถึงมีแรงจูงใจให้ไปทำ?

 

อย่าถาม เค้า แบบนี้ครับ

 

เค้าโลกสวยครับ

 

จินตนาการเค้าเยอะครับ

 

[พอล คุง]

โอ้ย ๆ ๆ เกลียดจริง ๆ พวกโลกสวย

 

ตัวเองไม่เคยรู้จักชาวนา ชาวสวน แต่กลับพูดน้ำลายไหล

 

พวกตัดแปะ

[nnnn43]

โอ้ย ๆ ๆ เกลียดจริง ๆ พวกโลกสวย

 

ตัวเองไม่เคยรู้จักชาวนา ชาวสวน แต่กลับพูดน้ำลายไหล

เข้ามาเปิดกะลาให้

 

http://www.dailynews...politics/196219

[เส้นใหญ่ไม่งอก]

ขอถามว่า ทุกวันนี้ คนที่ได้ค่าแรง 300 จนถึงเดียวนี้ ใครมีเงินเก็บเยอะกว่าตอนยังไม่ขึ้นค่าแรงบ้าง

 

แต่ขอบอกว่า หลาย ๆ คนที่ผมรู้จัก ที่เค้าได้ 300 เค้าเริ่มบ่นแล้วว่ามันไม่พอกับรายจ่าย เพราะของแพงขึ้น

ก็ผมถึงบอกไงว่า 500 ไปเลย

 

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ผมว่านโยบายยิ่งลักษณ์นี่ขี้หมาไปเลยนะครับ ถ้าเทียบกับแนวคิดคุณลี

[ครุฑดำ]

นโยบายค่าแรง 300 ของนายกปูสุดยอดดดดดดดดดดดด!!

[นายตัวเกร็ง]

มาอีกที....กระทู้ผม...ค่าแรง...ไปแข่งกับเศษฝรั่งแล้วเหรอ......

เฮ้ย.....กลับมากันก่อน....มาบอกผมหน่อยว่า......

คนมันตกงานจนเป็น......วิกฤติของชาติยังไง...........

 

 

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........

ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

 

เสียใจด้วนะฮะ @son คนกลางและศูนย์กลางจักรวาลทำการรัฐประหารกระทู้ของ @son ไปแล้ว

[เคนอิจิ-นามิ]

เด็กอมมือ....เรามาคุยกันต่อข้างข้างชายฝั่งของเราดีกว่า.........
ปล่อยพวกนั้น......เขาเล่นกันอยู่ข้างข้างเกาะกันไปเถอะ.........

ขอโทษที่ร่วมออกทะเล... แต่งานนี้ son ตั้งกระทู้ใหม่อาจจะง่ายกว่า

มีด้วยเหรอ ให้จขกท ไปตั้งกระทู้ใหม่ 5555



น้าเช เล่ยถามผมด้วยเหรอเนี่ย ผมแค่เข้ามาเชียร์เอง

แต่นิดนึง ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไม ถึงขึ้นเป็น 100%
โรงงานบ้านผม ไม่ค่อยกระทบเท่าไหร่ เพราะแรงงานเกิน 300 หมดแล้ว (งานแบบไม่ต้องใช้สมองนะครับ )
มีบางงาน ที่เบากว่างานอื่น แต่ก็ไม่กี่คน ไม่ใช่ทั้งหมด แค่เด็กใหม่ ทำงานไม่เป็น ทุกวันนี้ ต้องให้มันและแน่นอน คนอื่นมีปรับเพิ่มนิดหน่อย

ต่อข้อถกเถียงที่ว่า เป็นเถ้าแก่ กินข้าวแกงร้านเดียวกับลูกน้อง พ่อผมทำตลอดนะ
ตอนลงเครื่องจักร ก็ต้องาอนงานลูกน้องเอง ถอดเสื้อลงสี ทุกอย่างร่วมกันกับลูกน้อง

แต่ก็มีช่วงเวลา หรือกระทั่งลูกๆเอง นั่งกินซิสเล่อครับ
แต่เราก็ กินข้าวธรรมดาๆ เหมือนชาวบ้านทั่วไปแหงะครับ ไม่เห็นต้องทำตัวอมาตย์ตลอดเวลา

ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจเท่าไหร่ เลยได้แต่อ่านอย่างเดียว

แต่ผมเข้าใจว่า การทำให้ค่าแรงเท่ากันทั่วประเทศ ทำให้ข้าวของราคาแพงขึ้น
อาจจะจริง ทำให้ค่าครองชีพแพงขึ้นก็ใช่
แต่มันก็จะทำให้ความเหลื่อมล้ำลดลง หวังว่างั้นนะ

[Leeporter ขี้แพ้]

 

 

ไม่รู้ว่า เคยไปเดินสำรวจรึยังครับ

 

ผลจากค่าแรง 300 ทำให้เราได้

 

จากผัก 5 กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาท

พนักงานรายวัน โดนลดทำโอที หรือ ไม่มีโอที แต่เพิ่มกะ ทำให้รายได้พนักงานที่ควรได้ 410 บาท ต่อวัน(รวมโอที) โดนลดมาเหลือ 300 บาท แล้วตัดโอทีทิ้ง ลองไปถามพนักงาน NXP ที่ถนนแจ้งวัฒนะดูก็ได้ครับ

ข้าวแกงปกติ 25 บา พิเศษ 30 ตอนนี้กลายเป็น 35 พิเศษ 45

จำนวนโรงงานพากันปิดตัวใน ตจว. หรือไม่ก็ย้ายฐานไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแทน (รวมทั้งโรงงานชิ้นส่วนมือถือโนเกียที่เคยอยู่ในไทย ตอนนี้ก็ย้ายไปเวียดนามแล้ว)

อันนี้แค่น้ำจิ้มนะ

 

ที่เหลือคิดว่า น่าจะคิดต่อได้ไม่ยากว่า จะเกิดอะไรขึ้น

 

 

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณนะ

ผัก 5กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาทมันเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น ยิ่งกำละ 10 บาทได้ยิ่งดี

คณคุยโทรศัพท์มือถือกับเพื่อนเรื่องไร้สาระหมดเงินไป 10 บาทได้ไมบ่น แต่ซื้อผัก 10 บาทมากินนี่กลับมีปัญหา

บริษัทมือถือรวยเอารวยเอาจากการใช้โทรศัพท์ของคุณ แต่เกษตรกรยังยากจนอยู่ คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ว่าสังคมมันผิดปกติ?

เกษตรกรคือฐานล่างของปิระมิด เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นก็จะมีเงินหมุนเวียนเข้ามาจากการจับจ่ายใข้สอยของเกษตรกร บริษัทที่ขายของก็สามารถขายของได้เยอะขึ้น ก็มีเงินมาจ้างแรงงานและมนุษย์เงินเดือนมากขึ้น

ที่ผ่านมาเราไปกดราคาสินค้าเกษตรทำให้เงินมันไม่หมุนเวียน มันถูกดูดไปอยู่ตรงหัวปิระมิดตลอดเวลา

ตอนผมอยู่ที่ตรังนะ ช่วงไหนยางราคาดีเศรษฐกิจในเมืองนี่สะพัดเลย ช่วงในยางราคาตกเศรษฐกิจในเมืองก็ตกลงไปด้วย

ใส่เงินเข้าไปให้ถูกจุดต้องใส่เข้าไปที่เกษตรกรถูกต้องแล้วครับ

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

คุณควรหยุดบ่นเรื่องผักแพงแล้วไปบ่นเรื่องค่าโทรศัพท์มือถือแพงดีกว่า

 

ส่วนเรื่องค่าแรง ผมถามหน่อยว่าแรงงานไทยควรได้รับค่าแรงต่ำกว่าในเวียดนาม/ลาว/พม่าหรือ เมืองไทยจึงจะอยู่รอด???

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณ???

 

ผักมันไม่ได้แพงขึ้น เพราะเกษตรกรขายแพงครับ แต่มันแพงเพราะ "พ่อค้าคนกลาง" ที่มันมีต้นทุนเพิ่มขึ้น มันก็เลยทำให้ของราคามันขึ้น

ไม่เข้าใจหรือครับ

 

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

 

 

 ตอนนี้รายได้เกษตรกรต่อหัวต่อวันเท่าไหร่กันครับ ถึงมีแรงจูงใจให้ไปทำ?

 

 

คุณอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเหรอ ปัจจุบันผลตอบแทนของเกษตรกรมันต่ำเกินไปเพราะรัฐบาลต้องควบคุมค่าครองชีพในส่วนของราคาสินค้าการเกษตรให้ต่ำเพื่อให้แรงงานที่ได้รับค่าแรงต่ำสามารถอยู่ได้

 

เมื่อคุณยกค่าแรงให้สูงขึ้น ผู้บริโภคระดับคนใช้แรงงานก็มีกำลังซื้อสูงขึ้น ความจำเป็นในการควบคุมราคาสินค้าทางการเกษตรก็น้อยลง สินค้าทางการเกษตรก็มีราคาสูงขึ้นได้ คนจึงจะเลือกที่จะกลับไปเป็นเกษตรกรซึ่งมีรายได้มากกว่าใช้แรงงานในโรงงานในเมือง

 

ซึ่งมันยังไม่เกิดขึ้นเพราะคุณไปกดทั้ง 2 อย่างเอาไว้

 

คุยพวกคุณแล้วผมปวดหัวหว่ะ

[Leeporter ขี้แพ้]

 

ขอถามว่า ทุกวันนี้ คนที่ได้ค่าแรง 300 จนถึงเดียวนี้ ใครมีเงินเก็บเยอะกว่าตอนยังไม่ขึ้นค่าแรงบ้าง

 

แต่ขอบอกว่า หลาย ๆ คนที่ผมรู้จัก ที่เค้าได้ 300 เค้าเริ่มบ่นแล้วว่ามันไม่พอกับรายจ่าย เพราะของแพงขึ้น

ก็ผมถึงบอกไงว่า 500 ไปเลย

 

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ผมว่านโยบายยิ่งลักษณ์นี่ขี้หมาไปเลยนะครับ ถ้าเทียบกับแนวคิดคุณลี

 

ผมถามคุณนะ ปัจจุบันนี้คุณอยู่รอดได้ด้วยเงิน 300 บาท/วันหรือเปล่า

หากคุณอยู่ไม่รอด ผู้ใช้แรงงานอีกนับล้านเขาก็อยู่ไม่รอดเหมือนกัน

ประเทศไทยประชากร 60 ล้านคน แต่กำลังซื้อน้อยกว่าสิงคโปร์ที่มีประชากร 4 ล้านคนเสียอีก เพราะอะไร เพราะคุณไปกดค่าแรงเอาไว้

ศักยภาพของเศรษฐกิจภายในของเมืองไทยจึงยังไม่ได้เอามาใช้อย่างเต็มที่เลย เราไปพึ่งการส่งออกมากเกินไป

[พอล คุง]

 

 

 

ไม่รู้ว่า เคยไปเดินสำรวจรึยังครับ

 

ผลจากค่าแรง 300 ทำให้เราได้

 

จากผัก 5 กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาท

พนักงานรายวัน โดนลดทำโอที หรือ ไม่มีโอที แต่เพิ่มกะ ทำให้รายได้พนักงานที่ควรได้ 410 บาท ต่อวัน(รวมโอที) โดนลดมาเหลือ 300 บาท แล้วตัดโอทีทิ้ง ลองไปถามพนักงาน NXP ที่ถนนแจ้งวัฒนะดูก็ได้ครับ

ข้าวแกงปกติ 25 บา พิเศษ 30 ตอนนี้กลายเป็น 35 พิเศษ 45

จำนวนโรงงานพากันปิดตัวใน ตจว. หรือไม่ก็ย้ายฐานไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแทน (รวมทั้งโรงงานชิ้นส่วนมือถือโนเกียที่เคยอยู่ในไทย ตอนนี้ก็ย้ายไปเวียดนามแล้ว)

อันนี้แค่น้ำจิ้มนะ

 

ที่เหลือคิดว่า น่าจะคิดต่อได้ไม่ยากว่า จะเกิดอะไรขึ้น

 

 

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณนะ

ผัก 5กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาทมันเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น ยิ่งกำละ 10 บาทได้ยิ่งดี

คณคุยโทรศัพท์มือถือกับเพื่อนเรื่องไร้สาระหมดเงินไป 10 บาทได้ไมบ่น แต่ซื้อผัก 10 บาทมากินนี่กลับมีปัญหา

บริษัทมือถือรวยเอารวยเอาจากการใช้โทรศัพท์ของคุณ แต่เกษตรกรยังยากจนอยู่ คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ว่าสังคมมันผิดปกติ?

เกษตรกรคือฐานล่างของปิระมิด เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นก็จะมีเงินหมุนเวียนเข้ามาจากการจับจ่ายใข้สอยของเกษตรกร บริษัทที่ขายของก็สามารถขายของได้เยอะขึ้น ก็มีเงินมาจ้างแรงงานและมนุษย์เงินเดือนมากขึ้น

ที่ผ่านมาเราไปกดราคาสินค้าเกษตรทำให้เงินมันไม่หมุนเวียน มันถูกดูดไปอยู่ตรงหัวปิระมิดตลอดเวลา

ตอนผมอยู่ที่ตรังนะ ช่วงไหนยางราคาดีเศรษฐกิจในเมืองนี่สะพัดเลย ช่วงในยางราคาตกเศรษฐกิจในเมืองก็ตกลงไปด้วย

ใส่เงินเข้าไปให้ถูกจุดต้องใส่เข้าไปที่เกษตรกรถูกต้องแล้วครับ

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

คุณควรหยุดบ่นเรื่องผักแพงแล้วไปบ่นเรื่องค่าโทรศัพท์มือถือแพงดีกว่า

 

ส่วนเรื่องค่าแรง ผมถามหน่อยว่าแรงงานไทยควรได้รับค่าแรงต่ำกว่าในเวียดนาม/ลาว/พม่าหรือ เมืองไทยจึงจะอยู่รอด???

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณ???

 

ผักมันไม่ได้แพงขึ้น เพราะเกษตรกรขายแพงครับ แต่มันแพงเพราะ "พ่อค้าคนกลาง" ที่มันมีต้นทุนเพิ่มขึ้น มันก็เลยทำให้ของราคามันขึ้น

ไม่เข้าใจหรือครับ

 

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

 

 

 ตอนนี้รายได้เกษตรกรต่อหัวต่อวันเท่าไหร่กันครับ ถึงมีแรงจูงใจให้ไปทำ?

 

 

คุณอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเหรอ ปัจจุบันผลตอบแทนของเกษตรกรมันต่ำเกินไปเพราะรัฐบาลต้องควบคุมค่าครองชีพในส่วนของราคาสินค้าการเกษตรให้ต่ำเพื่อให้แรงงานที่ได้รับค่าแรงต่ำสามารถอยู่ได้

 

เมื่อคุณยกค่าแรงให้สูงขึ้น ผู้บริโภคระดับคนใช้แรงงานก็มีกำลังซื้อสูงขึ้น ความจำเป็นในการควบคุมราคาสินค้าทางการเกษตรก็น้อยลง สินค้าทางการเกษตรก็มีราคาสูงขึ้นได้ คนจึงจะเลือกที่จะกลับไปเป็นเกษตรกรซึ่งมีรายได้มากกว่าใช้แรงงานในโรงงานในเมือง

 

ซึ่งมันยังไม่เกิดขึ้นเพราะคุณไปกดทั้ง 2 อย่างเอาไว้

 

คุยพวกคุณแล้วผมปวดหัวหว่ะ

 

 

 

 

ขอถามว่า ทุกวันนี้ คนที่ได้ค่าแรง 300 จนถึงเดียวนี้ ใครมีเงินเก็บเยอะกว่าตอนยังไม่ขึ้นค่าแรงบ้าง

 

แต่ขอบอกว่า หลาย ๆ คนที่ผมรู้จัก ที่เค้าได้ 300 เค้าเริ่มบ่นแล้วว่ามันไม่พอกับรายจ่าย เพราะของแพงขึ้น

ก็ผมถึงบอกไงว่า 500 ไปเลย

 

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ผมว่านโยบายยิ่งลักษณ์นี่ขี้หมาไปเลยนะครับ ถ้าเทียบกับแนวคิดคุณลี

 

ผมถามคุณนะ ปัจจุบันนี้คุณอยู่รอดได้ด้วยเงิน 300 บาท/วันหรือเปล่า

หากคุณอยู่ไม่รอด ผู้ใช้แรงงานอีกนับล้านเขาก็อยู่ไม่รอดเหมือนกัน

ประเทศไทยประชากร 60 ล้านคน แต่กำลังซื้อน้อยกว่าสิงคโปร์ที่มีประชากร 4 ล้านคนเสียอีก เพราะอะไร เพราะคุณไปกดค่าแรงเอาไว้

ศักยภาพของเศรษฐกิจภายในของเมืองไทยจึงยังไม่ได้เอามาใช้อย่างเต็มที่เลย เราไปพึ่งการส่งออกมากเกินไป

 

สรุปว่า คุณลี คุณไม่ได้มีเข้าใจ ห่าไรเลยจริง ๆ

 

เด่วแม่งนั่งสวด 3 วัน

[HiddenMan]

 มองแต่มุมแรงงานต้องได้ รัฐบาลไม่ต้องทำอะไร แต่ผู้ประกอบต้องปรับตัว

ผู้ประกอบการไม่ต้องกินต้องใช้หรือไง

 

ผู้ประกอบการต้องปรับตัวอยู่แล้ว... แล้วแรงงานล่ะทำงานได้คุ้มค่ากับผลผลิตหรือยัง รัฐบาลล่ะมีมาตรการช่วยเหลือที่พร้อมหรือยัง

Edited by HiddenMan, 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 00:39.

[พอล คุง]

 มองแต่มุมแรงงานต้องได้ รัฐบาลไม่ต้องทำอะไร แต่ผู้ประกอบต้องปรับตัว

ผู้ประกอบการไม่ต้องกินต้องใช้หรือไง

 

ผู้ประกอบการต้องปรับตัวอยู่แล้ว... แล้วแรงงานล่ะทำงานได้คุ้มค่ากับผลผลิตหรือยัง รัฐบาลล่ะมีมาตรการช่วยเหลือที่พร้อมหรือยัง

 

ควายแดงเค้าจะบอกว่า ผู้ประกอบการ ต้องช่วยตัวเองครับ

 

เพราะรัฐตอนยนี้มีหน้าที่เดียวคือ แก้ รธน ครับ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

[blackdragon]

เรียนเชิญ....สลิ่มแมงสาป....ที่มีสมอง..มาถกกันหน่อยครับ............

ผมขอข้อเสียของนโยบายนี้.......

ปัญหาที่เกิดขึ้น........

ผลกระทบที่มี.......

จำนวนคนตกงาน........

ขอแบบที่มันร้ายแรงจริงจริงนะครับ.........

ชนิดแบบที่ชาติล่มจมเลยน่ะ...........

ไอ้ประเภทที่มันเหมือนตอนยุคมาร์คชั่งไข่.......

ไม่ต้องเอามาโชว์ครับ....ปัญญาอ่อน.....

ตอนนี้ผมมองไม่เห็นเลย........

ว่าคนจะตกงานกันมโหฬารอย่างไร.......ตามน้ำคำของสลิ่ม.......

มองไม่เห็นซักที....ว่าบริษัทปิดตัวลง...จนทำให้เศรษฐกิจ....

ของชาติหายนะ.........

มองไม่เห็นเลยว่า.....รายจ่ายเพิ่มขึ้น.....มากกว่ายุคมาร์คชั่งไข่อย่างไร.....

ไอ้ที่แพงกว่าแค่นิดหน่อย.....ไม่ต้องเขียนมาครับ....ปัญญาอ่อน.....

เขาได้เงินเยอะกว่าเท่าตัว.....แต่จ่ายเพิ่มอีกแค่นิดหน่อย....

มันคุ้มค่ากับประชาชน....ที่เขาเลือกพรรคนี้เข้ามาแล้ว........

ตอนนี้ที่ผมมองเห็นคือ........ประชาชนมีความสุข....

กับการได้จับเงินก้อนเต็มมือ..........มีเงินเยอะกว่าเดิมเป็นเท่าตัว......

หึหึ.........................

เอางี้แล้วกัน

 

ถ้ามันดีจริง

 

 

ทำไมต้อง 300

 

ทำไมไม่ 400 หรือ 500

 

หรือ 1,000 ไปเลย

 

ทำไมจำเพาะต้อง 300 ด้วย

 

 

วานควายแดงบอกหน่อย

[3x3eyes]

 

 

 

 

ไม่รู้ว่า เคยไปเดินสำรวจรึยังครับ

 

ผลจากค่าแรง 300 ทำให้เราได้

 

จากผัก 5 กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาท

พนักงานรายวัน โดนลดทำโอที หรือ ไม่มีโอที แต่เพิ่มกะ ทำให้รายได้พนักงานที่ควรได้ 410 บาท ต่อวัน(รวมโอที) โดนลดมาเหลือ 300 บาท แล้วตัดโอทีทิ้ง ลองไปถามพนักงาน NXP ที่ถนนแจ้งวัฒนะดูก็ได้ครับ

ข้าวแกงปกติ 25 บา พิเศษ 30 ตอนนี้กลายเป็น 35 พิเศษ 45

จำนวนโรงงานพากันปิดตัวใน ตจว. หรือไม่ก็ย้ายฐานไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแทน (รวมทั้งโรงงานชิ้นส่วนมือถือโนเกียที่เคยอยู่ในไทย ตอนนี้ก็ย้ายไปเวียดนามแล้ว)

อันนี้แค่น้ำจิ้มนะ

 

ที่เหลือคิดว่า น่าจะคิดต่อได้ไม่ยากว่า จะเกิดอะไรขึ้น

 

 

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณนะ

ผัก 5กำ 10 บาท กลายมาเป็น 2 กำ 10 บาทมันเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น ยิ่งกำละ 10 บาทได้ยิ่งดี

คณคุยโทรศัพท์มือถือกับเพื่อนเรื่องไร้สาระหมดเงินไป 10 บาทได้ไมบ่น แต่ซื้อผัก 10 บาทมากินนี่กลับมีปัญหา

บริษัทมือถือรวยเอารวยเอาจากการใช้โทรศัพท์ของคุณ แต่เกษตรกรยังยากจนอยู่ คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ว่าสังคมมันผิดปกติ?

เกษตรกรคือฐานล่างของปิระมิด เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นก็จะมีเงินหมุนเวียนเข้ามาจากการจับจ่ายใข้สอยของเกษตรกร บริษัทที่ขายของก็สามารถขายของได้เยอะขึ้น ก็มีเงินมาจ้างแรงงานและมนุษย์เงินเดือนมากขึ้น

ที่ผ่านมาเราไปกดราคาสินค้าเกษตรทำให้เงินมันไม่หมุนเวียน มันถูกดูดไปอยู่ตรงหัวปิระมิดตลอดเวลา

ตอนผมอยู่ที่ตรังนะ ช่วงไหนยางราคาดีเศรษฐกิจในเมืองนี่สะพัดเลย ช่วงในยางราคาตกเศรษฐกิจในเมืองก็ตกลงไปด้วย

ใส่เงินเข้าไปให้ถูกจุดต้องใส่เข้าไปที่เกษตรกรถูกต้องแล้วครับ

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

คุณควรหยุดบ่นเรื่องผักแพงแล้วไปบ่นเรื่องค่าโทรศัพท์มือถือแพงดีกว่า

 

ส่วนเรื่องค่าแรง ผมถามหน่อยว่าแรงงานไทยควรได้รับค่าแรงต่ำกว่าในเวียดนาม/ลาว/พม่าหรือ เมืองไทยจึงจะอยู่รอด???

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจคุณ???

 

ผักมันไม่ได้แพงขึ้น เพราะเกษตรกรขายแพงครับ แต่มันแพงเพราะ "พ่อค้าคนกลาง" ที่มันมีต้นทุนเพิ่มขึ้น มันก็เลยทำให้ของราคามันขึ้น

ไม่เข้าใจหรือครับ

 

รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ก็มีแรงจูงใจให้กลับไปทำการเกษตรซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทนที่จะมารับจ้างวันละ 300 บาทในเมือง

 

 

 ตอนนี้รายได้เกษตรกรต่อหัวต่อวันเท่าไหร่กันครับ ถึงมีแรงจูงใจให้ไปทำ?

 

 

คุณอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเหรอ ปัจจุบันผลตอบแทนของเกษตรกรมันต่ำเกินไปเพราะรัฐบาลต้องควบคุมค่าครองชีพในส่วนของราคาสินค้าการเกษตรให้ต่ำเพื่อให้แรงงานที่ได้รับค่าแรงต่ำสามารถอยู่ได้

 

เมื่อคุณยกค่าแรงให้สูงขึ้น ผู้บริโภคระดับคนใช้แรงงานก็มีกำลังซื้อสูงขึ้น ความจำเป็นในการควบคุมราคาสินค้าทางการเกษตรก็น้อยลง สินค้าทางการเกษตรก็มีราคาสูงขึ้นได้ คนจึงจะเลือกที่จะกลับไปเป็นเกษตรกรซึ่งมีรายได้มากกว่าใช้แรงงานในโรงงานในเมือง

 

ซึ่งมันยังไม่เกิดขึ้นเพราะคุณไปกดทั้ง 2 อย่างเอาไว้

 

คุยพวกคุณแล้วผมปวดหัวหว่ะ

 

 

 

 

ขอถามว่า ทุกวันนี้ คนที่ได้ค่าแรง 300 จนถึงเดียวนี้ ใครมีเงินเก็บเยอะกว่าตอนยังไม่ขึ้นค่าแรงบ้าง

 

แต่ขอบอกว่า หลาย ๆ คนที่ผมรู้จัก ที่เค้าได้ 300 เค้าเริ่มบ่นแล้วว่ามันไม่พอกับรายจ่าย เพราะของแพงขึ้น

ก็ผมถึงบอกไงว่า 500 ไปเลย

 

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ผมว่านโยบายยิ่งลักษณ์นี่ขี้หมาไปเลยนะครับ ถ้าเทียบกับแนวคิดคุณลี

 

ผมถามคุณนะ ปัจจุบันนี้คุณอยู่รอดได้ด้วยเงิน 300 บาท/วันหรือเปล่า

หากคุณอยู่ไม่รอด ผู้ใช้แรงงานอีกนับล้านเขาก็อยู่ไม่รอดเหมือนกัน

ประเทศไทยประชากร 60 ล้านคน แต่กำลังซื้อน้อยกว่าสิงคโปร์ที่มีประชากร 4 ล้านคนเสียอีก เพราะอะไร เพราะคุณไปกดค่าแรงเอาไว้

ศักยภาพของเศรษฐกิจภายในของเมืองไทยจึงยังไม่ได้เอามาใช้อย่างเต็มที่เลย เราไปพึ่งการส่งออกมากเกินไป

 

สรุปว่า คุณลี คุณไม่ได้มีเข้าใจ ห่าไรเลยจริง ๆ

 

เด่ว***นั่งสวด 3 วัน

 

แค่ไอเดียขายผักชีความเร็วสูงของแก ผมก็ฮาขี้แตกแล้วครับ

[หงส์แดง]

 

 

ขอถามว่า ทุกวันนี้ คนที่ได้ค่าแรง 300 จนถึงเดียวนี้ ใครมีเงินเก็บเยอะกว่าตอนยังไม่ขึ้นค่าแรงบ้าง

 

แต่ขอบอกว่า หลาย ๆ คนที่ผมรู้จัก ที่เค้าได้ 300 เค้าเริ่มบ่นแล้วว่ามันไม่พอกับรายจ่าย เพราะของแพงขึ้น

ก็ผมถึงบอกไงว่า 500 ไปเลย

 

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ผมว่านโยบายยิ่งลักษณ์นี่ขี้หมาไปเลยนะครับ ถ้าเทียบกับแนวคิดคุณลี

 

ผมถามคุณนะ ปัจจุบันนี้คุณอยู่รอดได้ด้วยเงิน 300 บาท/วันหรือเปล่า

หากคุณอยู่ไม่รอด ผู้ใช้แรงงานอีกนับล้านเขาก็อยู่ไม่รอดเหมือนกัน

ประเทศไทยประชากร 60 ล้านคน แต่กำลังซื้อน้อยกว่าสิงคโปร์ที่มีประชากร 4 ล้านคนเสียอีก เพราะอะไร เพราะคุณไปกดค่าแรงเอาไว้

ศักยภาพของเศรษฐกิจภายในของเมืองไทยจึงยังไม่ได้เอามาใช้อย่างเต็มที่เลย เราไปพึ่งการส่งออกมากเกินไป

ถ้าถามผมนะ วันละ1000 บ. ตอนนี้ยังไม่พอใช้เท่าไรเลยครับ แต่ประเด็นของแรงงานขั้นต่ำนั้น มันส่งผลถึงปัจจัยหลายอย่างกับสินค้า ค่าครองชีพ ดังนั้นการขึ้นแรงงานแต่ละครั้งจะสังเกตว่าต้องมี สินค้าราคาเพิ่มขึ้นเสมอ จึงควรคิดให้รอบคอบ และค่อยๆปรับ ถ้าหากมันขึ้นง่ายขนาดนั้น ต่อไปผู้สมัคร ใครก็ได้ประกาศเลยขั้นต่ำวันละ 1500 บ. ปริญญาตรี 30000 บ. ก็ได้สิ

[ขุนสำราญ]

 

ที่โรงงานที่ผมทำอยู่ แต่ก่อนมีแรงงานไทยทำกันเยอะมากๆ

แต่ตอนนี้ แทบไม่เหลือคนไทย เพราะแรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามามากกว่าปรกติแย่งงานคนไทยทำ

ในช่วงที่แรงงานไทยกลับไปทำนาที่บ้านเกิดแล้วพอกลับมาก็ไม่สามารถเข้าทำงานได้ง่ายๆเหมือนแต่ก่อน

ตอนนี้แรงานต่างด้าวที่โรงงานที่ผมทำอยู่ ประมาณ 80% แล้วครับ นั่นก็หมายความว่าคนไทยตกงานไปแล้ว

อย่างน้อยที่นี่ ก็ 80%ไปแล้ว นี่ยังไม่ได้รวมทั้งประเทศนะครับ แค่ที่ทำงานผมที่เดียว

 

คนไทยที่ไม่ได้ทำที่โรงงานท่านอีกแล้ว  ไม่ได้แปลว่า เค้าจะตกงานนะครับ...

เค้า แค่ "ไม่ได้ทำที่โรงงานท่าน"... 

 

อัตราว่างงาน ในประเทศเราต่ำมาก นะครับ... 

 

อัตราว่างงาน เมื่อเดือน กพ ที่ผ่านมา .. 0.6%  ลดลง จาก กพ ปี 55 ที่ 0.7%

http://service.nso.g...6/reportFeb.pdf

 

ไอ้ที่ว่า คนไทยตกงานมากขึ้นเนี่ย...   จินตนาการ ไปเองหรือป่าว... 

 

 

 

ไอ้ที่ว่าคนไทยตกงานน้อยลงเนี่ย เพราะหันมาขี่มอไซค์รับจ้างกันมากขึ้นหรือเปล่าครับ (วิชาชีพอิสระเชียวนา )

อัตตราว่างงานนี่ เขาดูข้อมูลการว่างงานของแรงงานระดับไหนอ่ะครับ

มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา รึแรงงานรากหญ้ารายวัน ครับ

เท่าที่ผมสอบถามดูจากพนักงานที่หลุดรอดเข้ามาทำที่เดิมได้ เขาบอกว่า ที่หมู่บ้าน

ที่บ้านเกิดเขา มีแรงงานหลายคนเลยที่ไม่มีงานทำ ก็ไปขายส้มตำบ้าง ขายลูกชิ้นปิ้งบ้าง

ขายผลไม้ น้ำปั่น แล้วแต่ความถนัดครับ แล้วแรงงานจำพวกนี้ เขาได้ลงไปสำรวจด้วยไม๊ครับ

[เคนอิจิ-นามิ]

มองแต่มุมแรงงานต้องได้ รัฐบาลไม่ต้องทำอะไร แต่ผู้ประกอบต้องปรับตัว
ผู้ประกอบการไม่ต้องกินต้องใช้หรือไง

ผู้ประกอบการต้องปรับตัวอยู่แล้ว... แล้วแรงงานล่ะทำงานได้คุ้มค่ากับผลผลิตหรือยัง รัฐบาลล่ะมีมาตรการช่วยเหลือที่พร้อมหรือยัง

เขาลดภาษีให้ ไม่ช่วยเหรอ?

[พอล คุง]

รอดวงอาทิตย์ มาแถต่อ

 

เคนอิจิ จะช่วยก้อได้นะ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาา

[galaxy]

น่าจะชื่อ sonteen มากกว่า ไอ้พวกควายแดงเอ้ย..อีกหน่อยก็จะหูตาสว่าง..ตอนนี้ก็..แทบกัดก้อนเกลือกิน ซื้อกันอยู่แล้ว ยัง.โง่เป็นควายอยู่ได้ หัดแหกหูแหกตาออกไปสอบถามชาวบ้านร้านตลาดเขาบ้าง ว่าของแพงชิหายอย่างไร

[Leeporter ขี้แพ้]

เรียนเชิญ....สลิ่มแมงสาป....ที่มีสมอง..มาถกกันหน่อยครับ............

ผมขอข้อเสียของนโยบายนี้.......

ปัญหาที่เกิดขึ้น........

ผลกระทบที่มี.......

จำนวนคนตกงาน........

ขอแบบที่มันร้ายแรงจริงจริงนะครับ.........

ชนิดแบบที่ชาติล่มจมเลยน่ะ...........

ไอ้ประเภทที่มันเหมือนตอนยุคมาร์คชั่งไข่.......

ไม่ต้องเอามาโชว์ครับ....ปัญญาอ่อน.....

ตอนนี้ผมมองไม่เห็นเลย........

ว่าคนจะตกงานกันมโหฬารอย่างไร.......ตามน้ำคำของสลิ่ม.......

มองไม่เห็นซักที....ว่าบริษัทปิดตัวลง...จนทำให้เศรษฐกิจ....

ของชาติหายนะ.........

มองไม่เห็นเลยว่า.....รายจ่ายเพิ่มขึ้น.....มากกว่ายุคมาร์คชั่งไข่อย่างไร.....

ไอ้ที่แพงกว่าแค่นิดหน่อย.....ไม่ต้องเขียนมาครับ....ปัญญาอ่อน.....

เขาได้เงินเยอะกว่าเท่าตัว.....แต่จ่ายเพิ่มอีกแค่นิดหน่อย....

มันคุ้มค่ากับประชาชน....ที่เขาเลือกพรรคนี้เข้ามาแล้ว........

ตอนนี้ที่ผมมองเห็นคือ........ประชาชนมีความสุข....

กับการได้จับเงินก้อนเต็มมือ..........มีเงินเยอะกว่าเดิมเป็นเท่าตัว......

หึหึ.........................

เอางี้แล้วกัน

 

ถ้ามันดีจริง

 

 

ทำไมต้อง 300

 

ทำไมไม่ 400 หรือ 500

 

หรือ 1,000 ไปเลย

 

ทำไมจำเพาะต้อง 300 ด้วย

 

 

วานควายแดงบอกหน่อย

 

 

ผมไม่ใช่ควายแดงนะ แต่ผมขอตอบ

 

เพราะ 300 บาทคือขั้นบันไดแรกไง ขึ้นเป็น 1,000 คุณยอมหรือ?

แค่ขึ้นเป็น 300 ยังแหกปากลั่น ขอให้เป็นขั้นบันไดจาก 150 เป็น 200, 250 แล้วค่อยเป็น 300

ตลกหว่ะ

[Leeporter ขี้แพ้]

 

 

 

ขอถามว่า ทุกวันนี้ คนที่ได้ค่าแรง 300 จนถึงเดียวนี้ ใครมีเงินเก็บเยอะกว่าตอนยังไม่ขึ้นค่าแรงบ้าง

 

แต่ขอบอกว่า หลาย ๆ คนที่ผมรู้จัก ที่เค้าได้ 300 เค้าเริ่มบ่นแล้วว่ามันไม่พอกับรายจ่าย เพราะของแพงขึ้น

ก็ผมถึงบอกไงว่า 500 ไปเลย

 

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ผมว่านโยบายยิ่งลักษณ์นี่ขี้หมาไปเลยนะครับ ถ้าเทียบกับแนวคิดคุณลี

 

ผมถามคุณนะ ปัจจุบันนี้คุณอยู่รอดได้ด้วยเงิน 300 บาท/วันหรือเปล่า

หากคุณอยู่ไม่รอด ผู้ใช้แรงงานอีกนับล้านเขาก็อยู่ไม่รอดเหมือนกัน

ประเทศไทยประชากร 60 ล้านคน แต่กำลังซื้อน้อยกว่าสิงคโปร์ที่มีประชากร 4 ล้านคนเสียอีก เพราะอะไร เพราะคุณไปกดค่าแรงเอาไว้

ศักยภาพของเศรษฐกิจภายในของเมืองไทยจึงยังไม่ได้เอามาใช้อย่างเต็มที่เลย เราไปพึ่งการส่งออกมากเกินไป

ถ้าถามผมนะ วันละ1000 บ. ตอนนี้ยังไม่พอใช้เท่าไรเลยครับ แต่ประเด็นของแรงงานขั้นต่ำนั้น มันส่งผลถึงปัจจัยหลายอย่างกับสินค้า ค่าครองชีพ ดังนั้นการขึ้นแรงงานแต่ละครั้งจะสังเกตว่าต้องมี สินค้าราคาเพิ่มขึ้นเสมอ จึงควรคิดให้รอบคอบ และค่อยๆปรับ ถ้าหากมันขึ้นง่ายขนาดนั้น ต่อไปผู้สมัคร ใครก็ได้ประกาศเลยขั้นต่ำวันละ 1500 บ. ปริญญาตรี 30000 บ. ก็ได้สิ

 

คุณใช้วันละ 1,000 บาทยังไม่พอเลย แล้วคุณคิดว่า 300 บาทคนอื่นเขาจะพอใช้หรือ?

ผมบอกแล้วไงว่าค่าแรงขั้นต่ำมันควรเป็นค่าแรงที่ลูกจ้างอยู่ได้ ไม่ใช่ค่าแรงที่นายจ้างอยู่ได้ 

จากนั้น นายจ้างต้องมาดูว่าต้องทำธุรกิจอย่างไรเพื่อให้สามารถมีกำไรจากต้นทุนค่าแรงดังกล่าว

 

แต่เรากลับไปตั้งราคาขายเพื่อให้แข่งกับเพื่อนบ้านได้ก่อน แล้วคำนวนย้อนกลับมาว่าแรงงานต้องได้รับค่าจ้างวันละเท่าไหร่

แล้วก็ออกกฎหมายให้ค่าจ้างขั้นต่ำมันต่ำติดดินเอาไว้

 

ซึ่งมันบัดซบครับ คุณเข้าใจหรือเปล่า?

[พอล คุง]

 

 

 

 

ขอถามว่า ทุกวันนี้ คนที่ได้ค่าแรง 300 จนถึงเดียวนี้ ใครมีเงินเก็บเยอะกว่าตอนยังไม่ขึ้นค่าแรงบ้าง

 

แต่ขอบอกว่า หลาย ๆ คนที่ผมรู้จัก ที่เค้าได้ 300 เค้าเริ่มบ่นแล้วว่ามันไม่พอกับรายจ่าย เพราะของแพงขึ้น

ก็ผมถึงบอกไงว่า 500 ไปเลย

 

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ผมว่านโยบายยิ่งลักษณ์นี่ขี้หมาไปเลยนะครับ ถ้าเทียบกับแนวคิดคุณลี

 

ผมถามคุณนะ ปัจจุบันนี้คุณอยู่รอดได้ด้วยเงิน 300 บาท/วันหรือเปล่า

หากคุณอยู่ไม่รอด ผู้ใช้แรงงานอีกนับล้านเขาก็อยู่ไม่รอดเหมือนกัน

ประเทศไทยประชากร 60 ล้านคน แต่กำลังซื้อน้อยกว่าสิงคโปร์ที่มีประชากร 4 ล้านคนเสียอีก เพราะอะไร เพราะคุณไปกดค่าแรงเอาไว้

ศักยภาพของเศรษฐกิจภายในของเมืองไทยจึงยังไม่ได้เอามาใช้อย่างเต็มที่เลย เราไปพึ่งการส่งออกมากเกินไป

ถ้าถามผมนะ วันละ1000 บ. ตอนนี้ยังไม่พอใช้เท่าไรเลยครับ แต่ประเด็นของแรงงานขั้นต่ำนั้น มันส่งผลถึงปัจจัยหลายอย่างกับสินค้า ค่าครองชีพ ดังนั้นการขึ้นแรงงานแต่ละครั้งจะสังเกตว่าต้องมี สินค้าราคาเพิ่มขึ้นเสมอ จึงควรคิดให้รอบคอบ และค่อยๆปรับ ถ้าหากมันขึ้นง่ายขนาดนั้น ต่อไปผู้สมัคร ใครก็ได้ประกาศเลยขั้นต่ำวันละ 1500 บ. ปริญญาตรี 30000 บ. ก็ได้สิ

 

คุณใช้วันละ 1,000 บาทยังไม่พอเลย แล้วคุณคิดว่า 300 บาทคนอื่นเขาจะพอใช้หรือ?

ผมบอกแล้วไงว่าค่าแรงขั้นต่ำมันควรเป็นค่าแรงที่ลูกจ้างอยู่ได้ ไม่ใช่ค่าแรงที่นายจ้างอยู่ได้ 

จากนั้น นายจ้างต้องมาดูว่าต้องทำธุรกิจอย่างไรเพื่อให้สามารถมีกำไรจากต้นทุนค่าแรงดังกล่าว

 

แต่เรากลับไปตั้งราคาขายเพื่อให้แข่งกับเพื่อนบ้านได้ก่อน แล้วคำนวนย้อนกลับมาว่าแรงงานต้องได้รับค่าจ้างวันละเท่าไหร่

แล้วก็ออกกฎหมายให้ค่าจ้างขั้นต่ำมันต่ำติดดินเอาไว้

 

ซึ่งมันบัดซบครับ คุณเข้าใจหรือเปล่า?

 

คุณลี นี่ ตรรกะ เพี้ยนจริง ๆ

 

ถ้านายจ้างอยู่ไม่ได้ แล้วใครจะจ้างแรงงานละ 

 

เฮ้อ

 

ที่เค้าบอกให้ขึ้นที่ขั้นบันได นะ เพื่อจะให้ทั้งแรงงาน และ ผู้ประกอบการ ค่อย ๆ ปรับกันไป 

 

ไม่ใช่มาขึ้นทีเดียว 100 บาท งี้ 

 

ผู้ประกอบการจะเอาเงินที่ไหนมาจ้าง หรือมีเงินจ้าง แต่ก้อต้องเพิ่มราคาสินค้าเข้าไป ทำให้ของก้อแพงขึ้น

 

ตรรกะคุณลี นี่เพี้ยนเข้าขั้นโคม่าจริง ๆ

[Leeporter ขี้แพ้]

 

 

 

 

 

ขอถามว่า ทุกวันนี้ คนที่ได้ค่าแรง 300 จนถึงเดียวนี้ ใครมีเงินเก็บเยอะกว่าตอนยังไม่ขึ้นค่าแรงบ้าง

 

แต่ขอบอกว่า หลาย ๆ คนที่ผมรู้จัก ที่เค้าได้ 300 เค้าเริ่มบ่นแล้วว่ามันไม่พอกับรายจ่าย เพราะของแพงขึ้น

ก็ผมถึงบอกไงว่า 500 ไปเลย

 

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ผมว่านโยบายยิ่งลักษณ์นี่ขี้หมาไปเลยนะครับ ถ้าเทียบกับแนวคิดคุณลี

 

ผมถามคุณนะ ปัจจุบันนี้คุณอยู่รอดได้ด้วยเงิน 300 บาท/วันหรือเปล่า

หากคุณอยู่ไม่รอด ผู้ใช้แรงงานอีกนับล้านเขาก็อยู่ไม่รอดเหมือนกัน

ประเทศไทยประชากร 60 ล้านคน แต่กำลังซื้อน้อยกว่าสิงคโปร์ที่มีประชากร 4 ล้านคนเสียอีก เพราะอะไร เพราะคุณไปกดค่าแรงเอาไว้

ศักยภาพของเศรษฐกิจภายในของเมืองไทยจึงยังไม่ได้เอามาใช้อย่างเต็มที่เลย เราไปพึ่งการส่งออกมากเกินไป

ถ้าถามผมนะ วันละ1000 บ. ตอนนี้ยังไม่พอใช้เท่าไรเลยครับ แต่ประเด็นของแรงงานขั้นต่ำนั้น มันส่งผลถึงปัจจัยหลายอย่างกับสินค้า ค่าครองชีพ ดังนั้นการขึ้นแรงงานแต่ละครั้งจะสังเกตว่าต้องมี สินค้าราคาเพิ่มขึ้นเสมอ จึงควรคิดให้รอบคอบ และค่อยๆปรับ ถ้าหากมันขึ้นง่ายขนาดนั้น ต่อไปผู้สมัคร ใครก็ได้ประกาศเลยขั้นต่ำวันละ 1500 บ. ปริญญาตรี 30000 บ. ก็ได้สิ

 

คุณใช้วันละ 1,000 บาทยังไม่พอเลย แล้วคุณคิดว่า 300 บาทคนอื่นเขาจะพอใช้หรือ?

ผมบอกแล้วไงว่าค่าแรงขั้นต่ำมันควรเป็นค่าแรงที่ลูกจ้างอยู่ได้ ไม่ใช่ค่าแรงที่นายจ้างอยู่ได้ 

จากนั้น นายจ้างต้องมาดูว่าต้องทำธุรกิจอย่างไรเพื่อให้สามารถมีกำไรจากต้นทุนค่าแรงดังกล่าว

 

แต่เรากลับไปตั้งราคาขายเพื่อให้แข่งกับเพื่อนบ้านได้ก่อน แล้วคำนวนย้อนกลับมาว่าแรงงานต้องได้รับค่าจ้างวันละเท่าไหร่

แล้วก็ออกกฎหมายให้ค่าจ้างขั้นต่ำมันต่ำติดดินเอาไว้

 

ซึ่งมันบัดซบครับ คุณเข้าใจหรือเปล่า?

 

คุณลี นี่ ตรรกะ เพี้ยนจริง ๆ

 

ถ้านายจ้างอยู่ไม่ได้ แล้วใครจะจ้างแรงงานละ 

 

เฮ้อ

 

ที่เค้าบอกให้ขึ้นที่ขั้นบันได นะ เพื่อจะให้ทั้งแรงงาน และ ผู้ประกอบการ ค่อย ๆ ปรับกันไป 

 

ไม่ใช่มาขึ้นทีเดียว 100 บาท งี้ 

 

ผู้ประกอบการจะเอาเงินที่ไหนมาจ้าง หรือมีเงินจ้าง แต่ก้อต้องเพิ่มราคาสินค้าเข้าไป ทำให้ของก้อแพงขึ้น

 

ตรรกะคุณลี นี่เพี้ยนเข้าขั้นโคม่าจริง ๆ

 

 

คุณจะบ้าหรือเปล่า คนทำธุรกิจเขามีหนทางของเขา คุณจะให้ธุรกิจทุกแห่งอยู่รอดตลอดโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยได้ยังไง เขาทำธุรกิจนี้แข่งขันไม่ได้ เขาก็เปลี่ยนสินค้า/บริการ ไปทำธุรกิจอื่นที่มันแข่งขันได้ มันเกิดขึ้นตลอดเวลาอยู่แล้ว

 

คุณไปคิดเอาง่ายๆ เพื่อเป็นข้อแก้ตัวแทนเขา ธุรกิจพวกนั้นหากแรงงานไม่ได้ subsidize เอาไว้หลายปีที่ผ่านมา มันตายไปหมดแล้ว

 

กำไรจากโรงงานผลิตสินค้าราคาถูกพวกนั้นที่ผ่านมๆ มามันคือเงินในส่วนที่แรงงานต้องเป็นหนี้เนื่องจากได้รับค่าจ้างต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

 

คุณไม่เข้าใจหรือ?????