ผมเขียนให้ดูแบบง่ายๆ นะ
ต้นทุนวัสดุ + ค่าจ้าง (ที่ถูกกดจนต่ำ) + หนี้ของแรงงาน = ราคาขาย + กำไรของนายจ้าง
ธุรกิจ low tech พวกนั้นมันควรตายไปตั้งนานแล้ว
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:26
ผมเขียนให้ดูแบบง่ายๆ นะ
ต้นทุนวัสดุ + ค่าจ้าง (ที่ถูกกดจนต่ำ) + หนี้ของแรงงาน = ราคาขาย + กำไรของนายจ้าง
ธุรกิจ low tech พวกนั้นมันควรตายไปตั้งนานแล้ว
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:30
เรื่อง productivity ผมโพสไว้อีกกระทู้นึง ลอกมาแปะที่นี่แล้วกัน ขี้เกียจเขียนใหม่
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:32
ผมถามหน่อยว่าช่วง 10-20 ปีมานี้เมืองจีน productivity เขาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเป็นเพราะอะไร แรงงานจีนเขาใช้กังฟูทำงานให้เร็วขึ้นด้วยมือเหรอ?
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:33
เรียนเชิญ....สลิ่มแมงสาป....ที่มีสมอง..มาถกกันหน่อยครับ............
ผมขอข้อเสียของนโยบายนี้.......
ปัญหาที่เกิดขึ้น........
ผลกระทบที่มี.......
จำนวนคนตกงาน........
ขอแบบที่มันร้ายแรงจริงจริงนะครับ.........
ชนิดแบบที่ชาติล่มจมเลยน่ะ...........
ไอ้ประเภทที่มันเหมือนตอนยุคมาร์คชั่งไข่.......
ไม่ต้องเอามาโชว์ครับ....ปัญญาอ่อน.....
ตอนนี้ผมมองไม่เห็นเลย........
ว่าคนจะตกงานกันมโหฬารอย่างไร.......ตามน้ำคำของสลิ่ม.......
มองไม่เห็นซักที....ว่าบริษัทปิดตัวลง...จนทำให้เศรษฐกิจ....
ของชาติหายนะ.........
มองไม่เห็นเลยว่า.....รายจ่ายเพิ่มขึ้น.....มากกว่ายุคมาร์คชั่งไข่อย่างไร.....
ไอ้ที่แพงกว่าแค่นิดหน่อย.....ไม่ต้องเขียนมาครับ....ปัญญาอ่อน.....
เขาได้เงินเยอะกว่าเท่าตัว.....แต่จ่ายเพิ่มอีกแค่นิดหน่อย....
มันคุ้มค่ากับประชาชน....ที่เขาเลือกพรรคนี้เข้ามาแล้ว........
ตอนนี้ที่ผมมองเห็นคือ........ประชาชนมีความสุข....
กับการได้จับเงินก้อนเต็มมือ..........มีเงินเยอะกว่าเดิมเป็นเท่าตัว......
หึหึ.........................
เอางี้แล้วกัน
ถ้ามันดีจริง
ทำไมต้อง 300
ทำไมไม่ 400 หรือ 500
หรือ 1,000 ไปเลย
ทำไมจำเพาะต้อง 300 ด้วย
วานควายแดงบอกหน่อย
ผมไม่ใช่ควายแดงนะ แต่ผมขอตอบ
เพราะ 300 บาทคือขั้นบันไดแรกไง ขึ้นเป็น 1,000 คุณยอมหรือ?
แค่ขึ้นเป็น 300 ยังแหกปากลั่น ขอให้เป็นขั้นบันไดจาก 150 เป็น 200, 250 แล้วค่อยเป็น 300
ตลกหว่ะ
ผมเพิ่งรู้ว่า 300 บาทเป็นบันไดขั้นแรก
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:34
เรียนเชิญ....สลิ่มแมงสาป....ที่มีสมอง..มาถกกันหน่อยครับ............
ผมขอข้อเสียของนโยบายนี้.......
ปัญหาที่เกิดขึ้น........
ผลกระทบที่มี.......
จำนวนคนตกงาน........
ขอแบบที่มันร้ายแรงจริงจริงนะครับ.........
ชนิดแบบที่ชาติล่มจมเลยน่ะ...........
ไอ้ประเภทที่มันเหมือนตอนยุคมาร์คชั่งไข่.......
ไม่ต้องเอามาโชว์ครับ....ปัญญาอ่อน.....
ตอนนี้ผมมองไม่เห็นเลย........
ว่าคนจะตกงานกันมโหฬารอย่างไร.......ตามน้ำคำของสลิ่ม.......
มองไม่เห็นซักที....ว่าบริษัทปิดตัวลง...จนทำให้เศรษฐกิจ....
ของชาติหายนะ.........
มองไม่เห็นเลยว่า.....รายจ่ายเพิ่มขึ้น.....มากกว่ายุคมาร์คชั่งไข่อย่างไร.....
ไอ้ที่แพงกว่าแค่นิดหน่อย.....ไม่ต้องเขียนมาครับ....ปัญญาอ่อน.....
เขาได้เงินเยอะกว่าเท่าตัว.....แต่จ่ายเพิ่มอีกแค่นิดหน่อย....
มันคุ้มค่ากับประชาชน....ที่เขาเลือกพรรคนี้เข้ามาแล้ว........
ตอนนี้ที่ผมมองเห็นคือ........ประชาชนมีความสุข....
กับการได้จับเงินก้อนเต็มมือ..........มีเงินเยอะกว่าเดิมเป็นเท่าตัว......
หึหึ.........................
เอางี้แล้วกัน
ถ้ามันดีจริง
ทำไมต้อง 300
ทำไมไม่ 400 หรือ 500
หรือ 1,000 ไปเลย
ทำไมจำเพาะต้อง 300 ด้วย
วานควายแดงบอกหน่อย
ผมไม่ใช่ควายแดงนะ แต่ผมขอตอบ
เพราะ 300 บาทคือขั้นบันไดแรกไง ขึ้นเป็น 1,000 คุณยอมหรือ?
แค่ขึ้นเป็น 300 ยังแหกปากลั่น ขอให้เป็นขั้นบันไดจาก 150 เป็น 200, 250 แล้วค่อยเป็น 300
ตลกหว่ะ
ผมเพิ่งรู้ว่า 300 บาทเป็นบันไดขั้นแรก
300 บาทมันพอกินเหรอ sanskrit?
คุณจะให้เขาค่าแรงแบบไม่พอกินอย่างนั้นไปตลอดเหรอ?
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:35
ขอถามว่า ทุกวันนี้ คนที่ได้ค่าแรง 300 จนถึงเดียวนี้ ใครมีเงินเก็บเยอะกว่าตอนยังไม่ขึ้นค่าแรงบ้าง
แต่ขอบอกว่า หลาย ๆ คนที่ผมรู้จัก ที่เค้าได้ 300 เค้าเริ่มบ่นแล้วว่ามันไม่พอกับรายจ่าย เพราะของแพงขึ้น
ก็ผมถึงบอกไงว่า 500 ไปเลย
เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ผมว่านโยบายยิ่งลักษณ์นี่ขี้หมาไปเลยนะครับ ถ้าเทียบกับแนวคิดคุณลี
ผมถามคุณนะ ปัจจุบันนี้คุณอยู่รอดได้ด้วยเงิน 300 บาท/วันหรือเปล่า
หากคุณอยู่ไม่รอด ผู้ใช้แรงงานอีกนับล้านเขาก็อยู่ไม่รอดเหมือนกัน
ประเทศไทยประชากร 60 ล้านคน แต่กำลังซื้อน้อยกว่าสิงคโปร์ที่มีประชากร 4 ล้านคนเสียอีก เพราะอะไร เพราะคุณไปกดค่าแรงเอาไว้
ศักยภาพของเศรษฐกิจภายในของเมืองไทยจึงยังไม่ได้เอามาใช้อย่างเต็มที่เลย เราไปพึ่งการส่งออกมากเกินไป
ถ้าถามผมนะ วันละ1000 บ. ตอนนี้ยังไม่พอใช้เท่าไรเลยครับ แต่ประเด็นของแรงงานขั้นต่ำนั้น มันส่งผลถึงปัจจัยหลายอย่างกับสินค้า ค่าครองชีพ ดังนั้นการขึ้นแรงงานแต่ละครั้งจะสังเกตว่าต้องมี สินค้าราคาเพิ่มขึ้นเสมอ จึงควรคิดให้รอบคอบ และค่อยๆปรับ ถ้าหากมันขึ้นง่ายขนาดนั้น ต่อไปผู้สมัคร ใครก็ได้ประกาศเลยขั้นต่ำวันละ 1500 บ. ปริญญาตรี 30000 บ. ก็ได้สิ
คุณใช้วันละ 1,000 บาทยังไม่พอเลย แล้วคุณคิดว่า 300 บาทคนอื่นเขาจะพอใช้หรือ?
ผมบอกแล้วไงว่าค่าแรงขั้นต่ำมันควรเป็นค่าแรงที่ลูกจ้างอยู่ได้ ไม่ใช่ค่าแรงที่นายจ้างอยู่ได้
จากนั้น นายจ้างต้องมาดูว่าต้องทำธุรกิจอย่างไรเพื่อให้สามารถมีกำไรจากต้นทุนค่าแรงดังกล่าว
แต่เรากลับไปตั้งราคาขายเพื่อให้แข่งกับเพื่อนบ้านได้ก่อน แล้วคำนวนย้อนกลับมาว่าแรงงานต้องได้รับค่าจ้างวันละเท่าไหร่
แล้วก็ออกกฎหมายให้ค่าจ้างขั้นต่ำมันต่ำติดดินเอาไว้
ซึ่งมันบัดซบครับ คุณเข้าใจหรือเปล่า?
คุณลี นี่ ตรรกะ เพี้ยนจริง ๆ
ถ้านายจ้างอยู่ไม่ได้ แล้วใครจะจ้างแรงงานละ
เฮ้อ
ที่เค้าบอกให้ขึ้นที่ขั้นบันได นะ เพื่อจะให้ทั้งแรงงาน และ ผู้ประกอบการ ค่อย ๆ ปรับกันไป
ไม่ใช่มาขึ้นทีเดียว 100 บาท งี้
ผู้ประกอบการจะเอาเงินที่ไหนมาจ้าง หรือมีเงินจ้าง แต่ก้อต้องเพิ่มราคาสินค้าเข้าไป ทำให้ของก้อแพงขึ้น
ตรรกะคุณลี นี่เพี้ยนเข้าขั้นโคม่าจริง ๆ
คุณจะบ้าหรือเปล่า คนทำธุรกิจเขามีหนทางของเขา คุณจะให้ธุรกิจทุกแห่งอยู่รอดตลอดโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยได้ยังไง เขาทำธุรกิจนี้แข่งขันไม่ได้ เขาก็เปลี่ยนสินค้า/บริการ ไปทำธุรกิจอื่นที่มันแข่งขันได้ มันเกิดขึ้นตลอดเวลาอยู่แล้ว
คุณไปคิดเอาง่ายๆ เพื่อเป็นข้อแก้ตัวแทนเขา ธุรกิจพวกนั้นหากแรงงานไม่ได้ subsidize เอาไว้หลายปีที่ผ่านมา มันตายไปหมดแล้ว
กำไรจากโรงงานผลิตสินค้าราคาถูกพวกนั้นที่ผ่านมๆ มามันคือเงินในส่วนที่แรงงานต้องเป็นหนี้เนื่องจากได้รับค่าจ้างต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
คุณไม่เข้าใจหรือ?????
โอ้ย ๆ ๆ ผมบอกแล้วว่า ให้ปรับไปพร้อม ๆ กันกับค่าแรงที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการไปที่ละขั้นบันได
โดยขึ้นค่าแรง ไปตามค่าครองชีพในแต่ละพื้นที่ ไม่ใช่ไปขึ้นทีเดียว 100บาท แบบนี้
มันต้องค่อย ๆ ปรับกันไป เพราะยังไม่ีคนที่ไม่ได้ค่าแรง ต่าง ๆ เช่น ชาวไร ชาวนา หรีือพ่อค้าแม่ขายต่าง ๆ
ราคาสินค้ามันขึ้น พ่อค้าแม่ค้า ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังจะซื้อสินค้าราคาแพงมาขายได้ที่เดียว มันต้องค่อย ๆ ไป
ชาวนาชาวไรอีก เค้าก้อไม่ได้ค่าแรง 300 เค้าก้อต้องซื้อของทืี่แพงขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีโครงการจำนำ แต่มันก้อไม่เพียงพอ
เข้าใจไหมห่าาาาาาาาาา
คุยกับคนตรรกะเพี้ยนนี่ ปวดกระบาลจริง ๆ
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:36
เรียนเชิญ....สลิ่มแมงสาป....ที่มีสมอง..มาถกกันหน่อยครับ............
ผมขอข้อเสียของนโยบายนี้.......
ปัญหาที่เกิดขึ้น........
ผลกระทบที่มี.......
จำนวนคนตกงาน........
ขอแบบที่มันร้ายแรงจริงจริงนะครับ.........
ชนิดแบบที่ชาติล่มจมเลยน่ะ...........
ไอ้ประเภทที่มันเหมือนตอนยุคมาร์คชั่งไข่.......
ไม่ต้องเอามาโชว์ครับ....ปัญญาอ่อน.....
ตอนนี้ผมมองไม่เห็นเลย........
ว่าคนจะตกงานกันมโหฬารอย่างไร.......ตามน้ำคำของสลิ่ม.......
มองไม่เห็นซักที....ว่าบริษัทปิดตัวลง...จนทำให้เศรษฐกิจ....
ของชาติหายนะ.........
มองไม่เห็นเลยว่า.....รายจ่ายเพิ่มขึ้น.....มากกว่ายุคมาร์คชั่งไข่อย่างไร.....
ไอ้ที่แพงกว่าแค่นิดหน่อย.....ไม่ต้องเขียนมาครับ....ปัญญาอ่อน.....
เขาได้เงินเยอะกว่าเท่าตัว.....แต่จ่ายเพิ่มอีกแค่นิดหน่อย....
มันคุ้มค่ากับประชาชน....ที่เขาเลือกพรรคนี้เข้ามาแล้ว........
ตอนนี้ที่ผมมองเห็นคือ........ประชาชนมีความสุข....
กับการได้จับเงินก้อนเต็มมือ..........มีเงินเยอะกว่าเดิมเป็นเท่าตัว......
หึหึ.........................
เอางี้แล้วกัน
ถ้ามันดีจริง
ทำไมต้อง 300
ทำไมไม่ 400 หรือ 500
หรือ 1,000 ไปเลย
ทำไมจำเพาะต้อง 300 ด้วย
วานควายแดงบอกหน่อย
ผมไม่ใช่ควายแดงนะ แต่ผมขอตอบ
เพราะ 300 บาทคือขั้นบันไดแรกไง ขึ้นเป็น 1,000 คุณยอมหรือ?
แค่ขึ้นเป็น 300 ยังแหกปากลั่น ขอให้เป็นขั้นบันไดจาก 150 เป็น 200, 250 แล้วค่อยเป็น 300
ตลกหว่ะ
ผมเพิ่งรู้ว่า 300 บาทเป็นบันไดขั้นแรก
300 บาทมันพอกินเหรอ sanskrit?
คุณจะให้เขาค่าแรงแบบไม่พอกินอย่างนั้นไปตลอดเหรอ?
ผมไม่ได้พูดซักคำว่าพอหรือไม่พอ ผมบอกว่าเพิ่งรู้ว่า 300 บาทเป็นบันไดขั้นแรก
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:39
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:40
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:42
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:45
ที่โรงงานที่ผมทำอยู่ แต่ก่อนมีแรงงานไทยทำกันเยอะมากๆ
แต่ตอนนี้ แทบไม่เหลือคนไทย เพราะแรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามามากกว่าปรกติแย่งงานคนไทยทำ
ในช่วงที่แรงงานไทยกลับไปทำนาที่บ้านเกิดแล้วพอกลับมาก็ไม่สามารถเข้าทำงานได้ง่ายๆเหมือนแต่ก่อน
ตอนนี้แรงานต่างด้าวที่โรงงานที่ผมทำอยู่ ประมาณ 80% แล้วครับ นั่นก็หมายความว่าคนไทยตกงานไปแล้ว
อย่างน้อยที่นี่ ก็ 80%ไปแล้ว นี่ยังไม่ได้รวมทั้งประเทศนะครับ แค่ที่ทำงานผมที่เดียว
คนไทยที่ไม่ได้ทำที่โรงงานท่านอีกแล้ว ไม่ได้แปลว่า เค้าจะตกงานนะครับ...
เค้า แค่ "ไม่ได้ทำที่โรงงานท่าน"...
อัตราว่างงาน ในประเทศเราต่ำมาก นะครับ...
อัตราว่างงาน เมื่อเดือน กพ ที่ผ่านมา .. 0.6% ลดลง จาก กพ ปี 55 ที่ 0.7%
http://service.nso.g...6/reportFeb.pdf
ไอ้ที่ว่า คนไทยตกงานมากขึ้นเนี่ย... จินตนาการ ไปเองหรือป่าว...
ไอ้ที่ว่าคนไทยตกงานน้อยลงเนี่ย เพราะหันมาขี่มอไซค์รับจ้างกันมากขึ้นหรือเปล่าครับ (วิชาชีพอิสระเชียวนา )
อัตตราว่างงานนี่ เขาดูข้อมูลการว่างงานของแรงงานระดับไหนอ่ะครับ
มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา รึแรงงานรากหญ้ารายวัน ครับ
เท่าที่ผมสอบถามดูจากพนักงานที่หลุดรอดเข้ามาทำที่เดิมได้ เขาบอกว่า ที่หมู่บ้าน
ที่บ้านเกิดเขา มีแรงงานหลายคนเลยที่ไม่มีงานทำ ก็ไปขายส้มตำบ้าง ขายลูกชิ้นปิ้งบ้าง
ขายผลไม้ น้ำปั่น แล้วแต่ความถนัดครับ แล้วแรงงานจำพวกนี้ เขาได้ลงไปสำรวจด้วยไม๊ครับ
คำถามมีว่า ถ้าอยากจะรู้อัตราการว่างงานในประเทศ ทำอย่างไร..
ก) ให้ ABAC ทำโพล์ถาม.. กลุ่มตัวอย่าง 1000 คน ทั่วประเทศ..
ข) ถามเพื่อนๆ หรือ สังเกตุจาก โรงงานที่อยู่ใกล้ตัว
ค) หาข้อมูล จาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ
ง) ไม่รู้ดีกว่า เพราะ ไม่ว่า อันไหน ก็ไม่ถูก... เค้าไม่ได้ไปสำรวจทุกคน..
ผมใช้ ค ท่านใช้อะไรผมไม่ทราบ...
ถ้าจะบอกว่า สำนักงานสถิติผิด... (ซึ่งก็ผิดได้ ผมรับได้) แต่มันต้องมีอะไรมากกว่า
แค่ว่า.. . "เขาได้ลงไปสำรวจด้วยไม๊"
แบบนั้นผมก็บอกได้ว่า ท่าน ไป ถามทุกโรงงานไหม... แล้ว สำนักงานสถิติเค้าไปเอามาจากกี่โรงงาน กี่สถานประกอบการ...
ผมใช้ข้อมูลจาก สำนักงานสถิติ ที่ถูกจัดตั้งจากภาษีท่านและผม เพื่อทำหน้่าที่นี้โดยเฉพาะ
ขณะที่ ท่านความรู้สึก ผสม ความเชื่อ ที่้ได้จาก sample ที่จำกัด เฉพาะ ในจุดที่ ท่านสังเกตุ...
แค่ความน่าเชื่อของข้อมูลก็ต่างกันลิบลับแล้ว...
ผมแปลกใจที่ ท่านยังพยายามเถียงในประเด็นนี้...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:45
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:47
300 บาทเป็นบันไดขั้นแรก
เราก็น่าจะรู้กันบ้างนะครับว่า บันไดขั้นที่ 2 ที่3 เป็นเท่าไหร่ จะได้เตรียมปรับตัวถูก
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:50
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
โอ้ย ๆ ๆ ๆ ๆ คุณนี่ไม่ได้เข้าใจห่าไรเลยจริง ๆ
ก่อนหน้าจะขึ้นค่าแรง 300 บาทนะ มันก้อเป็นแบบนี้ มันยังไม่พอเหมือนกัน แต่อย่างน้อย ๆ สินค้าก้อไม่แพงเหมือนทุกวันนี้ ยังพอมีเงินเก็บเยอะกว่า ตอนนี้ด้วยซ้ำ
แต่พอขึ้นค่าแรง 300 นะ มค่าครองชีพ มันล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ก่อนที 300 บาทจะมีผลในต้นปีนี้ สินค้าแพงขึ้น ข้าวปลาอาหารแพงขึ้น 10-15 บาท
สินค้าเกษตร คุณรู้ไหมว่า ปุ๋ยเอ่ยอะไรเอ่ย นะ มันขึ้นกระสอบละเท่าไหร่ เกษตรกร จะตายกันหมดแล้ว รู้ไหม
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:55
คุณลี คุณต้องมองผลกระทบ ที่เกิดขึ้น ด้วยว่า ผลกระทบมันไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะภาคแรงงาน และ ผู้ประกอบการเท่านั้น
มันกระทบไปยังภาคส่วนอื่น ๆ อีก
กระทบไปยัง เกษตรกร ชาวสวน ชาวไร อีก
กระทบไปยัง พ่อค้าแม่ขายอีก
กระทบไปยัง แรงงานนอกระบบ อีก
กระทบไปยังเด็กที่กำลังจะจบใหม่ ซึ่งยังไม่รู้ว่า มีงานพอให้ทำหรือไม่
เฮ้อ
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:55
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
โอ้ย ๆ ๆ ๆ ๆ คุณนี่ไม่ได้เข้าใจห่าไรเลยจริง ๆ
ก่อนหน้าจะขึ้นค่าแรง 300 บาทนะ มันก้อเป็นแบบนี้ มันยังไม่พอเหมือนกัน แต่อย่างน้อย ๆ สินค้าก้อไม่แพงเหมือนทุกวันนี้ ยังพอมีเงินเก็บเยอะกว่า ตอนนี้ด้วยซ้ำ
แต่พอขึ้นค่าแรง 300 นะ มค่าครองชีพ มันล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ก่อนที 300 บาทจะมีผลในต้นปีนี้ สินค้าแพงขึ้น ข้าวปลาอาหารแพงขึ้น 10-15 บาท
สินค้าเกษตร คุณรู้ไหมว่า ปุ๋ยเอ่ยอะไรเอ่ย นะ มันขึ้นกระสอบละเท่าไหร่ เกษตรกร จะตายกันหมดแล้ว รู้ไหม
คุณไม่เข้าใจหรือ
ก็คุณไปกดมันเอาไว้หมด มันต่ำกว่าที่มันควรจะเป็น คุณจะไปห้ามมันได้ยังไง
คุณหยุดค่าครองชีพให้มันขึ้นเป็นขั้นบันได้ได้หรือเปล่าหล่ะ มันขึ้นพรวดๆ จนกว่ามันจะสมดุล
คุณก็ต้องขึ่้นค่าแรง ราคาสินค้าการเกษตรอย่างเร็ว เงินเฟ้อ 20-30% ช่วงสั้นๆ ไม่มีปัญหาหรอก เงินมันเป็นเพีนงตัวเลขสมมุติ
เงิน 100 บาทกับ 1,000 บาทมันไม่ได้มีค่ามากกว่าน้อยกว่าหากเทียบกับของในประเทศที่เพิ่มขึ้นพร้อมกัน แต่มันมีมูลค่าเปลี่ยนเมื่อเทียบกับของที่ผลิตจากนอกประเทศ
คุณเข้าใจหรือเปล่า???
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:57
คุณลี คุณต้องมองผลกระทบ ที่เกิดขึ้น ด้วยว่า ผลกระทบมันไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะภาคแรงงาน และ ผู้ประกอบการเท่านั้น
มันกระทบไปยังภาคส่วนอื่น ๆ อีก
กระทบไปยัง เกษตรกร ชาวสวน ชาวไร อีก
กระทบไปยัง พ่อค้าแม่ขายอีก
กระทบไปยัง แรงงานนอกระบบ อีก
กระทบไปยังเด็กที่กำลังจะจบใหม่ ซึ่งยังไม่รู้ว่า มีงานพอให้ทำหรือไม่
เฮ้อ
Pkung คุณโพสวนไปวนมากลับมาที่เดิม ผมขี้เกียจคุยกับคุณแล้ว
คุณอ่านเฉยๆ แล้วกัน ผมรอคุยกับคนอื่นที่เขามีประเด็นใหม่
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:58
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
โอ้ย ๆ ๆ ๆ ๆ คุณนี่ไม่ได้เข้าใจห่าไรเลยจริง ๆ
ก่อนหน้าจะขึ้นค่าแรง 300 บาทนะ มันก้อเป็นแบบนี้ มันยังไม่พอเหมือนกัน แต่อย่างน้อย ๆ สินค้าก้อไม่แพงเหมือนทุกวันนี้ ยังพอมีเงินเก็บเยอะกว่า ตอนนี้ด้วยซ้ำ
แต่พอขึ้นค่าแรง 300 นะ มค่าครองชีพ มันล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ก่อนที 300 บาทจะมีผลในต้นปีนี้ สินค้าแพงขึ้น ข้าวปลาอาหารแพงขึ้น 10-15 บาท
สินค้าเกษตร คุณรู้ไหมว่า ปุ๋ยเอ่ยอะไรเอ่ย นะ มันขึ้นกระสอบละเท่าไหร่ เกษตรกร จะตายกันหมดแล้ว รู้ไหม
คุณไม่เข้าใจหรือ
ก็คุณไปกดมันเอาไว้หมด มันต่ำกว่าที่มันควรจะเป็น คุณจะไปห้ามมันได้ยังไง
คุณหยุดค่าครองชีพให้มันขึ้นเป็นขั้นบันได้ได้หรือเปล่าหล่ะ มันขึ้นพรวดๆ จนกว่ามันจะสมดุล
คุณก็ต้องขึ่้นค่าแรง ราคาสินค้าการเกษตรอย่างเร็ว เงินเฟ้อ 20-30% ช่วงสั้นๆ ไม่มีปัญหาหรอก เงินมันเป็นเพีนงตัวเลขสมมุติ
เงิน 100 บาทกับ 1,000 บาทมันไม่ได้มีค่ามากกว่าน้อยกว่าหากเทียบกับของในประเทศที่เพิ่มขึ้นพร้อมกัน แต่มันมีมูลค่าเปลี่ยนเมื่อเทียบกับของที่ผลิตจากนอกประเทศ
คุณเข้าใจหรือเปล่า???
ใครไปกด ไม่ทราบห่า ค่าแรงนะ
เค้าก้อปรับขึ้นไปตามค่าครองชีพ แต่ละพื้นที่
เข้าใจไหมห่าาาาาาาาา
เข้าใจคำว่า ค่าครองชีพไหม ห่าาาาาาาาาาาาาาาาา
ปอลิง ขอยืมวิธีสือ ของคนกลาง 3 โลกมาใช้
ห้าาาาาาาาาาาาาาา
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:59
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
ผมอยู่ได้ครับ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:01
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
ผมอยู่ได้ครับ
ไหนคุณลองแจกแจงรายจ่ายคุณมาซิ sanskrit
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:01
คุณลี คุณต้องมองผลกระทบ ที่เกิดขึ้น ด้วยว่า ผลกระทบมันไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะภาคแรงงาน และ ผู้ประกอบการเท่านั้น
มันกระทบไปยังภาคส่วนอื่น ๆ อีก
กระทบไปยัง เกษตรกร ชาวสวน ชาวไร อีก
กระทบไปยัง พ่อค้าแม่ขายอีก
กระทบไปยัง แรงงานนอกระบบ อีก
กระทบไปยังเด็กที่กำลังจะจบใหม่ ซึ่งยังไม่รู้ว่า มีงานพอให้ทำหรือไม่
เฮ้อ
Pkung คุณโพสวนไปวนมากลับมาที่เดิม ผมขี้เกียจคุยกับคุณแล้ว
คุณอ่านเฉยๆ แล้วกัน ผมรอคุยกับคนอื่นที่เขามีประเด็นใหม่
คุณลี คุณนะ มองแค่ว่า ขึ้น 300 แรงงานสมควรได้
แต่ทำไมคุณไม่มองภาพรวมละ ว่าการขึ้นค่าแรง มีผลกระทบขนาดไหน
แรงงานสมควรได้ ใช่ แต่คุณลี ถ้าคิดแบบคุณนะ ประเทศเราคงไม่ต่างอะไรกับ ไซปรัส หรือ ประเทศไรนะ (จำไม่ได้ว่า พิมเงินมาในละ สิบล้าน )
ผมไม่เถียงว่า แรงงานสมควรได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้น แต่มันควรจะค่อย ๆ ปรับ ค่อยขึ้นไปทีนะนิด ตามค่าครองชีพ ในแต่ละพื้นที่
แต่ละอุตสาหรรม แต่ละงาน
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:04
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
ผมอยู่ได้ครับ
ไหนคุณลองแจกแจงรายจ่ายคุณมาซิ sanskrit
ผมใช้เงินวันละ200 เหลือหยอดกระปุกวันละ20ครับ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:07
คุณลียกตัวอย่างไพล่ไปถึงการซื้อคอมพิวเตอร์ที่ราคายังไม่เปลี่ยน
หารจะเปลี่ยนก็เพียงแต่สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
มันอยู่ที่วงจรชีวิตของเขาหรือเปล่าครับ
ผมเคยยกตัวอย่างไปแล้ว ค่าแรง 100 กินข้าว 10 บาท
ค่าแรง 300 กินข้าว 30 บาท
เขาได้อะไร ตรงไหน
วงจรชีวิตของพวกเขา ต้องใช้คอมพิวเตอร์ รถยนต์ หรือซื้อบ้านหลังละ 3-4 ล้านหรืออย่างไร
ผมไม่ได้พูด เพื่อกีดกันไม่ให้รากหญ้าได้เข้าถึงสินค้าที่ผมยกตัวอย่าง
แต่ความจริงคือ วงจรชีวิตของเขาไม่เกี่ยวข้อง
และแม้ในขณะที่เขาได้รับค่าแรงขึ้น ค่าครองชีพมันถีบตัวขึ้นไปรอตั้งแต่พึ่งออกข่าว
และมาขึ้นอีกรอบตอนเริ่มปรับจริงไปแล้ว
อะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้เงยหน้าอ้าปากครับ
ผมขออนุญาต ยกตัวอย่างคุณทรงธรรม
ซึ่งบอกว่า รายได้ยังไม่สูงมาก ซึ่งคุณพยายามที่จะเปรียบเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ
เพื่อที่จะบอกว่า รายได้ของคุณทรงธรรมสูงกว่า
คุณเลือกที่จะหลับตาข้างเดียวพูดนี่ครับ
แรงงาน ที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ มีองค์ประกอบชีวิตอย่างไร
คุณทรงธรรม ซึ่งเป้นพนักงานบริษัท มีองค์ประกอบชีวิตอย่างไร
เสื้อผ้า อาหาร ค่ารถ อุปกรณ์ แตกต่างกันอย่างไรกับแรงงาน
ให้คุณทรงธรรมใส่เสื้อยืดกับกางเกงหัวเข่าขาดไปทำงานได้หรือไม่
นั่นคือรายจ่ายแฝงที่คุณลีไม่เคยนำมาพูดถึง
สมมุติว่า อีก 10 ปี คุณทรงธรรมทำงานได้เงินเดือน 30000 บาท
ถึงเวลานั้น คุณคิดว่า คุณทรงธรรมจะยังมีรายจ่ายเท่าเดิมหรือไม่
ยังใส่เสื้อชุดเดิม กินอาหารเหมือนเดิม ขึ้นรถเมล์สายเดิม
ผมคงไม่ต้องพูดละเอียด เพราะเชื่อว่า คุณคงนึกออกได้ ว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไร
สมัยก่อน ผมเคยโดนเพื่อนว่า
ตอนเรียน ได้เงินเดือน 3500 ใช้ 4000 ทำงานที่แรก ได้เงินเดือน 8500 ใช้หมื่นนึง
ได้เงินเดือนหมื่นห้า ใช้หมื่นแปด ได้เงินเดือนสองหมื่น ใช้สองหมื่นสอง
ตัวอย่าง ไม่ได้ให้ดูการใช้เกินรายได้ของผมนะครับ (อันนั้นผมสนุกมือเอง)
แต่ทำไม ตอนเรียนผมใช้แค่ 4000 ได้ แต่พอเรียนจบ 1 ปีให้หลัง ผมถึงต้องใช้ หมื่นนึง
แทนที่จะยังใช้ 4000 เหมือนตอนเรียนล่ะครับ
นี่คือสิ่งที่ทำให้คนที่ไม่อยู่ในสโคปได้รับการปรับขึ้นตามค่าแรงขั้นต่ำ
ไม่ได้อะไรเลย ในขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้นไปรออยู่แล้ว
และแรงงาน ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้นเหมือนกัน
นายจ้างก็จ่ายเพิ่มขึ้น รายได้เท่าเดิมหรือลดลงไปตามค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
ผู้ผลิต หรือเกษตรกรล่ะ ที่อาจได้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามที่คุณว่า
แต่ผมถามให้ย้อนไปคิดอีกที
ชาวนาใช้แชมพู นมข้นหวาน ใส่เสื้อผ้า ซื้อปลา เหมือนคนอื่นมั๊ยครับ
นั่นก็แปลว่า เขาก็ต้องมีค่าครองชีพที่สูงขึ้นเช่นกัน
ผันผวนไปกับรายได้ที่สูงขึ้นอยู่ดี
สิ่งที่คุณลีพยายามผลักดัน มันคือโลกสวยๆ ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา
คุณลีถามอยู่บ่อยๆ ว่าค่าแรง 300 จริงๆ แล้ว มันพอใช้สำหรับแรงงานหรือ
ผมพูดได้เลย ตอบได้เลยว่า ต่อให้ขึ้นเป็นพัน ก้ไม่พอครับ
เพราะถึงตอนนั้น 300, 1000, 2000 มันก็จะกลายเป็นแค่ตัวเลขหลอกตา
ให้พวกโลกสวยอย่างคุณลีได้ชื่นใจว่า นายกของฉันปรับค่าแรงขั้นต่ำให้สูงลิ่ว
ชนิดที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนกล้าคิด
ลองคิดต่ออีกนิดนะครับ คุณลี
ในระหว่างขั้นตอนต่างๆ ที่ผมยกตัวอย่างมานั้น
เกษตรกรได้เท่าเดิม แรงงานได้เท่าเดิม (ตามสเกล)
ใครตาย ใครลำบาก ใครมีปัญหา และรัฐบาลของคุณลี เคยใส่ใจนึกถึงมั๊ย
หรือเพราะคุณลีไม่สน เพราะเกษตรกรและชนชั้นแรงงานเท่านั้น ที่คนโลกสวยจะนำมาพูดถึง
**ขออภัยคุณทรงธรรมที่พูดถึงเพื่อเป็นตัวอย่างประกอบครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:09
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
ผมอยู่ได้ครับ
ไหนคุณลองแจกแจงรายจ่ายคุณมาซิ sanskrit
ผมใช้เงินวันละ200 เหลือหยอดกระปุกวันละ20ครับ
ค่าอาหารคุณวันละเท่าไหร่
ค่าอาหารลูกคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเดินทางคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเดินทางลูกคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเช่าบ้านคุณเดือนละเท่าไหร่
ค่าน้ำ/ค่าไฟคุณใช้เดือนละเท่าไหร่
เอาแค่นี้ก่อน ยังมีอีกเยอะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:14
คุณลียกตัวอย่างไพล่ไปถึงการซื้อคอมพิวเตอร์ที่ราคายังไม่เปลี่ยน
หารจะเปลี่ยนก็เพียงแต่สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
มันอยู่ที่วงจรชีวิตของเขาหรือเปล่าครับ
ผมเคยยกตัวอย่างไปแล้ว ค่าแรง 100 กินข้าว 10 บาท
ค่าแรง 300 กินข้าว 30 บาท
เขาได้อะไร ตรงไหน
วงจรชีวิตของพวกเขา ต้องใช้คอมพิวเตอร์ รถยนต์ หรือซื้อบ้านหลังละ 3-4 ล้านหรืออย่างไร
ผมไม่ได้พูด เพื่อกีดกันไม่ให้รากหญ้าได้เข้าถึงสินค้าที่ผมยกตัวอย่าง
แต่ความจริงคือ วงจรชีวิตของเขาไม่เกี่ยวข้อง
และแม้ในขณะที่เขาได้รับค่าแรงขึ้น ค่าครองชีพมันถีบตัวขึ้นไปรอตั้งแต่พึ่งออกข่าว
และมาขึ้นอีกรอบตอนเริ่มปรับจริงไปแล้ว
อะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้เงยหน้าอ้าปากครับ
ผมขออนุญาต ยกตัวอย่างคุณทรงธรรม
ซึ่งบอกว่า รายได้ยังไม่สูงมาก ซึ่งคุณพยายามที่จะเปรียบเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ
เพื่อที่จะบอกว่า รายได้ของคุณทรงธรรมสูงกว่า
คุณเลือกที่จะหลับตาข้างเดียวพูดนี่ครับ
แรงงาน ที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ มีองค์ประกอบชีวิตอย่างไร
คุณทรงธรรม ซึ่งเป้นพนักงานบริษัท มีองค์ประกอบชีวิตอย่างไร
เสื้อผ้า อาหาร ค่ารถ อุปกรณ์ แตกต่างกันอย่างไรกับแรงงาน
ให้คุณทรงธรรมใส่เสื้อยืดกับกางเกงหัวเข่าขาดไปทำงานได้หรือไม่
นั่นคือรายจ่ายแฝงที่คุณลีไม่เคยนำมาพูดถึง
สมมุติว่า อีก 10 ปี คุณทรงธรรมทำงานได้เงินเดือน 30000 บาท
ถึงเวลานั้น คุณคิดว่า คุณทรงธรรมจะยังมีรายจ่ายเท่าเดิมหรือไม่
ยังใส่เสื้อชุดเดิม กินอาหารเหมือนเดิม ขึ้นรถเมล์สายเดิม
ผมคงไม่ต้องพูดละเอียด เพราะเชื่อว่า คุณคงนึกออกได้ ว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไร
สมัยก่อน ผมเคยโดนเพื่อนว่า
ตอนเรียน ได้เงินเดือน 3500 ใช้ 4000 ทำงานที่แรก ได้เงินเดือน 8500 ใช้หมื่นนึง
ได้เงินเดือนหมื่นห้า ใช้หมื่นแปด ได้เงินเดือนสองหมื่น ใช้สองหมื่นสอง
ตัวอย่าง ไม่ได้ให้ดูการใช้เกินรายได้ของผมนะครับ (อันนั้นผมสนุกมือเอง)
แต่ทำไม ตอนเรียนผมใช้แค่ 4000 ได้ แต่พอเรียนจบ 1 ปีให้หลัง ผมถึงต้องใช้ หมื่นนึง
แทนที่จะยังใช้ 4000 เหมือนตอนเรียนล่ะครับ
นี่คือสิ่งที่ทำให้คนที่ไม่อยู่ในสโคปได้รับการปรับขึ้นตามค่าแรงขั้นต่ำ
ไม่ได้อะไรเลย ในขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้นไปรออยู่แล้ว
และแรงงาน ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้นเหมือนกัน
นายจ้างก็จ่ายเพิ่มขึ้น รายได้เท่าเดิมหรือลดลงไปตามค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
ผู้ผลิต หรือเกษตรกรล่ะ ที่อาจได้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามที่คุณว่า
แต่ผมถามให้ย้อนไปคิดอีกที
ชาวนาใช้แชมพู นมข้นหวาน ใส่เสื้อผ้า ซื้อปลา เหมือนคนอื่นมั๊ยครับ
นั่นก็แปลว่า เขาก็ต้องมีค่าครองชีพที่สูงขึ้นเช่นกัน
ผันผวนไปกับรายได้ที่สูงขึ้นอยู่ดี
สิ่งที่คุณลีพยายามผลักดัน มันคือโลกสวยๆ ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา
คุณลีถามอยู่บ่อยๆ ว่าค่าแรง 300 จริงๆ แล้ว มันพอใช้สำหรับแรงงานหรือ
ผมพูดได้เลย ตอบได้เลยว่า ต่อให้ขึ้นเป็นพัน ก้ไม่พอครับ
เพราะถึงตอนนั้น 300, 1000, 2000 มันก็จะกลายเป็นแค่ตัวเลขหลอกตา
ให้พวกโลกสวยอย่างคุณลีได้ชื่นใจว่า นายกของฉันปรับค่าแรงขั้นต่ำให้สูงลิ่ว
ชนิดที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนกล้าคิด
ลองคิดต่ออีกนิดนะครับ คุณลี
ในระหว่างขั้นตอนต่างๆ ที่ผมยกตัวอย่างมานั้น
เกษตรกรได้เท่าเดิม แรงงานได้เท่าเดิม (ตามสเกล)
ใครตาย ใครลำบาก ใครมีปัญหา และรัฐบาลของคุณลี เคยใส่ใจนึกถึงมั๊ย
หรือเพราะคุณลีไม่สน เพราะเกษตรกรและชนชั้นแรงงานเท่านั้น ที่คนโลกสวยจะนำมาพูดถึง
**ขออภัยคุณทรงธรรมที่พูดถึงเพื่อเป็นตัวอย่างประกอบครับ
ไจแอนท์ ความจนคือการไม่สามารถเข้าถึงสิ่งอื่นๆ ที่คนอื่นเข้าถึงได้
คุณจะทำให้ประชาชนไม่จนคุณต้อง
1) ทำให้เขามีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตได้โดยไม่ต้องเป็นหนี้สิน
2) ทำให้เขาสามารถเข้าถึงสินค้า/บริการที่เพิ่มความสะดวกสบายให้เขาได้ (ส่วนเขาจะซื้อหรือไม่ซื้ออันนั้นมันขึ้นกับเขาครับ)
หากเขาสามารถเข้าถึงเกือบทุกอย่างได้เหมือนๆ คนอื่น นั่นคือคุณภาพชีวิตของเขาอยู่ในระดับที่พัฒนาแล้ว
ไม่ได้ให้เขาต้องสามารถซื้อเบนซ์ BMW
นั่นคือเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:15
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
ผมอยู่ได้ครับ
ไหนคุณลองแจกแจงรายจ่ายคุณมาซิ sanskrit
ผมใช้เงินวันละ200 เหลือหยอดกระปุกวันละ20ครับ
ค่าอาหารคุณวันละเท่าไหร่
ค่าอาหารลูกคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเดินทางคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเดินทางลูกคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเช่าบ้านคุณเดือนละเท่าไหร่
ค่าน้ำ/ค่าไฟคุณใช้เดือนละเท่าไหร่
เอาแค่นี้ก่อน ยังมีอีกเยอะ
รออยู่เลย
ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพของผมและครอบครัวพอในวงเงิน 200+200 ในแต่ละวันครับ
ทีนี้เอาเรื่องค่าน้ำค่าไฟละกัน ค่าไฟผมเดือนละ 3000 ผ่อนบ้าน สองหมื่นกว่า แต่ผมถามว่าคนงานกระดับล่างเค้าต้องผ่อนบ้านกับจ่ายค่าสาธารณูปโภคเท่าผมรึปล่าวครับ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:18
ไจแอนท์ ความจนคือการไม่สามารถเข้าถึงสิ่งอื่นๆ ที่คนอื่นเข้าถึงได้
คุณจะทำให้ประชาชนไม่จนคุณต้อง
1) ทำให้เขามีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตได้โดยไม่ต้องเป็นหนี้สิน
2) ทำให้เขาสามารถเข้าถึงสินค้า/บริการที่เพิ่มความสะดวกสบายให้เขาได้ (ส่วนเขาจะซื้อหรือไม่ซื้ออันนั้นมันขึ้นกับเขาครับ)
หากเขาสามารถเข้าถึงเกือบทุกอย่างได้เหมือนๆ คนอื่น นั่นคือคุณภาพชีวิตของเขาอยู่ในระดับที่พัฒนาแล้ว
ไม่ได้ให้เขาต้องสามารถซื้อเบนซ์ BMW
นั่นคือเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ
แสดงว่า คุณลีหมุนรอบตัวเองอีกแล้ว
จึงไม่อ่านความเห็นของผมที่อุตส่าห์นั่งพิมพ์เป็นวรรคเป็นเวร
ลองกลับไปอ่านใหม่ดูอีกทีมั๊ยครับ
ผมพูดถึงความเป้นไปได้ โดยพยายามยกตัวอย่างประกอบ
แต่คุณก็มิได้นำพา
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:19
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
ผมอยู่ได้ครับ
ไหนคุณลองแจกแจงรายจ่ายคุณมาซิ sanskrit
ผมใช้เงินวันละ200 เหลือหยอดกระปุกวันละ20ครับ
ค่าอาหารคุณวันละเท่าไหร่
ค่าอาหารลูกคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเดินทางคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเดินทางลูกคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเช่าบ้านคุณเดือนละเท่าไหร่
ค่าน้ำ/ค่าไฟคุณใช้เดือนละเท่าไหร่
เอาแค่นี้ก่อน ยังมีอีกเยอะ
รออยู่เลย
ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพของผมและครอบครัวพอในวงเงิน 200+200 ในแต่ละวันครับ
ทีนี้เอาเรื่องค่าน้ำค่าไฟละกัน ค่าไฟผมเดือนละ 3000 ผ่อนบ้าน สองหมื่นกว่า แต่ผมถามว่าคนงานกระดับล่างเค้าต้องผ่อนบ้านกับจ่ายค่าสาธารณูปโภคเท่าผมรึปล่าวครับ
เฉพาะค่ากินกับเดินทางแบบเขม็ดขแหม่คุณก็ 200+200 แล้ว
คุณคิดว่าแรงงานเขาต้องเช่าบ้านอยู่เดือนละเท่าไหร่ ค่าไฟเท่าไหร่ครับ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:19
คุณลียกตัวอย่างไพล่ไปถึงการซื้อคอมพิวเตอร์ที่ราคายังไม่เปลี่ยน
หารจะเปลี่ยนก็เพียงแต่สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
มันอยู่ที่วงจรชีวิตของเขาหรือเปล่าครับ
ผมเคยยกตัวอย่างไปแล้ว ค่าแรง 100 กินข้าว 10 บาท
ค่าแรง 300 กินข้าว 30 บาท
เขาได้อะไร ตรงไหน
วงจรชีวิตของพวกเขา ต้องใช้คอมพิวเตอร์ รถยนต์ หรือซื้อบ้านหลังละ 3-4 ล้านหรืออย่างไร
ผมไม่ได้พูด เพื่อกีดกันไม่ให้รากหญ้าได้เข้าถึงสินค้าที่ผมยกตัวอย่าง
แต่ความจริงคือ วงจรชีวิตของเขาไม่เกี่ยวข้อง
และแม้ในขณะที่เขาได้รับค่าแรงขึ้น ค่าครองชีพมันถีบตัวขึ้นไปรอตั้งแต่พึ่งออกข่าว
และมาขึ้นอีกรอบตอนเริ่มปรับจริงไปแล้ว
อะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้เงยหน้าอ้าปากครับ
ผมขออนุญาต ยกตัวอย่างคุณทรงธรรม
ซึ่งบอกว่า รายได้ยังไม่สูงมาก ซึ่งคุณพยายามที่จะเปรียบเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ
เพื่อที่จะบอกว่า รายได้ของคุณทรงธรรมสูงกว่า
คุณเลือกที่จะหลับตาข้างเดียวพูดนี่ครับ
แรงงาน ที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ มีองค์ประกอบชีวิตอย่างไร
คุณทรงธรรม ซึ่งเป้นพนักงานบริษัท มีองค์ประกอบชีวิตอย่างไร
เสื้อผ้า อาหาร ค่ารถ อุปกรณ์ แตกต่างกันอย่างไรกับแรงงาน
ให้คุณทรงธรรมใส่เสื้อยืดกับกางเกงหัวเข่าขาดไปทำงานได้หรือไม่
นั่นคือรายจ่ายแฝงที่คุณลีไม่เคยนำมาพูดถึง
สมมุติว่า อีก 10 ปี คุณทรงธรรมทำงานได้เงินเดือน 30000 บาท
ถึงเวลานั้น คุณคิดว่า คุณทรงธรรมจะยังมีรายจ่ายเท่าเดิมหรือไม่
ยังใส่เสื้อชุดเดิม กินอาหารเหมือนเดิม ขึ้นรถเมล์สายเดิม
ผมคงไม่ต้องพูดละเอียด เพราะเชื่อว่า คุณคงนึกออกได้ ว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไร
สมัยก่อน ผมเคยโดนเพื่อนว่า
ตอนเรียน ได้เงินเดือน 3500 ใช้ 4000 ทำงานที่แรก ได้เงินเดือน 8500 ใช้หมื่นนึง
ได้เงินเดือนหมื่นห้า ใช้หมื่นแปด ได้เงินเดือนสองหมื่น ใช้สองหมื่นสอง
ตัวอย่าง ไม่ได้ให้ดูการใช้เกินรายได้ของผมนะครับ (อันนั้นผมสนุกมือเอง)
แต่ทำไม ตอนเรียนผมใช้แค่ 4000 ได้ แต่พอเรียนจบ 1 ปีให้หลัง ผมถึงต้องใช้ หมื่นนึง
แทนที่จะยังใช้ 4000 เหมือนตอนเรียนล่ะครับ
นี่คือสิ่งที่ทำให้คนที่ไม่อยู่ในสโคปได้รับการปรับขึ้นตามค่าแรงขั้นต่ำ
ไม่ได้อะไรเลย ในขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้นไปรออยู่แล้ว
และแรงงาน ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้นเหมือนกัน
นายจ้างก็จ่ายเพิ่มขึ้น รายได้เท่าเดิมหรือลดลงไปตามค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
ผู้ผลิต หรือเกษตรกรล่ะ ที่อาจได้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามที่คุณว่า
แต่ผมถามให้ย้อนไปคิดอีกที
ชาวนาใช้แชมพู นมข้นหวาน ใส่เสื้อผ้า ซื้อปลา เหมือนคนอื่นมั๊ยครับ
นั่นก็แปลว่า เขาก็ต้องมีค่าครองชีพที่สูงขึ้นเช่นกัน
ผันผวนไปกับรายได้ที่สูงขึ้นอยู่ดี
สิ่งที่คุณลีพยายามผลักดัน มันคือโลกสวยๆ ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา
คุณลีถามอยู่บ่อยๆ ว่าค่าแรง 300 จริงๆ แล้ว มันพอใช้สำหรับแรงงานหรือ
ผมพูดได้เลย ตอบได้เลยว่า ต่อให้ขึ้นเป็นพัน ก้ไม่พอครับ
เพราะถึงตอนนั้น 300, 1000, 2000 มันก็จะกลายเป็นแค่ตัวเลขหลอกตา
ให้พวกโลกสวยอย่างคุณลีได้ชื่นใจว่า นายกของฉันปรับค่าแรงขั้นต่ำให้สูงลิ่ว
ชนิดที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนกล้าคิด
ลองคิดต่ออีกนิดนะครับ คุณลี
ในระหว่างขั้นตอนต่างๆ ที่ผมยกตัวอย่างมานั้น
เกษตรกรได้เท่าเดิม แรงงานได้เท่าเดิม (ตามสเกล)
ใครตาย ใครลำบาก ใครมีปัญหา และรัฐบาลของคุณลี เคยใส่ใจนึกถึงมั๊ย
หรือเพราะคุณลีไม่สน เพราะเกษตรกรและชนชั้นแรงงานเท่านั้น ที่คนโลกสวยจะนำมาพูดถึง
**ขออภัยคุณทรงธรรมที่พูดถึงเพื่อเป็นตัวอย่างประกอบครับ
ไจแอนท์ ความจนคือการไม่สามารถเข้าถึงสิ่งอื่นๆ ที่คนอื่นเข้าถึงได้
คุณจะทำให้ประชาชนไม่จนคุณต้อง
1) ทำให้เขามีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตได้โดยไม่ต้องเป็นหนี้สิน
2) ทำให้เขาสามารถเข้าถึงสินค้า/บริการที่เพิ่มความสะดวกสบายให้เขาได้ (ส่วนเขาจะซื้อหรือไม่ซื้ออันนั้นมันขึ้นกับเขาครับ)
หากเขาสามารถเข้าถึงเกือบทุกอย่างได้เหมือนๆ คนอื่น นั่นคือคุณภาพชีวิตของเขาอยู่ในระดับที่พัฒนาแล้ว
ไม่ได้ให้เขาต้องสามารถซื้อเบนซ์ BMW
นั่นคือเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ
คนงานก่อสร้างที่บริษัทที่เมียผมทำงานอยู่ก็เหลือเกิน เงิน300ไม่พอกิน ดั้นจะมาขอกู้เงินเมียผมใช้อีก บางคนอยากได้มือถือผมก็เดือดร้อนต้องไปซื้อมาให้เค้าผ่อนกับเมียผมต่อ
คนพวกนี้เค้ามีความเป็นอยู่ที่ลำบากมากเลยนะครับ ว่ามั้ย
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:20
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
ผมอยู่ได้ครับ
ไหนคุณลองแจกแจงรายจ่ายคุณมาซิ sanskrit
ผมใช้เงินวันละ200 เหลือหยอดกระปุกวันละ20ครับ
ค่าอาหารคุณวันละเท่าไหร่
ค่าอาหารลูกคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเดินทางคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเดินทางลูกคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเช่าบ้านคุณเดือนละเท่าไหร่
ค่าน้ำ/ค่าไฟคุณใช้เดือนละเท่าไหร่
เอาแค่นี้ก่อน ยังมีอีกเยอะ
รออยู่เลย
ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพของผมและครอบครัวพอในวงเงิน 200+200 ในแต่ละวันครับ
ทีนี้เอาเรื่องค่าน้ำค่าไฟละกัน ค่าไฟผมเดือนละ 3000 ผ่อนบ้าน สองหมื่นกว่า แต่ผมถามว่าคนงานกระดับล่างเค้าต้องผ่อนบ้านกับจ่ายค่าสาธารณูปโภคเท่าผมรึปล่าวครับ
เฉพาะค่ากินกับเดินทางแบบเขม็ดขแหม่คุณก็ 200+200 แล้ว
คุณคิดว่าแรงงานเขาต้องเช่าบ้านอยู่เดือนละเท่าไหร่ ค่าไฟเท่าไหร่ครับ
ผมไม่รู้ครับ ถ้าคุณรู้ก็บอกผมมาหน่อยสิ อ้อ 200+200 หมายถึงผมกับเมียนะครับคนละ200
Edited by sanskrit_shower, 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:21.
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:26
ไจแอนท์ ความจนคือการไม่สามารถเข้าถึงสิ่งอื่นๆ ที่คนอื่นเข้าถึงได้
คุณจะทำให้ประชาชนไม่จนคุณต้อง
1) ทำให้เขามีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตได้โดยไม่ต้องเป็นหนี้สิน
2) ทำให้เขาสามารถเข้าถึงสินค้า/บริการที่เพิ่มความสะดวกสบายให้เขาได้ (ส่วนเขาจะซื้อหรือไม่ซื้ออันนั้นมันขึ้นกับเขาครับ)
หากเขาสามารถเข้าถึงเกือบทุกอย่างได้เหมือนๆ คนอื่น นั่นคือคุณภาพชีวิตของเขาอยู่ในระดับที่พัฒนาแล้ว
ไม่ได้ให้เขาต้องสามารถซื้อเบนซ์ BMW
นั่นคือเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ
แสดงว่า คุณลีหมุนรอบตัวเองอีกแล้ว
จึงไม่อ่านความเห็นของผมที่อุตส่าห์นั่งพิมพ์เป็นวรรคเป็นเวร
ลองกลับไปอ่านใหม่ดูอีกทีมั๊ยครับ
ผมพูดถึงความเป้นไปได้ โดยพยายามยกตัวอย่างประกอบ
แต่คุณก็มิได้นำพา
ไจแอนท์ คุณไม่เข้าใจหรือ รสนิยมการใช้จ่ายหรือความพอเพียงของคุณมันไม่ได้เกี่ยวกับรายได้
ที่ผมพูดคือการเพิ่มกำลังซื้อ ทำให้เขาสามารถเข้าถึงสินค้าได้ แต่ไม่ได้บอกให้เขาซื้อทุกอย่างที่เขาอยากจะซื้อ
การมีกำลังซื้อคือการ "จน" น้อยลง ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องมีทุกอย่างภายในบ้าน
คนหนึ่งคนกินข้าว 2 จานก็อิ่มเหมือนกันหมดไม่ว่าจะรวยหรือจน
แต่ปัจจุบัน ค่าแรงและราคาสินค้ามันต่ำ ทำให้คนไม่สามารถเข้าถึงสินค้าทุกอย่างได้เท่าเทียมกัน
มันจึงเกิดการเหลือมล้ำทางสังคมไงครับ ชีวิตเขามีอะไรผิดพลาดนิดเดียวก็ช็อตเลย
ส่วนคุณทรงธรรมเขาพอใจให้นายจ้างเขา exploit แรงงานของเขาเอง ทั้งๆ ที่เขามีทางเลือก
ผมก็บอกให้เขาไปหางานทำใหม่หากเขาคิดว่าเขามีความรู้ความสามารถเกินเงิน 9,000 ที่เขาได้
ความพอเพียงไม่ได้หมายความว่าคุณควรมีเงินเพียงพอที่จะกินข้าวครบทุกมื้อ อละอยู่รอดได้เป็นวันๆ ไปนะครับ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:28
คุณลียกตัวอย่างไพล่ไปถึงการซื้อคอมพิวเตอร์ที่ราคายังไม่เปลี่ยน
หารจะเปลี่ยนก็เพียงแต่สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
มันอยู่ที่วงจรชีวิตของเขาหรือเปล่าครับ
ผมเคยยกตัวอย่างไปแล้ว ค่าแรง 100 กินข้าว 10 บาท
ค่าแรง 300 กินข้าว 30 บาท
เขาได้อะไร ตรงไหน
วงจรชีวิตของพวกเขา ต้องใช้คอมพิวเตอร์ รถยนต์ หรือซื้อบ้านหลังละ 3-4 ล้านหรืออย่างไร
ผมไม่ได้พูด เพื่อกีดกันไม่ให้รากหญ้าได้เข้าถึงสินค้าที่ผมยกตัวอย่าง
แต่ความจริงคือ วงจรชีวิตของเขาไม่เกี่ยวข้อง
และแม้ในขณะที่เขาได้รับค่าแรงขึ้น ค่าครองชีพมันถีบตัวขึ้นไปรอตั้งแต่พึ่งออกข่าว
และมาขึ้นอีกรอบตอนเริ่มปรับจริงไปแล้ว
อะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้เงยหน้าอ้าปากครับ
ผมขออนุญาต ยกตัวอย่างคุณทรงธรรม
ซึ่งบอกว่า รายได้ยังไม่สูงมาก ซึ่งคุณพยายามที่จะเปรียบเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ
เพื่อที่จะบอกว่า รายได้ของคุณทรงธรรมสูงกว่า
คุณเลือกที่จะหลับตาข้างเดียวพูดนี่ครับ
แรงงาน ที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ มีองค์ประกอบชีวิตอย่างไร
คุณทรงธรรม ซึ่งเป้นพนักงานบริษัท มีองค์ประกอบชีวิตอย่างไร
เสื้อผ้า อาหาร ค่ารถ อุปกรณ์ แตกต่างกันอย่างไรกับแรงงาน
ให้คุณทรงธรรมใส่เสื้อยืดกับกางเกงหัวเข่าขาดไปทำงานได้หรือไม่
นั่นคือรายจ่ายแฝงที่คุณลีไม่เคยนำมาพูดถึง
สมมุติว่า อีก 10 ปี คุณทรงธรรมทำงานได้เงินเดือน 30000 บาท
ถึงเวลานั้น คุณคิดว่า คุณทรงธรรมจะยังมีรายจ่ายเท่าเดิมหรือไม่
ยังใส่เสื้อชุดเดิม กินอาหารเหมือนเดิม ขึ้นรถเมล์สายเดิม
ผมคงไม่ต้องพูดละเอียด เพราะเชื่อว่า คุณคงนึกออกได้ ว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไร
สมัยก่อน ผมเคยโดนเพื่อนว่า
ตอนเรียน ได้เงินเดือน 3500 ใช้ 4000 ทำงานที่แรก ได้เงินเดือน 8500 ใช้หมื่นนึง
ได้เงินเดือนหมื่นห้า ใช้หมื่นแปด ได้เงินเดือนสองหมื่น ใช้สองหมื่นสอง
ตัวอย่าง ไม่ได้ให้ดูการใช้เกินรายได้ของผมนะครับ (อันนั้นผมสนุกมือเอง)
แต่ทำไม ตอนเรียนผมใช้แค่ 4000 ได้ แต่พอเรียนจบ 1 ปีให้หลัง ผมถึงต้องใช้ หมื่นนึง
แทนที่จะยังใช้ 4000 เหมือนตอนเรียนล่ะครับ
นี่คือสิ่งที่ทำให้คนที่ไม่อยู่ในสโคปได้รับการปรับขึ้นตามค่าแรงขั้นต่ำ
ไม่ได้อะไรเลย ในขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้นไปรออยู่แล้ว
และแรงงาน ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้นเหมือนกัน
นายจ้างก็จ่ายเพิ่มขึ้น รายได้เท่าเดิมหรือลดลงไปตามค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
ผู้ผลิต หรือเกษตรกรล่ะ ที่อาจได้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามที่คุณว่า
แต่ผมถามให้ย้อนไปคิดอีกที
ชาวนาใช้แชมพู นมข้นหวาน ใส่เสื้อผ้า ซื้อปลา เหมือนคนอื่นมั๊ยครับ
นั่นก็แปลว่า เขาก็ต้องมีค่าครองชีพที่สูงขึ้นเช่นกัน
ผันผวนไปกับรายได้ที่สูงขึ้นอยู่ดี
สิ่งที่คุณลีพยายามผลักดัน มันคือโลกสวยๆ ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา
คุณลีถามอยู่บ่อยๆ ว่าค่าแรง 300 จริงๆ แล้ว มันพอใช้สำหรับแรงงานหรือ
ผมพูดได้เลย ตอบได้เลยว่า ต่อให้ขึ้นเป็นพัน ก้ไม่พอครับ
เพราะถึงตอนนั้น 300, 1000, 2000 มันก็จะกลายเป็นแค่ตัวเลขหลอกตา
ให้พวกโลกสวยอย่างคุณลีได้ชื่นใจว่า นายกของฉันปรับค่าแรงขั้นต่ำให้สูงลิ่ว
ชนิดที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนกล้าคิด
ลองคิดต่ออีกนิดนะครับ คุณลี
ในระหว่างขั้นตอนต่างๆ ที่ผมยกตัวอย่างมานั้น
เกษตรกรได้เท่าเดิม แรงงานได้เท่าเดิม (ตามสเกล)
ใครตาย ใครลำบาก ใครมีปัญหา และรัฐบาลของคุณลี เคยใส่ใจนึกถึงมั๊ย
หรือเพราะคุณลีไม่สน เพราะเกษตรกรและชนชั้นแรงงานเท่านั้น ที่คนโลกสวยจะนำมาพูดถึง
**ขออภัยคุณทรงธรรมที่พูดถึงเพื่อเป็นตัวอย่างประกอบครับ
ไจแอนท์ ความจนคือการไม่สามารถเข้าถึงสิ่งอื่นๆ ที่คนอื่นเข้าถึงได้
คุณจะทำให้ประชาชนไม่จนคุณต้อง
1) ทำให้เขามีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตได้โดยไม่ต้องเป็นหนี้สิน
2) ทำให้เขาสามารถเข้าถึงสินค้า/บริการที่เพิ่มความสะดวกสบายให้เขาได้ (ส่วนเขาจะซื้อหรือไม่ซื้ออันนั้นมันขึ้นกับเขาครับ)
หากเขาสามารถเข้าถึงเกือบทุกอย่างได้เหมือนๆ คนอื่น นั่นคือคุณภาพชีวิตของเขาอยู่ในระดับที่พัฒนาแล้ว
ไม่ได้ให้เขาต้องสามารถซื้อเบนซ์ BMW
นั่นคือเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ
คนงานก่อสร้างที่บริษัทที่เมียผมทำงานอยู่ก็เหลือเกิน เงิน300ไม่พอกิน ดั้นจะมาขอกู้เงินเมียผมใช้อีก บางคนอยากได้มือถือผมก็เดือดร้อนต้องไปซื้อมาให้เค้าผ่อนกับเมียผมต่อ
คนพวกนี้เค้ามีความเป็นอยู่ที่ลำบากมากเลยนะครับ ว่ามั้ย
คุณแยกไม่ออกหรือระหว่างความพอเพียงกับรายได้/กำลังซื้อ?
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:29
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
คุณต้องรอให้แรงงานเขาตายหมดประเทศไปก่อนรึ?
ผมบอกแล้วว่าโรงงานที่ได้กำไรมามหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการ exploit แรงงานราคาถูก ควรจ่ายย้อนหลังให้แรงงานพวกนั้นด้วยซ้ำ
ทีี่ผ่านมามีแรงงานตายไหม ก่อนที่จะขึ้นค่าแรง 300 นะ
เค้าก้ออยู่กันมานานแล้ว
ค่าแรงเค้าก้อปรับ 1-2 ปี ครั้งอยู่แล้ว ตามค่าครองชีพ
ไม่เห็นเค้าจะเดอืนร้อนเลย
แล้วตอนนี้ละ มีโรงงานทยอยปิด sme เจ๊งไม่เป็นท่า
คุณคิดถึงคนทีี่ตกงานจากค่าแรง 300 ไหม
เฮ้อ
ก็ผมถามคุณว่า 300 บาท/วันพวกคุณอยู่ได้หรือเปล่า พวกคุณทุกคนก็บอกว่าอยู่ไม่ได้
แล้วนั่นไม่ใช่ตายไปแล้วหรือครับ แต่ละคนมีใครไม่เป็นหนี้บ้างครับ ผมถาม
ผมบอกแล้วว่าโรงงานพวกนั้นมันสมควรตายไปตั้งนานแล้ว
แต่เขาไปเอาหยาดเหงื่อราคาถูกของแรงงานมาต่อชีวิตเปลี่ยนเป็นกำไร
ได้เวลาปล่อยให้ธุรกิจเน่าๆ พวกนั้นตายไปตามธรรมชาติได้แล้วครับ
ผมไม่เชื่อว่าทุกธุรกิจจะตายหมด มีเพียงพวกที่ exploit แรงงานราคาถูกเท่านั้นครับที่จะตาย
ผมอยู่ได้ครับ
ไหนคุณลองแจกแจงรายจ่ายคุณมาซิ sanskrit
ผมใช้เงินวันละ200 เหลือหยอดกระปุกวันละ20ครับ
ค่าอาหารคุณวันละเท่าไหร่
ค่าอาหารลูกคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเดินทางคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเดินทางลูกคุณวันละเท่าไหร่
ค่าเช่าบ้านคุณเดือนละเท่าไหร่
ค่าน้ำ/ค่าไฟคุณใช้เดือนละเท่าไหร่
เอาแค่นี้ก่อน ยังมีอีกเยอะ
รออยู่เลย
ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพของผมและครอบครัวพอในวงเงิน 200+200 ในแต่ละวันครับ
ทีนี้เอาเรื่องค่าน้ำค่าไฟละกัน ค่าไฟผมเดือนละ 3000 ผ่อนบ้าน สองหมื่นกว่า แต่ผมถามว่าคนงานกระดับล่างเค้าต้องผ่อนบ้านกับจ่ายค่าสาธารณูปโภคเท่าผมรึปล่าวครับ
เฉพาะค่ากินกับเดินทางแบบเขม็ดขแหม่คุณก็ 200+200 แล้ว
คุณคิดว่าแรงงานเขาต้องเช่าบ้านอยู่เดือนละเท่าไหร่ ค่าไฟเท่าไหร่ครับ
ไม่รู้ครับ ถ้าคุณรู้ก็บอกผมมาหน่อยดิ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:31
คุณลียกตัวอย่างไพล่ไปถึงการซื้อคอมพิวเตอร์ที่ราคายังไม่เปลี่ยน
หารจะเปลี่ยนก็เพียงแต่สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
มันอยู่ที่วงจรชีวิตของเขาหรือเปล่าครับ
ผมเคยยกตัวอย่างไปแล้ว ค่าแรง 100 กินข้าว 10 บาท
ค่าแรง 300 กินข้าว 30 บาท
เขาได้อะไร ตรงไหน
วงจรชีวิตของพวกเขา ต้องใช้คอมพิวเตอร์ รถยนต์ หรือซื้อบ้านหลังละ 3-4 ล้านหรืออย่างไร
ผมไม่ได้พูด เพื่อกีดกันไม่ให้รากหญ้าได้เข้าถึงสินค้าที่ผมยกตัวอย่าง
แต่ความจริงคือ วงจรชีวิตของเขาไม่เกี่ยวข้อง
และแม้ในขณะที่เขาได้รับค่าแรงขึ้น ค่าครองชีพมันถีบตัวขึ้นไปรอตั้งแต่พึ่งออกข่าว
และมาขึ้นอีกรอบตอนเริ่มปรับจริงไปแล้ว
อะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้เงยหน้าอ้าปากครับ
ผมขออนุญาต ยกตัวอย่างคุณทรงธรรม
ซึ่งบอกว่า รายได้ยังไม่สูงมาก ซึ่งคุณพยายามที่จะเปรียบเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ
เพื่อที่จะบอกว่า รายได้ของคุณทรงธรรมสูงกว่า
คุณเลือกที่จะหลับตาข้างเดียวพูดนี่ครับ
แรงงาน ที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ มีองค์ประกอบชีวิตอย่างไร
คุณทรงธรรม ซึ่งเป้นพนักงานบริษัท มีองค์ประกอบชีวิตอย่างไร
เสื้อผ้า อาหาร ค่ารถ อุปกรณ์ แตกต่างกันอย่างไรกับแรงงาน
ให้คุณทรงธรรมใส่เสื้อยืดกับกางเกงหัวเข่าขาดไปทำงานได้หรือไม่
นั่นคือรายจ่ายแฝงที่คุณลีไม่เคยนำมาพูดถึง
สมมุติว่า อีก 10 ปี คุณทรงธรรมทำงานได้เงินเดือน 30000 บาท
ถึงเวลานั้น คุณคิดว่า คุณทรงธรรมจะยังมีรายจ่ายเท่าเดิมหรือไม่
ยังใส่เสื้อชุดเดิม กินอาหารเหมือนเดิม ขึ้นรถเมล์สายเดิม
ผมคงไม่ต้องพูดละเอียด เพราะเชื่อว่า คุณคงนึกออกได้ ว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไร
สมัยก่อน ผมเคยโดนเพื่อนว่า
ตอนเรียน ได้เงินเดือน 3500 ใช้ 4000 ทำงานที่แรก ได้เงินเดือน 8500 ใช้หมื่นนึง
ได้เงินเดือนหมื่นห้า ใช้หมื่นแปด ได้เงินเดือนสองหมื่น ใช้สองหมื่นสอง
ตัวอย่าง ไม่ได้ให้ดูการใช้เกินรายได้ของผมนะครับ (อันนั้นผมสนุกมือเอง)
แต่ทำไม ตอนเรียนผมใช้แค่ 4000 ได้ แต่พอเรียนจบ 1 ปีให้หลัง ผมถึงต้องใช้ หมื่นนึง
แทนที่จะยังใช้ 4000 เหมือนตอนเรียนล่ะครับ
นี่คือสิ่งที่ทำให้คนที่ไม่อยู่ในสโคปได้รับการปรับขึ้นตามค่าแรงขั้นต่ำ
ไม่ได้อะไรเลย ในขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้นไปรออยู่แล้ว
และแรงงาน ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้นเหมือนกัน
นายจ้างก็จ่ายเพิ่มขึ้น รายได้เท่าเดิมหรือลดลงไปตามค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
ผู้ผลิต หรือเกษตรกรล่ะ ที่อาจได้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามที่คุณว่า
แต่ผมถามให้ย้อนไปคิดอีกที
ชาวนาใช้แชมพู นมข้นหวาน ใส่เสื้อผ้า ซื้อปลา เหมือนคนอื่นมั๊ยครับ
นั่นก็แปลว่า เขาก็ต้องมีค่าครองชีพที่สูงขึ้นเช่นกัน
ผันผวนไปกับรายได้ที่สูงขึ้นอยู่ดี
สิ่งที่คุณลีพยายามผลักดัน มันคือโลกสวยๆ ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา
คุณลีถามอยู่บ่อยๆ ว่าค่าแรง 300 จริงๆ แล้ว มันพอใช้สำหรับแรงงานหรือ
ผมพูดได้เลย ตอบได้เลยว่า ต่อให้ขึ้นเป็นพัน ก้ไม่พอครับ
เพราะถึงตอนนั้น 300, 1000, 2000 มันก็จะกลายเป็นแค่ตัวเลขหลอกตา
ให้พวกโลกสวยอย่างคุณลีได้ชื่นใจว่า นายกของฉันปรับค่าแรงขั้นต่ำให้สูงลิ่ว
ชนิดที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนกล้าคิด
ลองคิดต่ออีกนิดนะครับ คุณลี
ในระหว่างขั้นตอนต่างๆ ที่ผมยกตัวอย่างมานั้น
เกษตรกรได้เท่าเดิม แรงงานได้เท่าเดิม (ตามสเกล)
ใครตาย ใครลำบาก ใครมีปัญหา และรัฐบาลของคุณลี เคยใส่ใจนึกถึงมั๊ย
หรือเพราะคุณลีไม่สน เพราะเกษตรกรและชนชั้นแรงงานเท่านั้น ที่คนโลกสวยจะนำมาพูดถึง
**ขออภัยคุณทรงธรรมที่พูดถึงเพื่อเป็นตัวอย่างประกอบครับ
ไจแอนท์ ความจนคือการไม่สามารถเข้าถึงสิ่งอื่นๆ ที่คนอื่นเข้าถึงได้
คุณจะทำให้ประชาชนไม่จนคุณต้อง
1) ทำให้เขามีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตได้โดยไม่ต้องเป็นหนี้สิน
2) ทำให้เขาสามารถเข้าถึงสินค้า/บริการที่เพิ่มความสะดวกสบายให้เขาได้ (ส่วนเขาจะซื้อหรือไม่ซื้ออันนั้นมันขึ้นกับเขาครับ)
หากเขาสามารถเข้าถึงเกือบทุกอย่างได้เหมือนๆ คนอื่น นั่นคือคุณภาพชีวิตของเขาอยู่ในระดับที่พัฒนาแล้ว
ไม่ได้ให้เขาต้องสามารถซื้อเบนซ์ BMW
นั่นคือเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ
คนงานก่อสร้างที่บริษัทที่เมียผมทำงานอยู่ก็เหลือเกิน เงิน300ไม่พอกิน ดั้นจะมาขอกู้เงินเมียผมใช้อีก บางคนอยากได้มือถือผมก็เดือดร้อนต้องไปซื้อมาให้เค้าผ่อนกับเมียผมต่อ
คนพวกนี้เค้ามีความเป็นอยู่ที่ลำบากมากเลยนะครับ ว่ามั้ย
คุณแยกไม่ออกหรือระหว่างความพอเพียงกับรายได้/กำลังซื้อ?
แล้วถ้าเค้ามีรายได้ไม่พอ เค้าจะซื้อมือถือรุ่นใหม่ทำไมครับ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:39
ไจแอนท์ คุณไม่เข้าใจหรือ รสนิยมการใช้จ่ายหรือความพอเพียงของคุณมันไม่ได้เกี่ยวกับรายได้
ที่ผมพูดคือการเพิ่มกำลังซื้อ ทำให้เขาสามารถเข้าถึงสินค้าได้ แต่ไม่ได้บอกให้เขาซื้อทุกอย่างที่เขาอยากจะซื้อ
การมีกำลังซื้อคือการ "จน" น้อยลง ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องมีทุกอย่างภายในบ้าน
คนหนึ่งคนกินข้าว 2 จานก็อิ่มเหมือนกันหมดไม่ว่าจะรวยหรือจน
แต่ปัจจุบัน ค่าแรงและราคาสินค้ามันต่ำ ทำให้คนไม่สามารถเข้าถึงสินค้าทุกอย่างได้เท่าเทียมกัน
มันจึงเกิดการเหลือมล้ำทางสังคมไงครับ ชีวิตเขามีอะไรผิดพลาดนิดเดียวก็ช็อตเลย
ส่วนคุณทรงธรรมเขาพอใจให้นายจ้างเขา exploit แรงงานของเขาเอง ทั้งๆ ที่เขามีทางเลือก
ผมก็บอกให้เขาไปหางานทำใหม่หากเขาคิดว่าเขามีความรู้ความสามารถเกินเงิน 9,000 ที่เขาได้
ความพอเพียงไม่ได้หมายความว่าคุณควรมีเงินเพียงพอที่จะกินข้าวครบทุกมื้อ อละอยู่รอดได้เป็นวันๆ ไปนะครับ
ก็นี่ไง ที่ผมบอกว่า คุณมัวแต่หมุนรอบความคิดตัวเอง จนไม่ได้อ่านที่ผมอุตส่าห์พยายามจะบอก
ในต้นๆความเห็นผมก็บอกอยู่แล้ว ว่าค่าแรงที่ปรับขึ้น มันก้ไม่ได้ทำให้กำลังซื้อของเขาเพิ่มขึ้น
เพราะค่าครองชีพมันถูกปรับสูงขึ้นไปรอตั้งแต่พึ่งออกข่าวว่าจะปรับค่าแรงแล้ว
อย่าลืมว่า ค่าครองชีพบ้านเรา ถูกปรับขึ้นทุกครั้ง ที่ค่าแรงขึ้นนะครับ
มันไม่ใช่เพราะค่าแรงขึ้น ค่าครองชีพจึงทยอยปรับตัวขึ้นไป
แต่มันถูกปรับขึ้นไปรอก่อนค่าแรงจะขึ้นด้วยซ้ำ
ผมไม่ทราบบ้านอื่นเมืองอื่นเขาเป้นแบบเราหรือไม่นะครับ
แต่บ้านเรามันเป็นแบบนี้
เมื่อเป็นแบบนี้ ต่อให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 500 เป็น 1000 ก็ไม่ได้ทำให้กำลังซื้อปัจจัยพื้นฐานของเขาเพิ่มขึ้นหรอกครับ
สิ่งสำคัญที่รัฐควรทำ คือการกระชากค่าครองชีพลงมาต่างหาก จึงจะไม่กระทบกับอะไรเลย
รัฐช่วยได้ยังไง เช่น การลดภาษี การอุดหนุนอุปกรณ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง หรือวัตถุดิบพื้นฐาน
และการบังคับใช้ผ่านกฏหมาย
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:39
แล้วถ้าเค้ามีรายได้ไม่พอ เค้าจะซื้อมือถือรุ่นใหม่ทำไมครับ
ก็เขาไม่่พอเพียงไงครับ
แต่มันไม่เกี่ยวกับรายได้เขา คุณไม่เข้าใจหรือ?
เขาควรมีรายได้สูงพอที่จะกินอยู่อย่างสบายๆ ไม่ต้องคิดว่าเงินจะพอหรือเปล่าหากลูกป่วย
สูงขึ้นไปกว่านั้นคือเขาควรสามารถเข้าถึงสินค้า/บริการทั้งหลายในตลาดได้พอสมควร (แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจำเป็นต้องมีของเหล่านั้น)
นั่นคือคุณภาพชีวิตไงครับ
ส่วนคุณ ผมถามหน่อยว่าคุณรายได้ไม่พอทำไมต้องไปเป็นหนี้เพื่อกู้เงินมาซื้อบ้านราคาแพง ทำไมไม่เช่าบ้านหลังเล็กๆ อยู่?
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:48
อย่าเอาแต่หลับหูหลับตาเชียร์
อย่าเอาแต่มองโลกสวย จนมองข้ามความเป็นจริงสิครับ คุณลี
ชีวิตจริง มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คุณพยายามแสดงเช่นนั้นได้
หากผู้ปฏิบัติ ไม่ได้มองเห็นความเป้นจริงที่เกิดขึ้น
ผมหรือใครๆ ที่โต้แย้งความคิดของคุณ
ไม่ได้หวังจะกดหัวชนชั้นแรงงานให้ต่ำไปกว่าพวกเราและไม่ได้เงยหน้าอ้าปาก
เพียงแต่การแสดงความเห็นที่พูดกันมา เพียงเพื่อจะบอกว่า
สิ่งที่รัฐกำลังจะทำ และบังเอิญคุณเห็นดีเห็นงามนั้น มันเป็นวิธีการที่ผิด
ผมเองก็มาจากครอบครัวเกษตรกร เราต่างก็มีสถานะทางสังคมไม่ได้ดีไปกว่าใคร
แต่เมื่อเห็นสิ่งที่รัฐทำไป โดยไม่เกิดประโยชน์ หรือซ้ำยังเป็นโทษ
เพราะรัฐหลับหูหลับตาคิดและทำ โดยมีคนบางกลุ่มหลับหูหลับตาเชียร์
เราก็ต้องมาแย้งกัน มาถกกัน
ถ้าคุณพบว่าพื้นบ้านคุณมีขยะ
คุณจะพยายามมองให้บ้านคุณสะอาด โดยการมองข้ามขยะนั้นแล้วไปมองแต่ห้องนอนซึ่งพึ่งกวาดอย่างเดียวไม่ได้
เพราะบ้านคุณก็ยังมีขยะอยู่ดี จนกว่าคุณจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด คือไปกวาดมันซะ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 11:56
มีประเทศไหนในโลกบ้างที่ปรับขึ้นค่าแรงงานงานพรวดพราดทีเดียวครั้งเดียว 100% กองเชียร์อีเอ๋อช่วยยกตัวอย่างมาให้ดูหน่อยครับ
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:01
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
ผมว่าเราต้อง ว่ากันที่ข้อมูลที่ถูกต้อง...
http://www.apecthai....news.php?id=848
จาก LINK นะครับ..
1/1/54 รัฐบาล ม้าก ปรับค่าแรง..
1/8/54 ปูชนะ การเลือกตั้งจาก นโยบาย 300 บาท ยังไม่มีการปรับ...
1/4/55 รัฐบาล ปู ขึ้นครั้งแรก กรุงเทพมหานคร + จังหวัดใกล้เคียง 300 บาท..
- 8 เดือนหลังเลือกตั้งชนะ ที่ สลิ่มทั้งเห่าทั้งหอนว่า เมื่อไรจะ ขึ้นค่าแรงตามสัญญา...
ลองไปกด ตัวเลขนะครับ... ทุกจังหวัดขึ้นมาประมาณ 39%.. ไม่มีเกิน40%..
ไม่ใช่ 100%
1/1/56 รัฐบาล ปู ขึ้นครั้งที่สอง 300 บาท ทั่วประเทศ..
- 8 เดือนหลังขึ้นครั้งแรก... ทุกจังหวัด 300 บาทเท่ากันเหมด.. เฉลี่ยทุกจังหวัดขึ้นมา 23% ไม่มีเกิน 36%
ไม่ใช่ 100%
ปรับสองครับ ห่างกัน 8 เดือน ครั้งละ 39% กับ 23%... ไม่ใช่ขั้นบันไดอีกหรือ... ไม่มีเวลาปรับตัวอีกหรือ...
อำมาตย์น้อย.. เช
"ทำไมมันประกาศปรับขึ้นทีละ 20% - 30% ปีละ 2 ครั้งไม่ได้ ทำไมจะต้องน้ำแตกฉ่าปรี้ดๆๆๆ... ขึ้นค่าแรงทีเดียว 100%"
ผมแปดเดือนครั้ง.. ยาวกว่าอีก... แล้วจะปรี๊ดๆ หาอะไร...
เหอๆๆ ผม มีแต่หลักฐาน... สลิ่มเอาไงดีครับ...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:02
อย่าเอาแต่หลับหูหลับตาเชียร์
อย่าเอาแต่มองโลกสวย จนมองข้ามความเป็นจริงสิครับ คุณลี
ชีวิตจริง มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คุณพยายามแสดงเช่นนั้นได้
หากผู้ปฏิบัติ ไม่ได้มองเห็นความเป้นจริงที่เกิดขึ้น
ผมหรือใครๆ ที่โต้แย้งความคิดของคุณ
ไม่ได้หวังจะกดหัวชนชั้นแรงงานให้ต่ำไปกว่าพวกเราและไม่ได้เงยหน้าอ้าปาก
เพียงแต่การแสดงความเห็นที่พูดกันมา เพียงเพื่อจะบอกว่า
สิ่งที่รัฐกำลังจะทำ และบังเอิญคุณเห็นดีเห็นงามนั้น มันเป็นวิธีการที่ผิด
ผมเองก็มาจากครอบครัวเกษตรกร เราต่างก็มีสถานะทางสังคมไม่ได้ดีไปกว่าใคร
แต่เมื่อเห็นสิ่งที่รัฐทำไป โดยไม่เกิดประโยชน์ หรือซ้ำยังเป็นโทษ
เพราะรัฐหลับหูหลับตาคิดและทำ โดยมีคนบางกลุ่มหลับหูหลับตาเชียร์
เราก็ต้องมาแย้งกัน มาถกกัน
ถ้าคุณพบว่าพื้นบ้านคุณมีขยะ
คุณจะพยายามมองให้บ้านคุณสะอาด โดยการมองข้ามขยะนั้นแล้วไปมองแต่ห้องนอนซึ่งพึ่งกวาดอย่างเดียวไม่ได้
เพราะบ้านคุณก็ยังมีขยะอยู่ดี จนกว่าคุณจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด คือไปกวาดมันซะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:02
มีประเทศไหนในโลกบ้างที่ปรับขึ้นค่าแรงงานงานพรวดพราดทีเดียวครั้งเดียว 100% กองเชียร์อีเอ๋อช่วยยกตัวอย่างมาให้ดูหน่อยครับ
ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรก มีปัญหาอะไรไหมเช?
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:03
เรียนเชิญ....สลิ่มแมงสาป....ที่มีสมอง..มาถกกันหน่อยครับ............
ผมขอข้อเสียของนโยบายนี้.......
ปัญหาที่เกิดขึ้น........
ผลกระทบที่มี.......
จำนวนคนตกงาน........
ขอแบบที่มันร้ายแรงจริงจริงนะครับ.........
ชนิดแบบที่ชาติล่มจมเลยน่ะ...........
ไอ้ประเภทที่มันเหมือนตอนยุคมาร์คชั่งไข่.......
ไม่ต้องเอามาโชว์ครับ....ปัญญาอ่อน.....
ตอนนี้ผมมองไม่เห็นเลย........
ว่าคนจะตกงานกันมโหฬารอย่างไร.......ตามน้ำคำของสลิ่ม.......
มองไม่เห็นซักที....ว่าบริษัทปิดตัวลง...จนทำให้เศรษฐกิจ....
ของชาติหายนะ.........
มองไม่เห็นเลยว่า.....รายจ่ายเพิ่มขึ้น.....มากกว่ายุคมาร์คชั่งไข่อย่างไร.....
ไอ้ที่แพงกว่าแค่นิดหน่อย.....ไม่ต้องเขียนมาครับ....ปัญญาอ่อน.....
เขาได้เงินเยอะกว่าเท่าตัว.....แต่จ่ายเพิ่มอีกแค่นิดหน่อย....
มันคุ้มค่ากับประชาชน....ที่เขาเลือกพรรคนี้เข้ามาแล้ว........
ตอนนี้ที่ผมมองเห็นคือ........ประชาชนมีความสุข....
กับการได้จับเงินก้อนเต็มมือ..........มีเงินเยอะกว่าเดิมเป็นเท่าตัว......
หึหึ.........................
เอางี้แล้วกัน
ถ้ามันดีจริง
ทำไมต้อง 300
ทำไมไม่ 400 หรือ 500
หรือ 1,000 ไปเลย
ทำไมจำเพาะต้อง 300 ด้วย
วานควายแดงบอกหน่อย
ผมไม่ใช่ควายแดงนะ แต่ผมขอตอบ
เพราะ 300 บาทคือขั้นบันไดแรกไง ขึ้นเป็น 1,000 คุณยอมหรือ?
แค่ขึ้นเป็น 300 ยังแหกปากลั่น ขอให้เป็นขั้นบันไดจาก 150 เป็น 200, 250 แล้วค่อยเป็น 300
ตลกหว่ะ
ผมเพิ่งรู้ว่า 300 บาทเป็นบันไดขั้นแรก
300 บาทมันพอกินเหรอ sanskrit?
คุณจะให้เขาค่าแรงแบบไม่พอกินอย่างนั้นไปตลอดเหรอ?
ปัญหามันอยู่ที่ค่าแรง หรือเพราะค่าครองชีพ คิดเป็นป่ะ
เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:05
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
ผมว่าเราต้อง ว่ากันที่ข้อมูลที่ถูกต้อง...
http://www.apecthai....news.php?id=848
จาก LINK นะครับ..
1/1/54 รัฐบาล ม้าก ปรับค่าแรง..
1/8/54 ปูชนะ การเลือกตั้งจาก นโยบาย 300 บาท ยังไม่มีการปรับ...
1/4/55 รัฐบาล ปู ขึ้นครั้งแรก กรุงเทพมหานคร + จังหวัดใกล้เคียง 300 บาท..
- 8 เดือนหลังเลือกตั้งชนะ ที่ สลิ่มทั้งเห่าทั้งหอนว่า เมื่อไรจะ ขึ้นค่าแรงตามสัญญา...
ลองไปกด ตัวเลขนะครับ... ทุกจังหวัดขึ้นมาประมาณ 39%.. ไม่มีเกิน40%..
ไม่ใช่ 100%
1/1/56 รัฐบาล ปู ขึ้นครั้งที่สอง 300 บาท ทั่วประเทศ..
- 8 เดือนหลังขึ้นครั้งแรก... ทุกจังหวัด 300 บาทเท่ากันเหมด.. เฉลี่ยทุกจังหวัดขึ้นมา 23% ไม่มีเกิน 36%
ไม่ใช่ 100%
ปรับสองครับ ห่างกัน 8 เดือน ครั้งละ 39% กับ 23%... ไม่ใช่ขั้นบันไดอีกหรือ... ไม่มีเวลาปรับตัวอีกหรือ...
>อำมาตย์น้อย.. เช
"ทำไมมันประกาศปรับขึ้นทีละ 20% - 30% ปีละ 2 ครั้งไม่ได้ ทำไมจะต้องน้ำแตกฉ่าปรี้ดๆๆๆ... ขึ้นค่าแรงทีเดียว 100%"
ผมแปดเดือนครั้ง.. ยาวกว่าอีก... แล้วจะปรี๊ดๆ หาอะไร...
เหอๆๆ ผม มีแต่หลักฐาน... สลิ่มเอาไงดีครับ...
ค่าแรงแถว นครพนม แพร่ น่าน ฯลฯ เดิมวันละ 150 ปรับเพิ่มเป็น 300 บาท แบบนี้ไม่ 100% หรือครับ ท่านคนกลาง(หว่างขาแม้ว)ในสามโลก
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:07
เฮ้อ คุณลี นี่ โลกสวยม๊วกกกกกกกกกกก
แต่ไม่ได้มองความเป็นจริงเลย
ส่วนคนกลางครับ อ่านให้ข้อมูลให้หมดดีกว่า
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:07
มีประเทศไหนในโลกบ้างที่ปรับขึ้นค่าแรงงานงานพรวดพราดทีเดียวครั้งเดียว 100% กองเชียร์อีเอ๋อช่วยยกตัวอย่างมาให้ดูหน่อยครับ
ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรก มีปัญหาอะไรไหมเช?
เชื่อแล้วว่าสนับสนุน ปชป.มาตลอด ฮา.. เอิ้ก เอิ้ก ...
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:08
กว่าจะรู้ตัวมันก็เป็นวิกฤติไปแล้ว ไม่ใช่รัฐบาลไม่รู้ปัญหา แต่พยายามซุกปัญหา แล้วหาทางแก้ผ้าเอาหน้ารอด รวมถึงส่งพวกสถุนมาแถและแปะข้อมูลชวนเชื่อโดยไม่แก้ปัญหาใดๆ มันกระทบไปแล้วแต่ไม่ยอมรับเอง
คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:08
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
ผมว่าเราต้อง ว่ากันที่ข้อมูลที่ถูกต้อง...
http://www.apecthai....news.php?id=848
จาก LINK นะครับ..
1/1/54 รัฐบาล ม้าก ปรับค่าแรง..
1/8/54 ปูชนะ การเลือกตั้งจาก นโยบาย 300 บาท ยังไม่มีการปรับ...
1/4/55 รัฐบาล ปู ขึ้นครั้งแรก กรุงเทพมหานคร + จังหวัดใกล้เคียง 300 บาท..
- 8 เดือนหลังเลือกตั้งชนะ ที่ สลิ่มทั้งเห่าทั้งหอนว่า เมื่อไรจะ ขึ้นค่าแรงตามสัญญา...
ลองไปกด ตัวเลขนะครับ... ทุกจังหวัดขึ้นมาประมาณ 39%.. ไม่มีเกิน40%..
ไม่ใช่ 100%
1/1/56 รัฐบาล ปู ขึ้นครั้งที่สอง 300 บาท ทั่วประเทศ..
- 8 เดือนหลังขึ้นครั้งแรก... ทุกจังหวัด 300 บาทเท่ากันเหมด.. เฉลี่ยทุกจังหวัดขึ้นมา 23% ไม่มีเกิน 36%
ไม่ใช่ 100%
ปรับสองครับ ห่างกัน 8 เดือน ครั้งละ 39% กับ 23%... ไม่ใช่ขั้นบันไดอีกหรือ... ไม่มีเวลาปรับตัวอีกหรือ...
นานเกินพออีกครับ
หลังจากปรับตัวเสร็จแล้ว ต้องจ่ายย้อนหลังเขาด้วยซ้ำ
โรงงานที่เขาตั้งใจเปลี่ยนเขาก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว
เหลือก็พวกที่รอทำนาบนหลังคนต่อไปนั่นแหล่ะ รอเผื่อฟลุ๊ก รัฐบาลเปลี่ยนใจ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:12
คุณลี ขอถามเลยนะ มีที่ประเทศไหนไหนโลก ที่ขึ้นค่าแรง เกือบ 100 % แบบเราบ้าง
คุณยกตัวอย่างจีน มา แต่จีนก้อไม่ได้ขึ้น ทีเดียว เกือบ 100 %
เค้าก้อขึ้นไปทีละขั้น 20-30 % ก้อว่ากันไป
ผมว่าเราต้อง ว่ากันที่ข้อมูลที่ถูกต้อง...
http://www.apecthai....news.php?id=848
จาก LINK นะครับ..
1/1/54 รัฐบาล ม้าก ปรับค่าแรง..
1/8/54 ปูชนะ การเลือกตั้งจาก นโยบาย 300 บาท ยังไม่มีการปรับ...
1/4/55 รัฐบาล ปู ขึ้นครั้งแรก กรุงเทพมหานคร + จังหวัดใกล้เคียง 300 บาท..
- 8 เดือนหลังเลือกตั้งชนะ ที่ สลิ่มทั้งเห่าทั้งหอนว่า เมื่อไรจะ ขึ้นค่าแรงตามสัญญา...
ลองไปกด ตัวเลขนะครับ... ทุกจังหวัดขึ้นมาประมาณ 39%.. ไม่มีเกิน40%..
ไม่ใช่ 100%
1/1/56 รัฐบาล ปู ขึ้นครั้งที่สอง 300 บาท ทั่วประเทศ..
- 8 เดือนหลังขึ้นครั้งแรก... ทุกจังหวัด 300 บาทเท่ากันเหมด.. เฉลี่ยทุกจังหวัดขึ้นมา 23% ไม่มีเกิน 36%
ไม่ใช่ 100%
ปรับสองครับ ห่างกัน 8 เดือน ครั้งละ 39% กับ 23%... ไม่ใช่ขั้นบันไดอีกหรือ... ไม่มีเวลาปรับตัวอีกหรือ...
นานเกินพออีกครับ
หลังจากปรับตัวเสร็จแล้ว ต้องจ่ายย้อนหลังเขาด้วยซ้ำ
โรงงานที่เขาตั้งใจเปลี่ยนเขาก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว
เหลือก็พวกที่รอทำนาบนหลังคนต่อไปนั่นแหล่ะ รอเผื่อฟลุ๊ก รัฐบาลเปลี่ยนใจ
อย่าง 7-11 นี่ต้องจ่ายย้อนหลังด้วยไหมมมม
เพราะเพิ่งมาขึ้นค่าแรง เป็น 300 บาทปีนี้เอง
ห้าาาาาาาาาาาาาาาาา
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:13
มีประเทศไหนในโลกบ้างที่ปรับขึ้นค่าแรงงานงานพรวดพราดทีเดียวครั้งเดียว 100% กองเชียร์อีเอ๋อช่วยยกตัวอย่างมาให้ดูหน่อยครับ
ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรก มีปัญหาอะไรไหมเช?
เชื่อแล้วว่าสนับสนุน ปชป.มาตลอด ฮา.. เอิ้ก เอิ้ก ...
ไม่หรอก ท่านเช
คุณลี เค้าบอกว่า เค้ารักปชป จึงต้องเชียร์ รัฐบาลครับ
ห้าาาาาาาาาาาาาาาาา
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
ตอบ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 - 12:19
ในต้นๆความเห็นผมก็บอกอยู่แล้ว ว่าค่าแรงที่ปรับขึ้น มันก้ไม่ได้ทำให้กำลังซื้อของเขาเพิ่มขึ้น
เพราะค่าครองชีพมันถูกปรับสูงขึ้นไปรอตั้งแต่พึ่งออกข่าวว่าจะปรับค่าแรงแล้ว
อย่าลืมว่า ค่าครองชีพบ้านเรา ถูกปรับขึ้นทุกครั้ง ที่ค่าแรงขึ้นนะครับ
มันไม่ใช่เพราะค่าแรงขึ้น ค่าครองชีพจึงทยอยปรับตัวขึ้นไป
แต่มันถูกปรับขึ้นไปรอก่อนค่าแรงจะขึ้นด้วยซ้ำ
ผมไม่ทราบบ้านอื่นเมืองอื่นเขาเป้นแบบเราหรือไม่นะครับ
แต่บ้านเรามันเป็นแบบนี้
เมื่อเป็นแบบนี้ ต่อให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 500 เป็น 1000 ก็ไม่ได้ทำให้กำลังซื้อปัจจัยพื้นฐานของเขาเพิ่มขึ้นหรอกครับ
สิ่งสำคัญที่รัฐควรทำ คือการกระชากค่าครองชีพลงมาต่างหาก จึงจะไม่กระทบกับอะไรเลย
รัฐช่วยได้ยังไง เช่น การลดภาษี การอุดหนุนอุปกรณ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง หรือวัตถุดิบพื้นฐาน
และการบังคับใช้ผ่านกฏหมาย
กลัวมองไม่เห็น ผมทำเป็นสีแดงให้แล้วกันครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน