รู้สึกกัมพูชากลัวความจริงเหลือเกินนะ ถ้าใช้แผนที่อื่นสงสัยแพ้ชัวร์เลยใช่มะเลยเกาะจังเลยไอ้1:200000 เนี่ย
มาเกาะติดความคืบหน้าของคดีเขาพระวิหารกันดีกว่าครับ
#101
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:33
- nhum, เมรีสีน้ำเงิน, Lucas Leiva Benitez Rodger and 1 other like this
#102
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:37
คนนี้พูดไม่มีประเด็นเล้ย
#103
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:40
ผมขอให้ mod เอาไอ้แพรดออกไปได้มั้ยครับ
กระทู้นี้ติดตามคำให้การครับ ใครจะถกเถียงกันไปเปิดกระทู้ใหม่ครับ
ตราบใดที่พวกคนที่เล่นบอร์ดในเสรีไทยยังงมงายไอ้มาร์คที่พาไทยรับอํานาจศาลโลก เฮงซวย ก็ขอให้แมลงสาปทั้งแก๊งตายทั้งฝูงแล้วกัน เฮอะถึงไล่รัฐบาลนี้ไปผมฟันธงได้เลยว่าไอ้มาร์คจะยอมรับคําตัดสินศาลโลกแน่นอน
ยังไม่ตอบผมเลยหลายมู้แล้วว่าโหวตโนมันดียังไงนอกจากช่วยให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล
#104
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:41
กัมพูชาไม่เคยยอมรับการตีความของรัฐบาลไทย
ถึงแม้ไทยจะใช้กำลังยึดครองดินแดนก็ตาม
กัมพูชาก็แสดงออกโดยตลอดว่าเป็นดินแดนของเค้า
#105
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:44
ขอบคุณฮอนัมฮง ที่ช่วยประจานพฤติกรรมเถื่อน ของอดีตนายกรมต นอกจากบ้าสงครามแล้ว ยังสลายประชาชนคนไทยด้วยกันตายไป 100ศพ บาดเจ็บ2000กว่า
#107
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:47
การที่ไทยดำเนินการวางรั้วดังกล่าว กัมพูชาก็มีการประท้วงเป็นเอกสารไปประท้วง UN ทำให้เห็นได้ว่าไทยและกัมพูชามีข้อพิพาทกันจริง
การตีความในดคีนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
#108
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:49
การไกล่เกลี่ยโดย UN ไม่เป็นผล โดยกัมพูชายังเห็นว่าเขตแดนที่ไทยวางไว้ด้วยลวดหนามนั้นไม่ถึงครึ่งของเขตแดนจริง
#109
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:52
ไทยไม่แม้แต่จะยอมคืนตัวปราสาทให้แก่กัมพูชาอย่างแท้จริง โดยพยายามจะใช้รั้วลวดหนามมากันเอาไว้
แล้วไอ้รูปนี้มาไงครับ
- อู๋ ฮานามิ, เมรีสีน้ำเงิน, Manners and 1 other like this
#110
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:52
POPULAR
ขอบคุณฮอนัมฮง ที่ช่วยประจานพฤติกรรมเถื่อน ของอดีตนายกรมต นอกจากบ้าสงครามแล้ว ยังสลายประชาชนคนไทยด้วยกันตายไป 100ศพ บาดเจ็บ2000กว่า
บอร์ดนี้มีคนเขมรมาด้วย
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#111
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:55
กัมพูชาบอกว่าการสร้างวัดและชุมชนตามแนวภุมะเขืออยู่นอกแนวรั้วหนามของไทยด้วยซ้ำแต่ไทยก็ไม่ยอม
#112
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:55
ข้อความ “เอาก้อนหินของมึงคืนไป เอาแผ่นดินของกูคืนมา”
ซึ่งติดตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าวัดบ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ อาจจะฟังดูไม่สุภาพกับเพื่อน FB ที่ไม่ได้ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหว (เพราะถูกปิดกั้นไว้แทบทุกด้าน) แต่ในความรู้สึกรักชาติ รักแผ่นดิน รักพระมหากษัตริย์ไทย ที่ไม่ยอมให้ราชอาณาจักรไทยต้องสูญเสียไปในรัชสมัยของพระองค์แม้แต่ตารางนิ้วเดียว เพราะ ‘กิเลส’ ความเห็นแก่ตัว อันเป็นผลประโยชน์ระดับนานาชาตินั้น อาจจะเทียบไม่ได้เลยกับความไม่สุภาพของประโยคดังกล่าวข้างต้น
กำหนดการเคลื่อนไหวครั้งใหม่ เพื่อนำเสาธงสูง ๒๑ เมตร และธงไตรรงค์ขึ้นไปโบกสะบัดเหนือเขาพระวิหาร หลังสงกรานต์วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๖ นี้ เชื่อว่าน่าจะสำเร็จ ขอแรงใจชาว Social Media ช่วยกัน Share ข่าวนี้ให้กว้างขวางด้วย เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และอธิปไตยของไทย...ขอบคุณ
พีรวัศ กี่ศิริ
ปล. เอา แพรต21 ออกจากมู้นี้ด้วยยยยย!!
- ปุถุชน, กรรมกรไอที, nhum and 6 others like this
#113
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:56
เริ่มอ้างทักกี้แล้วอ่ะพี่น้องเอ้ย
- ปุถุชน, อู๋ ฮานามิ and HiddenMan like this
#114
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:57
บอกว่าทักษิณพยายามให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศแต่แล้วก็ถูกปฏิวัติโดยทหารไทย
- nhum and ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ like this
#115
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:58
ข้อความ “เอาก้อนหินของ*คุณ*คืนไป เอาแผ่นดินของกูคืนมา”
ซึ่งติดตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าวัดบ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ อาจจะฟังดูไม่สุภาพกับเพื่อน FB ที่ไม่ได้ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหว (เพราะถูกปิดกั้นไว้แทบทุกด้าน) แต่ในความรู้สึกรักชาติ รักแผ่นดิน รักพระมหากษัตริย์ไทย ที่ไม่ยอมให้ราชอาณาจักรไทยต้องสูญเสียไปในรัชสมัยของพระองค์แม้แต่ตารางนิ้วเดียว เพราะ ‘กิเลส’ ความเห็นแก่ตัว อันเป็นผลประโยชน์ระดับนานาชาตินั้น อาจจะเทียบไม่ได้เลยกับความไม่สุภาพของประโยคดังกล่าวข้างต้น
กำหนดการเคลื่อนไหวครั้งใหม่ เพื่อนำเสาธงสูง ๒๑ เมตร และธงไตรรงค์ขึ้นไปโบกสะบัดเหนือเขาพระวิหาร หลังสงกรานต์วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๖ นี้ เชื่อว่าน่าจะสำเร็จ ขอแรงใจชาว Social Media ช่วยกัน Share ข่าวนี้ให้กว้างขวางด้วย เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และอธิปไตยของไทย...ขอบคุณ
พีรวัศ กี่ศิริ
ปล. เอา แพรต21 ออกจากมู้นี้ด้วยยยยย!!
เอาแพรดไปปักธงด้วยเลย
#116
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 17:59
ไอ้เหล่มาแล้วครับ บอกว่ารัฐบาลไทยยุคนั้นสนับสนุนให้เขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร
แถมแนบแผนที่ซึ่งไม่ใช่ที่มีขอบเขตไว้ด้วย
#117
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:00
ไทยได้ยับยั้งแถลงการณ์ไอ้เหล่แล้วส่งแผนที่ฉบับใหม่ไปแต่กัมพูชาไม่เห้นด้วยกับแผนที่ฉบับใหม่
ไอ้เหล่ ว่าไงครับ
#119
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:02
ไม่ต้องเถียงกัีน พรรคแมงสาป ขายชาติ
ขายชาติครั้งที่1 ปี2505 มีอ้ายเอ๋อ ที่คนเมืองหลวงเอาไปเป็นผู้ว่า
ขายชาติครั้งที่2 ปี2553 มีอ้ายหน้าหล่อ เอาเรื่องไปขึ้นศาล สู้ึคดีอีกรอบ
พวกผู้ดีกรุงเทพ ชอบคนขายชาติ ครับพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศเอ้ยย
#120
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:03
ขอบคุณฮอนัมฮง ที่ช่วยประจานพฤติกรรมเถื่อน ของอดีตนายกรมต นอกจากบ้าสงครามแล้ว ยังสลายประชาชนคนไทยด้วยกันตายไป 100ศพ บาดเจ็บ2000กว่า
ขแมร์หลงมา ชิ้วๆๆๆๆๆๆ
'' Nobody Perfect ''
#121
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:03
ไม่ต้องเถียงกัีน พรรคแมงสาป ขายชาติ
ขายชาติครั้งที่1 ปี2505 มีอ้ายเอ๋อ ที่คนเมืองหลวงเอาไปเป็นผู้ว่า
ขายชาติครั้งที่2 ปี2553 มีอ้ายหน้าหล่อ เอาเรื่องไปขึ้นศาล สู้ึคดีอีกรอบ
พวกผู้ดีกรุงเทพ ชอบคนขายชาติ ครับพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศเอ้ยย
งง อะไรหว่าช่วยอธิบายความที
#122
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:04
แปลกดีนะ ถ้าปชป.ขายชาติแล้วทำไมเค้าโจมตีรัฐบาลปชป.ตลอดเลยล่ะวะ
- Moon, phoebus, เมรีสีน้ำเงิน and 2 others like this
#123
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:05
แถมอวยทักกี้+ไอ้เหล่เป็นวักเป็นเวรด้วยนะ
#124
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:06
ผมว่าน่าจะเอาจิ้งเหลนโยนไปที่โรงพยาบาลบ้านะครับ
เห็นแต่ละโพสต์แล้ว...
/人◕ ‿‿ ◕人\
- zombie!!!ภูธร likes this
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#125
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:07
ชัดนะครับ เค้าใช้แถลงการณ์และแผนที่ไอ้เหล่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเค้าด้วย
คงไม่ต้องมีการตีความ ณ จุดนี้นะครับ
จาก fb นพเหล่ครับ
http://www.facebook....1501938?fref=ts
5) คำแถลงการณ์ร่วมทำขึ้นเพื่อให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออก ไม่ใช่ทำขึ้นเพื่อให้กัมพูชาใช้ประกอบในการขึ้นทะเบียนมรดกโลก
พรรคประชาธิปัตย์โจมตีแบบแผ่นเสียงตกร่องว่าคำแถลงการณ์ร่วมที่ผมทำเป็นเหตุให้กัมพูชาสามารถขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารได้ฝ่ายเดียวซึ่งไม่จริงครับ อย่างที่เรียนไว้ในข้อ 4) ข้างต้น ถ้ากัมพูชาเขาเอาเฉพาะตัวปราสาทไปขึ้นทะเบียนมันจะไม่มีปัญหาเลยครับ เขาทำได้อยู่แล้ว เพราะตัวปราสาทเป็นของเขามา 51 ปีแล้ว แต่คำแถลงการณ์ร่วมเป็นผลของการเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออก และยอมขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น คำแถลงการณ์ร่วมทำขึ้นเพื่อปกป้องดินแดนครับ อุปมาอุปมัย คือคำแถลงการณ์ร่วมไม่ใช่บันไดให้กัมพูชาเหยียบเพื่อไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่เป็นกำแพงกั้นไม่ให้กัมพูชาเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกครับ
6) คณะกรรมการมรดกโลกห้ามนำคำแถลงการณ์ร่วมเข้าประกอบการพิจารณาในวันที่มีมติให้ขึ้นทะเบียนตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
ท่านคงจำได้นะครับว่าในเดือนมิถุนายน 2551 ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในเดือน กรกฎาคม 2551 ที่ประเทศแคนาดา ศาลปกครองได้สั่งไม่ให้ใช้คำแถลงการณ์ร่วม ดังนั้นแม้รัฐบาลสมัครจะเห็นว่าเอกสารนี้มีประโยชน์มาก แต่ก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล ดังนั้นในวันที่ 7 กค 51 ในวันที่พิจารณาว่าจะขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกหรือไม่ คณะกรรมการมรดกโลกมีมติในข้อ 5 ของมติคณะกรรมการมรดกโลก ห้ามนำคำแถลงการณ์ร่วมเข้าประกอบการพิจารณา ดังนั้นคำแถลงการณ์ร่วมจึ่งถูกตัดออกไม่ให้ใช้ประกอบการพิจารณาเลยครับ ผมก็แปลกใจว่าทั้งๆที่ผมมีเอกสารที่เป็นมติคณะกรรมการมรดกโลกยืนยันเช่นนี้ ก็มีคนออกมาตะแบงว่าคำแถลงการณ์ร่วมทำให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนตัวปราสาทได้ฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นความเท็จครับ
- ramboboy26 likes this
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#126
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:08
ไม่ต้องเถียงกัีน พรรคแมงสาป ขายชาติ
ขายชาติครั้งที่1 ปี2505 มีอ้ายเอ๋อ ที่คนเมืองหลวงเอาไปเป็นผู้ว่า
ขายชาติครั้งที่2 ปี2553 มีอ้ายหน้าหล่อ เอาเรื่องไปขึ้นศาล สู้ึคดีอีกรอบ
พวกผู้ดีกรุงเทพ ชอบคนขายชาติ ครับพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศเอ้ยย
ปี 2505 ไม่ใช่จอมพลสฤษดิ์เหรอฮะ
พวกไพร่ ชอบคนขายชาติ
- Kyubey and เมรีสีน้ำเงิน like this
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#127
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:08
เอาแผนที่เก่ามาโชว์
ให้ตายเหอะ ไม่อายกันบ้างหรอวะ ปัจจุบันนี้เค้าไปถึงไหนกันแล้ว?
#128
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:11
แผนที่1:200000มีข้อผิดพลาดจริง แต่พบเมื่อภายหลังคำตัดสินไปแล้ว ซึ่งไทยก็ยอมรับไปแล้วเช่นกัน
แผนที่ตัวจริงไม่สามารถยกมาอ้างอิงได้ เนื่องจากเขมรแดงเผาหอจดหมายเหตุกัมพูชาไปแล้ว
#129
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:12
ผมว่าไอ้เหล่ไอ้แม้วทุกข์หนักแล้วล่ะครับงานนี้
เจอแฉกลางศาลโลกเลย แถมแปลไทยด้วย หวังว่าจะมีควายตาสว่างบ้างนะ
- nhum, redfrog53, ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ and 3 others like this
#131
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:15
ข้อผิดพลาดในแผนที่นั้นกัมพูชายินดีเจรจา แต่ไม่มีผลในการเปลี่ยนคำพิพากษาใดๆ
#132
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:16
ไม่รู้คนแปลมึนรึทนายเมา
แต่ผมว่าเค้าพูดตรรกะขัดกันเองนะครับเรื่องแผนที่
คือพยายามจะบอกว่าแผนที่1:200000นั้นถูกแล้ว แต่ก็พยายามจะบอกว่าผิดเช่นกัน
#133
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:17
ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความถูกต้องของแผนที่ ณ ที่นี้แล้วเพราะไทยยอมรับไปแล้ว
#134
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:19
จาก 4.6 ตรกม.จะกลายเป็น 12*7 = 84 ตรกม. ตามแผนที่แล้วนะครับ
#135
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:21
การพิสูจน์แผนที่ใดๆไม่มีความจำเป็นเนื่องจากไม่มีทางเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาไปได้
#136
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:21
พักเที่ยงครับ
#137
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:22
สรุปง่ายๆไอ้เหล่เซ็นเเถลงการร่วมให้ทนายขเเมร์เอามาอ้างเรื่องเขตเเดน
ไอ้เหล่เป็นรมต.ต่างประเทศของไทยใช่ไหม
เพราะฉนั้นไอ้เหล่ขายชาติ
ไอ้เหล่งานงอกเเน่ๆ มีหวังได้ย้ายบ้านไปอยู่ขเเมร์ในไม่ช้านี้
#138
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:24
ศาลจะเริ่มการพิจารณาต่อตอนบ่ายสามเวลาที่นู่นนะครับ
บ้านเราก็คงสองทุม สองทุ่มครึ่ง ประมาณนั้น
#139
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:24
สรุปง่ายๆไอ้เหล่เซ็นเเถลงการร่วมให้ทนายขเเมร์เอามาอ้างเรื่องเขตเเดน
ไอ้เหล่เป็นรมต.ต่างประเทศของไทยใช่ไหม
เพราะฉนั้นไอ้เหล่ขายชาติ
ไอ้เหล่งานงอกเเน่ๆ มีหวังได้ย้ายบ้านไปอยู่ขเเมร์ในไม่ช้านี้
ฮอนัมฮง เขาบอก นายมาร์ค เริ่มรุกรานเขาก่อน ไปเกี่ยวไรกับ นพดล
คำต่อคำ : "กัมพูชา"แถลงด้วยวาจาปมพระวิหารต่อศาลโลก-อ้าง "ไทย"รุกรานก่อน
"ฮอร์ นัม ฮง" รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงด้วยวาจาฟ้องศาลโลกไทยเริ่มรุกรานก่อน ใช้อาวุธในพื้นที่ใกล้ปราสาททำให้เกิดความเสียหาย
นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แถลงด้วยวาจาต่อศาลโลก ว่า กรณีพระวิหารที่เกิดขึ้นนั้น ขอให้ทนายของเราให้รายละเอียดในส่วนที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่จะมีการพูดถึงบริบทที่จะทำให้ศาลตัดสินสิ่งเหล่านี้ที่จะทำให้เกิดมิตรภาพ เชื่อว่าไม่เพียงแต่เป็นโอกาสเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของสาระอัตถคดีที่จะนำเสนอต่อท่าน โดยกล่าวว่าทำไมเรื่องเกิดขึ้นมา 50 ปีแล้วจึงยกขึ้นมา เรื่องมาตรการชั่วคราวที่ศาลสั่งเมื่อ มิ.ย. 2511 ทำไมกัมพูชาจึงย้อนกลับมา 50 ปี อันนี้ไม่ใช่การทำขบวนการที่ซ้ำซากแต่เรารู้สึกว่าจำเป็นที่จะต้องกลับมาที่ศาลเพื่อพูดถึงการตีความที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นที่รับรู้กันดีตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้ สมัยรัฐมนตรีคุณอภิสิทธิ์ มีการรุกรานชายแดนทั้งสองประเทศหลายครั้ง ตั้งแต่เราพยายามขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และประเทศไทยคัดค้าน หากไม่มีการรุกรานเราคงขึ้นทะเบียนได้อย่างสันติ ทางกัมพูชาก็คงไม่มีประชาธิปไตย ทำให้เกิดกรณีที่มีการพูดไว้อย่างชัดเจนในสิ่งตีพิมพ์ นอกจากนั้นก็มีการโจมตีที่กระทำขึ้นต่อกัมพูชา เกิดการเสียชีวิต ประเทศไทยนั้นทำเหมือนกับไม่ทราบว่ามีการพิพาทระหว่างประเทศ ได้มีท่าทีที่ไม่สอดคล้อง จริงอยู่ประเทศไทยรับคำพิพากษาในการตีความ เห็นว่าประเทศไทยนั้นพยายามลดขอบเขตสถานการณ์ในปัจจุบัน ได้มีการเจรจา ได้มีการถอนทหาร มาตรการชั่วคราว เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ในระหว่างที่มีการประชุมคณะทำงานร่วม ประเทศไทยก็พยายามหาช่องโหว่อันนี้เป็นการเกิดขึ้นทำให้ มันไม่เป็นไปตามคำพิพากษาเดิม ในวันที่ 11 มีนาคม 2011 ประเทศไทยนั้นปรารถนาให้กัมพูชาถอดทหารออกไป ลักษณะอันนี้เป็นลักษณะดูหมิ่นกฎหมาย บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เป็นเรื่องเจรจา ในขณะที่เอ็มโอยูนั้นเกี่ยวข้องเฉพาะเรื่องที่ทำเกี่ยวกับเขตแดนเท่านั้น ท่าทีของแระเทศไทยอ้างว่าไม่มีข้อพิพาทซึ่งประเทศไทยพูดออกมาชัดเจน เป็นเรื่องแปลกในคำให้การของประเทศไทย มีลักษณะที่เป็นการดูหมิ่น ประเทศไทยพยายามไม่เห็นด้วย ทำให้เรื่องทั้งหลายมีความสับสน เรื่องของแผนที่ มีการคัดค้านเกี่ยวกับพื้นที่ที่ประเทศไทยโต้แย้ง ประเทศไทยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ทำให้คำพิพากษามีความล่าช้า กลยุทธ์อันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่เห็นมาก่อน
คำถามที่ถามนั้นเป็นเรื่องอธิปไตย นับตั้งแต่มีการระบุออกมาอย่างชัดเจน และศาลได้ถอนกำลังทหารออกไป เราจะเข้าใจได้อย่างไรว่ามีการถอนกำลัง แผนที่นั้นเป็นสิ่งที่อ้างอิงว่าเป็นเขตแดน ต้องการให้มีการตีความในปี 1962 โดยประเทศไทยพยายามที่จะทำให้ศาลมีความไม่แน่ใจ คือกัมพูชาเป็นประเทศที่อยู่ในภาคผนวก มีพันธะกรณี ดังนั้นบทสรุปคือกัมพูชาไม่ได้ต้องการให้ศาลพิจารณาวงรอบที่เกิดขึ้น เป็นการอยู่ร่วมกัน หากไม่มีการตีความวันที่ 15 มิ.ย.1962 ทำให้เราไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศได้ คำตัดสินนี้จะช่วยคลายความขัดแย้ง ทุกคนทราบดีถึงประวัติศาสตร์ทางการเมือง มีการสูญเสียชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นศาลไม่สามารถปฏิเสธได้ ผมอยากจะขอขอบคุณที่ท่านได้รับฟัง
คดีเกิดขึ้นของกัมพูชา หน้าที่ของผมคือ เราจะโต้ข้อกล่าวหาของประเทศไทยอย่างไร กัมพูชามองวิธีการที่คดีความนี้ ความรู้สึกของกัมพูชาหลังจากที่ได้อ่านมา ก่อนอื่นพูดถึงปี 1962 ประเทศไทยสรุปได้ง่าย ๆ คือ ตัวบทของข้อปฏิบัติการ เชื่อมโยงกับพันธะกรณีของประเทศไทย มีการกล่าวถึงเขตแดนกัมพูชา ในเรื่องที่ศาลได้กล่าวเอาไว้ ซึ่งสิ่งเป็นการตีความโดยฝ่ายของประเทศไทยอย่างเดียวนั้นเราไม่สามารถยอมรับได้ อันนี้เห็นได้แล้วอย่างชัดเจน ข้อกล่าวหาของประเทศไทย น้ำเสียงที่ใช้เป็นน้ำเสียงที่เสียดสี ประเทศไทยกล่าวว่ากัมพูชามีการกลัว อันนี้เป็นการกล่าวของฝ่ายไทยนั้น ยังไม่พอใช้น้ำเสียงถากถางมีการนำเสนอที่บิดเบือน ประเทศไทยคงไม่ทราบว่าจะตอบมาอย่างไร ประเทศไทยตั้งแต่ตอนต้นคิดว่ากัมพูชาไม่สามารถได้อะไร แผนที่ในภาคผนวก ไม่มีความเชื่อมโยง ศาลนั้นได้ตัดสินไปแล้วโดยผิดพลาด ความผิดครั้งนี้เป็นการตีความพื้นที่อยู่ในประเทศใด พูดถึงการใช้กำลังทหารเลย ซึ่งก็มีการแยกออกมาในปี 1962 การใช้กำลังทหารจะเกิดขึ้นได้อย่างไรในเขตแดนไทย เพราะฉะนั้นจากการใช้เหตุผลอันนี้ที่ได้อธิบายว่าเราอาจแยกออกได้เป็น 3 ส่วน
สำหรับประเทศไทยไม่มีอำนาจในการตีความได้ แต่ถ้าศาลเกิดมีอำนาจในการตีความได้ บทปฏิบัติการต่าง ๆ ต้องแยกอกมาไม่เป็นที่สิ้นสุด ถ้าศาลจะตีความขึ้นมา นิยามฝ่ายเดียวเป็นไปได้ว่า อันนี้ไม่ใช่พันธะกรณีที่ต่อเนื่อง ข้อพิพาทระหว่างคำร้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่อ้างอิงข้อขัดแย้งมากมาย มันเป็นสิ่งที่ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร ประเทศกัมพูชา ศาลจะเห็นด้วยกับคำตีความ ไม่ใช่เรื่องการพิจารณา เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ คำถามที่เป็นประเด็นซึ่งประเทศไทยมองกลับกันสิ้นเชิง อันดับแรกคือ การที่กัมพูชาได้ตอบอย่างชัดเจน ข้อพิพาทที่เชื่อมโยงกัน ข้อ 60 ตอบแก้อย่างไม่ชัดเจน ใน 2 ประเด็นอะไรที่เป็นความหมาย และกัมพูชาขอร้องให้มีการตีความหมายอันนี้เป็นสิ่งที่รับฟังได้ ศาลต้องใส่ใจ มีแผนที่อื่น ๆ อีกมีส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องเลย แผนที่ภาคผนวกหนึ่งในปี 1962 ข้าพเจ้าขอให้ท่านขอบคุณที่ได้ให้อภิปรายเรื่องของข้อโต้แย้งประเทศไทยในความเป็นจริง ซึ่งประเทศไทยนั้นอยากจะให้มี เขตแดนเป็นเรื่องที่ขัดแย้ง สิ่งที่ประเทศไทยอยากจะได้ สิ่งที่ท้าทาย ทำให้เรานำไปสู่การพิจารณาแตกต่างจากสิ่งที่ปฏิบัติการ ซึ่งกัมพูชาได้เรื่องของสันติภาพความร่วมมือระหว่างประเทศ
ถ้าศาลเห็นเหมาะสม ก็พักคำร้องเกี่ยวข้องเรื่องที่ธรรมนูญของศาล เป็นสิ่งที่เรารองรับได้ว่าผลที่ตามมามีอะไรบ้าง วัตถุประสงค์ในการที่จะทำความเข้าใจ แง่ของคุณภาพสิ่งนี้ออกมาอย่างจริง อันนี้เป็นเจตนาที่ขัดแย้งกับคู่ไม่สนใจอีกฝ่ายหนึ่ง สิ่งที่เราขอให้ศาลเห็นชอบ ศาลมีหน้าที่ในการพิจารณาเป็นกระบวนการข้อผูกพันวัตถุประสงค์ในการตีความนี้ ข้อ 60 เป็นผลมาจากการที่พิพากษา ความหมายที่ศาลมีเจตนารมณ์ ไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่ล้มล้างขอในทางทฤษฎีในทางปฏิบัติเป็นอย่างไร ประเทศไทยมองเห็นแล้วว่าศาลให้ตัดสินบางอย่าง มุมมองของกัมพูชา พยายามโน้มน้าวจิตใจศาล เป็นวัตถุประสงค์ ขอให้ศาลตัดสินการโต้แย้งระหว่าง 2 ประเทศนั้น ยิ่งไปกว่านั้นกัมพูชาต้องเผชิญ เรื่องของภัยอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ ประเทศไทยบอกว่าเป็นการสาธิต เป็นการพิจารณา มีมุมมองต่างกัน เป็นไปได้ที่ว่า อยากจะขอให้ ไม่ใช่สิ่งที่ยอมรับ ถ้าประเทศไทยสามารถทำเช่นนั้นได้ ถึงตอนนี้อยากจะขอเรื่องของประเด็น ไม่มีการความ การร้องขอตีความเป็นสิ่งที่รับฟังได้ ประเทศไทยบอกว่า ศาลได้รับคำร้องในแง่ของอำนาจศาล ศาลมีอำนาจที่จะตีความ แนวคำพิพากษาสิ่งนี้เกิดขึ้นในมาตรการ มีอำนาจในข้อที่ 60 ว่าด้วยอำนาจของศาลหรือไม่ก็ตาม จากข้อ 60 เป็นสิ่งที่ศาลจะต้องทำ เรื่องของความขัดแย้งกัมพูชา สิ่งที่ศาลจะต้องพิจารณาคำร้องการตีความที่ดี มีตัวอย่างที่ดี ในปี 1917 ขอให้มีการตีความข้อโต้แย้งระหว่าง 2 ประเทศนี้ยังไม่มีการตัดสิน ประเทศไทยโต้แย้งว่ายังไม่ชัดเจน ข้าพเจ้าจะอธิบายข้อพิพาทระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา ในแง่ของการตีความนี้ ข้อโต้แย้งนี้ ข้อพิพาทไม่จำเป็นต้องกล่าวซ้ำอีก ศาลบอกว่าข้อพิพาทจะต้องเป็นไป ภายหลังที่ศาลจะต้องทำให้ในแง่แสดงออกอย่างชัดเจน ศาลได้เห็นได้รับรองในสิ่งนี้ เรื่องของการเจรจาการพูด มันไม่ต้องแสดงออกได้ เป็นสิ่งที่แสดงออกโดย 2 รัฐบาล เรื่องข้อโต้แย้ง ข้อพิพาทนี้ เป็นสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญนำเสนอ ในกระบวนการพิจารณาคดีอันดับแรกคือ การตีความ เราไม่สามารถย้อนกลับไปได้ สิ่งที่ยื่นมาไม่สามารถไปลบล้างได้ มันไม่มีรากฐาน มีการดัดแปลงสิ่งที่ศาลได้ตัดสินไปแล้ว ได้อกบทบาท เป็นสิ่งที่สำคัญว่า ข้อ 60 เป็นหนี้ของศาล ประเทศไทยอยากจะเปลี่ยนแปลง
ประเทศไทยไม่ให้ความสำคัญแก่ศาลเลย ข้อสรุปที่ยื่นมานั้นเป็นสิ่งที่สรุปไม่ได้ เราพยายามที่จะมี ประเทศไทยเพิ่งมาค้นพบภายหลัง ซึ่งในวรรค 17 ที่เป็นคำแถลงการณ์ลายลักษณ์อักษร ในแง่ของ ข้อโต้แย้ง ศาลได้กล่าวต่อไปนี้ คดีที่พิจารณามีจริงหรือไม่ จุดเบื้องต้นก็คือกัมพูชา วรรคที่สอง บอกว่ามีการเชื่อมโยงกับวรรคที่หนึ่ง ซึ่งเป็นผลที่ศาลแสดงออกมาอย่างชัดแจ้ง ในเรื่องของตัวปราสาท ในวรรคที่สองนั้นกัมพูชาเสนอว่า ท่าทีของประเทศไทยปฏิเสธในวรรคที่สอง ซึ่งอันนี้เป็นองค์ประกอบเบื้องต้น เป็นการปฏิเสธความหมายเป็นการถอนกำลังออกไป ทางกัมพูชาได้ถอดออกไป เป็นเรื่องข้อพิพาทขอบเขต หลังจากนั้นแล้วเป็นเรื่องของพันธะกรณีที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทางไทยถอนกำลังออกไปในวันที่มีการตัดสิน ซึ่งศาลเองคงไม่ออกคำสั่งอะไรอย่างนั้น ทางฝ่ายไทยนั้นได้ยินพูดหลายครั้งบอกว่ามีการถอนออกมา ในวรรคที่สามข้อปฏิบัติการประเทศไทยยังทำเช่นนั้นต่อไป ซึ่งทางกัมพูชาไม่ได้คัดค้านออกไป หลังจากนั้นก็ไม่ได้คัดค้านเป็นเวลานาน มีการพูดถึงลักษณะที่เป็นการต่อเนื่อง ที่บอกว่าเป็นการแถลงออกมาเป็นการดำเนินการไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีกำลังทหาร ไม่สำคัญอะไรเท่าไร ยังคงมีอยู่ โดยพื้นฐานดังกล่าวเกิดขึ้นจากตรงนี้
อ่าน 395
15-04-13 16:38
#140
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:29
สงสัยไม่ได้ฟัง
เค้าออกชื่อไอ้ทักกี้ตรงๆเลย
แถมบอกว่ารัฐบาลสมัครยอมรับให้เขมรขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียวด้วย
แล้วใครเป็นรมต.บัวแก้วยุคสมัครวะครับ?
- nhum, redfrog53, เมรีสีน้ำเงิน and 2 others like this
#141
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:30
สรุปประเด็น
เครดิตจาก https://www.facebook.../thaiarmedforce
สรุปการแถลงเปิดคดีของฮอนัมฮง รมต.ต่างประเทศของกัมพูชา
ฮอนัมฮงกล่าวว่าทั้งสองประเทศมีข้อขัดแย้งกันอย่างรุนแรง จึงอยากให้ #ศาลโลก ตีความคำพิพากษาเพื่อสันติภาพ
ฮอนัมฮงกล่าวว่าทั้งสองประเทศมีข้อขัดแย้งกันอย่างรุนแรง จึงอยากให้ #ศาลโลก ตีความคำพิพากษาเพื่อสันติภาพ
ไทยลดขอบเขตการพิพากษา จึงต้องตีความอีกครั้ง ไทยไม่ยอมถอนทหารตามศาลสั่ง
ไทยอาศัยช่องโหว่ทางกฏหมายกีดกันผู้สังเกตุการณ์อินโดนิเซีย เหมือนการล่าอาณานิคมของไทย
ไทยอ้างว่าไม่มีข้อพิพาษ ไทยพูดซ้ำซากและดูหมิ่น พยายามไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาปี 1962
กัมพูชาต้องการให้ตีความ ไม่ใช่เรื่องการปักปันเขตแดน เพราะเขตแดนต้องว่าตามแผนที่1:200000 ของกัมพูชา
กัมพูชาต้องการให้ตีความ ไม่เพียงแต่พิจารณาขอบเขตปราสาท แต่เป็นสัญลักษณ์ของสันติ
ถ้าไม่มีการตีความ อาจทำให้สองประเทศอยู่ร่วมกันโดยสันติไม่ได้
- คนปลูกต้นไม้ likes this
#142
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:30
สรุปการแถลงของทนายฝ่ายกัมพูชาคนที่ 1
ทั้งสองประเทศยอมรับแผนที่ในภาคผนวก 1 ของกัมพูชา ไม่สามารถแยกออกจากบทปฏิบัติการได้
ไทยต้องการได้ปราสาทคืน โดยบอกว่าคำตัดสินปี 2505 ผิดพลาด แต่ไม่ยอมพูดถึงการใช้กำลังทหาร
นี่ไม่ใช่การพิจารณาคดีใหม่ ไทยไม่เข้าใจว่าการตีความคืออะไร
กัมพูชาจะแสดงว่ามีข้อพิพาษชัดเจนในคำพิพากษา ... แผนที่อื่นไม่เกี่ยวข้อง ต้องใช้แผนที่ภาคผนวก 1
ไทยต้องการกลับคำพิพากษาในปี 2505
- คนปลูกต้นไม้ likes this
#143
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:31
สรุปการแถลงของทนายฝ่ายกัมพูชาคนที่ 2
ศาลมีหน้าที่ทำให้คู่ความเข้าใจว่าศาลตัดสินอะไร เพราะทั้งสองฝ่ายเห็นไม่ตรงกัน
การตีความคือการชี้ว่าขอบเขตของปราสาทคืออะไร ไม่ใช่การทำซ้ำหรือให้พิพากษาใหม่
ไทยต้องการให้ตัดสินในสิ่งที่ไม่ได้ตัดสินในปี 2505 ไทยกล่อมศาลว่าคำพิพากษา 2505 ผิดพลาด
การโต้่แย้งของทั้งสองประเทศทำให้มีความเข้าใจไม่ตรงกันในคำพิพากษา 2505
ความขัดแย้งสร้างความเสียหายต่อตัวปราสาท ศาลควรมีคำอธิบายที่ชัดเจน
กัมพูชายินดีให้ไทยร่วมตีความได้ แม้ว่าไทยจะเห็นต่างในคำพิพากษาก็ตาม เห็นว่าไทยเห็นสอดคล้องว่าควรตีความ
ตาม.60 ธรรมนูญศาลโลกนั้น ทำให้ศาลไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะต้องตีความ
มีข้อพิพาษระหว่างสองประเทศจากคำพิพาษา การเจรจาทางการฑูตไม่บรรลุผล
สิ่งที่ไทยยื่นมาลบล้างคำพิพากษา 2505 ไม่ได้ ไทยไม่ให้ความสำคัญและไม่ซื่อสัตย์ต่อศาล
พันธะที่ไทยต้องถอนทหารมีลักษณะต่อเนื่อง แต่ไทยไม่ถอนจริง
ไทยต้องไม่รุกรานดินแดนของกัมพูชา คำถามก็คือดินแดนของกัมพูชานั้นอยู่ตรงไหนในพื้นที่
กัมพูชาจึงอยากให้ศาลอธิบายว่าขอบเขตของปราสาทคืออะไร แม้ว่าไทยจะยอมรับว่าต้องถอนทหารหรือไม่ก็ตาม
คำพิพากษาไม่ได้บอกว่าจะถอนแล้วต้องถอนไปไหน เอากำลังไปไว้ที่ไหน ทั้งนี้ต้องถอนจากดินแดนกัมพูชากลับไทย
ดังนั้นจะไม่สามารถบอกได้ว่าไทยต้องถอนทหารออกจากดินแดนกัมพูชาตรงไหน ถ้าไม่กำหนดเขตแดนให้
ไทยปฏิเสธแผนที่ภาคผนวกที่ 1 และสร้างข้อขัดแย้งขึ้นมาเอง ถ้ามีใครไม่พอใจภาคผนวก 1 ก็คือไทยคนเดียว
สรุปการแถลงของทนายฝ่ายกัมพูชาคนที่ 2 (ต่อ)
จะชี้ว่ากัมพูชามีเอกราชเหนือดินแดนตามแผนที่ 1:200000 ตามภาคผนวก 1 ในคำพิพากษา 2505
จากเอกสารของไทย การกำหนดพื้นที่ปราสาททำได้สองวิธีคือ...ขีดตามมติครม.ไทยปี 2505 หรือขีดทับพื้นที่ทับซ้อนไปด้วย แต่ครม.ไทยตอนนั้นเลือกแบบที่เสียน้อยกว่า
ครม.ไทย 2505 บอกว่ามีการปักป้าย และให้ล้อมรั้วลวดหนาม ถือว่านี่คือการตีความของไทย
ครม.ไทย 2505 คิดเส้นเขตแดนขึ้นมาเอง ไม่มีเหตุผลสนับสนุน
การที่ไทยทำแบบนี้แปลว่าแผนที่ภาคผนวก 1 กับบทปฏิบัติการมีความเกี่ยวข้องกัน
แผนที่ปี 2550 มีเส้นเขตแดนตามแนวสันปันน้ำ ซึ่งเป็นการดำเนินการของไทยเพียงฝ่ายเดียว
รั้วของไทยจะเป็นเขตแดนได้อย่างไรถ้าเราไม่ตีความคำพิพากษา เพราะจริงๆแล้วมันเป็นแค่การประมาณของไทย
คำว่าไทยจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษานั้นอาจไม่ชัดเจน จึงต้องมีการตีความว่าจะให้ไทยปฏิบัติอย่างไร
คำว่าไทยจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษานั้นอาจไม่ชัดเจน จึงต้องมีการตีความว่าจะให้ไทยปฏิบัติอย่างไร
เส้นเขตแดนตามแผนที่ 1:200000 เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้รู้ว่าปราสาทอยู่ตรงไหน
การที่กรมพระยาดำรงเดินทางไปเยี่ยมปราสาทหลังศาลตัดสินนั้นเป็นการทำตามแผนที่ที่ไทยยึดเอาเอง
แม้ว่าศาลจะไม่ได้ลากเส้นเขตแดนให้ แต่สนธิสัญญาสยามฝรั่งเศสก็ลากเส้นเขตแดนให้แล้ว
ไทยอ้างว่ากัมพูชาร้องขอเกินคำพิพากษาและศาลไม่ได้ตัดสินเรื่องเขตแดน ซึ่งกัมพูชาไม่เห็นด้วย
กัมพูชาต้องการให้ศาลตัดสินว่าแผนที่ 1:200000 ตามภาคผนวก 1 นั้นใช้ได้ในการแบ่งเขตแดน และต้องการให้ปฏิเสธคำขอของไทย
การขอให้ศาลตีความนั้นคือการพยายามหาทางออก ข้ออ้างของไทยที่ว่าไม่ควรต้องตีความไม่มีเหตุผลสนับสนุนและต้องไม่ตัดสินให้ตามที่ไทยร้องขอ
Edited by ramboboy26, 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:31.
- คนปลูกต้นไม้ likes this
#144
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:31
สรุปการแถลงของทนายฝ่ายกัมพูชาคนที่ 3
แผนที่ของไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำพิพากษา เป็นแผนที่ที่ทำขึ้นใหม่ ทั้งที่ควรใช้แผนที่ 1:200000
ที่ผ่านมามีข้อพิพาษในด้านการตีความจริงระหว่างคู่ความทั้งสอง ข้อพิพาษไม่จำเป็นต้องเป็นทางการก็ได้
ไทยเพิกเฉยเอกสารจำนวนมากที่แสดงว่ามีความขัดแย้ง และไม่ลังเลที่จะอ้างแผนที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำพิพากษา
กัมพูชาจะแสดงให้เห็นว่ามีข้อพิพาษกันในการตีความ และไทยตีความต่างจากคำพิพากษา
สองอาทิตย์หลังจากคำพิพากษา 2505 ผู้เชี่ยวชาญของไทยบอกว่ามีสองทางในการขีดเส้น คือเส้นเหลืองกับเส้นน้ำเงิน
นี่แสดงให้เห็นว่าไทยก็มีความเห็นที่ต่างในการตีความคำพิพากษา
แต่กัมพูชาปฏิเสธการขีดเส้นของไทยตลอดมา แม้ว่าไทยจะสั่งให้กองทัพโจมตีใครก็ตามที่ข้ามเส้นก็ตาม
หลังจากกครม.2505 ไทยมีมติ เจ้าสีหนุก็ไปเยือนปราสาท แต่เจ้าหน้าที่ไทยบอกว่าไทยจะยิงใครก็ตามที่ข้ามเส้นนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไทยตีความคำพิพากษาอย่างไร
จนท.สหประชาชาติทำรายงานหลังจากนั้นบอกว่ากัมพูชาไม่เห็นด้วยกับการตีความของไทยในคำพิพากษา
รัฐบาลฝรั่งเศสก็รับทราบท่าทีการปฏิเสธของกัมพูชาที่ปฏิเสธแนวรั้วของไทย
และรมต.ตปท.ของกัมพูชาก็บอกว่าแนวรั้วนั้นขัดกับคำพิพากษา ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีมุมมองต่างกัน
แนวรั้วนั้นไทยกำหนดฝ่ายเดียวโดยไม่คำนึงถึงคำพิพากษา ซึ่งควรจะเป็นกัมพูชาที่เป็นคนกำหนด
ในปี 2508 และ 2510 กัมพูชาได้แสดงการปฏิเสธรั้วลวดหนามของไทยโดยการส่งจัดหายไปประท้วง UN
หลังจากที่ UN ส่งจนท.มาไกล่เกลี่ย กัมพูชาก็ยืนยันว่าปราสาทและพื้นที่ทับซ้อนนั้นเป็นของกัมพูชา
และรั้วลวดหนามที่่ไทยทำไว้อยู่ไม่ถึงครึ่งทางของเขตแดนที่ควรเป็น
นี่แสดงชัดเจนว่ารั้วลวดหนามไม่มีความสำคัญ ในปี 2510 กัมพูชาได้แถลงข่าวคัดค้านรั้วของไทย
ไทยแสดงเจตนาที่ไม่ดีในการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ซึ่งไทยไม่ยอมคืนและได้ทำรั้วลวดหนามล้อมไว้
ไทยอ้างว่าไม่มีหลักฐานว่ากัมพูชาคัดค้านรั้วลวดหนาม ทั้งที่ความจริงตรงกันข้าม
จากสงครามกลางเมืองกัมพูชา ปี 2534 มีข้อตกลงสันติภาพในปารีสบอกว่าจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวปราสาท
กัมพูชามีการสร้างวัดและตลาดนอกเส้นแนวรั้วของไทยและภูมะเขือ แต่ไทยไม่คัดค้านในเรื่องนี้
ปี 2547 ไทยส่งบันทึกว่าตลาดและชุมชนกัมพูชาขยายตัวและส่งผลกระทบต่อเขตแดน แต่ไม่ได้กล่าวว่าตลาดและชุมชนละเมิดเขตแดนของไทย
ข้อพิพาษที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการขึ้นทะเบียนมรดกโลก เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย
แผนที่ 1:50000 ของไทยเป็นแผนที่ใหม่ ไม่ได้อยู่ใน MoU ปี 2543
กัมพูชาประท้วงไปที่ UN ในปี 2551 ว่าแผนที่ 1:50000 ของไทยไม่ตรงตามคำพิพากษา
แผนที่ 1:200000 ต้องมองภาพรวมของแผนที่ ไม่ต้องตีความแล้วว่าแผนที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะศาลตัดสินแล้ว
เพราะข้อผิดพลาดในแผนที่ 1:200000 ไม่ได้ถูกพบในระหว่างการพิจารณาแต่มาพบภายหลัง และไทยยอมรับไปแล้ว
ข้อผิดพลาดในแผนที่ 1:200000 อาจจะพูดคุยกันได้ แต่ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษา
การที่ไทยยอมรับแผนที่ 1:200000 ในภาคผนวก 1 ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่าสันปันน้ำอยู่ที่ใด
ไม่ต้องพิสูจน์แล้วว่าสันปันน้ำในแผนที่ 1:20000 ของภาคผนวก 1 นั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะไทยยอมรับไปแล้ว
สันปันน้ำไม่สำคัญ เพราะสุดท้ายต้องมาดูว่าแผนที่บอกไว้ว่าเขตแดนอยู่ตรงไหน
ทนายสรุปว่าหลักฐานชัดเจนว่ามีข้อพิพาทด้านการตีความ และไทยก็ตีความแตกต่างจากคนอื่น
เรื่องนี้เป็นประเด็นเพราะไทยไม่เห็นด้วยกับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกและแผนที่ของไทยเป็นแผนที่ใหม่
จนเกิดความขัดแย้งกันจนทำให้กัมพูชาต้องมายื่นตีความคำพิพากษา
- คนปลูกต้นไม้ likes this
#145
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:31
สรุปง่ายๆไอ้เหล่เซ็นเเถลงการร่วมให้ทนายขเเมร์เอามาอ้างเรื่องเขตเเดน
ไอ้เหล่เป็นรมต.ต่างประเทศของไทยใช่ไหม
เพราะฉนั้นไอ้เหล่ขายชาติ
ไอ้เหล่งานงอกเเน่ๆ มีหวังได้ย้ายบ้านไปอยู่ขเเมร์ในไม่ช้านี้
ยังยืนยันเหมือนเดิมสั้นๆง่ายๆ เหล่ขายชาติ ถ้าเหลนไม่เข้าใจให้อ่านซ้ำหลายๆครั้ง
#146
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:31
สรุปง่ายๆไอ้เหล่เซ็นเเถลงการร่วมให้ทนายขเเมร์เอามาอ้างเรื่องเขตเเดน
ไอ้เหล่เป็นรมต.ต่างประเทศของไทยใช่ไหม
เพราะฉนั้นไอ้เหล่ขายชาติ
ไอ้เหล่งานงอกเเน่ๆ มีหวังได้ย้ายบ้านไปอยู่ขเเมร์ในไม่ช้านี้
ฮอนัมฮง เขาบอก นายมาร์ค เริ่มรุกรานเขาก่อน ไปเกี่ยวไรกับ นพดล
คำต่อคำ : "กัมพูชา"แถลงด้วยวาจาปมพระวิหารต่อศาลโลก-อ้าง "ไทย"รุกรานก่อน
"ฮอร์ นัม ฮง" รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงด้วยวาจาฟ้องศาลโลกไทยเริ่มรุกรานก่อน ใช้อาวุธในพื้นที่ใกล้ปราสาททำให้เกิดความเสียหาย
นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แถลงด้วยวาจาต่อศาลโลก ว่า กรณีพระวิหารที่เกิดขึ้นนั้น ขอให้ทนายของเราให้รายละเอียดในส่วนที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่จะมีการพูดถึงบริบทที่จะทำให้ศาลตัดสินสิ่งเหล่านี้ที่จะทำให้เกิดมิตรภาพ เชื่อว่าไม่เพียงแต่เป็นโอกาสเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของสาระอัตถคดีที่จะนำเสนอต่อท่าน โดยกล่าวว่าทำไมเรื่องเกิดขึ้นมา 50 ปีแล้วจึงยกขึ้นมา เรื่องมาตรการชั่วคราวที่ศาลสั่งเมื่อ มิ.ย. 2511 ทำไมกัมพูชาจึงย้อนกลับมา 50 ปี อันนี้ไม่ใช่การทำขบวนการที่ซ้ำซากแต่เรารู้สึกว่าจำเป็นที่จะต้องกลับมาที่ศาลเพื่อพูดถึงการตีความที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นที่รับรู้กันดีตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้ สมัยรัฐมนตรีคุณอภิสิทธิ์ มีการรุกรานชายแดนทั้งสองประเทศหลายครั้ง ตั้งแต่เราพยายามขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และประเทศไทยคัดค้าน หากไม่มีการรุกรานเราคงขึ้นทะเบียนได้อย่างสันติ ทางกัมพูชาก็คงไม่มีประชาธิปไตย ทำให้เกิดกรณีที่มีการพูดไว้อย่างชัดเจนในสิ่งตีพิมพ์ นอกจากนั้นก็มีการโจมตีที่กระทำขึ้นต่อกัมพูชา เกิดการเสียชีวิต ประเทศไทยนั้นทำเหมือนกับไม่ทราบว่ามีการพิพาทระหว่างประเทศ ได้มีท่าทีที่ไม่สอดคล้อง จริงอยู่ประเทศไทยรับคำพิพากษาในการตีความ เห็นว่าประเทศไทยนั้นพยายามลดขอบเขตสถานการณ์ในปัจจุบัน ได้มีการเจรจา ได้มีการถอนทหาร มาตรการชั่วคราว เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ในระหว่างที่มีการประชุมคณะทำงานร่วม ประเทศไทยก็พยายามหาช่องโหว่อันนี้เป็นการเกิดขึ้นทำให้ มันไม่เป็นไปตามคำพิพากษาเดิม ในวันที่ 11 มีนาคม 2011 ประเทศไทยนั้นปรารถนาให้กัมพูชาถอดทหารออกไป ลักษณะอันนี้เป็นลักษณะดูหมิ่นกฎหมาย บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เป็นเรื่องเจรจา ในขณะที่เอ็มโอยูนั้นเกี่ยวข้องเฉพาะเรื่องที่ทำเกี่ยวกับเขตแดนเท่านั้น ท่าทีของแระเทศไทยอ้างว่าไม่มีข้อพิพาทซึ่งประเทศไทยพูดออกมาชัดเจน เป็นเรื่องแปลกในคำให้การของประเทศไทย มีลักษณะที่เป็นการดูหมิ่น ประเทศไทยพยายามไม่เห็นด้วย ทำให้เรื่องทั้งหลายมีความสับสน เรื่องของแผนที่ มีการคัดค้านเกี่ยวกับพื้นที่ที่ประเทศไทยโต้แย้ง ประเทศไทยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ทำให้คำพิพากษามีความล่าช้า กลยุทธ์อันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่เห็นมาก่อน
คำถามที่ถามนั้นเป็นเรื่องอธิปไตย นับตั้งแต่มีการระบุออกมาอย่างชัดเจน และศาลได้ถอนกำลังทหารออกไป เราจะเข้าใจได้อย่างไรว่ามีการถอนกำลัง แผนที่นั้นเป็นสิ่งที่อ้างอิงว่าเป็นเขตแดน ต้องการให้มีการตีความในปี 1962 โดยประเทศไทยพยายามที่จะทำให้ศาลมีความไม่แน่ใจ คือกัมพูชาเป็นประเทศที่อยู่ในภาคผนวก มีพันธะกรณี ดังนั้นบทสรุปคือกัมพูชาไม่ได้ต้องการให้ศาลพิจารณาวงรอบที่เกิดขึ้น เป็นการอยู่ร่วมกัน หากไม่มีการตีความวันที่ 15 มิ.ย.1962 ทำให้เราไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศได้ คำตัดสินนี้จะช่วยคลายความขัดแย้ง ทุกคนทราบดีถึงประวัติศาสตร์ทางการเมือง มีการสูญเสียชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นศาลไม่สามารถปฏิเสธได้ ผมอยากจะขอขอบคุณที่ท่านได้รับฟัง
คดีเกิดขึ้นของกัมพูชา หน้าที่ของผมคือ เราจะโต้ข้อกล่าวหาของประเทศไทยอย่างไร กัมพูชามองวิธีการที่คดีความนี้ ความรู้สึกของกัมพูชาหลังจากที่ได้อ่านมา ก่อนอื่นพูดถึงปี 1962 ประเทศไทยสรุปได้ง่าย ๆ คือ ตัวบทของข้อปฏิบัติการ เชื่อมโยงกับพันธะกรณีของประเทศไทย มีการกล่าวถึงเขตแดนกัมพูชา ในเรื่องที่ศาลได้กล่าวเอาไว้ ซึ่งสิ่งเป็นการตีความโดยฝ่ายของประเทศไทยอย่างเดียวนั้นเราไม่สามารถยอมรับได้ อันนี้เห็นได้แล้วอย่างชัดเจน ข้อกล่าวหาของประเทศไทย น้ำเสียงที่ใช้เป็นน้ำเสียงที่เสียดสี ประเทศไทยกล่าวว่ากัมพูชามีการกลัว อันนี้เป็นการกล่าวของฝ่ายไทยนั้น ยังไม่พอใช้น้ำเสียงถากถางมีการนำเสนอที่บิดเบือน ประเทศไทยคงไม่ทราบว่าจะตอบมาอย่างไร ประเทศไทยตั้งแต่ตอนต้นคิดว่ากัมพูชาไม่สามารถได้อะไร แผนที่ในภาคผนวก ไม่มีความเชื่อมโยง ศาลนั้นได้ตัดสินไปแล้วโดยผิดพลาด ความผิดครั้งนี้เป็นการตีความพื้นที่อยู่ในประเทศใด พูดถึงการใช้กำลังทหารเลย ซึ่งก็มีการแยกออกมาในปี 1962 การใช้กำลังทหารจะเกิดขึ้นได้อย่างไรในเขตแดนไทย เพราะฉะนั้นจากการใช้เหตุผลอันนี้ที่ได้อธิบายว่าเราอาจแยกออกได้เป็น 3 ส่วน
สำหรับประเทศไทยไม่มีอำนาจในการตีความได้ แต่ถ้าศาลเกิดมีอำนาจในการตีความได้ บทปฏิบัติการต่าง ๆ ต้องแยกอกมาไม่เป็นที่สิ้นสุด ถ้าศาลจะตีความขึ้นมา นิยามฝ่ายเดียวเป็นไปได้ว่า อันนี้ไม่ใช่พันธะกรณีที่ต่อเนื่อง ข้อพิพาทระหว่างคำร้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่อ้างอิงข้อขัดแย้งมากมาย มันเป็นสิ่งที่ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร ประเทศกัมพูชา ศาลจะเห็นด้วยกับคำตีความ ไม่ใช่เรื่องการพิจารณา เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ คำถามที่เป็นประเด็นซึ่งประเทศไทยมองกลับกันสิ้นเชิง อันดับแรกคือ การที่กัมพูชาได้ตอบอย่างชัดเจน ข้อพิพาทที่เชื่อมโยงกัน ข้อ 60 ตอบแก้อย่างไม่ชัดเจน ใน 2 ประเด็นอะไรที่เป็นความหมาย และกัมพูชาขอร้องให้มีการตีความหมายอันนี้เป็นสิ่งที่รับฟังได้ ศาลต้องใส่ใจ มีแผนที่อื่น ๆ อีกมีส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องเลย แผนที่ภาคผนวกหนึ่งในปี 1962 ข้าพเจ้าขอให้ท่านขอบคุณที่ได้ให้อภิปรายเรื่องของข้อโต้แย้งประเทศไทยในความเป็นจริง ซึ่งประเทศไทยนั้นอยากจะให้มี เขตแดนเป็นเรื่องที่ขัดแย้ง สิ่งที่ประเทศไทยอยากจะได้ สิ่งที่ท้าทาย ทำให้เรานำไปสู่การพิจารณาแตกต่างจากสิ่งที่ปฏิบัติการ ซึ่งกัมพูชาได้เรื่องของสันติภาพความร่วมมือระหว่างประเทศ
ถ้าศาลเห็นเหมาะสม ก็พักคำร้องเกี่ยวข้องเรื่องที่ธรรมนูญของศาล เป็นสิ่งที่เรารองรับได้ว่าผลที่ตามมามีอะไรบ้าง วัตถุประสงค์ในการที่จะทำความเข้าใจ แง่ของคุณภาพสิ่งนี้ออกมาอย่างจริง อันนี้เป็นเจตนาที่ขัดแย้งกับคู่ไม่สนใจอีกฝ่ายหนึ่ง สิ่งที่เราขอให้ศาลเห็นชอบ ศาลมีหน้าที่ในการพิจารณาเป็นกระบวนการข้อผูกพันวัตถุประสงค์ในการตีความนี้ ข้อ 60 เป็นผลมาจากการที่พิพากษา ความหมายที่ศาลมีเจตนารมณ์ ไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่ล้มล้างขอในทางทฤษฎีในทางปฏิบัติเป็นอย่างไร ประเทศไทยมองเห็นแล้วว่าศาลให้ตัดสินบางอย่าง มุมมองของกัมพูชา พยายามโน้มน้าวจิตใจศาล เป็นวัตถุประสงค์ ขอให้ศาลตัดสินการโต้แย้งระหว่าง 2 ประเทศนั้น ยิ่งไปกว่านั้นกัมพูชาต้องเผชิญ เรื่องของภัยอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ ประเทศไทยบอกว่าเป็นการสาธิต เป็นการพิจารณา มีมุมมองต่างกัน เป็นไปได้ที่ว่า อยากจะขอให้ ไม่ใช่สิ่งที่ยอมรับ ถ้าประเทศไทยสามารถทำเช่นนั้นได้ ถึงตอนนี้อยากจะขอเรื่องของประเด็น ไม่มีการความ การร้องขอตีความเป็นสิ่งที่รับฟังได้ ประเทศไทยบอกว่า ศาลได้รับคำร้องในแง่ของอำนาจศาล ศาลมีอำนาจที่จะตีความ แนวคำพิพากษาสิ่งนี้เกิดขึ้นในมาตรการ มีอำนาจในข้อที่ 60 ว่าด้วยอำนาจของศาลหรือไม่ก็ตาม จากข้อ 60 เป็นสิ่งที่ศาลจะต้องทำ เรื่องของความขัดแย้งกัมพูชา สิ่งที่ศาลจะต้องพิจารณาคำร้องการตีความที่ดี มีตัวอย่างที่ดี ในปี 1917 ขอให้มีการตีความข้อโต้แย้งระหว่าง 2 ประเทศนี้ยังไม่มีการตัดสิน ประเทศไทยโต้แย้งว่ายังไม่ชัดเจน ข้าพเจ้าจะอธิบายข้อพิพาทระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา ในแง่ของการตีความนี้ ข้อโต้แย้งนี้ ข้อพิพาทไม่จำเป็นต้องกล่าวซ้ำอีก ศาลบอกว่าข้อพิพาทจะต้องเป็นไป ภายหลังที่ศาลจะต้องทำให้ในแง่แสดงออกอย่างชัดเจน ศาลได้เห็นได้รับรองในสิ่งนี้ เรื่องของการเจรจาการพูด มันไม่ต้องแสดงออกได้ เป็นสิ่งที่แสดงออกโดย 2 รัฐบาล เรื่องข้อโต้แย้ง ข้อพิพาทนี้ เป็นสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญนำเสนอ ในกระบวนการพิจารณาคดีอันดับแรกคือ การตีความ เราไม่สามารถย้อนกลับไปได้ สิ่งที่ยื่นมาไม่สามารถไปลบล้างได้ มันไม่มีรากฐาน มีการดัดแปลงสิ่งที่ศาลได้ตัดสินไปแล้ว ได้อกบทบาท เป็นสิ่งที่สำคัญว่า ข้อ 60 เป็นหนี้ของศาล ประเทศไทยอยากจะเปลี่ยนแปลง
ประเทศไทยไม่ให้ความสำคัญแก่ศาลเลย ข้อสรุปที่ยื่นมานั้นเป็นสิ่งที่สรุปไม่ได้ เราพยายามที่จะมี ประเทศไทยเพิ่งมาค้นพบภายหลัง ซึ่งในวรรค 17 ที่เป็นคำแถลงการณ์ลายลักษณ์อักษร ในแง่ของ ข้อโต้แย้ง ศาลได้กล่าวต่อไปนี้ คดีที่พิจารณามีจริงหรือไม่ จุดเบื้องต้นก็คือกัมพูชา วรรคที่สอง บอกว่ามีการเชื่อมโยงกับวรรคที่หนึ่ง ซึ่งเป็นผลที่ศาลแสดงออกมาอย่างชัดแจ้ง ในเรื่องของตัวปราสาท ในวรรคที่สองนั้นกัมพูชาเสนอว่า ท่าทีของประเทศไทยปฏิเสธในวรรคที่สอง ซึ่งอันนี้เป็นองค์ประกอบเบื้องต้น เป็นการปฏิเสธความหมายเป็นการถอนกำลังออกไป ทางกัมพูชาได้ถอดออกไป เป็นเรื่องข้อพิพาทขอบเขต หลังจากนั้นแล้วเป็นเรื่องของพันธะกรณีที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทางไทยถอนกำลังออกไปในวันที่มีการตัดสิน ซึ่งศาลเองคงไม่ออกคำสั่งอะไรอย่างนั้น ทางฝ่ายไทยนั้นได้ยินพูดหลายครั้งบอกว่ามีการถอนออกมา ในวรรคที่สามข้อปฏิบัติการประเทศไทยยังทำเช่นนั้นต่อไป ซึ่งทางกัมพูชาไม่ได้คัดค้านออกไป หลังจากนั้นก็ไม่ได้คัดค้านเป็นเวลานาน มีการพูดถึงลักษณะที่เป็นการต่อเนื่อง ที่บอกว่าเป็นการแถลงออกมาเป็นการดำเนินการไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีกำลังทหาร ไม่สำคัญอะไรเท่าไร ยังคงมีอยู่ โดยพื้นฐานดังกล่าวเกิดขึ้นจากตรงนี้
โดย TnewsOnline
อ่าน 395
15-04-13 16:38
ตกลงว่าเชื่อคำพูดของเขมร ?
- samin likes this
#147
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:32
สงสัยไม่ได้ฟัง
เค้าออกชื่อไอ้ทักกี้ตรงๆเลย
แถมบอกว่ารัฐบาลสมัครยอมรับให้เขมรขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียวด้วย
แล้วใครเป็นรมต.บัวแก้วยุคสมัครวะครับ?
แจ้งมอดเรื่องบุคคลรบกวนกระทู้แล้วนะคะ
น่ารำคาญมาก
#148
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:39
บางช่วงล่ามหญิงบอกแปลท่อนนี้ไม่ได้ เพราะเป็นภาษาฝรั่งเศส
ไม่ทราบทำไมไม่แถลงอังกฤษอย่างเดียวต้องแถลงเป็นฝรั่งเศสด้วย
หรือทำไมไม่หาล่ามที่แปลได้หลายภาษา ?
คงไม่ได้หวังผู้ฟังแต่หวังผู้เกี่ยวข้องในศาลหรือ
- อู๋ ฮานามิ likes this
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#149
ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:41
ไม่ใช่วิหารของไทยยังจะอยากได้มาทำไม่กัน.ตัววิหารเองก็เล่าประวัติความเป็นว่านั้นเป็นของเขมร. ลวดลายสัญลักษณ์ต่างๆก็เป็นของขแม ไม่ใช่ของไทยยังจะ
== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==
Edited by Mod_108, 15 เมษายน พ.ศ. 2556 - 19:41.
8.ห้ามตั้งกระทู้ในลักษณะปลุกระดมไม่ว่าในทางใดๆ ให้เกิดความรุนแรงต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน *
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน