เป็นสิ่งที่ยาก พอๆกับการ แก้ปัญหาความบิดเบือนของราคาพลังงาน... ทำไปก็มีแต่คนด่า...
ผมยังแปลกใจเลยที่ พรรคนี้ ที่เค้าว่า ประชานิยม... คิดจะทำ..
ตราบใดที่มีรถรับส่งเรียบร้อย.. ข้อต่อต้านก็จะลดลง... ข้ออ้างเรื่องระยะทางก็จะหมดประเด็น..
มันต้องกลับมาคิดครับว่า.. ทำไม โรงเรียนถึงมีคนน้อย...
คนแถวนั้นเค้าเอาเด็กๆไปเรียนที่ไหน...
ปัญหานี้ต้องมองให้ดี...
บางโรงเรียนคนน้อยเพราะ อยู่ในที่กันดาร... แบบนี้ควรยุบ แล้วให้ อบต จัดการแทน...
เป็น ลักษณะ Home school... เพราะ หาครูไปลงก็ยาก ปัญหาเยอะ.. ครูทีสอบได้ก็ไม่อยากไปสอน...
แต่ บางโรงเรียน คนน้อย เพราะ เมื่อความเจริญไปถึง คนในหมู่บ้าน ส่งลูกไปเรียนใหญ่ๆ ในอำเภอแทน..
แบบนี้ ควรยุบ จัดรถรับส่ง ... แล้ว ทำเป็น ห้องสมุดชุมชน ศูนย์การเรียนรู้นอกเวลาแทน..
ผมไม่ได้ถึงกับต่อต้านความคิดของนายพงศ์เทพ นะครับ
เรื่องการยุบรวมโรงเรียน ถ้าโรงเรียนนั้นไม่มีความจำเป็น เน้นนะครับว่าไม่มีความจำเป็นจริงๆ อันนี้ค่อนข้างจะเห็นด้วย
แต่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบอย่างมากๆ เพราะมันไม่เหมือนกับเด็กเล่นขายของนะครับ ไม่พอใจก็มาเริ่มกันใหม่
หรือการให้โรงเรียนรวมกลุ่มกันแล้วบรูณาการณ์ทรัพยากรที่มีอยู่ในแต่ละโรงเรียนร่วมกัน (ยืมคำ นางยก มาใช้ )
อันนี้ผมเห็นด้วยนะครับ ให้ครูจากโรงเรียนเตรียมฯ หรือครูจากโรงเรียนสวนกุหลาบ ไปช่วยสอนที่อื่นๆบ้าง อันนี้ก็ดีครับ
มันจะเป็นการลดช่องว่างความรู้ของนักเรียนลง อันนี้สนับสนุนครับ
แต่อยากจะถามว่าสิ่งที่นายพงศ์เทพ มอบนโยบายให้ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาไปดำเนินการ
มันเป็นความจำเป็นที่เร่งด่วนมากนั้นเลยเหรอครับ
บอกเองว่างบมันน้อย แต่ดันมีงบเรื่องรถรับส่ง 1,000 คัน (แวว...โกง/ล็อคสเปกออกมาอีกแล้ว)
มันออกจะขัดๆกันนะครับ แล้วที่ชอบอ้างเมืองนอกประเทศที่พัฒนาแล้วเขายังทำกัน ผมว่าอย่าอ้างจะดีกว่านะครับ
เห็นเขาขี้...จะต้องขี้ตามเขาเลยเหรอครับ
ในความเห็นของผมนะ...ผมเห็นควรให้นายพงศ์เทพไปดูจัดลำดับความสำคัญของเรื่องงบประมาณก่อนดีกว่ามั๊ยครับ
แล้วมาแจงให้เห็นกันไปเลยว่า อันไหนที่มันไม่สำครัญก็ควรจะไปตัดออกก่อน
ลองดูสิว่างบประมาณที่ได้มาในแต่ละปี จัดสรรเป็นงบหรือค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
มีอะไรที่มันจะรั่วไหล หรือมีที่มันไม่ก่อยประโยชน์บ้าง หรือจะก่อให้เกิดการทุจริตกันได้นะ
ผมว่าจัดการตรงส่วนนั้นก่อนจะดีกว่า
เออ...แถมอีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องการทุจริตเรื่องการโกงสอบเข้าครู ผมว่ามันจะดูดีเสียกว่านะ