คัยที่อยู่ใกล้ ขอแวะไปพิสูจน์ตรวจสอบหน่อย ว่าเด็ก ป.3 โรงเรียนบ้านรางม่วง ที่ราชบุรี นี้เป็นอย่างไร
จะขอบคุณมาก เพราะไม่เชื่อว่า เป็นอย่าง ที่เขากล่าวอ้าง
Posted 11 May 2013 - 09:39
คัยที่อยู่ใกล้ ขอแวะไปพิสูจน์ตรวจสอบหน่อย ว่าเด็ก ป.3 โรงเรียนบ้านรางม่วง ที่ราชบุรี นี้เป็นอย่างไร
จะขอบคุณมาก เพราะไม่เชื่อว่า เป็นอย่าง ที่เขากล่าวอ้าง
Posted 11 May 2013 - 09:40
ตรงนี้ขอถามนิดค่ะว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ท่านทำไรอยู่คะ ในพื้นที่ ที่ท่านมีหน้าที่ต้องดูแล ต้องรอให้รัฐบาลมาแก้เลยหรือคะ โรงเรียนนึงมีเด็ก 3 คน สำนักงานเขตไม่รู้ แต่ผู้สื่อข่าวรู้ อย่างนี้ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ได้ป่าวคะ
ใครบอกคุณว่าเขาไม่รู้หล่ะครับ เขาสำรวจใหม่ทุกปี
เขาจึงมีตัวเลขว่าโรงเรียนขนาดเล็กจิ๋วพวกนี้มีจำนวนเท่าใด ซึ่งพบว่ามันเพิ่มขึ้น
เขาจึงคิดที่จะยุบรวมเพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐาน"ขั้นต่ำ" ได้
แต่ปัญหาคือมีควายที่มันไม่พยายามเข้าใจ มันยังเถียงว่าควรพัฒนาโรงเรียนที่มีนักเรียนแค่ 3 คนให้ได้มาตรฐาน
ผมถามไปหลายครั้งแล้วว่า แค่จะจัดครูให้ครบ 6 ชั้นปียังทำไม่ได้เลย หากทำได้ บอกมาดูว่าจะทำยังไง
ก็ไม่มีใครตอบ
มีแต่มานั่งดราม่า เอารูปเด็กนั่งพนมมือมาโชวฺ์แล้วบอก "เอาโรงเรียนของหนูคืนมา"
Posted 11 May 2013 - 09:40
คัยที่อยู่ใกล้ ขอแวะไปพิสูจน์ตรวจสอบหน่อย ว่าเด็ก ป.3 โรงเรียนบ้านรางม่วง ที่ราชบุรี นี้เป็นอย่างไร
จะขอบคุณมาก เพราะไม่เชื่อว่า เป็นอย่าง ที่เขากล่าวอ้าง
เชิญครับ
Posted 11 May 2013 - 09:44
ผมเอารูปโรงเรียนขนาดเล็กมาให้ดูนะ
อันนี้คือรูปชั้นเรียนโรงเรียนบ้านรางม่วงที่ราชบุรีที่ผมพูดถึง
ทั้งโรงเรียนมี ป 1-ป 6 จำนวน 69 คน มีครูทั้งหมด 6 คน แต่ละคนสอนกันหลายวิชาหรือบางคนต้องสอนทุกวิชาเลยทีเดียว
เด็ก ป 3 ที่ผมเรียกมาคุยด้วย อ่านหนังสือไม่ออกสักคำเดียว สอบได้ที่ 8 จากนักเรียนทั้งชั้น 9 คน
ถามว่าเขาผ่านขึ้นมาอยู่ ป 3 ได้ยังไง?
โรงเรียนมาตรฐานขนาดนี้จะผลิตอะไรออกมาให้กับประเทศ?
โรงเรียนระดับดีกว่าอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 4 กิโลเมตร มีนักเรียนหลายร้อยตน มีครูหลายสิบคน มีความพร้อมมากกว่าที่จะสอน ทำไมจึงยังมีโรงเรียนขนาด 60 คนอยู่อีก? เพื่ออะไร?
คุณจะพัฒนาโรงเรียนขนาด 60 คนให้มีครูสอนครบทุกวิชาได้อย่างไร? (ยังไม่คิดถึงโรงเรียนที่สตูลตามข่าวที่มีแค่ 20 กว่าคน)
และที่สำคัญ โรงเรียนที่ผมยกมาให้ดูมันห่างไกลจากโรงเรียนยากจนทุรกันดารที่กบแดงกับผึ้งน้อยเอามาดราม่าให้ดูมากครับ
มันคนละเรื่องเลย
จริงเหรอครับ ???
ขอเน้นตัวโตๆหน่อย น่าอยูที่ครูละนะ 1/10 ไม่ทุรกันดารด้วย
ถ้าไม่ใช่โรงเรียนนั้นเลื่อนชั้นโดนการให้เด็กเดินขึ้นบันไดแทนการสอบ
คนที่คุยก็คงโดนเด็ก ป.3 มันหลอกเอาหละครับ
ป.3 อ่านไม่ออก เฉียดแสนคน
http://education.kap.../view14272.html
พวกคุณนั่งอยู่ในห้องแอร์อิเมจิ้นเอาไปเรื่อยด้วยโลกอันสวยงามของพวกคุณ
ผมคลุกคลีกับเด็กบ้านนอกพวกนี้มา เมื่อสองปีก่อนผมจับพวกเด็กแถวบ้านมาสอนกับมือ ผมรู้ดีว่าผมกำลังพูดอะไรอยู่
ประสบการณ์ตรงซึ่งผมก็ยังไม่เชื่อว่ามันเป็นจริงหากไม่ได้พบมากับตาตัวเอง
ส่วนพวกคุณมันพวกโลกสวย ทั้งโลกมีแต่สีขาวกับสีดำ
ก็เลยต้องยุบโรงเรียน????
คุณว่าต้องแก้ไขตรงไหนถึงจะตรงจุดที่ทำให้เด็กอ่านหนังสือไม่ออก
แล้วถ้าไอ้โรงเรียนในเมืองของคุณมีเด็กสอบตก
คุณก็ต้องยุบโรงเรียนนั้น แล้วให้เด็กไปเรียนในจังหวัด ???
หรือให้เด็กในเมือง ย้ายออกไปเรียนโรงเรียนที่มันทุรกันดารสุดๆ ???
“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”
"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"
-Dante Alighieri-
Posted 11 May 2013 - 09:45
ในฐานะที่เป็นบุคคลหนึ่งที่ทำงานการศึกษามากว่า ๒๕ ปี รู้สึกสะเทือนใจอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวในวันนี้ เพราะงานที่ทำต้องเกี่ยวข้องกับเด็กๆและโรงเรียนของรัฐ อันเป็นโรงเรียนที่ดำรงอยู่ด้วยภาษีของเรา ด้วยเงินของเรา แต่เราแทบจะไม่สามารถทำอะไรได้กับความจริงที่ว่า เด็กๆของเราจำนวนมากที่เรียนอยู่ในโรงเรียนกว่า ๓๕,๐๐๐ โรงนี้ อยู่ในภาวะอ่านหนังสือไม่ออก
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเคยออกมายอมรับเมื่อปีที่ แล้วว่า มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่สามอ่านหนังสือไม่ออกร้อยละ ๑๒ หรือประมาณ ๘๐,๐๐๐ คน ซึ่งนับเป็นความกล้าหาญอย่างมาก แต่ สพฐ. ก็ไม่กล้าหาญมากพอที่จะบอกความจริงทั้งหมด เพราะความจริงน่ากลัวกว่านั้นมาก และการยอมรับว่าเด็ก ป.๓ อ่านหนังสือไม่ออกนั้น ฟังดูก็เหมือนจะตั้งใจชี้ประเด็นปัญหาเพื่อให้เกิดการแก้ไข แต่วิธีการนำปัญหามาวางบนโต๊ะของเรานั้น มักจะทำเมื่อทุกอย่างสายเกือบเกินแก้แล้วในแทบทุกกรณี รวมทั้งในกรณีนี้ เพราะจำนวนเด็กอ่านหนังสือไม่ออกนั้นมีอยู่ทุกระดับชั้น ตั้งแต่ ป.๓ ที่ท่านพูดเอาไว้ไปจนถึงมัธยมปลาย หากจะคิดคำนวนอย่างง่ายๆ จำนวนนักเรียนเฉลี่ยตามอัตราการเกิดของประชากร ตามข้อมูลด้านล่างนี้ เราก็จะเห็นว่ามีเด็กๆอ่านหนังสือไม่ออกอยู่นับแสนนับล้านคนในปัจจุบัน
Posted 11 May 2013 - 09:49
ความจริงเรื่องเด็กไทยอ่านหนังสือไม่ออก
บทความโดย นายธีรวงศ์ ธนิษฐ์เวธน์ ผู้อำนวยการสมาคมไทสร้างสรรค์ คัดจากหนังสือพิมพ์เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับสมน้ำหน้าประเทศไทยในฐานะที่เป็นบุคคลหนึ่งที่ทำงานการศึกษามากว่า ๒๕ ปี รู้สึกสะเทือนใจอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวในวันนี้ เพราะงานที่ทำต้องเกี่ยวข้องกับเด็กๆและโรงเรียนของรัฐ อันเป็นโรงเรียนที่ดำรงอยู่ด้วยภาษีของเรา ด้วยเงินของเรา แต่เราแทบจะไม่สามารถทำอะไรได้กับความจริงที่ว่า เด็กๆของเราจำนวนมากที่เรียนอยู่ในโรงเรียนกว่า ๓๕,๐๐๐ โรงนี้ อยู่ในภาวะอ่านหนังสือไม่ออก
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเคยออกมายอมรับเมื่อปีที่ แล้วว่า มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่สามอ่านหนังสือไม่ออกร้อยละ ๑๒ หรือประมาณ ๘๐,๐๐๐ คน ซึ่งนับเป็นความกล้าหาญอย่างมาก แต่ สพฐ. ก็ไม่กล้าหาญมากพอที่จะบอกความจริงทั้งหมด เพราะความจริงน่ากลัวกว่านั้นมาก และการยอมรับว่าเด็ก ป.๓ อ่านหนังสือไม่ออกนั้น ฟังดูก็เหมือนจะตั้งใจชี้ประเด็นปัญหาเพื่อให้เกิดการแก้ไข แต่วิธีการนำปัญหามาวางบนโต๊ะของเรานั้น มักจะทำเมื่อทุกอย่างสายเกือบเกินแก้แล้วในแทบทุกกรณี รวมทั้งในกรณีนี้ เพราะจำนวนเด็กอ่านหนังสือไม่ออกนั้นมีอยู่ทุกระดับชั้น ตั้งแต่ ป.๓ ที่ท่านพูดเอาไว้ไปจนถึงมัธยมปลาย หากจะคิดคำนวนอย่างง่ายๆ จำนวนนักเรียนเฉลี่ยตามอัตราการเกิดของประชากร ตามข้อมูลด้านล่างนี้ เราก็จะเห็นว่ามีเด็กๆอ่านหนังสือไม่ออกอยู่นับแสนนับล้านคนในปัจจุบัน
การยุบโรงเรียน คือทางออก ที่ดีว่างั้นเถิด!!
Posted 11 May 2013 - 09:49
ผมเอารูปโรงเรียนขนาดเล็กมาให้ดูนะ
อันนี้คือรูปชั้นเรียนโรงเรียนบ้านรางม่วงที่ราชบุรีที่ผมพูดถึง
ทั้งโรงเรียนมี ป 1-ป 6 จำนวน 69 คน มีครูทั้งหมด 6 คน แต่ละคนสอนกันหลายวิชาหรือบางคนต้องสอนทุกวิชาเลยทีเดียว
เด็ก ป 3 ที่ผมเรียกมาคุยด้วย อ่านหนังสือไม่ออกสักคำเดียว สอบได้ที่ 8 จากนักเรียนทั้งชั้น 9 คน
ถามว่าเขาผ่านขึ้นมาอยู่ ป 3 ได้ยังไง?
โรงเรียนมาตรฐานขนาดนี้จะผลิตอะไรออกมาให้กับประเทศ?
โรงเรียนระดับดีกว่าอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 4 กิโลเมตร มีนักเรียนหลายร้อยตน มีครูหลายสิบคน มีความพร้อมมากกว่าที่จะสอน ทำไมจึงยังมีโรงเรียนขนาด 60 คนอยู่อีก? เพื่ออะไร?
คุณจะพัฒนาโรงเรียนขนาด 60 คนให้มีครูสอนครบทุกวิชาได้อย่างไร? (ยังไม่คิดถึงโรงเรียนที่สตูลตามข่าวที่มีแค่ 20 กว่าคน)
และที่สำคัญ โรงเรียนที่ผมยกมาให้ดูมันห่างไกลจากโรงเรียนยากจนทุรกันดารที่กบแดงกับผึ้งน้อยเอามาดราม่าให้ดูมากครับ
มันคนละเรื่องเลย
จริงเหรอครับ ???
ขอเน้นตัวโตๆหน่อย น่าอยูที่ครูละนะ 1/10 ไม่ทุรกันดารด้วย
ถ้าไม่ใช่โรงเรียนนั้นเลื่อนชั้นโดนการให้เด็กเดินขึ้นบันไดแทนการสอบ
คนที่คุยก็คงโดนเด็ก ป.3 มันหลอกเอาหละครับ
ป.3 อ่านไม่ออก เฉียดแสนคน
http://education.kap.../view14272.html
พวกคุณนั่งอยู่ในห้องแอร์อิเมจิ้นเอาไปเรื่อยด้วยโลกอันสวยงามของพวกคุณ
ผมคลุกคลีกับเด็กบ้านนอกพวกนี้มา เมื่อสองปีก่อนผมจับพวกเด็กแถวบ้านมาสอนกับมือ ผมรู้ดีว่าผมกำลังพูดอะไรอยู่
ประสบการณ์ตรงซึ่งผมก็ยังไม่เชื่อว่ามันเป็นจริงหากไม่ได้พบมากับตาตัวเอง
ส่วนพวกคุณมันพวกโลกสวย ทั้งโลกมีแต่สีขาวกับสีดำ
ก็เลยต้องยุบโรงเรียน????
คุณว่าต้องแก้ไขตรงไหนถึงจะตรงจุดที่ทำให้เด็กอ่านหนังสือไม่ออก
แล้วถ้าไอ้โรงเรียนในเมืองของคุณมีเด็กสอบตก
คุณก็ต้องยุบโรงเรียนนั้น แล้วให้เด็กไปเรียนในจังหวัด ???
หรือให้เด็กในเมือง ย้ายออกไปเรียนโรงเรียนที่มันทุรกันดารสุดๆ ???
3x3
ผมบอกเหรอว่าเพราะเด็กอ่านหนังสือไม่ออกจึงควรยุบ?
ที่มันควรยุบเพราะมันไม่สามารถทำให้โรงเรียนขนาดเล็กมาจำนวนหลายพันโรงนี้มีครูสอนครบทุกชั้น และมีอุปกรณ์การเรียนการสอนได้ครบตามมาตรฐานขั้นต่ำเหมือนโรงเรียนอื่นๆ เพราะมันทำไม่ได้!
คุณบอกว่าควรพัฒนาโรงเรียนแทนการยุบ
ผมถามคุณว่าทั้งโรงเรียนมีนักเรียน 20 คน มีครู 2 คน
คุณจะทำยังไงให้มีครูสอนคบทั้ง 6 ชั้นปี คุณก็ยังไม่ยอมตอบมา
Posted 11 May 2013 - 09:53
ความจริงเรื่องเด็กไทยอ่านหนังสือไม่ออก
บทความโดย นายธีรวงศ์ ธนิษฐ์เวธน์ ผู้อำนวยการสมาคมไทสร้างสรรค์ คัดจากหนังสือพิมพ์เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับสมน้ำหน้าประเทศไทยในฐานะที่เป็นบุคคลหนึ่งที่ทำงานการศึกษามากว่า ๒๕ ปี รู้สึกสะเทือนใจอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวในวันนี้ เพราะงานที่ทำต้องเกี่ยวข้องกับเด็กๆและโรงเรียนของรัฐ อันเป็นโรงเรียนที่ดำรงอยู่ด้วยภาษีของเรา ด้วยเงินของเรา แต่เราแทบจะไม่สามารถทำอะไรได้กับความจริงที่ว่า เด็กๆของเราจำนวนมากที่เรียนอยู่ในโรงเรียนกว่า ๓๕,๐๐๐ โรงนี้ อยู่ในภาวะอ่านหนังสือไม่ออก
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเคยออกมายอมรับเมื่อปีที่ แล้วว่า มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่สามอ่านหนังสือไม่ออกร้อยละ ๑๒ หรือประมาณ ๘๐,๐๐๐ คน ซึ่งนับเป็นความกล้าหาญอย่างมาก แต่ สพฐ. ก็ไม่กล้าหาญมากพอที่จะบอกความจริงทั้งหมด เพราะความจริงน่ากลัวกว่านั้นมาก และการยอมรับว่าเด็ก ป.๓ อ่านหนังสือไม่ออกนั้น ฟังดูก็เหมือนจะตั้งใจชี้ประเด็นปัญหาเพื่อให้เกิดการแก้ไข แต่วิธีการนำปัญหามาวางบนโต๊ะของเรานั้น มักจะทำเมื่อทุกอย่างสายเกือบเกินแก้แล้วในแทบทุกกรณี รวมทั้งในกรณีนี้ เพราะจำนวนเด็กอ่านหนังสือไม่ออกนั้นมีอยู่ทุกระดับชั้น ตั้งแต่ ป.๓ ที่ท่านพูดเอาไว้ไปจนถึงมัธยมปลาย หากจะคิดคำนวนอย่างง่ายๆ จำนวนนักเรียนเฉลี่ยตามอัตราการเกิดของประชากร ตามข้อมูลด้านล่างนี้ เราก็จะเห็นว่ามีเด็กๆอ่านหนังสือไม่ออกอยู่นับแสนนับล้านคนในปัจจุบัน
การยุบโรงเรียน คือทางออก ที่ดีว่างั้นเถิด!!
กบแดง คุณกำลังคุยเรื่องเด็ก ป 3 อ่านหนังสือไม่ออกอยู่นะ
คุณบอกว่าผมโกหกเรื่องเด็ก ป 3 โรงเรียนบ้านรางม่วง
ผมก็ท้าให้คุณไปพิสูจน์ แล้วยกมาให้ดูว่าไม่เฉพาะบ้านรางม่วง ยังมีเด็กอีกมากมายที่ได้รับการศึกษาที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
ตกลงคุณยอมรับหรือไม่ว่ามีเด็ก ป 3 ที่อ่านหนังสือไม่ได้อยู่จริง และไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ด้วย
Posted 11 May 2013 - 09:57
เอางี้ กบแดง
คุณคิดว่าโรงเรียนที่มีนักเรียน 3 คนครู 1 คน และโรงเรียนในสตูลที่มีนักเรียน 20 กว่าคนครู 2 คนตามข่าวควรยุบไปแล้วให้นักเรียนไปเรียนโรงเรียนใกล้เคียงที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีความพร้อมในการเรียนการสอนมากกว่า มีครูสอนครบทุกชั้นทุกวิชาหรือไม่?
หรือเขาควรเรียนที่เดิมเพราะอบอุ่นกว่า ใกล้บ้านมากกว่า
ถามมานาน ไม่ยอมตอบสักที
Posted 11 May 2013 - 10:01
ผมเอารูปโรงเรียนขนาดเล็กมาให้ดูนะ
อันนี้คือรูปชั้นเรียนโรงเรียนบ้านรางม่วงที่ราชบุรีที่ผมพูดถึง
ทั้งโรงเรียนมี ป 1-ป 6 จำนวน 69 คน มีครูทั้งหมด 6 คน แต่ละคนสอนกันหลายวิชาหรือบางคนต้องสอนทุกวิชาเลยทีเดียว
เด็ก ป 3 ที่ผมเรียกมาคุยด้วย อ่านหนังสือไม่ออกสักคำเดียว สอบได้ที่ 8 จากนักเรียนทั้งชั้น 9 คน
ถามว่าเขาผ่านขึ้นมาอยู่ ป 3 ได้ยังไง?
โรงเรียนมาตรฐานขนาดนี้จะผลิตอะไรออกมาให้กับประเทศ?
โรงเรียนระดับดีกว่าอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 4 กิโลเมตร มีนักเรียนหลายร้อยตน มีครูหลายสิบคน มีความพร้อมมากกว่าที่จะสอน ทำไมจึงยังมีโรงเรียนขนาด 60 คนอยู่อีก? เพื่ออะไร?
คุณจะพัฒนาโรงเรียนขนาด 60 คนให้มีครูสอนครบทุกวิชาได้อย่างไร? (ยังไม่คิดถึงโรงเรียนที่สตูลตามข่าวที่มีแค่ 20 กว่าคน)
และที่สำคัญ โรงเรียนที่ผมยกมาให้ดูมันห่างไกลจากโรงเรียนยากจนทุรกันดารที่กบแดงกับผึ้งน้อยเอามาดราม่าให้ดูมากครับ
มันคนละเรื่องเลย
จริงเหรอครับ ???
ขอเน้นตัวโตๆหน่อย น่าอยูที่ครูละนะ 1/10 ไม่ทุรกันดารด้วย
ถ้าไม่ใช่โรงเรียนนั้นเลื่อนชั้นโดนการให้เด็กเดินขึ้นบันไดแทนการสอบ
คนที่คุยก็คงโดนเด็ก ป.3 มันหลอกเอาหละครับ
ป.3 อ่านไม่ออก เฉียดแสนคน
http://education.kap.../view14272.html
พวกคุณนั่งอยู่ในห้องแอร์อิเมจิ้นเอาไปเรื่อยด้วยโลกอันสวยงามของพวกคุณ
ผมคลุกคลีกับเด็กบ้านนอกพวกนี้มา เมื่อสองปีก่อนผมจับพวกเด็กแถวบ้านมาสอนกับมือ ผมรู้ดีว่าผมกำลังพูดอะไรอยู่
ประสบการณ์ตรงซึ่งผมก็ยังไม่เชื่อว่ามันเป็นจริงหากไม่ได้พบมากับตาตัวเอง
ส่วนพวกคุณมันพวกโลกสวย ทั้งโลกมีแต่สีขาวกับสีดำ
ก็เลยต้องยุบโรงเรียน????
คุณว่าต้องแก้ไขตรงไหนถึงจะตรงจุดที่ทำให้เด็กอ่านหนังสือไม่ออก
แล้วถ้าไอ้โรงเรียนในเมืองของคุณมีเด็กสอบตก
คุณก็ต้องยุบโรงเรียนนั้น แล้วให้เด็กไปเรียนในจังหวัด ???
หรือให้เด็กในเมือง ย้ายออกไปเรียนโรงเรียนที่มันทุรกันดารสุดๆ ???
3x3
ผมบอกเหรอว่าเพราะเด็กอ่านหนังสือไม่ออกจึงควรยุบ?
ที่มันควรยุบเพราะมันไม่สามารถทำให้โรงเรียนขนาดเล็กมาจำนวนหลายพันโรงนี้มีครูสอนครบทุกชั้น และมีอุปกรณ์การเรียนการสอนได้ครบตามมาตรฐานขั้นต่ำเหมือนโรงเรียนอื่นๆ เพราะมันทำไม่ได้!
คุณบอกว่าควรพัฒนาโรงเรียนแทนการยุบ
ผมถามคุณว่าทั้งโรงเรียนมีนักเรียน 20 คน มีครู 2 คน
คุณจะทำยังไงให้มีครูสอนคบทั้ง 6 ชั้นปี คุณก็ยังไม่ยอมตอบมา
ทำไมคุณจะพัฒนาไม่ได้ มีเงินก็ทุ่มเข้าไปสิครับ ไม่เห็นจะยาก
จะให้เด็กในเมืองเดินทางออกมาเรียนก็ยังได้
หรือว่าให้เด็กเข้าไปยัดกันในเมืองคือคำตอบสุดท้าย
อันนี้ที่คุณยกมา
"ใน โรงเรียนที่ไปทดลองช่วยเหลือเด็กๆนั้น พบว่าแม้จะมีเด็กๆประสบปัญหาเดียวกันอยู่กว่า ๔๐ คน(จากนักเรียนทั้งหมด ๒๘๐ คน) แต่มีเด็กเข้าร่วมกิจกรรมต่อเนื่องเพียง ๑๒ คน (เรียนชั้น ป.๓ ถึง ม.๑) และเหลือ ๗ คนเมื่อเริ่มปีการศึกษาใหม่ (ออกจากโรงเรียนหรือย้ายโรงเรียน) ในเบื้องต้นคณะทำงานตั้งสมมุติฐานว่า หากการอ่านสร้างความสุขให้เกิดขึ้นได้ ทักษะการอ่านและความกระตือรือร้นในการอ่านจะเกิดขึ้นตามมา โดยมีเป้าหมายกระตุ้นแก้ไขการอ่านเป็นเวลา ๑๐๐ ชั่วโมง แต่เมื่อเริ่มกิจกรรมกลับพบว่า เด็กๆทุกคนแบกปัญหาหนักมาจากบ้านทั้งสิ้น ทั้งความแตกแยกของผู้ปกครอง ขาดแคลนที่อยู่อาศัย ต้องหาเช้ากินค่ำ ขาดการดูแล ถูกทอดทิ้งทั้งทางกายภาพและจิตใจ อันเป็นปัญหาที่ไม่มีไครมองเห็น และดูเหมือนจะไม่มีใครตั้งใจจะมองให้เห็น ดังนั้นปัญหาเหล่านี้จึงส่งเด็กๆไปสู่ความล้มเหลวในโรงเรียนตั้งแต่เริ่มต้น แล้วตามด้วยความล้มเหลวต่อๆมา ร่วมกันทำลายความสำนึกถึงคุณค่าของตนเองไปจากพวกเขา เป็นแรงเหวี่ยงส่งพวกเขาไปสู่การแสดงตัวตนอย่างก้าวร้าว รุนแรง เมินเฉย หยาบคาย อันเป็นพฤติกรรมที่เราเรียกว่า “การเรียกร้องขอความช่วยเหลือ” จนกระทั่งมีภาพลักษณ์เป็นตัวปัญหาและสร้างภาระแก่โรงเรียน(ในมุมมองของ บุคลากร) เด็กเหล่านี้จึงไม่เป็นที่ต้องการ ไม่มีใครคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จ"
ผมไม่เห็นว่าจะมีตรงไหนบอกว่ายุบโรงเรียนแล้วจะช่วยได้
แล้วถ้าโรงเรียนในเมืองที่ไหนมีเด็กสอบตก ก็ต้องยุบไปด้วยเลยรึเปล่า
“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”
"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"
-Dante Alighieri-
Posted 11 May 2013 - 10:05
ทำไมคุณจะพัฒนาไม่ได้ มีเงินก็ทุ่มเข้าไปสิครับ ไม่เห็นจะยาก
จะให้เด็กในเมืองเดินทางออกมาเรียนก็ยังได้
หรือว่าให้เด็กเข้าไปยัดกันในเมืองคือคำตอบสุดท้าย
อันนี้ที่คุณยกมา
ผมไม่เห็นว่าจะมีตรงไหนบอกว่ายุบโรงเรียนแล้วจะช่วยได้
แล้วถ้าโรงเรียนในเมืองที่ไหนมีเด็กสอบตก ก็ต้องยุบไปด้วยเลยรึเปล่า
3x3 ผมถามคุณว่าจะพัฒนายังไง คุณลองบอกมาหน่อยว่าจะทำให้โรงเรียนที่มีนักเรียน 20 คน มีครูครบทุกชั้นปีได้อย่างไร
คุณตอบมาแบบเป็นรูปธรรมหน่อยสิครับ คุณวนกลับไปที่เดิมคำถามที่ผมตอบไปแล้วใน rep#257
Posted 11 May 2013 - 10:14
ทำไมคุณจะพัฒนาไม่ได้ มีเงินก็ทุ่มเข้าไปสิครับ ไม่เห็นจะยาก
จะให้เด็กในเมืองเดินทางออกมาเรียนก็ยังได้
หรือว่าให้เด็กเข้าไปยัดกันในเมืองคือคำตอบสุดท้าย
อันนี้ที่คุณยกมา
ผมไม่เห็นว่าจะมีตรงไหนบอกว่ายุบโรงเรียนแล้วจะช่วยได้
แล้วถ้าโรงเรียนในเมืองที่ไหนมีเด็กสอบตก ก็ต้องยุบไปด้วยเลยรึเปล่า
3x3 ผมถามคุณว่าจะพัฒนายังไง คุณลองบอกมาหน่อยว่าจะทำให้โรงเรียนที่มีนักเรียน 20 คน มีครูครบทุกชั้นปีได้อย่างไร
คุณตอบมาแบบเป็นรูปธรรมหน่อยสิครับ คุณวนกลับไปที่เดิมคำถามที่ผมตอบไปแล้วใน rep#257
คุณบอกทำไม่ได้ ไม่เห็นบอกทำไม่ได้ยังไง
แล้วไอ้โรงเรียนที่มันมีนักเรียนหลายร้อยหลายพัน มันทำได้ยังไงหละครับ
มันมีครูสอนครบได้ยังไง
“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”
"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"
-Dante Alighieri-
Posted 11 May 2013 - 10:20
3x3eyes, on 11 May 2013 - 10:07, said:
คุณบอกทำไม่ได้ ไม่เห็นบอกทำไม่ได้ยังไง
แล้วไอ้โรงเรียนที่มันมีนักเรียนหลายร้อยหลายพัน มันทำได้ยังไงหละครับ
มันมีครูสอนครบได้ยังไง
Edited by CanisLupus, 11 May 2013 - 10:22.
Posted 11 May 2013 - 10:23
เอาเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาเลยนะ
ในชุมชนที่ผมอยู่ เป็นชุมชนชาวเขา ซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลวงของชนเผ่าๆหนึ่งในประเทศไทย โรงเรียนประจำชุมชนมีนักเรียนประมาณ 1,700 คน เปิดสอนตั้งแต่
อนุบานถึงมัธยมปีที่ 6 ในปีที่ผ่านมาชั้นมัธยมปีที่ 6 มีนักเรียนยี่สิบกว่าคน โดยเด็กนักเรียนชั้นนี้เมื่อตอนเรียนมัธยมปีที่ 4และ5 ได้เรียนในโปรแกรม วิทย์-คณิต พอขึ้นเรียนในชั้นมัธยมปีที่ 6 ผู้ยิ่งใหญ่ประจำโรงเรียนให้เปลี่ยนหลักสูตรให้เป็นโปรแกรม ศิลป์-ภาษาจีน
ปัญหามันมาเกิดขึ้นเมื่อนักเรียนที่เรียนดีอยู่แนวหน้าของห้องสอบเรียนต่ิอได้สาขาพยาบาล และ สาขาทันตกรรม นักเรียนคนดังกล่าวนำใบ รบ.ไปรายงานตัวเรียนต่อตามที่ตนเองตั้งความหวังไว้ กลับไม่ได้เข้าเรียนเพราะมีวิชาที่นักเรียนเรียนที่อยู่ใน รบ. มีวิชาระหัส จ. (ภาษาจีน)
ผู้ยิ่งใหญ่ จึงได้บอกให้นักเรียนเงียบไว้แล้วจะพาไปฝากเรียนที่ราชภัฎให้ แต่ทางผู้ปกครองก็ยังไม่ยอม วิธีแก้ปัญหาต่อมาก็คือ ทางโรงเรียนได้ออกใบ รบ.ฉบับใหม่โดยทุกอย่างยังคงเดิม แต่แก้ไขจุดเดียวที่ วิชาระหัส จ. (ภาษาจีน) เป็น วิชาระหัส อ. (ภาษาอังกฤษ) มอบให้นักเรียนคนนั้นไปทั้งๆที่ผลการเรียนตามฉบับเก่าก็รายงานไปทางกระทรวงแล้ว
สรุปสรุปแล้ว นักเรียนหมดสิทธิ์เรียนตามที่ตั้งใจไว้ เพราะ ท่านผู้ยิ่งใหญ่ประจำโรงเรียนเปลี่ยนโปรแกรมวิชาโดยที่นักเรียนทั้งหมดไม่รู้เรื่องด้วย
เพราะฉนั้น
คุณก็มั่วไปเรื่อย จำนวนตัวเลขนักเรียนมันไม่ได้บอกประสิทธิภาพของโรงเรียนหรอกแต่มันสามารถจัดการเรียนการสอนให้ได้ตาม "มาตรฐานที่ควรมี" ได้โรงเรียนขนาดเล็ก สมมุติว่า 20 คนนะ มี 6 ชั้นๆ ละ 3-4 คนอย่างมากมันก็จ้างครูได้ไม่เกิน 2 คนถามว่าครู 2 คนจะไปสอน 6 ชั้นปีได้ยังไงครับ?ลองแสดงให้ดูหน่อยผมถามมานานแล้ว ยังไม่เห็นมีใครตอบครู 2 คนสอน 6 ชั้นปี หากคุณเรียกว่าได้มาตรฐานผมจะยอมออกมาคัดค้านการยุบโรงเรียนกับคุณด้วยเลยเอ้า
คุณครับ ผมเพียงแต่บอกว่า ถ้าท่าน รมต.เอาจำนวนนักเรียนมาเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพของโรงเรียนนั้นๆ ขอบอกว่า โรงเรียนนี้มีนักเรียน 1,700คน ก็คงเป็นโรงเรียนระดับ ดีเลิศประเสริฐศรีแน่นอนเบย ในที่นี้ผมก็หมายถึง ถ้ารมต.เอาจำนวนนักเรียนมาเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพ อะครับ
ผมสื่อให้เห็นว่า รมต.เอาจำนวนนักเรียนเป็นตุ๊กตาเพื่อยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ทำไมไม่ใช้ปัจจัยหลายๆอย่างครับ ถ้าจะว่าไป นักเรียนบางคนในโรงเรียนขนาดใหญ่ ก็อ่านหนังสือไม่ออกนะครับ โดยเฉพาะโรงเรียนขยายโอกาส ม.ต้นแล้วยังอ่านหนังสือไม่ออกหรือไม่คล่อง ซึ่งผมคิดว่านโยบายไม่ให้เด็กซ้ำชั้นก็มีส่วน
คุณรู้ใหม โรงเรียนยิ่งขนาดใหญ่ งบประมาณยิ่งเยอะ ถ้าได้ผู้บริหารดีก็ดีไป แต่สิ่งที่พบเจอประจำก็คือ ผู้บริหารพวกนี้จะบริหารงบเพลินจนลืมบริหารการศึกษาครับ
คุณรู้จักแต่เด็กรางม่วง แล้วเด็กเฉียดแสนคนตามที่คุณอ้างถึงในคำตอบ 250 เป็นเด็กในโรงเรียนขนาดเล็กทั้งนั้นเหรอ
Edited by ซีมั่น โลช่า, 11 May 2013 - 21:19.
Posted 11 May 2013 - 10:30
3x3eyes, on 11 May 2013 - 10:07, said:
คุณบอกทำไม่ได้ ไม่เห็นบอกทำไม่ได้ยังไง
แล้วไอ้โรงเรียนที่มันมีนักเรียนหลายร้อยหลายพัน มันทำได้ยังไงหละครับ
มันมีครูสอนครบได้ยังไง
3x3 กับกบแดง ผมรู้ว่าพวกคุณมันไม่มีอะไรอยู่ในหัว ขอให้ค้านไว้ก่อน ผมตอบแทนให้แล้วกัน
การยุบรวมโรงเรียนเขาทำหลากหลายรูปแบบ อันที่เห็นชัดคืออย่างที่สตูล เขายุบ 2 โรงเรียนเล็กไปรวมกับโรงเรียนใหญ่ใกล้ๆ กัน ซึ่งผู้ปกครองไม่มีปัญหาในการย้ายโรงเรียน
ในบางพื้นที่ เขาไม่มีโรงเรียนใหญ่ให้ย้ายไปรวม เขาก็จะยุบโรงเรียนเล็กเข้าด้วยกัน ให้อยู่ภายใต้การบริหารเดียวกัน เช่นให้ โรงเรียนหนึ่งมีครู 2 คน สอนเฉพาะ ป1-ป2 อีกโรงเรียนสอน ป 3-ป4 อีกโรงเรียนสอน ป 4-ป6
ทั้ง 3 โรงที่อยู่ใกล้กันยุบรวมเป็นหนึ่งโรง แต่แทนที่เด็กจะกระจายไปเรียน ป 1 ทั้ง 3 แห่ง ก็ให้มาเรียนที่เดียวกัน
แบบนี้อย่างน้อยเขาก็สามารถมีครูสอนได้ครบทุกชั้นปีโดยใช้งบประมาณเท่าเดิมได้ นักเรียนทั้ง 3 โรงก็สามารถแชร์ทรัพยากรเช่นห้องคอมพิวเตอร์อยู่โรงเรียนนี้ ห้องสมุดใหญ่อยู่อีกโรงเรียนนึง ยืมหนังสือข้ามกันไปมาได้ ฯลฯ
นั่นคือที่รัฐบาลเขาจะทำ
ส่วนไอ้ของคุณมันแหกปากร้อง ไม่ยุบไม่ยุบ แต่ถามว่าหากไม่ยุบจะบริหารจัดการอย่างไรให้นักเรียนมีครคูสอนครบทุกขั้นได้ ปรากฎว่าเงียบ ในหัวมีแต่ความว่างเปล่า
ผมจะบอกให้นะ
โครงการแบบนี้มันเป็นโครงการที่ข้าราชการในกระทรวงศึกษาเขาเป็นคนคิดและเก็บรวบรวมข้อมูลมาหลายปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งคิด และไม่ใช่ออกมาจากกึ๋นรัฐมนตรีอย่างที่คุณพยายามไปว่าเขาหรอก
รัฐมนตรีมีหน้าที่เพียงแค่เห็นด้วยกับหลักการและ "กล้า" ที่จะออกมาทำโดยไม่กลัวเสียคะแนนเสียง
ส่วนพวกคุณก็เพียงออกมาค้านโดยไม่มีข้อมูลอะไรเลย เพียงเพราะเขาเป็นพรรคฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น
Edited by CanisLupus, 11 May 2013 - 10:30.
Posted 11 May 2013 - 10:35
ครูหวัง กับจิตวิญญาณความเป็นครู แม้มีลูกศิษย์ในโรงเรียนเพียง 2 คน
Mthainews: ปัจจุบัน โรงเรียนในเขตพื้นที่ชนบทเริ่มสูญหายไป จากการแทนที่ของโรงเรียนขนาดใหญ่ในตัวเมือง ที่มีอุปกรณ์เพียบพร้อม และบุคลากรที่มีคุณภาพ ไม่ต่างจากในโรงเรียนชนบทแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน ฉวงเหมียว ทางตะวันออกของมณฑณอันฮุย ในประเทศจีน มีนักเรียนเพียง 2 คน และครูใหญ่ ซึ่งเป็นครูผู้สอน เพียง 1 คนเท่านั้น
เด็กชายหยาง หนี่หยวนชาง
แต่ด้วยคุณภาพการสอน โรงเรียนแห่งนี้ก็เชื่อว่าคุณภาพการสอนไม่ด้อยไปจากโรงเรียนอื่นๆ ครูหวัง จินลอง วัย 56 ปี ครูใหญ่ เปิดเผยว่า นักเรียนส่วนใหญ่ต่างแยกย้ายกันไปเรียนในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเมือง แต่ครูหวังก็ยังคงสอนเด็กๆทั้ง 2 คนที่ยังไม่ได้ย้ายๆไปไหน ก็ยังสั่งสอน เด็กชายหลี จุนเชง นักเรียนชั้นป.2 และเด็กชายหยาง หนี่หยวนชาง นักเรียนอนุบาล วัย 5 ขวบ เพื่อจะได้รับความรู้อย่างเต็มที่
การศึกษาจึงไม่ได้เน้นเพียงปริมาณ แต่ความปรารถนาในการสั่งสอน อมรบ แม้เพียง 2 คน ครูหวังก็ยินดี มอบให้ด้วยจิตวิญญาณในอาชีพ ครู
Posted 11 May 2013 - 10:55
คุณ CanisLupus การที่ดิฉันถามไปก็เพื่อต้องการทราบว่า ทางสำนักเขตได้ทำอะไรบ้าง เมื่อคุณตอบว่าเขาสำรวจทุกปี ก็จะสรุปตามนั้น เพราะเชื่อว่าคุณอาจทำงานในแวดวงการศึกษาจึงมีข้อมูลที่ละเอียดกว่า
ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ ว่ามีใคร โต้แย้งว่า ควรพัฒนาโรงเรียนที่มีเด็กแค่ 3 คนให้ได้มาตราฐาน แต่ที่อยากทราบจริงๆคือ เมื่อสำรวจรู้ ก็น่าจะดำเนินการบางอย่างเพื่อย้ายเด็กไปอยู่ที่ใหม่ เพราะน่าจะง่ายในเฉพาะกรณีนี้
เพราะมีเด็กเพียง 3 คน และตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมาก็มีจำนวนเพียงแค่ 11 คน ก็น่าจะคุยกับผู้ปกครองได้ ชี้แจงเหตุผลต่อกัน
ส่วนความคิดของคนอื่น คือความคิดเห็นที่เขามีอยู่ในกรณีนี้ อาจแตกต่างกันได้ เพราะแต่ละคนต่างก็มีเหตุผล โรงเรียนที่มีเด็ก 3 คน เห็นด้วยค่ะว่าควรยุบ เพราะเด็กบ้านใกล้เรือนเคียงก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น ก็คงต้องมาดูว่าเกิดอะไรกับเด็กที่ไม่ยอมย้าย หาทางแก้ปัญหาให้จบลงด้วยดีทุกฝ่าย คนอีสานหัวอ่อนค่ะ ไม่ค่อยกล้าเถียงหรอกค่ะ กับข้าราชการ (ขนาดตั้งโรงเรียนของ นปช. ยังกล้าส่งไปเรียนกันไม่น้อยเลย ไม่ได้ประชดค่ะ พูดตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง) ส่วนที่สตูล นั้นปัญหาต่างกันนะคะ คงไม่ง่าย เพราะอย่าลืมว่าเป็นชุมชนมีความละเอียดอ่อนในเรื่องของศาสนา การจะแสดงความคิดเห็นก็ควรต้องระมัดระวังค่ะ การที่มีจำนวนน้อยอาจเป็นเรื่องของเด็กที่ต่างกันด้านศาสนาก็เป็นได้
ป.ล. เวลาตอบเฉพาะกับดิฉันค่ะ อย่าลากเอาคนนอกเข้ามาเลยนะคะ ไม่สบายใจคะ อยากให้เป็นแค่การแลกเปลี่ยนความคิดกันเป็นคนๆไป
Posted 11 May 2013 - 10:55
3x3eyes, on 11 May 2013 - 10:07, said:
คุณบอกทำไม่ได้ ไม่เห็นบอกทำไม่ได้ยังไง
แล้วไอ้โรงเรียนที่มันมีนักเรียนหลายร้อยหลายพัน มันทำได้ยังไงหละครับ
มันมีครูสอนครบได้ยังไง
3x3 กับกบแดง ผมรู้ว่าพวกคุณมันไม่มีอะไรอยู่ในหัว ขอให้ค้านไว้ก่อน ผมตอบแทนให้แล้วกัน
การยุบรวมโรงเรียนเขาทำหลากหลายรูปแบบ อันที่เห็นชัดคืออย่างที่สตูล เขายุบ 2 โรงเรียนเล็กไปรวมกับโรงเรียนใหญ่ใกล้ๆ กัน ซึ่งผู้ปกครองไม่มีปัญหาในการย้ายโรงเรียน
ในบางพื้นที่ เขาไม่มีโรงเรียนใหญ่ให้ย้ายไปรวม เขาก็จะยุบโรงเรียนเล็กเข้าด้วยกัน ให้อยู่ภายใต้การบริหารเดียวกัน เช่นให้ โรงเรียนหนึ่งมีครู 2 คน สอนเฉพาะ ป1-ป2 อีกโรงเรียนสอน ป 3-ป4 อีกโรงเรียนสอน ป 4-ป6
ทั้ง 3 โรงที่อยู่ใกล้กันยุบรวมเป็นหนึ่งโรง แต่แทนที่เด็กจะกระจายไปเรียน ป 1 ทั้ง 3 แห่ง ก็ให้มาเรียนที่เดียวกัน
แบบนี้อย่างน้อยเขาก็สามารถมีครูสอนได้ครบทุกชั้นปีโดยใช้งบประมาณเท่าเดิมได้ นักเรียนทั้ง 3 โรงก็สามารถแชร์ทรัพยากรเช่นห้องคอมพิวเตอร์อยู่โรงเรียนนี้ ห้องสมุดใหญ่อยู่อีกโรงเรียนนึง ยืมหนังสือข้ามกันไปมาได้ ฯลฯ
นั่นคือที่รัฐบาลเขาจะทำ
ส่วนไอ้ของคุณมันแหกปากร้อง ไม่ยุบไม่ยุบ แต่ถามว่าหากไม่ยุบจะบริหารจัดการอย่างไรให้นักเรียนมีครคูสอนครบทุกขั้นได้ ปรากฎว่าเงียบ ในหัวมีแต่ความว่างเปล่า
ผมว่าคุณมากกว่าที่ไม่มีอะไรในหัว จะยุบตามนายอย่างเดียว
ถามว่า แล้วโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีสรรพสิ่งทั้งหลายแหล่ที่คุณว่ามา ทำไมถึงไม่ยุบไปด้วย
"เพราะมันไม่ได้มาตรฐาน"
“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”
"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"
-Dante Alighieri-
Posted 11 May 2013 - 10:55
ผมคัดค้านการที่จะยุบโดยเอาจำนวนนักเรียนเป็นเกณฑ์ตั้ง ผมไม่อยากให้เอาจำนวนนักเรียนมาวัด แต่เอาสภาพแวดล้อมมาวัดมากกว่าว่าสมควรยุบหรือไม่ ยกตัวอย่างใน 1 ตำบลควรจะมีโรงเรียนประจำตำบล แต่หากในตำบลใดมีซ้ำกันและทับซ้อนกัน มากกว่า 1 อันนี้เห็นด้วยครับ ว่ายุบรวมกันไปเถิด แต่ไม่เห็นด้วยที่จะยุบระดับตำบลแล้วเอาไปรวมกันไว้ในอำเภอ เพราะบางตำบลกว่าจะเดินทางเข้ามาได้กินเวลามากเนื่องจากทางลำบาก แต่การยุบรวมโรงเรียนระดับหมู่บ้านแล้วเข้าเป็นระดับตำบลอันนี้คิดว่าอยู่ไม่ไกลกันมากไม่เสียเวลาเดินทางมากนัก เรื่องนี้อันไหนเห็นด้วยก็เห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็อยากให้แก้ไขเพื่อให้ดีขึ้น
ผมเชื่อว่าทางราชการที่เขาดูแลเรื่องนี้และคิดกันมาตั้งหลายปีแล้วเขาก็คงคิดไม่ต่างจากคุณหรอก
ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอก ปัญหามันอยู่ที่พวกแอนตี้เพียงเพราะเป็นนโยบายพรรคฝั่งตรงข้าม ไม่ได้ดูรายละเอียดเขาเลย ดราม่าเอาไว้ก่อน (อันนี้ไม่ได้ว่า จขกท นะครับ )
ขอแย้ังหน่อยนะ ว่าไม่ได้ตั้งใจทำแบบที่ผมว่าแต่แรก ตอนแรกเอาเกณฑ์ตัวเลขมาตั้งเป็นโจทย์ กับเรื่องงบประมาณไม่พอ แต่ดันพอที่จะเอาไปซื้อรถตู้ แต่พอโดนแย้งหนักเข้าก็ค่อยเปลี่ยน แต่ผมก็คิดว่ายังดีที่เริ่มเปลี่ยน
"Power tends to corrupt, and absolute power corrupts absolutely."
Posted 11 May 2013 - 11:12
ผมว่าคุณมากกว่าที่ไม่มีอะไรในหัว จะยุบตามนายอย่างเดียว
ถามว่า แล้วโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีสรรพสิ่งทั้งหลายแหล่ที่คุณว่ามา ทำไมถึงไม่ยุบไปด้วย
"เพราะมันไม่ได้มาตรฐาน"
ยุบแล้วจะให้ไปเรียนที่ไหนหล่ะครับ 3x3?
เขาก็ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าโรงเรียนในที่ทุรกันดารมันเป็นกรณีพิเศษที่เขายุบไม่ได้ ก็ต้องทุ่มเงินต่อหัวลงไปมากกว่าปกติเพื่อพัฒนาคุณภาพ ซึ่งมันก็เป็นโครงการอีกโครงการของเขา มันไม่เกี่ยวกับโครงการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก คุณไปลากเอาสองเรื่องมารวมกัน
โรงเรียนขนาดเล็กพวกนี้แต่เดิมมันก็เป็นโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารเหมือนกัน
เขาจึงยอมให้มันคงอยู่
แต่ปัจจุบันชนบทมันเปลี่ยนไปมากแล้ว
อย่างโรงเรียนรางม่วงเมื่อก่อนมันเป็นถนนดินแดง เดินทางเข้าไปในเขตเทศบาลที่ห่างออกไปแค่ 3-4 กิโลมันก็ยากลำบากแล้ว
ปัจจุบันมันตัดเป็นถนนดำ 2 เลน และกำลังขยายเป็น 4 เลน มีรถเมล์รถมอไซค์รับจ้างวิ่งตลอด ไม่ถึง 3 นาทีก็ถึงโรงเรียนอีกแห่งหนึ่งที่ใหญ่กว่าแล้ว
รางม่วงมีจำนวนนักเรียนน้อยลงทุกปีเพราะการคมนาคมสะดวกขึ้น บางคนก็ส่งลูกไปเรียนในอำเภอเมืองซึ่งอยู่ห่างออกไปแค่ 20 กิโล
จำนวนเด็กเกิดใหม่ก็น้อยลงทุกปี
จาก 60 คน อีก 2 ปี ก็คงจะเหลือแค่ 40 ครู 6 คนก็จะเหลือแค่ 4 ซึ่งไม่พอสอนทุกชั้นแน่ๆ
โรงเรียนมันหมดความต้องการ มันก็ต้องยุบครับ คุณจะให้มันอยู่ค้ำฟ้าหรืออย่างไร?
Posted 11 May 2013 - 11:16
Posted 11 May 2013 - 11:22
จะยุบโรงเรียนโดยมาอ้างว่า ไม่มีงบนี้ มันฟังไม่ขึ้นหรอก น่าจะอย่างอื่นแอบแฝงมากกว่า อีกอย่างที่ว่า โรงเรียนไม่มีคุณภาพนะมันสะท้อนการทำงานของกระทรวง ศธ.เอง ที่ผ่านมาโรงเรียนขนาดเล็กส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานตัวเองเท่าไหร่ โรงเรียนขาดแคลนอะไรขอไปก็ไม่ค่อยได้ แต่แต่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่จะได้เกือบทุกอย่าง โรงเรียนเล็กๆจึงต้องช่วยตัวเองเช่น เคยคุยกับผู้บริหารโรงเรียนเล็กๆว่าคอมพิวเตอร์สอนเด็กพวกครูต้องช่วยกันหาเงินซื้อมาเอง เพราะถ้าไม่มี หน่วยเหนือจะว่าโรงเรียนนี้ไร้ความสามารถ แต่โรงเรียนขนาดใหญ่ได้รับเต็มที่ไม่ต้องขวนขวายเอง อีกอย่างครูโรงเรียนเล็กๆไม่ได้มีหน้าที่สอนอย่างเดียว ต้องทำงานธุรการ งานสารบรรณ ทำอาหารกลางวันให้นักเรียน ทำเรื่องการเงินโรงเรียน บางครั้งต้องเป็นหมอฟันด้วยนะเพราะอนามัยเขาไม่มาตรวจเขาฝากให้ตรวจแทน แต่เท่าที่เห็นในท้องถิ่นของตัวเอง คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนเหล่านี้ไม่ด้อยกว่าโรงเรียนใหญ่ๆเลย ผลสัมฤทธิ์ระดับประเทศดีกว่าโรงเรียนใหญ่ๆหลายโรง อันนี้เฉพาะที่เห็นนะ ที่อื่นไม่ทราบ
คุณนายม้ง งบประมาณที่กระทรวงเขาจัดให้เป็นงบประมาณต่อหัวนะครับ เช่น 2,000 บาทต่อหัว
ซึ่งถามว่าโรงเรียนนักเรียน 3 คน งบประมาณ 2,000 บาทต่อหัว คุณจะไปขอเขาซื้อคอมพิวเตอร์มันทำได้หรือเปล่าหล่ะครับ?
แล้วคุณจะบอกว่า งั้นเพิ่มให้โรงเรียนนี้คนหละหมื่นสิ อ้าวถ้าอย่างงั้นก็ไม่แฟร์กับเด็กโรงเรียนอื่นสิครับ โรงเรียน 3 คนนี่ไม่ใช่ไม่มีทางเลือก เขาไม่ได้อยู่ในที่ทุรกันดาร เขาสามารถเรียนโรงเรียนอื่นได้ แต่มีครูหรือผู้ใหญ่บางคนที่อยากเก็บโรงเรียนเอาไว้ ไม่ยอมให้ยุบ ด้วยเหตุผลความผูกพันส่วนตัว (เหมือนครูหวังที่กบแดงเอามาให้ดู) ถึงจะเหลือหนึ่งคนเขาก็จะเก็บเอาไว้ แล้วมาเรียกร้องจะเอาห้องคอมพิวเตอร์ จะจ้างครู 6 คนให้ครบทุกชั้นปี
ผมถามว่า มันทำได้หรือ?
Edited by CanisLupus, 11 May 2013 - 11:28.
Posted 11 May 2013 - 11:37
"โรงเรียนหนู ใช่โรงเรียน นานาชาติ
ถึงจะอยู่ ปลายนา กลางป่าเขา
ก็เป็นแหล่ง เรียนรู้ คู่ลำเนา
ให้เด็กเรา เรียนได้ กลางไพรพง
ไม่มีงบ ดูแล โรงเรียนหนู
มีงบซื้อ รถตู้ คอยรับส่ง
งบสร้างคน ลดน้อย ด้อยค่าลง
วัตถุคง สำคัญ กว่าปัญญา
โรงเรียนเล็ก ห่างไกล แต่ใกล้ราษฎร์
ช่วยกระจาย โอกาส การศึกษา
ชุมชนสู้ แผ้วถาง สร้างกันมา
พัฒนา ให้ดีได้ กลับไม่ทำ...."
อภิชาติ ดำดี
๙ พค. ๒๕๕๖
Cr วิเศษ บางวิเศษ
Posted 11 May 2013 - 11:43
ไม่ได้บอกว่า ต้องเพิ่มงบรายหัวเป็นหมื่น แค่ที่ทราบไม่มี โรงเรียนไหนเอาเงินรายหัวไปซื้อคอมพิวเตอร์หรอก ( เพราะเงินส่วนนี้เขาให้เอาไปจัดกิจกรรมการเรียน เช่ยจัดซื้อวัสดุการเรียน การพานักเรียนไปแหล่งเรียนรู้ และกิจกรรมต่างๆที่หน่วยงานจัดขึ้น) แต่เป็นการจัดสรรมาจากหน่วยเหนือต่างหากที่จะให้โรงเรียน ที่ผ่านมาโรงเรียนใหญ่ๆจะได้มากกว่า โรงเรียนขนาดเล็กขออะไรไปมักจะได้คำตอบว่า โรงเรียนเล็กไม่มีต้องมี ถ้าอยากได้ก็ไปหาเองจะยุบโรงเรียนโดยมาอ้างว่า ไม่มีงบนี้ มันฟังไม่ขึ้นหรอก น่าจะอย่างอื่นแอบแฝงมากกว่า อีกอย่างที่ว่า โรงเรียนไม่มีคุณภาพนะมันสะท้อนการทำงานของกระทรวง ศธ.เอง ที่ผ่านมาโรงเรียนขนาดเล็กส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานตัวเองเท่าไหร่ โรงเรียนขาดแคลนอะไรขอไปก็ไม่ค่อยได้ แต่แต่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่จะได้เกือบทุกอย่าง โรงเรียนเล็กๆจึงต้องช่วยตัวเองเช่น เคยคุยกับผู้บริหารโรงเรียนเล็กๆว่าคอมพิวเตอร์สอนเด็กพวกครูต้องช่วยกันหาเงินซื้อมาเอง เพราะถ้าไม่มี หน่วยเหนือจะว่าโรงเรียนนี้ไร้ความสามารถ แต่โรงเรียนขนาดใหญ่ได้รับเต็มที่ไม่ต้องขวนขวายเอง อีกอย่างครูโรงเรียนเล็กๆไม่ได้มีหน้าที่สอนอย่างเดียว ต้องทำงานธุรการ งานสารบรรณ ทำอาหารกลางวันให้นักเรียน ทำเรื่องการเงินโรงเรียน บางครั้งต้องเป็นหมอฟันด้วยนะเพราะอนามัยเขาไม่มาตรวจเขาฝากให้ตรวจแทน แต่เท่าที่เห็นในท้องถิ่นของตัวเอง คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนเหล่านี้ไม่ด้อยกว่าโรงเรียนใหญ่ๆเลย ผลสัมฤทธิ์ระดับประเทศดีกว่าโรงเรียนใหญ่ๆหลายโรง อันนี้เฉพาะที่เห็นนะ ที่อื่นไม่ทราบ
คุณนายม้ง งบประมาณที่กระทรวงเขาจัดให้เป็นงบประมาณต่อหัวนะครับ เช่น 2,000 บาทต่อหัว
ซึ่งถามว่าโรงเรียนนักเรียน 3 คน งบประมาณ 2,000 บาทต่อหัว คุณจะไปขอเขาซื้อคอมพิวเตอร์มันทำได้หรือเปล่าหล่ะครับ?
แล้วคุณจะบอกว่า งั้นเพิ่มให้โรงเรียนนี้คนหละหมื่นสิ อ้าวถ้าอย่างงั้นก็ไม่แฟร์กับเด็กโรงเรียนอื่นสิครับ โรงเรียน 3 คนนี่ไม่ใช่ไม่มีทางเลือก เขาไม่ได้อยู่ในที่ทุรกันดาร เขาสามารถเรียนโรงเรียนอื่นได้ แต่มีครูหรือผู้ใหญ่บางคนที่อยากเก็บโรงเรียนเอาไว้ ไม่ยอมให้ยุบ ด้วยเหตุผลความผูกพันส่วนตัว (เหมือนครูหวังที่กบแดงเอามาให้ดู) ถึงจะเหลือหนึ่งคนเขาก็จะเก็บเอาไว้ แล้วมาเรียกร้องจะเอาห้องคอมพิวเตอร์ จะจ้างครู 6 คนให้ครบทุกชั้นปี
ผมถามว่า มันทำได้หรือ?
Posted 11 May 2013 - 11:56
โรงเรียนบ้านป่าหัด ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน ต้องการความช่วยเหลือจากผู้มีจิตศรัทธา ช่วยเหลือเด็กยากจน
สภาพอาคารเรียน
โรงเรียนบ้านกกเชียง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นโรงเรียนประกาศเป็นพื้นที่กันดารภูเขา การคมนาคม ไม่สะดวก ฤดูฝนมีน้ำป่าทำให้ถูกตัดจากการเดินทางภายนอก ฤดูอื่นทางเน้าโรงเรียนเป็นทางลูกรัง มีฝุ่น และเป็นหลุมบ่อ ประมาณ5-6 กม จากถนนลาดยาง ไปเส้นทางเดียวกับอุทยานแห่งชาติพุเตย
มีนักเรียน 50 คน ครูผู้สอน 3 คน เรียนกันแบบรวมชั้น อนุบาล , ประถม 1-3 และ ประถม 4-6
สภาพชุมชนผู้ปกครองมีเชื้อสายชาวละว้า มีรายได้น้อยมากจากการทำไร่ รับจ้าง โดยภาพรวม พื้นฐานเด็กๆ ขาดโอกาสในชีวิต
โรงเรียนมีภาระที่ต้องดำเนินงานโครงการอาหารกลางวัน ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนน้อยมาก แต่ต้องดูแลให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารกลางวัน รวมถึงอาคารเรียนในบางส่วนเริ่มชำรุดเสียหายตามกาลเวลา
สิ่งที่โรงเรียนและนักเรียนยังขาดแคลนอยู่มีดังนี้
1. เงินทุนสำหรับการศึกษาของนักเรียน
2. อาหารกลางวันและเครื่องเขียน แบบเรียน เสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา
3. หนังสือห้องสมุด หรือมุมหนังสือในห้องเรียน พัฒนาห้องสมุดโรงเรียนขนาดเล็ก
ขอความเมตตาจากท่านที่มีใจเป็นกุศล กรุณาช่วยเหลือเด็กๆ เชื้อสายละว้า เหล่านี้ ให้มีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตมากขึ้นด้วยครับ
ถ้าท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาสอบถามได้ที่ นายธวัช กรุดมณี 08-1454-4479 0-3544-0011
โรงเรียนวัดน้ำโจนเหนือ ต้องการผู้อุปถัมภ์โรงเรียน
ท่านที่มีปัจจัยที่จะให้ความช่วยเหลือโรงเรียนที่มีความขาดแคลนในหลายด้าน เชิญร่วมพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยกันครับ
ข้อมูลพื้นฐาน
โรงเรียนวัดน้ำโจนเหนือ ตั้งอยู่ภายในวัดน้ำโจนเหนือ หมู่ที่ 6 ต.หัวดง อ.เมือง จ.พิจิตร เปิดสอนชั้น อนุบาล 1 - ป.6 มีนักเรียนทั้งหมด 37 คน มีครู 4 คน สิ่งที่ต้องการเร่งด่วนคือ ความคิดเห็นในการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีครูไม่ครบชั้นให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน และต้องการสีน้ำมันที่ใช้ทาไม้มาทาสีอาคารเรียนชั้นบนซึ่งเป็นไม้ มีสภาพค่อนข้างเก่าแล้ว ผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมพัฒนาโรงเรียนวัดน้ำโจนเหนือ โปรดติดต่อผู้อำนวยการโรงเรียน นายสังเวย หมอนเมือง โทร.081-5330216 E-mail watnumjonenau@thaimail.com
นักเรียนนนน! เราควรยุบโรงเรียนนะ ไปรวมโรงเรียนใหญ่ เราจะได้ไม่ต้องมาขอบริจาค
ได้นั่งส้วมชักโครก สะบายตูด ทำให้สมองโปร่งใส เวลามีแทบล้อด
ก้อมีไวไฟให้เล่น ไม่ต้องเอามาทับกระดาษนะ ทุ้กกกคอนน?
Posted 11 May 2013 - 12:01
ปิดเยอะเกินไปแล้ว จะโกงกินโครงการต่อไปถึงต้องสังเวยมากขนาดนี้เลยเหรอ
Posted 11 May 2013 - 12:06
ผมว่าคุณมากกว่าที่ไม่มีอะไรในหัว จะยุบตามนายอย่างเดียว
ถามว่า แล้วโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีสรรพสิ่งทั้งหลายแหล่ที่คุณว่ามา ทำไมถึงไม่ยุบไปด้วย
"เพราะมันไม่ได้มาตรฐาน"
ยุบแล้วจะให้ไปเรียนที่ไหนหล่ะครับ 3x3?
เขาก็ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าโรงเรียนในที่ทุรกันดารมันเป็นกรณีพิเศษที่เขายุบไม่ได้ ก็ต้องทุ่มเงินต่อหัวลงไปมากกว่าปกติเพื่อพัฒนาคุณภาพ ซึ่งมันก็เป็นโครงการอีกโครงการของเขา มันไม่เกี่ยวกับโครงการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก คุณไปลากเอาสองเรื่องมารวมกัน
โรงเรียนขนาดเล็กพวกนี้แต่เดิมมันก็เป็นโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารเหมือนกัน
เขาจึงยอมให้มันคงอยู่
แต่ปัจจุบันชนบทมันเปลี่ยนไปมากแล้ว
อย่างโรงเรียนรางม่วงเมื่อก่อนมันเป็นถนนดินแดง เดินทางเข้าไปในเขตเทศบาลที่ห่างออกไปแค่ 3-4 กิโลมันก็ยากลำบากแล้ว
ปัจจุบันมันตัดเป็นถนนดำ 2 เลน และกำลังขยายเป็น 4 เลน มีรถเมล์รถมอไซค์รับจ้างวิ่งตลอด ไม่ถึง 3 นาทีก็ถึงโรงเรียนอีกแห่งหนึ่งที่ใหญ่กว่าแล้ว
รางม่วงมีจำนวนนักเรียนน้อยลงทุกปีเพราะการคมนาคมสะดวกขึ้น บางคนก็ส่งลูกไปเรียนในอำเภอเมืองซึ่งอยู่ห่างออกไปแค่ 20 กิโล
จำนวนเด็กเกิดใหม่ก็น้อยลงทุกปี
จาก 60 คน อีก 2 ปี ก็คงจะเหลือแค่ 40 ครู 6 คนก็จะเหลือแค่ 4 ซึ่งไม่พอสอนทุกชั้นแน่ๆ
โรงเรียนมันหมดความต้องการ มันก็ต้องยุบครับ คุณจะให้มันอยู่ค้ำฟ้าหรืออย่างไร?
คุณจะบอกว่าเพราะมีถนน เลยทำให้โรงเรียนมันไม่น่าเรียน ??
สมมติว่าอำเภอนึง มีถนนเข้าถึงทุกตำบล ไม่ต้องยุบโรงเรียนมันทุกตำบลรึไง
ที่ๆผมอยู่ ถนนเส้นเดียวลาดยาง 2เลน ยาวแค่ 14 กม. ผ่านโรงเรียน 5 โรง แบบนี้ต้องยุบให้เหลือที่เดียวถึงจะถูกรึเปล่า ??
“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”
"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"
-Dante Alighieri-
Posted 11 May 2013 - 12:12
ผมว่าคุณมากกว่าที่ไม่มีอะไรในหัว จะยุบตามนายอย่างเดียว
ถามว่า แล้วโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีสรรพสิ่งทั้งหลายแหล่ที่คุณว่ามา ทำไมถึงไม่ยุบไปด้วย
"เพราะมันไม่ได้มาตรฐาน"
ยุบแล้วจะให้ไปเรียนที่ไหนหล่ะครับ 3x3?
เขาก็ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าโรงเรียนในที่ทุรกันดารมันเป็นกรณีพิเศษที่เขายุบไม่ได้ ก็ต้องทุ่มเงินต่อหัวลงไปมากกว่าปกติเพื่อพัฒนาคุณภาพ ซึ่งมันก็เป็นโครงการอีกโครงการของเขา มันไม่เกี่ยวกับโครงการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก คุณไปลากเอาสองเรื่องมารวมกัน
โรงเรียนขนาดเล็กพวกนี้แต่เดิมมันก็เป็นโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารเหมือนกัน
เขาจึงยอมให้มันคงอยู่
แต่ปัจจุบันชนบทมันเปลี่ยนไปมากแล้ว
อย่างโรงเรียนรางม่วงเมื่อก่อนมันเป็นถนนดินแดง เดินทางเข้าไปในเขตเทศบาลที่ห่างออกไปแค่ 3-4 กิโลมันก็ยากลำบากแล้ว
ปัจจุบันมันตัดเป็นถนนดำ 2 เลน และกำลังขยายเป็น 4 เลน มีรถเมล์รถมอไซค์รับจ้างวิ่งตลอด ไม่ถึง 3 นาทีก็ถึงโรงเรียนอีกแห่งหนึ่งที่ใหญ่กว่าแล้ว
รางม่วงมีจำนวนนักเรียนน้อยลงทุกปีเพราะการคมนาคมสะดวกขึ้น บางคนก็ส่งลูกไปเรียนในอำเภอเมืองซึ่งอยู่ห่างออกไปแค่ 20 กิโล
จำนวนเด็กเกิดใหม่ก็น้อยลงทุกปี
จาก 60 คน อีก 2 ปี ก็คงจะเหลือแค่ 40 ครู 6 คนก็จะเหลือแค่ 4 ซึ่งไม่พอสอนทุกชั้นแน่ๆ
โรงเรียนมันหมดความต้องการ มันก็ต้องยุบครับ คุณจะให้มันอยู่ค้ำฟ้าหรืออย่างไร?
คุณจะบอกว่าเพราะมีถนน เลยทำให้โรงเรียนมันไม่น่าเรียน ??
สมมติว่าอำเภอนึง มีถนนเข้าถึงทุกตำบล ไม่ต้องยุบโรงเรียนมันทุกตำบลรึไง
ที่ๆผมอยู่ ถนนเส้นเดียวลาดยาง 2เลน ยาวแค่ 14 กม. ผ่านโรงเรียน 5 โรง แบบนี้ต้องยุบให้เหลือที่เดียวถึงจะถูกรึเปล่า ??
โรงเรียนมันหมดความต้องการ < คัยเป็นผู้กำหนด เมื่อยังมีครู มีนักเรียน
Posted 11 May 2013 - 12:51
3x3 กับกบแดง ผมรู้ว่าพวกคุณมันไม่มีอะไรอยู่ในหัว ขอให้ค้านไว้ก่อน ผมตอบแทนให้แล้วกัน
อื้อหือ ตัวหนังสือบอกสัน-ดาน
แค่ในบอร์ด ยังพูดดีๆไม่ได้ ต้องกด ต้องเหยียด ต้องเหยียบคนอื่น เพื่อยกตัวเองสูงขึ้น
ไปใช้คำพูดพวกนี้นอกบอร์ดหรือเปล่านี่ เวลาพูดกับคนอื่น
คงได้มีปากแตกกันบ้าง เหยียดเขาซะขนาดนี้
Posted 11 May 2013 - 14:00
Posted 11 May 2013 - 15:51
ทำไมมันไม่ยุบ 7/11 ยุบห้างสรรพสินค้ามั่ง จะยุบแต่โรงเรียน
“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”
"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"
-Dante Alighieri-
Posted 11 May 2013 - 16:11
คุณผึ้งน้อยนี่ก็อดทนเนอะ
ผึ้งอ่ะนะ เขาไม่ใช่ต้องการความ "อดทน" หรอกในการมาคุยกับผม
เขาต้องการ "ความกล้า" เป็นอย่างสูงต่างหากครับ
หากไม่ "เหลืออด" จริงๆ แล้ว เขา "ไม่กล้า" เขามาคุยกับผมหรอก เพราะเขา "สะสมเงิบ" กลับไปทุกที
อืมม คำว่าศูนย์กลางจักรวาล ไม่ได้มาเพราะโชคจริงๆ
Posted 12 May 2013 - 04:34
Posted 12 May 2013 - 05:16
สั้นๆ นะ สมองสุนัข ปัญญากระบือ อะครับความคิดนีี้ ไม่มีคำบรรยายจริงกับ คนพวกนี้สร้างแต่ความ ถดถอยจริง เวรกรรมจริงๆ
เรื่องแถ เรื่่องตอแหล ใครที่ว่าแน่ ยังแพ้พวกเสื้อแดง
หยุด ทำร้ายประเทศไทย หยุด กฎหมายนิรโทษกรรม
Posted 12 May 2013 - 05:55
Posted 12 May 2013 - 06:45
Posted 12 May 2013 - 09:56
3x3 กับกบแดง ผมรู้ว่าพวกคุณมันไม่มีอะไรอยู่ในหัว ขอให้ค้านไว้ก่อน ผมตอบแทนให้แล้วกัน
อื้อหือ ตัวหนังสือบอกสัน-ดาน
แค่ในบอร์ด ยังพูดดีๆไม่ได้ ต้องกด ต้องเหยียด ต้องเหยียบคนอื่น เพื่อยกตัวเองสูงขึ้น
ไปใช้คำพูดพวกนี้นอกบอร์ดหรือเปล่านี่ เวลาพูดกับคนอื่น
คงได้มีปากแตกกันบ้าง เหยียดเขาซะขนาดนี้
ผึ้ง คุณพูดอะไรไม่เคยย้อนกลับไปดูโพสเก่าๆ ของคุณเลยนะ
ผมพูดความจริงเรื่อง 3x3 กับกบแดงว่าเขาไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลยตอนที่วนลูปอยู่ที่ทำไมไม่พัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก 20คน ครู 2 คน
ผมถามเขาว่าจะทำยังไง เขาก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่มีอะไรอยู่ในหัว เพียงแต่อยากค้านเอาไว้ก่อน
ผมเลยเอาวิธีการจัดการมาให้ดูว่ากระทรวงเขาจะจัดการยังไงให้มีครูพอสอนทุกชั้นโดยการยุบโรงเรียน 2-3 โรงเป็นหนึ่งโรงเพื่อแบ่งทรัพยากรโรงเรียนนึงสอนป 1-2 อีกโรงสอนป3-4 อีกโรงสอนป 5-6
แทนที่จะขอบคุณผมที่ช่วยให้เขาและคุณฉลาดขึ้น กลับมาด่าผมเสียอีก
Posted 12 May 2013 - 10:42
3x3 กับกบแดง ผมรู้ว่าพวกคุณมันไม่มีอะไรอยู่ในหัว ขอให้ค้านไว้ก่อน ผมตอบแทนให้แล้วกัน
อื้อหือ ตัวหนังสือบอกสัน-ดาน
แค่ในบอร์ด ยังพูดดีๆไม่ได้ ต้องกด ต้องเหยียด ต้องเหยียบคนอื่น เพื่อยกตัวเองสูงขึ้น
ไปใช้คำพูดพวกนี้นอกบอร์ดหรือเปล่านี่ เวลาพูดกับคนอื่น
คงได้มีปากแตกกันบ้าง เหยียดเขาซะขนาดนี้
ผึ้ง คุณพูดอะไรไม่เคยย้อนกลับไปดูโพสเก่าๆ ของคุณเลยนะ
ผมพูดความจริงเรื่อง 3x3 กับกบแดงว่าเขาไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลยตอนที่วนลูปอยู่ที่ทำไมไม่พัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก 20คน ครู 2 คน
ผมถามเขาว่าจะทำยังไง เขาก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่มีอะไรอยู่ในหัว เพียงแต่อยากค้านเอาไว้ก่อน
ผมเลยเอาวิธีการจัดการมาให้ดูว่ากระทรวงเขาจะจัดการยังไงให้มีครูพอสอนทุกชั้นโดยการยุบโรงเรียน 2-3 โรงเป็นหนึ่งโรงเพื่อแบ่งทรัพยากรโรงเรียนนึงสอนป 1-2 อีกโรงสอนป3-4 อีกโรงสอนป 5-6
แทนที่จะขอบคุณผมที่ช่วยให้เขาและคุณฉลาดขึ้น กลับมาด่าผมเสียอีก
พัฒนาอะไรมันไม่ใช่หน้าที่ผม ยุบหรือทำลายก็เหมือนกัน คุณว่าอะไรมันง่ายกว่าหละ
แล้วทำไม่คุณทำไม่ได้แล้วคนอื่นจะทำไม่ได้ ไม่งั้นป่านนี้คุณคงไม่มีหลอดไฟใช้หรอก
ที่จริงคนรู้ทุกเรื่องอย่างคุณ ไปเป็นครู น่าจะสอนได้ไม่ต่ำกว่าสามหรือสี่วิชานะ คนเดียวกับเด็ก 20 คนไม่น่าจะมีปัญหา
ประเทศไทยไม่ได้มีแต่บ้านรางม่วง เด็กเล็กๆบางคนเดินไปโรงเรียนเป็นกิโล จะทันไม่ทันแหล่ กลับต้องมาเดินไกลขึ้นเท่าตัวหรือมากกว่า
คุณบอกไม่ต้องสนใจ มีมอไซด์รับจ้าง.... --!
มันไม่เหมือน กทม.นะครับ ที่จะมีจอดรอทุกห้าสิบเมตร หรือวิ่งผ่านให้กวักมือเรียกทุกนาที
ผมอยู่ในตัวเทศบาล เช้าๆอย่าหวังจะได้เจอมอไซด์รับจ้าง เพราะเค้าจะไปรอลูกค้าที่ตลาดสดกันหมด
กิโลนึง อย่างน้อยต้องมียี่สิบบาท
แล้วไอ้เด็กที่ต้องเดินออกมาจากหมู่บ้าน 2-3 กิโล มาถนนใหญ่เพื่อไปโรงเรียน มันจะหามอไซด์รับจ้างที่ไหน
วันไหนฝนตกก็ยิ่งลำบาก ต้องลากแตะหรือไม่ก็เท้าเปล่า
ค่าเสื้อผ้า อาหารกลางวันยังแทบไม่พอ ยังต้องมาเดินทางไป-กลับไกลขึ้น พ่อแม่ก็ไม่ว่างรับ-ส่งทุกวัน
หรือว่าไอ้พวกนี้ไม่ต้องเรียน
ลองให้ลูกคุณเดินวันละห้ากิโลไปโรงเรียนดูมั่งก็ได้นะ ไม่นานเท่าไหร่หรอก ชม.กว่าๆเอง
“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”
"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"
-Dante Alighieri-
Posted 12 May 2013 - 15:14
แทนที่จะขอบคุณผมที่ช่วยให้เขาและคุณฉลาดขึ้น กลับมาด่าผมเสียอีก
ผมว่าคุณเข้าข่ายพวกหมกมุ่นอยู่กับโลกเล็กๆของตัวเองแล้วนะ
เหมือนคนไม่ปกติง่ะ ดูจิตๆไงไม่รู้
ผมเลิกสนทนากับคนป่วยทางจิตแล้วนะครับ ไม่มีประโยชน์
Posted 12 May 2013 - 15:18
แทนที่จะขอบคุณผมที่ช่วยให้เขาและคุณฉลาดขึ้น กลับมาด่าผมเสียอีก
ผมว่าคุณเข้าข่ายพวกหมกมุ่นอยู่กับโลกเล็กๆของตัวเองแล้วนะ
เหมือนคนไม่ปกติง่ะ ดูจิตๆไงไม่รู้
ผมเลิกสนทนากับคนป่วยทางจิตแล้วนะครับ ไม่มีประโยชน์
คุณผึ้งเลือกทางที่ถูกต้องแล้วครับ
Posted 12 May 2013 - 15:35
Posted 12 May 2013 - 17:04
"มุมมองของ ศ.ดร.ระพี สาคริก เกี่ยวกับการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก"
“เราเคยทำผิดพลาดมาแล้วในอดีตอย่างไม่รู้ตัว โดยการตัดรากเหง้าของตัวเองทิ้งไป ถ้าไม่มีโรงเรียนขนาดเล็ก ก็คงไม่มีโรงเรียนขนาดใหญ่ได้
ผมว่าอย่าไปทำตามแบบฝรั่งมากนักเลย โรงเรียนขนาดเล็กเป็นรากฐานทางวัฒนธรรมของไทยมายาวนาน ยามนี้พอเราสบายก็ลืมตัว ตัดแขนตัดขาตัวเองทิ้ง ทุกอย่างเลยเพี้ยนไปหมด
เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณ แต่เป็นเรื่องของจิตวิญญาณของมนุษย์”
@ม้าเร็ว สยามประเทศ
#ข้อมูลและภาพข่าวจาก Paskorn Jumlongrach
Posted 12 May 2013 - 22:05
ถ้าต้องยุบโรงเรียนเพราะมีเด็กอ่านไม่ออก แล้วถ้าโรงเรียนขนาดใหญ่ระดับจังหวัดแต่มีเด็ก ป สาม ที่อ่านหนังสือผิดๆ ถูกๆ แย่กว่าเด็ก ป หนึ่ง เราต้องยุบโรงเรียนนั้นทิ้งด้วยมั้ย
นี่ไม่ใช่เรื่องสมมติ
แล้วยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีคนจบตรีรัฐศาสตร์ จบโทจากต่างประเทศ แต่กลับอ่านตัวเลขหลักร้อยพันหมื่นไม่ถูก อ่านชื่อเดือนผิด เราต้องยุบโรงเรียนไหนทิ้งกันบ้าง
Edited by เรื่อยๆเอื่อยๆ, 12 May 2013 - 22:05.
Posted 12 May 2013 - 22:37
ถ้าต้องยุบโรงเรียนเพราะมีเด็กอ่านไม่ออก แล้วถ้าโรงเรียนขนาดใหญ่ระดับจังหวัดแต่มีเด็ก ป สาม ที่อ่านหนังสือผิดๆ ถูกๆ แย่กว่าเด็ก ป หนึ่ง เราต้องยุบโรงเรียนนั้นทิ้งด้วยมั้ย
นี่ไม่ใช่เรื่องสมมติ
แล้วยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีคนจบตรีรัฐศาสตร์ จบโทจากต่างประเทศ แต่กลับอ่านตัวเลขหลักร้อยพันหมื่นไม่ถูก อ่านชื่อเดือนผิด เราต้องยุบโรงเรียนไหนทิ้งกันบ้าง
เค้าบอกควรยุบ แต่ไม่ใช่เพราะเด็กอ่านหนังสือไม่ออกครับ
เค้าบอกที่มันควรยุบเพราะ
"มันไม่สามารถทำ ให้โรงเรียนขนาดเล็กมาจำนวนหลายพันโรงนี้มีครูสอนครบทุกชั้น และมีอุปกรณ์การเรียนการสอนได้ครบตามมาตรฐานขั้นต่ำเหมือนโรงเรียนอื่นๆ เพราะมันทำไม่ได้!"
ทั้งๆที่ปัจจุบันเค้าก็ทำกันอยู่ได้ แต่ดันมาอ้างว่าไม่มีงบเลยต้องยุบ
ทำเหมือนว่ายุบแล้วเด็กมันจะเข้าถึงการศีกษาได้ดีขึ้น
ส่วนไอ้ที่อ่านเลขหลักร้อยพันหมื่นผิดๆถูกๆ , overcome ladies and gentlemen นั่นมันมาตรฐานของเค้าครับ
คือจะผิดจะถูก ใครจะลำบากยังไงก็ขอให้ถูกใจนายไว้ก่อน
“The hottest places in hell are reserved for those who in times of great moral crisis maintain their neutrality”
"ผู้ใดรักษาความเป็นกลางในท่ามกลางวิกฤตศีลธรรม ผู้นั้นย่อมตกนรกอเวจี"
-Dante Alighieri-
Posted 12 May 2013 - 22:40
ถ้าต้องยุบโรงเรียนเพราะมีเด็กอ่านไม่ออก แล้วถ้าโรงเรียนขนาดใหญ่ระดับจังหวัดแต่มีเด็ก ป สาม ที่อ่านหนังสือผิดๆ ถูกๆ แย่กว่าเด็ก ป หนึ่ง เราต้องยุบโรงเรียนนั้นทิ้งด้วยมั้ย
นี่ไม่ใช่เรื่องสมมติ
แล้วยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีคนจบตรีรัฐศาสตร์ จบโทจากต่างประเทศ แต่กลับอ่านตัวเลขหลักร้อยพันหมื่นไม่ถูก อ่านชื่อเดือนผิด เราต้องยุบโรงเรียนไหนทิ้งกันบ้าง
เอิ่มมม... คงต้องยุบรัดถะบานน่ะครับ
ร่วมกันทำลายล้างระบอบทักษิณ-เผด็จการชินวัตรให้หมดไปจากแผ่นดินไทย
โลกมนุษย์ย่อมจะดีกว่านี้แน่ เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน
คงยืนหยัดสู้ไปใฝ่ประจัญ ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทย
Posted 13 May 2013 - 07:08
ถ้าต้องยุบโรงเรียนเพราะมีเด็กอ่านไม่ออก แล้วถ้าโรงเรียนขนาดใหญ่ระดับจังหวัดแต่มีเด็ก ป สาม ที่อ่านหนังสือผิดๆ ถูกๆ แย่กว่าเด็ก ป หนึ่ง เราต้องยุบโรงเรียนนั้นทิ้งด้วยมั้ย
นี่ไม่ใช่เรื่องสมมติ
แล้วยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีคนจบตรีรัฐศาสตร์ จบโทจากต่างประเทศ แต่กลับอ่านตัวเลขหลักร้อยพันหมื่นไม่ถูก อ่านชื่อเดือนผิด เราต้องยุบโรงเรียนไหนทิ้งกันบ้าง
เค้าบอกควรยุบ แต่ไม่ใช่เพราะเด็กอ่านหนังสือไม่ออกครับ
เค้าบอกที่มันควรยุบเพราะ
"มันไม่สามารถทำ ให้โรงเรียนขนาดเล็กมาจำนวนหลายพันโรงนี้มีครูสอนครบทุกชั้น และมีอุปกรณ์การเรียนการสอนได้ครบตามมาตรฐานขั้นต่ำเหมือนโรงเรียนอื่นๆ เพราะมันทำไม่ได้!"
ทั้งๆที่ปัจจุบันเค้าก็ทำกันอยู่ได้ แต่ดันมาอ้างว่าไม่มีงบเลยต้องยุบ
ทำเหมือนว่ายุบแล้วเด็กมันจะเข้าถึงการศีกษาได้ดีขึ้น
ส่วนไอ้ที่อ่านเลขหลักร้อยพันหมื่นผิดๆถูกๆ , overcome ladies and gentlemen นั่นมันมาตรฐานของเค้าครับ
คือจะผิดจะถูก ใครจะลำบากยังไงก็ขอให้ถูกใจนายไว้ก่อน
ไหนว่า ไม่ไรในสมอง อ้อ! คนบอกพูดกะกระจกนะ
Posted 13 May 2013 - 09:06
ผมถามไปอีกกระทู้นึงแล้ว มาถามซ้ำที่นี่ด้วยก็แล้วกัน
Edited by CanisLupus, 13 May 2013 - 09:11.
0 members, 2 guests, 0 anonymous users