83 ความเห็นในกระทู้นี้

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

รัฐคงนึกว่าคนไทยเหมือนควาย 15 ล้านเสียง

เชื่องมากๆ

บอกว่าฆ่าชิงทรัพย์ก็ต้องชิงทรัพย์ดิ  โด่ห์

 

ฆ่าชิงทรัพย์บ้านตูขอเป็นเช็คนะเพื่อน นาฬิกาฝังเพชรไม่เอา สร้อยทอง 10 บาทไม่เอา  พระสมเด็จไม่เอา

ตูขอตีเป็นเช็ค เอ็งเข้าใจไหม

[voodoo]

โจรนะครับ จะให้ฉลาดกว่านายกได้ไง

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

^

^

โจรฉลาดออกนะฮับ

รู้ด้วยว่าเขียนเช็คต้องห้ามเกิน 2 ล้าน ไม่งั้นต้องแสดงตัว

 

ชิชะ

[idecon]

พระสมเด็จองค์เดียวก็เกิน5ล้านแล้วครับ
คงไม่โยนทิ้งหรอก
แต่มีมือดีเก็บไว้มากกว่า
เงิน5ล้านนี่น่าจะเป็นตัวเบี่ยงประเด็นว่าคุณเอกยุทธหนีออกนอกประเทศ โดยเบิกเงินสดติดตัวไปด้วย
บังเอิญสถานการณ์มันเปลี่ยน เลยต้องยอมรับว่าฆ่าชิงทรัพย์

[ม่านน้ำ]

เขาเห็นเราเป็นควายน่ะครับ

[SKIDATO]

มีแต่ควายเท่านั้นแหละที่เชื่อตามที่พวกตะกวดมันสรุปคดี

[Alone]

"บอกว่าชิงทรัพย์ก็ชิงทรัพย์ดินายตะพาบเขาก็สารภาพแล้ว

ต้องมีหลักฐานแค่ไหนกันถึงจะเชื่อว่าแค่ชิงทรัพย์เนี่ย

สลิ่มแมงวาปนี่จับผิดหยุมหยิมจริง"

 

by "คนกาง" 

 

 

 

ปล. ไลค์เกลี้ยงแย้วอย่าขยันตั้งมู้ดูดไลค์ดิ มันหงุดหงิดตอนกดแล้วขึ้นว่าไลค์หมดนะฮะ 

[idecon]

น่าแปลกใจ !!! ที่การปิดคดีฆาตกรรมชิงทรัพย์ที่นำไปสู่ความตายอันแสนหฤโหดของ “เอกยุทธ อัญชัญบุตร”นักธุรกิจระหว่างประเทศ อดีตเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์ผู้โด่งดัง  กลับแปรสภาพเป็นความกังขาของประชาชนทั่วไปที่ติดตามข่าวนี้กันอย่างกระชั้นชิด

รูปคดีตั้งแต่ต้นจนจบเต็มไปด้วยเงื่อนงำ ปริศนา ข้อสงสัยและพิรุธ เพียบ ถ้าเปรียบคดีนี้เป็นหนัง  ก็เรียกว่า หนังเรื่องนี้ มือเขียนบท  ผู้กำกับ และนักแสดง “ห่วยแตก”  หนึ่งคดี แต่ต่างคนต่างพูด...เหลือแต่ศพที่พูดไม่ได้แล้ว...หมอพรทิพย์ก็โดนย้าย  อะไรๆดูเหมือนแนบเนียนแต่ไม่แยบยล

คดีร้อนเริ่มที่ เอกยุทธหายตัวไป!!! ตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดี (6 มิ.ย.56) ทนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ กับ ญาติพี่น้องของเอกยุทธกำลังเข้าแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง

เรื่องตั้งต้นด้วยเคลืยบแคลงว่า เขาอุ้มตัวเอง  หรือ โดนอุ้มกันแน่

เอกยุทธ อัญชันบุตร วัย 56 ปี มีกรณีวิจารณ์รัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ อย่างเผ็ดร้อน ตอนล่าสุดก็ประเคนเรื่อง นักการเมือง-ข้าราชการ –คนมีสี-นักธุรกิจไทยขนเงินไปฝากเกาะใหญ่ในต่างแดน และ น้ำทะเลหวานกับ “ผัวหมอ”ที่มัลดีฟ

ภายหลังเมื่อพบร่างของเขาแล้ว  ทั้งสองประเด็นนี้ที่ถูกวิเคราะห์ว่า นำไปสู่ความตายที่โยงการเมืองอย่างมีการวางแผนล่วงหน้าด้วย “นกต่อ”ในนามคนขับรถ

“ผมรู้ตัวตลอด คนเราถึงเวลา ก็ต้องไป แต่ก่อนไป ผมไม่ยอมไปแบบไม่สู้” เอกยุทธพูดอย่างนี้เสมอๆกับสื่อที่เฝ้าถามถึงความปลอดภัยหลังจากได้สมญานามว่า “จอมแฉ”

ด้วยความสุ่มเสี่ยงรายล้อมรอบตัว เอกยุทธจำเป็นต้องมีบอดี้การ์ดนับสิบคนรายล้อม จะไปไหนมาไหนแต่ละทีไม่เคยเงียบเชียบ  ดูออกจะเอิกเกริกเสียด้วยซ้ำไป  เวลาไปกิน-ไปเที่ยวยามราตรี เขาจะมีประกายของคนมั่งคั่ง แต่งกายดี หรูหราระยิบระยับ ใจคอกว้างขวาง พูดเร็ว หัวเราะเสียงดัง ชอบสูบซิการ์ ดื่มไวน์แดงราคาแพง และ ไม่กลัวที่จะมีเรื่องหากไม่เข้าหู ในกระเป๋าพกจึงมีปืน และในรถจึงมีอุปกรณ์ป้องกันภัยยามฉุกเฉิน น่าแปลกที่สิ่งเหล่านี้หายไปในวันที่เขาหายตัวและตายอย่างน่าเวทนา

เช้าวันอาทิตย์ (9 มิ.ย 56) ข่าวเอกยุทธหายตัวไปถูกสื่อรายงานอย่างครึกโครม  แต่แรกข่าวบอกเพียงว่า เขาไปกินเลี้ยงกับเพื่อนที่ร้านครัวกระแต ย่านประดิพัทธ์สะพานควาย  แต่ไม่กลับบ้าน

พิรุธและสัญญาณขอความช่วยเหลือของผู้ตาย เริ่มที่กล้องวงจรปิดถูกแกะเซิฟเวอร์ออกไป ประตูหลังบ้านปิดไม่สนิท พี่สาวเล่าว่า เอกยุทธ?รปลุกกลางดึก เพื่อถามหากุญแจสำรอง ทั้งไม่ไปตีกอล์ฟกับเพื่อนในเช้าวันศุกร์(7 มิ.ย.56)  แต่โทรมาขอให้ถือสมุดเช็คไปให้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ คนส่งเช็คไม่เห็นเอกยุทธ เจอแต่คนขับรถชื่อสันติภาพ “บอล” เพ็งด้วง  วัย 23 ปีมารับแทน และ กลับมาในอีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง เมื่อนำเงินไปขึ้นให้ก็พบว่าเช็ค 3 ใบ 5 ล้านเขียนปี พ.ศ. ผิดไป 1 ใบจากปี 2556 เป็น 2553 เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรเช็คกับเอกยุทธเรียบร้อย ก็ปล่อยเงิน คนส่งเช็คนำเงินมาส่งที่สนามบินอีกรอบในช่วงบ่ายแก่ๆ แล้วเจอแต่คนขับรถเช่นเดิม จากนั้นก็ไม่มีใครพบเอกยุทธอีกเลย จนมีการแจ้งความเกิดขึ้น และนั่นเองคือจุดแรกของข่าวใหญ่เมื่เอกยุทธหายไปพร้อมพิรุธมากมาย หนึ่งในนั้นคือกล้องวงจรปิดถูกปลด และไอโฟน 5 ถูกขายที่เยาวราช

ความที่เอกยุทธเป็นคนมีประวัติโชกโชน  ชีวิตมีลวดลายสวิงสวายไม่เป็นสองรองใครในยุทธจักรนักเลง ทั้งยังต่อต้านรัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์และนักการเมืองชั่วออกนอกหน้า  ทำให้ผู้คนสนใจข่าวการหายตัวไปของเขากันอึงมี่ ดูเหมือนว่า หนังเรื่องนี้ยาวและลึกลับ  เป็นการหายและมาตายที่เต็มไปด้วยพิรุธและข้อสงสัย “ใครบงการ”

การจับกุมนายสันติภาพ สาวถึงพ่อที่เป็นทหาร และคนทั้งพัทลุงรู้จักครอบครัวนี้ดีว่า ดีกรีแค่ไหน   ยิ่งสันติภาพแถลงข่าวกลับไปมาวกวน  ทำให้สังคมยิ่งสงสัยตำรวจ ยิ่งหนึ่งในทีมสอบสวน พ.ต.อ.กันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. เดิมชื่อ ชิดชัย เลี่ยมสงวน เป็นหนึ่งในอดีตผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร รวมอยู่ด้วย คดีนี้ยิ่งน่าสงสัยขึ้นไปอีก

จากคนหายกลายเป็นคนตายในเพียงไม่กี่วัน และจากคนรถกลายเป็นคนร้ายก็ภายในไม่กี่ชั่วโมงของการสอบปากคำ  เพียง 4 วันให้หลัง “บิ๊กแจ๊ส” ก็เปิดแถลงข่าวสยบเสียงวิจารณ์ของโลกออนไลน์ที่ว่ากันไปเป็นตุเป็นตะต่อการหายตัวที่ไร้ร่องรอยแต่เต็มไปด้วยเสียงร่ำลือว่า คนไม่หายแต่ต้องตายเพราะ “โดนอุ้ม” จากเสธ คนดัง

“คำรณวิทย์” จูง “สันติภาพ เพ็งด้วง” ฝ่าดงตีนลูกน้องเอกยุทธมาแถลงข่าวอย่างทุลักทุเล   วันนั้น ผู้ต้องสงสัยได้เล่าว่า “นายเอกยุทธหอบเงิน 5 ล้านไปกับรถสีดำ 2 คันบ่ายหน้าไปพม่า ไม่รู้จะหวนกลับมาเมื่อไร”  เงื่อนงำที่คาดว่า จะคลี่คลายกลับกลายเป็นคดีปริศนา ยากหาใครเชื่อว่าชิงทรัพย์

คนขับรถถูกสงสัย แต่ตำรวจถูกสงสัยยิ่งกว่า ทำให้คดีร้อน ชิงทรัพย์ปิดไม่ลงตัว แต่มีคดีซ้อนอุ้ม-ฆ่าล้างแค้นประกบตามเป็นเงา  เสียงเล่าของผู้ต้องหาไม่มีน้ำหนัก แต่เสียงกลับชัดและนับวันกระหึ่ม “เสธ มีสีรับงานอุ้ม-ฆ่า”  

ดีที่ว่าวันนี้คนในโลกออนไลน์เรียกร้องให้สังคมไทยไม่ยอมรับกับเรื่องโสโครก แบบนี้แล้ว  แม้เอกยุทธจะเป็นคนมอมแมมสีเทา แต่ใครก็ไม่มีสิทธิอุ้มเขาไปฆ่า***มโหดเลือดเย็น กระบวนการทางกฏหมายต้องถูกนำมาใช้   ไม่ใช่วิธี อุ้ม-ฆ่าป่าเถื่อน

รองนายกรัฐมนตรีเฉลิมยังมีหน้าสามหาวมาขู่ ประชาชน--พวกนักเคลื่อนไหวว่า “อย่าตายละ ไม่งั้นพวกผมจะเดือดร้อน”  เป็นวาจาร้อนหู แสดงถึงการใช้อำนาจบาตรใหญ่คุกคาม ข่มขู่ ไม่เกรงใจ สังคมเริ่มพูดกันว่า นักการเมืองไม่มีสิทธิข่มเหงประชาชน  ไม่แม้แต่เพียงปลายก้อย

คนไม่เชื่อว่าเอกยุทธถูกฆาตกรรมจากคนขับรถเพื่อหวังชิงทรัพย์ 5 ล้าน แต่คนเชื่อไปแล้วว่า เขาถูกการเมืองฆ่าและเอาศพเปลือยประจานอย่างเลือดเย็น 

โชคดีที่วันนี้มีโลกออนไลน์ การฆ่าคนตายสักคนจึงไม่เลือนหายไปกับสายลมเหมือนคดีๆอื่นๆที่เคยผ่านมา หรือแม้แต่ที่ผ่านไปหยกๆอย่าง “สมชาย นีละไพจิตร”

คนไทยต้องไม่ยอมให้เกิดกรณีคนมีสี–อุ้ม-ฆ่า อีกต่อไปแล้วและคดีเอกยุทธต้องเป็น“ศพสุดท้าย” …ถ้าขืนยอมต่อไป...ลูกหลานเราจะอยู่เป็นสุขสงบไม่ได้เลย..เพราะถ้าใครไม่พอ ใจใครก็อุ้ม-ฆ่ากันง่ายๆ อย่างนี้หรือ  เรื่องนี้สำคัญกว่า แก้กฏหมาย”อุ้มพี่ชายโกงชาติ” กลับบ้านมาโกงต่อแน่นอน

ความคลางแคลงใจในคดีที่มีรูรั่วเหมือนตามด  เริ่มที่ทนายสุวัตรจับมือทนายนกเขาเข้าไปคุยกับคำรณวิทย์ ขณะที่ทนายสาว “ปุย” เร่ไปคุยกับ “สันติภาพ” ที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหา  สองคนนี้เป็นคนพัทลุงเหมือนกันปิดห้องคุยกันยาว  และสุดท้าย สันติภาพเอ่ยปากกับทนายสาวว่า “พี่ๆช่วยผมด้วย”

สันติภาพ  เพ็งด้วง อายุแค่ 23 ปีเอง คือ พนักงานใหม่ที่เพิ่งรับมาจากการประกาศรับสมัครคนขับรถบนเว็บไซต์ไทยอินไซ เดอร์ มารู้ประวัติภายหลังว่า เขาติดการพนันเป็นหนี้นับล้าน ได้พนักงานในบริษัทเอกยุทธวัย 40 เศษเป็นแฟน ภายหลังผู้หญิงคนนี้ถูกไล่ออกเพราะจับได้ว่ายักยอกเงินไปเป็นล้าน  ต่อมาเอกยุทธไม่ค่อยเชื่อใจ ร่ำๆจะเปลี่ยน ก็พอดีมาเกิดเรื่องร้ายเสียก่อน

คาดได้ว่าอนาคตสันติภาพและเพื่อนร่วมแก๊งค์ก็จบแบบศพไม่สวยตาม ธรรมเนียมตอนจบของเรื่องอุ้ม-ฆ่า  เพราะคดีที่ทำท่าจะจบกลับพลิกฟื้น  เมื่อสันติภาพให้การวกวน  แต่ของคนตายที่หายก็สืบหามาหมดไม่ว่าจะแก้วแหวนเงินทองขาดอย่างเดียวคือ  โทรศัพท์ 4 เครื่อง  ซึ่ง 1 ใน 4 อยู่เยาวราช แต่ทุกเครื่องถูกสอบการใช้แล้วโดยทนายนกเขา...จุดนี้ละทำให้เรื่องไม่จบ..เพราะโทรศัพท์ 2 ใน 4 อยู่ในมือของ “สันติภาพ”  ทนายเห็นแล้วว่า เขาโทรคุยกับใครในระหว่างขนศพไปฝังที่พัทลุง

บนความกังขาบนความตายของเอกยุทธ มี“ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์”สรุปบัญญติ 12 ประการเอาตัวรอดจากการถูกอุ้ม เท่ากับตอกย้ำความจริงในเมืองไทยว่า อำนาจยืนอยู่เหนือกฏหมายและหลักการ  เราอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้ว

แม้แต่วงการทูตนานาประเทศในเมืองไทยก็ไม่มีใครเชื่อว่า คนขับรถวัยละอ่อน ติดการพนัน ลายมือเท่าหม้อแกงโย้เย้สะกดผิด จะมีปัญญาวางแผนฆ่าเอกยุทธอย่างแยบยล

การตายของเอกยุทธนั้นบนหน้าฉากก็เรื่องหนึ่ง แต่หลังฉากก็ถูกสืบเสาะจนกลายเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่ง  เหมือนหนังคนละม้วน เหมือนชิงทรัพย์ก็เหมือน เหมือนล้างแค้นก็เหมือน เหมือนจะเนียนแต่ไม่เนียน แต่ที่เหมือนยิ่งกว่าคือ คดี ว.5  กับชิงทรัพย์ 5 ล้าน

เวลานี้สื่อกลุ่มหนึ่งแข็งขันท่องจำเหมือนนกแก้วว่า คดีเอกยุทธจบง่าย เรื่องส่วนตัว ผู้ต้องหาถูกจับครบ ข้อหาปล้นทรัพย์ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ไม่เกี่ยวการเมืองเขียนและพูดกันจนเชื่ออย่างเชื่องๆ

เรื่องอุ้ม-ฆ่ากลับมาอีกครั้งในวันที่นายกรัฐมนตรีหญิงยิ่งลักษณ์เที่ยวประกาศทุกเวทีโลกว่า “บูชาประชาธิปไตย “  ต่อต้านรัฐประหาร และร่ำร้องฟูมฟายหาความยุติธรรมให้ “พี่ชาย” ซ้ำซาก 

นายกรัฐมนตรีหญิงที่เข้าร่วมประชุมสื่อโลกและกล่าวต่อหน้าสื่อมวลชนนานาชาติว่า “เสรีภาพคือหัวใจสำคัญของสื่อมวลชนและเป็นประโยชน์กับทุกสังคมยิ่งยวด” 

แต่นายกรัฐมนตรีคนเดียวกันนี้นี่ละที่ไม่อินังขังขอบกับความตายของ“เอกยุทธ” คู่กรณีในคดี ว.5 ชั้น 7 โฟร์ซีซั่นจนน่าสงสัยว่า ทำไม คดีอุกฉกรรจ์กับคู่กรณีนายกรัฐมนตรีกลับไม่พูดไม่จา

ออกจะเห็นด้วยกับพี่โสภณ องค์การที่ว่า ความจริงไม่ตายและความลับไม่มีในโลก  สักวันน้ำลดตอผุดแน่นอน 

เอกยุทธยังมีฤทธิและเป็นพิษกับทักษิณ-น้องสาว อย่างมิพักต้องสงสัย แม้จากไปแต่ได้เกิดแรงกระเพื่อมชวนให้ใส่หน้ากากขาวออกมาต่อต้านนักการเมือง ชั่วทำลายชาติต่อต้านอุ้ม-ฆ่ากระหึ่มก้อง  และตอกย้ำว่า ไม่มีอะไรทำให้เรากลัวเท่ากับความกลัวที่จะไม่กล้าทำ

เหมือนที่มาร์ติน ลูเธอร์ คิง  จูเนียร์ บอกว่า  ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกว่าโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของช่วงเปลี่ยนผ่านสังคมในยุคนี้  ไม่ใช่เสียงเอ็ดตะโรโฉ่งฉ่างของคนชั่ว แต่เป็นความเงียบกริบอย่าน่าใจหายของคนดีต่างหาก.

แนวหน้า

-----------------------------------

ถ้าใครจำได้ ข่าวของคุณเอกยุทธเริ่มต้นที่ facebook จากเจ๊ปอง อัญชลี ที่ตั้งข้อสงสัยไว้ จนข่าวกระจายบนสังคมออนไลน์ มีนักสืบโคนันผู้กล้าหาญผุดขึ้นมาในโซเชียลมีเดียกันเป็นแถว แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ ลับสมอง ใช้ตรรกกะกันแบบไม่ขาดสาย

และวันนี้เจ๊ก็เอามาเขียนตอกย้ำอีกที เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่ โดยเฉพาะข้อมูลทางโทรศัพท์ของคนขับรถทรยศนาย ที่ทนายความเห็นแล้วแล้วเมมโมรี่ในความจำของตนเองว่า บ่าวฆ่านายคนนี้ ได้กดออกไปหาใครบ้าง ในขณะเดินทาง แล้วสิ่งที่เขาขอความช่วยเหลือไปยังทนายสาวคนจังหวัดเดียวกันนั้น เขาได้พร่างพูรบรรยายความในใจไปสู่คำพูดอะไรออกไปบ้าง หรือจะเงียบเป็นเป่าสาก

ติดตามทีมงานพี่สุวัตรให้ดีๆคงจะมีชีอตเด็ด ให้ได้ดูแน่นอน อย่ากระพริบตาเป็นอันขาดเชียว บทละครเพิ่งถูกเขียนขึ้นมา ใครจริง ใครเท็จ เดี๋ยวก็รู้ เมื่อนั้น จะรู้ว่า เอกยุทธพลั้งพลาดไปตาย หรือโดนใครสั่งใ้ห้ตาย

วันนี้เอกยุทธตายแล้ว แต่โลกใบนี้ยังคงต้องหมุนต่ออยู่ดี และเช่นเดียวกัน การต่อสู้กับระบอบทักษิณ ก็ยังจะต้องดำรงอยู่ต่อไป จนกว่าจะจบ ดังคำกล่าวของเอกยุทธที่ฝากไว้ อย่างไร ก็มีคนเช็คบิลต่ออย่างแน่นอน

หาความสงบสุขไม่ได้แล้ว เหลี่ยมเอ๋ย

ข้อมูลจาก
ทนายเบิ้ม
block ok nation

ลองพิจารณากันดูแล้วกัน

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

เพื่อนๆว่าคดีนี้จะจางหายไปจากความทรงจำของคนไทยแบบทนายสมชายไหมครับ

[Bookmarks]

คดีคุณเอกยุทธ ทำผมไม่สบายใจจนถึงวันนี้ เราจะยอมอยู่ใต้คนชั่ว ที่คิดจะเก็บใครก็เก็บงั้นหรือ 

[chaidan]

งมหาทรัพย์สิน "เอกยุทธ" รอง ผบช.น.เผยไม่เจอก็กลับ

http://www.thairath....t/region/351215

 

รอง ผบช.น.นำทีม ตำรวจน้ำชุดประดาน้ำของ บก.รน. ลงค้นหาทรัพย์สินของ \'เอกยุทธ\' ที่ใต้สะพานคลองชะอวด-แพรกเมือง อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช หลัง \'ไอ้บอล\' อ้างนำมาโยนทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน ชี้หาไม่พบในวันนี้ ก็กลับทันที...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 มิ.ย.2556 พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐิติราษฎร์ หนองหาญพิทักษ์ รองผบช.น., พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น., พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.นพศิษฐ์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.บช.น. ได้ร่วมกับ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจน้ำชุดประดาน้ำของ บก.รน. นำโดย ร.ต.ต.สรวิทย์ แสงวัฒนานนท์ รอง สว.บก.รน. จ.สมุทปราการ พร้อมกำลังตำรวจน้ำชุดประดาน้ำจำนวน 8 นาย อุปกรณ์ดำน้ำครบชุด เดินทางค้นหาทรัพย์สินของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พร้อมพระสมเด็จ มูลค่านับสิบล้านบาท, นาฬิกา ยี่ห้อโทปาด ที่นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ ไอ้บอล อายุ 25 ปี คนขับรถของนายเอกยุทธ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า หลังจากฆ่านายเอกยุทธ และนำศพไปฝังที่ จ.พัทลุง แล้ว จึงได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาทพร้อมพระสมเด็จ และนาฬิกาดังกล่าว แยกไปโยนทิ้งที่บริเวณใต้สะพานคลองชะอวด-แพรกเมือง ถนนสายหัวไทร-ระโนด ม.3 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยไม่มีการนำตัวนายสันติภาพหรือไอ้บอล มาร่วมชี้จุดทิ้งหลักฐานด้วย มีเพียงกำลังเจ้าหน้าที่เท่านั้น

ทั้งนี้ ระหว่างที่ตำรวจชุดประดาน้ำ ได้ลงค้นหาทรัพย์สินบริเวณใต้สะพานริมคลองชะอวดแพรกเมือง ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหลัก ท่ามกลางความสนใจของประชาชน ที่เดินทางมาดูการปฏิบัติงานจนแน่นริมคลอง เจ้าหน้าที่ต้องกันคนออกห่างจากจุดดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาอยู่นานประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ลดละทำการค้นหาต่อไป

พล.ต.ต.ปริญญา รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า สาเหตุที่วันนี้ไม่ได้นำตัว นายสันติภาพ หรือ ไอ้บอล เดินทางมาชี้ที่เกิดเหตุโยนหลักฐานของนายเอกยุทธ ที่บริเวณใต้สะพานคลองชะอวดแพรกเมือง อ.หัวไทร ในวันนี้ เพราะเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่พบศพนายเอกยุทธที่ จ.พัทลุง ทางตำรวจได้คุมตัวนายสันติภาพ มาชี้จุดที่โยนสร้อยและนาฬิกาของนายเอกยุทธแล้ว แต่วันนั้นเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์ดำน้ำไม่พร้อม จึงเลื่อนมาค้นหาหลักฐานในวันนี้ ซึ่งหากวันนี้ยังหาหลักฐานไม่เจอ ก็จะเดินทางกลับทันที โดยไม่มีการเดินทางกลับมาค้นหาอีก ซึ่งจากการสอบสวนปากคำนายสันติภาพ ให้การว่าสาเหตุที่ต้องนำสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พร้อมพระสมเด็จฯ และนาฬิกาโทปาด มูลค่านับล้านมาโยนทิ้งจุดนี้ เพราะเชื่อว่าหากตนนำสิ่งของดังกล่าวไปขาย หน้าตาแบบตนคงจะไม่มีเชื่อใครแน่ว่า ตนมีสิ่งของราคาแพงแบบนี้ จึงตัดสินใจขับรถจาก จ.พัทลุง นำมาโยนทิ้งที่ใต้สะพานชะอวดแพรกเมืองที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ระยะทางไปกลับ 70 กิโลเมตรเท่านั้น ก่อนเลี้ยวรถกลับ จ.พัทลุง แล้วขับรถขึ้นกทม. กระทั่งถูกจับกุมได้ดังกล่าว.

 

.............................................................................................................
หาไม่เจอก็กลับ...  55555......

ไอ้คนคิดคำแก้ตัว(แถ)ให้เนี้ย....

อาจเป็นระดับรัฐมนตรีก็ได้นะ...

55555......

Edited by chaidan, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 04:41.

[uramihci]

มันอาจจะคิดว่าช่วงนี้ราคาทองคำมันขึ้นๆ ลงๆ การถือทองคำไว้จึงมีความเสี่ยง

สู้โยนทิ้งดีกว่า สบายใจ ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าช่วงไหนทองจะขึ้น จะลง

ก็เป็นได้....

[Ghost Rider]

ผีมันโดนพระไม่ได้ครับ เดี๋ยวมือพอง

[เรื่อยๆเอื่อยๆ]

หาไม่เจอก็กลับ หรือว่าเดี๋ยวค่อยกลับมาหาวันหลัง พระสมเด็จระดับนี้มีแต่คนอยากได้ 

[chaidan]

หาไม่เจอก็กลับ หรือว่าเดี๋ยวค่อยกลับมาหาวันหลัง พระสมเด็จระดับนี้มีแต่คนอยากได้ 

 

หรือมีคนได้ไปแล้วครับ ???

[หนูอ้อย]

จะไปเชื่อได้อย่างไร ก็พล็อตเรื่องเปลี่ยนรายวันนี่นา

แถมไม่เนียน ไม่สมเหตุสมผล

ทุกวันนี้ถามสุ่มไปเรื่อย (เอาคนที่อ่านข่าวนะไม่เกี่ยวกับสีเสื้อ)

ถามคนไทยวันละสิบคน ทั้งสิบคนตอบว่า "อุ้มฆ่า"

มีแถมด่าตำหนวดติดปลายนวมแทบทุกคน

 

ไม่เชื่อเพื่อนๆลองสัมพลาดดู   

[great]

อำนาจที่ได้มาจากเลือดและน้ำตา

 

ไม่จีรังยั่งยืน

 

โกหกใครก็โกหกได้

 

แต่ความลับไม่มีในโลก "นตฺถิ  โลเก รโห นาม"

[sudthorn]

เราว่า ฆ่าชิงทรัพย์ประเภท
ตะกวดมีวันนี้เพราะพี่ให้ครับผม

[จูกัดขงเบ้ง]

กรณีอย่างนี้จะบอกได้ยังไงว่า ฆ่าชิงทรัพย์ พวกมันเล่นทิ้งน้ำหมดเลยนี่

[Ghost Rider]

ฆ่าชิงทรัพย์?

แต่กล้องวงจรปิดทุกตัวในเส้นทางที่รถตู้ผ่านดันมาเสียพร้อมๆกันหมด?

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ทางตำรวจได้คุมตัวนายสันติภาพ มาชี้จุดที่โยนสร้อยและนาฬิกาของนายเอกยุทธแล้ว แต่วันนั้นเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์ดำน้ำไม่พร้อม จึงเลื่อนมาค้นหาหลักฐานในวันนี้ ซึ่งหากวันนี้ยังหาหลักฐานไม่เจอ ก็จะเดินทางกลับทันที โดยไม่มีการเดินทางกลับมาค้นหาอีก

 

ซึ่งจากการสอบสวนปากคำนายสันติภาพ ให้การว่าสาเหตุที่ต้องนำสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พร้อมพระสมเด็จฯ และนาฬิกาโทปาด มูลค่านับล้านมาโยนทิ้งจุดนี้ เพราะเชื่อว่าหากตนนำสิ่งของดังกล่าวไปขาย หน้าตาแบบตนคงจะไม่มีเชื่อใครแน่ว่า ตนมีสิ่งของราคาแพงแบบนี้ จึงตัดสินใจขับรถจาก จ.พัทลุง นำมาโยนทิ้งที่ใต้สะพานชะอวดแพรกเมืองที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ระยะทางไปกลับ 70 กิโลเมตรเท่านั้น ก่อนเลี้ยวรถกลับ จ.พัทลุง แล้วขับรถขึ้นกทม. กระทั่งถูกจับกุมได้ดังกล่าว.

 

.............................................................................................................
 

 

 

1. ตอนไปหาศพ ฝนทำท่าจะตกก็ไม่ไป บอกไม่พร้อม

พองมหาทรัพย์ของผู้ตาย ก็เลื่อนอีก บอกอุปกรณ์ไม่พร้อม

อะไรของเมริงวะ???

 

 

2. ไอ้บอลบอกบทแบบนี้  ตำกวดคงคิดว่าคนไทยแมร่มโคดงั่ง

 

ก็ประวัติมันนักเลงอาชีพไม่ใช่เหรอ  มันจะไม่รู้แหล่งรับซื้อของโจรได้ไง

ถ้ามันบอกว่ามันเก็บไว้กับตัวก่อน รอเรื่องซาค่อยขาย

หรือมันหนีข้ามพรมแดนพร้อมกับเงินสดและทรัพย์สิน

เออ แบบนี้เมริงแต่งเรื่องน่าเชื่อหน่อยนะ

 

***

 

 

ปล. มาเพิ่ม  นาฬิกา chopard ครับ  โชปาด ไม่ใช่โทปาดเน้อคุณสื่อเน้อ

Edited by ผึ้งน้อย For Vendetta, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:37.

[จูกัดขงเบ้ง]

ตัวนี้แหละ ที่จะเป็นจุดตายใหญ่ของคดีนี้

ชิงทรัพย์ยังไง เอาทรัพย์เจ้าทรัพย์ไปโยนทิ้งน้ำ

 

ตำรวจหาไม่เจอ

ตอนขึ้นศาลก็กลับคำว่า ไม่ได้ฆ่า และไม่ได้รู้เห็นในการฆ่าเลย

ทรัพย์ที่บอกว่าทิ้งน้ำนั้นก็โกหก เพราะโดนขู่

จริงๆคือไม่ได้เอาไปเลย

 

เท่านี้ ไอ้บอลก็หลุด กลายเป็นซ่อนเร้นอำพรางศพ

 

แล้วไอ้เบิ้มมาท้ายสุด ทำเป็นอ้างว่าได้แสนเดียว

จริงๆแล้วมันนั่นแหละ ถูกจัดคิวให้เข้ากล้องคิวสุดท้าย

Edited by จูกัดขงเบ้ง, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:31.

[จูกัดขงเบ้ง]

จำจุดที่ทิ้งทรัพย์สินได้ แต่จำจุดที่ทิ้งเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไม่ได้

 

เออ อย่างนี้ก็มีด้วย!

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

จำจุดที่ทิ้งทรัพย์สินได้ แต่จำจุดที่ทิ้งเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไม่ได้

 

เออ อย่างนี้ก็มีด้วย!

 

"ความทรงจำแบบทางเลือก" ฮับ  

คือจำเฉพาะที่อยากจำ  ที่จำแล้วเป็นเรื่องก็แกล้งลืมฮับ

[Bookmarks]

จำจุดที่ทิ้งทรัพย์สินได้ แต่จำจุดที่ทิ้งเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไม่ได้

 

เออ อย่างนี้ก็มีด้วย!

ผมว่ามันไม่ได้ทิ้ง แต่มีคนเอาไปเก็บไว้แน่ๆ 

[จูกัดขงเบ้ง]

จากผู้จัดกวน น่าจะมีประเด็นบ้าง

 

http://www.manager.c...D=9560000071761

 

ส่ำเซียนนิยมเรื่องได้-เสีย พนันกันว่า ระหว่าง “ไอ้เบิ้ม” กับ “เซิร์ฟเวอร์” กล้องวงจรปิดภายในบ้านเจ้าของเว็บไซต์ “ไทยอินไซเดอร์” ที่โดนอุ้มฆ่าก่อนพาศพไปฝังไว้ที่เขาจิงโจ้ เมืองพัทลุง ใครจะเป็นฝ่ายตกอยู่ในมือของตำรวจก่อนกัน ประสาคนหาข่าวมาเขียน “แดงเถือก” ขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน แถมด้วยเขย่งยัน บัดนี้ ทั้ง “ไอ้เบิ้ม” และเครื่องบันทึกภาพฯ ตกอยู่ในมือ “ตำหนวด” ตั้งแต่หลังวันเกิดเหตุแป๊บเดียว

[tu249cm]

น่าจะเชื่อว่าพระสมเด็จจะตกไปอยู่ในมือคนที่เหนือกว่านายสันติภาพแล้วมากกว่า

ทรัพย์สินอื่นๆไม่รู้แต่พระสมเด็จหากมีโอกาสได้ครอบครองใครจะเสียโอกาสไปง่ายๆ

[awhile]

 

รัฐคงนึกว่าคนไทยเหมือนควาย 15 ล้านเสียง

เชื่องมากๆ

บอกว่าฆ่าชิงทรัพย์ก็ต้องชิงทรัพย์ดิ  โด่ห์

 

ฆ่าชิงทรัพย์บ้านตูขอเป็นเช็คนะเพื่อน นาฬิกาฝังเพชรไม่เอา สร้อยทอง 10 บาทไม่เอา  พระสมเด็จไม่เอา

ตูขอตีเป็นเช็ค เอ็งเข้าใจไหม

 

แมลงวันน้อยฉลาดโคตรๆ 

ไหนลองบอกหน่อยซิว่าหากเป็นการบงการอุ้มโดยคนมีอำนาจ ทำไมต้องเอานาฬิกาฝังเพชร สร้อยทอง พระสมเด็จ ไปทิ้งน้ำด้วย

ทำไมไม่เอาไปให้พ่อเก็บเอาไว้

 

โง่แล้วอย่าอวดฉลาด

 

 

แล้วถ้าเป็น ฆ่่าเพื่อชิงทรัพย์  ทำไมต้องเอา นาฬิกา สร้อยทอง พระสมเด็จ ไปทิ้งน้ำด้วย

ทำไมไม่เอาไปขายเอาเงินมาอีก

แค่ผู้ต้องหาบอกว่าทิ้งน้ำ ก็เชื่อกันแล้วว่าทิ้งน้ำ

ไม่คิดว่าคนอื่นๆเอาไปบ้างหรือครับ

อีกหน่อยมันบอกไม่ได้ฆ่า ก็คงเชื่อกันเนาะ

 

 

แกล้งฉลาดแต่จริงๆแล้วโง่

Edited by awhile, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 16:03.

[ตำรวจบ้าน]

มั่นใจคนไทยเกินล้าน  ที่สาปส่งมากกว่า  คนเลวอย่างเอกยุทธมันไม่มีค่าพอที่ชาวบ้านเค้าจะมาสนใจหรอก   ถ้าจะมีคนสนใจมันก็คงแค่กลุ่มไอ้พวกการเมืองลิ่วล้อที่จ้องจะเล่นงานแต่ฝ่ายตรงข้ามมากกว่า

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

แมลงวันน้อยฉลาดโคตรๆ 

ไหนลองบอกหน่อยซิว่าหากเป็นการบงการอุ้มโดยคนมีอำนาจ ทำไมต้องเอานาฬิกาฝังเพชร สร้อยทอง พระสมเด็จ ไปทิ้งน้ำด้วย

ทำไมไม่เอาไปให้พ่อเก็บเอาไว้

 

โง่แล้วอย่าอวดฉลาด

 

 

ลีโรคจิตมาอีกแล้วครับ  ช่วยคุณม็อดด้วยการกดที่ล็อกอินแล้ว report this member เลยครับ

เผานั่งยางไม่ให้เหลือซาก

 

 

 

ปล. พี่มาร์คยังไม่เชื่อเลยครับ

 

"มาร์ค" สงสัยคดีฆ่า "เอกยุทธ"มีเลศนัย "เฉลิม-ตร."พูดขัดแย้งกัน

http://www.manager.c...D=9560000072294

[บุคคลทั่วไป]

มั่นใจคนไทยเกินล้าน  ที่สาปส่งมากกว่า  คนเลวอย่างเอกยุทธมันไม่มีค่าพอที่ชาวบ้านเค้าจะมาสนใจหรอก   ถ้าจะมีคนสนใจมันก็คงแค่กลุ่มไอ้พวกการเมืองลิ่วล้อที่จ้องจะเล่นงานแต่ฝ่ายตรงข้ามมากกว่า

 

 

คนที่มีความคิดแบบคุณ มิน่าจะมาเรียกร้องหาประชาธิปไตยนะ

[พอล คุง]

พระสมเด็จ บ้างองค์ราคาพุ่งสิบล้านก้อมี

 

งานนี้โจรโง่ หรือ บ้า เนี่ย

 

ถ้าเป็นผมนะ ฆ่าเสด เอาพระ เอาสร้อย พร้อมเงินที่ไ้ด้มา หนีออกนอกประเทศไปละ

 

แถมยังบอกว่า วางแผนไว้ 3 เดือน

 

สู้เปลี่ยนชื่อด้วย พร้อมทำพาสสปอร์ต วีซ่า ไปในตัว

 

ถ้าำทำบัตรปลอมได้ยิ่งดี

 

โอ้ววววววววววววว

 

หนีสัก 15 ปีก้อ สบายละ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาา

 

ปล อุ้ย ดูหนังมากไปปะเนี่ย

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาา

Edited by พอล คุง, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:03.

[finnja]

พระสมเด็จเอาไปขายไม่ได้ ตำรวจตามจับได้หมด แต่เงิน5 ล้าน เอกยุทธเสนอเอง เอาเงินไปใช้ได้ ตำรวจตามกลิ่นไม่ได้

[พอล คุง]

พระสมเด็จเอาไปขายไม่ได้ ตำรวจตามจับได้หมด แต่เงิน5 ล้าน เอกยุทธเสนอเอง เอาเงินไปใช้ได้ ตำรวจตามกลิ่นไม่ได้

 

โหหหหหหหหหหหหหหหห

 

ไอ้ฟายนี่ โง่หรือบ้า ว่ะ

 

ตำรวจที่ไหนจะมาจับพระเครื่องได้ฟร๊ะ

 

ในเมือเจ้าของตายไปแล้ว

 

แถมมีเจ้าของเพียงคนเดียวที่รู้ตำนิของพระเครื่อง

 

เคยเล่นพระปะว่ะ

 

ไอ้เหียกกกกกกกกกกกกก

 

แล้วเงินนะ ตำรวจตามกลิ่นได้ว่ะ เพราะมันมีตัวเลจระบุชัดเจน

 

ยิ่งขึ้นเงินเยอะ เค้าจะใช้เงินทีมีแถบคาดเงินว่ะ เพือระบุ ล๊อตของเงินว่ะ

 

โง่ แล้วอวดฉลาด

Edited by พอล คุง, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:12.

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

พระสมเด็จเอาไปขายไม่ได้ ตำรวจตามจับได้หมด แต่เงิน5 ล้าน เอกยุทธเสนอเอง เอาเงินไปใช้ได้ ตำรวจตามกลิ่นไม่ได้

 

ผบ.ชน.บอกว่าบอลวางแผนล่วงหน้ามา 3 เดือนแล้ว

แถมผบ.ตร.บอกว่าเป็นผู้ร้ายอาชีพ

กะอีแค่ขายพระสมเด็จ  ทำไมจะทำไม่ได้

[finnja]

 

พระสมเด็จเอาไปขายไม่ได้ ตำรวจตามจับได้หมด แต่เงิน5 ล้าน เอกยุทธเสนอเอง เอาเงินไปใช้ได้ ตำรวจตามกลิ่นไม่ได้

 

โหหหหหหหหหหหหหหหห

 

ไอ้ฟายนี่ โง่หรือบ้า ว่ะ

 

ตำรวจที่ไหนจะมาจับพระเครื่องได้ฟร๊ะ

 

ในเมือเจ้าของตายไปแล้ว

 

แถมมีเจ้าของเพียงคนเดียวที่รู้ตำนิของพระเครื่อง

 

เคยเล่นพระปะว่ะ

 

ไอ้เหียกกกกกกกกกกกกก

 

พระสมเด็จ มีกี่องค์ ครับ ราคาล้านอัพ คนเล่นพระเขารู้ใครเป็นเจ้าของบ้าน เปลี่ยนมือไปที่คนใหนแล้วคนไม่เล่นพระจริงๆ ไม่มีวันรู้ว่าพระสมเด็จราคาเท่าไหร่ แล้วถ้าคุณขโมยไป จะเอาไปขายได้ราคา ต้องขายให้เซียนจริงๆ ตำรวจจะตามจากพระสมเด็จ ตามหาไม่กี่ที่ ง่ายมาก เหมือนแกะรอยจากคนขโมยมือถือ ไมกีวันก็ตามจับได้

[finnja]

 

พระสมเด็จเอาไปขายไม่ได้ ตำรวจตามจับได้หมด แต่เงิน5 ล้าน เอกยุทธเสนอเอง เอาเงินไปใช้ได้ ตำรวจตามกลิ่นไม่ได้

 

ผบ.ชน.บอกว่าบอลวางแผนล่วงหน้ามา 3 เดือนแล้ว

แถมผบ.ตร.บอกว่าเป็นผู้ร้ายอาชีพ

กะอีแค่ขายพระสมเด็จ  ทำไมจะทำไม่ได้

 

อันนั้นคุณคิดเองครับ ถ้าไม่ใช่เซียนพระ ไม่มีวันรู้ว่าที่ห้อยอยู่ พระสมเด็จราคาสิบล้านอัพ

[พอล คุง]

 

 

พระสมเด็จเอาไปขายไม่ได้ ตำรวจตามจับได้หมด แต่เงิน5 ล้าน เอกยุทธเสนอเอง เอาเงินไปใช้ได้ ตำรวจตามกลิ่นไม่ได้

 

โหหหหหหหหหหหหหหหห

 

ไอ้ฟายนี่ โง่หรือบ้า ว่ะ

 

ตำรวจที่ไหนจะมาจับพระเครื่องได้ฟร๊ะ

 

ในเมือเจ้าของตายไปแล้ว

 

แถมมีเจ้าของเพียงคนเดียวที่รู้ตำนิของพระเครื่อง

 

เคยเล่นพระปะว่ะ

 

ไอ้เหียกกกกกกกกกกกกก

 

พระสมเด็จ มีกี่องค์ ครับ ราคาล้านอัพ คนเล่นพระเขารู้ใครเป็นเจ้าของบ้าน เปลี่ยนมือไปที่คนใหนแล้วคนไม่เล่นพระจริงๆ ไม่มีวันรู้ว่าพระสมเด็จราคาเท่าไหร่ แล้วถ้าคุณขโมยไป จะเอาไปขายได้ราคา ต้องขายให้เซียนจริงๆ ตำรวจจะตามจากพระสมเด็จ ตามหาไม่กี่ที่ ง่ายมาก เหมือนแกะรอยจากคนขโมยมือถือ ไมกีวันก็ตามจับได้

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*นี่ไม่ได้รู้ห่านไรเลยจริง ๆ นะ

 

พระสมเด็จนะ มันไม่ได้มีแ่ค่หลักสิบว่ะ

 

มันมีเยอะ ว่ะ

 

แล้วพระสมเด็จ มันมีพิม หลายพิม แบบหลายแบบ 

 

ไหนจะจากที่ไหนอีก

 

คนที่เล่นพระจริง ๆ นะ เค้าไม่ีรู้หรอกว่า คนไหนมีพระสมเด็จพิมไหน พิมอะไรอีก

 

โอ้วววววววววววววววว

 

ไม่เคยเล่นพระ อย่ามาแสดงความคิดเห็น

 

*คุณ*ไปถามเซียนพระ ระดับประเทศเลยว่าเค้ารู้ไหมว่า คนไหนมีพระอะไรรุ่นไหน

 

เอาแค่พระสมเ็ด็จก้อได้

Edited by พอล คุง, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:18.

[finnja]

 

 

 

พระสมเด็จเอาไปขายไม่ได้ ตำรวจตามจับได้หมด แต่เงิน5 ล้าน เอกยุทธเสนอเอง เอาเงินไปใช้ได้ ตำรวจตามกลิ่นไม่ได้

 

โหหหหหหหหหหหหหหหห

 

ไอ้ฟายนี่ โง่หรือบ้า ว่ะ

 

ตำรวจที่ไหนจะมาจับพระเครื่องได้ฟร๊ะ

 

ในเมือเจ้าของตายไปแล้ว

 

แถมมีเจ้าของเพียงคนเดียวที่รู้ตำนิของพระเครื่อง

 

เคยเล่นพระปะว่ะ

 

ไอ้เหียกกกกกกกกกกกกก

 

พระสมเด็จ มีกี่องค์ ครับ ราคาล้านอัพ คนเล่นพระเขารู้ใครเป็นเจ้าของบ้าน เปลี่ยนมือไปที่คนใหนแล้วคนไม่เล่นพระจริงๆ ไม่มีวันรู้ว่าพระสมเด็จราคาเท่าไหร่ แล้วถ้าคุณขโมยไป จะเอาไปขายได้ราคา ต้องขายให้เซียนจริงๆ ตำรวจจะตามจากพระสมเด็จ ตามหาไม่กี่ที่ ง่ายมาก เหมือนแกะรอยจากคนขโมยมือถือ ไมกีวันก็ตามจับได้

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*นี่ไม่ได้รู้ห่านไรเลยจริง ๆ นะ

 

พระสมเด็จนะ มันไม่ได้มีแ่ค่หลักสิบว่ะ

 

มันมีเยอะ ว่ะ

 

แล้วพระสมเด็จ มันมีพิม หลายพิม แบบหลายแบบ 

 

ไหนจะจากที่ไหนอีก

 

คนที่เล่นพระจริง ๆ นะ เค้าไม่ีรู้หรอกว่า คนไหนมีพระสมเด็จพิมไหน พิมอะไรอีก

 

โอ้วววววววววววววววว

 

ไม่เคยเล่นพระ อย่ามาแสดงความคิดเห็น

 

*คุณ*ไปถามเซียนพระ ระดับประเทศเลยว่าเค้ารู้ไหมว่า คนไหนมีพระอะไรรุ่นไหน

 

เอาแค่พระสมเ็ด็จก้อได้

 

ของแท้ ราคาสูงลิบ อย่างที่เอกยุทธห้อย มีไม่กี่องค์ ครับ ถ้าเอาไปขายตามง่ายมาก

 

อีกอย่าง วัยรุ่นอายุไม่ถึง25 ไม่มีวันรู้ว่าพระสมเด็จราคาแพง ไม่แปลกใจนอกจากจะทิ้งทรัพย์สิน ที่เป็นของเอกยุทธแล้ว ยังถอดเสื้อผ้า ด้วย เพื่อไม่ให้ใครสืบจับตามได้

[someone]

ทีมฆ่าตัวจริงคงเอาไปแล้วก็ได้นะ 

ทรัพย์สมบัติที่เอกยุทธใส่ติดตัว 

ราคารวมกันแล้ว มากกว่า 5 ล้าน อีกนะ

ไอ้บอล ไอ้เบิ้ม  มันแค่ทีมฝังศพ 

มันไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก

 

หรืออีกกรณีหนึ่ง

เดี๋ยวรอดูนะ พอคนสงสัยเรื่องนี้กันมาก  หมาต๋าจะเขียนบทเพิ่มเติม

เดี๋ยวพวก หมาต๋า  คงหาสถานที่เอาของไปฝังดิน

แล้ว ก็ให้ไอ้บอลมาแถลงข่าวโกหกอีก  ว่า ไม่ได้โยนทิ้ง  แต่เอาของไปฝังดิน

แล้วพวก หมาต๋า  ก็พากันไปขุดของขึ้นมา  แล้วก็มาแถลงข่าวอีก

[พอล คุง]

 

 

 

 

พระสมเด็จเอาไปขายไม่ได้ ตำรวจตามจับได้หมด แต่เงิน5 ล้าน เอกยุทธเสนอเอง เอาเงินไปใช้ได้ ตำรวจตามกลิ่นไม่ได้

 

โหหหหหหหหหหหหหหหห

 

ไอ้ฟายนี่ โง่หรือบ้า ว่ะ

 

ตำรวจที่ไหนจะมาจับพระเครื่องได้ฟร๊ะ

 

ในเมือเจ้าของตายไปแล้ว

 

แถมมีเจ้าของเพียงคนเดียวที่รู้ตำนิของพระเครื่อง

 

เคยเล่นพระปะว่ะ

 

ไอ้เหียกกกกกกกกกกกกก

 

พระสมเด็จ มีกี่องค์ ครับ ราคาล้านอัพ คนเล่นพระเขารู้ใครเป็นเจ้าของบ้าน เปลี่ยนมือไปที่คนใหนแล้วคนไม่เล่นพระจริงๆ ไม่มีวันรู้ว่าพระสมเด็จราคาเท่าไหร่ แล้วถ้าคุณขโมยไป จะเอาไปขายได้ราคา ต้องขายให้เซียนจริงๆ ตำรวจจะตามจากพระสมเด็จ ตามหาไม่กี่ที่ ง่ายมาก เหมือนแกะรอยจากคนขโมยมือถือ ไมกีวันก็ตามจับได้

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*นี่ไม่ได้รู้ห่านไรเลยจริง ๆ นะ

 

พระสมเด็จนะ มันไม่ได้มีแ่ค่หลักสิบว่ะ

 

มันมีเยอะ ว่ะ

 

แล้วพระสมเด็จ มันมีพิม หลายพิม แบบหลายแบบ 

 

ไหนจะจากที่ไหนอีก

 

คนที่เล่นพระจริง ๆ นะ เค้าไม่ีรู้หรอกว่า คนไหนมีพระสมเด็จพิมไหน พิมอะไรอีก

 

โอ้วววววววววววววววว

 

ไม่เคยเล่นพระ อย่ามาแสดงความคิดเห็น

 

*คุณ*ไปถามเซียนพระ ระดับประเทศเลยว่าเค้ารู้ไหมว่า คนไหนมีพระอะไรรุ่นไหน

 

เอาแค่พระสมเ็ด็จก้อได้

 

ของแท้ ราคาสูงลิบ อย่างที่เอกยุทธห้อย มีไม่กี่องค์ ครับ ถ้าเอาไปขายตามง่ายมาก

 

อีกอย่าง วัยรุ่นอายุไม่ถึง25 ไม่มีวันรู้ว่าพระสมเด็จราคาแพง ไม่แปลกใจนอกจากจะทิ้งทรัพย์สิน ที่เป็นของเอกยุทธแล้ว ยังถอดเสื้อผ้า ด้วย เพื่อไม่ให้ใครสืบจับตามได้

 

 

 

โถ ๆ ๆ ๆ ไอ้นี่ ยังแถ เข้ารกเข้าพง อีก

 

ต่อให้เอาไปขายก้อตามไม่ได้ว่ะ เพราะไม่รู้ว่า พระของใคร เจ้าตัวเท่านั้นที่จะรู้ว่า ตำนิ ของพระเครื่องตัวเอง นะ อยู่ตรงไหนบ้าง

 

ต่อให้มีสมเด็จระดับนี้สัก 10 องค์ก้อไม่รุ้ว่า ของใครว่ะ

 

เมิงไปถามเซียนพระนะ ว่า ถ้าเอาไปขายแล้ว จะตามพระเครืองได้ไหม

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

อ๋อ ๆ ๆเรื่องอายุไม่เกี่ยวว่ะ

 

เอาง่าย ๆ แค่คำว่า พระสมเ็ด็จ เด็กที่อายุไม่ถึง ยังรู้เลยว่า มีราคาแพง

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

 

 

พระสมเด็จเอาไปขายไม่ได้ ตำรวจตามจับได้หมด แต่เงิน5 ล้าน เอกยุทธเสนอเอง เอาเงินไปใช้ได้ ตำรวจตามกลิ่นไม่ได้

 

ผบ.ชน.บอกว่าบอลวางแผนล่วงหน้ามา 3 เดือนแล้ว

แถมผบ.ตร.บอกว่าเป็นผู้ร้ายอาชีพ

กะอีแค่ขายพระสมเด็จ  ทำไมจะทำไม่ได้

 

 

อันนั้นคุณคิดเองครับ ถ้าไม่ใช่เซียนพระ ไม่มีวันรู้ว่าที่ห้อยอยู่ พระสมเด็จราคาสิบล้านอัพ

 

^

^

5555555555555555555555555555555 นายพลาดแล้ว ลี

 

พลาดที่ 1ถ้าไม่ใช่เซียนพระ ไม่มีวันรู้ว่าที่ห้อยอยู่ พระสมเด็จราคาสิบล้านอัพ

ถ้านายบอลไม่รู้ ก็เลยเอาของไปทิ้งเพราะไม่รู้ค่า

แล้วตำรวจมันตรัสรู้จากไหนล่ะครับว่านาฬิกา"ยี่ห้อโชปาด"  กับพระ"สมเด็จ" ถ้าไอ้บอลมันไม่บอก

นั่งทางในเอาเรอะ???

 

 

 

พลาดที่ 2 ถ้าไม่ใช่เซียนพระ ไม่มีวันรู้ว่าที่ห้อยอยู่ พระสมเด็จราคาสิบล้านอัพ

บอลบอกตำรวจเองครับว่าของแพงขนาดนั้น ต้องทิ้งเพราะกลัวคนไม่เชื่อ

 

พอสื่อสงสัยว่าทำไมเด็กขับรถรู้จักยี่ห้อและรุ่นพระของแพงเป็นล้านๆ

= ที่รู้ว่านาฬิกายี่ห้อโชปาด และเป็นพระสมเด็จเพราะ "ผมเรียนรู้จากบอส"

 

ลีนี่  ปัญญาอ่อนง่ะ  บ่องตง

Edited by ผึ้งน้อย For Vendetta, 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:34.

[mod15-2]

คุณเอกยุทธ มีแผงพระที่ ลอนดอนด้วยหรือ?...เห็นข่าววันนี้ตำรวจยังไปงมกันอยู่เลย....สงสัยเจอแน่ๆ

[ant]

เงื่อนงำที่รอการเปิดเผยครับ

ใครเป็นใครเดี๋ยวก็รู้

[chaidan]

แล้วเรื่องทองสิบบาทละ....

โยนทิ้งน้ำทำไม...

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

แล้วเรื่องทองสิบบาทละ....

โยนทิ้งน้ำทำไม...

 

เออ นั่นดิ  โยนแค่นาฬิกากับสมเด็จก็จบ ถ้ากลัวคนจับได้อะนะ

แต่สร้อย โยนทิ้งทำไมวะ  ก็เอ็ง "ฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ไม่ใช่หรา??????????????"

[CATCAT]

ตำรวจมันสร้าง คุณสมบัติให้ไอ้บอลได้ขัดแย้งกันมาก. ไม่รู้ใครเขียนบทแต่โคตรไม่เนียนเลย
อำพรางศพเพราะกลัวตำรวจตามกลิ่นได้. เสือกขับรถจากพัทลุงกลับมากินสตาร์บัคในกรุงเทพ
เหตุจูงใจฆ่าชิงทรัพย์. แต่ดันทิ้งทคัพย์สินมูลค่าที่อาจจะมากกว่าเช็ค 5M ลงน้ำ
คนขับรถอยู่กับนายไม่ถึงปี. แต่สามารถเรียนรู้เรื่องการเขียนเช็คยังไงที่เลี่ยงการรายงานปปง. คนกทมที่ไม่เกี่ยวกับแวดวงการเงินยังไม่รู้เลยว่าต้องยื่นเอกสารประกอบ
เป็นนักเลงประวัติเพียบ. แต่ไม่รู้ว่าจะปล่อยของโจรยังไง

แต่สิ่งนึงที่มั่นใจคือ. ไอ้บอลคนนี้. ไม่ธรรมดา. อย่ามาติดกับอายุ 27. มันนิ่งจนเลือดเย็น

[Bookmarks]

พระสมเด็จเอาไปขายไม่ได้ ตำรวจตามจับได้หมด แต่เงิน5 ล้าน เอกยุทธเสนอเอง เอาเงินไปใช้ได้ ตำรวจตามกลิ่นไม่ได้

พระขายไม่ได้ แต่มือถือ 5 เครื่อง เอาไปขายได้ ตำรวจตามจับไม่ได้งั้นสิ คิดตื้นๆ อย่างนี้ อย่าออกความเห็นจะดีกว่า โง่ว่ะ

[Bookmarks]

มั่นใจคนไทยเกินล้าน  ที่สาปส่งมากกว่า  คนเลวอย่างเอกยุทธมันไม่มีค่าพอที่ชาวบ้านเค้าจะมาสนใจหรอก   ถ้าจะมีคนสนใจมันก็คงแค่กลุ่มไอ้พวกการเมืองลิ่วล้อที่จ้องจะเล่นงานแต่ฝ่ายตรงข้ามมากกว่า

ถ้าคุณเอกยุทธ เป็นคนเลว ไอ้แม้วยิ่งเลวกว่า ทำลายค่าเงินบาท ปี 40 คนไทยเจ๊ง ฆ่าตัวตายเพราะมัน มันรวยคนเดียว แถมโกงชาติบ้านเมือง จนศาลตัดสินให้ติดคุก ยังมีพวกขี้ข้าตามเช็ดขี้ เช็ดเยี่ยวให้ อย่างไม่อาย และกลัวบาป 

[kaidum]

มันคงเก็บพระไว้แล้วล่ะครับ สร้อย นาฬิกาด้วย ถึงไม่ได้ขายตอนนี้ วันข้างหน้าก็เอาไปขายได้

ที่ไปชี้โบ๊ๆเบ๊ๆ นั่นน่าจะเป็นฉากมากกว่า ขู่ให้นายเซนต์เช็คตั้งห้าล้านได้ ทำไมจะไม่รู้ว่าพระมีค่าหรือเปล่า

 

ปล่อยพระทีหลังต่อให้ตำรวจตามดมก็ไม่มีทางเจอ เพราะนั่นเป็นพระสมเด็จนะครับ