เหอะ เหอะ ขอบคุณ น้า ดาร์ค ครับที่แนะนำ คือผมพยายามแยกตัว
เจ้าหน้าที่กับระบบของเขาออกจากกันน่ะครับ เพราะเข้าใจว่าว่าตัวเจ้าหน้าที่
เขาทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะระบบมันไม่อำนวยให้เขา ตั้งแต่การจดจำนวน
การใช้ไฟก็รู้สึกว่าจะจ้างเขา หน่วยที่แจ้งหนี้ก็หน่วยหนึ่ง หน่วยตัดไฟก็หน่วยหนึ่ง
ไอ้คนชี้แจงทางโทรศัพท์ก็หน่วยหนึ่ง ไอ้คนเก็บเงินก็หน่วยหนึ่ง
ข้อมูลของหน่วยเหล่านี้รู้สึกมันจะไปข้อมูลเดียวคือ ค่าไฟเท่าไร ส่งไปหน่วยแจ้งหนี้
หน่วยแจ้งหนี้มีหน้าที่แจ้งหนี้ หน่วยรับเงินมีหน้าที่รับเงินถ้าเดือนไหนไม่ได้รับเงิน แจ้ง
หน่วยตัดไฟ หน่วยตัดไฟแจ้งเจ้าของบ้านว่าจะตัดไฟถ้าไม่ไปจ่าย
ระบบที่ผมว่าห่วยแตกก็คือ แต่ละหน่วยเขาจะไม่รับรู้ปัญหาข้ามหน่วยกัน เช่นกรณีของผมนี่
เราถือใบแจ้งตัดไฟไปชำระเงิน ไอ้คนเก็บเงินมันก็จะยืนยันเก็บตามใบแจ้งตัดไฟอย่างเดียว
ซึ่งมีค่าปรับอยู่ด้วย เพราะเขาก็คงคิดว่าก็ถือใบนี้มาซึ่งมันมีค่าปรับอยู่ด้วยแล้วเขาจะไม่ปรับ
ได้ยังไงเขาก็คงคิดว่าเขาอาจมีความผิดถ้าไม่ปรับ เราเป็นคนนอกจะบอกจะชี้แจงอย่างไร
เขาคงไม่เชื่อหรอกครับ ซึ่งเรื่องนี้มันบังเอิญว่าผมให้เด็กไปเสียเงิน เด็กมันก็คงชี้แจงเจ้าหน้าที่
ได้ตามที่เราบอกไปแค่นั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเด็กมันก็เลยต้องจ่าย ถ้าผมไปเองก็คงเข้าไปคุย
กับผู้จัดการแหละครับ
แต่ที่ผมไม่ค่อยสบายใจก็คือ ถ้าเป็นชาวบ้านแบบ ตาสีตาสา ธรรมดา ๆ แล้วเขาต้องเจอปัญหาผม
สภาพเขาก็คงไม่ต่างกับเด็กที่ผมให้ไปจ่ายเงินนั่นแหละ เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องปรับ ก็ต้องปรับเพราะ
เขายืนยันอย่างนั้น คงไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยกับผู้จัดการหรอก ซึ่งผมมองว่าถ้าเขาต้องเสียค่าปรับอีก
ร้อยกว่าบาท โดยเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เงินร้อยกว่าบาทอาจเยอะสำหรับเขาก็ได้ ผมจึงมองว่า ระบบ
มันน่าจะปรับปรุงให้ดีกว่านี้ ส่วนตัวเจ้าหน้าที่นั้น เขาก็ทำตามระบบที่มันกำหนดมานั่นแหละครับ