เห็นได้ชัดว่า กิเลสกำลังทำให้เราหน้ามืด อัตตาของเรากำลังกลืนกินจิตวิญญาณแห่งผู้มีใจอารีย์ เราเริ่มต้นด้วยจิตใจที่เป็นกุศล แต่ต่อมาเรากลับถูกครอบงำ กลายเป็นผู้ยึดติดลาภยศ สรรเสริญซึ่งเป็นกิเลสที่ละเอียดยิ่งกว่า มันไม่ควรเป็นอย่างนี้เลย
สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับผู้คิดดี ไม่ควรเกิดขึ้นกับสถานที่อันเป็นมงคล ไม่ควรเกิดขึ้นกับผู้ปราถนาพัฒนาจิตใจของตนให้สูงส่ง
งานเพื่อสังคมนั้นเป็นงานที่แสนประเสริฐ การทำเพื่อผู้อื่นนั้นเป็นคุณธรรมล้ำค่าที่เหล่าโพธิสัตว์ทั้งหลายกระทำอยู่เป็นนิจ
แต่ทั้งหมดทั้งปวง เราควรทำภายใต้จิตอันบริสุทธิ์
เมื่อทำ ก็ทำอย่างเต็มกำลัง เต็มความสามารถ
แต่เมื่อถึงเวลาก็ควรกำหนดจิตให้ปล่อยวางเต็มที่เช่นกัน
ทำกิจการใดๆ ควรใช้จิตว่างเป็นพื้นฐาน
จึงไม่เป็นตกเป็นทาสแห่งโลกธรรมทั้งแปด
มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยส มีสรรเสริญ มีนินทา มีทุกข์ มีสุข
ยิ่งทำความดีมากเท่าไหร่ ยิ่งควรตระรู้เท่าทันตนเองมากเท่านั้น
กิเลสผีร้ายจึงไม่สิงสู่ใจ บงการให้เราเสียสติ
หยิบมีดแห่งความเห็นผิด
เชือดคอตัวเองให้ตายลงไปจากความดีอันเที่ยงแท้..
ขอบพระคุณบทความดีดี จากคุณพศิน อินทรวงศ์ ด้วยครับ...
https://www.facebook.com/Talktopasin
Edited by Suraphan07, 27 June 2013 - 22:03.