128 ความเห็นในกระทู้นี้

[OsirisEyeInSky]

เบื่่อคุณเหล่าฮูมาก บอกตรงๆ พูดเหมือนคนไม่มีสมอง กับวิธีการอนุมานแบบเหวี่ยงแหสรุปคลุมไปหมดนี่แหละ  
 

สุธาสินี  เป็นคนไม่ดี เพราะไปพัวพัน อดีตอาจารย์ มิตสุโอะ
สุธาสินี  เป็นพี่สาว  ของ วิชเยนทร์ 

วิชเยนทร์  เป็นหนึ่งใน ผอ. บลูสกาย

 

ฉะนั้น คนที่ดูบลูสกาย  ให้ระวังลูกหลานมีพฤติกรรมเลียนแบบ!

[คุณนายนอกบ้าน]

ถ้าท่านรู้ตัวเอง  สึกเสียก่อนที่จะทำผิด
ผมก็โอเคนะครับ
 
ดีกว่าดันทุรังทำผิดทั้งๆยังห่มผ้าเหลือง
 
 
 

ศัตรูของพรหมจรรย์ คือ เพศตรงข้าม...
 
ผมเห็นปุถุชน เข้าไปปิ๊งกันในวัดหลายคู่แล้ว...

 
ไอ้ที่ไปทำบุญในวัดแล้วปิ๊งกัน ผมโอเคครับ
แต่ที่ไป "ปฏิบัติธรรมในวัด" แล้วปิ๊งกันเนี่ย...ผมว่าน่าเกลียด
ผมเจอหลายคู่มาก เพื่อนผมก็เป็นแบบนี้ คนบาปแบบผมงงชิกอ๋าย
คือชอบบอกว่าไปเจอ "คู่รักคู่ธรรม" เป็นบุญจริงๆ  "ได้เจอคู่ร่วมนิพพานด้วยกัน" (งงไหมท่าน  ผมฟังแล้วผมงงนะ)
ผมก็สวนไปหลายทีแล้ว  "ก็ตั้งใจไปนุ่งขาวห่มขาว ละกิเลสไม่ใช่หรือ  แล้วจะไปหาคู่ทำไมล่ะ"
 
คนนึงที่เคยบอกผมว่า "เจอคู่รักคู่ธรรมแล้ว ร่วมเป็นคู่บุญด้วยกัน" คือคุณกรรณิการ์ ธรรมเกษรครับ
บอกว่าเจอกับฝ่ายชายตอนเดินทางมาศึกษาธรรมะ
หลังจากนั้นไม่กี่ปี ก็มีข่าวการโกงกันน่ะแหละครับ  
 
 
ปล. อันนี้ผมไม่เข้าใจสีกาครับ
คือสีการู้แล้วว่าพระคือพระ จะปล่อยใจไปชอบพอพระได้อย่างไร  มันไม่สมควรคิดกตั้งแต่แรกแล้ว
 
ปล.2 เล่าเป็นเกร็ดเฉยๆ
หลวงปู่พุทธอิสระที่ท่านกำลังมีเคสโต้วาทีธรรมกับพระเกษมอยู่ขณะนี้
ผมไม่ได้บอกว่าท่านประพฤติไม่เหมาะ เพราะตัวท่านเองไม่มีอะไรครับ
แต่ผมเจอเองกับตัวจังๆ  จนเป็นสาเหตุให้ไม่ได้กราบขอเป็นศิษย์หลวงพ่ออ้อน้อยท่าน
คือสีกาที่เป็นโยมอุปัฎฐากท่าน เต็มไปหมด ที่หึงหวงกัน อิจฉาริษยากัน
กระทั่งตอนจัดดอกไม้ถวายท่าน ก็แย่งกันจะเป็นแจกันที่ตั้งหน้าท่าน
ทั้งๆที่ตัวก็นุ่งขาวห่มขาว อาศัยอยู่ในวัดนั้นแล
 
แถมวันเกิดของสีกา  หลวงปู่ท่านจำไม่ได้  สีกาน้อยใจ "งอนพระ" ครับพี่น้อง!!
งอนว่าทำไมหลวงปู่ไม่ใส่ใจทั้งที่ตนถวายตัวรับใช้พระขนาดนี้
 
เจอแบบนี้ผมเลิกเลยครับ

เหมือนยันตระ เหล่าแม่ยกนุ่งขาวแยกกันกินข้าวก้นบาตร
แย่งหันถวายน้ำปานะ
แย่งกันตามไปปรนิบัตรต่างประเทศ

[phoebus]

เบื่่อคุณเหล่าฮูมาก บอกตรงๆ พูดเหมือนคนไม่มีสมอง กับวิธีการอนุมานแบบเหวี่ยงแหสรุปคลุมไปหมดนี่แหละ  
 

สุธาสินี  เป็นคนไม่ดี เพราะไปพัวพัน อดีตอาจารย์ มิตสุโอะ
สุธาสินี  เป็นพี่สาว  ของ วิชเยนทร์ 

วิชเยนทร์  เป็นหนึ่งใน ผอ. บลูสกาย

 

ฉะนั้น คนที่ดูบลูสกาย  ให้ระวังลูกหลานมีพฤติกรรมเลียนแบบ!

 

 

 

อย่าไปเอาสาระอะไรกับคนปทุมแท้ ๆ 

 

 

แต่ไป ม.รังสิต ไม่ถูกเรย

 

 

     

[Norachon]

เห็นด้วยกับหลายๆท่าน บวชแล้วอยู่ไม่ได้ก็สึกมามีลูกมีเมีย เรื่องปกติธรรมดามาก ไม่มีใครห้ามบวชแล้วไม่ให้สึก ไม่ใช่พระลังกา แต่ที่ทำชั่วแล้วยังอยู่นี่ซิ นรกชัดๆ

[เหล่าฮู]

ลองไปอ่าน คห 136 กับ คห 111

 

http://www.manager.c...D=9560000078565

[พงษ์เพชร]

บังเอิญผมคนไม่นับถือศาสนา

ชีวิตนี้ สั้นนัก

ดี ชั่ว คิดเอง ทำเองได้

[nunoi]

ลองไปอ่าน คห 136 กับ คห 111

 

http://www.manager.c...D=9560000078565

 

^^ แล้วยังไงต่อครับ 

[eAT]

ลองไปอ่าน คห 136 กับ คห 111

 

http://www.manager.c...D=9560000078565

 

เดี๋ยวนี้หัดเลีย "ไข่" เสื้อเหลืองแล้วหรือ?

[IFai]

    ตัณหา ราคะ  เกี่ยวกับวัยไหม

    1. เถ้าแก่ร้านถ่ายรูป วัยสัก70 (ตอนนั้น) เมียตายไปนาน ได้ลูกจ้างที่อายุน้อยกว่าลูกเป็นเมียใหม่ เมื่อสนิทกัน ไม่มีอะไรน่าสนใจ น่าคุยกันกว่าเรื่องในมุ้ง ที่คุยแกได้ทุกคืน กินยาจีน ดองกับตาตั๊กแตน ดูหนังโป๊หน่อย เรียบร้อย ...ผมซัดเข้าไปสัก 15-20 ถ้วยตะไล ถึงที่พัก ได้ผลครับ หลับสนิท น้ำท่าไม่ได้อาบ  แกจดตำรายาให้ พอไปถามราคา ตามปรมาณที่แกจดให้ ชุดหนึ่งเกือบ4พัน 

    2. คู่ผัวเมีย ก็สัก 60-70 ดูท่าแล้วแค่เดินสัก20ก้าว ก็จะหมดแรง  ผมก็ถาม เมื่อคืนได้ไหม ...โอ๊ยอายุปูนนี้แล้ว,   อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ ล่ะ ...แกส่ายหน้า,  ปีนี้ทั้งปีล่ะ ...ไอ้*คุณ*ก็ถามยาวไป

    3. ตา(พี่ของยาย) อายุสัก 80 แล้ว อันนี้น้าชายถาม ลุงพออายุขนาดนี้แล้ว ไอ้เรื่องแบบนี้ เป็นไงบ้าง ตาตอบว่า มันก็ยังมีอยู่บ้าง บางทีมันก็ห้าม(ความคิด)ไมได้

 

    **นี่เป็นเรื่องจริง ที่ติดกับมนุษย์ มาทุกคน แล้วแต่ว่าเราจะข่มมันได้ขนาดไหน ..ยอมรับความจริงขนาดไหน

 

      กรณีหลวงพ่อ เมื่อท่านเป็นพระ ท่านทำดีปฏิบัติดี ก็เพียงพอแล้ว ....เมื่อผ้าเหลืองร้อน ท่านก็สึก ไปเป็นฆราวาส ก็หวังว่าจะเป็นฆราวาสที่ดี ถึงแม้ถ้าผมรู้จัก และวางตัวเป็นลูกศิษย์ แล้วท่านสึกไปมีเมีย ถ้าดำรงค์ตนเป็นฆราวาสที่ดี ผมก็จะนับถือตลอดไป

 

     ผิดกับไอ้พวกจิ้งเหลือง ที่เอาผ้าเหลืองมาห่มตัว แล้วทำเลวๆ ในผ้าเหลือง ...ให้พวกนี้แหละ ที่ทำให้คนเบื่อหน่ายพระ

Edited by IFai, 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:44.

[OsirisEyeInSky]

เอามาฝาก..  เป็นหนึ่งในความคิดเห็น ในเว็บ ผู้จัดการออนไลน์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ

บทสนทนาระหว่าง พระญาณวิสาลเถร (หา สุภโร) อายุ ๘๗ พรรษา ๖๖ กับ พระอุปฐาก

หลวงปู่: ครูบา อาจารย์มิตซูโอะเป็นใคร
ครูบาอุปฐาก: เป็นหยังครับผม องค์พ่อแม่ถามทำไมครับผม

หลวงปู่: ก็เมื่อเช้าเห็นโยมในศาลามาเล่าให้ฟัง ผมก็อือๆนอไปกับเขา แต่ผมไม่รู้เรื่องนี้
ครูบาอุปฐาก.โอ๋: ขอโอกาสกราบเรียนองค์พ่อแม่ ท่านอาจารย์มิตซูโอะท่านเป็นคนญี่ปุ่นที่มาเรียกกรรมฐานในสายพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง บวชมา๓๐กว่าปีแล้วท่านก็สึกกลับบ้านท่านที่ญี่ปุ่น เมื่อเช้าแม่ออกมาบอกว่าท่านสึกไปมีเมีย ที่ญี่ปุ่นครับผม

หลวงปู่: โอ๋ มันก็ดีแล้วนี่แล้วเอามาเล่ากันทำไม
ครูบาอุปฐาก: ขอโอกาสองค์พ่อแม่ ดียังไงครับผมพระกรรมฐานบวชมา ๓๐ กว่าปีแล้วมาสึกไปมีเมีย

หลวงปู่: โอ้ย ญาท่านสีทนศาลาพันห้องนั้น สึกตอนอายุ ๙๒ ไปเอาเมียอายุ ๑๖ นี่ผมก็ยังไม่ถึง ๙๒ เด้อ (พูดแล้วท่านก็หัวเราะ)

คนบวชคนสึกมันเป็นธรรมดาโลก บางคนบวชมานานกว่าท่านอาจารย์มิตซูโอะก็ยังสึก
ท่านอาจารย์หนูใหญ่ศิษย์หลวงปู่มั่น นั่งภาวนาได้ฌาณได้ญาณเห็นนู้นเห็นนี่ท่านก็ยังสึก
พระอริยคุณาธาร ขอนแก่นท่านก็สึก

ในวงพระกรรมฐานเราก็มีให้เห็นอยู่ ไม่แปลกดอก ถ้าเรายังไม่แน่นอนในพระสัทธรรมมันก็มีโอกาสสึกกันทุกคน
เพิ่นสึกออกไปหน่ะดีแล้ว ถ้าวิบากกรรมที่แก้เป็นพระไม่ได้มันต้องสึกออกไปแก้ก็ต้องตามไปแก้มัน คุณเอ้ย

คนสึกก็ใช่ว่าจะเสียหาย ใช่ว่าจะเลวไปซะหมด คนอยู่ก็ใช่ว่าจะบริสุทธิ์ ใช่ว่าจะดีไปเสียหมด
หยั่งกำลังว่าสู้ไม่ไหวก็สึกออกไปนั้นถึงจะเป็นการที่น่ายกย่อง มาสู้ทนหลอกชาวบ้านเป็นมหาโจรอยู่มันก็ตกนรกนั้นแหล่ว
คนที่ทำกรรมฐานมาตั้ง ๓๐ ปี เพิ่นบ่ได้ปึกได้โง่เด้อ เพิ่นคิดเพิ่นตัดสินใจ แสดงว่ากำลังของกรรมฐานที่สั่งสมมาประคับประคองอยู่
การที่เพิ่นตัดสินใจถือว่าคิดดีแล้วในแนวของเพิ่น ที่เอามาว่ามานินทากันนั้นเพราะมันขัดใจเรามันเข้ากิเลสเรา ว่ากันคะนองปาก

คุณเอ้ย เล่นกันพระเหมือนเล่นกับไฟ ว่าเพิ่นชั่ว ถ้าเพิ่นชั่วเราไม่ได้บุญนะเราเท่าตัว
ว่าเพิ่นชั่วเพิ่นบ่ได้ชั่วเราเป็นบาปเราขาดทุน ว่าเพิ่นแล้วมีแต่เท่าทุนกับขาดทุนหากำไรไม่ได้ ลงทุนแบบนี้ไม่งอกไม่เงยนะ

เอาใจไปคิดเรื่องคนอื่นมันก็ทุกข์เรื่องคนอื่น แต่เอาใจมาไว้กับสติมาไว้กับเรานี้มันบ่ทุกข์มันมีแต่กำไร
เพิ่นไปดีแล้วก็แล้วกันไปคุณเอ้ย ทุกคนหันหน้าเดินไปหาพระนิพพานกันหมดนั้นหล่ะ
ถึงช้าถึงเร็วขึ้นอยู่กับเราเดินกับเราลงทุนดอก มาพบพระพุทธเจ้า พบพระธรรมคำสั่งสอน
พบครูบาอาจารย์พระเจ้าพระสงฆ์แล้ว อย่าให้ขาดทุนเด้อให้เอากำไรจากเพิ่นเด้อ
Z

Edited by OsirisEyeInSky, 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:55.

[pinkpanda]

นับถือที่ธรรม อย่าหลงที่คน

[ทัชชี่]

ท่านแถลงด้วยตนเองแล้วครับ

 

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ท่านบอก จดทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว

และแอนน่าจะเป็นเนื้อคู่กันในชาติก่อน เป็น "คู่บารมี" ของอาจารย์

.......

 

 

อืมม์ ผมไม่ใช่ลูกศิษย์ท่าน  แต่ก็ไม่เคยตำหนิท่านเรื่องสึกเพราะรัก

แต่ท่านไม่น่าหลุดคำว่า "คู่บารมี" ออกมานะครับ  เพราะมันคือจบกันเลยสำหรับ 38 ปีที่ท่านสร้างมา

 

มันไม่ต่างจากคนที่ใช้วัดเป็นข้ออ้างในการหาแฟน

แล้วก็เพนท์สีให้ดูดีด้วยคำว่า "คู่รักคู่ธรรม คู่บารมี"

เพราะคนใฝ่ธรรมะจริงๆจะมุ่งหลุดพ้น  ไม่มาสร้างคำสวยหรูว่า "คู่บารมี" หรอกหนา

 

 

ขออนุญาตยกประโยคที่คห.หนึ่งในแมเนเจอร์เขียนไว้แล้วผมชอบมาก

"อย่าอ้างคำว่าบุพเพสันนิวาสหรือวาสนา ให้กับกามตัณหาของตนเอง"

[GuoJia]

ท่านบวชเป็นพระมา 30 กว่าพรรษา ก็แปลว่าท่านได้บำเพ็ญเนกขัมมบารมีได้ถึง 30 กว่าปี

ทำคุณประโยชน์ สั่งสอน เผยแพร่พุทธศาสนาได้ถึง 30 กว่าปี และมีงานสอนบันทึกเสียง, หนังสือ ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาต่ออีก

ท่านสึกไปมีคู่ครอง ก็หมายความว่าท่านเป็นปุถุชน ยังมี โลภ โกรธ หลง

จะบุพเพฯ หรือ กามตัณหา ก็ตามท่านยังละไม่ได้ จะให้ทำยังไง

ไม่ใช่บวชแล้วจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์กันทุกคน 30 กว่าพรรษาไม่เสียเปล่าแน่ ๆ

ใครคิดว่ามีคุณธรรมดีกว่าท่าน ลองทิ้งลูกเมียทรัพย์สมบัติการงานไปบวชสัก 30 ปีดูเถอะ

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

^

^

ขออนุญาตตอบตามเนื้อผ้า

 

1. อจ.ก็ควรบอกกล่าวลูกศิษย์ผู้ดูแลกิจการวัดและมูลนิธิของท่านก่อน

ให้พวกเขาเตรียมใจ และเตรียมตัดสินใจเรื่องกิจการวัดต่างๆให้ดี

ท่านจะได้สึกออกไปแบบไม่มีอะไรติดค้าง

 

คนปกติตัดสินใจทำอะไรยังต้องบอกญาติบอกครอบครัว  

ทำงานจะลาออกจากงานก็ต้องแจ้งล่วงหน้าครับ

ไม่ใช่ทำไปเลยโดยพละการ

 

2. ฝ่ายหญิงก็ต้องเตรียมใจพ่อแม่พี่น้องและลูกไว้ด้วยว่าต้องเจอกับอะไร

อย่าทิ้งให้พวกเขาต้องเผชิญกับกระแสสังคมเพียงลำพัง  เพราะพวกเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย

 

"เราสามารถมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นได้หรือ?"

ถ้าได้ นั่นไม่ใช่รักแท้

 

3. ถ้าทั้งสองได้บอกกล่าวแล้ว สะสางเรื่องคั่งค้างแล้ว

จะทำอะไรที่ตามใจตนเองก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจอีก

ใครจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ไม่ใช่ปัญหาของทั้งสองแล้ว

 

 

แต่เผอิญทั้งคู่ไม่ได้จัดการปัญหาแบบนั้น  

กลับทิ้งเรื่องไว้ให้คนข้างหลังตามแก้มากมาย

ราวกับหนุ่มสาววัย 20 ที่หนีตามกันไป

Edited by ผึ้งน้อย For Vendetta, 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 02:14.

[แม้ว ม.7]

 

 

หลวงปู่.ครูบา อาจารย์มิตซูโอะเป็นใคร
ครูบาอุปฐาก.เป็นหยังครับผม องค์พ่อแม่ถามทำไมครับผม
หลวงปู่.ก็เมื่อเช้าเห็นโยมในศาลามาเล่าให้ฟัง ผมก็อือๆนอไปกับเขา แต่ผมไม่รู้เรื่องนี้
ครูบาอุปฐาก.โอ๋ ขอโอกาสกราบเรียนองค์พ่อแม่ ท่านอาจารย์มิตซูโอะท่านเป็นคนญี่ปุ่นที่มาเรียกกรรมฐานในสายพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง บวชมา๓๐กว่าปีแล้วท่านก็สึกกลับบ้านท่านที่ญี่ปุ่น เมื่อเช้าแม่ออกมาบอกว่าท่านสึกไปมีเมีย ที่ญี่ปุ่นครับผม
หลวงปู่.โอ๋ มันก็ดีแล้วนี่แล้วเอามาเล่ากันทำไม
ครูบาอุปฐาก.ขอโอกาสองค์พ่อแม่ ดียังไงครับผมพระกรรมฐานบวชมา ๓๐ กว่าปีแล้วมาสึกไปมีเมีย
หลวงปู่.โอ้ย ญาท่านสีทนศาลาพันห้องนั้น สึกตอนอายุ ๙๒ ไปเอาเมียอายุ ๑๖ นี่ผมก็ยังไม่ถึง ๙๒ เด้อ(พูดแล้วท่านก็หัวเราะ)
คนบวชคนสึกมันเป็นธรรมดาโลก บางคนบวชมานานกว่าท่านอาจารย์มิตซูโอะก็ยังสึก ท่านอาจารย์หนูใหญ่ศิษย์หลวงปู่มั่น นั่งภาวนาได้ฌาณได้ญาณเห็นนู้นเห็นนี่ท่านก็ยังสึก พระอริยคุณาธาร ขอนแก่นท่านก็สึก ในวงพระกรรมฐานเราก็มีให้เห็นอยู่ ไม่แปลกดอก ถ้าเรายังไม่แน่นอนในพระสัทธรรมมันก็มีโอกาสสึกกันทุกคน เพิ่นสึกออกไปหน่ะดีแล้ว ถ้าวิบากกรรมที่แก้เป็นพระไม่ได้มันต้องสึกออกไปแก้ก็ต้องตามไปแก้มัน คุณเอ้ย คนสึกก็ใช่ว่าจะเสียหาย ใช่ว่าจะเลวไปซะหมด คนอยู่ก็ใช่ว่าจะบริสุทธิ์ ใช่ว่าจะดีไปเสียหมด หยั่งกำลังว่าสู้ไม่ไหวก็สึกออกไปนั้นถึงจะเป็นการที่น่ายกย่อง มาสู้ทนหลอกชาวบ้านเป็นมหาโจรอยู่มันก็ตกนรกนั้นแหล่ว คนที่ทำกรรมฐานมาตั้ง๓๐ปีเพิ่นบ่ได้ปึกได้โง่เด้อ เพิ่นคิดเพิ่นตัดสินใจแสดงว่ากำลังของกรรมฐานที่สั่งสมมาประคับประคองอยู่ การที่เพิ่นตัดสินใจถือว่าคิดดีแล้วในแนวของเพิ่น ที่เอามาว่ามานินทากันนั้นเพราะมันขัดใจเรามันเข้ากิเลสเรา ว่ากันคะนองปาก คุณเอ้ย เล่นกันพระเหมือนเล่นกับไฟ ว่าเพิ่นชั่ว ถ้าเพิ่นชั่วเราไม่ได้บุญนะเราเท่าตัว ว่าเพิ่นชั่วเพิ่นบ่ได้ชั่วเราเป็นบาปเราขาดทุน ว่าเพิ่นแล้วมีแต่เท่าทุนกับขาดทุนหากำไรไม่ได้ ลงทุนแบบนี้ไม่งอกไม่เงยนะ เอาใจไปคิดเรื่องคนอื่นมันก็ทุกข์เรื่องคนอื่น แต่เอาใจมาไว้กับสติมาไว้กับเรานี้มันบ่ทุกข์มันมีแต่กำไร เพิ่นไปดีแล้วก็แล้วกันไปคุณเอ้ยทุกคนหันหน้าเดินไปหาพระนิพพานกันหมดนั้นหล่ะ ถึงช้าถึงเร็วขึ้นอยู่กับเราเดินกับเราลงทุนดอก มาพบพระพุทธเจ้า พบพระธรรมคำสั่งสอน พบครูบาอาจารย์พระเจ้าพระสงฆืแล้วอย่าให้ขาดทุนเด้อให้เอากำไรจากเพิ่นเด้อ

หลวงปู่ หา สุภโรคะ

https://www.facebook...&type=1

[แม้ว ม.7]

 

 

หลวงปู่.โอ้ย ญาท่านสีทนศาลาพันห้องนั้น สึกตอนอายุ ๙๒ ไปเอาเมียอายุ ๑๖ นี่ผมก็ยังไม่ถึง ๙๒ เด้อ(พูดแล้วท่านก็หัวเราะ)
คนบวชคนสึกมันเป็นธรรมดาโลก บางคนบวชมานานกว่าท่านอาจารย์มิตซูโอะก็ยังสึก ท่านอาจารย์หนูใหญ่ศิษย์หลวงปู่มั่น นั่งภาวนาได้ฌาณได้ญาณเห็นนู้นเห็นนี่ท่านก็ยังสึก พระอริยคุณาธาร ขอนแก่นท่านก็สึก ในวงพระกรรมฐานเราก็มีให้เห็นอยู่ ไม่แปลกดอก ถ้าเรายังไม่แน่นอนในพระสัทธรรมมันก็มีโอกาสสึกกันทุกคน เพิ่นสึกออกไปหน่ะดีแล้ว ถ้าวิบากกรรมที่แก้เป็นพระไม่ได้มันต้องสึกออกไปแก้ก็ต้องตามไปแก้มัน คุณเอ้ย คนสึกก็ใช่ว่าจะเสียหาย ใช่ว่าจะเลวไปซะหมด คนอยู่ก็ใช่ว่าจะบริสุทธิ์ ใช่ว่าจะดีไปเสียหมด หยั่งกำลังว่าสู้ไม่ไหวก็สึกออกไปนั้นถึงจะเป็นการที่น่ายกย่อง มาสู้ทนหลอกชาวบ้านเป็นมหาโจรอยู่มันก็ตกนรกนั้นแหล่ว คนที่ทำกรรมฐานมาตั้ง๓๐ปีเพิ่นบ่ได้ปึกได้โง่เด้อ เพิ่นคิดเพิ่นตัดสินใจแสดงว่ากำลังของกรรมฐานที่สั่งสมมาประคับประคองอยู่ การที่เพิ่นตัดสินใจถือว่าคิดดีแล้วในแนวของเพิ่น ที่เอามาว่ามานินทากันนั้นเพราะมันขัดใจเรามันเข้ากิเลสเรา ว่ากันคะนองปาก คุณเอ้ย เล่นกันพระเหมือนเล่นกับไฟ ว่าเพิ่นชั่ว ถ้าเพิ่นชั่วเราไม่ได้บุญนะเราเท่าตัว ว่าเพิ่นชั่วเพิ่นบ่ได้ชั่วเราเป็นบาปเราขาดทุน ว่าเพิ่นแล้วมีแต่เท่าทุนกับขาดทุนหากำไรไม่ได้ ลงทุนแบบนี้ไม่งอกไม่เงยนะ เอาใจไปคิดเรื่องคนอื่นมันก็ทุกข์เรื่องคนอื่น แต่เอาใจมาไว้กับสติมาไว้กับเรานี้มันบ่ทุกข์มันมีแต่กำไร เพิ่นไปดีแล้วก็แล้วกันไปคุณเอ้ยทุกคนหันหน้าเดินไปหาพระนิพพานกันหมดนั้นหล่ะ ถึงช้าถึงเร็วขึ้นอยู่กับเราเดินกับเราลงทุนดอก มาพบพระพุทธเจ้า พบพระธรรมคำสั่งสอน พบครูบาอาจารย์พระเจ้าพระสงฆืแล้วอย่าให้ขาดทุนเด้อให้เอากำไรจากเพิ่นเด้อ

 

กราบขออนุญาติพ่อแม่ครูบาอาจารย์นำมาลงไว้ ณ ที่นี้

[mastermind]

ท่านลงทุนสอนธรรมบทสุดท้าย กมฺมุนา วตฺตตีโลโก

[เรื่อยๆเอื่อยๆ]

 

 

เรื่องพระคเวสโกลาสิกขา คนไทยตกใจกันมากเลย แสดงว่าคนไทยไปติดยึดที่ผ้ากาสาวพัสตร์ โบราณเขาบอกว่าพระจะสึก ลูกจะออก ขี้จะแตกห้ามไม่ได้ เพราะฉะนั้นการที่ท่านลาสิกขาเพศไปเนี่ย ก็ดีกว่าอยู่เป็นอลัชชี ตอนนี้มีพระเป็นอลัชชีมากมายครองกาสาวพัสตร์ไว้ ฉะนั้น เมื่อท่านเห็นว่าท่านไม่เหมาะกับกาสาวพัสตร์ท่านก็ออกไปเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ไม่เห็นเป็นเรื่องเสียหายอะไรเลย ในอดีตมีพระอังกฤษรูปหนึ่งบวชมายี่สิบกว่าพรรษา แล้วไปลากับท่านอาจารย์สุเมโธ ท่านก็บอกว่าเนี่ย ฝึกมาตั้งยี่สิบปีแล้ว ออกไปหวังว่าจะเป็นอุบาสกที่ดี ถ้าเข้าใจอย่างนี้กัน เขาเรียกว่า “บวชเรียน” เรียนเพื่อจะเป็นมนุษย์ที่ดี ครองกาสาวพัสตร์เป็นมนุษย์ที่ดีก็ครองอยู่ ถ้านุ่งกางเกงแล้วเป็นมนุษย์ที่ดีก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะฉะนั้นคนไทยควรจะวางท่าทีที่ถูกต้อง เวลาเห็นพระสึกอย่าทำเป็นตื้นเต้นว่าพระรูปนี้เป็นผู้วิเศษสึกไม่ได้ วางทัศนะไม่ถูกต้อง ผมอยากจะเตือนสติคนไทยเท่านี้ 

ส.ศิวรักษ์

[หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม]

หนังสือธรรมะ ของท่านอาจารย์ มิตซูโอะ ยังเป็นหนังสือธรรมะที่ดีอยู่ครับ ท่านได้ศึกษา ปฎิบัติ และได้ถ่ายทอดสิ่งดีๆแก่พุทธศาสนาไว้มากมาย ก่อนที่ท่านจะลาสิขาบท ไป...

 

   สาธุชนทั้งหลาย อย่าได้ยึดติดที่ตัวตน หรือตัวพระสงฆ์ แต่ขอให้ยึดหลักธรรมะ บริสุทธิ์ อากาลิโก

[IFai]

    หลายไปติดยึดกับหนังยุค เพชรา เป็นนางเอก

    *นางเอกต้องซื่อ บริสุทธิ์ จะถูกมือ(ชาย)พระเอก ในตอนจบ เท่านั้น 

    *นางเอกต้องโง่ และทนอึดเหมือนควาย ตัวอิจฉา ว่าที่แม่ยาย กลั่นแกล้ง โขกสับ ก็ยังทนได้ ...

    *พระเอกต้องโง่ ถูกนางอิจฉาปั่นหัวได้ปานจิ้งหรีด หัวอ่อนเชื่อแม่ หมดทุกอย่าง ..

    ***คนดูประเภทนี้ จะดูหนังที่นางเอก(ตัวเรื่อง) จะเสียตัวให้พระเอก ใน24ชม.แรกที่พบกันไม่ได้ 

        จะทนดูนางเอกตบสุดฤทธิ์ กับตัวอิจฉา ..ไม่ได้

        คนดูประเภทนี้ ที่แสดงตัวชัดแจ้ง น่าจะเป็น ระเบียบยัด 

 

    ***คนที่ยังยึดแนวคิดนี้ จะเป็นเดือด เป็นแค้นมาก  กับพระที่บวชมาหลายสิบพรรษา แล้วสึกไปมีเมีย

       เป็นเดือดเป็นแค้น อาจมากกว่าเจอพระที่มีเมียคาผ้าเหลือง ...หรือเปล่า

[chaidan]

ท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร คราวนั้น พระอาจารย์ฝั้นและพระอาจารย์สิงห์อยู่กรุงเทพ ฯ

พระอาจารย์ฝั้นพบสุภาพสตรีท่านหนึ่งนั่งสามล้อสวนทางมา เพียงตาสบตารู้สึกปล๊าปไปทั้งตัวแทบจะวิ่งตามเขาไป? ดีแต่ว่าท่านพระอาจารย์สิงห์ให้สติ

และ แนะนำให้ขังตัวเองไว้ในโบสถ์ พิจารณาดับความรู้สึกนึกคิดในทางโลกด้วยการเจริญอสุภะกระทั่งสามารถตัด อารมณ์ทุรนทุรายได้สำเร็จเด็ดขาด

ซึ่งก็นับว่าเป็นภาวะหนักหนาสาหัสเหลือประมาณ? ในครั้งนั้น ท่านพระอาจารย์ฝั้น พิจารณาลงไปก็ได้ความว่าเนื่องด้วยบุพเพสันนิวาส เคยเป็นคู่กันมาแต่บุพชาติ

 

http://www.watpanonv...9-31&catid=51:4

 

พิจารณาเอาเถิด ครับ

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

http://topicstock.pa...6/Y3236276.html

Jan 16, 2005 – บุพเพสันนิวาสเกิดขึ้นระหว่างพระกับฆราวาสได้หรือเปล่าคะ เป็นไปได้ไหมที่ชาติที่แล้วจะเคยทำบุญร่วมกันมา...แต่เราต้องขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าเรากับหลวงพี่ ...

 

•  ความคิดเห็นที่ 8  
  
  หลังจากได้อ่านข้อเขียนของคุณแล้ว และใช้จิตพิจารณาจิตใจของคุณกับพระ ได้ความว่า คุณเริ่มที่จะรักพระแล้ว และในขณะเดียวกันพระก็สนใจในตัวคุณไม่น้อยเลย ผลลงเอยระหว่างคุณกับพระจะออกมาในทางที่พระจะต้องสึกออกมาเป็นแฟนคุณ จะไม่สามารถบวชและทำกิเลสให้หมดไปได้ในชาตินี้ ในใจพระเองยังไม่มั่นคง 
  
  ในสมัยพุทธกาล พระอานนท์พุทธอนุชา ท่านได้เดินทางไปบิณฑบาตและได้พบกับนางทาสีผู้หนึ่งชื่อ โกกิลา พอได้ยินท่านพูด "ขอให้มีความสุขเถิดน้องหญิง" นางก็เอียงอายและก็ตะลึง ปิดิกับเสียงและรูปงามของท่าน ผู้มีศีลและเกียรติระบือไกล
  
  "ข้าพเจ้ารักท่าน ข้าพเจ้าไม่เคยพบใครดีเท่าท่าน" โกกิลากล่าวหลังจากตามพระอานนท์มาจนถึงวัดเชตวันและหันไปถามนางว่าตามมาทำไม
  
  "ความรักเป็นเหตุให้เกิดทุกข์น้องหญิง คนที่จับไฟจะรู้ไม่รู้ว่าร้อน มันก็ยังร้อนใช่มั๊ย อย่าเล่นกับไฟเลย" 
  
  "น้องหญิงประโยชน์อะไรที่เธอจะมารักอาตมา อาตมารักพระศาสดารักพรหมจรรย์ ให้รักกับสิ่งนี้ทั้งหมดหัวใจแล้ว ไม่มีเนื้อที่จะให้รักกับใครอีก จงกลับไปเสียเถิด" พระอานนท์ตอบ
  
  พระพุทธเจ้าได้ยินพระอานนท์คุยกับผู้หญิงจึงให้นางเข้าเฝ้าพระอานนท์ทูลให้ทรงทราบแล้ว พระพุทธเจ้าจึงถามว่าเธอรักอะไรในอานนท์ นางตอบว่านางรักนัยน์ตา พระองค์จึงตรัสว่า นัยน์ตามีขี้ตา วันนึงก็ฝ้าฟาง นางจึงเปลี่ยนไปรักหู รักจมูก ไม่ว่านางจะเลี่ยงอย่างไร พระองค์ก็ชี้แจงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อันร่างกายนี้เป็นเป็นป่าช้าแห่งซากสัตว์นานาชนิด.......เจ้าของกายจึงต้องชำระล้าง ขัดถูกวันละหลาย ๆ ครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็น.....ผู้ไม่รู้ก็ติดในหีบศพนั้น 
  
  แม้นางเห็นความเป็นจริงแต่นางก็ไม่สามารถข่มความเสน่หาที่มีต่อพระอานนท์ได้ จะทำไฉนหนอจะอยู่ใกล้พระอานนท์ได้
  
  ต่อมานางบวชเป็นภิกษุณีในพระพุทธศาสนาเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้พระอานนท์ นางตั้งใจเรียนศึกษาพระพุทธศาสนาและเป็นที่รักใคร่ในภิกษุณีท่านอื่น ๆ เมื่อนางฟังธรรมที่มีพระอานนท์ให้โอวาทนางก็ยังข่มกิเลสในใจนางไม่ได้เลย
  
  กาสาวพักต์เป็นกำแพงขนาดใหญ่ที่กางกั้นไม่ให้นางเข้าถึงพระอานนท์ นางพยายามสะกดใจ พยายามไม่คิดถึงพระอานนท์แต่นางก็คร่ำครวญถึงพระอานนท์ นี่กระมังความรักคือความร้าย
  
  "น้องหญิงต่อไปเมื่อไม่มีธุระอะไรก็อย่ามาอีก ถ้ามีข้อสงสัยอะไรก็ขอให้สอบถามเมื่ออยู่ในโรงธรรม" พระอานนท์ตอบเมื่อนางชวนภิกษุณีมาเยี่ยม คืนนั้นนางร้องไห้คร่ำครวญที่พระอานนท์ไม่มีความเยื่อใยต่อนางเลย เมื่อก่อนบวชก็เป็นทาสทางกาย แต่ตอนนี้บวชแล้วนางก็เป็นทาสทางใจ 
  
  นางมุ่งสู่โฆสิตาราม โกสัมพีเพื่อให้ห่างไกลพระอานนท์ ตลอดระยะเวลา 3 เดือน จิตของนางเริ่มผ่องใส ปฏิบัติธรรมได้เป็นอย่างดี จนวันนึงพระพุทธองค์เสด็จมายังโกสัมพีพร้อมพระอานนท์ เชื้อรักของนางก็กลับมาอีกครั้งหนึ่งคราวนี้ดูเหมือนจะรุนแรงยิ่งกว่าคราวก่อนเพราะไม่ได้เห็นถึง 3 เดือน นางรีบกลับสู่ห้องของตนด้วยใจปั่นป่วน ไม่มีไฟอะไรร้อนแรงและดับยากยิ่งกว่าไฟรัก
  
  ผู้หญิงลองที่ทุ่มเทความรักให้ใครไปแล้วย่อมยากจะถ่ายถอน อนิจจังโกกิลาแม้รู้ว่าสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ นางก็ยังตัดใจห้ามใจตัวเองไม่ให้รักพระอานนท์ไม่ได้ นางรู้สึกว้าเหว่ นางร้องไห้ ผู้หญิงอย่างโกกิลาเชื่อว่าชีวิตทุ่มให้กับความรัก แต่ผู้ชายนั้นความรักเป็นแค่บางส่วนของชีวิตเท่านั้น เธอตกเป็นทาสของความรักอย่างหมดสิ้นหัวใจ
  
  วันนึงนางตกลงไปในสระต่อหน้าพระอานนท์กับเศรษฐีเจ้าของอาราม แต่ไม่มีใครช่วยเพราะนางเป็นภิกษุณี พระอานนท์ทรงสอบถามว่านางเป็นอะไรหรือไม่ นางก้มหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจที่เกิดเหตุการณีนี้ขึ้น นางรู้สึกว่าอยากให้หกล้มวันละ 5 ครั้งเมื่อรู้ว่าพระอานนท์จะถามเธอด้วยความห่วงใย
  
  นางแสร้งป่วยเพื่อให้พระอานนท์มาแสดงธรรมให้ฟังที่กุฎิ พระอานนท์ได้เล่าประวัติของพระองค์ให้โกกิลาฟัง และกล่าวว่าพระองค์กลัวต่อความรัก ความรักคือความร้าย ยิ่งความรักที่ฉาบทาความเสน่หาแล้ว ยิ่งทุรนทุราย เธออย่าพอใจในเรื่องความรักเลย เพราะรักจะสร้างความหวังอย่าเจิดจ้า และเมื่อหวัง ความผิดหวังก็จะทำร้ายเราตลอดเวลา จงมองดูชีวิตเหมือนคนที่อยู่บนฝั่งมองเกลียวคลื่นฉะนั้น จงยึดธรรมเป็นที่พึ่ง อย่าหวังอย่างอื่นเป็นที่พึ่งเลย....
  
  พระอานนท์ยกความเสียสละของพระบรมศาสดาซึ่งเสียสละความสุขส่วนตัวเพือมาสั่งสอนให้คนปฏิบัติธรรมซึ่งถือเป็นความเสียสละอันยิ่งใหญ่ ...ชี้ให้เห็นความประมาทในการเกิดแล้วเกิดอีก...นางสำนึกตนและประหารกิเลสของตนจนสำเร็จพระอรหันต์ในเวลาต่อมา
  
  พระบรมศาสดาหลังทราบเรื่องทั้งหมดจากพระอานนท์แล้วตรัสว่า "อานนท์ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเธอแล้ว เธอจะไม่ตกต่ำไปกว่านี้อีกแล้ว" 
  
  จากคุณ : sompongy (sompongy)  - [ 16 ม.ค. 48 23:02:50 ]

 

 

[eAT]

ท่านบวชเป็นพระมา 30 กว่าพรรษา ก็แปลว่าท่านได้บำเพ็ญเนกขัมมบารมีได้ถึง 30 กว่าปี

ทำคุณประโยชน์ สั่งสอน เผยแพร่พุทธศาสนาได้ถึง 30 กว่าปี และมีงานสอนบันทึกเสียง, หนังสือ ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาต่ออีก

ท่านสึกไปมีคู่ครอง ก็หมายความว่าท่านเป็นปุถุชน ยังมี โลภ โกรธ หลง

จะบุพเพฯ หรือ กามตัณหา ก็ตามท่านยังละไม่ได้ จะให้ทำยังไง

ไม่ใช่บวชแล้วจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์กันทุกคน 30 กว่าพรรษาไม่เสียเปล่าแน่ ๆ

ใครคิดว่ามีคุณธรรมดีกว่าท่าน ลองทิ้งลูกเมียทรัพย์สมบัติการงานไปบวชสัก 30 ปีดูเถอะ

 

 

ผมว่าเสียเปล่า ถ้าจุดหมายปลายทางชีวิต เพียงเพื่อถ่ายรูปเคลียคลอ

กันอย่างนั้น บวชไปทำไม่ตั้งสามสิบกว่าปี ส่วนลูกศิษย์ตามคำสอนไป

ทั้งๆ ที่คนสอนยังไม่มีปัญญาทำความหลุดพ้นมาสู่ตน ถ้าตามมา 10 ปี

ก็เสียไปทั้ง 10 ปี เสียเวลา เสียเงิน เสียทอง เสียความรู้สึก มาตามคนที่

อายุปาไป 60 ปี แต่ยังทิ้งกามตัณหาไม่ได้สมกับสิ่งที่พูดพร่ำสอนคนอื่น

 

เผลอๆ บางคนอาจเปลี่ยนศาสนา

บางคนอาจไม่นับถือศาสนาอื่นใดอีก

บางคนแคลงใจในคำสอน

 

ถ้าบางคนจะขอทวงเงินทำบุญคืน เพราะคิดว่าให้ "พระ" เป็น "บุญ"

ไม่ใช่ให้คนมัวในกามตัณหากระทั่ง 60 ปียังเลิกไม่ได้ล่ะ

[ตะวัน]

อุปมาเหมือนคู่สามีภรรยาที่อยู่กินกันมา 30 กว่าปี สามีเป็นคนดีมาก มีครอบครัวที่อบอุ่น สอนคนทั่วไปให้ใช้ชีวิตอย่างไรครอบครับถึงจะมีความสุข

ต่อมาเลิกกับภรรยาโดยไม่ทราบสาเหตุ ถัดมาไม่กี่วันประกาศแต่งงานใหม่กับหญิงสาวคนใหม่ ทำให้หนีไม่พ้นข้อสงสัยที่ว่าแล้วไปแอบคบกันตอนไหน

ตอนที่ยังอยู่กินกับภรรยาคนเดิมหรือไม่ หรือพบรักกันหลังจากเลิกกับภรรยาคนเก่า แล้วคำสอนที่ผ่านมายังเชื่อได้รึเปล่า คำถามเกิดขึ้นมากมาย

คนที่เคยนับถือกันมาก็คงทำใจได้ยาก

[เหล่าฮู]

กระทู้แนะนำห้องศาสนา รายละเอียดอื่นด้าน1

 

http://pantip.com/topic/30665207

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

^

^

อันนี้อ่านจากลิงก์คุณปูจิตรกรที่เหล่าฮามาแปะให้ตั้งกะเมื่อวานแล้วละครับ

[เหล่าฮู]

^

^

อันนี้อ่านจากลิงก์คุณปูจิตรกรที่เหล่าฮามาแปะให้ตั้งกะเมื่อวานแล้วละครับ

ผมอยากให้อ่านคอมเม็นด้วย 

[GuoJia]

ออกตัวก่อนว่าไม่เคยฟังธรรมหรือติดตามงานของพระมิตซูโอะมาก่อนเลย เคยได้ยินแต่ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อชา และรุ่น ๆ เดียวกันก็มีพระฝรั่งต่างชาติบวชหลายรูป

 

ขอยกตัวอย่าง พระได้ฌานมีฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้ เหาะ ๆ อยู่ยังล่วงลงพื้น เพราะไม่สำรวมตาไปเห็นสาวเปลือยร่างอาบน้ำตามแม่น้ำลำคลอง (จำรายละเอียดไม่ได้)

แล้วใครจะไปด่าท่านเหรอว่าบวชมาตั้งนาน แถมมีได้อภิญญามีฤทธิ์ ทำไมเห็นสาวเปลือยแค่นี้ทำใจไม่ได้ ล่วงกลางอากาศ ก็เพราะยังไม่หมดกิเลสไง

ออกบวชก็เหมือนรบศึก รบร้อยครั้งพันครั้งหมื่นครั้งแสนครั้ง แพ้ต่อกิเลสทุกครั้ง ก็ต้องรบต่อไปจนกว่าจะชนะ ซึ่งมีเพียงชัยชนะครั้งเดียวคือ บรรลุเป็นพระอรหันต์ จบกิจ เสร็จสิ้น ไม่มีกิจอื่นต้องทำอีก

 

ลูกชาวบ้านบวชก่อนแต่ง บวชให้พ่อแม่เกาะชายผ้าเหลือง บวชตามประเพณี ไม่ได้ทำคุณประโยชน์ต่อพระศาสนามากนัก พอสึกมาเรียกกัน ทิดนั้น ทิดนี่ (ทิด กร่อนมาจาก บัณฑิต)

ถ้าบวชนานหน่อยจบเปรียญธรรม (ชั้นไหนจำไม่ได้) เรียกกันว่า "มหา" สึกออกมาก็ยังเรียกติดปาก "มหา ๆ"

มิตซูโอะ ทำคุณต่อพระศาสนามานาน 30-40 พรรษา พอสึกออกมาไม่เรียกทิด แถมด่าตามหลังอีกด้วย ตอนนี้ร่ำ ๆ จะเป็นคนชั่วคนบาปหยาบช้าทำลายศาสนาพุทธไปแล้ว

อย่างกับคนดูเชียร์กีฬา นักกีฬาเล่นดีฟอร์มดีมาตลอด พอแพ้ครั้งเดียว บอกเล่นผิดฟอร์ม ล้มบอล ล้มมวย รับเงินนักพนัน ด่าแม่มัน ให้มันไปสาบานที่วัดพระแก้วโน้น

หรือเหมือนกับพนักงานดีเด่นทำงานเพื่อบริษัทมา 40 ปี ไม่มีทุจริต พอวันลาออกเท่านั้นแหละ เจ้าของบริษัทว่า ลาออกอย่างนี้มันทำลายบริษัทกันนี่หว่า จะให้ดีต้องอยู่ทำงานจนตายคาบริษัทซิ ทำอย่างนี้ไม่ถูก

 

ขอนำส่วนหนึ่งของ มัณทัพยะชาดก http://www.siamsouth...p?topic=28855.0

 

"ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส ในการประพฤติพรหมจรรย์อยู่เพียงแค่ 7 วันเท่านั้น หลังจากนั้นมิได้ยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์เลย แต่ทนประพฤติพรหมจรรย์ถึง 50 ปี ด้วยสัจจะวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่กุมาร ให้หายจากพิษงูด้วยเถิด" ทีปายนดาบส กล่าวสัจจะวาจาเพื่อช่วยเด็กให้พ้นจากพิษงู

ทีปายนดาบส เป็นใคร ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ผู้ได้รับการพยากรณ์ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า(องค์ปัจจุบันของเรา) แต่ยังมีเสี้ยวหนึ่ง (50 ปี) ของการบำเพ็ญบารมีที่เบื่อหน่ายต่อการบวช แต่ท่านไม่ได้ออกมาครองเรือน

ทีปายนดาบส ท่านกล่าวว่า "คนเขามักติเตียนว่า ผู้ที่ออกบวชด้วยศรัทธาแล้วสึก หรือกลับไปเข้าสู่เรือนนั้นเป็นคนโลเล กลับกลอก เรารังเกียจคำนี้ จึงทนประพฤติพรหมจรรย์ นี่เป็นฐานะที่วิญญูชนสรรเสริญ"

 

ทิดมิตซูโอะ โดนชาวบ้านติเตียนเหมือนกับท่านดาบสกล่าวไว้นั่นแล 

ใครจะติเตียนก็ช่าง ผมพิจารณาตัวเองแล้ว คุณธรรมความดีในชีวิตที่ทำผ่านมาสู้ทิดมิตซูโอะไม่ได้ ขอผ่าน