Jump to content


Photo
- - - - -

จวกมิตซูโอะทำเสีย ชาติพระ พระพยอมสวดยับ


  • Please log in to reply
65 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 14:44

อย่าเว่อร์เกินไป

ตัดขาดชื่อเสียงลาภยศแล้วทำไมไม่ทิ้งเงินที่ได้รับตอนเป็นพระไปให้วัดให้หมดหล่ะครับ ตอนมาก็มาตัวเปล่า ตอนกลับไปก็ควรกลับไปตัวเปล่า จึงจะเรียกว่าตัดขาดชื่อเสียงลาภยศ

 

 

สมัครเข้ามาโจมตี แล้วแมร่มก็เปิดตูดไป

แมนมาก.... :angry:


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#52 จีรนุช

จีรนุช

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,934 posts

ตอบ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:33

ก็เมือก่อนเคยเป็นพระ  คนก็ย่อมมีเปลียนเเปลงบ้างอะไรบ้าง มันเรื่องปกติของโลก  ถ้าสงสัยว่าเขาทำไรผิด ก็ไปฟ้องศาลได้  ประเทศนี้ประชาธิปไตย


รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ

เอียนวะ   เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง


#53 คนสับปรับ

คนสับปรับ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,410 posts

ตอบ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 17:29

แล้วท่านล่ะ บวชเพราะอะไร หรือว่า....

1 อกหัก

2 หลักลอย

3 คอยงาน

4 สังขารเสือม

5 เลื่อมใส

6 ไข่ตาย



#54 OHM_DGO

OHM_DGO

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 703 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 00:26

ไม่เกี่ยวกับกระทู้ที่โพสเท่าไหร่ แต่มันเกี่ยวกับพระแล้วหาที่ลงไม่ได้
มันขำดี ขอลงทู้นี้ล่ะกัน ><"

999334_192774614216190_1037266101_n.jpg

https://www.facebook...&type=1

#55 yenmanovic

yenmanovic

    สมาชิกรากหญ้า

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,418 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 00:32

พอดีอ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกปลาบปลื้มในคำสอนของสมีพยอมมากๆ

 

สมี พยอมด่าอดีตพระมิตซูโอะว่า"ถ้าสึกไป แล้วไปถ่ายรูปกับสีกาอย่างนี้ ถ้าเป็นอาตมาจะพูดอย่างลูกผู้ชายชาติพระเลยว่าอาตมาเสี้ยนกับบุพเพสันนิวาส"

 

เอางี้ละกันนะ จะจัดให้เบาๆ

 

คือ จะดีจะเลวยังไง อย่างน้อยเขาก็สึกออกมาแล้วไปทำเรื่องทางโลกของเขา แต่หมาที่ไหนไม่รู้ มุดหัวอยู่ในผ้าเหลือง เอาผ้าเหลืองบังหน้า เล่นการเมืองสนองตัณหาตัวเอง พอตอนหลังหาเงินไม่ได้ เสืือกออกมาโอดครวญ ผมถามว่า ทีแบบนี้ ความเป็น"ลูกผู้ชายชาติพระ" หายไปไหน หรือจะเป็นแบบญาติโยมเสื้อแดงของท่าน ที่ด่าและทวงถามความเป็นลูกผู้ชายกับคนอื่นได้ แต่ตัวเองกลับทำตัวหน้้าตัวเมียมาตลอด

 

ก่อนจะอ้าปากไป ด่าคนอื่นอะ เอาตัวให้รอดก่อนนะไอ้สมี วันนี้จะไม่มีแดกอยู่แล้วเพราะเขารู้สันดาาน กลับไปนอนกอดหมาที่วัดไป ไอ้พระหน้้าตัวเมีีย


รักเสื้อแดง แช่งอำมาตย์ อาฆาตม๊ากนาซี ขอเชิญมาร่วมกันที่นี่เลย!!!!!!

 

https://www.facebook.../KawaiiRedshirt


#56 SPDZ

SPDZ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,672 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 01:26

ไม่ชอบใจยอมแดงมานานแล้ว
แต่อ่านจบ ยอมรับว่าหลายส่วนตรงใจมากๆ

ตอนแรกคิดแบบเนี้ยเพราะไม่เชื่อว่าจะโดนวางยา คิดว่าเพราะใจแตกด้วยไร้เดียงสาทางโลก
แต่ตอนนี้ชักคล้อยตามไปทางเรื่องวางยา สงสารมากถ้าโดนวางยาจริงๆ
มนุษย์เงินเดือนจนๆที่ไม่พอใจรัฐบาลเสื้อแดงที่แสนชั่วจะทำอะไรได้มากกว่าวาดการ์ตูนระบายความคับแค้นใจhttp://webboard.seri...ยเว็บบอร์ดการ์/ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

#57 prisonbreak

prisonbreak

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,138 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 02:04

ผมว่า ถ้าเขารู้ตัวว่าไม่สามารถครองสมณะได้ ก็ปล่อยเขาไป

แต่ถ้าอยู่ในสมณะ แต่ทำตัวเยี่ยงฆราวาส หรือห่มเหลืองเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ นี่สิควรประนาม

 

เหมือนที่พระพยอมพูด

 

"แต่ว่าส่วนดีของท่านคือเมื่อรู้ว่าอยู่ไม่ได้เเล้วก็สึก ดีกว่าพวกอีแอบทั้งหลายที่ใช้ผ้าเหลืองใฝ่ต่ำ ทำเรื่องเลวร้ายและไม่ยอมสึก พวกนั้นเลวกว่าอดีตพระมิตซูโอะเยอะ"



#58 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 02:09

ไม่ชอบใจยอมแดงมานานแล้ว
แต่อ่านจบ ยอมรับว่าหลายส่วนตรงใจมากๆ

ตอนแรกคิดแบบเนี้ยเพราะไม่เชื่อว่าจะโดนวางยา คิดว่าเพราะใจแตกด้วยไร้เดียงสาทางโลก
แต่ตอนนี้ชักคล้อยตามไปทางเรื่องวางยา สงสารมากถ้าโดนวางยาจริงๆ

 

 

จากที่ตามข่าวมาตลอด  หากเรื่องเล่าของอดีตศิษย์เป็นจริง ก็น่าสงสารท่าน

สงสารครอบครัวฝ่ายหญิงด้วย เพราะจากที่เขียนเล่า ครอบครัวฝ่ายหญิงก็ร้อนใจ สึกพระนี่เรื่องใหญ่สำหรับครอบครัวเลยนะ

ครอบครัวห้ามก็แล้ว ขอร้องแล้ว ฝ่ายหญิงไม่ฟัง จะเอาให้ได้

 

คือส่วนตัวผมเชื่อว่าท่านตกอยู่ในห้วงรักจริงๆ  แต่ก็เกิดจากการวางแผนอย่างแยบยลด้วยที่จะ "เอาให้ได้"

เป็นการจู่โจมตอนที่คนเราอ่อนแอสุดๆ คือช่วงแก่และป่วย มันก็ทำให้ปณิธานที่จะอยู่กับพระศาสนา

ต้องพ่ายแพ้ต่อความอ่อนแอที่ทวีกำลังมากขึ้นๆจนต้านไม่ไหว

 

หากเรื่องเล่านี้เป็นจริง  พุทธศาสนิกชนก็ไม่น่าจะวางเฉย ปล่อยอดีตพระท่านไปตกระกำลำบากนะครับ

เพราะจะเหมือนกรณีหมอประกิตเผ่ากับเปรมิกาเลย

 

ที่เรื่องพลิกจากครอบครัวและภรรยาเป็นพวกตัวร้าย จ้องจะฮุบสมบัติหมอเผ่า

กลายเป็นสาวน้อยผู้แสนดีวางแผนหลอกหมอเผ่าซะเกือบหมดตัว


Edited by ผึ้งน้อย For Vendetta, 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 02:10.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#59 ypk

ypk

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,173 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:21

เหอะ เหอะ  ผมกลับมองว่า ลูกศิษย์ทำไม่ถูกนะ ไม่รู้ว่าหวังดีประสงค์ร้ายหรือเปล่า

ถ้าเคารพนับถือจริง ทำแบบนี้ได้ยังไง ยิ่งทำยิ่งเข้าตัว อาจารย์ของเขาเองนั่นแหละ

 

ถ้าเขามีหลักฐานชัดเจนก็ไม่ควรมาเผยแพร่ข่าวแบบนี้ ผมคิดว่าเขาและสังคมบางส่วน

อาจระแวงในพฤติกรรมของผู้หญิง แต่การกระทำของเขามันทำให้อาจารย์ของเขา เสื่อม

ไปจากความดีที่เคยสะสะไว้มานาน เพราะถ้ามันไม่เป็นจริงอย่างที่เขาเอามาพูด อาจารย์เขาก็

เสียไปแล้ว

 

ถ้าบอกว่าโดนวางยา ถามว่า เพื่ออะไรครับ ต้องการทรัพย์สินหรือ แล้วอาจารย์ของเขา

มีทรัพย์สินอะไร เป็นพระนะครับ ถ้ามีทรัพย์สินก็แสดงว่าคุณกำลังจะบอกว่าอาจารย์คุณ

ยักยอกทรัพย์สินไปเป็นส่วนตัวหรือไง แต่ถ้าผู้หญิงมาหลงชอบพระหัวปักหัวปัมถึงขั้น

วางยาพระให้หลงใหล เราก็ต้องมองในโลกของความเป็นจริงว่า ยาประเภทนี้มันมีอยู่ไหม

ถ้าจะมองในแง่ไสยศาสตร์ ก็คงแล้วแต่ความเชื่อ แต่กับพระที่บวชมาสามสิบกว่าปีมีคุณธรรม

ดีขนาดนี้ คิดว่าไสยศาสตร์จะทำอะไรท่านได้ไหมครับ แล้วรูปที่ผู้หญิงโพสต์ลงในเฟสบุ๊คล่ะ

มันเหมือนคนถูกวางยาไหม ลูกศิษย์เขาพิสูจน์อะไรได้มากกว่านี้หรือเปล่า แต่ผมก็มองไม่

เห็นว่าเขาจะพิสูจน์ไปเพื่ออะไร เขาอาจไม่ชอบพฤติกรรมของผู้หญิง แล้วเขาคิดหรือเปล่าว่า

ถ้าผู้หญิงมีพฤติกรรมไม่ดีมาก่อน ก็คงไม่มีอะไรเสียไปมากกว่านี้แล้ว แต่อาจารย์ของเขาที่มี

พฤติกรรมดีมาก่อน ต้องมาเสียเพราะเขานี่ มันคุ้มหรือเปล่า

 

ครอบครัวของผู้หญิงไม่สบายใจ เดือดร้อนใจที่ผู้หญิงไปชอบพระ มันไม่เห็นแปลกเลยครับ

เป็นครอบครัวไหน ๆ เจอแบบนี้ มันก็ไม่สบายใจทั้งนั้นแหละ คงจะยกเว้นครอบครัวที่ไม่ได้

นับถือพุทธนั้น แหละถึงจะไม่รู้หนาวรู้ร้อน

 

ผมว่าเรื่องนี้ต้องหนักแน่นนะครับ เพราะลูกศิษย์เขาเขียนมา มันก็เป็นเรื่องที่เขาคิดเอาเองก็เยอะ



#60 Lincoln16

Lincoln16

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 428 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:56

พระยอมทั่นพูดเช่นนั้น ก็พลันนึกถึงไอ้คำขึ้นมาทันใด

ทับสีกาทั้ง 8 ทั้งที่ยังครองผ้าเหลืองอยู่

แม๋ !!! พระยอมทั่นคงจะเสียดายที่มิได้เป็นเช่นนั้นหรือไร


People shouldn't be afraid of their government.

Governments should be afraid of their people

 


#61 พงษ์เพชร

พงษ์เพชร

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 834 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 13:35

ท่านยอม ก็ระวังตัวไว้ให้ตลอดละกัน

หัม  ยังอยู่นะ... ;)



#62 tu249cm

tu249cm

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,495 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 14:19

ที่ท่านพยอมถืออยู่คือวัตถุมงคลรุ่นเชียร์แล้วรวยใช่ไหมเจ้าคะ


Edited by tu249cm, 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 14:21.

“People shouldn't be afraid of their government. Governments should be afraid of their people.”


#63 น้ำหวาน

น้ำหวาน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,425 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 20:51

ลูกผู้ชายชาติพระจริง เขาจะไม่เหยียบย้ำกันครับ สึกแล้วก็คือสึกถถือว่าหมดหน้าที่จากความเป็นพระแล้ว 


นักการเมืองต้องกราบกรูซิ ไม่ใช่ให้กรูไปกราบนักการเมือง

#64 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 22:24

บวช ก่อนเบียด หรือบวช เพื่อจะได้เบียด เห็นแฟนสาว ก็ไปหา ไปปรนนิบัติ แบบนี้ไม่ผิดหรือครับ ??? 



#65 zeedzaad

zeedzaad

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,963 posts

ตอบ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 23:03

เรื่องของบุพเพสันนิวาส
ถาม: (คุยเรื่องคู่ครอง )

ตอบ: เรื่องของเนื้อคู่นี้ ถ้าเป็นบุพเพสันนิวาส คือเคยเนื่องกันมาแต่ชาติก่อนจริงๆ พบเจอหน้ามันเลี่ยงกันไม่พ้นหรอก ยิ่งเกิดมากเท่าไรความผูกพันก็จะมากเท่านั้น อาตมาสมัยบวชใหม่ๆ เจอหน้าผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาก็ไม่ได้อยู่ในสเป๊ก รูปร่างก็ไม่ได้อยู่ในสเป๊ก แต่มีแรงดึงดูดมหาศาลเลย ชนิดเราทำอะไรไม่ถูกเลยนะ เห็นคราวนี้ โอ้ย ! ตายละวา ...เจ้าหนี้ตามทวง ความรู้สึกมันว่างั้น แต่คราวนี้ว่า เราไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองไปให้หลบรอดไปได้มากกว่าสติสัมปะชัญญะที่พอมีอยู่เท่านั้น แต่สติที่มีอยู่มันหายไปเกินค่อนหนึ่ง สมาธิก็หายไปเหมือนกัน ทำวัตรก็มองหน้า นั่งกรรมฐานแทนที่จะหลับตาก็ลืมตามองอยู่นั่น ความรู้สึกบอกว่า ถ้าพูดกับเขาแม้แต่คำเดียว เราเสร็จแน่ แล้วยายนั่นเขาก็รู้เหมือนกัน ถึงเวลาก็ต้องแถเข้าไปใกล้ๆ พอถึงเวลาเขาพูดอะไร ความรู้สึกเราบอกว่า ถ้าพูดแม้แต่คำเดียวเราเสร็จแน่ ยอมเสียมารยาทคุยกับคนอื่น พอเขาเสียบเข้ามา เอ่ยปากถามปุ๊บ เราเดินหนีไปเลย หลบอยู่ ๓-๔ วัน เห็นท่าไม่รอดแน่ พอดีหลวงพ่อสั่งให้ไปประจำอยู่ที่หน้าตึกของท่าน ตรงจุดนั้น ถ้าไม่มีธุระจริงๆ ห้ามเข้า ก็เป็นอันว่ารอดไป ไม่อย่างนั้นเสร็จ เพราะว่าพวกนี้ ถ้าช่วงวาระเวลาของเขามาถึง บุญกรรมที่มันส่งมาถึงจะทำให้เราอยู่ไม่ได้ แต่ถ้าเราสามารถตื้อให้พ้นช่วงนั้นไปได้ มันก็พ้นไปเลย จนกว่ามันจะมาบรรจบครบรอบอีกครั้งหนึ่ง

ถาม: แล้วเขาจะไปมีคู่กับผู้อื่น ?

ตอบ: มันจะไปมี ก็ปล่อยมันไป ยิ่งมีเร็วเท่าไรยิ่งดี หลวงปู่ฝั้น ครูบาอาจารย์ที่เคารพท่านมากที่สุดองค์หนึ่งนะ ท่านบอกว่าท่านธุดงค์ไป ท่านจะข้ามลำน้ำ มีเรือจ้างอยู่สองแม่ลูก พอเห็นหน้าลูกสาวปุ๊บหลวงปู่บอกว่าใจหายแว๊บเลย หน้าอย่างนี้ใช่เลยล่ะ เสร็จแล้วท่านจะทำอย่างไร ? ท่านก็พอขึ้นเรือได้ บอกขอบอกขอบใจเสร็จก็รีบเดิน เดินอย่างไม่มีสติ ภาวนามันหายหมดเลย เดินไปจนกระทั่งค่ำก็ปักกลดปรากฏว่าเขาตามมา แม่ลูกตามมา แม่มาถึงก็บรรยาย ตัวเองมีนากี่ไร่มีควายกี่ตัว เฒ่าชะแรแก่ชราป่านนี้แล้ว มีลูกสาวคนเดียว ยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝาเลย เห็นท่านนี้แหละพอจะเป็นที่พึ่งได้ ถ้าหากว่าท่านสึกหาลาเพศไปก็พร้อมจะยกสมบัติและลูกสาวให้ด้วย หลวงปู่ท่านบอกว่าสติสตังที่จะต่อต้านสักนิดหนึ่งก็ไม่มี ได้แต่เออ...ไปตามเรื่อง บอกว่าตอนนี้ยังเป็นพระอยู่ ถ้าหากสึกแล้วเราค่อยพูดกันอีกทีหนึ่ง เขาบอกว่าพรุ่งนี้เขาจะมาเอาคำตอบ แล้วก็กลับบ้าน หลวงปู่ท่านยอมเสียสัจจะถอนกลดหนีคืนนั้นเลย ปกติพระธุดงค์ถ้าไม่สว่างห้ามถอน หลวงปู่ท่านบอกว่ายอมเสียสัจจะถอนกลดหนีคืนนั้น ธุดงค์ข้ามไป ๓ จังหวัด มีปัญญาให้มันตามมา ถ้าตามมาก็จะยอมรับมันล่ะ แต่ระหว่างที่เดินอยู่นั่นเห็นแต่หน้าลอยอยู่ ท่านบอกว่า เห็นแต่หน้ายายหน้าใบโพธิ์ คือหน้าเป็นรูปหัวใจ เห็นแต่หน้ายายหน้าใบโพธิ์ ตามอยู่นั่นแหละ โอ้โห ! ความผูกพันแรงขนาดนั้น

ถาม: แล้วตัวผู้หญิง เขาก็ผูกพันด้วยไหมครับ ต้องทั้งสองคนไหมครับ ?

ตอบ: เขาเห็นปุ๊บเขารู้เลย พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ครูบาอาจารย์ใหญ่ สาย หลวงปู่มั่น ท่านบอกว่าเห็นหน้าปุ๊บผู้หญิงหงายหลังสลบ ตัวท่านเองก็เข่าอ่อนกองอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน คิดดูว่ามันแรงขนาดไหน นั่นแสดงว่าใช่แน่ๆ อย่างไรก็หนีไม่พ้น

หลวงปู่สิงห์ ท่านก็เจ็บปวดยิ่งกว่านั้นอีก พ่อแม่เขามาบอกว่าขอให้สึกไปแต่งงาน ท่านบอกก็ได้ แต่ต้องทำที่ต้องการนะ อันดับแรกให้สร้างปราสาทลอยอยู่กลางท้องฟ้า เอาไว้เป็นเรือนหอ อันดับที่สองให้หายาอะไรก็ได้ที่กินแล้วไม่แก่ไม่เฒ่า ไม่ตาย โอ้โห ! สิ่งที่ท่านยื่นมาทั้งนั้นนี่นิพพานทั้งหมดเลย ไม่มีที่อื่นนี่ บอกถ้าหาให้ไม่ได้ ไม่แต่ง เอากับท่านสิ ก็คือท่านรู้เสียแล้วว่านิพพานเป็นอย่างไร ในเมื่อรู้แล้วก็พยายามจะไปให้ได้ เขาก็เลยขวาง ก็เลยยื่นข้อเสนอเสียเลย มีปัญญาหามาได้ ก็ยอมแต่งเหมือนกัน

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เรียกว่าปรมาจารย์ใหญ่ของสายกองทัพธรรมเหมือนกัน ท่านบอกว่า ไปเยี่ยมเขา ด้วยประเภทที่เรียกว่าจิตห่วงใยตามปกติ เห็นว่าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ชวนเด็กวัดไปด้วย เจ้าเด็กวัดระยำเสือกหลับ อาจารย์นั่งมองอยู่ สาวเจ้าก็ตาหวานขึ้นมาเรื่อยๆ ท่านก็บอกว่าสติสตังมันไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัว เหงื่อกาฬแตกพลั่ก ก็เลยต้องบอกลา ปลุกเด็กแล้วรีบกลับเลย ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ไปอีกเลย ถ้าคนนี้มาก็บอกเขาด้วยว่าไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นก็เสร็จ น่ากลัวขนาดไหน ?

ถาม: (คุยเรื่องคู่ครอง)

ตอบ: มันคล้ายๆ กับว่า ถ้าวาระและเวลามาถึง มันจะโคจรเข้ามาชนกันเอง อันนี้เป็นแรงกรรมส่ง บุญบาปที่เคยทำร่วมกันมาจะส่งผลเข้ามา เมื่อส่งผลมาถึง คราวนี้ก็อยู่ที่ว่ารักษาตัวรอดไหม และถ้าหากว่าพ้นจากคนนี้ไปแล้ว เดี๋ยวคนใหม่ก็เข้ามาอีก เราไม่ได้เกิดชาติเดียวนะ ในเมื่อไม่ได้เกิดชาติเดียว เนื้อคู่มันก็มีหลายคนไปด้วย คนไหนที่เกิดร่วมกับเรามากชาติที่สุดก็มีอิทธิพลต่อเรามากที่สุด คนไหนเกิดน้อยชาติหน่อย ก็อิทธิพลน้อยหน่อย

สมัยหลวงพ่อบวชกับหลวงปู่ปาน มีพระอยู่องค์หนึ่งท่านได้อภิญญาและก็ได้ทิพจักขุญาณแจ่มใสมาก ท่านจะบอกเลยว่าวันนั้นเวลานั้น ถ้ามีผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างอย่างนี้ แต่งตัวอย่างนี้มา ผมต้องสึกนะ ก็จริงๆ ถึงเวลาต้องสึกไปอยู่กินกับเขา แต่คราวนี้ท่านมีอภิญญาอยู่ ก็พยายามรวบรวมกำลังของอภิญญาใช้ในการดูหมอ ใช้ในการรักษาโรคบ้าง หาเงินให้เขาก้อนหนึ่ง ไม่ใช่น้อยๆ นะ หลวงพ่อบอกประมาณ ๒๐,๐๐๐ บาท ของสมัยนั้น หือ...สมัยนี้ ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ยังจะน้อยกว่าล่ะมั้ง ? อย่าลืมว่าสมัยนั้นก๋วยเตี๋ยว ๒ ชาม ๕ สตางค์ เท่ากับ ๔๐ บาท สมัยนี้ ๕๐ สตางค์ ก็ ๔๐๐ บาท บาทหนึ่งก็แปดร้อยนั่นแหละ เสร็จแล้วท่านก็กลับมาบวชใหม่ แล้วก็บอกไว้อีกว่าวันนั้นเวลานั้น ถ้ามีผู้หญิงหน้าตาอย่างนั้นอย่างนั้นมา ท่านจะต้องสึก แล้วก็สึกอีก สึกอยู่อย่างนั้นแหละ ๔ เที่ยว ๕ เที่ยว

จนกระทั่งครั้งสุดท้าย พอกลับเข้ามาบวชก็ลาหลวงปู่เข้าป่าเลย หลวงพ่อก็ย่องไปถามว่า ทำไมงวดนี้ไม่อยู่แล้วหรือ ? ท่านบอกว่าหมดหนี้แล้ว ไปแล้ว เผ่นเข้ามาแล้วสบายใจ เพราะว่าของท่านได้อภิญญาอยู่แล้ว พอเข้ามาอยู่ในร่มกาสาวพักตร์รักษาศีลบริสุทธิ์แป๊บเดียว ก็ได้กำลังอภิญญาเต็มคืนมา ไม่เหมือนตอนเป็นฆราวาส มันโดนจำกัดให้ใช้ได้น้อย ท่านรู้ขนาดนั้นยังต้องสึกเลย อาตมาเองยังรอว่า รายต่อไปคือใคร มาจะด่าให้กระจายเลย ถึงเวลาอ้าปากไม่ขึ้น ประมาทไม่ได้ อย่าคิดว่าตัวเองแก่แล้ว

หลวงพ่อท่านสมัยก่อนก็อายุประมาณนี้แหละ ท่านบอกว่า โอ้โห !....แก่จะตายชักอยู่แล้ว เด็กๆ มันเรียน ม. ๕ ม. ๖ อาชีวะบ้าง อะไรบ้าง มาถึงก็ประจ๋อ ประแจ๋เต็มกุฏิไปหมด แล้วหลวงพ่อก็ไม่มีทีท่าจะเล่นด้วย ไปๆ มาๆ ก็ประเภทว่าฉันไม่เชื่อหลวงน้าแล้วล่ะ ทำท่าเหมือนอยากจะแต่งงานด้วยแล้วอยู่ๆ ก็ลืมไปเฉยๆ อะไรอย่างนั้น หลวงพ่อก็นึกได้แต่เวทนาอยู่ในใจไม่รู้จะช่วยมันอย่างไรวะ ฟังดูในปฏิปทาท่านผู้เฒ่าว่าหลวงพ่อท่านโดนมาขนาดไหน บางอย่างท่านเล่าไว้นิดเดียว แต่ถ้าเรามีประสบการณ์ก็จะรู้เลยว่า นิดเดียวของท่าน กว่าจะผ่านได้ เลือดตาแทบกระเด็น

ถาม: (คุยเรื่องคู่ครอง)

ตอบ: พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ไม่ว่าท่านจะหนีไปซอกเขา ไปลำห้วย ในกลีบเมฆ ในถ้ำ ในก้นมหาสมุทรที่ใดก็ตาม ไม่สามารถจะหนีกรรมได้พ้น คุณทำไว้เอง ไม่ต้องไปกลัวมัน ถ้าตั้งใจหนีจริงๆ หนีพ้น อาตมาอย่างน้อยก็พ้นมาหลายยกแล้ว มันจะมีอีกสักยกสองยกก็เชื่อว่าน่าจะพ้นนะ จำเอาไว้อย่ายื่นหน้าไปให้เขาตบหน้าก็พอ ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก

ถาม: (คุยเรื่องคู่ครอง)

ตอบ: คือมันน่ากลัวมาก มันไม่ใช่ขึ้นแค่นั้นลงแค่นั้น เพราะว่าเราพอถึงเวลาแต่งงานไปปุ๊บ ไหนจะตัวเขา ไหนจะพ่อแม่พี่น้องของเขา แล้วถึงเวลาลูกอีก หลานอีก ตายล่ะหวา ถึงบอกว่าบางทีก็พูดกับพระว่าตอนนี้นะต่อให้น้องป๊อบมาคุกเข่าต่อหน้าว่า หลวงพี่เจ้าขาสึกไปแต่งกับหนูเหอะ ไม่กล้าไปเลย กลัว จริงๆ เอ้อ... มันอธิบายเป็นคำพูดได้ แต่ถ้าเห็นนี่ เห็นเลยว่าน่ากลัวจริงๆ ไม่มีจุดลงท้ายเลย มีแต่ยาวไปเรื่อย ไปเรื่อย

ถาม: (คุยเรื่องคู่ครอง)

ตอบ: ไม่ต้องโทษใคร โทษตัวเอง มันแปลกอยู่อย่าง ตอนบวชอยู่มันดูดีไปหมด ก็เลยกลายเป็นว่าถ้าหากว่าสึกไปก่อน เขาก็ไม่โอเคเหมือนกันยุ่งเป็นบ้าเลย ที่ขำๆ ก็เคยถามบางคนนะ ผู้ชายเยอะแยะ ทำไมต้องมาแถววัดด้วยวะ คือเราปากเสียว่าตรงๆ อยู่แล้วใช่ไหม เขาเองก็แน่เหมือนกัน เขาว่าในวัดแหละดีไม่มีเอดส์ ก็บอก เออ....ถ้าวันไหนเจอเอดส์แล้วจะรู้




สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนสิงหาคม ๒๕๔๕
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


http://board.palungjit.com/f14/เรื่องของบุพเพสันนิวาส-490451.html
“A fool's brain digests philosophy into folly, science into superstition, and art into pedantry. Hence University education. ”George Bernard Shaw

#66 ฟังทั้งสองฝ่าย

ฟังทั้งสองฝ่าย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,261 posts

ตอบ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 01:33

ถ้าคนญี่ปุ่นคนนี้ตอนบวชมีความรู้สึกดีกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดศีลธรรมทางศาสนา ก็ไม่เห็นว่าจะผิดตรงไหน (แต่ถ้าแบบที่เป็นข่าวต่างๆในการมั่วสีกา อย่างนั้นน่าจะต่อว่ากัน จับสึกไป)  และถ้าไม่ผิด แต่ ตัวคนญี่ปุ่นคนนี้ รู้ตัวว่า ไม่สามารถละกิเลสทางด้านนี้ได้ ก็สึกไป ซึ่งก็จะไม่ทำให้เสื่อมต่อศีลธรรมศาสนา 
มันเป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ เพราะทางศาสนาผมไม่ลึกซึ้งอะไรมากมาย






ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน