มีข่าวดีมาบอก...
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2556
ที่มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) มีการเสวนาสาธารณะ เรื่อง "คิดใหม่ระบบหลักประกันสุขภาพของไทย" โดยนพ.ภูษิต ประคองสาย ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ(IHPP) กล่าวตอนหนึ่งว่า การคิดใหม่ในเรื่องระบบประกันสุขภาพของไทยอาจเน้นใน 3 เรื่องหลัก (1 ในนั้น) คือ ควรศึกษาความเป็นได้ในการแสวงหาแหล่งการคลังสุขภาพอื่นๆเพื่อใช้ในระบบหลักประกันสุขภาพ เช่นเดียวกับภาษีทั่วไปที่เป็นแหล่งการคลังสำคัญของระบบประกันสุขภาพของประเทศไทยในปัจจุบัน อาทิ การเก็บภาษีธุรกรรมจาตลาดหลักทรัพย์ การเก็บภาษีจากอาหารที่ทำลายสุขภาพ เช่น น้ำอัดลมหรือฟาสต์ฟู้ด นอกจากนี้ อาจต้องทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการเก็บภาษีจากการเดินทางโดยเครื่องบิน หรือการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือ โทรคมนาคม โดยเป็นการเก็บจากผู้ประกอบกิจการไม่ใช่ผู้ใช้บริการ
"การที่ต้องแสวงหาแหล่งคลังใหม่ๆ ในเรื่องของการเก็บภาษีจากส่วนต่างๆนั้น ควรมีการระบุให้ชัดเจนว่านำมาใช้ในระบบหลักประกันสุขภาพ เหมือนกับที่มีการระบุว่านำภาษีเหล้า บุหรี่มาใช้เป็นกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ แทนที่จะใช้แหล่งเงินจากภาษีทั่วไปเพียวอย่างเดียว เพื่อที่ในอนาคตหากมีวิกฤติเศรษฐกิจทีมีโอกาสเกิดขึ้นได้หรือรายได้ของรัฐไม่เพียงพอจะได้ไม่ต้องเกิดปัญหากับการคลังของระบบหลักประกันสุขภาพ"นพ.ภูษิตกล่าว
ช่วงนี้รัฐบาลกำลังถังแตกกลัวมันบ้าจี้หน้ามืดเก็บภาษีเพิ่มจริงล่ะกรรม
จะมีหลักประกันอะไรที่จะเชื่อได้ว่าผู้ประกอบการจะไม่หาทางมาเก็บต่อจากผู้บริโภค
ฟาสต์ฟู๊ดก็มีแต่คนจนกินเท่านั้นคนรวยไม่กินหรอกอาหารจานด่วน
ตอนนี้ฟาสต์ฟุ๊ดในห้างก็ 45-50 แล้วถ้าเก็บภาษีเพิ่มไม่ 70 - 80 เลยเหรอ นํ้าอีกขวด 100 พอดี
อีกหน่อยออกจากบ้านไปใหนต้องห่อข้าวใส่ปิ่นโตไปกิน กิน 2 มื้อ 200 ค่าแรง 300 หักค่ารถอีก 40 - 50
เหลือ 50 เอาไว้ซื้อยาแก้ปวดหัวกิน
สุดท้ายก็หาเรื่องมาบีบคอเอาเงินกับประชาชนแบบเราๆ
Edited by Paradon, 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 18:21.