543 replies to this topic

[55555]

อ่านกันหน่อยนะ คนที่จะให้นำสืบน่ะ  มันจบไปแล้วหล่ะ

 

 

http://www.khaosod.c...EY3hNamN4T0E9PQ== 

ศาลยกฟ้อง‘จตุพร’หมิ่น‘มาร์ค’หนีทหาร

 

 

 

 

 

 

ของเอ็งของปลอมว่ะนังแต๋ม....

 

เอานี้่ไปอ่านจะได้หายโง่..

 

 

 

 

ซึ่งขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ความประพฤติรวมถึงประวัติชีวิตความเป็นมาตามสมควร เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนจำเลยเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน จึงเป็นปกติที่จำเลยต้องตรวจสอบเรื่องราวฝ่ายรัฐบาลและตัวโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิจะตรวจสอบแสดงความเห็นโดยสุจริต เพราะหากเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย ย่อมแสดงว่าโจทก์จงใจประพฤติตนฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะขาดคุณสมบัติเป็นส.ส.และนายกรัฐมนตรีได้ จำเลยซึ่งมีสิทธิวิจารณ์เรื่องของโจทก์ได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยสร้างขึ้นมาเอง โดยจำเลยได้ตั้งคำถามต่อโจทก์ก่อนจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่โจทก์กลับไม่ได้ชี้แจง

 

 จึงแสดงให้เห็นเจตนาจำเลยชัดเจนว่าจะตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว แม้โจทก์อาจจะได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร และไม่ได้ใช้เอกสารเท็จใดๆ ในการสมัครเข้าเป็นอาจารย์ แต่เอกสารที่เกี่ยวข้องมีพิรุธน่าสงสัยหลายประการ และยังไม่ปรากฏว่าเอกสารที่จำเลยนำมาอ้างนั้น โจทก์ได้โต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอมหรือเท็จ พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบมาจึงมีเหตุตามสมควรที่ทำให้จำเลยมีความสงสัยและเชื่อว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย การกระทำนั้นจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ป.อาญา ม.329 (1

 

 

 

 

 

 

 

จะแปะยังไม่เอามาให้ครบ..

 

 

ปิดทู้ได้เลย

Edited by 55555, 19 July 2013 - 21:58.

[55555]

 

อ่านกันหน่อยนะ คนที่จะให้นำสืบน่ะ  มันจบไปแล้วหล่ะ

 

 

http://www.khaosod.c...EY3hNamN4T0E9PQ== 

ศาลยกฟ้อง‘จตุพร’หมิ่น‘มาร์ค’หนีทหาร

 

 

 

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่า ที่จำเลยกล่าวปราศรัยเมื่อวันที่ 29 ม.ค.53 ทำนองว่า นายอภิสิทธิ์จะขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส. เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ต้องถูกดำเนินคดีหนีทหาร ใช้เอกสารเท็จสมัครเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.นั้น เมื่อบุคคลทั่วไปรับฟังย่อมเข้าใจและรู้สึกว่าโจทก์ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลีกเลี่ยงและจงใจหนีการเกณฑ์ทหาร ซึ่งเป็นหน้าที่ของชายไทยทุกคน โจทก์จึงไม่มีความน่าเชื่อถือศรัทธาไม่มีความเหมาะสมสง่างามที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยจำเลยย่อมตระหนักดีอยู่แล้วว่าการกล่าวปราศรัยนั้นจะกระทบชื่อเสียงเกียรติคุณของโจทก์ ข้อความที่จำเลยกล่าวจึงเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์

 

 แต่มีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปว่า การกระทำดังกล่าว จำเลยได้แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรมตามวิสัยของประชาชนที่จะกระทำได้หรือไม่ เห็นว่า ตามที่โจทก์เบิกความตอบคำถามค้านของทนายความจำเลย ฟังได้เพียงว่า โจทก์เป็นนักศึกษาในความดูแลของก.พ. โดย ก.พ.เป็นผู้ดำเนินการผ่อนผันให้โจทก์โดยมีแบบหนังสือผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร (สด.41) แต่โจทก์ไม่มีหนังสือผ่อนผันดังกล่าวมาแสดงประกอบ ส่วนที่โจทก์ตอบคำถามค้านอีกว่า โจทก์เคยแสดงเอกสารเกี่ยวกับการผ่อนผันเป็นบัญชีรายชื่อนักเรียนที่ไปศึกษาต่างประเทศ ซึ่งได้ยกเว้นหรือผ่อนผัน (สด.20) ต่อประธานรัฐสภา เมื่อพิจารณาเอกสารดังกล่าวพบว่า มีชื่อโจทก์อยู่ลำดับที่ 3 ระบุว่าได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผันเมื่อวันที่ 4 พ.ย.29 เพื่อไปศึกษายังประเทศอังกฤษระหว่างปี 2530-32

 

 แต่เอกสารดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าเป็นหนังสือผ่อนผันการตรวจเลือกฯ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหนังสือผ่อนผันที่ถูกต้อง จะต้องเป็น สด.41 ที่ลงนามโดย รมว.มหาดไทย หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ดังนั้น ในส่วนที่โจทก์ไม่ไปตรวจเลือกเข้ารับเกณฑ์ทหารโดยอ้างว่าได้รับการผ่อนผันจึงยังมีข้อพิรุธน่าสงสัยพอสมควร ส่วนที่โจทก์สมัครเข้าเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร. โจทก์เบิกความว่าไม่เคยใช้เอกสารเท็จในการสมัครเข้ารับราชการ ซึ่งเป็นการเบิกความลอยๆ ไม่มีเอกสารพยานหลักฐานใดมาสนับสนุน

 

 ซึ่งขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ความประพฤติรวมถึงประวัติชีวิตความเป็นมาตามสมควร เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนจำเลยเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน จึงเป็นปกติที่จำเลยต้องตรวจสอบเรื่องราวฝ่ายรัฐบาลและตัวโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิจะตรวจสอบแสดงความเห็นโดยสุจริต เพราะหากเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย ย่อมแสดงว่าโจทก์จงใจประพฤติตนฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะขาดคุณสมบัติเป็นส.ส.และนายกรัฐมนตรีได้ จำเลยซึ่งมีสิทธิวิจารณ์เรื่องของโจทก์ได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยสร้างขึ้นมาเอง โดยจำเลยได้ตั้งคำถามต่อโจทก์ก่อนจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่โจทก์กลับไม่ได้ชี้แจง

 

 จึงแสดงให้เห็นเจตนาจำเลยชัดเจนว่าจะตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว แม้โจทก์อาจจะได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร และไม่ได้ใช้เอกสารเท็จใดๆ ในการสมัครเข้าเป็นอาจารย์ แต่เอกสารที่เกี่ยวข้องมีพิรุธน่าสงสัยหลายประการ และยังไม่ปรากฏว่าเอกสารที่จำเลยนำมาอ้างนั้น โจทก์ได้โต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอมหรือเท็จ พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบมาจึงมีเหตุตามสมควรที่ทำให้จำเลยมีความสงสัยและเชื่อว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย การกระทำนั้นจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ป.อาญา ม.329 (1) (3)

 

 

 

 ปิดกระทู้ได้ยัง

 

ทำสีแดงเฉพาะตรงนั้นนะครับ........................ แหม่

 

 

 

 

ศาลท่านใช้คำว่า มีเหตุสมควรที่ทำให้สงสัย

 

ศาลไม่ได้บอกนะครับ ว่า ข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย

 

 

อย่าลักไก่สิคร้าบบบบบบ

 

ต้องทำสีแดงตัวใหญ่ๆ ทั้งหมดว่า 

 

จึงมีเหตุตามสมควรที่ทำให้จำเลยมีความสงสัยและเชื่อว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย

 

 

 

แต่ศาลพูดชัดน๊ะเรื่องมาร์คผ่อนผัน..

 

Edited by 55555, 20 July 2013 - 07:25.

[Tam-mic-ra.]

แมงหวี่ตอมไปตอมมาสมชื่อจริงๆ  มันอ่านยังไงของมันเนี่ยย    

[Stargate-1]

 

อ่านกันหน่อยนะ คนที่จะให้นำสืบน่ะ  มันจบไปแล้วหล่ะ

 

 

http://www.khaosod.c...EY3hNamN4T0E9PQ== 

ศาลยกฟ้อง‘จตุพร’หมิ่น‘มาร์ค’หนีทหาร

 

 

 

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่า ที่จำเลยกล่าวปราศรัยเมื่อวันที่ 29 ม.ค.53 ทำนองว่า นายอภิสิทธิ์จะขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส. เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ต้องถูกดำเนินคดีหนีทหาร ใช้เอกสารเท็จสมัครเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.นั้น เมื่อบุคคลทั่วไปรับฟังย่อมเข้าใจและรู้สึกว่าโจทก์ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลีกเลี่ยงและจงใจหนีการเกณฑ์ทหาร ซึ่งเป็นหน้าที่ของชายไทยทุกคน โจทก์จึงไม่มีความน่าเชื่อถือศรัทธาไม่มีความเหมาะสมสง่างามที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยจำเลยย่อมตระหนักดีอยู่แล้วว่าการกล่าวปราศรัยนั้นจะกระทบชื่อเสียงเกียรติคุณของโจทก์ ข้อความที่จำเลยกล่าวจึงเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์

 

 แต่มีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปว่า การกระทำดังกล่าว จำเลยได้แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรมตามวิสัยของประชาชนที่จะกระทำได้หรือไม่ เห็นว่า ตามที่โจทก์เบิกความตอบคำถามค้านของทนายความจำเลย ฟังได้เพียงว่า โจทก์เป็นนักศึกษาในความดูแลของก.พ. โดย ก.พ.เป็นผู้ดำเนินการผ่อนผันให้โจทก์โดยมีแบบหนังสือผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร (สด.41) แต่โจทก์ไม่มีหนังสือผ่อนผันดังกล่าวมาแสดงประกอบ ส่วนที่โจทก์ตอบคำถามค้านอีกว่า โจทก์เคยแสดงเอกสารเกี่ยวกับการผ่อนผันเป็นบัญชีรายชื่อนักเรียนที่ไปศึกษาต่างประเทศ ซึ่งได้ยกเว้นหรือผ่อนผัน (สด.20) ต่อประธานรัฐสภา เมื่อพิจารณาเอกสารดังกล่าวพบว่า มีชื่อโจทก์อยู่ลำดับที่ 3 ระบุว่าได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผันเมื่อวันที่ 4 พ.ย.29 เพื่อไปศึกษายังประเทศอังกฤษระหว่างปี 2530-32

 

 แต่เอกสารดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าเป็นหนังสือผ่อนผันการตรวจเลือกฯ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหนังสือผ่อนผันที่ถูกต้อง จะต้องเป็น สด.41 ที่ลงนามโดย รมว.มหาดไทย หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ดังนั้น ในส่วนที่โจทก์ไม่ไปตรวจเลือกเข้ารับเกณฑ์ทหารโดยอ้างว่าได้รับการผ่อนผันจึงยังมีข้อพิรุธน่าสงสัยพอสมควร ส่วนที่โจทก์สมัครเข้าเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร. โจทก์เบิกความว่าไม่เคยใช้เอกสารเท็จในการสมัครเข้ารับราชการ ซึ่งเป็นการเบิกความลอยๆ ไม่มีเอกสารพยานหลักฐานใดมาสนับสนุน

 

 ซึ่งขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ความประพฤติรวมถึงประวัติชีวิตความเป็นมาตามสมควร เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนจำเลยเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน จึงเป็นปกติที่จำเลยต้องตรวจสอบเรื่องราวฝ่ายรัฐบาลและตัวโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิจะตรวจสอบแสดงความเห็นโดยสุจริต เพราะหากเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย ย่อมแสดงว่าโจทก์จงใจประพฤติตนฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะขาดคุณสมบัติเป็นส.ส.และนายกรัฐมนตรีได้ จำเลยซึ่งมีสิทธิวิจารณ์เรื่องของโจทก์ได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยสร้างขึ้นมาเอง โดยจำเลยได้ตั้งคำถามต่อโจทก์ก่อนจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่โจทก์กลับไม่ได้ชี้แจง

 

 จึงแสดงให้เห็นเจตนาจำเลยชัดเจนว่าจะตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว แม้โจทก์อาจจะได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร และไม่ได้ใช้เอกสารเท็จใดๆ ในการสมัครเข้าเป็นอาจารย์ แต่เอกสารที่เกี่ยวข้องมีพิรุธน่าสงสัยหลายประการ และยังไม่ปรากฏว่าเอกสารที่จำเลยนำมาอ้างนั้น โจทก์ได้โต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอมหรือเท็จ พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบมาจึงมีเหตุตามสมควรที่ทำให้จำเลยมีความสงสัยและเชื่อว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย การกระทำนั้นจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ป.อาญา ม.329 (1) (3)

 

 

 

 ปิดกระทู้ได้ยัง

 

ทำสีแดงเฉพาะตรงนั้นนะครับ........................ แหม่

 

 

 

 

ศาลท่านใช้คำว่า มีเหตุสมควรที่ทำให้สงสัย

 

ศาลไม่ได้บอกนะครับ ว่า ข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย

 

 

อย่าลักไก่สิคร้าบบบบบบ

 

ต้องทำสีแดงตัวใหญ่ๆ ทั้งหมดว่า 

 

จึงมีเหตุตามสมควรที่ทำให้จำเลยมีความสงสัยและเชื่อว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย

 

 

เหม่ๆๆ คุณ  O2Mini

จริงๆผมอยากให้ทุกท่าน อ่านทั้งหมดนั่นแหล่ะ    ที่เน้นก็เน้นให้เห้นชัดแค่ตรงนั้นแหล่ะ

แต่ถ้าใครอ่านครบๆ ก็น่าจะเข้าใจนะ    

 

          ไม่น่ารู้ทันเลย

[lagrangian]

 

 

 

 

 

เห็นมุมซ้ายบนไหมครับ คำว่าให้มารับหมายเรียก   ดังนั้น 7 เมษา30 ต้องไปครับ

แต่ถ้าเห็นว่า ควรจะได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน

 

มาตรา ๓๐ ถ้าผู้ที่ถูกเรียกมาตรวจเลือกเห็นว่า ตนควรจะได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน ต้องนำหลักฐานมาแสดงต่อคณะกรรมการตรวจเลือกก่อนจับสลาก หรือก่อนกำหนดให้เข้ากองประจำการ ในกรณีที่ไม่มีการจับสลาก มิฉะนั้นให้ถือว่าหมดสิทธิที่จะได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน

 

 

 

 

กรณีไปสมัคร อจ. จปร.  น่ะ  นี่คือข้าราชการกลาโหมพลเรือน  มีสถานะทหารประจำการ    จึงยังไม่ได้รับการยกเว้นครับ

 

ขนาดคนที่ไปสมัครทหารประจำการ เขายังกำหนดว่าต้องได้เป็นก่อนวันจับสลาก เลย

   

กฎกระทรวง

ฉบับที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖)

ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗

 

                (๒) การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจำการ ก่อนวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกร้องขอต่อเจ้าหน้าที่กรมกอง
ที่ผู้นั้นประสงค์จะเข้าเป็นทหารกองประจำการเมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าวพิจารณารับผู้ใด ให้นำผู้นั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการ
ในปีที่ถูกเรียกให้เสร็จก่อนวันตรวจเลือก

 

 

ชัดไหมครับ  

 

ขอหลักฐานว่ามาร์ครับหมายเรียกแล้วหน่อยครับ เพราะถ้ามาร์คยังไม่รับหมายเรียกก็ไม่ต้องไปตรวจเลือกครับ

 

 

นี่ล้อเล่นหรือเปล่าครับเนี่ย

 

ผมอยากให้คุณเอาหลักฐานมาก่อนดีกว่า    ว่าไม่รับหมายเรียก ก็ไม่ต้องไปตรวจเลือก!!

และนี่ไม่ใช่เรื่องผิด ??? 

 

เอาทีละเรื่องนะครับ

 

ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  3655/2541

พนักงานอัยการ สำนักงาน อัยการ สูงสุด

     โจทก์

นาย ขออนุญาตลบชื่อ

     จำเลย

 

ป.วิ.อ. มาตรา 158(5), 176, 185, 195

พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 27, 45

พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 มาตรา 69

 

          การกระทำความผิดของทหารกองเกินที่หลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่ไปให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497มาตรา 45 ต้องประกอบด้วยนายอำเภอได้ออกหมายเรียก และทหารกองเกินได้รับหมายเรียกดังกล่าวแล้วหลีกเลี่ยงหรือขัดขืน ไม่ไปให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการคดีนี้เหตุเกิดที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528มาตรา 69 บัญญัติให้ผู้อำนวยการเขตมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอ เมื่ออำนาจหน้าที่ในการออกหมายเรียกตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร ฯมาตรา 45 ดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการ เขตดินแดง แต่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้เห็นว่า ผู้อำนวยการเขตดินแดงได้ออกหมายเรียกจำเลยหรือไม่ และจำเลยได้รับหมายเรียกแล้วหรือไม่ ฟ้องโจทก์จึงไม่ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)บัญญัติไว้ ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยจะให้ การรับสารภาพศาลก็ไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้

Edited by lagrangian, 20 July 2013 - 01:38.

[Mootang]

ว่าแต่ว่าจะพูดให้ยืดยาวไปทำไมล่ะครับ ก็เห็นๆ อยู่ว่าเขาอธิบายข้อกฏหมายที่ตัวเองยกมาไม่เป็น

 

เรียงลำดับวิธีปฏิบัติทางกฏหมายไม่เป็น ลำดับกฏหมายก็ยกมาไม่ถูก กฏหมายประกอบก็ยกมาไม่ถูก

 

ที่สำคัญคืออ่านคำพิพากษาไม่เป็นอีกต่างหาก ทนคุยกับเขามาได้ยังไงทั้งๆ ที่เขาใช้จริตตัวเองล้วนๆ ในการถกเรื่องกฏหมาย

 

หรือว่าดูแล้วมันตลกดีเลยแหย่เล่นไปงั้นเอง 

[Stargate-1]

แค่มาปั่นกระทู้เล่น อย่างนั้นเอง

 

โถ แต๋ม ครึ่งเดียว

 

 

            

Edited by Stargate-1, 20 July 2013 - 08:13.

[Tam-mic-ra.]

 

 

 

 

 

 

เห็นมุมซ้ายบนไหมครับ คำว่าให้มารับหมายเรียก   ดังนั้น 7 เมษา30 ต้องไปครับ

แต่ถ้าเห็นว่า ควรจะได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน

 

มาตรา ๓๐ ถ้าผู้ที่ถูกเรียกมาตรวจเลือกเห็นว่า ตนควรจะได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน ต้องนำหลักฐานมาแสดงต่อคณะกรรมการตรวจเลือกก่อนจับสลาก หรือก่อนกำหนดให้เข้ากองประจำการ ในกรณีที่ไม่มีการจับสลาก มิฉะนั้นให้ถือว่าหมดสิทธิที่จะได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน

 

 

 

 

กรณีไปสมัคร อจ. จปร.  น่ะ  นี่คือข้าราชการกลาโหมพลเรือน  มีสถานะทหารประจำการ    จึงยังไม่ได้รับการยกเว้นครับ

 

ขนาดคนที่ไปสมัครทหารประจำการ เขายังกำหนดว่าต้องได้เป็นก่อนวันจับสลาก เลย

   

กฎกระทรวง

ฉบับที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖)

ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗

 

                (๒) การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจำการ ก่อนวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกร้องขอต่อเจ้าหน้าที่กรมกอง
ที่ผู้นั้นประสงค์จะเข้าเป็นทหารกองประจำการเมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าวพิจารณารับผู้ใด ให้นำผู้นั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการ
ในปีที่ถูกเรียกให้เสร็จก่อนวันตรวจเลือก

 

 

ชัดไหมครับ  

 

ขอหลักฐานว่ามาร์ครับหมายเรียกแล้วหน่อยครับ เพราะถ้ามาร์คยังไม่รับหมายเรียกก็ไม่ต้องไปตรวจเลือกครับ

 

 

นี่ล้อเล่นหรือเปล่าครับเนี่ย

 

ผมอยากให้คุณเอาหลักฐานมาก่อนดีกว่า    ว่าไม่รับหมายเรียก ก็ไม่ต้องไปตรวจเลือก!!

และนี่ไม่ใช่เรื่องผิด ??? 

 

เอาทีละเรื่องนะครับ

 

ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  3655/2541

พนักงานอัยการ สำนักงาน อัยการ สูงสุด

     โจทก์

นาย ขออนุญาตลบชื่อ

     จำเลย

 

ป.วิ.อ. มาตรา 158(5), 176, 185, 195

พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 27, 45

พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 มาตรา 69

 

          การกระทำความผิดของทหารกองเกินที่หลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่ไปให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497มาตรา 45 ต้องประกอบด้วยนายอำเภอได้ออกหมายเรียก และทหารกองเกินได้รับหมายเรียกดังกล่าวแล้วหลีกเลี่ยงหรือขัดขืน ไม่ไปให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการคดีนี้เหตุเกิดที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528มาตรา 69 บัญญัติให้ผู้อำนวยการเขตมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอ เมื่ออำนาจหน้าที่ในการออกหมายเรียกตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร ฯมาตรา 45 ดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการ เขตดินแดง แต่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้เห็นว่า ผู้อำนวยการเขตดินแดงได้ออกหมายเรียกจำเลยหรือไม่ และจำเลยได้รับหมายเรียกแล้วหรือไม่ ฟ้องโจทก์จึงไม่ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)บัญญัติไว้ ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยจะให้ การรับสารภาพศาลก็ไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้

 

 

 

 

กฎกระทรวง

ฉบับที่ ๓๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖)

ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗

 

   (๒) สำหรับทหารกองเกินซึ่งมีอายุเกินกว่ายี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์ขึ้นไปที่อยู่ในกำหนดเรียกมาตรวจเลือกตาม (๒)
ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๔๙๘)ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗
ตามที่ปรากฏรายชื่อในบัญชีทหารกองเกินและบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจำการที่ได้ทำการตรวจเลือก
ครั้งสุดท้ายเมื่อเสร็จการตรวจเลือกแล้ว ให้นายอำเภอออกหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร โดยจะส่งหมายเรียกให้
หรือจะเรียกให้มารับที่อำเภอท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหารของผู้นั้นก็ได้

 

 

กรณีนี้ ถือว่า ทางอำเภอแจ้งให้ไปรับแล้วนะครับ 

ตามเอกสาร http://www.abhisit.o...oad/sordor9.jpg   ตรงมุมบนซ้าย  และท้ายๆก็ลงประทับตรา ผอ.เขต ไว้ด้วยแล้ว

[55555]

แมงหวี่ตอมไปตอมมาสมชื่อจริงๆ  มันอ่านยังไงของมันเนี่ยย    

 

เอ็งแหละอ่านยังไงไม่เห็นประโยคนี้..

 

มิน่า แถเป็นล่ำเป็์นสัน ควายทั้งกระทู้ นังแต๋ม

 

 

 

 

ซึ่งขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ความประพฤติรวมถึงประวัติชีวิตความเป็นมาตามสมควร เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนจำเลยเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน จึงเป็นปกติที่จำเลยต้องตรวจสอบเรื่องราวฝ่ายรัฐบาลและตัวโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิจะตรวจสอบแสดงความเห็นโดยสุจริต เพราะหากเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย ย่อมแสดงว่าโจทก์จงใจประพฤติตนฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะขาดคุณสมบัติเป็นส.ส.และนายกรัฐมนตรีได้ จำเลยซึ่งมีสิทธิวิจารณ์เรื่องของโจทก์ได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยสร้างขึ้นมาเอง โดยจำเลยได้ตั้งคำถามต่อโจทก์ก่อนจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่โจทก์กลับไม่ได้ชี้แจง

 

 จึงแสดงให้เห็นเจตนาจำเลยชัดเจนว่าจะตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว แม้โจทก์อาจจะได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร และไม่ได้ใช้เอกสารเท็จใดๆ ในการสมัครเข้าเป็นอาจารย์ แต่เอกสารที่เกี่ยวข้องมีพิรุธน่าสงสัยหลายประการ และยังไม่ปรากฏว่าเอกสารที่จำเลยนำมาอ้างนั้น โจทก์ได้โต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอมหรือเท็จ พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบมาจึงมีเหตุตามสมควรที่ทำให้จำเลยมีความสงสัยและเชื่อว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย การกระทำนั้นจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ป.อาญา ม.329 (1

 

 

 

 

 

 

 

โจท่์ย คือนายอภิสิทธิ์เวฃาชีวะ ใช่ป่าว..

 

[55555]

ใครไปเถียงกังนังแต๋มก็บ้าแล้ว

 

แรก ๆ ก็บอกยังไม่ขึ้นทะเบียนกองเกินไปผ่อนผันได้ไง..http://webboard.seri...อภิสิทธิ์-ออกจา

 

กน/page-4#entry518755  ฮา ...ไม่ได้รู้ห่ ไรเลย มาตายเอาดาบหน้าแท้ ๆ

 

พอบอกมันว่าเค้าเรียกไปรับหมายแล้วให้มันดูตรงมุมขวา  มันก็ไปหาเรื่องอื่นอีก....

 

ผมถึงเรียก นังแต๋ม จัมไม่ จัมไม...

 

ข้าเป็นคนความจำดีกว่านังกระบือแต๋ม..

 

ข้าเตือนหลายครั้งแล้ว ถ้าเอ็งจะแถกไปเรือย ๆ เอ็งต้องหัดไปอ่านของเก่ามั่งดิ ว่าเขียนไรไว้

 

    

Edited by 55555, 20 July 2013 - 07:52.

[lagrangian]

 

 

 

 

 

 

 

เห็นมุมซ้ายบนไหมครับ คำว่าให้มารับหมายเรียก   ดังนั้น 7 เมษา30 ต้องไปครับ

แต่ถ้าเห็นว่า ควรจะได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน

 

มาตรา ๓๐ ถ้าผู้ที่ถูกเรียกมาตรวจเลือกเห็นว่า ตนควรจะได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน ต้องนำหลักฐานมาแสดงต่อคณะกรรมการตรวจเลือกก่อนจับสลาก หรือก่อนกำหนดให้เข้ากองประจำการ ในกรณีที่ไม่มีการจับสลาก มิฉะนั้นให้ถือว่าหมดสิทธิที่จะได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน

 

 

 

 

กรณีไปสมัคร อจ. จปร.  น่ะ  นี่คือข้าราชการกลาโหมพลเรือน  มีสถานะทหารประจำการ    จึงยังไม่ได้รับการยกเว้นครับ

 

ขนาดคนที่ไปสมัครทหารประจำการ เขายังกำหนดว่าต้องได้เป็นก่อนวันจับสลาก เลย

   

กฎกระทรวง

ฉบับที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖)

ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗

 

                (๒) การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจำการ ก่อนวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกร้องขอต่อเจ้าหน้าที่กรมกอง
ที่ผู้นั้นประสงค์จะเข้าเป็นทหารกองประจำการเมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าวพิจารณารับผู้ใด ให้นำผู้นั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการ
ในปีที่ถูกเรียกให้เสร็จก่อนวันตรวจเลือก

 

 

ชัดไหมครับ  

 

ขอหลักฐานว่ามาร์ครับหมายเรียกแล้วหน่อยครับ เพราะถ้ามาร์คยังไม่รับหมายเรียกก็ไม่ต้องไปตรวจเลือกครับ

 

 

นี่ล้อเล่นหรือเปล่าครับเนี่ย

 

ผมอยากให้คุณเอาหลักฐานมาก่อนดีกว่า    ว่าไม่รับหมายเรียก ก็ไม่ต้องไปตรวจเลือก!!

และนี่ไม่ใช่เรื่องผิด ??? 

 

เอาทีละเรื่องนะครับ

 

ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  3655/2541

พนักงานอัยการ สำนักงาน อัยการ สูงสุด

     โจทก์

นาย ขออนุญาตลบชื่อ

     จำเลย

 

ป.วิ.อ. มาตรา 158(5), 176, 185, 195

พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 27, 45

พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 มาตรา 69

 

          การกระทำความผิดของทหารกองเกินที่หลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่ไปให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497มาตรา 45 ต้องประกอบด้วยนายอำเภอได้ออกหมายเรียก และทหารกองเกินได้รับหมายเรียกดังกล่าวแล้วหลีกเลี่ยงหรือขัดขืน ไม่ไปให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการคดีนี้เหตุเกิดที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528มาตรา 69 บัญญัติให้ผู้อำนวยการเขตมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอ เมื่ออำนาจหน้าที่ในการออกหมายเรียกตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร ฯมาตรา 45 ดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการ เขตดินแดง แต่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้เห็นว่า ผู้อำนวยการเขตดินแดงได้ออกหมายเรียกจำเลยหรือไม่ และจำเลยได้รับหมายเรียกแล้วหรือไม่ ฟ้องโจทก์จึงไม่ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)บัญญัติไว้ ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยจะให้ การรับสารภาพศาลก็ไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้

 

 

 

 

กฎกระทรวง

ฉบับที่ ๓๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖)

ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗

 

   (๒) สำหรับทหารกองเกินซึ่งมีอายุเกินกว่ายี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์ขึ้นไปที่อยู่ในกำหนดเรียกมาตรวจเลือกตาม (๒)
ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๔๙๘)ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗
ตามที่ปรากฏรายชื่อในบัญชีทหารกองเกินและบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจำการที่ได้ทำการตรวจเลือก
ครั้งสุดท้ายเมื่อเสร็จการตรวจเลือกแล้ว ให้นายอำเภอออกหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร โดยจะส่งหมายเรียกให้
หรือจะเรียกให้มารับที่อำเภอท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหารของผู้นั้นก็ได้

 

 

กรณีนี้ ถือว่า ทางอำเภอแจ้งให้ไปรับแล้วนะครับ 

ตามเอกสาร http://www.abhisit.o...oad/sordor9.jpg   ตรงมุมบนซ้าย  และท้ายๆก็ลงประทับตรา ผอ.เขต ไว้ด้วยแล้ว

 

ตกลงมีหลักฐานว่ามาร์ครับหมายเรียกแล้วมั้ยครับ

[Tam-mic-ra.]

 

 

ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗

 

   (๒) สำหรับทหารกองเกินซึ่งมีอายุเกินกว่ายี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์ขึ้นไปที่อยู่ในกำหนดเรียกมาตรวจเลือกตาม (๒)
ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๔๙๘)ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗
ตามที่ปรากฏรายชื่อในบัญชีทหารกองเกินและบัญชีเรียกทหารกองเกินเข้ากองประจำการที่ได้ทำการตรวจเลือก
ครั้งสุดท้ายเมื่อเสร็จการตรวจเลือกแล้ว ให้นายอำเภอออกหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร โดยจะส่งหมายเรียกให้
หรือจะเรียกให้มารับที่อำเภอท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหารของผู้นั้นก็ได้

 

 

กรณีนี้ ถือว่า ทางอำเภอแจ้งให้ไปรับแล้วนะครับ 

ตามเอกสาร http://www.abhisit.o...oad/sordor9.jpg   ตรงมุมบนซ้าย  และท้ายๆก็ลงประทับตรา ผอ.เขต ไว้ด้วยแล้ว

 

ตกลงมีหลักฐานว่ามาร์ครับหมายเรียกแล้วมั้ยครับ

 

 

 

ผมไม่รู้ว่าไปรับไหมนะ ยังไม่เห็นเหมือนกัน

แต่จะมีนัยยะ อะไรหรือครับ  เพราะที่คุณยกคำตัดสินศาลมานั้น มันคนละกรณีกันนะ

 

กรณีมาร์ค สัสดีแจ้งไว้ตอนที่มาร์คไปลงกองเกิน  ว่าให้ไปรับหมายเรียกที่เดือน มค2530

นั่นเป็นการแจ้งแล้ว ว่าต้องไปรับ    

 

คุณว่ามกราคม2530มาร์คไปรับไหมหล่ะ      ...     ถ้าไม่ไปรับก็ต้องถือว่าหนีทหารเหมือนกันครับ   

[คนกรุงธน]

ความผิดตามป.อาญา ตามหลักแ้ล้วมองที่เจตนาเป็นหลัก...ศาลท่านมองว่าจตุพรมีเจตนาตรวจสอบครับ

 

ซึ่งขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ความประพฤติรวมถึงประวัติชีวิตความเป็นมา ตามสมควร เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนจำเลยเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน จึงเป็นปกติที่จำเลยต้องตรวจสอบเรื่องราวฝ่ายรัฐบาลและตัวโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิจะตรวจสอบแสดงความเห็นโดยสุจริต เพราะหากเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย ย่อมแสดงว่าโจทก์จงใจประพฤติตนฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะขาดคุณสมบัติเป็นส.ส.และนายกรัฐมนตรีได้ จำเลยซึ่งมีสิทธิวิจารณ์เรื่องของโจทก์ได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยสร้างขึ้นมาเอง โดยจำเลยได้ตั้งคำถามต่อโจทก์ก่อนจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่โจทก์กลับไม่ได้ชี้แจง

 

 จึงแสดงให้เห็นเจตนาจำเลยชัดเจนว่าจะตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว

แม้โจทก์อาจจะได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร และไม่ได้ใช้เอกสารเท็จใดๆ ในการสมัครเข้าเป็นอาจารย์ แต่ เอกสารที่เกี่ยวข้องมีพิรุธน่าสงสัยหลายประการ และยังไม่ปรากฏว่าเอกสารที่จำเลยนำมาอ้างนั้น โจทก์ได้โต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอมหรือเท็จ พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบมาจึงมีเหตุตามสมควรที่ทำให้จำเลยมีความสงสัยและ เชื่อว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย การกระทำนั้นจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ป.อาญา

Edited by คนกรุงธน, 20 July 2013 - 16:47.

[Mootang]

ไม่ใช่ไม่เกี่ยวอะไรนะครับ เป็นข้อสำคัญเลยแหละ...

 

ถ้าไม่ปรากฏหลักฐานว่าคุณอภิสิทธิ์ไปรับหมายเรียกแล้วล่ะก็ หน้าไหนก็เอาผิดไม่ได้หรอกครับ ฏีกาบอกไว้ชัดเจนอยู่แล้ว

 

ต่อให้ออกหมายเรียกแล้วก็ตาม ถ้าเขาไม่ได้รับหมายเรียกแล้วล่ะก็ประโยคนี้ไม่ต้องใช้ครับ ...แล้วหลีกเลี่ยงหรือขัดขืน อันนี้

 

พูดง่ายๆ ว่าถึงจะออกหมายเรียกมาแล้ว แต่ถ้าคนรับไม่ได้รับล่ะก็ถึงเขาจะหนีทหารจริงใครก็เอาผิดไม่ได้หรอกครับ...

[คนกรุงธน]

พวกเสื้อแดงอ่านและจำไว้ให้ดีนะ พอพวกตัวเองโดนบ้าง อย่าโวยวายล่ะ

 

ซึ่งขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็น บุคคลสาธารณะ ย่อมตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ความประพฤติรวมถึงประวัติชีวิตความเป็นมา ตามสมควร เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ

ส่วนจำเลยเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน จึงเป็นปกติที่จำเลยต้องตรวจสอบเรื่องราวฝ่ายรัฐบาลและตัวโจทก์

จำเลยจึงมีสิทธิจะตรวจสอบแสดงความเห็นโดยสุจริต

เพราะหากเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย ย่อมแสดงว่าโจทก์จงใจประพฤติตนฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะขาดคุณสมบัติเป็นส.ส.และนายกรัฐมนตรีได้ จำเลยซึ่งมีสิทธิวิจารณ์เรื่องของโจทก์ได้

 

เห็นพอตรวจสอบเรื่องทุจริตจำนำข้าว+ข้าวเน่าโวยวายกันใหญ่

Edited by คนกรุงธน, 20 July 2013 - 16:54.

[คนกรุงธน]

สาระน่ารู้เกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร หน้าที่ของลูกผู้ชายไทย

http://www.thaiembas...q/taharn02.html

๒๑ ถาม ทหารกองเกินต้องไปรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหารเมื่อใด  

ตอบ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุย่างเข้า ๒๑ ปี (๒๐ ปีบริบูรณ์) ใน พ.ศ. ใด ต้องไปขอรับหมายเรียกที่อำเภอภูมิลำเนาทหารของตนภายใน พ.ศ.นั้น (ภายใน ๓๑ ธ.ค.)      

 

๒๒ ถาม ถ้าไปรับหมายเรียกด้วยตนเองไม่ได้ จะให้บุคคลอื่นไปรับหมายเรียกแทนได้หรือไม่  

ตอบ ถ้าไปรับด้วยตนเองไม่ได้ต้องให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะและเชื่อถือได้ไปรับแทน โดยการมอบฉันทะ แต่การจะให้รับหมายหรือไม่อยู่ในดุลพินิจของนายอำเภอ      

 

๒๓ ถาม ถ้าไม่ไปรับหมายเรียกฯ ภายในกำหนด จะมีความผิดหรือไม่ อย่างไร  

ตอบ ถ้าไม่ไปรับหมายเรียกฯ ภายในกำหนด หรือไม่มีผู้แทนไปรับถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืนมีโทษเท่ากับไม่ไปลงบัญชีทหาร กองเกินข้างต้น (โทษจำคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๓๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)      

 

๒๔ ถาม ผู้ที่ได้รับการผ่อนผันไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ต้องไปรับหมายเรียกหรือไม่  

ตอบ บุคคลดังกล่าวไม่ต้องไปรับหมายเรียกแต่อย่างใด

Edited by คนกรุงธน, 20 July 2013 - 16:58.

[55555]

ความผิดตามป.อาญา ตามหลักแ้ล้วมองที่เจตนาเป็นหลัก...ศาลท่านมองว่าจตุพรมีเจตนาตรวจสอบครับ

 

ซึ่งขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ความประพฤติรวมถึงประวัติชีวิตความเป็นมา ตามสมควร เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนจำเลยเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน จึงเป็นปกติที่จำเลยต้องตรวจสอบเรื่องราวฝ่ายรัฐบาลและตัวโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิจะตรวจสอบแสดงความเห็นโดยสุจริต เพราะหากเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย ย่อมแสดงว่าโจทก์จงใจประพฤติตนฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะขาดคุณสมบัติเป็นส.ส.และนายกรัฐมนตรีได้ จำเลยซึ่งมีสิทธิวิจารณ์เรื่องของโจทก์ได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยสร้างขึ้นมาเอง โดยจำเลยได้ตั้งคำถามต่อโจทก์ก่อนจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่โจทก์กลับไม่ได้ชี้แจง

 

 จึงแสดงให้เห็นเจตนาจำเลยชัดเจนว่าจะตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว

แม้โจทก์อาจจะได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร และไม่ได้ใช้เอกสารเท็จใดๆ ในการสมัครเข้าเป็นอาจารย์ แต่ เอกสารที่เกี่ยวข้องมีพิรุธน่าสงสัยหลายประการ และยังไม่ปรากฏว่าเอกสารที่จำเลยนำมาอ้างนั้น โจทก์ได้โต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอมหรือเท็จ พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบมาจึงมีเหตุตามสมควรที่ทำให้จำเลยมีความสงสัยและ เชื่อว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย การกระทำนั้นจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ป.อาญา

 

 

ไม่น่าแปลกใจหรอกครับ...นังแต๋มมีปัญหาเรื่องการอ่านทำความเข้าใจมาตลอด..

 

ถึงได้อ้างกฏหมายตีความมั่วซั่ว

 

[Tam-mic-ra.]

ไม่ใช่ไม่เกี่ยวอะไรนะครับ เป็นข้อสำคัญเลยแหละ...

 

ถ้าไม่ปรากฏหลักฐานว่าคุณอภิสิทธิ์ไปรับหมายเรียกแล้วล่ะก็ หน้าไหนก็เอาผิดไม่ได้หรอกครับไว้ชัดเจนอยู่แล้ว

 

ต่อให้ออกหมายเรียกแล้วก็ตาม ถ้าเขาไม่ได้รับหมายเรียกแล้วล่ะก็ประโยคนี้ไม่ต้องใช้ครับ ...แล้วหลีกเลี่ยงหรือขัดขืน อันนี้

 

พูดง่ายๆ ว่าถึงจะออกหมายเรียกมาแล้ว แต่ถ้าคนรับไม่ได้รับล่ะก็ถึงเขาจะหนีทหารจริงใครก็เอาผิดไม่ได้หรอกครับ...

 

ฏีกาบอกไว้ชัดเจนแบบนี้นะ

 

"  แต่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้เห็นว่า ผู้อำนวยการเขตดินแดงได้ออกหมายเรียกจำเลยหรือไม่ และจำเลยได้รับหมายเรียกแล้วหรือไม่ "

 

จุดสำคัญเริ่มแรกคือออกหมายเรียกหรือไม่   ส่วนว่ามาร์คไปรับหรือไม่ อันนั้นเรื่องรอง เอามาเป็นสาระสำคัญไม่ได้หรอก

 

แต่กรณีนี้ เขตพระโขนงเขาเรียกให้มารับแล้ว  ผมว่าต้องช่วยกันตอบก่อนหล่ะครับ ว่ามาร์คไปรับตามที่เขตสั่งหรือเปล่า  

ถ้าไม่ไปรับก็ต้องถือเป็นการหลีกเลี่ยงขัดขืน    มันคนละกรณีกันกับกรณีที่อ้างฏีกามา 

 

http://www.thailandl...974876&Ntype=19                                

มาตรา ๒๕ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุย่างเข้ายี่สิบเอ็ดปีในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตน ภายในพุทธศักราชนั้น

ทหารกองเกินที่พ้นจากฐานะการยกเว้นตามมาตรา ๑๔ (๓) หรือการผ่อนผันตามมาตรา ๒๗ (๒) และมาตรา ๒๙ (๓) ในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกหรือเพื่อจำหน่ายบัญชีเรียกทหารกองเกินตามแต่กรณีที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตน ภายในพุทธศักราชนั้น

ผู้ใดไม่สามารถจะไปรับหมายเรียกด้วยตนเองได้ ต้องให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะ และพอจะเชื่อถือได้ไปรับหมายเรียกแทน ถ้าไม่มีผู้แทนให้ถือว่าผู้นั้นหลีกเลี่ยงขัดขืด

 

 

 

 

 

 

[Tam-mic-ra.]

ใครที่สงสัยว่า เขตพระโขนงออกหมายมาร์คเรียกหรือไม่  ก็ดูอันนี้ละกัน

 

 

คนที่ถูกหมายเรียกเท่านั้น จึงจะมีชื่อว่าเป็นคนไม่เข้ารับการตรวจเลือก

แสดงว่าเขตพระโขนงออกหมายเรียกไว้แล้วแน่นอนครับ และแจ้งให้มาร์คไปรับหมายเรียก เดือน มราคม 2530 แล้ว  

[55555]

 

ไม่ใช่ไม่เกี่ยวอะไรนะครับ เป็นข้อสำคัญเลยแหละ...

 

ถ้าไม่ปรากฏหลักฐานว่าคุณอภิสิทธิ์ไปรับหมายเรียกแล้วล่ะก็ หน้าไหนก็เอาผิดไม่ได้หรอกครับไว้ชัดเจนอยู่แล้ว

 

ต่อให้ออกหมายเรียกแล้วก็ตาม ถ้าเขาไม่ได้รับหมายเรียกแล้วล่ะก็ประโยคนี้ไม่ต้องใช้ครับ ...แล้วหลีกเลี่ยงหรือขัดขืน อันนี้

 

พูดง่ายๆ ว่าถึงจะออกหมายเรียกมาแล้ว แต่ถ้าคนรับไม่ได้รับล่ะก็ถึงเขาจะหนีทหารจริงใครก็เอาผิดไม่ได้หรอกครับ...

 

ฏีกาบอกไว้ชัดเจนแบบนี้นะ

 

"  แต่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้เห็นว่า ผู้อำนวยการเขตดินแดงได้ออกหมายเรียกจำเลยหรือไม่ และจำเลยได้รับหมายเรียกแล้วหรือไม่ "

 

จุดสำคัญเริ่มแรกคือออกหมายเรียกหรือไม่   ส่วนว่ามาร์คไปรับหรือไม่ อันนั้นเรื่องรอง เอามาเป็นสาระสำคัญไม่ได้หรอก

 

แต่กรณีนี้ เขตพระโขนงเขาเรียกให้มารับแล้ว  ผมว่าต้องช่วยกันตอบก่อนหล่ะครับ ว่ามาร์คไปรับตามที่เขตสั่งหรือเปล่า  

ถ้าไม่ไปรับก็ต้องถือเป็นการหลีกเลี่ยงขัดขืน    มันคนละกรณีกันกับกรณีที่อ้างฏีกามา 

 

http://www.thailandl...974876&Ntype=19                                

มาตรา ๒๕ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุย่างเข้ายี่สิบเอ็ดปีในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตน ภายในพุทธศักราชนั้น

ทหารกองเกินที่พ้นจากฐานะการยกเว้นตามมาตรา ๑๔ (๓) หรือการผ่อนผันตามมาตรา ๒๗ (๒) และมาตรา ๒๙ (๓) ในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกหรือเพื่อจำหน่ายบัญชีเรียกทหารกองเกินตามแต่กรณีที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตน ภายในพุทธศักราชนั้น

ผู้ใดไม่สามารถจะไปรับหมายเรียกด้วยตนเองได้ ต้องให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะ และพอจะเชื่อถือได้ไปรับหมายเรียกแทน ถ้าไม่มีผู้แทนให้ถือว่าผู้นั้นหลีกเลี่ยงขัดขืด

 

 

 

 

 

555  นังแต๋มอ่านฏีกาไม่เป็นว่ะ..

 

     

[Tam-mic-ra.]

สาระน่ารู้เกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร หน้าที่ของลูกผู้ชายไทย

http://www.thaiembas...q/taharn02.html

๒๑ ถาม ทหารกองเกินต้องไปรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหารเมื่อใด  

ตอบ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุย่างเข้า ๒๑ ปี (๒๐ ปีบริบูรณ์) ใน พ.ศ. ใด ต้องไปขอรับหมายเรียกที่อำเภอภูมิลำเนาทหารของตนภายใน พ.ศ.นั้น (ภายใน ๓๑ ธ.ค.)      

 

๒๒ ถาม ถ้าไปรับหมายเรียกด้วยตนเองไม่ได้ จะให้บุคคลอื่นไปรับหมายเรียกแทนได้หรือไม่  

ตอบ ถ้าไปรับด้วยตนเองไม่ได้ต้องให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะและเชื่อถือได้ไปรับแทน โดยการมอบฉันทะ แต่การจะให้รับหมายหรือไม่อยู่ในดุลพินิจของนายอำเภอ      

 

๒๓ ถาม ถ้าไม่ไปรับหมายเรียกฯ ภายในกำหนด จะมีความผิดหรือไม่ อย่างไร  

ตอบ ถ้าไม่ไปรับหมายเรียกฯ ภายในกำหนด หรือไม่มีผู้แทนไปรับถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืนมีโทษเท่ากับไม่ไปลงบัญชีทหาร กองเกินข้างต้น (โทษจำคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๓๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)      

 

๒๔ ถาม ผู้ที่ได้รับการผ่อนผันไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ต้องไปรับหมายเรียกหรือไม่  

ตอบ บุคคลดังกล่าวไม่ต้องไปรับหมายเรียกแต่อย่างใด

 

 

ถ้ามาร์คได้รับการผ่อนผันไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ จริง

แล้วทำไมจึงใช้ใบรับรอง(ผ่อนผันเรียนในประเทศ)    ไปยื่นสมัคร จปร.หล่ะ   พวกคุณวนมา ผมก็จะถามวนไปมาอยู่นี่แหล่ะ 

[Tam-mic-ra.]

แมงหวี่บ้าบ๊องส์ ไปวิ่งเล่นหน้าบ้านก่อนไป๊   มาเอาแต่จิกกัดไม่มีสาระเลย ไอนี่ชอบป่วนกระทู้พังทุกที

Edited by Tam-mic-ra., 20 July 2013 - 17:29.

[55555]

แมงหวี่บ้าบ๊องส์ ไปวิ่งเล่นหน้าบ้านก่อนไป๊   มาเอาแต่จิกกัดไม่มีสาระเลย ไอนี่ชอบป่วนกระทู้พังทุกที

 

 

ยอมรับดีกว่าว่า เป็นควายอวดฉลาด อ่านฎีกาไม่เป็นเอามาอ้างสรุปมั่ว ๆ ..

 

กระทู้มันไร้สาระตั้่งแต่ เอ็งจัมไม จัมไม วนไปวนมาแล้่วนังแต๋ม

 

ยังหน้าด้านอวดตัวว่ามีสาระกว่าคนอื่นอี่ก..

 

ข้าไม่ใช่พวกด่าอย่างเดียว...แต่ตอบไป อธิบายไป ด่าไป ว่ะ

 

 

 

ชอบจริง ๆ ว่ะนังแต๋ม ไอ้ลิงตัวเนี้ย

Edited by 55555, 20 July 2013 - 17:42.

[lagrangian]

ใครที่สงสัยว่า เขตพระโขนงออกหมายมาร์คเรียกหรือไม่  ก็ดูอันนี้ละกัน

 

 

คนที่ถูกหมายเรียกเท่านั้น จึงจะมีชื่อว่าเป็นคนไม่เข้ารับการตรวจเลือก

แสดงว่าเขตพระโขนงออกหมายเรียกไว้แล้วแน่นอนครับ และแจ้งให้มาร์คไปรับหมายเรียก เดือน มราคม 2530 แล้ว  

ตกหลุมแล้วเจ็บมั้ยครับ

คุณอ้างได้ว่า ต้องมีหมายเรียกถึงจะมีชื่ออยู่ในเอกสารนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีใครได้เห็น หมายเรียกมาร์คเลย

แต่พอคนอื่นอ้างว่า ต้องมี สด. 41 เท่านั้น ถึงจะมีชื่ออยู่ใน สด. 20 ได้ คุณกลับไม่รับหลักการนี้

 

ผมอ้างเรื่องหมายเรียกก็เพื่อจะมาหักล้างกับคุณเรื่อง สด. 20 ,สด. 41 นี่แหละครับ

 

แต่สิ่งที่ผมได้รู้เพิ่มคือ คุณไม่มีความรู้เรื่องหลักกฎหมายอาญาเลย ไม่รู้จักคำว่าองค์ประกอบความผิด

[lagrangian]

ใครที่สงสัยว่า เขตพระโขนงออกหมายมาร์คเรียกหรือไม่  ก็ดูอันนี้ละกัน

 

 

คนที่ถูกหมายเรียกเท่านั้น จึงจะมีชื่อว่าเป็นคนไม่เข้ารับการตรวจเลือก

แสดงว่าเขตพระโขนงออกหมายเรียกไว้แล้วแน่นอนครับ และแจ้งให้มาร์คไปรับหมายเรียก เดือน มราคม 2530 แล้ว  

ว่ากันด้วยเรื่ององค์ประกอบความผิดตามมาตรา 27 กับ มาตรา 45 นะครับ

องค์ประกอบความผิด

1. เป็นทหารกองเกิน
2. นายอำเภอได้ประกาศให้ไปรับหมายเรียกแล้ว
3. ได้ไปรับหมายเรียก
4. ไม่มีเหตุให้ผ่อนผัน(หรืออาจจะผ่อนผันไม่ทันก็ได้)
5. ไม่ไปรับการตรวจเลือก หรือไปแต่อยู่ไม่ครบขั้นตอน

ขาดข้อหนึ่งข้อใดไป ไม่ถือว่าเป็นความผิด

 

ทีนี้ถ้าจะเอาผิดมาร์คให้ได้ก็ต้องให้ครบทั้ง 5 ข้อข้างบนนี่แหละครับ เอาแค่เอกสารข้างบนมาอย่างเดียวไม่ได้

 

อย่างที่ผมเคยบอกว่าทางสัสดีลงหลักฐานไว้ว่าไม่รับการตรวจเลือก ตั้งแต่ปี 31 - 36 เอกสารข้างบนนี้ก็ขาดความน่าเชื่อถือแล้วครับ

Edited by lagrangian, 20 July 2013 - 18:25.

[Tam-mic-ra.]

 

ใครที่สงสัยว่า เขตพระโขนงออกหมายมาร์คเรียกหรือไม่  ก็ดูอันนี้ละกัน

 

 

 

คนที่ถูกหมายเรียกเท่านั้น จึงจะมีชื่อว่าเป็นคนไม่เข้ารับการตรวจเลือก

แสดงว่าเขตพระโขนงออกหมายเรียกไว้แล้วแน่นอนครับ และแจ้งให้มาร์คไปรับหมายเรียก เดือน มราคม 2530 แล้ว  

ว่ากันด้วยเรื่ององค์ประกอบความผิดตามมาตรา 27 กับ มาตรา 45 นะครับ

องค์ประกอบความผิด

1. เป็นทหารกองเกิน
2. นายอำเภอได้ประกาศให้ไปรับหมายเรียกแล้ว
3. ได้ไปรับหมายเรียก
4. ไม่มีเหตุให้ผ่อนผัน(หรืออาจจะผ่อนผันไม่ทันก็ได้)
5. ไม่ไปรับการตรวจเลือก หรือไปแต่อยู่ไม่ครบขั้นตอน

ขาดข้อหนึ่งข้อใดไป ไม่ถือว่าเป็นความผิด

 

ทีนี้ถ้าจะเอาผิดมาร์คให้ได้ก็ต้องให้ครบทั้ง 5 ข้อข้างบนนี่แหละครับ เอาแค่เอกสารข้างบนมาอย่างเดียวไม่ได้

 

อย่างที่ผมเคยบอกว่าทางสัสดีลงหลักฐานไว้ว่าไม่รับการตรวจเลือก ตั้งแต่ปี 31 - 36 เอกสารข้างบนนี้ก็ขาดความน่าเชื่อถือแล้วครับ

 

5 ข้อที่คุณเขียนมา ตั้งขึ้นมาเองหรือเปล่า

โดยเฉพาะข้อ 3  ผมว่า ขัดกับ พรบ. มาตรา ๒๕  นะ

 

คุณข้าม  คคห. 518 ไปเฉยๆสะงั้นนะครับ  ผมอ้างไปทีนึงแล้ว

 

หรือหากคิดกันแบบพื้นๆ  คนที่ไม่ได้รับหมายเรียกนั้น  แม้ว่าสัสดีออกหมายเรียกแล้ว   จะกลายเป็นคนไม่ผิดได้อย่างไร?

หากคนเขียน เขายึดหลักกฏหมายแบบนี้ มันตลกนะครับ ผมว่านะ

[Tam-mic-ra.]

ส่วนกรณีผ่อนผันตาม สด.20   มันชัดเจนแล้วว่ามาร์คไม่มีการนำสืบใดๆได้เลย ว่าที่มามายังไง จึงไปมีชื่อในบัญชี สด.20 ได้

หรือสืบว่า  สด.41  มีจริงหรือไม่ !       ได้ไปทำเรื่องผ่อนผันกับทางหน่วยราชการจริงหรือไม่ !

 

 จะบอกว่าผมตกหลุมได้ไงครับ  ขนาดมาร์คคดีฟ้องจตุพรหมิ่น ศาลยังตัดสินว่าจตุพรไม่ได้หมิ่นเลย

[คนกรุงธน]

ส่วนกรณีผ่อนผันตาม สด.20   มันชัดเจนแล้วว่ามาร์คไม่มีการนำสืบใดๆได้เลย ว่าที่มามายังไง จึงไปมีชื่อในบัญชี สด.20 ได้

หรือสืบว่า  สด.41  มีจริงหรือไม่ !       ได้ไปทำเรื่องผ่อนผันกับทางหน่วยราชการจริงหรือไม่ !

 

 จะบอกว่าผมตกหลุมได้ไงครับ  ขนาดมาร์คคดีฟ้องจตุพรหมิ่น ศาลยังตัดสินว่าจตุพรไม่ได้หมิ่นเลย

ก็ชัดเจนไงครับ แต๋มอ่านตรงนี้เข้าใจหรือเปล่า...

 

และยังไม่ปรากฏว่าเอกสารที่จำเลยนำมาอ้างนั้น

โจทก์(มาร์ค)ได้โต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอมหรือเท็จ

พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบมาจึงมีเหตุตามสมควรที่ทำให้จำเลยมีความสงสัยและ เชื่อว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยปราศรัย

 

เห็นมั๊ย เป็นหน้าที่ของมาร์ค ในการนำสืบ แต่มาร์คพลาดตรงนี้ไง(ก็มันเกือบจะ25ปีแล้ว) จตุพรถึงหลุดคดี

Edited by คนกรุงธน, 20 July 2013 - 20:05.

[พอล คุง]

 

มีเรือง อยากถาม แต๋ม อยู่หลาย ข้อ ว่าจะถามแต่เมื่อวานละ แต่แดกเหล้าหนักไปหน่อยเลยไม่ได้เข้ามาถาม

 

1. หนังสือ สด.41 มีผลถึงอายุเท่าไหร่ ถึงตอนกลับไปเกณฑ์หรือเปล่า

 

2. หนังสือ สด.41 ถ้าครบกำหนดที่ต้องไปเกณฑ์ ต้องเอาสด.41 ตัวจริง หรือ ตัวสำเนา ไปยื่นให้กับทาง สัสดี ไหม และจะได้รับคืนไหม

 

3. กรณีของมาร์ค สด.41 เมื่อมาร์คไปสมัครเป็น อาจารย์ จปร มาร์คต้องเอาตัวจริงหรือตัวสำเนาไปสมัคร และ จะได้รับคืนไหม

 

4. หนังสือ สด.41 ทุกคนที่ผ่อนผัน หรือ สมัครไปเป็นทหารแล้ว ทุกคนจะได้หนังสือ สด.41 กลับคืนไหม

 

5. ถ้าไม่มีรายชื่อสด.41 หรือ หนังสือผ่่อน สาด.41 จะมีชื่ออยู่ในสด.20 และ สด.3 ไหม

 

เอา พรบ มาก้อได้ หรือกฎกระทรวงก้อได้ 

 

ช่วยตอบที

 

โควทมาถามแต๋ม ครับ

 

ทำตัวใหญ่ ๆ หน่อย กลัวแต๋มไม่เห็น

 

 

โควทมาถามแต๋มอีกรอบ

 

เพราะตอนนี้ยังไม่ได้บทสรุป สด41 เลย

 

แต๋มผู้รู้ทุึกเรื่อง ช่วยตอบที

Edited by พอล คุง, 20 July 2013 - 22:36.

[lagrangian]

 

 

ใครที่สงสัยว่า เขตพระโขนงออกหมายมาร์คเรียกหรือไม่  ก็ดูอันนี้ละกัน

 

 

 

คนที่ถูกหมายเรียกเท่านั้น จึงจะมีชื่อว่าเป็นคนไม่เข้ารับการตรวจเลือก

แสดงว่าเขตพระโขนงออกหมายเรียกไว้แล้วแน่นอนครับ และแจ้งให้มาร์คไปรับหมายเรียก เดือน มราคม 2530 แล้ว  

ว่ากันด้วยเรื่ององค์ประกอบความผิดตามมาตรา 27 กับ มาตรา 45 นะครับ

องค์ประกอบความผิด

1. เป็นทหารกองเกิน
2. นายอำเภอได้ประกาศให้ไปรับหมายเรียกแล้ว
3. ได้ไปรับหมายเรียก
4. ไม่มีเหตุให้ผ่อนผัน(หรืออาจจะผ่อนผันไม่ทันก็ได้)
5. ไม่ไปรับการตรวจเลือก หรือไปแต่อยู่ไม่ครบขั้นตอน

ขาดข้อหนึ่งข้อใดไป ไม่ถือว่าเป็นความผิด

 

ทีนี้ถ้าจะเอาผิดมาร์คให้ได้ก็ต้องให้ครบทั้ง 5 ข้อข้างบนนี่แหละครับ เอาแค่เอกสารข้างบนมาอย่างเดียวไม่ได้

 

อย่างที่ผมเคยบอกว่าทางสัสดีลงหลักฐานไว้ว่าไม่รับการตรวจเลือก ตั้งแต่ปี 31 - 36 เอกสารข้างบนนี้ก็ขาดความน่าเชื่อถือแล้วครับ

 

5 ข้อที่คุณเขียนมา ตั้งขึ้นมาเองหรือเปล่า

โดยเฉพาะข้อ 3  ผมว่า ขัดกับ พรบ. มาตรา ๒๕  นะ

 

คุณข้าม  คคห. 518 ไปเฉยๆสะงั้นนะครับ  ผมอ้างไปทีนึงแล้ว

 

หรือหากคิดกันแบบพื้นๆ  คนที่ไม่ได้รับหมายเรียกนั้น  แม้ว่าสัสดีออกหมายเรียกแล้ว   จะกลายเป็นคนไม่ผิดได้อย่างไร?

หากคนเขียน เขายึดหลักกฏหมายแบบนี้ มันตลกนะครับ ผมว่านะ

 

ผมว่าผมอ้างชัดเจนมาก ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 27(หลีกเลี่ยงขัดขืนการตรวจเลือก) และมีมาตรา 45 เป็นบทกำหนดโทษ

ส่วนการไม่ไปรับหมายเรียก เป็นความผิดตามมาตรา 25 และมีมาตรา 44 เป็นบทกำหนดโทษ

[lagrangian]

สังเกตุดี ๆ นะครับว่า ผมไม่เคยสรุปว่ามาร์คไม่ผิด

แต่ผมสรุปว่า ด้วยหลักฐานแค่นี้ไม่ควรจะมาสรุปว่ามาร์คผิด

หมายความว่าถ้ามีหลักฐานอื่น ๆ มาเพิ่มเติม ผมอาจจะสรุปเป็นอย่างอื่นก็ได้

[55555]

 

 

มีเรือง อยากถาม แต๋ม อยู่หลาย ข้อ ว่าจะถามแต่เมื่อวานละ แต่แดกเหล้าหนักไปหน่อยเลยไม่ได้เข้ามาถาม

 

1. หนังสือ สด.41 มีผลถึงอายุเท่าไหร่ ถึงตอนกลับไปเกณฑ์หรือเปล่า

 

2. หนังสือ สด.41 ถ้าครบกำหนดที่ต้องไปเกณฑ์ ต้องเอาสด.41 ตัวจริง หรือ ตัวสำเนา ไปยื่นให้กับทาง สัสดี ไหม และจะได้รับคืนไหม

 

3. กรณีของมาร์ค สด.41 เมื่อมาร์คไปสมัครเป็น อาจารย์ จปร มาร์คต้องเอาตัวจริงหรือตัวสำเนาไปสมัคร และ จะได้รับคืนไหม

 

4. หนังสือ สด.41 ทุกคนที่ผ่อนผัน หรือ สมัครไปเป็นทหารแล้ว ทุกคนจะได้หนังสือ สด.41 กลับคืนไหม

 

5. ถ้าไม่มีรายชื่อสด.41 หรือ หนังสือผ่่อน สาด.41 จะมีชื่ออยู่ในสด.20 และ สด.3 ไหม

 

เอา พรบ มาก้อได้ หรือกฎกระทรวงก้อได้ 

 

ช่วยตอบที

 

โควทมาถามแต๋ม ครับ

 

ทำตัวใหญ่ ๆ หน่อย กลัวแต๋มไม่เห็น

 

 

โควทมาถามแต๋มอีกรอบ

 

เพราะตอนนี้ยังไม่ได้บทสรุป สด41 เลย

 

แต๋มผู้รู้ทุึกเรื่อง ช่วยตอบที

 

 

 

แอบไปตอบกันส่วนตัวป่าว..

 

 

[เพลิงสีนิล]

ดูท่าแต๋ม  คง Ctrl + Break  ออก loop ไปแล้วนะผมว่า  

[พอล คุง]

 

 

 

มีเรือง อยากถาม แต๋ม อยู่หลาย ข้อ ว่าจะถามแต่เมื่อวานละ แต่แดกเหล้าหนักไปหน่อยเลยไม่ได้เข้ามาถาม

 

1. หนังสือ สด.41 มีผลถึงอายุเท่าไหร่ ถึงตอนกลับไปเกณฑ์หรือเปล่า

 

2. หนังสือ สด.41 ถ้าครบกำหนดที่ต้องไปเกณฑ์ ต้องเอาสด.41 ตัวจริง หรือ ตัวสำเนา ไปยื่นให้กับทาง สัสดี ไหม และจะได้รับคืนไหม

 

3. กรณีของมาร์ค สด.41 เมื่อมาร์คไปสมัครเป็น อาจารย์ จปร มาร์คต้องเอาตัวจริงหรือตัวสำเนาไปสมัคร และ จะได้รับคืนไหม

 

4. หนังสือ สด.41 ทุกคนที่ผ่อนผัน หรือ สมัครไปเป็นทหารแล้ว ทุกคนจะได้หนังสือ สด.41 กลับคืนไหม

 

5. ถ้าไม่มีรายชื่อสด.41 หรือ หนังสือผ่่อน สาด.41 จะมีชื่ออยู่ในสด.20 และ สด.3 ไหม

 

เอา พรบ มาก้อได้ หรือกฎกระทรวงก้อได้ 

 

ช่วยตอบที

 

โควทมาถามแต๋ม ครับ

 

ทำตัวใหญ่ ๆ หน่อย กลัวแต๋มไม่เห็น

 

 

โควทมาถามแต๋มอีกรอบ

 

เพราะตอนนี้ยังไม่ได้บทสรุป สด41 เลย

 

แต๋มผู้รู้ทุึกเรื่อง ช่วยตอบที

 

 

 

แอบไปตอบกันส่วนตัวป่าว..

 

 

 

 

ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียกเลยครับ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาา

[55555]

ดูท่าแต๋ม  คง Ctrl + Break  ออก loop ไปแล้วนะผมว่า  

 

ผมเดาว่าคงกำลัง งง กับ เม้นท์นี้มั้าง

 

 

 

ใครที่สงสัยว่า เขตพระโขนงออกหมายมาร์คเรียกหรือไม่  ก็ดูอันนี้ละกัน

 

 

 

คนที่ถูกหมายเรียกเท่านั้น จึงจะมีชื่อว่าเป็นคนไม่เข้ารับการตรวจเลือก

แสดงว่าเขตพระโขนงออกหมายเรียกไว้แล้วแน่นอนครับ และแจ้งให้มาร์คไปรับหมายเรียก เดือน มราคม 2530 แล้ว  

 

ตกหลุมแล้วเจ็บมั้ยครับ

 

คุณอ้างได้ว่า ต้องมีหมายเรียกถึงจะมีชื่ออยู่ในเอกสารนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีใครได้เห็น หมายเรียกมาร์คเลย

 

แต่พอคนอื่นอ้างว่า ต้องมี สด. 41 เท่านั้น ถึงจะมีชื่ออยู่ใน สด. 20 ได้ คุณกลับไม่รับหลักการนี้

 

ผมอ้างเรื่องหมายเรียกก็เพื่อจะมาหักล้างกับคุณเรื่อง สด. 20 ,สด. 41 นี่แหละครับ

 

แต่สิ่งที่ผมได้รู้เพิ่มคือ คุณไม่มีความรู้เรื่องหลักกฎหมายอาญาเลย ไม่รู้จักคำว่าองค์ประกอบความผิด

 

 

ตั้งแต่โดนพอลคุงตบเกรียนเรื่อง พรบ. กพ. ก่อนหน้านี้ 4-5 หน้าแล้ว

 

ต้องถือว่าเม้นท์นี้ถือเป็นการสรุปความเป็นนังแต๋มได้เลย

 

    

[HiddenMan]

 

ใครที่สงสัยว่า เขตพระโขนงออกหมายมาร์คเรียกหรือไม่  ก็ดูอันนี้ละกัน

 

 

คนที่ถูกหมายเรียกเท่านั้น จึงจะมีชื่อว่าเป็นคนไม่เข้ารับการตรวจเลือก

แสดงว่าเขตพระโขนงออกหมายเรียกไว้แล้วแน่นอนครับ และแจ้งให้มาร์คไปรับหมายเรียก เดือน มราคม 2530 แล้ว  

ตกหลุมแล้วเจ็บมั้ยครับ

คุณอ้างได้ว่า ต้องมีหมายเรียกถึงจะมีชื่ออยู่ในเอกสารนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีใครได้เห็น หมายเรียกมาร์คเลย

แต่พอคนอื่นอ้างว่า ต้องมี สด. 41 เท่านั้น ถึงจะมีชื่ออยู่ใน สด. 20 ได้ คุณกลับไม่รับหลักการนี้

 

ผมอ้างเรื่องหมายเรียกก็เพื่อจะมาหักล้างกับคุณเรื่อง สด. 20 ,สด. 41 นี่แหละครับ

 

แต่สิ่งที่ผมได้รู้เพิ่มคือ คุณไม่มีความรู้เรื่องหลักกฎหมายอาญาเลย ไม่รู้จักคำว่าองค์ประกอบความผิด

 

 

 

[Tam-mic-ra.]

 

 

 

 

มีเรือง อยากถาม แต๋ม อยู่หลาย ข้อ ว่าจะถามแต่เมื่อวานละ แต่แดกเหล้าหนักไปหน่อยเลยไม่ได้เข้ามาถาม
 
1. หนังสือ สด.41 มีผลถึงอายุเท่าไหร่ ถึงตอนกลับไปเกณฑ์หรือเปล่า
 
2. หนังสือ สด.41 ถ้าครบกำหนดที่ต้องไปเกณฑ์ ต้องเอาสด.41 ตัวจริง หรือ ตัวสำเนา ไปยื่นให้กับทาง สัสดี ไหม และจะได้รับคืนไหม
 
3. กรณีของมาร์ค สด.41 เมื่อมาร์คไปสมัครเป็น อาจารย์ จปร มาร์คต้องเอาตัวจริงหรือตัวสำเนาไปสมัคร และ จะได้รับคืนไหม
 
4. หนังสือ สด.41 ทุกคนที่ผ่อนผัน หรือ สมัครไปเป็นทหารแล้ว ทุกคนจะได้หนังสือ สด.41 กลับคืนไหม
 
5. ถ้าไม่มีรายชื่อสด.41 หรือ หนังสือผ่่อน สาด.41 จะมีชื่ออยู่ในสด.20 และ สด.3 ไหม
 
เอา พรบ มาก้อได้ หรือกฎกระทรวงก้อได้ 
 
ช่วยตอบที

 
โควทมาถามแต๋ม ครับ
 
ทำตัวใหญ่ ๆ หน่อย กลัวแต๋มไม่เห็น

 

 
โควทมาถามแต๋มอีกรอบ
 
เพราะตอนนี้ยังไม่ได้บทสรุป สด41 เลย
 
แต๋มผู้รู้ทุึกเรื่อง ช่วยตอบที

 

 
 
แอบไปตอบกันส่วนตัวป่าว..
 
 

 

 
ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียกเลยครับ
 
ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

 

 

 โถๆๆๆ   ใครจะไปเถียงสู้ผู้เชี่ยวชาญที่สุดในโลก  ด้านการ_หนีทหาร  แห่ง สรท.    อย่างพี่พอลได้หล่ะคราบบ 

พี่พอลเป็นชายไทยที่พิเศษมากๆ  อายุ18ก็ถูกเรียกไปเกณแล้ว

 

วนไปวนมาอยู่นี่แหล่ะ      เอางี้ดิ่  ฝากไปถามมาร์คที่เฟสหรือที่ไหนก็ได้  มาให้หน่อยสิ่

ว่าไปทำเรื่องผ่อนผันจริงหรือเปล่า     

[พอล คุง]

 

 

 

 

 

มีเรือง อยากถาม แต๋ม อยู่หลาย ข้อ ว่าจะถามแต่เมื่อวานละ แต่แดกเหล้าหนักไปหน่อยเลยไม่ได้เข้ามาถาม
 
1. หนังสือ สด.41 มีผลถึงอายุเท่าไหร่ ถึงตอนกลับไปเกณฑ์หรือเปล่า
 
2. หนังสือ สด.41 ถ้าครบกำหนดที่ต้องไปเกณฑ์ ต้องเอาสด.41 ตัวจริง หรือ ตัวสำเนา ไปยื่นให้กับทาง สัสดี ไหม และจะได้รับคืนไหม
 
3. กรณีของมาร์ค สด.41 เมื่อมาร์คไปสมัครเป็น อาจารย์ จปร มาร์คต้องเอาตัวจริงหรือตัวสำเนาไปสมัคร และ จะได้รับคืนไหม
 
4. หนังสือ สด.41 ทุกคนที่ผ่อนผัน หรือ สมัครไปเป็นทหารแล้ว ทุกคนจะได้หนังสือ สด.41 กลับคืนไหม
 
5. ถ้าไม่มีรายชื่อสด.41 หรือ หนังสือผ่่อน สาด.41 จะมีชื่ออยู่ในสด.20 และ สด.3 ไหม
 
เอา พรบ มาก้อได้ หรือกฎกระทรวงก้อได้ 
 
ช่วยตอบที

 
โควทมาถามแต๋ม ครับ
 
ทำตัวใหญ่ ๆ หน่อย กลัวแต๋มไม่เห็น

 

 
โควทมาถามแต๋มอีกรอบ
 
เพราะตอนนี้ยังไม่ได้บทสรุป สด41 เลย
 
แต๋มผู้รู้ทุึกเรื่อง ช่วยตอบที

 

 
 
แอบไปตอบกันส่วนตัวป่าว..
 
 

 

 
ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียกเลยครับ
 
ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

 

 

 โถๆๆๆ   ใครจะไปเถียงสู้ผู้เชี่ยวชาญที่สุดในโลก  ด้านการ_หนีทหาร  แห่ง สรท.    อย่างพี่พอลได้หล่ะคราบบ 

พี่พอลเป็นชายไทยที่พิเศษมากๆ  อายุ18ก็ถูกเรียกไปเกณแล้ว

 

วนไปวนมาอยู่นี่แหล่ะ      เอางี้ดิ่  ฝากไปถามมาร์คที่เฟสหรือที่ไหนก็ได้  มาให้หน่อยสิ่

ว่าไปทำเรื่องผ่อนผันจริงหรือเปล่า     

 

 

แล้วทำไม เอ๊ง ถึงไม่ตอบคำถามละว้า

 

หรือว่า ตอบแล้วกลัวจะแถไม่ได้

 

ช่วยตอบหน่อยสิ

[Tam-mic-ra.]

คำถามบ๊องส์ๆวนไปวนมา ขี้เกียจพิมตอบหว่ะ

เรื่องของเรื่องคือ ไม่มีการผ่อนผันหว่ะ ไอพอล

หาข้อมูลเองแล้วกัน ว่าผ่อนผันหรือเปล่า  ขนาดศาลยังเอาผิดจตุพร คดีหมิ่นมาร์คไม่ได้เลย

เอ๊งอย่าไปเชื่อ    ว่าแค่มีชื่อใน สด.20 ก็เท่ากับถูกต้อง          อย่าแกล้งโง่เลยหว่ะ    

[คนกรุงธน]

คำถามบ๊องส์ๆวนไปวนมา ขี้เกียจพิมตอบหว่ะ

เรื่องของเรื่องคือ ไม่มีการผ่อนผันหว่ะ ไอพอล

หาข้อมูลเองแล้วกัน ว่าผ่อนผันหรือเปล่า  ขนาดศาลยังเอาผิดจตุพร คดีหมิ่นมาร์คไม่ได้เลย

เอ๊งอย่าไปเชื่อ    ว่าแค่มีชื่อใน สด.20 ก็เท่ากับถูกต้อง          อย่าแกล้งโง่เลยหว่ะ    

ก็มั่วมาโยงกันได้นะ
ศาลไม่ได้ตัดสินเรื่องเกี่ยวกับมาร์คเป็นทหารหรือไม่
ศาลตัดสินเรื่องคดีหมิ่นประมาท และมองว่าเป็นการพูดโดยขาดเจตนาหมิ่นประมาท

 

แล้วแต๋มยังจะเอามาโยงอีกหรือนี่

อ่านกฏหมายไม่รู้เรื่องเลยนี่หว่า...

[55555]

555

 

นังแต๋มไม่มีปัญญาตอบพอลคุง แถมโชว์มั่วฏีกาอีก

 

อ่านฏีกายังอ่านไม่เป็น....แต่ทำอวดภูมิ เรื่อง กฏหมาย

 

ฮาาาาา

 

 

ทำไมนังแต๋มมันถึงโง่ขนาดนี้เนี่ย จ่๋อขำจัง

[ยิ่งรัก(โพย)]

เห็นกระทู้ให้เข้ามาหาความรู้ แต่ทำไมผมต้องเข้ามาแล้วฮา 

[พอล คุง]

 

คำถามบ๊องส์ๆวนไปวนมา ขี้เกียจพิมตอบหว่ะ

เรื่องของเรื่องคือ ไม่มีการผ่อนผันหว่ะ ไอพอล

หาข้อมูลเองแล้วกัน ว่าผ่อนผันหรือเปล่า  ขนาดศาลยังเอาผิดจตุพร คดีหมิ่นมาร์คไม่ได้เลย

เอ๊งอย่าไปเชื่อ    ว่าแค่มีชื่อใน สด.20 ก็เท่ากับถูกต้อง          อย่าแกล้งโง่เลยหว่ะ    

ก็มั่วมาโยงกันได้นะ
ศาลไม่ได้ตัดสินเรื่องเกี่ยวกับมาร์คเป็นทหารหรือไม่
ศาลตัดสินเรื่องคดีหมิ่นประมาท และมองว่าเป็นการพูดโดยขาดเจตนาหมิ่นประมาท

 

แล้วแต๋มยังจะเอามาโยงอีกหรือนี่

อ่านกฏหมายไม่รู้เรื่องเลยนี่หว่า...

 

 

ผมก้อผิดหวังครับ

 

อุตสา ถามเรื่อง สด.41 ที่แต๋ม เค้าบอกว่า มาร์คไม่มี

 

เค้าเชี่ยวชาญว่า มาร์คไม่ได้ผ่อนผัน 

 

แต่ทำไมไม่ตอบไม่รู้

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาา

[HiddenMan]

ดันซะหน่อย...