Jump to content


Photo
- - - - -

รับมือกับวิกฤตในชีวิต เพื่อนๆ ทำอย่างไรบ้างคะ ปล.สงวนสิทธิ์ไม่ให้เสื้อแดงเข้ามาในกระทู้


  • Please log in to reply
40 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 22:32

*
POPULAR

จากปัญหาเช่นข้าวเน่า ทำให้รู้สึกว่าการพึ่งพาอาหารนอกบ้านมากเกินไป 

 

 

เป็นการบั่นทอนสุขภาพชีวิตของเราทางอ้อม เลยคิดว่าจะปรับสมดุลชีวิตใหม่

 

 

บวกกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นเลยคิดว่าจะผลิตอาหารเอง แล้วก็ทำบัญชีครัวเรือนควบคุมค่าใช้จ่ายด้วย

 

 

เพื่อนๆ ท่านใดมีประสบการณ์ดีๆ ก็มาแชร์กันได้นะคะ ^_^

 

 

เริ่มปรับจากข้าวขาวไปเป็นข้าวกล้อง 

 

yxkakM.JPG

 

พื้ชผักก็ปลูกเองมากขึ้น อย่างเพาะถั่วงอก เพาะเห็ด กระเพราโหระพาก็มีนะ 

 

 

7K5qBo.JPG

 

 

yzhLsv.JPG

 

ส่วนลูกๆ ก็แฮ่ๆ ผักหญ้าข้างทางมากขึ้น

 

2gaPvs.JPG

 

 

ปล.ตอนนี้ใครใช้เงินได้วันละ 100 บ้างคะ 



#2 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 22:55

สมัยหนึ่ง... พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย... ภิกษุเหล่านั้นรับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคว่า พระเจ้าข้า... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า...
 
... ดูกรภิกษุทั้งหลาย... เราฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว เมื่อเราฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว ย่อมรู้สึกคุณ คือความเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคเบาบาง กายเบา มีกำลัง และอยู่สำราญ ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เธอทั้งหลายจงมา จงฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียวเถิด ด้วยว่าเมื่อเธอทั้งหลายฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว จักรู้สึกคุณคือความเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคเบาบาง กายเบา มีกำลัง และอยู่สำราญ...
 
^_^  นี่แหละวันละร้อยได้แน่ๆขอรับ... พยายามอยู่ทุกวันนี้...

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#3 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 22:59

เหมือนกันค่ะ ว่าจะลดเหลือ 2 มื้อ

 

 

เพราะรู้สึกว่าเงินตึงตัวมาก 



#4 คนบูรพา

คนบูรพา

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,290 posts

ตอบ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 23:10

ผมไม่ค่อยเดือดร้อนอยู่แล้วครับ....เรื่องกิน เรื่องอยู่......(เพราะปกติก็ไม่ค่อยจะมีกินอยู่แล้ว)....

 

ง่ายๆครับ......เก็บผักตำลึง ยอดกระถิน มาลวกจิ้มน้ำพริก.....ก็อยู่ได้แล้วครับ.....

 

วันไหน VIP หน่อย.....ก็กินต้มยำครับ.......แต่เป็นมาม่า รสต้มยำนะครับ......

 

นี้ล่ะครับ....วิถีชีวิต.....ของอำมาตย์อย่างแท้จริง....... :D 

 

IMG_3171-1024x768.jpg


ถ้าไม่คิดจะตอบแทนแผ่นดิน ก็จงอย่าทำลาย

#5 Sailom

Sailom

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 18 posts

ตอบ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 23:22

สะกดคำว่า พอ ให้เป็น ก็เป็นสุขได้ค่ะ



#6 แตงดุ๊ด

แตงดุ๊ด

    แsดอย่างสงบตบเมื่อจำเป็นสะตออย่างเยือกเย็นเพราะน้องเป็นไฮโซ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,649 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 00:05

*
POPULAR

ตอนนี้น้องแตงกำลังไดเอทคะ เลยไม่ค่อยได้กินแป้ง ชีวิตช่วงนี้จึงค่อนข้างปลอดภัยจากข้าวคุณภาพไร้สารพิษของรัฐบาล เน้นกินผลไม้บางวันซื้อฝรั่งไร้เมล็ดมา 3 ลูกกินมันทั้งวัน หิวหน่อยก็กินนมเพิ่ม ประหยัดเงินแถมสวยแล้วเอาเงินไปลงทุนกับเรียนภาษาเตรียมรับAEC จะได้ฉลาดๆไม่ต้องอ่านโพยโง่ๆจะได้มีทางเลือกด้านการงานมากขึ้นในอนาคต สวยด้วยฉลาดด้วยตรงข้ามกับนายกบางประเทศเลยนะคะ


ต่อต้านนังเพศแม่เสื้อแดงมือเปื้อนเลือดแถมเปื้อนน้ำกาม


#7 สยาม

สยาม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 745 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 03:22

กินผลไม้โลนึง ได้ประโยชน์ ได้รสชาติ ได้วิตามิน มากกว่ากินน้ำอัดลมเปรี้ยวๆหวานๆหรือของจุบจิบเยอะ



#8 เป้_อูซี่

เป้_อูซี่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 863 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 04:41

ผมจะหนักไปทางยอดข้าวครับ ไม่ค่อยได้กินข้าวเท่าไหร่
55555+

#9 ชามู

ชามู

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,296 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 06:12

เหมือนกันค่ะ ว่าจะลดเหลือ 2 มื้อ
 
 
เพราะรู้สึกว่าเงินตึงตัวมาก



ผมก็เหลือสองมื้อต่อวันครับ
ไม่ใช่เพราะเงินตึงตัว
แต่เพราะน้ำหนักตึงพุงมากกว่า
ชามู ปลาวาฬตัวใหญ่ ใจดี

#10 ของแท้ตราแมวขี่ควายแดง

ของแท้ตราแมวขี่ควายแดง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 562 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 07:08

เรื่่องนี้หนักใจครับ คงต้องประหยัดๆไว้นะครับ พยายามไม่กู้ ถ้าไม่อะไรจำเป็นมากยืมคนรู้จักดีกว่า  (ยังไงก็ไม่ติดเครดิตบูโร 555) ห่วงครับกลัวตื่นขึ้นมาเงินที่เก็บไว้ มันจะหมดค่า เหมือนซิมบับเว ตังค์ก็ดันไม่เยอะขนาดไปซื้อทองเก็บไว้ เหอๆๆๆ 


ขอให้สันติสุข จงหวลคืนมาสู่ผื่น แผ่นดินไทย

#11 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 07:37

ทำนาน แล้ว ฮับ !

 

หาความสุข จาก อินเตอร์เนต ของที่ทำงาน ครับ

 

ถ้าเป็น ตะก่อน นะครับ

 

ผมจะชอบ ท่องเที่ยว มากเลย (เที่ยว ในเนต นะ)

 

เวบ ที่ผมชอบมาก (ไม่ได้ค่า โฆษณานะ)

 

คือ thaiweekender แหม เค้า ละเอียด ยิบ

 

อย่างกับ ไปเอง อะครับ นั่งรถเมล์ ไปได้เลย

 

มีถ่าย เป็น shot ๆ (ภาษาวิบัติ) ไม่หลง แน่นอน

 

 

ได้บรรยากาศ มาก ๆ ผมเอง ชอบ เกาะสีชัง เป็นพิเศษ

 

โดย เฉพาะ สะพาน อัษฎางค์ (อย่างกับ เคยมีความหลัง ในชาติปางก่อน อึ๊ย ! หวานซะ)

 

โรแมนติค สุด ๆ ถ้าได้ ไปเดิน กับ คนรู้ใจ (คงแต่งงาน ไปแล้ว ตรู จะ 40 แล้วหนิ)

 

โว้ว สุดยอด สวรรค์ แท้ ๆ

 

 

แหะ ๆ จินตนาการ ไปเรื่อย อะครับ

 

แต่มีรูป ให้ดู ความสุข เล็ก ๆ น้อย ๆ อะครับ

 

แหะ ๆ เอา อะไร มากมาย ไปเอง ก็ อย่างน้อย ต้องค่ารถ

 

ตอนนี้ ต้อง ประหยัด สุด ๆ อะ

 

ไปทาง แดน อักษร แล้วกันนะ (ฮึ๊ย เลียนแบบ ใครฟะ )

 

ไปเที่ยว แล้ว จะเอา ลม มาฝากแล้วกัน


ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY


#12 nnnn43

nnnn43

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,771 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 09:05

ดำเนินชีวิตตามรอยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ชีวิตก็จะมีความสุข :lol:

777888.JPG

 

 


ผู้ที่ขาดคุณธรรม ย่อมไม่มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ ผู้ที่ขาดความรู้ ย่อมไม่มีสายตาอันกว้างไกล พูดคนฉลาดหนี่งคำ พูดคนโง่ร้อยคำ

#13 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 09:14

ผมทาน 1 มื้อต่อวันในช่วงนี้

 

รอมดอน

 

จริงๆคนอื่นๆก็ตื่นมาทานหัวรุ่น(ตี 3-4 )แต่ผมรู้สึกไม่หิวเลยไม่ทาน

 

ไปๆมาๆ ปัจจุบันทานมื้อเดียว  ผมกำลังอ่านชีวประวัติ สตีฟ จ๊อบ ทำให้ผมมองอะไรเปลี่ยนไปเกี่ยวกับการกิน

 

ผมว่าการดำรงชีวิตอย่างพอดีนั้นดีกว่าการตึงไปทางใดทางหนึ่ง  เพราะท้ายที่สุดการกินแบบชีวะจิตหรืออะไรแล้วแต่ก็ยั้งชีวิต จ๊อบจากมะเร็งไม่ได้



#14 sudthorn

sudthorn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 09:55

- ชีวิตจะสุขเราต้องเป็นตัวของตัวเอง อย่าให้ใครหรืออะไรมาเป็นนายของเราได้
- อย่ายอมไปเป็นขี้ข้าของอะไรทั้งนั้น
- สุขทุกข์นั้นเราเป็นคนทำให้ตัวเองทั้งนั้น ฉะนั้นเราเป็นคนเลือกเอง เราเป็นคนกำหนดครับผม
- เมื่อไรที่ทุกข์เข้ามากระทบตัว เรานอนหลับก่อน พอตืนเวลาผ่านไป ทุกอย่าง ก็ดูดีขึ้น
- วันนี้มีเงินก็ใช้ครับผม ก็เลยใช้เที่ยวกับกิน ไม่ต้องเก็บ เพราะตายไปก็กลายไปเป็นของคนอื่น
- ไม่มีเงินก็หยุดใช้ครับผม สามารถอยู่กับตัวเองได้ หาอะไรทำไปวัน ๆ ได้ครับผม
- อย่าหมกมุ่นว่าเราต้องการอะไร คนอื่นต้องทำตามเรา ความเห็นต่างเป็นสิ่งดี ครับผม
จะได้มีความคิดหลากหลาย แล้วเราก็ตัดสินเลือกดีที่สุดของเรา แต่ถึงแม้เลือกผิด ก็ไม่ต้อง
พูมพาย ทางแก้ไขมีเสมอ ครับผม เพียงแต่ไม่ต้องชี้นิ้วว่าเป็ยข้อเสนอใครเท่านั้น
- เกิดมาต้องรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก การเป็นสัตว์สังคม ต้องมีคุณธรรม จริยธรรม ปฎิบัติตาม
กฎ ระเบียบ กฎหมาย ครับ

- ชีวิตนี้เรามีสุขแล้วครับผม เพื่อนมีมากมาย เที่ยวก็ใช้เงินเพียงค่าเดินทางกับกิน ทำบุญบ้าง
ที่อยู่อาศัยมีเพือน มีวัด วันใดไม่มีเงิน เพื่อนที่มีก็ให้อาหารเราได้ครับผม ไม่ต้องกล้วอดตาย
ตายไปอย่างน้อยก็มีความสุข เพราะชีวิตเราไม่ได้โกงใคร ไม่ได้เอาผลประโยชน์ของคนอื่น
ของชาติมาเป็นของตัวเอง ไม่ได้เอาเปรียบใคร ไม่ได้รับจ้างใครไปชุมนุม ไปทำชั่ว

เราไปชุมนุมหน้ากากขาวเพื่อให้รัฐบาลหยุดทำชั่ว หยุดทำให้ชาติล้มละลาย ครับผม

Edited by sudthorn, 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:01.

คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

#15 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:03

ผมก้อไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ

 

ยังดีที่ผม ปลูกข้าวเอง ทั้งขาย และ เก็บไว้กินเองบ้างนะครับ (ข้าวเหนี่ยว ครับ)

 

เพราะบ้านมียุ้งฉาง ไว้เก็บข้าวอยู่แล้ว เลยไม่ลำบากเท่าไหร่ 

 

แต่ถ้าเป็นข้าวสาร ปกติ ก้อซื้อจากสหกรณ์ โดยตรงครับ 

 

สหกรณ์จะเอาข้าวมาขายให้ ไม่ใช่จากโครงการจำนำ นะ 

 

สหกรณ์มีข้าวเป็นของตัวเอง ผมก้อไปซื้อมากิน ปลอดภัยหน่อย

 

รวมถึงบ้านผมขายก๋ววยเตี๋ยว อาหารตา่มสั่งด้วย เลยไม่ลำบากการกินเท่าไหร่

 

แต่สิ่งที่ลดคือ เหล้าเบียร์ ครับ ปกติ กินเยอะเหมือนกัน วัน 2-300 บ้างวันก้อ 4-5 ร้อย (เชียงใหม่นะ ครับ ถ้ากรุงเทพ เงินแค่นี้ ทำไรไม่ได้ ห้าาาาา)

 

ตอนนี้เหลือ วันละ 100 - 200 แค่นี้ครับ

 

ปล. ช่วงนี้งดเหล้าเข้าพรรษา ครับ แต่ไม่รู้จะทำได้กี่วัน  :D

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาา


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#16 ตอม คูโบต้า

ตอม คูโบต้า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 491 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:13

,มันเสรีไทยตรงไหนเนีย



#17 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:13

พวกไพร่เสื้อแดง บัตรเติมเงินหน้าใหม่และปลาร้าเก่าในไหใหม่ เชื่อฟังเจ้าของกระทู้...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

 

ถ้าไม่มีบัตรเติมเงินซื้ออาหารบริโภคฟุ่มเฟือย....

สุขภาพดีขึ้น ไม่มีไขมันส่วนเกิน....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

 

ขอถอนคำพูด...

มาทันทีทันใด.....ฮา


Edited by ปุถุชน, 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:15.

เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#18 sudthorn

sudthorn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:29

,มันเสรีไทยตรงไหนเนีย

คุณตอมครับผม

ใครพูดอะไร ไม่ต้องเชื่อครับผม คุณต้องดูว่ากฎ ระเบียบของเวปครับผม
คุณเขียนอย่างนี้ จะทำให้คนทั่วไปรู้ว่า พอใครบอกอะไรคุณเชื่อหมด
แต่ความจริงคุณยังดีกว่าคนเสื้อแดงอื่น ๆ หน่อย ที่คุณรู้จักถาม
ยังมีความสงสัย ถามมาก ๆ สงสัยมาก ๆ ครับผม

เช่นรัฐบาลใช้นโยบายประชานิยมกับผู้คนทำไม
- รถคันแรก ทั้ง ๆ ที่ถนนก็แทบไม่มีที่ขับ รถก็แทบไม่ขยับ
- จำนำข้าว การขายข้าวของเรากำลังพัง เคยอยู่อันดับ 1 คุณภาพข้าวเคยเป็นที่ 1
ไหงวันนี้ข้าวส่งออกไม่ได้ ไอ้จีทูจีก็โกหกทั้งเผ ข้าวเน่าในโกดัง ชาวนาไม่ได้เงิน
15,000 บาท ส่วนต่างไปอยู่ไหน รายการนี้มีคำถามมากมาย แม้แต่ทำเป็น
ของที่ระลึก 2-3 ขีดแถมหม้อนี่จะช่วยขายข้าวไทยได้หรือ
- กู้ 2 ล้านล้านนะ มาทำรถไฟความเร็วสูงเพื่ออะไรครับผม จำเป็นไหม
เงินจำนวนนี้สามารถไปทำให้ประชาชนฉลาดขึ้นได้มากกว่าไหม
ตั้งคำถามเยอะ ๆ ชวนกันตั้งคำถามจะได้หูตาสว่างครับผม จะได้รู้ว่าเป็นรัฐบาล
เสียงข้างมากจะให้อยู่ถึง 4 ปี ก็ทำประเทศเจ๊งไม่ได้ครับผม

Edited by sudthorn, 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:40.

คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี

#19 สุกี้น้อย

สุกี้น้อย

    หล่อสุดในเสรีไทย 55

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,636 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:42

จากปัญหาเช่นข้าวเน่า ทำให้รู้สึกว่าการพึ่งพาอาหารนอกบ้านมากเกินไป 

 

 

เป็นการบั่นทอนสุขภาพชีวิตของเราทางอ้อม เลยคิดว่าจะปรับสมดุลชีวิตใหม่

 

 

บวกกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นเลยคิดว่าจะผลิตอาหารเอง แล้วก็ทำบัญชีครัวเรือนควบคุมค่าใช้จ่ายด้วย

 

 

เพื่อนๆ ท่านใดมีประสบการณ์ดีๆ ก็มาแชร์กันได้นะคะ ^_^

 

 

เริ่มปรับจากข้าวขาวไปเป็นข้าวกล้อง 

 

yxkakM.JPG

 

พื้ชผักก็ปลูกเองมากขึ้น อย่างเพาะถั่วงอก เพาะเห็ด กระเพราโหระพาก็มีนะ 

 

 

7K5qBo.JPG

 

 

yzhLsv.JPG

 

ส่วนลูกๆ ก็แฮ่ๆ ผักหญ้าข้างทางมากขึ้น

 

2gaPvs.JPG

 

 

ปล.ตอนนี้ใครใช้เงินได้วันละ 100 บ้างคะ 

 

กระต่ายน่ากินอ่ะ ^_^



#20 Nong

Nong

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,124 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:18

ตอนนี้พยายามทำกับข้าวเอง

 

หุงข้าวเอง (ข้าวกล้องเหมือนกันค่ะ)

 

ใส่บาตรวันนี้ก็เอาข้าวกล้อง และกับข้าวทำเองไปใส่

 

(พระท่านจะได้ไม่ระแวงว่าข้าวเน่าหรือเปล่า  :D  :D  :D  :D )

 

แต่รู้สึกตอนนี้ตัวเองจะอวบขึ้นอีกนะนี่ไม่รู้ว่าเพราะทำกับข้าวอร่อยหรือเปล่า  :D  :D



#21 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:22

,มันเสรีไทยตรงไหนเนีย

 

 

 

กรุณาออกไปค่ะ 

 

ชิ้วๆ รังเกียจ 


Edited by pinkpanda, 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:38.


#22 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:26

เคยคิดแบบอวดฉลาดว่า  ในเมื่อประเทศไทยมันเกินเยียวยาแล้ว  ยังไงก็แก้ไม่ได้แล้ว  คนฉลาดๆอย่างเราก็  กอบโกยผลประโยชน์

จากระบอบทักษิณให้มากที่สุดดีกว่า (แล้วค่อยเอาผลประโยชน์ที่ได้มาย้อนกลับไปเล่นมันทีหลัง)  แต่สุดท้ายแล้วก็  เจ๊งครับ  

ขนาดผมไม่ได้หลงละเมอตด  แบบเสื้อแดงยังเอาไม่อยู่เลย  เข้าเนื้อไปนิดหน่อย  แล้วพวกแดงแท้ละเมอตดล่ะ?  หากโง่ดักดาน  

ฝีแตกขึ้นมามันไม่ตายอนาจหรอกหรอ   คิดแล้วสยองแทน   บทเรียนคราวนี้  ได้มาทบทวนตัวเอง  เพราะอะไรหนอ?  มันจึงไม่ประสบความสำเร็จ

หรือเพราะเราไม่เก่งพอ    หรือเป็นเพราะฝืนตัวเองมากไป  หน้าและหัวใจไม่ด้านพอ  หรือเพราะสิ่งที่ทำเป็นกรรมชั่วรูปแบบหนึ่งเลยโดนกรรมสนองรึเปล่าว?

(ข้อหา  ละเลย+ส่งเสริม  ทางอ้้อม  ต่อความชั่ว  โดยคิดหาประโยชน์จากความเสื่อมโทรมนั้น) 

น่าเสียดายน่าจะใช้เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงซะตั้งแต่แรก  ป่านนี้คงเก็บได้เยอะพอควร  ไม่ต้องไปเสี่ยงแบบนี้  ไม่คุ้มเลย


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#23 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:29

z7MYAg.JPG

 

 

มันออกแล้ว เย้ๆ 



#24 ต้นหอม

ต้นหอม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,472 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:35

ส่วนตัวใช้ชีวิตเหมือนเดิมแทบทุกอย่าง ไม่ใช่เพราะรวยหรืออะไร แต่มันเป็นนิสัยจนแม้กระทั่งคนในครอบครัวมองว่างกไปแล้ว :lol:  :lol:  :lol: อันไหนที่เราฟินได้ในส่วนที่พอจ่ายได้ก็จ่ายแม้ราคาค่อนข้างสูง เพราะอย่างน้อยมันจะทำให้เรารักษาสิ่งนั้น(เรียกอีกอย่างว่า"ใช้จนคุ้ม") และเห็นด้วยจริงๆว่ารายรับค่อนข้างลดลงอย่างเห็นได้ชัด


มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต

และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต

แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น


#25 kaidum

kaidum

    ขาดขา

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,125 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:48

ให้กำลังใจ จขกท ครับ ลองดูเถอะวิธีใหนที่เราไม่เคยลอง ก็ต้องลอง

ระยะยาวคงพอมองเห็นชัดขึ้น ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นครับ ในขณะที่เราติดภาพลักษณ์เดิมๆ

จึงไม่สามารถลดรายจ่ายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย น้ำมันนี่อย่างหนึ่ง ไม่รู้จะเซฟยังไง

ก็พ่อขึ้นวันเว้นวัน  จากเดือนละสี่พัน ขยับขึ้นเป็นห้าหกพัน   

 

จำว่าน้าโจโฉเคยเตือนเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจเอาไว้ คงต้องจำใจทิ้งภาพลักษณ์เดิมๆเพื่อเตรียมรับมือ

หากเกิดอะไรขึ้นมาจริง

 

กระถางเปล่ามีดิน ก็ปักโหระพา กะเพรา ผักกินง่ายเอาไว้ริมบ้านบ้างเด้อ


ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร

#26 ม่านน้ำ

ม่านน้ำ

    ผมเพิ่งมาครับ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,373 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:02

ไม่ประมาท
พึ่งพาตนเองให้มากที่สุด
กิน อยู่ ให้พอเหมาะพอสม
พยายามเหลือให้ออมได้

ทำมาสักพักแล้วครับ
ไม่ใช่เพิ่งมาทำสมัยอิปูโง่นี่

Posted Image


#27 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:02

ทำเท่าที่ทำได้และควรทำครับ
ทุกอย่างมีความเหมาะสมแตกต่างกันไปแต่ละคนครับ
อาจโชคร้ายหน่อย ตรงที่ผมจะไม่เลือกประหยัดกับการกิน
และหนังสือ แล้วไปชดเชยกับเรื่องอื่นๆ แทน
ผมไม่แต่งตัว ไม่ดื่ม ไม่ชอบสร้างสมบัติ
เว้นเรื่องกิน หนังสือ กล้อง
เพียงแต่เช้าใจกำลังตัวเอง ก็น่าจะพออยู่พอกินครับ

ที่สำคัญคือ อย่าไปอยากได้เงินคนอื่น
เงินในอนาคต และเงินฟรี มันไม่มีอยู่จริงหรอก
ทำอะไรสักอย่าง ต้องคิดไปถึงสเตปที่ 3,4,5 ไปด้วย
เพื่อตัดสินสเตปแรกว่าสมควรทำมั้ย

ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#28 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:04

คงเริ่มแล้วค่ะ ปรับตัวกันไป 

 

 

วัะนนี้ซื้อผักสลัดแก้วมาให้ลูกสาวตัวอวบเห็นว่าเค้าชอบ โดนไป 45 บาท 3 ต้นใหญ่ๆ 

 

 

คงต้องปลูกผักบุ้ง

 

 

ส่วนน้ำมันนี่เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ค่ะ ถ้าย้ายงานไป ชร คงต้องหาซื้อบ้านใกล้ที่ทำงานแล้วก็ปั่นจักรยาน สลับใช้รถยนต์แล้วล่ะค่ะ 



#29 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:10

เว็บไซต์  clipmass.com  ได้เสนอเรื่อง “เผยคนสิงคโปร์รวยเร็ว สุดในโลก”  ว่า  ธนาคารบาร์เคลย์ เผยผลสำรวจคนสิงคโปร์ ยกระดับฐานะได้เร็วที่สุดในโลก  เผยใช้เวลาแค่ 10 ปี ก้าวสู่ มหาเศรษฐี       72 %  ของชาวสิงคโปร์ ไม่ได้ง้อในโชคชะตา  แต่ขอรวยจาก ลำแข้งของตัวเองทั้งสิ้น   และพบว่า  ชาวสิงคโปร์มีทรัพย์สิน ครอบครองเป็นการส่วนตัวมากถึง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 45 ล้านบาทเลยทีเดียว     เคล็ดลับของการบ่มเพาะความรวยของชาวสิงคโปร์  ใช้หลักการ ง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้   นั่นก็คือ  “การออมเงิน” นั่นเอง  ชาว สิงคโปร์ผลักดันฐานะตัวเองจากการเก็บเงินจากรายได้จากการ ทำงาน  พร้อมกับฝากเงินโบนัสก้อนโต ไว้กินดอกเบี้ยธนาคาร มากกว่าจะนำไปใช้ถลุงเล่น     ชาวสิงคโปร์มักจะเจียดเงิน 16 %  ของรายได้ ไปกับค่าเดินทาง ท่องเที่ยว   ส่วนอีก 7 %  จะทุ่มเงินไปกับการซื้อเครื่อง เพชรและของสะสมต่างๆ  ส่วนที่เหลือจากใช้จ่ายที่จำเป็นในการ ครองชีพแล้ว  ก็จะเป็นการเก็บออมทั้งสิ้น     แม้ว่าหลายประเทศทั่วโลก จะเผชิญกับวิฤตทางเศรษฐกิจ  แต่ สิงคโปร์ และประเทศในแถบอาเซียนอย่าง  ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย  กลับสวนกระแสด้วยการกลายเป็นประเทศที่ดึงดูด เงินจากนักลงทุนทั่วโลก  ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมา  ตลาดหุ้นในเอเชีย มีความผันผวนสูง   แต่ก็สามารถดึงนักลงทุนให้เข้ามาซื้อได้ ส่งผลให้กระแสเงินตราสะพัด  และช่วยขยายอัตราการเติบโตทาง เศรษฐกิจของภูมิภาคให้รวดเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง  

 

  เมื่อทิศทางตลาดหุ้นสดใส  ชาวสิงคโปร์ก็นำเงินที่เก็บหอมรอมริบ จากการทำงานเข้ามาลงทุน  หรือบางส่วนก็ฝากเงินไว้กับธนาคาร อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในเอเชีย  ทำให้คนสิงคโปร์ เร่งทำงาน และเก็บเงินเก็บทอง  สร้างฐานะของตนเองให้ร่ำรวย       พอจะทราบคำตอบบ้างแล้วใช่ไหมครับ  ทำไมคนสิงคโปร์จึงรวย เร็วกว่าชาติอื่น   แต่ที่สำคัญก็คือ   คนสิงคโปร์นั้นมีความรู้ ความสามารถสูง  สามารถไปทำงานในต่างประเทศและลงทุน ในธุรกิจได้ทั่วโลก  ไม่ได้ขายแรงงานแบบบางประเทศในอาเซียน มักทำงานในระดับบริหาร  รายได้จึงสูง  และมีความขยันขันแข็ง  ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย   มีการเก็บออมสูง  และนำเงินที่เก็บออมได้ นั้น  ไปลงทุนหาผลประโยชน์  รอบรู้เรื่องการลงทุนดี   สามารถ ทำผลตอบแทนได้สูง   จึงทำให้คนสิงคโปร์สามารถสร้างฐานะจน ร่ำรวยได้เร็ว  นั่นเอง

 

 

แนวทางนี้ก็น่าสนใจ เก็บออม ลงทุนในสิ่งที่ควรลงทุน...การเรียน หนังสือ การพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ 

 

ขณะเดียวกันก็ใช้ในสิ่งที่ควรใช้ 



#30 ant

ant

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,081 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:15

วันธรรมดา ทาน 2 มื้อครับ (เที่ยงกับเย็น)  ตอนเช้า กาแฟ ขนมปังปิ้ง น้ำชา อยู่ได้ เพราะไม่มีเวลาทำกับข้าวแถมตื่นสาย

ส่วนวันหยุด ทานตลอดครับตั้งแต่เช้ายันเข้านอน  นั่งทำงานหรือพักผ่อนต้องมีของกินอยู่ข้างๆ เรียกว่าหิวเป็นต้องกินครับ

 

แต่..โชคดีหน่อยที่ของกินส่วนใหญ่(ข้าว ปลา อาหาร ผักสวนครัว)ไม่ได้ซื้อครับ "ปลูกทุกอย่างที่กิน และกินทุกอย่างที่ปลูก"

 

ส่วนคุณพิ้งค์ถามว่า ใครใช้เงินต่ำกว่า 100 บาท/วัน บ้าง

ถ้าเป็นบ้านนอกอย่างบ้านผม พอมีครับ ..... เสาร์-อาทิตย์ ผมไม่ใช้เงินเลยนะครับ แต่วันธรรมดา(จันทร์-ศุกร์)ผมคนเดียวไม่ต่ำกว่า 500 บาท/วัน

ส่วนในเมือง ผมว่า คงไม่มี


ตราบที่สูอยู่-กิน..แผ่นดินไทย ตราบโคตรเหง้าสูใช้แผ่นดินนี้ตราบศพสูฝังใต้..ไทยปฐพี สูไม่มีสิทธิ์ยํ่ายี.." พระเจ้าแผ่นดิน "

#31 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:19

 

จากปัญหาเช่นข้าวเน่า ทำให้รู้สึกว่าการพึ่งพาอาหารนอกบ้านมากเกินไป 

 

 

เป็นการบั่นทอนสุขภาพชีวิตของเราทางอ้อม เลยคิดว่าจะปรับสมดุลชีวิตใหม่

 

 

บวกกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นเลยคิดว่าจะผลิตอาหารเอง แล้วก็ทำบัญชีครัวเรือนควบคุมค่าใช้จ่ายด้วย

 

 

เพื่อนๆ ท่านใดมีประสบการณ์ดีๆ ก็มาแชร์กันได้นะคะ ^_^

 

 

เริ่มปรับจากข้าวขาวไปเป็นข้าวกล้อง 

 

yxkakM.JPG

 

พื้ชผักก็ปลูกเองมากขึ้น อย่างเพาะถั่วงอก เพาะเห็ด กระเพราโหระพาก็มีนะ 

 

 

7K5qBo.JPG

 

 

yzhLsv.JPG

 

ส่วนลูกๆ ก็แฮ่ๆ ผักหญ้าข้างทางมากขึ้น

 

2gaPvs.JPG

 

 

ปล.ตอนนี้ใครใช้เงินได้วันละ 100 บ้างคะ 

 

กระต่ายน่ากินอ่ะ ^_^

 

 

 

แลกกับปลาใช่ปะ :rolleyes:



#32 ม่านน้ำ

ม่านน้ำ

    ผมเพิ่งมาครับ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,373 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:20

คงเริ่มแล้วค่ะ ปรับตัวกันไป 
 
 
วัะนนี้ซื้อผักสลัดแก้วมาให้ลูกสาวตัวอวบเห็นว่าเค้าชอบ โดนไป 45 บาท 3 ต้นใหญ่ๆ 
 
 
คงต้องปลูกผักบุ้ง
 
 
ส่วนน้ำมันนี่เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ค่ะ ถ้าย้ายงานไป ชร คงต้องหาซื้อบ้านใกล้ที่ทำงานแล้วก็ปั่นจักรยาน สลับใช้รถยนต์แล้วล่ะค่ะ


ผมเอาจักรยานไปจอดไว้ที่ทำงาน
เผื่อไปซื้อของ กินข้าว อะไรๆที่ใกล้ๆออฟฟิตได้
น้องๆ มองด้วยความประหลาดใจแกมสมเพชเวทนา

"พี่จะปั่นจักรยานแดดเปรี้ยงๆ อย่างนี้หรือครับ? เหนื่อยแย่"

เหอๆๆ ก็เพราะใช้จักรยานอย่างนี้ไง
ถึงมีเงินเหลือมาให้พวก ม รึ ง ยืม

Posted Image


#33 union18j

union18j

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 347 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:00

ทำงาน ส่งงานที่บ้าน แล้วบ้านที่อยู่มาอยู่ต่างจังหวัด อากาศก็ดี อาหารก็ไม่แพง น้ำมันก็ไม่ต้องใช้เยอะ ต่างกับที่ลองไปอยู่ที่เมืองใหญ่ เราว่า นอกเมืองต่างจังหวัดอยู่ได้สบายใจเหมืองเมืองนอกนั่นแหละ สันโดษ ไม่วุ่นวาย



#34 union18j

union18j

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 347 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:05

ทำงาน ส่งงานที่บ้าน แล้วบ้านที่อยู่มาอยู่ต่างจังหวัด อากาศก็ดี อาหารก็ไม่แพง น้ำมันก็ไม่ต้องใช้เยอะ ต่างกับที่ลองไปอยู่ที่เมืองใหญ่ เราว่า นอกเมืองต่างจังหวัดอยู่ได้สบายใจเหมืองเมืองนอกนั่นแหละ สันโดษ ไม่วุ่นวาย

ลืมบอกว่า ใช้เงินไม่ถึง 50 บาท อาจเพราะกาแฟต้มทานเองที่บ้าน (กาแฟบดไทยนี่แหละ)อากาศร้อนเลยไม่เปลืองกาแฟมาก  อาหารถุงที่ตลาดถุงละแค่ 15-20 บาทเอง อนาคตอยากปลูกข้าว หวังว่า ไม่เป็นแค่ฝัน


Edited by union18j, 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:07.


#35 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:22

ทำบัญชีรายรับรายจ่ายทุกวัน

เศษสลึงก็ต้องจด ทำเงินหายก็ต้องจด

จดทุกอย่าง

จดจนคนที่บ้านบอกว่า "งกแบบมีรายละเอียด"

5555555555

 

สิ่งที่จดจะบอกตัวตนของเราได้ดีที่สุดว่าใช้จ่าย หนักไปทางใด

ของฟุ่มเฟือยคืออะไร

ของจำเป็นคืออะไร

ถ้าต้องรัดเข็มขัดต้องตัดสิ่งใดก่อน

ของฟุ่มเฟือย เช่น สุรา บุหรี่ งดได้ เป็นดีที่สุด

พวกกาแฟยี่ห้อดังตามห้าง แก้วละหลายสิบบาท งดได้ เดือนนึงก็ประหยัดเป็นพัน

 

หรืออาจลดเกรดของจำเป็นลงมา

เช่น จากที่เคยใช้ครีมลบริ้วรอย กระปุกละ 1500

ก็หันมาใช้กระปุกละ 400

เคยใช้ครีมกันแดดหลอดละเป็นพัน

ก็ลองใส่เสื้อแขนยาว และพกร่มติดตัวเสมอยามออกแดด

 

ส่วนอาหาร ที่บ้านเน้นทำรับประทานเอง

เลือกซื้อผักพื้นบ้านที่ราคาถูก

อย่างเมื่อวานก็ซื้อผักปรัง กำละ 5 บาท มาผัดน้ำมันหอยได้หนึ่งจาน ก็อร่อยดี

แกงจืดก็ใช้ยอดผักหวาน ผักตำลึง หน้าฝนยอดอ่อนงาม ราคาถูกเช่นกัน

 

รับประทานพืชผักตามฤดูกาล

จะได้ของดีราคาถูก รสชาติอร่อย

 

รับประทานให้หลากหลาย หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล

อย่ารับประทานซ้ำซาก

ร่างกายจะรับพิษสะสมซ้ำเดิมตลอด

มีโอกาสเป็นมะเร็งได้ง่าย



#36 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:31

ทำบัญชีรายรับรายจ่ายทุกวัน

เศษสลึงก็ต้องจด ทำเงินหายก็ต้องจด

จดทุกอย่าง

จดจนคนที่บ้านบอกว่า "งกแบบมีรายละเอียด"

5555555555

 

สิ่งที่จดจะบอกตัวตนของเราได้ดีที่สุดว่าใช้จ่าย หนักไปทางใด

ของฟุ่มเฟือยคืออะไร

ของจำเป็นคืออะไร

ถ้าต้องรัดเข็มขัดต้องตัดสิ่งใดก่อน

ของฟุ่มเฟือย เช่น สุรา บุหรี่ งดได้ เป็นดีที่สุด

พวกกาแฟยี่ห้อดังตามห้าง แก้วละหลายสิบบาท งดได้ เดือนนึงก็ประหยัดเป็นพัน

 

หรืออาจลดเกรดของจำเป็นลงมา

เช่น จากที่เคยใช้ครีมลบริ้วรอย กระปุกละ 1500

ก็หันมาใช้กระปุกละ 400

เคยใช้ครีมกันแดดหลอดละเป็นพัน

ก็ลองใส่เสื้อแขนยาว และพกร่มติดตัวเสมอยามออกแดด

 

ส่วนอาหาร ที่บ้านเน้นทำรับประทานเอง

เลือกซื้อผักพื้นบ้านที่ราคาถูก

อย่างเมื่อวานก็ซื้อผักปรัง กำละ 5 บาท มาผัดน้ำมันหอยได้หนึ่งจาน ก็อร่อยดี

แกงจืดก็ใช้ยอดผักหวาน ผักตำลึง หน้าฝนยอดอ่อนงาม ราคาถูกเช่นกัน

 

รับประทานพืชผักตามฤดูกาล

จะได้ของดีราคาถูก รสชาติอร่อย

 

รับประทานให้หลากหลาย หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล

อย่ารับประทานซ้ำซาก

ร่างกายจะรับพิษสะสมซ้ำเดิมตลอด

มีโอกาสเป็นมะเร็งได้ง่าย

 

 

 

ของเค้านี่เคยจดนะ แต่พอแบบ อ่านทวน เอิ่ม...ชั้นนี่โคตรเศรษฐี ๕๕๕

 

 

ทำใจไม่ได้เลย แต่ไม่ได้แล้ว ต้องเริ่ม!

 

 

แต่ที่เปลืองหน่อย คงเป็นของลูกอ่ะค่ะ 

 

 

ต่อไป สองอ้วน คงต้องอดๆ บ้าง อิอิ 


Edited by pinkpanda, 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:32.


#37 redfrog53

redfrog53

    เกิดที่รัสเซีย มาโตที่ สรท.

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 25,221 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:51

เว็บไซต์  clipmass.com  ได้เสนอเรื่อง “เผยคนสิงคโปร์รวยเร็ว สุดในโลก”  ว่า  ธนาคารบาร์เคลย์ เผยผลสำรวจคนสิงคโปร์ ยกระดับฐานะได้เร็วที่สุดในโลก  เผยใช้เวลาแค่ 10 ปี ก้าวสู่ มหาเศรษฐี       72 %  ของชาวสิงคโปร์ ไม่ได้ง้อในโชคชะตา  แต่ขอรวยจาก ลำแข้งของตัวเองทั้งสิ้น   และพบว่า  ชาวสิงคโปร์มีทรัพย์สิน ครอบครองเป็นการส่วนตัวมากถึง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 45 ล้านบาทเลยทีเดียว     เคล็ดลับของการบ่มเพาะความรวยของชาวสิงคโปร์  ใช้หลักการ ง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้   นั่นก็คือ  “การออมเงิน” นั่นเอง  ชาว สิงคโปร์ผลักดันฐานะตัวเองจากการเก็บเงินจากรายได้จากการ ทำงาน  พร้อมกับฝากเงินโบนัสก้อนโต ไว้กินดอกเบี้ยธนาคาร มากกว่าจะนำไปใช้ถลุงเล่น     ชาวสิงคโปร์มักจะเจียดเงิน 16 %  ของรายได้ ไปกับค่าเดินทาง ท่องเที่ยว   ส่วนอีก 7 %  จะทุ่มเงินไปกับการซื้อเครื่อง เพชรและของสะสมต่างๆ  ส่วนที่เหลือจากใช้จ่ายที่จำเป็นในการ ครองชีพแล้ว  ก็จะเป็นการเก็บออมทั้งสิ้น     แม้ว่าหลายประเทศทั่วโลก จะเผชิญกับวิฤตทางเศรษฐกิจ  แต่ สิงคโปร์ และประเทศในแถบอาเซียนอย่าง  ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย  กลับสวนกระแสด้วยการกลายเป็นประเทศที่ดึงดูด เงินจากนักลงทุนทั่วโลก  ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมา  ตลาดหุ้นในเอเชีย มีความผันผวนสูง   แต่ก็สามารถดึงนักลงทุนให้เข้ามาซื้อได้ ส่งผลให้กระแสเงินตราสะพัด  และช่วยขยายอัตราการเติบโตทาง เศรษฐกิจของภูมิภาคให้รวดเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง  

 

  เมื่อทิศทางตลาดหุ้นสดใส  ชาวสิงคโปร์ก็นำเงินที่เก็บหอมรอมริบ จากการทำงานเข้ามาลงทุน  หรือบางส่วนก็ฝากเงินไว้กับธนาคาร อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในเอเชีย  ทำให้คนสิงคโปร์ เร่งทำงาน และเก็บเงินเก็บทอง  สร้างฐานะของตนเองให้ร่ำรวย       พอจะทราบคำตอบบ้างแล้วใช่ไหมครับ  ทำไมคนสิงคโปร์จึงรวย เร็วกว่าชาติอื่น   แต่ที่สำคัญก็คือ   คนสิงคโปร์นั้นมีความรู้ ความสามารถสูง  สามารถไปทำงานในต่างประเทศและลงทุน ในธุรกิจได้ทั่วโลก  ไม่ได้ขายแรงงานแบบบางประเทศในอาเซียน มักทำงานในระดับบริหาร  รายได้จึงสูง  และมีความขยันขันแข็ง  ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย   มีการเก็บออมสูง  และนำเงินที่เก็บออมได้ นั้น  ไปลงทุนหาผลประโยชน์  รอบรู้เรื่องการลงทุนดี   สามารถ ทำผลตอบแทนได้สูง   จึงทำให้คนสิงคโปร์สามารถสร้างฐานะจน ร่ำรวยได้เร็ว  นั่นเอง

 

 

แนวทางนี้ก็น่าสนใจ เก็บออม ลงทุนในสิ่งที่ควรลงทุน...การเรียน หนังสือ การพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ 

 

ขณะเดียวกันก็ใช้ในสิ่งที่ควรใช้ 

 

ลองให้ภูเก็ต ใช้ภาษีเต็มที ไม่ต้องส่งเข้าส่วนกลาง ไม่ต้องขอเศษตังค์อ้ายปอดปากศพ 

รับรองสิงคโปร์ ได้กลายเป็นเกาะร้างแน่นอน


Posted Image

#38 ramboboy26

ramboboy26

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,532 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:57

ข้าว: ขอซื้อแบ่งจากชาวนาโดยตรง ถูก ปลอดภัย

ผัก: มีแปลงผักปลอดสารพิษขายในพื้นที่มหาลัย

เนื้อ: ตอนนี้ลดน้ำหนักจึงแทบไม่กิน กินเต้าหู้กับถั่วอะไรพวกนี้ ถ้าอยากกินจริงๆก็ปลาทูทอดซักตัว

 

แค่นี้ลูกจ้างในมหาลัยเงินเดือนถูกๆก็เอาชีวิตรอดได้แล้วครับ


กูขอปฏิญาณ ต่อหน้าสถูปสถานศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าอิฐหินดินทราย ขอจองล้างจองผลาญจนตาย ต่อผู้ทำลาย แผ่นดิน...

#39 gass

gass

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,239 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 16:11

ผมใช้ข้าวที่แม่ปลูก (ภาคเหนือ) ยาไม่มีแน่นอน มีแต่มดขึ้น จริงจังเลย  :D

 

เนื้อ ผมซื้อจาก หมู่บ้านที่ทำงาน เลี้ยงเองฆ่าเอง มันค่อนข้างเยอะ แต่ผมซื้อแต่สันนอกกับสันใน เขาฆ่าเกือบทุกวัน

 

ผมกินเนื้อทุกอย่าง ที่เลี่ยงคือ เนื้อหมาแมว กินได้แต่ไม่กิน ดังนั้นไม่มีปัญหาอะไร บางทีมีคนเอาปลามาขายก็กินปลา ถูกแต่ทำยากหน่อยนึง

 

ผัก ที่นี่มีสวนผักไม่ลงดินเยอะ ผักกางมุ้ง ซื้อหน้าสวนถูก 

 

อ่อยังมีปลาแห้ง ปลาร้า ฯลฯ ที่คนแถวนี้ทำเองอีกแยะ ราคาก็ไม่แพงมาก ถ้ารู้จักกัน

 

:)  



#40 IAMDA

IAMDA

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,073 posts

ตอบ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 16:30

รายรับมีเท่าเดิม แต่รายจ่ายมันพุ่งขึ้นอย่างแรง. จากแต่ก่อนเสียค่าไฟประมาณ. 1200 เดี๋ยวนี้ เสีย 1500. - 1600 ต่อเดือน. ค่าน้ำ 90 บาท เดือนนี้มา 180. บาท( น่าจะมาจากเปลี่ยนน้ำบ่อปลาบ่อย และก็อาบน้ำหมา 4ตัวทุกอาทิตย์) . ค่าน้ำมันก็ขึ้น เบียร์ บุหรี่ มันขึ้นจนทำใจได้แล้ว. แต่ก็ว่าจะเบาๆลงบ้าง เอาเงินค่าเบียร์ มาเสียค่าน้ำค่าไฟค่าน้ำมันดีกว่า. เซ็งเป็ดกับรัฐบาลผลาญแผ่นดิน อะไรๆก็แพง

#41 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 08:24

เว็บไซต์  clipmass.com  ได้เสนอเรื่อง “เผยคนสิงคโปร์รวยเร็ว สุดในโลก”  ว่า  ธนาคารบาร์เคลย์ เผยผลสำรวจคนสิงคโปร์ ยกระดับฐานะได้เร็วที่สุดในโลก  เผยใช้เวลาแค่ 10 ปี ก้าวสู่ มหาเศรษฐี       72 %  ของชาวสิงคโปร์ ไม่ได้ง้อในโชคชะตา  แต่ขอรวยจาก ลำแข้งของตัวเองทั้งสิ้น   และพบว่า  ชาวสิงคโปร์มีทรัพย์สิน ครอบครองเป็นการส่วนตัวมากถึง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 45 ล้านบาทเลยทีเดียว     เคล็ดลับของการบ่มเพาะความรวยของชาวสิงคโปร์  ใช้หลักการ ง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้   นั่นก็คือ  “การออมเงิน” นั่นเอง  ชาว สิงคโปร์ผลักดันฐานะตัวเองจากการเก็บเงินจากรายได้จากการ ทำงาน  พร้อมกับฝากเงินโบนัสก้อนโต ไว้กินดอกเบี้ยธนาคาร มากกว่าจะนำไปใช้ถลุงเล่น     ชาวสิงคโปร์มักจะเจียดเงิน 16 %  ของรายได้ ไปกับค่าเดินทาง ท่องเที่ยว   ส่วนอีก 7 %  จะทุ่มเงินไปกับการซื้อเครื่อง เพชรและของสะสมต่างๆ  ส่วนที่เหลือจากใช้จ่ายที่จำเป็นในการ ครองชีพแล้ว  ก็จะเป็นการเก็บออมทั้งสิ้น     แม้ว่าหลายประเทศทั่วโลก จะเผชิญกับวิฤตทางเศรษฐกิจ  แต่ สิงคโปร์ และประเทศในแถบอาเซียนอย่าง  ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย  กลับสวนกระแสด้วยการกลายเป็นประเทศที่ดึงดูด เงินจากนักลงทุนทั่วโลก  ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมา  ตลาดหุ้นในเอเชีย มีความผันผวนสูง   แต่ก็สามารถดึงนักลงทุนให้เข้ามาซื้อได้ ส่งผลให้กระแสเงินตราสะพัด  และช่วยขยายอัตราการเติบโตทาง เศรษฐกิจของภูมิภาคให้รวดเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง  

 

  เมื่อทิศทางตลาดหุ้นสดใส  ชาวสิงคโปร์ก็นำเงินที่เก็บหอมรอมริบ จากการทำงานเข้ามาลงทุน  หรือบางส่วนก็ฝากเงินไว้กับธนาคาร อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในเอเชีย  ทำให้คนสิงคโปร์ เร่งทำงาน และเก็บเงินเก็บทอง  สร้างฐานะของตนเองให้ร่ำรวย       พอจะทราบคำตอบบ้างแล้วใช่ไหมครับ  ทำไมคนสิงคโปร์จึงรวย เร็วกว่าชาติอื่น   แต่ที่สำคัญก็คือ   คนสิงคโปร์นั้นมีความรู้ ความสามารถสูง  สามารถไปทำงานในต่างประเทศและลงทุน ในธุรกิจได้ทั่วโลก  ไม่ได้ขายแรงงานแบบบางประเทศในอาเซียน มักทำงานในระดับบริหาร  รายได้จึงสูง  และมีความขยันขันแข็ง  ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย   มีการเก็บออมสูง  และนำเงินที่เก็บออมได้ นั้น  ไปลงทุนหาผลประโยชน์  รอบรู้เรื่องการลงทุนดี   สามารถ ทำผลตอบแทนได้สูง   จึงทำให้คนสิงคโปร์สามารถสร้างฐานะจน ร่ำรวยได้เร็ว  นั่นเอง

 

 

แนวทางนี้ก็น่าสนใจ เก็บออม ลงทุนในสิ่งที่ควรลงทุน...การเรียน หนังสือ การพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ 

 

ขณะเดียวกันก็ใช้ในสิ่งที่ควรใช้ 

 

 

 

สิงคโปร์ไม่พูดถึง"แหล่งดูดเงิน/พักเงินทุกประเภท" แทนสวิสส์...

แม้แต่นักโทษหนีคุกและฮวย เซง ยังฝากเงินไว้ในสิงคโปร์

และโอนเงินซื้อทีมฟุตบอลจากสิงคโปร์.....!

 

ปล.นายธนาคารอังกฤษรับเงินโอนซื้อทีมจากสิงคโปร์บอกว่า'เงินสะอาด'....

หลังจากนักโทษฯขายทีมไป นายธนาคารคนเดียวกันบอกว่าเงินก่อนเข้าสิงคโปร์'สะอาด'หรือไม่ เขาไม่รู้......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน