http://www.naewna.co.../columnist/6375
อันตรายแผนแก้รธน.ยึดวุฒิสภา
การที่พรรคร่วมรัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทยและสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เลือกตั้งกลุ่มหนึ่งร่วมกันผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนแปลงที่ มาของสว.จากรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่กำหนดให้มีสว.รวม 150 คน แยกเป็นสว.ที่มาจากการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คนรวม 77 คน และที่เหลือเป็นสว.ที่มาจากการสรรหาอีก 73 คน มาเป็นสว.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนทั้งหมดรวม 200 คน ทำให้เกิดคำถามและข้อสงสัยเป็นอย่างมากว่ามีเป้าหมายที่แท้จริงเพื่ออะไรและ มีเจตนาที่จะพัฒนาประชาธิปไตยให้ก้าวหน้ามากขึ้นจริงหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่านับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขมานาน 81 ปีแล้ว แต่ประชาธิปไตยภายใต้ระบบรัฐสภาแบบไทยๆ ก็ยังไม่ได้สะท้อนความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเพราะยังวนเวียนอยู่กับ วงจรอุบาทว์ของธุรกิจการเมืองและทุนสามานย์ ตลอดจนระบบอุปถัมภ์ที่ใช้วิธีการฉ้อฉลทุกรูปแบบเพื่อเอาชนะการเลือกตั้งและ ให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ แล้วใช้อำนาจรัฐแสวงหาผลประโยชน์และผูกขาดอำนาจทางการเมืองตามใจชอบจนกลาย เป็นเผด็จการรัฐสภาในคราบประชาธิปไตยที่ใช้พวกมากลากไป
การแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการยกเลิกสว.สรรหาแล้วกำหนดให้มาจากการเลือกตั้งทั้ง หมดเท่ากับยุบวุฒิสภาในทางอ้อม เพราะหากสว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดวุฒิสภาก็ไม่ต่างอะไรจากสภาผู้แทนราษฎร และที่สำคัญเป็นการสะท้อนเจตนาแอบแฝงของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นที่ทราบกันดี ว่าเป็นพรรคการเมืองหุ่นเชิดของระบอบทักษิณที่ส่อเจตนามุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อรุกคืบยึดวุฒิสภาอันเป็นการปูทางไปสู่การผูกขาดอำนาจหวังยึดครองประเทศ อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในอนาคต
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีความได้เปรียบทั้งฐานเสียงทางการเมืองของ สส.ทั่วประเทศที่มีมากกว่าพรรคการเมืองอื่น อีกทั้งยังได้เปรียบด้านเงินทุนที่มีอย่างมหาศาล รวมทั้งความได้เปรียบในฐานะที่เป็นรัฐบาลซึ่งสามารถอาศัยกลไกอำนาจรัฐเอาชนะ การเลือกตั้ง ดังนั้นหากสว.มาจากการเลือกตั้งแน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยย่อมสามารถกวาดที่นั่ง สว.ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำจนสามารถยึดครองวุฒิสภาได้อย่างไร้อุปสรรค
แนวคิดการมีวุฒิสภาหรือสภาสูงในนานาอารยประเทศที่มีการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยทั่วโลกหรือแม้แต่การเริ่มมีวุฒิสภาในประเทศไทยล้วนมีเจตนารมณ์ เพื่อให้มีสภาพี่เลี้ยงคอยตรวจสอบถ่วงดุลสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นสภาล่างให้ ใช้อำนาจอยู่ในขอบเขต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวการณ์ที่ประชาธิปไตยภายใต้ระบบรัฐสภาแบบไทยๆ นั้นระบบการตรวจสอบถ่วงดุลถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง
ที่สำคัญรัฐธรรมนูญปัจจุบันได้กำหนดให้วุฒิสภามีอำนาจบทบาทสูงมากทั้งการลง มติถอดถอนนักการเมืองที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ รวมทั้งแต่งตั้งตัวแทนในองค์กรอิสระต่างๆ ดังนั้นการกำหนดให้สว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดจึงเป็นแผนผูกขาดอำนาจและ ทำลายระบบตรวจสอบถ่วงดุลอย่างสิ้นเชิงซึ่งถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับ ประเทศชาติและระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง