http://www.manager.c...D=9560000105948
“ก่อแก้ว” เข้าใจแกนนำพันธมิตรฯ ยุติบทบาท สอนบทเรียน ปชป.เอาแต่ได้ เมื่อไม่ลาออกสู้นอกสภาฯ ก็จะไม่มีใครยอมเสียสละให้อีก ชี้ ปชป.ไม่ลาออกเป็นการตัดสินใจผิดพลาด โวจากนี้รัฐบาลทำงานง่ายขึ้น ไม่ห่วงม็อบที่เหลืออ่อนหัด คาดถ้า “นช.แม้ว” กลับประเทศจะเป็นเงื่อนไขให้แกนนำพันธมิตรฯ สู้อีกรอบ
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ประกาศยุติบทบาททางการเมืองว่า เข้าใจข้อกำจัดในการเคลื่อนไหวของกลุ่ม พธม.เพราะตนก็อยู่ในสถานะแบบเดียวกัน เพราะการเคลื่อนไหวที่มีคำสั่งของศาลลำบากมาก ซึ่งตนก็เคารพการตัดสินใจของ พธม. และเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวในช่วงหลังไม่ชัดเจน มองไม่ออกว่าเล่นการเมืองแบบไหน และกลุ่ม พธม. ก็คงเข้าใจว่าหากล้มรัฐบาลได้ ผู้ที่ได้รับประโยชน์คือพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งความต้องการของ พธม.ก็แตกต่างกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการอำนาจรัฐ ขณะที่กลุ่ม พธม.ต้องการปฏิรูปการเมือง ดังนั้นการยุติบทบาทของ พธม.เพื่อไม่ต้องการตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
นายก่อแก้ว กล่าวว่า การยุติของ พธม. อาจส่งผลดีให้รัฐบาล ได้วางใจจากปัญหาการเคลื่อนไหวของมวลชนได้ และทำให้สมการการเมืองเปลี่ยนไป เพราะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนแนวคิดไปหาแนวทางใหม่ ที่จะไม่ใช้มวลชนมากดดันเพื่อนำไปสู่การล้มรัฐบาลอีกแล้ว เพราะว่าปลุกมวลชนไม่ขึ้น ขณะที่การชุมนุมอื่นๆ ก็ไม่เข้มแข็ง ไม่มีความเป็นเอกภาพเทียบไม่ได้กับกลุ่ม พธม. แม้กระทั่งมวลชนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีเพียงระดับหนึ่ง และไม่มีความอดทน รวมถึงเป้าหมายก็ไม่น่ากลัวไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมืองเช่น พธม.
“ต่อไปพรรคประชาธิปัตย์ คงต้องทบทวนวิธีการล้มรัฐบาลแล้วหันมามุ่งเน้นงานในสภาฯ และนโยบายที่สร้างสรรค์ ที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคดูดีและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนวางใจอย่างไรเพื่อจะได้มาแข่งขันกับรัฐบาลให้กลับมาชนะเลือกตั้งด้วยตัวเองและเลิกหวังพึ่งตัวช่วยหรือมวลชนอื่นๆมาช่วยอีกต่อไป
“การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมปฏิบัติตามข้อเสนอของ พธม. ที่ให้แกนนำลาออกแล้วมานำมวลชนอย่างเต็มตัวนั้นถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง และเป็นการเสียหน้าอย่างที่สุด เพราะหากแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมเสียสละก็จะไม่มีใครยอมเสียสละให้พรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน ”
นายก่อแก้ว กล่าวว่า แม้ช่วงนี้จะวางใจในสถานการณ์การเมืองได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่มั่นใจ 100% ว่า พธม.จะหยุดเคลื่อนไหวเพราะการเคลื่อนไหวของมวลชนมาจากปัจจัยทางการเมืองทั้งสิ้น หากมีมูลเหตุก็สามารถออกมาเคลื่อนไหวได้อยู่แล้ว และแค่การยุติบทบาทของแกนนำ ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกภารกิจของ พธม.ไปเลย แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีในโอกาสที่รัฐบาลกำลังเปิดเวทีปฏิรูปการเมือง ที่จะทำให้งานของรัฐบาลในการปฏิรูปการเมืองเดินหน้าไปได้ และหากเป็นไปได้ อยากให้กลุ่ม พธม. มาเข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปการเมืองด้วยกัน และหากเข้าร่วมก็จะทำให้มีน้ำหนักในการปฏิรูปการเมืองมากขึ้นกว่าเดิม
“หากถามว่า พธม.จะกลับมาได้ไหม อยากบอกว่าจุดเริ่มต้นของ พธม. คือการตรวจสอบการทุจริต พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนสำเร็จ แล้วต่อมาต้องการปฏิรูปการเมือง แต่ว่าภาพก็ยังไม่ชัดเจน จนมีเหตุที่ทำให้ต้องยุติบทบาทไปก่อน แต่สิ่งที่จะทำให้พันธมิตรฯ กลับมาได้นั้น จะต้องเป็นปัจจัยที่กระตุกต่อมความรู้สึกอย่างรุนแรง ซึ่งต้องเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเช่นกรณีจะเดินทางกลับมายังประเทศไทยเป็นต้น ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนิรโทษกรรม หรือเรื่องการทุจริต คงไม่เป็นเหตุผลที่ดีเพียงพอ”