ขออนุมัติเงินกู้ --> เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท
ขออนุมัติเก็บภาษีเพิ่ม --> เงินคืนคลัง
เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท <--- กองทุนประกันสังคม <-- เงินคงคลังปี 2551 ดูหลักฐานได้จาก มติครม. 3 มีนา <-- ขอใช้งบตามมาตรา 169 เงินคืนคลัง <--- เงินที่เพิ่มจากการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันสูงขึ้นและภาษีที่เก็บได้จากการใช้จ่ายเช็คตามร้านที่เสียภาษีเงินได้ ไม่ใช่เสียอากร
มาตรา 23 เงินกองทุนตามมาตรา 22 ให้เป็นของสำนักงานและ ไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
มติ ครม วันที่ 3 มีนา 52
https://www.google.c....51495398,d.bmk
1. เรื่อง การปฏิบัติงานตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติและเห็นชอบในหลักการเพื่อการดำเนินงานตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ (ในส่วนของผู้ประกันตน) ในประเด็นต่าง ๆ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ
(1) มีการขีดคร่อมทั่วไปสั่งจ่ายในนามของผู้ประกันตนและระบุเลขที่ประจำตัวประชาชน โดยไม่ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออก
(2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม
2. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สำนักงานประกันสังคมเก็บรักษา “เช็คช่วยชาติ” ไว้เป็นเวลา 90 วัน (ณ สำนักงานคลังจังหวัด หรือตู้นิรภัยของธนาคารสาขาหลักที่ออก “เช็คช่วยชาติ”) กรณีที่ผู้ประกันตนไม่มารับ “เช็คช่วยชาติ” ในวันที่ระบุใน “เช็คช่วยชาติ”
3. เห็นชอบในหลักการตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนผู้ประกันตน รวม 4 ประการ ดังนี้
3.1 ขอกำหนดคุณสมบัติของผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ คือจะต้องมีสัญชาติไทยและมีสถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533
3.2 ขอขยายขอบเขตการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตน ให้รวมถึงผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2551 และยังได้รับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคมต่อไปอีก 6 เดือน (เป็นบุคคลตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533)
3.3 ขอใช้ฐานค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม เป็นเกณฑ์ตัดสินการมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการฯ ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนมีการทำงานมากกว่า 1 แห่งและมีฐานค่าจ้างรวมกันเป็นจำนวนเงินตั้งแต่เดือนละ 15,000 บาทขึ้นไป จะไม่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ
3.4 กำหนดให้การจ่าย “เช็คช่วยชาติ” มีวิธีดำเนินการ 3 วิธี คือ
(1) จ่าย “เช็คช่วยชาติ” ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิ ณ สถานประกอบการที่ผู้ประกันตนทำงานอยู่โดยตรง
(2) จ่าย “เช็คช่วยชาติ” ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิโดยตรง ณ สถานที่ซึ่งสำนักงานประกันสังคมมีประกาศกำหนดนัดหมายไว้ล่วงหน้า
(3) จัดหน่วยงานเคลื่อนที่นำ “เช็คช่วยชาติ” ไปจ่ายให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิโดยตรงซึ่งพำนักในท้องถิ่นห่างไกล โดยจะมีประกาศกำหนดนัดหมายไว้ล่วงหน้า
4. สนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินงานจ่าย “เช็คช่วยชาติ” ตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐเป็นการเพิ่มเติม รวมจำนวนเงิน 39,638,800 บาท
5. อนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินอุดหนุนทั่วไปโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน พ.ศ. 2552 เนื่องจากการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ
Edited by Stargate-1, 5 September 2013 - 14:04.