345 ความเห็นในกระทู้นี้

[CockRoachKiller]

หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม

 

 

You have just admitted that the money does not belong to the social security fund.  Is that correct? 

[พอล คุง]

 

 

 

 

 

 

Just in case,

 

 

 

ขออนุมัติเงินกู้           --> เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท 

ขออนุมัติเก็บภาษีเพิ่ม --> เงินคืนคลัง

 

 

เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท <---  กองทุนประกันสังคม  <-- เงินคงคลังปี 2551 ดูหลักฐานได้จาก มติครม. 3 มีนา <-- ขอใช้งบตามมาตรา 169 เงินคืนคลัง <--- เงินที่เพิ่มจากการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันสูงขึ้นและภาษีที่เก็บได้จากการใช้จ่ายเช็คตามร้านที่เสียภาษีเงินได้ ไม่ใช่เสียอากร

 

 

 

 

 

How many time I have to keep answering this autistic question?

 

If in fact Social Security Office actually does sponsor this program, can any cockroach find the hidden "Help-the-Nation” Check item in Social Security Budget's 2552 financial statements? Since when we discover a way to spend money behind auditor. Cockroach blue shirts never fails to impress me.

 

 

1. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ"  หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม  เมื่อเช็คออกไป  คนไปขึ้นเช็ค เช็คจะไปหักเงินจากบัญชีของกองทุนประกันสังคม    

 

 

 

อย่างนั้นต้องมีรายการรับ-จ่ายในงบการเงินของกองทุนครับ

 

ไม่อย่างนั้นเงินหายไปก็ไม่มีใครรู้

 

อย่ามั่ว

 

เหตุที่ไม่มีการลงรายรับรายจ่าย เพราะไม่ใช่รายรับรายจ่ายปรกติ แต่มีหลักการตามระเบียบใหม่ ตามมติครม.ข้อ 5.

 

 5. อนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินอุดหนุนทั่วไปโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน พ.ศ. 2552  เนื่องจากการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ

 

เขาทำตามระเบียบนี้ครับ

 

เงินคงคลังเอาไปใช้ทำอะไร ถึง 19,140 ล้านบาทจนต้องส่งเงินคืนคลังภายหลัง

 

 

ไม่มีไรครับ ไอ้กากลี แค่จะเถียงกะ มติ ครม ครับ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

[Stargate-1]

 

หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม

 

 

You have just admitted that the money does not belong to the social security fund.  Is that correct? 

 

 (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

เงินงบประมาณจะถูกโอนมาที่กองทุนประกันสังคม  ปรกติรัฐก็โอนเงินให้กองทุนเป็นประจำอยู่แล้ว ในการจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม

 

"นายจ้าง ติง รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วม 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประกันสังคมสูญเสียรายได้จากการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ชี้ กระทบต่อกองทุนชราภาพแน่นอน ด้าน สปส.แจงรัฐติดหนี้สะสมตั้งแต่ปี 53-55 ห่วงเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ ชี้ ขณะนี้ต้องนำเงินสำรองมาใช้ กระทบการเพิ่มสิทธิ ความมั่นคงกองทุนฯลดลง"
 

กรณีที่รัฐโอนเงินให้ในครั้งนี้ ก็ต้องเป็นเงินเข้ากองทุนประกันสังคม แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ปรกติ จึงไม่ต้องลงบัญชีตามปรกติ

Edited by Stargate-1, 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:27.

[พอล คุง]

 

 

หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม

 

 

You have just admitted that the money does not belong to the social security fund.  Is that correct? 

 

 (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

เงินงบประมาณจะถูกโอนมาที่กองทุนประกันสังคม  ปรกติรัฐก็โอนเงินให้กองทุนเป็นประจำอยู่แล้ว ในการจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม

 

"นายจ้าง ติง รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วม 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประกันสังคมสูญเสียรายได้จากการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ชี้ กระทบต่อกองทุนชราภาพแน่นอน ด้าน สปส.แจงรัฐติดหนี้สะสมตั้งแต่ปี 53-55 ห่วงเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ ชี้ ขณะนี้ต้องนำเงินสำรองมาใช้ กระทบการเพิ่มสิทธิ ความมั่นคงกองทุนฯลดลง"
 

กรณีที่รัฐโอนเงินให้ในครั้งนี้ ก็ต้องเป็นเงินเข้ากองทุนประกันสังคม แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ปรกติ จึงไม่ต้องลงบัญชีตามปรกติ

 

 

ไอ้กากลีเค้า ไม่รู้ว่า รัฐต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนด้วย

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

[Stargate-1]

 

 

 

 

 

2) เงินที่เอามาจ่ายเช็คมันไม่ใช่เงินจากกองทุนประกันสังคม (อย่างที่คุณอ้าง)  แต่เป็นเงินจากการกู้ยืม (เงินที่แม่ค้าข้าวมันไก่ต้องเสียภาษีเพื่อเอาไปคืนเขาในอนาคต)

 

 

อันนี้ผมอ้างตอนไหนครับ  รบกวน Quote มาให้ดูหน่อย

 

แหม  ทำไมชอบเอาคำพูดตัวเองยัดปากคนอื่นจัง

 

 

 

 

 

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ 

 

 

 

 

Quote มาให้ครบด้วยสิฟะ นิสัยสุดๆ เลยว่ะ

 

ประโยคเต็มๆ มันคือ.....

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ 

 

ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคม 

 

 

แล้วช่วยลงสีแดงแบบที่พี่ลีชอบ  ตรงที่ผมบอกว่า  "กองทุนเป็นคนจ่ายเงินหน่อยครับ"  

 

ถ้าไม่มีจะรับผิดชอบยังไงดีครับ

 

 

 

แล้วคุณแปลที่คุณเขียนว่ายังไงหล่ะครับ 

 

 

"นายจ้าง ติง รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วม 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประกันสังคมสูญเสียรายได้จากการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ชี้ กระทบต่อกองทุนชราภาพแน่นอน ด้าน สปส.แจงรัฐติดหนี้สะสมตั้งแต่ปี 53-55 ห่วงเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ ชี้ ขณะนี้ต้องนำเงินสำรองมาใช้ กระทบการเพิ่มสิทธิ ความมั่นคงกองทุนฯลดลง"
       

 

เงินที่ประกันสังคมที่จ่ายเช็คช่วยชาติไป ไม่รู้กองทุนประกันสังคมได้เงินคืนหรือยัง เผลอ ๆ รัฐยังค้างหนี้อยู่ก็ได้         

[เดอะอำมาตย์]

 

1. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ"  หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม  เมื่อเช็คออกไป  คนไปขึ้นเช็ค เช็คจะไปหักเงินจากบัญชีของกองทุนประกันสังคม    

 

 

 

 

 

อย่างนั้นต้องมีรายการรับ-จ่ายในงบการเงินของกองทุนครับ

 

ไม่อย่างนั้นเงินหายไปก็ไม่มีใครรู้

 

อย่ามั่ว

 

 

Quote ให้มันครบได้ไหมวะ หลายรอบแล้วนะ

 

หรือว่าเอ็งอ่านเท่าที่ Quote ?

 

แต่เดี๋ยวนะ........

 

เห้ย!!! ควายแดงมันอ่าน 3 บรรทัดนี่หว่ามิน่า Quote 3 บรรทัด 55555+

[CockRoachKiller]

 

 

หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม

 

 

You have just admitted that the money does not belong to the social security fund.  Is that correct? 

 

 (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

เงินงบประมาณจะถูกโอนมาที่กองทุนประกันสังคม  ปรกติรัฐก็โอนเงินให้กองทุนเป็นประจำอยู่แล้ว ในการจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม

 

"นายจ้าง ติง รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วม 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประกันสังคมสูญเสียรายได้จากการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ชี้ กระทบต่อกองทุนชราภาพแน่นอน ด้าน สปส.แจงรัฐติดหนี้สะสมตั้งแต่ปี 53-55 ห่วงเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ ชี้ ขณะนี้ต้องนำเงินสำรองมาใช้ กระทบการเพิ่มสิทธิ ความมั่นคงกองทุนฯลดลง"
 

กรณีที่รัฐโอนเงินให้ในครั้งนี้ ก็ต้องเป็นเงินเข้ากองทุนประกันสังคม แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ปรกติ จึงไม่ต้องลงบัญชีตามปรกติ

 

 

Now, I realize why Mr Lee is so addicted to this webboard.  Your expertise at half-fact synthesizing always impress me.  Have you seen this?

 

 

Are you saying that government just transfer 18970 MBaht to Social Security Office (SSO) as a part of normal  เงินสมทบจากรัฐบาล?  

Why government wants to pay part of its debt and at the same time don't want to record this transaction in SSO's financial statement? 

 

The only logical reason that can explain why there is no record because that money is not part of normal subsidy. To simply put, it's not part of the debt.  That's why government debt on the statement does not significantly reflect that amount.  Government can not simply steal SSO's money by this.

 

Let me put it this way, suppose I owe you 20K for rubber tapping. For some weird reason, I want to use "your name" in the cheque to pay iPhone5 for 18K Baht. So, I sent you another 18K, you wrote the cheque, I converted it to iPhone5. Of course, you might not want to book this transaction because it does not relate to your normal tapping profit. So, no record.  I still owe you 20K right. 

 

However, according to you synthesis, are you saying that my 18K transfer was a part of your normal rubber tapping profit? Doesn't it sound ridiculous?

 

 

Please read that financial report (pdf) carefully again. I have a huge faith in you, my friend.

Edited by CockRoachKiller, 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:36.

[Stargate-1]

 

 

 

หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม

 

 

You have just admitted that the money does not belong to the social security fund.  Is that correct? 

 

 (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

เงินงบประมาณจะถูกโอนมาที่กองทุนประกันสังคม  ปรกติรัฐก็โอนเงินให้กองทุนเป็นประจำอยู่แล้ว ในการจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม

 

"นายจ้าง ติง รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วม 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประกันสังคมสูญเสียรายได้จากการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ชี้ กระทบต่อกองทุนชราภาพแน่นอน ด้าน สปส.แจงรัฐติดหนี้สะสมตั้งแต่ปี 53-55 ห่วงเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ ชี้ ขณะนี้ต้องนำเงินสำรองมาใช้ กระทบการเพิ่มสิทธิ ความมั่นคงกองทุนฯลดลง"
 

กรณีที่รัฐโอนเงินให้ในครั้งนี้ ก็ต้องเป็นเงินเข้ากองทุนประกันสังคม แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ปรกติ จึงไม่ต้องลงบัญชีตามปรกติ

 

 

Now, I realize why Mr Lee is so addicted to this webboard.  Your expertise at half-fact synthesizing always impress me.  Have you seen this?

 

 

Are you saying that government just transfer 18970 MBaht to Social Security Office (SSO) as a part of normal  เงินสมทบจากรัฐบาล?  

Why government wants to pay part of its debt and at the same time don't want to record this transaction in SSO's financial statement? 

 

The only logical reason that can explain why there is no record because that money is not part of normal subsidy. To simply put, it's not part of the debt.  That's why government debt on the statement does not significantly reflect that amount.  Government can not simply steal SSO's money by this.

 

Let me put it this way, suppose I owe you 20K for rubber tapping. For some weird reason, I want to use "your name" in the cheque to pay iPhone5 for 18K Baht. So, I sent you another 18K, you wrote the cheque, I converted it to iPhone5. Of course, you might not want to book this transaction because it does not relate to your normal tapping profit. So, no record.  I still owe you 20K right. 

 

However, according to you synthesis, are you saying that my 18K transfer was a part of your normal rubber tapping profit? Doesn't it sound ridiculous?

 

 

Please read that financial report (pdf) carefully again. I have a huge faith in you, my friend.

 

 

"นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เปิดเผยถึง ผลการประชุมบอร์ด สปส.เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ อนุมัติโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทั้งในส่วนแรงงานที่เป็นผู้ประกันตนและนายจ้าง ผู้ประกอบการ ใน 2 เรื่อง ได้แก่ 1.ลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ซึ่งปัจจุบันทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างจ่ายอยู่ร้อยละ 5 แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกให้ลดการจ่ายเงินสมทบร้อยละ 2 ของอัตราค่าจ้าง ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยให้เริ่มในงวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2555 ส่งผลให้นายจ้างและลูกจ้างจ่ายเงินสมทบเพียงร้อยละ 3 ส่วนระยะที่สองให้ลดการจ่ายเงินสมทบร้อยละ 1 ของอัตราค่าจ้าง ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง เป็นระยะเวลา 6 เดือน ให้เริ่มเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2555 ทำให้นายจ้างและลูกจ้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพียงร้อยละ 4 ทั้งนี้ ในสองระยะนี้รัฐบาลยังคงจ่ายเงินสมทบในอัตราเท่าเดิม คือ ร้อยละ 2.75"

ปรกติรัฐก็ให้เงินกองทุนอยู่แล้ว เป็นเงินสมทบกองทุน  แล้วเงินที่ได้รับเข้ากองทุนนี้เป็นเงินของรัฐ หรือ ของกองทุนประกันสังคม ครั้งนี้รัฐก็ให้เงินกองทุน แต่อยู่อีกบัญชี

 

เหตุที่ไม่มีการลงรายรับรายจ่าย เพราะไม่ใช่รายรับรายจ่ายปรกติ แต่มีหลักการตามระเบียบใหม่ ตามมติครม.ข้อ 5.

 

 5. อนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินอุดหนุนทั่วไปโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน พ.ศ. 2552  เนื่องจากการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ

 

เขาทำตามระเบียบนี้ครับ

 

ปีที่นำมามันปี 51 - 52  เอาปี 53 - 55 มาด้วยซิ
 

"นายจ้าง ติง รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วม 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประกันสังคมสูญเสียรายได้จากการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ชี้ กระทบต่อกองทุนชราภาพแน่นอน ด้าน สปส.แจงรัฐติดหนี้สะสมตั้งแต่ปี 53-55 ห่วงเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ ชี้ ขณะนี้ต้องนำเงินสำรองมาใช้ กระทบการเพิ่มสิทธิ ความมั่นคงกองทุนฯลดลง"
 

Edited by Stargate-1, 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 22:20.

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

 

กรณีที่รัฐโอนเงินให้ในครั้งนี้ ก็ต้องเป็นเงินเข้ากองทุนประกันสังคม แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ปรกติ จึงไม่ต้องลงบัญชีตามปรกติ

 

 

ไอ้กากลีเค้า ไม่รู้ว่า รัฐต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนด้วย

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

 

 

ก็ชีวิตมันเคยทำงานกับเค้าที่ไหน

เป็นขี้ข้าคอยปั่นกระทู้เสี้ยมตามบอร์ด จะไปรู้ระบบประกันสังคมได้ไงคับ  

[CockRoachKiller]

 

 

 

 

หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม

 
You have just admitted that the money does not belong to the social security fund.  Is that correct?

 

 (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม
เงินงบประมาณจะถูกโอนมาที่กองทุนประกันสังคม  ปรกติรัฐก็โอนเงินให้กองทุนเป็นประจำอยู่แล้ว ในการจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม
 
"นายจ้าง ติง รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วม 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประกันสังคมสูญเสียรายได้จากการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ชี้ กระทบต่อกองทุนชราภาพแน่นอน ด้าน สปส.แจงรัฐติดหนี้สะสมตั้งแต่ปี 53-55 ห่วงเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ ชี้ ขณะนี้ต้องนำเงินสำรองมาใช้ กระทบการเพิ่มสิทธิ ความมั่นคงกองทุนฯลดลง"
 
กรณีที่รัฐโอนเงินให้ในครั้งนี้ ก็ต้องเป็นเงินเข้ากองทุนประกันสังคม แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ปรกติ จึงไม่ต้องลงบัญชีตามปรกติ

 

 
Now, I realize why Mr Lee is so addicted to this webboard.  Your expertise at half-fact synthesizing always impress me.  Have you seen this?
 

 
Are you saying that government just transfer 18970 MBaht to Social Security Office (SSO) as a part of normal  เงินสมทบจากรัฐบาล?  
Why government wants to pay part of its debt and at the same time don't want to record this transaction in SSO's financial statement? 
 
The only logical reason that can explain why there is no record because that money is not part of normal subsidy. To simply put, it's not part of the debt.  That's why government debt on the statement does not significantly reflect that amount.  Government can not simply steal SSO's money by this.
 
Let me put it this way, suppose I owe you 20K for rubber tapping. For some weird reason, I want to use "your name" in the cheque to pay iPhone5 for 18K Baht. So, I sent you another 18K, you wrote the cheque, I converted it to iPhone5. Of course, you might not want to book this transaction because it does not relate to your normal tapping profit. So, no record.  I still owe you 20K right. 
 
However, according to you synthesis, are you saying that my 18K transfer was a part of your normal rubber tapping profit? Doesn't it sound ridiculous?
 
 
Please read that financial report (pdf) carefully again. I have a huge faith in you, my friend.

 

 
"นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เปิดเผยถึง ผลการประชุมบอร์ด สปส.เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ อนุมัติโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทั้งในส่วนแรงงานที่เป็นผู้ประกันตนและนายจ้าง ผู้ประกอบการ ใน 2 เรื่อง ได้แก่ 1.ลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ซึ่งปัจจุบันทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างจ่ายอยู่ร้อยละ 5 แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกให้ลดการจ่ายเงินสมทบร้อยละ 2 ของอัตราค่าจ้าง ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยให้เริ่มในงวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2555 ส่งผลให้นายจ้างและลูกจ้างจ่ายเงินสมทบเพียงร้อยละ 3 ส่วนระยะที่สองให้ลดการจ่ายเงินสมทบร้อยละ 1 ของอัตราค่าจ้าง ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง เป็นระยะเวลา 6 เดือน ให้เริ่มเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2555 ทำให้นายจ้างและลูกจ้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพียงร้อยละ 4 ทั้งนี้ ในสองระยะนี้รัฐบาลยังคงจ่ายเงินสมทบในอัตราเท่าเดิม คือ ร้อยละ 2.75"

ปรกติรัฐก็ให้เงินกองทุนอยู่แล้ว เป็นเงินสมทบกองทุน  แล้วเงินที่ได้รับเข้ากองทุนนี้เป็นเงินของรัฐ หรือ ของกองทุนประกันสังคม ครั้งนี้รัฐก็ให้เงินกองทุน แต่อยู่อีกบัญชี
 
เหตุที่ไม่มีการลงรายรับรายจ่าย เพราะไม่ใช่รายรับรายจ่ายปรกติ แต่มีหลักการตามระเบียบใหม่ ตามมติครม.ข้อ 5.
 
 5. อนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินอุดหนุนทั่วไปโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน พ.ศ. 2552  เนื่องจากการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ
 
เขาทำตามระเบียบนี้ครับ
 
ปีที่นำมามันปี 51 - 52  เอาปี 53 - 55 มาด้วยซิ
 
"นายจ้าง ติง รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วม 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประกันสังคมสูญเสียรายได้จากการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ชี้ กระทบต่อกองทุนชราภาพแน่นอน ด้าน สปส.แจงรัฐติดหนี้สะสมตั้งแต่ปี 53-55 ห่วงเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ ชี้ ขณะนี้ต้องนำเงินสำรองมาใช้ กระทบการเพิ่มสิทธิ ความมั่นคงกองทุนฯลดลง"

 

 
Again, your 2555 quote is irrelevant. You don't need to lecture me on government subsidy (เงินสมทบกองทุน จากรัฐบาล) .  Remember, I am the one who post the SSO's 2552 financial statements. If you have read it, (I hope you did), you should not show that silly quote. Same as the quote for government debt for 53-55. Of course, every government owes SSO every financial year. That fact is not going to help you prove anything.
 
I can get 2553 and 2554 SSO's financial statement for you. I have them here in my computer. However, I see no point in doing such thing. What we discuss is 2552 "Help-Nation-Cheque" budget which active on May 2552 and finish almost within 3 months. Any financial transaction that effect the SSO fund between Dec, 31,2551 and Dec 31, 2552 have to be there. If it's related to SSO fund status, of course.
 
Lacking of understanding on หลักการตามระเบียบใหม่ ตามมติครม.ข้อ 5. just weak your argument.  You just keep messing partial fact around in hoping to get the desire result.  
 
Here are the fact.
 
1) SSO fund mainly has 3 parties., employer(เงินสมทบกองทุน จากนายจ้าง), employee(เงินสมทบกองทุน จากลูกจ้าง) and government (เงินสมทบกองทุน จากรัฐบาล).  Each part needs to put money into the fund according to the law. However, every government not fully pay their part. Government always owes SSO some money.
 
2) In 2552, government did transfer money for Help-Nation-check campaign to SSO account. In order to use the SSO facility to distribute the cheque, nothing more.  The หลักการตามระเบียบใหม่ ตามมติครม.ข้อ 5.  that you keep hanging has to be there because it's not (by the law) normal government subsidy part(1).  The existing of that transferred money does neither effect status of SSO fund nor the government debt on SSO at all. In fact, on Dec 2552, government still owed SSO for 25000 MB which increase from 20000 MB in 2551. Please review my iPhon5 scenario if you don't understand.

 

Please don't claim that money is a part of (เงินสมทบกองทุน จากรัฐบาล) while at the same time keep telling เหตุที่ไม่มีการลงรายรับรายจ่าย เพราะไม่ใช่รายรับรายจ่ายปรกติ.   That should like a stubborn person who will do anything just to win.

If  the transfered 18970 MB was part of goverment subsidy(เงินสมทบกองทุน จากรัฐบาล) according to the law, why goverment need to create new regulation so SSO doesn't have to book it.  Remember, goverment owe SSO 20000 MB in 2551.  How come any sane goverment in the world don't want to reduce their debt after spending 18970 MB?     
 
So, this might be the last time I will waste my time on this repetitive answer. I keep responding your comment because you seem to be a logical person. Please fully use your logic. Marc nazi can use government budget anyway he like.  Same thing applies to Yingluck.  Don't let any emotion, anger or fear to cloud your deliberation. Either you right or wrong does not make me smarter or richer or Thaksin coming back soon.

 

For other cockroach that understand what I mean, shame on all of you.

 

ps: I need to copy/paste some Thai phrase to reduce translation problem.  I hope it help.

Edited by CockRoachKiller, 6 กันยายน พ.ศ. 2556 - 12:57.

[กากจริงไรจริง]

ไม่รู้เป็นอะไร จู่ๆนึกถึงคลิปนี้ขึ้นมา

[Stargate-1]

 

 

 

 

 

หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม

 
You have just admitted that the money does not belong to the social security fund.  Is that correct?

 

 (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม
เงินงบประมาณจะถูกโอนมาที่กองทุนประกันสังคม  ปรกติรัฐก็โอนเงินให้กองทุนเป็นประจำอยู่แล้ว ในการจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม
 
"นายจ้าง ติง รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วม 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประกันสังคมสูญเสียรายได้จากการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ชี้ กระทบต่อกองทุนชราภาพแน่นอน ด้าน สปส.แจงรัฐติดหนี้สะสมตั้งแต่ปี 53-55 ห่วงเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ ชี้ ขณะนี้ต้องนำเงินสำรองมาใช้ กระทบการเพิ่มสิทธิ ความมั่นคงกองทุนฯลดลง"
 
กรณีที่รัฐโอนเงินให้ในครั้งนี้ ก็ต้องเป็นเงินเข้ากองทุนประกันสังคม แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ปรกติ จึงไม่ต้องลงบัญชีตามปรกติ

 

 
Now, I realize why Mr Lee is so addicted to this webboard.  Your expertise at half-fact synthesizing always impress me.  Have you seen this?
 

 
Are you saying that government just transfer 18970 MBaht to Social Security Office (SSO) as a part of normal  เงินสมทบจากรัฐบาล?  
Why government wants to pay part of its debt and at the same time don't want to record this transaction in SSO's financial statement? 
 
The only logical reason that can explain why there is no record because that money is not part of normal subsidy. To simply put, it's not part of the debt.  That's why government debt on the statement does not significantly reflect that amount.  Government can not simply steal SSO's money by this.
 
Let me put it this way, suppose I owe you 20K for rubber tapping. For some weird reason, I want to use "your name" in the cheque to pay iPhone5 for 18K Baht. So, I sent you another 18K, you wrote the cheque, I converted it to iPhone5. Of course, you might not want to book this transaction because it does not relate to your normal tapping profit. So, no record.  I still owe you 20K right. 
 
However, according to you synthesis, are you saying that my 18K transfer was a part of your normal rubber tapping profit? Doesn't it sound ridiculous?
 
 
Please read that financial report (pdf) carefully again. I have a huge faith in you, my friend.

 

 
"นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เปิดเผยถึง ผลการประชุมบอร์ด สปส.เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ อนุมัติโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทั้งในส่วนแรงงานที่เป็นผู้ประกันตนและนายจ้าง ผู้ประกอบการ ใน 2 เรื่อง ได้แก่ 1.ลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ซึ่งปัจจุบันทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างจ่ายอยู่ร้อยละ 5 แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกให้ลดการจ่ายเงินสมทบร้อยละ 2 ของอัตราค่าจ้าง ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยให้เริ่มในงวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2555 ส่งผลให้นายจ้างและลูกจ้างจ่ายเงินสมทบเพียงร้อยละ 3 ส่วนระยะที่สองให้ลดการจ่ายเงินสมทบร้อยละ 1 ของอัตราค่าจ้าง ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง เป็นระยะเวลา 6 เดือน ให้เริ่มเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2555 ทำให้นายจ้างและลูกจ้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพียงร้อยละ 4 ทั้งนี้ ในสองระยะนี้รัฐบาลยังคงจ่ายเงินสมทบในอัตราเท่าเดิม คือ ร้อยละ 2.75"

ปรกติรัฐก็ให้เงินกองทุนอยู่แล้ว เป็นเงินสมทบกองทุน  แล้วเงินที่ได้รับเข้ากองทุนนี้เป็นเงินของรัฐ หรือ ของกองทุนประกันสังคม ครั้งนี้รัฐก็ให้เงินกองทุน แต่อยู่อีกบัญชี
 
เหตุที่ไม่มีการลงรายรับรายจ่าย เพราะไม่ใช่รายรับรายจ่ายปรกติ แต่มีหลักการตามระเบียบใหม่ ตามมติครม.ข้อ 5.
 
 5. อนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินอุดหนุนทั่วไปโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน พ.ศ. 2552  เนื่องจากการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ
 
เขาทำตามระเบียบนี้ครับ
 
ปีที่นำมามันปี 51 - 52  เอาปี 53 - 55 มาด้วยซิ
 
"นายจ้าง ติง รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วม 6 หมื่นล้านบาท ทำให้ประกันสังคมสูญเสียรายได้จากการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ชี้ กระทบต่อกองทุนชราภาพแน่นอน ด้าน สปส.แจงรัฐติดหนี้สะสมตั้งแต่ปี 53-55 ห่วงเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ ชี้ ขณะนี้ต้องนำเงินสำรองมาใช้ กระทบการเพิ่มสิทธิ ความมั่นคงกองทุนฯลดลง"

 

 
Again, your 2555 quote is irrelevant. You don't need to lecture me on government subsidy (เงินสมทบกองทุน จากรัฐบาล) .  Remember, I am the one who post the SSO's 2552 financial statements. If you have read it, (I hope you did), you should not show that silly quote. Same as the quote for government debt for 53-55. Of course, every government owes SSO every financial year. That fact is not going to help you prove anything.
 
I can get 2553 and 2554 SSO's financial statement for you. I have them here in my computer. However, I see no point in doing such thing. What we discuss is 2552 "Help-Nation-Cheque" budget which active on May 2552 and finish almost within 3 months. Any financial transaction that effect the SSO fund between Dec, 31,2551 and Dec 31, 2552 have to be there. If it's related to SSO fund status, of course.
 
Lacking of understanding on หลักการตามระเบียบใหม่ ตามมติครม.ข้อ 5. just weak your argument.  You just keep messing partial fact around in hoping to get the desire result.  
 
Here are the fact.
 
1) SSO fund mainly has 3 parties., employer(เงินสมทบกองทุน จากนายจ้าง), employee(เงินสมทบกองทุน จากลูกจ้าง) and government (เงินสมทบกองทุน จากรัฐบาล).  Each part needs to put money into the fund according to the law. However, every government not fully pay their part. Government always owes SSO some money.
 
2) In 2552, government did transfer money for Help-Nation-check campaign to SSO account. In order to use the SSO facility to distribute the cheque, nothing more.  The หลักการตามระเบียบใหม่ ตามมติครม.ข้อ 5.  that you keep hanging has to be there because it's not (by the law) normal government subsidy part(1).  The existing of that transferred money does neither effect status of SSO fund nor the government debt on SSO at all. In fact, on Dec 2552, government still owed SSO for 25000 MB which increase from 20000 MB in 2551. Please review my iPhon5 scenario if you don't understand.

 

Please don't claim that money is a part of (เงินสมทบกองทุน จากรัฐบาล) while at the same time keep telling เหตุที่ไม่มีการลงรายรับรายจ่าย เพราะไม่ใช่รายรับรายจ่ายปรกติ.   That should like a stubborn person who will do anything just to win.

If  the transfered 18970 MB was part of goverment subsidy(เงินสมทบกองทุน จากรัฐบาล) according to the law, why goverment need to create new regulation so SSO doesn't have to book it.  Remember, goverment owe SSO 20000 MB in 2551.  How come any sane goverment in the world don't want to reduce their debt after spending 18970 MB?     
 
So, this might be the last time I will waste my time on this repetitive answer. I keep responding your comment because you seem to be a logical person. Please fully use your logic. Marc nazi can use government budget anyway he like.  Same thing applies to Yingluck.  Don't let any emotion, anger or fear to cloud your deliberation. Either you right or wrong does not make me smarter or richer or Thaksin coming back soon.

 

For other cockroach that understand what I mean, shame on all of you.

 

ps: I need to copy/paste some Thai phrase to reduce translation problem.  I hope it help.

 

 

ถ้าเองดูตามข้อ 5 ก็คงตอบได้ว่า ไม่ใช้ระเบียบเดิม ดังนั้นเองจะให้อยู่ในบัญชีเดียวกันอีกหรือ แล้วในปี 53 -55 ก็เอามาให้ดูซิว่า ปี 2553 - 5  รัฐมีการสมทบหรือไม่ เพราะของปี 2551 - 2  รัฐค้างจ่ายมาตลอด หนี้สินของปี 2553 - 2555 ก็เป็นการบอกได้ว่า รํฐไม่มีเงินจ่าย แล้วเงินที่รัฐโอนมาจ่ายเช็ค 2,000 บาท ก็เหมือนกับรัฐเอาเงินที่จะจ่ายสมทบมาจ่ายเช็คช่วยชาติแทน เหมือนที่คุณแฟคลับจ๋า เคยบอกไว้ว่ากองทุนมีเงินถึง 7 แสนล้าน    น่าจะเอามาใช้จ่ายแทนที่จะเก็บไว้เฉยๆ      แล้วเองไปทำประกันแล้วหรือยัง ไอ่หนู

 

ผู้ประกันตนนอกระบบ(ม.40)

 

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
 
 ที่มา
การขยายประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบโดยผลักดันร่าง พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ฉบับแก้ไข เพื่อรัฐร่วมจ่ายในมาตรา 40 และแก้ไขพระราชกฤษฎีกา เพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 ให้เป็นที่จูงใจ โดยเป็นระบบสมัครใจ
 
  ความหมาย
ผู้ประกันตนมาตรา 40 หมายถึง บุคคลที่มิใช่ลูกจ้างตามมาตรา 33 หรือเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 เรียกว่า ผู้ประกันตนโดยอิสระ
     
 คุณสมบัติในการสมัคร
ต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ ณ วันสมัครไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ไม่เป็นลูกจ้างในสถานประกอบการ) หรือผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 สมัครโดยลงลายมือชื่อในใบสมัครด้วยตนเองพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และจ่ายเงินสมทบงวดแรกได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศเลือกทางเลือกใน การจ่ายเงินสมทบได้ 2 ทางเลือก คือ

ชุดสิทธิประโยชน์ 1 จ่าย 100 บาท/เดือน (จ่ายเอง 70 บาท รัฐสนับสนุน 30 บาท)

ชุดสิทธิประโยชน์ 2 จ่าย 150 บาท/เดือน (จ่ายเอง 100 บาท รัฐสนับสนุน 50 บาท) ความเป็นผู้ประกันตนจะเริ่มตั้งแต่วันที่จ่ายเงินสมทบงวดแรก

หมายเหตุ รัฐสนับสนุนในระยะแรกทั้งนี้ จนกว่าสำนักงานประกันสังคมจะประกาศเป็นอย่างอื่น
  
 การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูล
เมื่อเป็นผู้ ประกันตนแล้วหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่น เปลี่ยนคำนำหน้านาม ชื่อ - สกุล ที่อยู่ที่ติดต่อขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบ หรือแจ้งความไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตนต่อไป (ลาออก) เป็นต้น ให้แจ้งต่อสำนักงานประกันสังคม
กรณีขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบจะทำได้ปีละ 1 ครั้ง ก่อนวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมของปีถัดไป
 
 ประโยชน์ทางภาษี
    -  เงินสมทบในแต่ละปี ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยใช้ใบเสร็จรับเงินที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเป็นหลักฐาน
 
 สิทธิประโยชน์พื้นฐาน
   
1.  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เมื่อนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 200 บาทต่อวัน ไม่เกิน 20 วันต่อปี เงื่อนไขจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 4 เดือน (การรักษาพยาบาลใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง) จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)
   
2.  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 500 - 1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลานานถึง 15 ปี เงื่อนไข เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือนขึ้นไป (ต้องเป็นผู้ทุพพลภาพหรือทุพพลภาพเพิ่มขึ้นตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการ แพทย์)
   
3.  ค่าทำศพ (เสียชีวิต) จะได้รับค่าทำศพจำนวน 20,000 บาทต่อราย  เงื่อนไข จ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายในระยะเวลา 12 เดือน
   
4.  เงินบำเหน็จชราภาพผู้ประกันตนสามารถรับเงินก้อนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เงื่อนไข มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
 
 ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณ
     เพื่อสิทธิประโยชน์ดังกล่าวสำนักงานประกันสังคมขอเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณด้วยชุดสิทธิประโยชน์ ดังนี้
 
 ชุดสิทธิประโยชน์ 1 (จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 3 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  เงินค่าทำศพ
 
 เงินสมทบที่จ่าย
ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 100 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 3 บาท *ในระยะแรกรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนให้ 30 บาท และผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท
 
 ชุดสิทธิประโยชน์ 2 (จ่ายเงินสมทบ 150 บาท/เดือน)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 4 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  เงินค่าทำศพ  เงินบำเหน็จชราภาพ (เงินออมกรณีชราภาพ)
 
 จ่ายเงินสมทบ
ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 150 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 5 บาท *ในระยะแรกรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนให้ 50 บาท และ ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท

***ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่ประสงค์รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้นสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมได้ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาทต่อเดือน
 
หมายเหตุ ทั้งนี้ ในการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 จ่ายเป็นรายเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง และจ่ายเงินสมทบล่วงหน้าได้ครั้งละไม่เกิน 12 เดือน แต่ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้
 
วิธีการนำส่งเงินสมทบ

    1.  ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถนำส่งเงินสมทบได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ที่ท่านสะดวก
    2.  ชำระได้ที่เคาน์เตอร์วิสทุกแห่ง
    3.  หักผ่านบัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน โดยผู้ประกันตนต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมเอง ซึ่งมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2554 เป็นต้นไป

หมายเหตุ การชำระเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 10 บาท ในส่วนการชำระผ่านธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง โดยจะได้รับใบเสร็จรับเงินทันที  แต่ผู้ประกันตนต้องนำใบเสร็จรับเงินที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ออกให้พร้อม สมุดนำส่งเงินสมทบมาตรา 40 ไปติดต่อที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการประทับตราในสมุดนำส่งเงินสมทบ  เนื่องจากต้องใช้ประกอบการยื่นเรื่องเมื่อมีการรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
 
 เอกสารประกอบการสมัคร

   1.   แบบการขึ้นทะเบียนการเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 (สปส.1-40)
   2.  บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้พร้อมสำเนา
    
 สถานที่ในการขึ้นทะเบียน

    1.  สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
    2.  หน่วยบริการเคลื่อนที่
    3.  สมัครผ่านตัวแทน (เจ้าหน้าที่ประกันสังคม)
    
หมายเหตุ ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ได้มีการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจสมัคร มาตรา 40 โดยสามารถกรอกแบบฟอร์มสมัครผ่านเจ้าหน้าที่/ตัวแทน แต่ยังไม่มีการเก็บเงินสมทบ ทั้งนี้ในการเก็บเงินสมทบจะเริ่มเก็บในเดือน พฤษภาคม 2554 หรือสามารถติดต่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนได้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา    

 

 

 

(ขอย่อนิดนิดเอาเฉพาะเนื้อๆ นะครับ)
 
ไอ้ที่เกี่ยวคือข้อแย้งของเขาที่บอกว่า 3 ล้อไม่ได้รับเช็คเพราะไม่ได้เป็นผู้ประกันตน จึงไม่ได้รับเงินคืนจากกองทุน และ 3 ล้อไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนผู้รับเช็ค จึงไม่มีสิทธิ และดังนั้น จึงไม่สามารถเอามาเทียบเคียงกับเรื่องชาวนาได้ประโยชน์จากการจำนำแต่ชาวสวนยางไม่ได้รับ

 
หากยึดตามเหตุผลทั้ง 2 ข้อของผู้โต้แย้งแล้ว ผู้รับเช็คตอนนั้น ไม่ได้มีสิทธิอะไรเหนือกว่าคนขับ 3 ล้ออย่างที่เขาเคลมเลย
 
นั่นคือประเด็นหลักของข้อโต้แย้งครับ

 

ตกลงประเด็นหลักของเรื่องโต้แย้งเรื่องเช็ค 2,000 บาท ไม่ใช่คำถามที่ว่า ทำไมคนขับ 3 ล้อไม่ได้ไม่ใช่หรือครับ เพราะถ้าคำถามนี้ผมตอบไปแล้วนะว่าทำไมคนที่ประกันตนได้  แต่คนขับสามล้อไม่ได้     

 

 

 

1. สามล้อเครื่องไม่ได้จ่ายประกันสังคม  ผู้รับเช็ค 2,000 บาทจ่ายประกันสังคม

  แต่เช็ค 2,000 บาท เป็นเงินจากการกู้ + ภาษี  ไม่ได้มาจากประกันสังคม

 

2. สามล้อเครื่องไม่ได้จ่ายภาษี   ผู้รับเช็ค 2,000 บาท รายได้ต่อเดือน < 15,000 ก็ไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนกัน

 

เพราะอะไรสามล้อเครื่องถึงไม่ได้หล่ะครับ?   

 

 

 

1. แม่ค้าขายข้าวมันไก้ไม่ได้จ่ายประกันสังคม  ผู้รับเช็ค 2,000 บาทจ่ายประกันสังคม

  แต่เช็ค 2,000 บาท เป็นเงินจากการกู้ + ภาษี  ไม่ได้มาจากประกันสังคม

 

2.แม่ค้าขายข้าวมันไก่จ่ายภาษี   แต่ผู้รับเช็ค 2,000 บาท รายได้ต่อเดือน < 15,000 ไม่ได้จ่ายภาษี

 

เพราะอะไรแม่ค้าขายข้าวมันไก่ถึงไม่มีสิทธิรับเช็ค 2000 บาทหล่ะครับ?    

 

 

 

ตกลงประเด็นหลักของข้อโต้แย้ง  พี่ลีไม่แย้งแล้วนะครับ     

 

อธิบายนิดนึง  คือประเด็นหลักของกระทู้คือพี่ลีเค้าถามว่า...ทำไมสามล้อไม่ได้แบบคนอื่น...

 

ประเด็นอื่นผมขออยู่นอกวงนะครับ

 

แม่ค้าข้าวมันไก่ สามล้อ ก็มีประกันสังคมได้ เองได้รับเช็คหรือยัง

 

กรณีผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา ๓๙) และผู้ประกันตนที่ประกันตนเอง (มาตรา ๔๐)

- บุคคลซึ่งออกจากงานแล้วแต่ยังส่งเงินประกันสังคมอยู่ตามมาตรา ๓๙,๔๐ ให้ยื่นเรื่องด้วยตนเองต่อประกันสังคม เขตพื้นที่หรือจังหวัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนโดยตรง

- บุคคลที่ออกจากงานแล้วและไม่ได้ส่งเงินประกันสังคมต่อตามมาตรา ๓๙ หรือ ๔๐ แต่ยังอยู่ในระหว่าง ๖ เดือนที่ได้รับการคุ้มครองก็สามารถขอขึ้นทะเบียนได้โดยตรงที่สำนักงานประกันสังคมยื่นแบบคำขอฯ ด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมที่ขึ้นทะเบียน

- หากย้ายสถานที่จ่ายเงินสมทบไปยังสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาอื่นให้ยื่นแบบคำขอฯที่สำนักงานประกันสังคมที่จ่ายเงินสมทบ  (สำนักงานประกันสังคมที่รับผิดชอบปัจจุบัน)  ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันจันทร์ที่  ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒

หมายเหตุ

• สำหรับผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา ๓๙) และผู้ประกันตนที่ประกันตนเอง (มาตรา ๔๐) สำนักงานประกันสังคมได้จัดส่งแบบคำขอรับเงินตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน (สปส.รบ.๒๐๐๐) ให้กับผู้ประกันตนโดยตรง

Edited by Stargate-1, 9 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:17.

[CockRoachKiller]

I have fail you then.

[Stargate-1]

I have fail you then.

 


แม่ค้าข้าวมันไก่ สามล้อ ก็มีประกันสังคมได้ เองได้รับเช็คหรือยัง

Edited by Stargate-1, 6 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:13.

[พอล คุง]

ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 

ยังไม่คนแถ ไม่เลิกอีก

 

นังแต๋ม หายหัวไป ละ 

 

ไอ้กากลี ไม่กล้าเข้ามา

 

เหลือแต่ CockRoachKiller

 

ยังมีความพยาบามอีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

[Tam-mic-ra.]

 

 

 

ตกลงประเด็นหลักของข้อโต้แย้ง  พี่ลีไม่แย้งแล้วนะครับ     

 

อธิบายนิดนึง  คือประเด็นหลักของกระทู้คือพี่ลีเค้าถามว่า...ทำไมสามล้อไม่ได้แบบคนอื่น...

 

ประเด็นอื่นผมขออยู่นอกวงนะครับ

 

 

ขออ้างถึงอีกรอบ  

ตกลงประเด็น "ทำไมสามล้อไม่ได้" ไม่มีใครโต้แย้งแล้วนะครับ

 

 

 

มันชัดเจนอยู่แล้วครับว่าสามล้อเขามีสิทธิไม่แตกต่างจากผู้รับเช็ค 2,000 บาทในปี 52

เพราะ

 

1) 3 ล้อกับผู้รับเช็คไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนกัน

2) เงินที่เอามาจ่ายเช็คมันไม่ใช่เงินจากกองทุนประกันสังคม (อย่างที่คุณอ้าง)  แต่เป็นเงินจากการกู้ยืม (เงินที่แม่ค้าข้าวมันไก่ต้องเสียภาษีเพื่อเอาไปคืนเขาในอนาคต)

 

 

 

เดี๋ยวเผื่อพี่ประชาลีธิปดขี้แพ้จะไม่เข้าใจ  ขออธิบายใหม่ว่า  ประเด็นของเรื่องนี้มีอยู่ 2 เรื่อง

 

1. ทำไมสามล้อไม่ได้............เรื่องนี้เปิดประเด็นโดยพี่ประชาลีธิปด......ซึ่งอันนี้ผมขอโต้แย้งในประเด็นนี้

 

2. เงินมาจากไหน.............เปิดประเด็นโดยแต๋ม.......ซึ่งเรื่องนี้พี่ประชาลีธิปดไม่เกี่ยวมาก่อนเลย  และอันนี้ผมก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเพราะผมไม่มีข้อมูลเรื่องนี้จริงๆ

 

เถียงข้อ 1 ไม่ได้  อย่าลากผมไปข้อ 2 สิ     

 

 

เรื่องนี้คุณประชาธิปดเป็นคนพูดก่อนน่ะครับ ผมอ่านเจอ ก็มาหนุนข้อมูลทีหลัง อีกที 

[Tam-mic-ra.]

 

 

1. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ"  หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม  เมื่อเช็คออกไป  คนไปขึ้นเช็ค เช็คจะไปหักเงินจากบัญชีของกองทุนประกันสังคม    

 

 

 

 

 

อย่างนั้นต้องมีรายการรับ-จ่ายในงบการเงินของกองทุนครับ

 

ไม่อย่างนั้นเงินหายไปก็ไม่มีใครรู้

 

อย่ามั่ว

 

 

Quote ให้มันครบได้ไหมวะ หลายรอบแล้วนะ

 

หรือว่าเอ็งอ่านเท่าที่ Quote ?

 

แต่เดี๋ยวนะ........

 

เห้ย!!! ควายแดงมันอ่าน 3 บรรทัดนี่หว่ามิน่า Quote 3 บรรทัด 55555+

 

 

คุณอำมาตย์นั่นเองที่ไม่ได้อ่าน หรืออ่านไปก็บื้อกิน  เพราะไม่รู้เรื่อง 

คือว่า  คุณรถเก๋งไปบอกว่า ไม่มีเงินในบัญชีงบดุลน่ะ= ถูกแล้ว

แต่คุณมึนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะนั่นเท่ากับประชาชนจะตรวจสอบเส้นทางของเงิน  =ไม่ได้

 

 

 

ส่วนนายสตาร์รถเก๋ง ติงต๊องนี่  ประสาทไม่เลิก    เอาประโยคเดียวมาหากิน ด้าน-แถ-เถียง     จนกระทู้ผ่านไปเปล่าประโยช์หลายหน้าแล้ว

 

มาดูประโยคที่เก๋งกะพอล หากินมาตลอด 

 

1. อนุมัติให้ยกเว้น "ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551"  เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ

                                          (1) มีการขีดคร่อมทั่วไปสั่งจ่ายในนามของผู้ประกันตนและระบุเลขที่ประจำตัวประชาชน  โดยไม่ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออก

                                          (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

 

ประเด็นคือ...   เขาก็บอกไว้ ที่ข้อย่อย 1และ2   ไว้แล้ว   ..   

ว่านี่คือเหตุ ที่ ครม.ต้องลงมติ   "ยกเว้น" ในส่วนของระเบียบที่ไปเกี่ยวข้อง2ข้อ   

ของราชกิจจานุเบกษาว่าด้วย "ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551" 

 

แต่นายสตาร์เก๋งบาร์โค๊ด  ล่าสุด   ดัน...มาตีความประโยคอีกครั้ง  โดยบอกว่า   " มีการโอนเงินจากคลัง"  ไปยังกองทุนฯ

 นี่ก็เท่ากับว่า..เถียงไปเถียงมา นายสตาร์เก๋งก็พูดตัดบทตัวเองและพรรคพวกเฉยเลย    ว่าเงินที่แจก2000 เป็นเงินคลัง!!!   

 

 ไม่ใช่เงินกองทุนแล้วใช่มิ...นายรถเก๋งบาร์โค๊ด       

 

เก๋งนี่มันโชว์อะไรตลกๆแบบนี้หลายรอบแล้ว 

ขนาดเรื่องข้าวเน่ากระบี่  นายศรอรชุนหลงงับข้อมูลนายเก๋งเอาไปเล่นที่พันทิป    ยังต้องหงายเงิบโมโหโกรธากลับมาไม่เป็นท่า

Edited by Tam-mic-ra., 7 กันยายน พ.ศ. 2556 - 01:42.

[Super@2]

ถามนิด..

  รับบาลที่น่าหลงไหล ของท่านกองเชียร์ทั้งหลาย ตอนนี้เป็นไงบ้าง ผลงานเป็นไงบ้าง เศรษฐกิจขึ้นหรือลง อนาคตเศรษฐกิจประเทศจะไปทางไหน

เงยหน้าขึ้นจากคีบอดร์แล้วเข้าสู่โลกความจริงบ้างดีไหม

[esamso]

ก็มีแต่พวกรากหญ้าไม่ใช่เหรอที่ได้เงินนี้ อำมาตย์อย่างข้าไม่ได้กินหรอกเงิน 2000 น่ะ

[พอล คุง]

 

 

 

1. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ"  หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม  เมื่อเช็คออกไป  คนไปขึ้นเช็ค เช็คจะไปหักเงินจากบัญชีของกองทุนประกันสังคม    

 

 

 

 

 

อย่างนั้นต้องมีรายการรับ-จ่ายในงบการเงินของกองทุนครับ

 

ไม่อย่างนั้นเงินหายไปก็ไม่มีใครรู้

 

อย่ามั่ว

 

 

Quote ให้มันครบได้ไหมวะ หลายรอบแล้วนะ

 

หรือว่าเอ็งอ่านเท่าที่ Quote ?

 

แต่เดี๋ยวนะ........

 

เห้ย!!! ควายแดงมันอ่าน 3 บรรทัดนี่หว่ามิน่า Quote 3 บรรทัด 55555+

 

 

คุณอำมาตย์นั่นเองที่ไม่ได้อ่าน หรืออ่านไปก็บื้อกิน  เพราะไม่รู้เรื่อง 

คือว่า  คุณรถเก๋งไปบอกว่า ไม่มีเงินในบัญชีงบดุลน่ะ= ถูกแล้ว

แต่คุณมึนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะนั่นเท่ากับประชาชนจะตรวจสอบเส้นทางของเงิน  =ไม่ได้

 

 

 

ส่วนนายสตาร์รถเก๋ง ติงต๊องนี่  ประสาทไม่เลิก    เอาประโยคเดียวมาหากิน ด้าน-แถ-เถียง     จนกระทู้ผ่านไปเปล่าประโยช์หลายหน้าแล้ว

 

มาดูประโยคที่เก๋งกะพอล หากินมาตลอด 

 

1. อนุมัติให้ยกเว้น "ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551"  เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ

                                          (1) มีการขีดคร่อมทั่วไปสั่งจ่ายในนามของผู้ประกันตนและระบุเลขที่ประจำตัวประชาชน  โดยไม่ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออก

                                          (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

 

ประเด็นคือ...   เขาก็บอกไว้ ที่ข้อย่อย 1และ2   ไว้แล้ว   ..   

ว่านี่คือเหตุ ที่ ครม.ต้องลงมติ   "ยกเว้น" ในส่วนของระเบียบที่ไปเกี่ยวข้อง2ข้อ   

ของราชกิจจานุเบกษาว่าด้วย "ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551" 

 

แต่นายสตาร์เก๋งบาร์โค๊ด  ล่าสุด   ดัน...มาตีความประโยคอีกครั้ง  โดยบอกว่า   " มีการโอนเงินจากคลัง"  ไปยังกองทุนฯ

 นี่ก็เท่ากับว่า..เถียงไปเถียงมา นายสตาร์เก๋งก็พูดตัดบทตัวเองและพรรคพวกเฉยเลย    ว่าเงินที่แจก2000 เป็นเงินคลัง!!!   

 

 ไม่ใช่เงินกองทุนแล้วใช่มิ...นายรถเก๋งบาร์โค๊ด       

 

เก๋งนี่มันโชว์อะไรตลกๆแบบนี้หลายรอบแล้ว 

ขนาดเรื่องข้าวเน่ากระบี่  นายศรอรชุนหลงงับข้อมูลนายเก๋งเอาไปเล่นที่พันทิป    ยังต้องหงายเงิบโมโหโกรธากลับมาไม่เป็นท่า

 

 

แล้วสรุป เป็นเงินกู้ ปะ นังแต๋ม

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

[แดงแสงเทียน]

 

 

 

 

1. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ"  หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม  เมื่อเช็คออกไป  คนไปขึ้นเช็ค เช็คจะไปหักเงินจากบัญชีของกองทุนประกันสังคม    

 

 

 

 

 

อย่างนั้นต้องมีรายการรับ-จ่ายในงบการเงินของกองทุนครับ

 

ไม่อย่างนั้นเงินหายไปก็ไม่มีใครรู้

 

อย่ามั่ว

 

 

Quote ให้มันครบได้ไหมวะ หลายรอบแล้วนะ

 

หรือว่าเอ็งอ่านเท่าที่ Quote ?

 

แต่เดี๋ยวนะ........

 

เห้ย!!! ควายแดงมันอ่าน 3 บรรทัดนี่หว่ามิน่า Quote 3 บรรทัด 55555+

 

 

คุณอำมาตย์นั่นเองที่ไม่ได้อ่าน หรืออ่านไปก็บื้อกิน  เพราะไม่รู้เรื่อง 

คือว่า  คุณรถเก๋งไปบอกว่า ไม่มีเงินในบัญชีงบดุลน่ะ= ถูกแล้ว

แต่คุณมึนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะนั่นเท่ากับประชาชนจะตรวจสอบเส้นทางของเงิน  =ไม่ได้

 

 

 

ส่วนนายสตาร์รถเก๋ง ติงต๊องนี่  ประสาทไม่เลิก    เอาประโยคเดียวมาหากิน ด้าน-แถ-เถียง     จนกระทู้ผ่านไปเปล่าประโยช์หลายหน้าแล้ว

 

มาดูประโยคที่เก๋งกะพอล หากินมาตลอด 

 

1. อนุมัติให้ยกเว้น "ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551"  เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ

                                          (1) มีการขีดคร่อมทั่วไปสั่งจ่ายในนามของผู้ประกันตนและระบุเลขที่ประจำตัวประชาชน  โดยไม่ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออก

                                          (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

 

ประเด็นคือ...   เขาก็บอกไว้ ที่ข้อย่อย 1และ2   ไว้แล้ว   ..   

ว่านี่คือเหตุ ที่ ครม.ต้องลงมติ   "ยกเว้น" ในส่วนของระเบียบที่ไปเกี่ยวข้อง2ข้อ   

ของราชกิจจานุเบกษาว่าด้วย "ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551" 

 

แต่นายสตาร์เก๋งบาร์โค๊ด  ล่าสุด   ดัน...มาตีความประโยคอีกครั้ง  โดยบอกว่า   " มีการโอนเงินจากคลัง"  ไปยังกองทุนฯ

 นี่ก็เท่ากับว่า..เถียงไปเถียงมา นายสตาร์เก๋งก็พูดตัดบทตัวเองและพรรคพวกเฉยเลย    ว่าเงินที่แจก2000 เป็นเงินคลัง!!!   

 

 ไม่ใช่เงินกองทุนแล้วใช่มิ...นายรถเก๋งบาร์โค๊ด       

 

เก๋งนี่มันโชว์อะไรตลกๆแบบนี้หลายรอบแล้ว 

ขนาดเรื่องข้าวเน่ากระบี่  นายศรอรชุนหลงงับข้อมูลนายเก๋งเอาไปเล่นที่พันทิป    ยังต้องหงายเงิบโมโหโกรธากลับมาไม่เป็นท่า

 

 

แล้วสรุป เป็นเงินกู้ ปะ นังแต๋ม

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

 

 

 

เงินแม่ค้าข้าวมันไก่ ที่ใช้คืนอนาคต อันนี้เสื้อแดงเค้าบอกไปแล้ว เกี่ยวกับขายไก่นะนี่ยังไม่ได้พูดถึงขายไข่ แต่ก็ขายอยู่ใกล้ๆกัน

[Stargate-1]

 

 

 

1. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ"  หมายความว่ามีการโอนเงินจากคลังไปกองทุนประกันสังคม  เมื่อเช็คออกไป  คนไปขึ้นเช็ค เช็คจะไปหักเงินจากบัญชีของกองทุนประกันสังคม

 
 อย่างนั้นต้องมีรายการรับ-จ่ายในงบการเงินของกองทุนครับ
 
ไม่อย่างนั้นเงินหายไปก็ไม่มีใครรู้
 
อย่ามั่ว

 

 เหตุที่ไม่มีการลงรายรับรายจ่าย เพราะไม่ใช่รายรับรายจ่ายปรกติ แต่มีหลักการตามระเบียบใหม่ ตามมติครม.ข้อ 5.
 
 5. อนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินอุดหนุนทั่วไปโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน พ.ศ. 2552  เนื่องจากการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ
 
เขาทำตามระเบียบนี้ครับ

Quote ให้มันครบได้ไหมวะ หลายรอบแล้วนะ
 
หรือว่าเอ็งอ่านเท่าที่ Quote ?
 
แต่เดี๋ยวนะ........
 
เห้ย!!! ควายแดงมันอ่าน 3 บรรทัดนี่หว่ามิน่า Quote 3 บรรทัด 55555+

 

 
 1. อนุมัติให้ยกเว้น "ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551"  เพื่อให้ เช็คช่วยชาติ[/ เป็นเช็คสั่งจายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ 
             (1) มีการขีดคร่อมทั่วไปสั่งจ่ายในนามของผู้ประกันตนและระบุเลขที่ประจำตัวประชาชน  โดยไม่ขีดฆ่าคำว่า หรือผู้ถือ/ออก 
             (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก [“เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม
 
ประเด็นคือ...   เขาก็บอกไว้ ที่ข้อย่อย 1และ2   ไว้แล้ว   ..   ว่านี่คือเหตุ ที่ ครม.ต้องลงมติ   "ยกเว้น" ในส่วนของระเบียบที่ไปเกี่ยวข้อง2ข้อ  ของราชกิจจานุเบกษาว่าด้วย "ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551" 

 

เองอ่านไม่หมด หรอก เพราะเองจะเลือกอ่านที่เองชอบเท่านั้น        

 

มติ ครม วันที่ 3 มีนา 52

 

https://www.google.c....51495398,d.bmk

 

1.  เรื่อง การปฏิบัติงานตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ

                        คณะรัฐมนตรีอนุมัติและเห็นชอบในหลักการเพื่อการดำเนินงานตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ  (ในส่วนของผู้ประกันตน) ในประเด็นต่าง ๆ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ  ดังนี้

                        1. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ

                                    (1) มีการขีดคร่อมทั่วไปสั่งจ่ายในนามของผู้ประกันตนและระบุเลขที่ประจำตัวประชาชน  โดยไม่ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออก

                                    (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

                        2. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สำนักงานประกันสังคมเก็บรักษา  “เช็คช่วยชาติ” ไว้เป็นเวลา 90 วัน (ณ สำนักงานคลังจังหวัด หรือตู้นิรภัยของธนาคารสาขาหลักที่ออก “เช็คช่วยชาติ”) กรณีที่ผู้ประกันตนไม่มารับ “เช็คช่วยชาติ” ในวันที่ระบุใน  “เช็คช่วยชาติ”

                        3. เห็นชอบในหลักการตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนผู้ประกันตน รวม 4 ประการ  ดังนี้

                                    3.1 ขอกำหนดคุณสมบัติของผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ  คือจะต้องมีสัญชาติไทยและมีสถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533

                                    3.2 ขอขยายขอบเขตการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตน  ให้รวมถึงผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2551 และยังได้รับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคมต่อไปอีก 6 เดือน (เป็นบุคคลตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533)

                                    3.3 ขอใช้ฐานค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม เป็นเกณฑ์ตัดสินการมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการฯ ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนมีการทำงานมากกว่า 1 แห่งและมีฐานค่าจ้างรวมกันเป็นจำนวนเงินตั้งแต่เดือนละ 15,000 บาทขึ้นไป  จะไม่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ

                                    3.4 กำหนดให้การจ่าย “เช็คช่วยชาติ” มีวิธีดำเนินการ 3 วิธี คือ

                                                                (1) จ่าย “เช็คช่วยชาติ” ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิ ณ สถานประกอบการที่ผู้ประกันตนทำงานอยู่โดยตรง

                                                (2) จ่าย “เช็คช่วยชาติ” ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิโดยตรง ณ สถานที่ซึ่งสำนักงานประกันสังคมมีประกาศกำหนดนัดหมายไว้ล่วงหน้า

                                                (3) จัดหน่วยงานเคลื่อนที่นำ  “เช็คช่วยชาติ” ไปจ่ายให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิโดยตรงซึ่งพำนักในท้องถิ่นห่างไกล  โดยจะมีประกาศกำหนดนัดหมายไว้ล่วงหน้า

                        4. สนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินงานจ่าย “เช็คช่วยชาติ” ตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐเป็นการเพิ่มเติม รวมจำนวนเงิน 39,638,800 บาท

                        5. อนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินอุดหนุนทั่วไปโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน พ.ศ. 2552  เนื่องจากการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ  

เองอ่านที่ นักข่าวรีพอร์ตเตอร์เอาบัญชีรายรับรายจ่าย ที่รัฐค้างจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมมาทุกปีมาให้ดู หรือเปล่า   ตกลงเขาเอาเงินที่จะจ่ายเงินสมทบ มาจ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ หรือเปล่าว่ะ เงินสมทบถึงค้างจ่ายมาตลอด    แล้วหรือยังทำไมมาครึ่งเดียวอีกแล้ว ตั้งใจ หรือ มึน บอกครึ่งเดียวอีกแล้ว ข้อ 2) ล่ะ หมายความว่าอะไร "ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือสำนักประกันสังคม"  

 

ล่าสุด   ดัน...มาตีความประโยคอีกครั้ง  โดยบอกว่า   "มีการโอนเงินจากคลัง"  ไปยังกองทุนฯ
นี่ก็เท่ากับว่า..เถียงไปเถียงมา พูดตัดบทตัวเองและพรรคพวกเฉยเลย    ว่าเงินที่แจก2000 เป็นเงินคลัง!!!   

ถ้าไม่โอนมาจากคลัง แล้วทำไมเช็คไม่ออกในนามคลังไปเลย โดยไปเอารายชื่อมาจากสำนักประกันสังคม เหมือนตอนที่พรรคพท.ซื่อบื้อของเอง  ให้ก.พลังงานจ่ายคูปอง 2,000 บาท จากฐานรายชื่อคนถูกน้ำท่วม แล้วมันเป็นเงินใครว่ะ เงินของก.พลังงาน หรือ เงินของรัฐ ที่กู้มาแจกอีกหรือเปล่า 

 

แล้วที่เองบอกว่าให้ประกันสังคมเป็นเพียงผู้ดำเนินการ เขาระบุไว้ชัดว่าให้ ธนาคารดำเนินการ โว้ย

 

ไม่ใช่เงินกองทุนแล้วใช่มิ...     

เองจะเอาในแง่ไหนล่ะ จะเอาตามนิตินัย หรือพฤตินัย แต่ทั้งนิตินัย และ พฤตินัยก็ มาจาก ประกันสังคมว่ะ ก็งบเป็นของประกันสังคม ชื่อบนเช็คก็เป็นของประกันสังคม

 

ทีคูปองที่ก.พลังงานออก  ให้ 2 พัน   ที่มันโกงกัน จนเป็นข่าว ปิดกันให้แซดว่า  เอาไปขายให้ร้านค้าในราคาที่ต่ำกว่าเงินหน้าเช็ค ไม่เห็นเองพูดถึงเลย ว่ากู้เงินมาหรือเปล่า

 

นี่มันโชว์อะไรตลกๆแบบนี้หลายรอบแล้ว

ก็เองโง่แล้วขี้เกียจแบบนี่ไง เขาถึงต้องพูดซ้ำ หลายๆรอบ เอามาให้อ่านก็ข้ามไปไม่อ่าน พออยากจะเอามาใช้เถียง ก็ยกมาแค่เฉพาะตรงส่วนที่ที่ชอบเท่านั้น
 

ขนาดเรื่องข้าวเน่ากระบี่  นายศรอรชุนหลงงับข้อมูล เอาไปเล่นที่พันทิป    ยังต้องหงายเงิบโมโหโกรธากลับมาไม่เป็นท่า

 

ที่ 5M บอกว่าพูดเรื่องบาร์โค้ดขัดแย้งกันนั้น 5M ไม่รู้ว่า บาร์โค้ดที่คุณศรฯเอาไปโพสต์นั้น  ได้มาอย่างไร เพราะคุณศรฯไม่ได้โพสต์ลิงค์เว็บที่มาของการหาบาร์โค้ดว่ามาจากบริษัทใดไว้ด้วย    ต่อมา 5M จะมาคุยโวเรื่องบาร์โค้ดของคุณศรฯ   พอรู้ทีมา แล้วยังมีของฝากเป็น บาร์โค้ดไปให้นัดถวุดอีก ก็เงียบหายหัวไปเลย เองคงอ่านเฉพาะที่เองชอบเหมือนเดิม

 

ที่โมโหโกธา  เองไม่ใช่หรือ   ที่โดนคุณศรฯเปิดโปงว่าเป็นวิศวะอีเอค หรือ Rationaleแห่งราดดำเนิน ที่เองอุตสาห์ แอบซ่อนปิดบังอยู่นาน พอคนในนี่รู้ว่าโดนเองหลอก มานาน   เขาก็ด่าเองทุกครั้งที่เองเข้ามาในสรท.   ดีที่เขาไม่ไล่เองให้กลับพันทิบ เหมือนคนอื่น ๆ    55555 ยังเอ็นดูเอง ให้ตบเบาๆหน่อยเลย

Edited by Stargate-1, 11 กันยายน พ.ศ. 2556 - 10:40.

[Stargate-1]

 

 

 

 

ตกลงประเด็นหลักของข้อโต้แย้ง  พี่ลีไม่แย้งแล้วนะครับ     

 

อธิบายนิดนึง  คือประเด็นหลักของกระทู้คือพี่ลีเค้าถามว่า...ทำไมสามล้อไม่ได้แบบคนอื่น...

 

ประเด็นอื่นผมขออยู่นอกวงนะครับ

 

 

ขออ้างถึงอีกรอบ  

ตกลงประเด็น "ทำไมสามล้อไม่ได้" ไม่มีใครโต้แย้งแล้วนะครับ

 

 

 

มันชัดเจนอยู่แล้วครับว่าสามล้อเขามีสิทธิไม่แตกต่างจากผู้รับเช็ค 2,000 บาทในปี 52

เพราะ

 

1) 3 ล้อกับผู้รับเช็คไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนกัน

2) เงินที่เอามาจ่ายเช็คมันไม่ใช่เงินจากกองทุนประกันสังคม (อย่างที่คุณอ้าง)  แต่เป็นเงินจากการกู้ยืม (เงินที่แม่ค้าข้าวมันไก่ต้องเสียภาษีเพื่อเอาไปคืนเขาในอนาคต)

 

 

 

เดี๋ยวเผื่อพี่ประชาลีธิปดขี้แพ้จะไม่เข้าใจ  ขออธิบายใหม่ว่า  ประเด็นของเรื่องนี้มีอยู่ 2 เรื่อง

 

1. ทำไมสามล้อไม่ได้............เรื่องนี้เปิดประเด็นโดยพี่ประชาลีธิปด......ซึ่งอันนี้ผมขอโต้แย้งในประเด็นนี้

 

2. เงินมาจากไหน.............เปิดประเด็นโดยแต๋ม.......ซึ่งเรื่องนี้พี่ประชาลีธิปดไม่เกี่ยวมาก่อนเลย  และอันนี้ผมก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเพราะผมไม่มีข้อมูลเรื่องนี้จริงๆ

 

เถียงข้อ 1 ไม่ได้  อย่าลากผมไปข้อ 2 สิ  

 

เรื่องนี้คุณประชาธิปดเป็นคนพูดก่อนน่ะครับ ผมอ่านเจอ ก็มาหนุนข้อมูลทีหลัง อีกที 

 

ใครพูดก่อนพูดหลังไปหนูแต๋มไปเคียร์กับนักข่าวเอง  เรื่องที่ชมเชยว่าแต๋มเอา   ที่นี่แต๋มครึ่งเดียวคงเข็ดแล้วซินะ ที่นักข่าวโยนชี้ให้

 

ผู้ประกันตนนอกระบบ(ม.40)

 

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
 
 ที่มา
การขยายประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบโดยผลักดันร่าง พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ฉบับแก้ไข เพื่อรัฐร่วมจ่ายในมาตรา 40 และแก้ไขพระราชกฤษฎีกา เพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 ให้เป็นที่จูงใจ โดยเป็นระบบสมัครใจ
 
 
 ความหมาย
ผู้ประกันตนมาตรา 40 หมายถึง บุคคลที่มิใช่ลูกจ้างตามมาตรา 33 หรือเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 เรียกว่า ผู้ประกันตนโดยอิสระ
   
  
 คุณสมบัติในการสมัคร
ต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ ณ วันสมัครไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ไม่เป็นลูกจ้างในสถานประกอบการ) หรือผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 สมัครโดยลงลายมือชื่อในใบสมัครด้วยตนเองพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และจ่ายเงินสมทบงวดแรกได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศเลือกทางเลือกใน การจ่ายเงินสมทบได้ 2 ทางเลือก คือ

ชุดสิทธิประโยชน์ 1 จ่าย 100 บาท/เดือน (จ่ายเอง 70 บาท รัฐสนับสนุน 30 บาท)

ชุดสิทธิประโยชน์ 2 จ่าย 150 บาท/เดือน (จ่ายเอง 100 บาท รัฐสนับสนุน 50 บาท) ความเป็นผู้ประกันตนจะเริ่มตั้งแต่วันที่จ่ายเงินสมทบงวดแรก

หมายเหตุ รัฐสนับสนุนในระยะแรกทั้งนี้ จนกว่าสำนักงานประกันสังคมจะประกาศเป็นอย่างอื่น
  
 การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูล
เมื่อเป็นผู้ ประกันตนแล้วหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่น เปลี่ยนคำนำหน้านาม ชื่อ - สกุล ที่อยู่ที่ติดต่อขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบ หรือแจ้งความไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตนต่อไป (ลาออก) เป็นต้น ให้แจ้งต่อสำนักงานประกันสังคม
กรณีขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบจะทำได้ปีละ 1 ครั้ง ก่อนวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมของปีถัดไป
 
 ประโยชน์ทางภาษี
    -  เงินสมทบในแต่ละปี ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยใช้ใบเสร็จรับเงินที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเป็นหลักฐาน
 
 สิทธิประโยชน์พื้นฐาน
   
1.  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เมื่อนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 200 บาทต่อวัน ไม่เกิน 20 วันต่อปี เงื่อนไขจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 4 เดือน (การรักษาพยาบาลใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง) จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)
   
2.  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 500 - 1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลานานถึง 15 ปี เงื่อนไข เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือนขึ้นไป (ต้องเป็นผู้ทุพพลภาพหรือทุพพลภาพเพิ่มขึ้นตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการ แพทย์)
   
3.  ค่าทำศพ (เสียชีวิต) จะได้รับค่าทำศพจำนวน 20,000 บาทต่อราย  เงื่อนไข จ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายในระยะเวลา 12 เดือน
   
4.  เงินบำเหน็จชราภาพผู้ประกันตนสามารถรับเงินก้อนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เงื่อนไข มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
 
 ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณ
     เพื่อสิทธิประโยชน์ดังกล่าวสำนักงานประกันสังคมขอเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณด้วยชุดสิทธิประโยชน์ ดังนี้
 
 ชุดสิทธิประโยชน์ 1 (จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 3 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  เงินค่าทำศพ
 
 เงินสมทบที่จ่าย
ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 100 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 3 บาท *ในระยะแรกรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนให้ 30 บาท และผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท
 
 ชุดสิทธิประโยชน์ 2 (จ่ายเงินสมทบ 150 บาท/เดือน)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 4 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  เงินค่าทำศพ  เงินบำเหน็จชราภาพ (เงินออมกรณีชราภาพ)
 
 จ่ายเงินสมทบ
ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 150 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 5 บาท *ในระยะแรกรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนให้ 50 บาท และ ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท

***ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่ประสงค์รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้นสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมได้ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาทต่อเดือน
 
หมายเหตุ ทั้งนี้ ในการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 จ่ายเป็นรายเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง และจ่ายเงินสมทบล่วงหน้าได้ครั้งละไม่เกิน 12 เดือน แต่ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้
 
วิธีการนำส่งเงินสมทบ

    1.  ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถนำส่งเงินสมทบได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ที่ท่านสะดวก
    2.  ชำระได้ที่เคาน์เตอร์วิสทุกแห่ง
    3.  หักผ่านบัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน โดยผู้ประกันตนต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมเอง ซึ่งมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2554 เป็นต้นไป

หมายเหตุ การชำระเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 10 บาท ในส่วนการชำระผ่านธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง โดยจะได้รับใบเสร็จรับเงินทันที  แต่ผู้ประกันตนต้องนำใบเสร็จรับเงินที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ออกให้พร้อม สมุดนำส่งเงินสมทบมาตรา 40 ไปติดต่อที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการประทับตราในสมุดนำส่งเงินสมทบ  เนื่องจากต้องใช้ประกอบการยื่นเรื่องเมื่อมีการรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
 
 เอกสารประกอบการสมัคร

   1.   แบบการขึ้นทะเบียนการเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 (สปส.1-40)
   2.  บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้พร้อมสำเนา
    
 สถานที่ในการขึ้นทะเบียน

    1.  สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
    2.  หน่วยบริการเคลื่อนที่
    3.  สมัครผ่านตัวแทน (เจ้าหน้าที่ประกันสังคม)
    
หมายเหตุ ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ได้มีการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจสมัคร มาตรา 40 โดยสามารถกรอกแบบฟอร์มสมัครผ่านเจ้าหน้าที่/ตัวแทน แต่ยังไม่มีการเก็บเงินสมทบ ทั้งนี้ในการเก็บเงินสมทบจะเริ่มเก็บในเดือน พฤษภาคม 2554 หรือสามารถติดต่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนได้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา    

 

 

แฟนคลับจ่า, on 04 Sept 2013 - 09:09, said:

 

ประชาธิปด, on 03 Sept 2013 - 09:08, said:

(ขอย่อนิดนิดเอาเฉพาะเนื้อๆ นะครับ)
 
ไอ้ที่เกี่ยวคือข้อแย้งของเขาที่บอกว่า 3 ล้อไม่ได้รับเช็คเพราะไม่ได้เป็นผู้ประกันตน จึงไม่ได้รับเงินคืนจากกองทุน และ 3 ล้อไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนผู้รับเช็ค จึงไม่มีสิทธิ และดังนั้น จึงไม่สามารถเอามาเทียบเคียงกับเรื่องชาวนาได้ประโยชน์จากการจำนำแต่ชาวสวนยางไม่ได้รับ

 
หากยึดตามเหตุผลทั้ง 2 ข้อของผู้โต้แย้งแล้ว ผู้รับเช็คตอนนั้น ไม่ได้มีสิทธิอะไรเหนือกว่าคนขับ 3 ล้ออย่างที่เขาเคลมเลย
 
นั่นคือประเด็นหลักของข้อโต้แย้งครับ

 

ตกลงประเด็นหลักของเรื่องโต้แย้งเรื่องเช็ค 2,000 บาท ไม่ใช่คำถามที่ว่า ทำไมคนขับ 3 ล้อไม่ได้ไม่ใช่หรือครับ เพราะถ้าคำถามนี้ผมตอบไปแล้วนะว่าทำไมคนที่ประกันตนได้  แต่คนขับสามล้อไม่ได้  

 

1. สามล้อเครื่องไม่ได้จ่ายประกันสังคม  ผู้รับเช็ค 2,000 บาทจ่ายประกันสังคม

  แต่เช็ค 2,000 บาท เป็นเงินจากการกู้ + ภาษี  ไม่ได้มาจากประกันสังคม

 

2. สามล้อเครื่องไม่ได้จ่ายภาษี   ผู้รับเช็ค 2,000 บาท รายได้ต่อเดือน < 15,000 ก็ไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนกัน

 

เพราะอะไรสามล้อเครื่องถึงไม่ได้หล่ะครับ?   

 

ตกลงประเด็นหลักของข้อโต้แย้ง  พี่ลีไม่แย้งแล้วนะครับ  

อธิบายนิดนึง  คือประเด็นหลักของกระทู้คือพี่ลีเค้าถามว่า...ทำไมสามล้อไม่ได้แบบคนอื่น...

 

ประเด็นอื่นผมขออยู่นอกวงนะครับ

 

แม่ค้าข้าวมันไก่ สามล้อ ก็มีประกันสังคมได้ เองได้รับเช็คหรือยัง

 

กรณีผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา ๓๙) และผู้ประกันตนที่ประกันตนเอง (มาตรา ๔๐)

- บุคคลซึ่งออกจากงานแล้วแต่ยังส่งเงินประกันสังคมอยู่ตามมาตรา ๓๙,๔๐ ให้ยื่นเรื่องด้วยตนเองต่อประกันสังคม เขตพื้นที่หรือจังหวัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนโดยตรง

- บุคคลที่ออกจากงานแล้วและไม่ได้ส่งเงินประกันสังคมต่อตามมาตรา ๓๙ หรือ ๔๐ แต่ยังอยู่ในระหว่าง ๖ เดือนที่ได้รับการคุ้มครองก็สามารถขอขึ้นทะเบียนได้โดยตรงที่สำนักงานประกันสังคมยื่นแบบคำขอฯ ด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมที่ขึ้นทะเบียน

- หากย้ายสถานที่จ่ายเงินสมทบไปยังสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาอื่นให้ยื่นแบบคำขอฯที่สำนักงานประกันสังคมที่จ่ายเงินสมทบ  (สำนักงานประกันสังคมที่รับผิดชอบปัจจุบัน)  ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันจันทร์ที่  ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒

หมายเหตุ

• สำหรับผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา ๓๙) และผู้ประกันตนที่ประกันตนเอง (มาตรา ๔๐) สำนักงานประกันสังคมได้จัดส่งแบบคำขอรับเงินตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน (สปส.รบ.๒๐๐๐) ให้กับผู้ประกันตนโดยตรง

Edited by Stargate-1, 8 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:37.

[แดงแสงเทียน]

ขายข้าวมันไก่ ต้องจ้างกัน 300

 

แล้ว จ่าย หรือรับกันหรือยัง ทั้งค่าแรง ค่าประกัน

 

กู้มาจ่ายดิ กู้มาแล้วเป็นเงินเรา ตอนจ่ายเดี๋ยวเจ๊ข้าวมันไก่มันเป็นคนจ่าย  

[แดงแสงเทียน]

ข้าวเน่าเลี้ยงวัวได้นะ ทิงทำไม ขายชั่งโลไปถูกๆ

[Tam-mic-ra.]

    

สตาร์รถเก๋งนี่ด้านมากๆ     เถียงมั่วๆได้ทุกเรื่อง    +   พรวดพราดสู้ทุกเม็ด

 

   แปะข้อมูลรกๆ     วกไปวนมา   ไม่ได้ตอบโจทย์เลยสักนิด   ว่าที่แจก2000น่ะเงินของกองทุนตรงไหน

[HiddenMan]

    

สตาร์รถเก๋งนี่ด้านมากๆ     เถียงมั่วๆได้ทุกเรื่อง    +   พรวดพราดสู้ทุกเม็ด

 

   แปะข้อมูลรกๆ     วกไปวนมา   ไม่ได้ตอบโจทย์เลยสักนิด   ว่าที่แจก2000น่ะเงินของกองทุนตรงไหน

 

 

 โจทย์หัวข้อนี้คือ... 

 

สรุปว่า เงินที่เอามาแจก 2,000 เป็นเงินที่กู้มา สมาชิกเห็นด้วยกันไหมครับ

 

ไม่ใช่หรอ

Edited by HiddenMan, 8 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:38.

[Stargate-1]

 ว่าที่แจก2000น่ะเงินของกองทุนตรงไหน

คนเขามีกึ๋นทำได้  เองไม่รู้เอง เห็นไหมเงินกองทุน รัฐมีหนี้ค้างจ่ายเท่าไหร่ 6 หมื่นล้านแล้ว ทางพฤตินัย เขาเอาเงินที่จะจ่ายสมทบมาจ่ายเช็คช่วยชาติ โว้ย โง่อยู่ได้   ทางนิตินัย เองบอกมาซิว่า กู้มาเพื่อใช้ในการจ่ายเช็คตรงไหน

งบประมาณก็มีตามแจ้ง แต่ที่มาของเงินพอบอกได้ไหมว่ากู้มาใช้จ่ายเช็คช่วยชาติตรงไหน ไม่ใช่ไทยเข็มแข็งนะที่เขากู้มา แล้วระบุเลยว่ากู้มาเพื่อไทยเข็มแช็ง เองคงสับสนเหมือนเสื่อแดงทั่วๆ เหมือนไอ่หนุนักข่าวที่บอกว่ากู้เงินไทยเข็มแข็งมาจ่ายเช็คช่วยชาติ

 

เองไม่มีอะไรเป็นหลักเป็นฐานมาพูดเลย อย่างสามล้อก็ได้รับเช็คช่วยชาติ หลักฐานก็มีให้เห็นอยู่ชัดๆ จะดิ้นอะไรอีก ธนาคารเป็นผู้ดำเนินการชัดๆ ก็เห็นๆกันอยู่ งบประมาณเขาก็ตั้งมาแบบนี้ทุกปี พอเงินไม่พอก็ของงบเพิ่ม ไม่เห็นแปลก แต่รัฐบาลเขามีกึ๋นไม่ซื่อบื่อเหมือนหท. เขาเอาเงินประกันสังคมที่มีอยู่เป็นแสนๆมาใช้  ก็ไม่เห็นผิดตรงไหน ในภาวะเศรษฐกิจแบบนั้น เห็นตรงไหนมีเงินเขาก็เอามาใช้ อย่างพท.ของเองยังจะเอาเงินทุนสำรองของประเทศ มาใช้เลย โดนลูกศิษย์หลวงตาเบคไว้ก่อน แล้วโต้งยังจะเอาอีก   ทีนี้จะเอาไปลงทุนซื้อนำมัน เองไม่ได้ข่าวหรือ  

 

 

 

Edited by Stargate-1, 8 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:14.

[พอล คุง]

    

สตาร์รถเก๋งนี่ด้านมากๆ     เถียงมั่วๆได้ทุกเรื่อง    +   พรวดพราดสู้ทุกเม็ด

 

   แปะข้อมูลรกๆ     วกไปวนมา   ไม่ได้ตอบโจทย์เลยสักนิด   ว่าที่แจก2000น่ะเงินของกองทุนตรงไหน

 

นังแต็ม ขอถามคำเดียวว่า เป็นเงินกู้ ตามที่เอ๊ง ตั้งกระทู้ ปะ

 

เอ๊ง ช่วยตอบมาคำเีดียว ได้มะ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

[แดงแสงเทียน]

 

    

สตาร์รถเก๋งนี่ด้านมากๆ     เถียงมั่วๆได้ทุกเรื่อง    +   พรวดพราดสู้ทุกเม็ด

 

   แปะข้อมูลรกๆ     วกไปวนมา   ไม่ได้ตอบโจทย์เลยสักนิด   ว่าที่แจก2000น่ะเงินของกองทุนตรงไหน

 

 

 โจทย์หัวข้อนี้คือ... 

 

สรุปว่า เงินที่เอามาแจก 2,000 เป็นเงินที่กู้มา สมาชิกเห็นด้วยกันไหมครับ

 

ไม่ใช่หรอ

 

 

สรุปว่า โจทย์หัวข้อนี้

มันเป็นโจทย์ต้นน้ำ โจทย์กลางน้ำเป็นโจทย์สามล้อ โจทย์ปลายน้ำเป็นโจย์ข้าวมันไก่

 

เราไม่อยากให้จบ เราอยากให้โจทย์ไปเรื่อยๆ จนสติแตกไปข้าง

[พอล คุง]

 

 

    

สตาร์รถเก๋งนี่ด้านมากๆ     เถียงมั่วๆได้ทุกเรื่อง    +   พรวดพราดสู้ทุกเม็ด

 

   แปะข้อมูลรกๆ     วกไปวนมา   ไม่ได้ตอบโจทย์เลยสักนิด   ว่าที่แจก2000น่ะเงินของกองทุนตรงไหน

 

 

 โจทย์หัวข้อนี้คือ... 

 

สรุปว่า เงินที่เอามาแจก 2,000 เป็นเงินที่กู้มา สมาชิกเห็นด้วยกันไหมครับ

 

ไม่ใช่หรอ

 

 

สรุปว่า โจทย์หัวข้อนี้

มันเป็นโจทย์ต้นน้ำ โจทย์กลางน้ำเป็นโจทย์สามล้อ โจทย์ปลายน้ำเป็นโจย์ข้าวมันไก่

 

เราไม่อยากให้จบ เราอยากให้โจทย์ไปเรื่อยๆ จนสติแตกไปข้าง

 

 

ฮาน้ำตาแทบเล็ด

 

เล่นมุขนี้ แล้วผมจะเล่นมุจไหนละท่าน

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาา

[Stargate-1]

 

การแจกเงิน ก็แจกออกไปเฉยๆ ได้คนละสองพันไม่ขาดไม่เกิน

ไม่มีสัญญาว่าปีหน้าหรือปีไหนจะแจก 

 

เหตุผลนรกครับ

ก็ทำไมไม่แจก 3 ล้อกับแม่ค้าขายข้าวแกงด้วยหล่ะครับ แจกครั้งเดียว 2,000 ไม่ขาดไม่เกิน ปีเดียวเหมือนกัน ไม่มีสัญญาว่าจะให้ปีหน้าต่อ?

 

แถไปเรื่อยนะครับ

ถ้าสามล้อและแม่ค้าข้าวมันไก่ ทำประกันไว้ตามมาตรา 40 ก็ได้เช็คช่วยชาติ 2,000 บาทนะ หนูลีนักข่าว

กรณีผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา ๓๙) และผู้ประกันตนที่ประกันตนเอง (มาตรา ๔๐)

- บุคคลซึ่งออกจากงานแล้วแต่ยังส่งเงินประกันสังคมอยู่ตามมาตรา ๓๙,๔๐ ให้ยื่นเรื่องด้วยตนเองต่อประกันสังคม เขตพื้นที่หรือจังหวัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนโดยตรง

- บุคคลที่ออกจากงานแล้วและไม่ได้ส่งเงินประกันสังคมต่อตามมาตรา ๓๙ หรือ ๔๐ แต่ยังอยู่ในระหว่าง ๖ เดือนที่ได้รับการคุ้มครองก็สามารถขอขึ้นทะเบียนได้โดยตรงที่สำนักงานประกันสังคมยื่นแบบคำขอฯ ด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมที่ขึ้นทะเบียน

- หากย้ายสถานที่จ่ายเงินสมทบไปยังสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาอื่นให้ยื่นแบบคำขอฯที่สำนักงานประกันสังคมที่จ่ายเงินสมทบ  (สำนักงานประกันสังคมที่รับผิดชอบปัจจุบัน)  ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันจันทร์ที่  ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒

หมายเหตุ

• สำหรับผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา ๓๙) และผู้ประกันตนที่ประกันตนเอง (มาตรา ๔๐) สำนักงานประกันสังคมได้จัดส่งแบบคำขอรับเงินตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน (สปส.รบ.๒๐๐๐) ให้กับผู้ประกันตนโดยตรง

 

[Stargate-1]

 

มติ ครม วันที่ 3 มีนา 52

 

https://www.google.c....51495398,d.bmk

 

1.  เรื่อง การปฏิบัติงานตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ

        (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

[Stargate-1]

 

 
You have just admitted that the money does not belong to the social security fund.  Is that correct?

 

 1.  เรื่อง การปฏิบัติงานตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ 
                        คณะรัฐมนตรีอนุมัติและเห็นชอบในหลักการเพื่อการดำเนินงานตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ  (ในส่วนของผู้ประกันตน) ในประเด็นต่าง ๆ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ  ดังนี้

                        1. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ

                                    (1) มีการขีดคร่อมทั่วไปสั่งจ่ายในนามของผู้ประกันตนและระบุเลขที่ประจำตัวประชาชน  โดยไม่ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออก

                                    (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

[Tam-mic-ra.]

เจ้าของงบประมาณ!!

 

แต่ว่าเอาเงินมาจากคลังสะงั้น      ไอ่เก๋งมันก็พูดไว้เสียเอง 

 

เรื่องของเรื่องคือเขาแค่เอาฐานข้อมูลผู้มีสิทธ์ได้รับ2000 ....   มาจาก สำนักงานประกันสังคม

แล้วก็ให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินการ ก็แค่นั้นเอง

 

แต่เงินน่ะ  ความคิดริเริ่มน่ะมันมาจากเงินกู้ !!!  ???         

หลักฐานผมแปะตั้งแต่หัวกระทู้แล้ว   สตาร์เก๋งกากขาวหัวฟูนี่   มันมีแต่มั่วไปมั่วมาตลอด

[Stargate-1]

เจ้าของงบประมาณ!!

 

แต่ว่าเอาเงินมาจากคลังสะงั้น <-- ถ้าไมใช้เงินจากคลัง แล้วจะเอามาจากเงินพ่อเงินแม่*คุณ*หรือ

 

คลิป “ระบบนิติรัฐกับทางออก...ของประเทศไทย”

 

 

169 เขียนว่าอย่างไร  การจ่ายเงินแผ่นดิน  จะกระทำได้ ก็เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ในกฏหมาย..... 4 กฏหมายเท่านั้น.... นาทีที่ 8:06

 

... เงินกู้ตามนี้ มิให้ถือว่าเป็นเงินแผ่นดิน ... นาทีที่ 8:56

 

"ไม่ใช่เงินแผ่นดิน แล้วเงินพ่อเงินแม่*คุณ*เหรอ" นาทีที่ 9:12

 

 

เรื่องของเรื่องคือเขาแค่เอาฐานข้อมูลผู้มีสิทธ์ได้รับ2000 ....   มาจาก สำนักงานประกันสังคม

แล้วก็ให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินการ ก็แค่นั้นเอง <--- คิดโง่ๆ แบบก.พลังงานนะซิ ที่เอาฐานข้อมูลของผู้ประสบภัยน้ำท่วมมาจ่ายคูปองพลังงาน 2,000 บาท แล้วเงินเอามาจากไหน จากก.พลังงาน หรือ งบประมาณ

 

แต่เงินน่ะ  ความคิดริเริ่มน่ะมันมาจากเงินกู้ !!!  ???         <-- พวกเสื้อแดงทุกคน ยกเว้นเองที่บอกว่าเอามาจากเงินกู้ไทยเข็มแช็ง เองมาพลิกลิ้นแบบนี้ พวกเสื้อแดงในราดดำนาไม่รุมกระทืบเองหรือ

หลักฐานผมแปะตั้งแต่หัวกระทู้แล้ว 

          (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม
,

มติครม. นะ ไม่ใช่ข่าวประชาสัมพันธ์

 

เงินก้อนไหนล่ะที่เอาไปจ่ายเช็คช่วยชาติ

 

 

"หลักฐานผมแปะตั้งแต่หัวกระทู้แล้ว" 

 

เองไม่มีอะไรเป็นหลักฐานมาพูดเลย อย่างสามล้อก็ได้รับเช็คช่วยชาติ หลักฐานก็มีให้เห็นอยู่ชัดๆ จะดิ้นอะไรอีก ธนาคารเป็นผู้ดำเนินการชัดๆ ก็เห็นๆกันอยู่ งบประมาณเขาก็ตั้งมาแบบนี้ทุกปี พอเงินไม่พอก็ของงบเพิ่ม ไม่เห็นแปลก แต่รัฐบาลเขามีกึ๋นไม่ซื่อบื่อเหมือนหท. เขาเอาเงินประกันสังคมที่มีอยู่เป็นแสนๆมาใช้  ก็ไม่เห็นผิดตรงไหน ในภาวะเศรษฐกิจแบบนั้น เห็นตรงไหนมีเงินเขาก็เอามาใช้ อย่างพท.ของเองยังจะเอาเงินทุนสำรองของประเทศ มาใช้เลย โดนลูกศิษย์หลวงตาเบคไว้ก่อน แล้วโต้งยังจะเอาอีก   ทีนี้จะเอาไปลงทุนซื้อนำมัน เองไม่ได้ข่าวหรือ  

 

 

 แล้วเองแน่ใจหรือว่าเขาไม่เอาเงินจากเงินคงคลัง ตามข้อ 2. ไม่ใช่ข้อ 1. มาใช้ก่อน ตามมาตรา 169 ตามมติครม.นี้ 

 

ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่  ๒๐  มกราคม ๒๕๕๒  เมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น.  ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น ๒ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

                                คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้

                               ....... โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจ่ายไปก่อน

Edited by Stargate-1, 11 กันยายน พ.ศ. 2556 - 10:26.

[ประชาธิปาก]

 

 

 

 แล้วเองแน่ใจหรือว่าเขาไม่เอาเงินจากเงินคงคลัง ตามข้อ 2. ไม่ใช่ข้อ 1. มาใช้ก่อน ตามมาตรา 169 ตามมติครม.นี้ 

 

 

 

 

 

ผ่านมาหลายวันจนคนอื่นๆ เขายอมรับกันหมดแล้ว Starbuck ยังพยายามจะแถแบบหน้าด้านๆ ต่อ ไม่อายเหรอครับ   

[sanskrit_shower]

 

    

สตาร์รถเก๋งนี่ด้านมากๆ     เถียงมั่วๆได้ทุกเรื่อง    +   พรวดพราดสู้ทุกเม็ด

 

   แปะข้อมูลรกๆ     วกไปวนมา   ไม่ได้ตอบโจทย์เลยสักนิด   ว่าที่แจก2000น่ะเงินของกองทุนตรงไหน

 

นังแต็ม ขอถามคำเดียวว่า เป็นเงินกู้ ตามที่เอ๊ง ตั้งกระทู้ ปะ

 

เอ๊ง ช่วยตอบมาคำเีดียว ได้มะ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ผมว่า จขกท เค้าลืมไปแล้วแน่ๆเลย ว่าเค้าตั้งกระทู้ว่าอะไร

[พอล คุง]

 

 

 

 

 แล้วเองแน่ใจหรือว่าเขาไม่เอาเงินจากเงินคงคลัง ตามข้อ 2. ไม่ใช่ข้อ 1. มาใช้ก่อน ตามมาตรา 169 ตามมติครม.นี้ 

 

 

 

 

 

ผ่านมาหลายวันจนคนอื่นๆ เขายอมรับกันหมดแล้ว Starbuck ยังพยายามจะแถแบบหน้าด้านๆ ต่อ ไม่อายเหรอครับ   

 

 

ไอ้กากลี สรุปว่า เป็นเงินกู้ ปะ

 

ช่วยตอบตรูที

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

[ประชาธิปาก]

 

 

 

 

 

 แล้วเองแน่ใจหรือว่าเขาไม่เอาเงินจากเงินคงคลัง ตามข้อ 2. ไม่ใช่ข้อ 1. มาใช้ก่อน ตามมาตรา 169 ตามมติครม.นี้ 

 

 

 

 

 

ผ่านมาหลายวันจนคนอื่นๆ เขายอมรับกันหมดแล้ว Starbuck ยังพยายามจะแถแบบหน้าด้านๆ ต่อ ไม่อายเหรอครับ   

 

 

ไอ้กากลี สรุปว่า เป็นเงินกู้ ปะ

 

ช่วยตอบตรูที

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

 

 

มันแหงอยู่แล้ว จขกท เขาเอามาให้ดูกันชัดๆ แล้วนี่ครับ 

ที่เหลือนั่นมันคือการแถแบบไม่ยอมแพ้ของคุณแล้วหล่ะ   

[พอล คุง]

 

 

 

 

 

 

 แล้วเองแน่ใจหรือว่าเขาไม่เอาเงินจากเงินคงคลัง ตามข้อ 2. ไม่ใช่ข้อ 1. มาใช้ก่อน ตามมาตรา 169 ตามมติครม.นี้ 

 

 

 

 

 

ผ่านมาหลายวันจนคนอื่นๆ เขายอมรับกันหมดแล้ว Starbuck ยังพยายามจะแถแบบหน้าด้านๆ ต่อ ไม่อายเหรอครับ   

 

 

ไอ้กากลี สรุปว่า เป็นเงินกู้ ปะ

 

ช่วยตอบตรูที

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

 

 

มันแหงอยู่แล้ว จขกท เขาเอามาให้ดูกันชัดๆ แล้วนี่ครับ 

ที่เหลือนั่นมันคือการแถแบบไม่ยอมแพ้ของคุณแล้วหล่ะ   

 

 

เอ๊ง จะเถียง กะ มติ ครม วันที่ 3 มีนา 52 หรือไง ฟร๊ะ

 

ไอ้กากลี จะเถียง เหรอ หรือว่า เอ๊ง คิดว่า มตี ครม ของ นั่งแต๋ม มันสามารถออกเป็น พรบ เงินกู้ได้เลย

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

Edited by พอล คุง, 11 กันยายน พ.ศ. 2556 - 09:19.

[Stargate-1]

ผ่านมาหลายวันจนคนอื่นๆ เขายอมรับกันหมดแล้ว  ยังพยายามจะแถแบบหน้าด้านๆ ต่อ ไม่อายเหรอครับ   

ไม่อายเลย เปลี่ยนจาก เงินกู้ไทยเช็มแช็ง เป็นเงินกู้ + เงินคงคลัง   ต่อมาจะเป็นอะไรอีก

 

 

 

สามล้อ แม่ค้าข้าวมันไก่ ไม่ได้เช็คช่วยชาติ        

 

ผู้ประกันตนนอกระบบ(ม.40)

 

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
 
 ที่มา
การขยายประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบโดยผลักดันร่าง พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ฉบับแก้ไข เพื่อรัฐร่วมจ่ายในมาตรา 40 และแก้ไขพระราชกฤษฎีกา เพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 ให้เป็นที่จูงใจ โดยเป็นระบบสมัครใจ
 
 
 ความหมาย
ผู้ประกันตนมาตรา 40 หมายถึง บุคคลที่มิใช่ลูกจ้างตามมาตรา 33 หรือเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 เรียกว่า ผู้ประกันตนโดยอิสระ
   
  
 คุณสมบัติในการสมัคร
ต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ ณ วันสมัครไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ไม่เป็นลูกจ้างในสถานประกอบการ) หรือผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 สมัครโดยลงลายมือชื่อในใบสมัครด้วยตนเองพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และจ่ายเงินสมทบงวดแรกได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศเลือกทางเลือกใน การจ่ายเงินสมทบได้ 2 ทางเลือก คือ

ชุดสิทธิประโยชน์ 1 จ่าย 100 บาท/เดือน (จ่ายเอง 70 บาท รัฐสนับสนุน 30 บาท)

ชุดสิทธิประโยชน์ 2 จ่าย 150 บาท/เดือน (จ่ายเอง 100 บาท รัฐสนับสนุน 50 บาท) ความเป็นผู้ประกันตนจะเริ่มตั้งแต่วันที่จ่ายเงินสมทบงวดแรก

หมายเหตุ รัฐสนับสนุนในระยะแรกทั้งนี้ จนกว่าสำนักงานประกันสังคมจะประกาศเป็นอย่างอื่น
  
 การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูล
เมื่อเป็นผู้ ประกันตนแล้วหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่น เปลี่ยนคำนำหน้านาม ชื่อ - สกุล ที่อยู่ที่ติดต่อขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบ หรือแจ้งความไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตนต่อไป (ลาออก) เป็นต้น ให้แจ้งต่อสำนักงานประกันสังคม
กรณีขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบจะทำได้ปีละ 1 ครั้ง ก่อนวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมของปีถัดไป
 
 ประโยชน์ทางภาษี
    -  เงินสมทบในแต่ละปี ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยใช้ใบเสร็จรับเงินที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเป็นหลักฐาน
 
 สิทธิประโยชน์พื้นฐาน
   
1.  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เมื่อนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 200 บาทต่อวัน ไม่เกิน 20 วันต่อปี เงื่อนไขจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 4 เดือน (การรักษาพยาบาลใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง) จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)
   
2.  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 500 - 1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลานานถึง 15 ปี เงื่อนไข เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือนขึ้นไป (ต้องเป็นผู้ทุพพลภาพหรือทุพพลภาพเพิ่มขึ้นตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการ แพทย์)
   
3.  ค่าทำศพ (เสียชีวิต) จะได้รับค่าทำศพจำนวน 20,000 บาทต่อราย  เงื่อนไข จ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายในระยะเวลา 12 เดือน
   
4.  เงินบำเหน็จชราภาพผู้ประกันตนสามารถรับเงินก้อนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เงื่อนไข มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
 
 ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณ
     เพื่อสิทธิประโยชน์ดังกล่าวสำนักงานประกันสังคมขอเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณด้วยชุดสิทธิประโยชน์ ดังนี้
 
 ชุดสิทธิประโยชน์ 1 (จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 3 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  เงินค่าทำศพ
 
 เงินสมทบที่จ่าย
ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 100 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 3 บาท *ในระยะแรกรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนให้ 30 บาท และผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท
 
 ชุดสิทธิประโยชน์ 2 (จ่ายเงินสมทบ 150 บาท/เดือน)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 4 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  เงินค่าทำศพ  เงินบำเหน็จชราภาพ (เงินออมกรณีชราภาพ)
 
 จ่ายเงินสมทบ
ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 150 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 5 บาท *ในระยะแรกรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนให้ 50 บาท และ ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท

***ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่ประสงค์รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้นสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมได้ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาทต่อเดือน
 
หมายเหตุ ทั้งนี้ ในการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 จ่ายเป็นรายเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง และจ่ายเงินสมทบล่วงหน้าได้ครั้งละไม่เกิน 12 เดือน แต่ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้
 
วิธีการนำส่งเงินสมทบ

    1.  ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถนำส่งเงินสมทบได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ที่ท่านสะดวก
    2.  ชำระได้ที่เคาน์เตอร์วิสทุกแห่ง
    3.  หักผ่านบัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน โดยผู้ประกันตนต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมเอง ซึ่งมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2554 เป็นต้นไป

หมายเหตุ การชำระเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 10 บาท ในส่วนการชำระผ่านธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง โดยจะได้รับใบเสร็จรับเงินทันที  แต่ผู้ประกันตนต้องนำใบเสร็จรับเงินที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ออกให้พร้อม สมุดนำส่งเงินสมทบมาตรา 40 ไปติดต่อที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการประทับตราในสมุดนำส่งเงินสมทบ  เนื่องจากต้องใช้ประกอบการยื่นเรื่องเมื่อมีการรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
 
 เอกสารประกอบการสมัคร

   1.   แบบการขึ้นทะเบียนการเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 (สปส.1-40)
   2.  บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้พร้อมสำเนา
    
 สถานที่ในการขึ้นทะเบียน

    1.  สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
    2.  หน่วยบริการเคลื่อนที่
    3.  สมัครผ่านตัวแทน (เจ้าหน้าที่ประกันสังคม)
    
หมายเหตุ ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ได้มีการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจสมัคร มาตรา 40 โดยสามารถกรอกแบบฟอร์มสมัครผ่านเจ้าหน้าที่/ตัวแทน แต่ยังไม่มีการเก็บเงินสมทบ ทั้งนี้ในการเก็บเงินสมทบจะเริ่มเก็บในเดือน พฤษภาคม 2554 หรือสามารถติดต่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนได้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา    

 

 

แฟนคลับจ่า, on 04 Sept 2013 - 09:09, said:

 

ประชาธิปด, on 03 Sept 2013 - 09:08, said:

(ขอย่อนิดนิดเอาเฉพาะเนื้อๆ นะครับ)
 
ไอ้ที่เกี่ยวคือข้อแย้งของเขาที่บอกว่า 3 ล้อไม่ได้รับเช็คเพราะไม่ได้เป็นผู้ประกันตน จึงไม่ได้รับเงินคืนจากกองทุน และ 3 ล้อไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนผู้รับเช็ค จึงไม่มีสิทธิ และดังนั้น จึงไม่สามารถเอามาเทียบเคียงกับเรื่องชาวนาได้ประโยชน์จากการจำนำแต่ชาวสวนยางไม่ได้รับ

 
หากยึดตามเหตุผลทั้ง 2 ข้อของผู้โต้แย้งแล้ว ผู้รับเช็คตอนนั้น ไม่ได้มีสิทธิอะไรเหนือกว่าคนขับ 3 ล้ออย่างที่เขาเคลมเลย
 
นั่นคือประเด็นหลักของข้อโต้แย้งครับ

 

ตกลงประเด็นหลักของเรื่องโต้แย้งเรื่องเช็ค 2,000 บาท ไม่ใช่คำถามที่ว่า ทำไมคนขับ 3 ล้อไม่ได้ไม่ใช่หรือครับ เพราะถ้าคำถามนี้ผมตอบไปแล้วนะว่าทำไมคนที่ประกันตนได้  แต่คนขับสามล้อไม่ได้  

 

1. สามล้อเครื่องไม่ได้จ่ายประกันสังคม  ผู้รับเช็ค 2,000 บาทจ่ายประกันสังคม

  แต่เช็ค 2,000 บาท เป็นเงินจากการกู้ + ภาษี  ไม่ได้มาจากประกันสังคม

 

2. สามล้อเครื่องไม่ได้จ่ายภาษี   ผู้รับเช็ค 2,000 บาท รายได้ต่อเดือน < 15,000 ก็ไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนกัน

 

เพราะอะไรสามล้อเครื่องถึงไม่ได้หล่ะครับ?    

แม่ค้าข้าวมันไก่ สามล้อ ก็มีประกันสังคมได้ เองได้รับเช็คหรือยัง

 

กรณีผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา ๓๙) และผู้ประกันตนที่ประกันตนเอง (มาตรา ๔๐)

- บุคคลซึ่งออกจากงานแล้วแต่ยังส่งเงินประกันสังคมอยู่ตามมาตรา ๓๙,๔๐ ให้ยื่นเรื่องด้วยตนเองต่อประกันสังคม เขตพื้นที่หรือจังหวัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนโดยตรง

- บุคคลที่ออกจากงานแล้วและไม่ได้ส่งเงินประกันสังคมต่อตามมาตรา ๓๙ หรือ ๔๐ แต่ยังอยู่ในระหว่าง ๖ เดือนที่ได้รับการคุ้มครองก็สามารถขอขึ้นทะเบียนได้โดยตรงที่สำนักงานประกันสังคมยื่นแบบคำขอฯ ด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมที่ขึ้นทะเบียน

- หากย้ายสถานที่จ่ายเงินสมทบไปยังสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาอื่นให้ยื่นแบบคำขอฯที่สำนักงานประกันสังคมที่จ่ายเงินสมทบ  (สำนักงานประกันสังคมที่รับผิดชอบปัจจุบัน)  ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันจันทร์ที่  ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒

หมายเหตุ

• สำหรับผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา ๓๙) และผู้ประกันตนที่ประกันตนเอง (มาตรา ๔๐) สำนักงานประกันสังคมได้จัดส่งแบบคำขอรับเงินตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน (สปส.รบ.๒๐๐๐) ให้กับผู้ประกันตนโดยตรง

 

Edited by Stargate-1, 11 กันยายน พ.ศ. 2556 - 12:28.

[55555]

 

 

 

 

 แล้วเองแน่ใจหรือว่าเขาไม่เอาเงินจากเงินคงคลัง ตามข้อ 2. ไม่ใช่ข้อ 1. มาใช้ก่อน ตามมาตรา 169 ตามมติครม.นี้ 

 

 

 

 

 

ผ่านมาหลายวันจนคนอื่นๆ เขายอมรับกันหมดแล้ว Starbuck ยังพยายามจะแถแบบหน้าด้านๆ ต่อ ไม่อายเหรอครับ   

 

 

 

คิดเอาเองอีกแระ..

 

 

[55555]

เจ้าของงบประมาณ!!

 

แต่ว่าเอาเงินมาจากคลังสะงั้น      ไอ่เก๋งมันก็พูดไว้เสียเอง 

 

เรื่องของเรื่องคือเขาแค่เอาฐานข้อมูลผู้มีสิทธ์ได้รับ2000 ....   มาจาก สำนักงานประกันสังคม

แล้วก็ให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินการ ก็แค่นั้นเอง

 

แต่เงินน่ะ  ความคิดริเริ่มน่ะมันมาจากเงินกู้ !!!  ???         

หลักฐานผมแปะตั้งแต่หัวกระทู้แล้ว   สตาร์เก๋งกากขาวหัวฟูนี่   มันมีแต่มั่วไปมั่วมาตลอด

 

 

เอ็งก็ตัดตรงกลางอีกนังแต๋ม...

 

ประเด็นมันเริ่มมาจาก ทำไมแจกมนุษย์เงินเดือนน้อย ไม่ยอมแจกแท็กซี่ สามล้อ..

 

เอ็งมั่วเห็น ๆ ยังมาเสนอหน้าว่าคนอื่นเค้าอีกรึ..อาย ๆ มั่งเหอะว๊ะ...ไม่ต้องหน้าด้านมากหรอก

 

ไม่ว่าเอ็งจะโง่จริง หรือ แกล้งโง่...มันก็ทำให้เอ็งดูควายอยู่แล้ว

 

นังแต๋มเขียนมั่วแบบนี้ ไอ้ขี้แพ้ ไม่เห็นมาแก้ข้อเท็จจริง

 

หรือกะว่าจะตามน้ำมันไปซะงั้น เลยดูโง่ ดูมั่วไปทั้งทู้

 

Edited by 55555, 11 กันยายน พ.ศ. 2556 - 10:56.

[Stargate-1]

 

 

 

 

 

ตกลงประเด็นหลักของข้อโต้แย้ง  พี่ลีไม่แย้งแล้วนะครับ     

 

อธิบายนิดนึง  คือประเด็นหลักของกระทู้คือพี่ลีเค้าถามว่า...ทำไมสามล้อไม่ได้แบบคนอื่น...

 

ประเด็นอื่นผมขออยู่นอกวงนะครับ

 

 

ขออ้างถึงอีกรอบ  

ตกลงประเด็น "ทำไมสามล้อไม่ได้" ไม่มีใครโต้แย้งแล้วนะครับ

 

 

 

มันชัดเจนอยู่แล้วครับว่าสามล้อเขามีสิทธิไม่แตกต่างจากผู้รับเช็ค 2,000 บาทในปี 52

เพราะ

 

1) 3 ล้อกับผู้รับเช็คไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนกัน

2) เงินที่เอามาจ่ายเช็คมันไม่ใช่เงินจากกองทุนประกันสังคม (อย่างที่คุณอ้าง)  แต่เป็นเงินจากการกู้ยืม (เงินที่แม่ค้าข้าวมันไก่ต้องเสียภาษีเพื่อเอาไปคืนเขาในอนาคต)

 

 

 

เดี๋ยวเผื่อพี่ประชาลีธิปดขี้แพ้จะไม่เข้าใจ  ขออธิบายใหม่ว่า  ประเด็นของเรื่องนี้มีอยู่ 2 เรื่อง

 

1. ทำไมสามล้อไม่ได้............เรื่องนี้เปิดประเด็นโดยพี่ประชาลีธิปด......ซึ่งอันนี้ผมขอโต้แย้งในประเด็นนี้

 

2. เงินมาจากไหน.............เปิดประเด็นโดยแต๋ม.......ซึ่งเรื่องนี้พี่ประชาลีธิปดไม่เกี่ยวมาก่อนเลย  และอันนี้ผมก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเพราะผมไม่มีข้อมูลเรื่องนี้จริงๆ

 

เถียงข้อ 1 ไม่ได้  อย่าลากผมไปข้อ 2 สิ  

 

เรื่องนี้คุณประชาธิปดเป็นคนพูดก่อนน่ะครับ ผมอ่านเจอ ก็มาหนุนข้อมูลทีหลัง อีกที 

 

ใครพูดก่อนพูดหลังไปหนูแต๋มไปเคียร์กับนักข่าวเอง  เรื่องที่ชมเชยว่าแต๋มเอา   ที่นี่แต๋มครึ่งเดียวคงเข็ดแล้วซินะ ที่นักข่าวโยนชี้ให้

 

ผู้ประกันตนนอกระบบ(ม.40)

 

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
 
 ที่มา
การขยายประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบโดยผลักดันร่าง พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ฉบับแก้ไข เพื่อรัฐร่วมจ่ายในมาตรา 40 และแก้ไขพระราชกฤษฎีกา เพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 ให้เป็นที่จูงใจ โดยเป็นระบบสมัครใจ
 
 
 ความหมาย
ผู้ประกันตนมาตรา 40 หมายถึง บุคคลที่มิใช่ลูกจ้างตามมาตรา 33 หรือเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 เรียกว่า ผู้ประกันตนโดยอิสระ
   
  
 คุณสมบัติในการสมัคร
ต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ ณ วันสมัครไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ไม่เป็นลูกจ้างในสถานประกอบการ) หรือผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 สมัครโดยลงลายมือชื่อในใบสมัครด้วยตนเองพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และจ่ายเงินสมทบงวดแรกได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศเลือกทางเลือกใน การจ่ายเงินสมทบได้ 2 ทางเลือก คือ

ชุดสิทธิประโยชน์ 1 จ่าย 100 บาท/เดือน (จ่ายเอง 70 บาท รัฐสนับสนุน 30 บาท)

ชุดสิทธิประโยชน์ 2 จ่าย 150 บาท/เดือน (จ่ายเอง 100 บาท รัฐสนับสนุน 50 บาท) ความเป็นผู้ประกันตนจะเริ่มตั้งแต่วันที่จ่ายเงินสมทบงวดแรก

หมายเหตุ รัฐสนับสนุนในระยะแรกทั้งนี้ จนกว่าสำนักงานประกันสังคมจะประกาศเป็นอย่างอื่น
  
 การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูล
เมื่อเป็นผู้ ประกันตนแล้วหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่น เปลี่ยนคำนำหน้านาม ชื่อ - สกุล ที่อยู่ที่ติดต่อขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบ หรือแจ้งความไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตนต่อไป (ลาออก) เป็นต้น ให้แจ้งต่อสำนักงานประกันสังคม
กรณีขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบจะทำได้ปีละ 1 ครั้ง ก่อนวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมของปีถัดไป
 
 ประโยชน์ทางภาษี
    -  เงินสมทบในแต่ละปี ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยใช้ใบเสร็จรับเงินที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเป็นหลักฐาน
 
 สิทธิประโยชน์พื้นฐาน
   
1.  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เมื่อนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 200 บาทต่อวัน ไม่เกิน 20 วันต่อปี เงื่อนไขจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 4 เดือน (การรักษาพยาบาลใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง) จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)
   
2.  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 500 - 1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลานานถึง 15 ปี เงื่อนไข เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือนขึ้นไป (ต้องเป็นผู้ทุพพลภาพหรือทุพพลภาพเพิ่มขึ้นตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการ แพทย์)
   
3.  ค่าทำศพ (เสียชีวิต) จะได้รับค่าทำศพจำนวน 20,000 บาทต่อราย  เงื่อนไข จ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายในระยะเวลา 12 เดือน
   
4.  เงินบำเหน็จชราภาพผู้ประกันตนสามารถรับเงินก้อนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เงื่อนไข มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
 
 ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณ
     เพื่อสิทธิประโยชน์ดังกล่าวสำนักงานประกันสังคมขอเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณด้วยชุดสิทธิประโยชน์ ดังนี้
 
 ชุดสิทธิประโยชน์ 1 (จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 3 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  เงินค่าทำศพ
 
 เงินสมทบที่จ่าย
ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 100 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 3 บาท *ในระยะแรกรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนให้ 30 บาท และผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท
 
 ชุดสิทธิประโยชน์ 2 (จ่ายเงินสมทบ 150 บาท/เดือน)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 4 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย  เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ  เงินค่าทำศพ  เงินบำเหน็จชราภาพ (เงินออมกรณีชราภาพ)
 
 จ่ายเงินสมทบ
ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 150 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 5 บาท *ในระยะแรกรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนให้ 50 บาท และ ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท

***ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่ประสงค์รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้นสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมได้ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาทต่อเดือน
 
หมายเหตุ ทั้งนี้ ในการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 จ่ายเป็นรายเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง และจ่ายเงินสมทบล่วงหน้าได้ครั้งละไม่เกิน 12 เดือน แต่ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้
 
วิธีการนำส่งเงินสมทบ

    1.  ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถนำส่งเงินสมทบได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ที่ท่านสะดวก
    2.  ชำระได้ที่เคาน์เตอร์วิสทุกแห่ง
    3.  หักผ่านบัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน โดยผู้ประกันตนต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมเอง ซึ่งมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2554 เป็นต้นไป

หมายเหตุ การชำระเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 10 บาท ในส่วนการชำระผ่านธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง โดยจะได้รับใบเสร็จรับเงินทันที  แต่ผู้ประกันตนต้องนำใบเสร็จรับเงินที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ออกให้พร้อม สมุดนำส่งเงินสมทบมาตรา 40 ไปติดต่อที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการประทับตราในสมุดนำส่งเงินสมทบ  เนื่องจากต้องใช้ประกอบการยื่นเรื่องเมื่อมีการรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
 
 เอกสารประกอบการสมัคร

   1.   แบบการขึ้นทะเบียนการเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 (สปส.1-40)
   2.  บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้พร้อมสำเนา
    
 สถานที่ในการขึ้นทะเบียน

    1.  สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
    2.  หน่วยบริการเคลื่อนที่
    3.  สมัครผ่านตัวแทน (เจ้าหน้าที่ประกันสังคม)
    
หมายเหตุ ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ได้มีการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจสมัคร มาตรา 40 โดยสามารถกรอกแบบฟอร์มสมัครผ่านเจ้าหน้าที่/ตัวแทน แต่ยังไม่มีการเก็บเงินสมทบ ทั้งนี้ในการเก็บเงินสมทบจะเริ่มเก็บในเดือน พฤษภาคม 2554 หรือสามารถติดต่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนได้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา    

 

 

แฟนคลับจ่า, on 04 Sept 2013 - 09:09, said:

 

ประชาธิปด, on 03 Sept 2013 - 09:08, said:

(ขอย่อนิดนิดเอาเฉพาะเนื้อๆ นะครับ)
 
ไอ้ที่เกี่ยวคือข้อแย้งของเขาที่บอกว่า 3 ล้อไม่ได้รับเช็คเพราะไม่ได้เป็นผู้ประกันตน จึงไม่ได้รับเงินคืนจากกองทุน และ 3 ล้อไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนผู้รับเช็ค จึงไม่มีสิทธิ และดังนั้น จึงไม่สามารถเอามาเทียบเคียงกับเรื่องชาวนาได้ประโยชน์จากการจำนำแต่ชาวสวนยางไม่ได้รับ

 
หากยึดตามเหตุผลทั้ง 2 ข้อของผู้โต้แย้งแล้ว ผู้รับเช็คตอนนั้น ไม่ได้มีสิทธิอะไรเหนือกว่าคนขับ 3 ล้ออย่างที่เขาเคลมเลย
 
นั่นคือประเด็นหลักของข้อโต้แย้งครับ

 

ตกลงประเด็นหลักของเรื่องโต้แย้งเรื่องเช็ค 2,000 บาท ไม่ใช่คำถามที่ว่า ทำไมคนขับ 3 ล้อไม่ได้ไม่ใช่หรือครับ เพราะถ้าคำถามนี้ผมตอบไปแล้วนะว่าทำไมคนที่ประกันตนได้  แต่คนขับสามล้อไม่ได้  

 

1. สามล้อเครื่องไม่ได้จ่ายประกันสังคม  ผู้รับเช็ค 2,000 บาทจ่ายประกันสังคม

  แต่เช็ค 2,000 บาท เป็นเงินจากการกู้ + ภาษี  ไม่ได้มาจากประกันสังคม

 

2. สามล้อเครื่องไม่ได้จ่ายภาษี   ผู้รับเช็ค 2,000 บาท รายได้ต่อเดือน < 15,000 ก็ไม่ได้จ่ายภาษีเหมือนกัน

 

เพราะอะไรสามล้อเครื่องถึงไม่ได้หล่ะครับ?   

 

ตกลงประเด็นหลักของข้อโต้แย้ง  พี่ลีไม่แย้งแล้วนะครับ  

อธิบายนิดนึง  คือประเด็นหลักของกระทู้คือพี่ลีเค้าถามว่า...ทำไมสามล้อไม่ได้แบบคนอื่น...

 

ประเด็นอื่นผมขออยู่นอกวงนะครับ

 

แม่ค้าข้าวมันไก่ สามล้อ ก็มีประกันสังคมได้ เองได้รับเช็คหรือยัง

 

กรณีผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา ๓๙) และผู้ประกันตนที่ประกันตนเอง (มาตรา ๔๐)

- บุคคลซึ่งออกจากงานแล้วแต่ยังส่งเงินประกันสังคมอยู่ตามมาตรา ๓๙,๔๐ ให้ยื่นเรื่องด้วยตนเองต่อประกันสังคม เขตพื้นที่หรือจังหวัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนโดยตรง

- บุคคลที่ออกจากงานแล้วและไม่ได้ส่งเงินประกันสังคมต่อตามมาตรา ๓๙ หรือ ๔๐ แต่ยังอยู่ในระหว่าง ๖ เดือนที่ได้รับการคุ้มครองก็สามารถขอขึ้นทะเบียนได้โดยตรงที่สำนักงานประกันสังคมยื่นแบบคำขอฯ ด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมที่ขึ้นทะเบียน

- หากย้ายสถานที่จ่ายเงินสมทบไปยังสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาอื่นให้ยื่นแบบคำขอฯที่สำนักงานประกันสังคมที่จ่ายเงินสมทบ  (สำนักงานประกันสังคมที่รับผิดชอบปัจจุบัน)  ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันจันทร์ที่  ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒

หมายเหตุ

• สำหรับผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา ๓๙) และผู้ประกันตนที่ประกันตนเอง (มาตรา ๔๐) สำนักงานประกันสังคมได้จัดส่งแบบคำขอรับเงินตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน (สปส.รบ.๒๐๐๐) ให้กับผู้ประกันตนโดยตรง

 

[ริวมะคุง]

ไม่เอาจากคลังจะให้เอาจากตู้เซฟหรอ

 

หรือว่าสำนักงานประกันสังคมแต่ละเขตเก็บเงินไว้ในลิ้นชัก

 

555+