โค้งสุดท้ายก่อนเสนอร่าง พ.ร.บ.เชียงใหม่มหานคร (ปักษ์ใต้ ว่าพรือ)
#51
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 00:16
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
#52
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 00:32
ถ้ามันยังใช่การปกครองแบบกษัตริย์เป็นประมุขเหมือนเดิม ก็หารูปแบบมหานคร แบบท้องถิ่นมา แบบพิเศษมา แบบไทยๆของเรานี่แหละ
ถ้าจะเอาแบบอเมริกา ที่จะถ่ายโอนหน่วยราชการเป็นของทุนเอกชนที่ขึ้นกับ กองทุนใหญ่ นั่นมันยังเป็นบริหานท้องถิ่นได้หรือ
ก็แค่เปลี่ยนจากการปกครองส่วนกลาง เป็นบริหารโดยกองทุนส่วนกลาง
ขอโทษ เราคิดไกลไป
ตั้งสติใหม่นะครับ ใจเย็นๆ ผมว่าที่มีการตั้ง กระทู้ แบบนี้ขึ้นมา ไม่ใช่อะไรเลย
สาเหตุมาจาก การถูกเอาเปรียบ ก็เท่านั้นเอง (จากมุมมองที่ผมอ่านและวิเคราะห์นะ)
โดยความรู้สึกนี้มาจาก รัฐบาล(ทุกยุคสมัยนั้นแหละ)บริหาร โดย จะต้องเน้นกระจุกตัวในกลุ่มของฐานคะแนนเสียงของแต่ละรัฐบาลก่อน
แต่ สิ่งที่นำมาบริหาร คือ เม็ดเงิน ที่มาจากภาษีของประชาชน ซึ่งมีภาษีเดียวเท่านั้นที่ ทุกคนทั้งประเทศต้องเสีย คือ มูลค่าเพิ่ม
แต่กลับกลายเป็นว่า ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีป้าย ภาษีที่ดิน ฯลฯ ก็ยังมีหักเข้าส่วนกลาง
แล้ว ถ้าพื้นที่นั้นๆ ต้องการใช้เม็ดเงินสูงกว่าที่เหลือหลังจากหักเข้าส่วนกลางหล่ะ จะทำยังไง ก็ต้องขอจากรัฐบาล และถ้า ยังเป็นการบริหารประเทศแบบที่เป็นอยู่
คือ ถ้าไม่ใช่ฐานเสียง ก็ได้การช่วยเหลือน้อย หรือไม่เหลียวแล หรือ อะไรก็ตามที มันก็เลยเฮ้ย แล้วจ่ายภาษีไปทำไม แล้วทำไมไม่แยกกันไปดูแลกันเอง
มันจึงเกิดความคิดที่ (สรุปง่ายๆ)ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างดูแลพื้นที่ของตัวเอง จังหวัดของตัวเอง โดยใช้การเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนั้นๆ (เน้นว่าประชาชนที่อาศัยอยู่) เป็นคนเลือก ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เช่นโกงกิน คอร์รัปชั่น คนที่เลือกก็มีสิทธิ์ที่จะ ถอดถอนได้....(ใช้เสียงข้างมากของประชาชนตัดสิน ตามแบบที่เสื้อแดงบอกมาตลอด) จึงเกิด กระทู้เช่นนี้ขึ้นมาฉะนี้แล
ขอโทษ ผมคิดไปไกลกว่า
- แดงแสงเทียน likes this
#53
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 07:33
33.
34. สุพรรณบุรี 0.09 %
35.
ของไอ้เตี้ย บรรหาร พร้อมกว่านะ
#54
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 08:03
ยังกับว่าได้เป็นมหานครแล้วคนจะฉลาดขึ้น มันก็ยังเป็นควายแดงเหมือนเดิมนั่นแหละ
#55
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 08:17
เป็นมหานครแล้วผมก็ยังไม่กลับไปเชียงใหม่อยู่ดี
จากที่เคยไปปีละสี่ครั้ง ใช้เงินกับโรงแรม สนามกอล์ฟ สปา อาหาร และชอปปิ้งไปมากพอสมควร
ตอนนี้หยุดไปเชียงใหม่หลายปีแล้ว ไปใช้เงินภูเก็ตดีกว่า
#56
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 10:00
ขอร้องเถิดครับ อย่าไปว่า เค้าเลย สุดท้ายคนเชียงใหม่ก็ควรจะได้ตัดสินอนาคตของพวกเขาเอง หลักการเรื่องนี้ ขอให้ทุกท่านพยายามทำความเข้าใจ ให้ดีๆ หลายสิ่งที่ทุกท่านกลัว เช่น แบ่งแยกประเทศ หรือจะอยู่ได้อย่างไร จะมีรายได้พอเลี้ยงหรือเปล่า มันก็เหมือน ความรู้สึกกลัวและห่วงไปพร้อมๆกัน ถ้าท่านได้อ่านทั้ง 2 บทความอย่างถี่ถ้วนแล้ว อาจจะเข้าใจในสิ่งที่ว่า สรรพสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่สำหรับผม ถ้าสามารถทำให้แนวทางนี้ประสบความสำเร็จ อาจจะแก้ปัญหาของบ้านเมืองของเราในขณะนี้ได้ ขอย้ำนะครับว่าอาจจะ เพราะเราไม่รู้อนาคต
#57
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 12:25
ถ้ามันยังใช่การปกครองแบบกษัตริย์เป็นประมุขเหมือนเดิม ก็หารูปแบบมหานคร แบบท้องถิ่นมา แบบพิเศษมา แบบไทยๆของเรานี่แหละ
ถ้าจะเอาแบบอเมริกา ที่จะถ่ายโอนหน่วยราชการเป็นของทุนเอกชนที่ขึ้นกับ กองทุนใหญ่ นั่นมันยังเป็นบริหานท้องถิ่นได้หรือ
ก็แค่เปลี่ยนจากการปกครองส่วนกลาง เป็นบริหารโดยกองทุนส่วนกลาง
ขอโทษ เราคิดไกลไป
ตั้งสติใหม่นะครับ ใจเย็นๆ ผมว่าที่มีการตั้ง กระทู้ แบบนี้ขึ้นมา ไม่ใช่อะไรเลย
สาเหตุมาจาก การถูกเอาเปรียบ ก็เท่านั้นเอง (จากมุมมองที่ผมอ่านและวิเคราะห์นะ)
โดยความรู้สึกนี้มาจาก รัฐบาล(ทุกยุคสมัยนั้นแหละ)บริหาร โดย จะต้องเน้นกระจุกตัวในกลุ่มของฐานคะแนนเสียงของแต่ละรัฐบาลก่อน
แต่ สิ่งที่นำมาบริหาร คือ เม็ดเงิน ที่มาจากภาษีของประชาชน ซึ่งมีภาษีเดียวเท่านั้นที่ ทุกคนทั้งประเทศต้องเสีย คือ มูลค่าเพิ่ม
แต่กลับกลายเป็นว่า ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีป้าย ภาษีที่ดิน ฯลฯ ก็ยังมีหักเข้าส่วนกลาง
แล้ว ถ้าพื้นที่นั้นๆ ต้องการใช้เม็ดเงินสูงกว่าที่เหลือหลังจากหักเข้าส่วนกลางหล่ะ จะทำยังไง ก็ต้องขอจากรัฐบาล และถ้า ยังเป็นการบริหารประเทศแบบที่เป็นอยู่
คือ ถ้าไม่ใช่ฐานเสียง ก็ได้การช่วยเหลือน้อย หรือไม่เหลียวแล หรือ อะไรก็ตามที มันก็เลยเฮ้ย แล้วจ่ายภาษีไปทำไม แล้วทำไมไม่แยกกันไปดูแลกันเอง
มันจึงเกิดความคิดที่ (สรุปง่ายๆ)ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างดูแลพื้นที่ของตัวเอง จังหวัดของตัวเอง โดยใช้การเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนั้นๆ (เน้นว่าประชาชนที่อาศัยอยู่) เป็นคนเลือก ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เช่นโกงกิน คอร์รัปชั่น คนที่เลือกก็มีสิทธิ์ที่จะ ถอดถอนได้....(ใช้เสียงข้างมากของประชาชนตัดสิน ตามแบบที่เสื้อแดงบอกมาตลอด) จึงเกิด กระทู้เช่นนี้ขึ้นมาฉะนี้แล
ขอโทษ ผมคิดไปไกลกว่า
คิดย้อนไปไกลอะดิ
คิดย้อนไปไกลถึงต้นน้ำ
ต้นน้ำ ปลายน้ำมันไกลกัน
จังหวัด ได้ดูแลตนเอง แหม ต้นน้ำชั่งดูสวยหรู
ขอเสื้อแดงทุกท่านจงเป็นเสื้อแดงตลอดชีวิต เกิดชาติหน้าชาติไหนๆจงเป็นเสื้อแดงทุกชาติๆไป
#58
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:41
ถ้ามันยังใช่การปกครองแบบกษัตริย์เป็นประมุขเหมือนเดิม ก็หารูปแบบมหานคร แบบท้องถิ่นมา แบบพิเศษมา แบบไทยๆของเรานี่แหละ
ถ้าจะเอาแบบอเมริกา ที่จะถ่ายโอนหน่วยราชการเป็นของทุนเอกชนที่ขึ้นกับ กองทุนใหญ่ นั่นมันยังเป็นบริหานท้องถิ่นได้หรือ
ก็แค่เปลี่ยนจากการปกครองส่วนกลาง เป็นบริหารโดยกองทุนส่วนกลาง
ขอโทษ เราคิดไกลไป
ตั้งสติใหม่นะครับ ใจเย็นๆ ผมว่าที่มีการตั้ง กระทู้ แบบนี้ขึ้นมา ไม่ใช่อะไรเลย
สาเหตุมาจาก การถูกเอาเปรียบ ก็เท่านั้นเอง (จากมุมมองที่ผมอ่านและวิเคราะห์นะ)
โดยความรู้สึกนี้มาจาก รัฐบาล(ทุกยุคสมัยนั้นแหละ)บริหาร โดย จะต้องเน้นกระจุกตัวในกลุ่มของฐานคะแนนเสียงของแต่ละรัฐบาลก่อน
แต่ สิ่งที่นำมาบริหาร คือ เม็ดเงิน ที่มาจากภาษีของประชาชน ซึ่งมีภาษีเดียวเท่านั้นที่ ทุกคนทั้งประเทศต้องเสีย คือ มูลค่าเพิ่ม
แต่กลับกลายเป็นว่า ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีป้าย ภาษีที่ดิน ฯลฯ ก็ยังมีหักเข้าส่วนกลาง
แล้ว ถ้าพื้นที่นั้นๆ ต้องการใช้เม็ดเงินสูงกว่าที่เหลือหลังจากหักเข้าส่วนกลางหล่ะ จะทำยังไง ก็ต้องขอจากรัฐบาล และถ้า ยังเป็นการบริหารประเทศแบบที่เป็นอยู่
คือ ถ้าไม่ใช่ฐานเสียง ก็ได้การช่วยเหลือน้อย หรือไม่เหลียวแล หรือ อะไรก็ตามที มันก็เลยเฮ้ย แล้วจ่ายภาษีไปทำไม แล้วทำไมไม่แยกกันไปดูแลกันเอง
มันจึงเกิดความคิดที่ (สรุปง่ายๆ)ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างดูแลพื้นที่ของตัวเอง จังหวัดของตัวเอง โดยใช้การเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนั้นๆ (เน้นว่าประชาชนที่อาศัยอยู่) เป็นคนเลือก ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เช่นโกงกิน คอร์รัปชั่น คนที่เลือกก็มีสิทธิ์ที่จะ ถอดถอนได้....(ใช้เสียงข้างมากของประชาชนตัดสิน ตามแบบที่เสื้อแดงบอกมาตลอด) จึงเกิด กระทู้เช่นนี้ขึ้นมาฉะนี้แล
ขอโทษ ผมคิดไปไกลกว่า
คิดย้อนไปไกลอะดิ
คิดย้อนไปไกลถึงต้นน้ำ
ต้นน้ำ ปลายน้ำมันไกลกัน
จังหวัด ได้ดูแลตนเอง แหม ต้นน้ำชั่งดูสวยหรู
หมายถึงอำนาจมาจากประชาชน แต่.......ประชาชนในพื้นที่ของตัวเองก็พอ แต่ตอนนี้ ประชาชน นอกพื้นที่ไปยุ่งกับพื้นที่คนอื่นเค้า แถมยังใช้คำที่ว่า ประชาธิปไตย ซะสวยหรู มาเอาเปรียบประชาชนในพื้นที่ ซะอีก......
และ เรียกว่าประชาธิปไตย (ของพวกเสื้อแดง)
ลืมบอก ต้นน้ำ ปลายน้ำมันไกลกัน ก็ เอาเรือด่วนเจ้าพระยาไปวิ่งดิครับ แล้วจะรู้ว่า ใกล้แค่นี้เอง 5555+
Edited by ฟังทั้งสองฝ่าย, 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:44.
- แดงแสงเทียน likes this
#59
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:55
เชียงใหม่เก็บรายได้สู้กทม ไม่ได้มันแปลกตรงไหน แต่เชียงไหม่รายจ่ายน้อยกว่ากรุงเทพเยอะ ทำไมจะเลี้ยงตัวเองไม่ได้
หมื่นอยู่เชียงใหม่หรา.......
#60
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:52
ทำประชามติถามคนในพื้นที่สิครับ
หนึ่งในเรื่องที่น่ากลัวครับ
ถ้าผลออกมาโดยความคิดของคนถิ่นนั้น น่ารักมาก
แต่เรื่องแบบนี้
มันจะยอมให้คนถิ่นคิดเรอะ
มันจะเอา มันต้องเอาให้ได้ โดยไม่อายฟ้าดิน
ประชาชนเรอะ...?
มันมีตัวอย่างครับ
เราจะกระชากค่าครองชีพลงมา
#61
ตอบ 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:59
#62
ตอบ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:35
มหานครขอทาน เลี้ยงตัวเองไม่ได้ แต่จะแยกไปโกงอีก
- เพื่อนร่วมชาติ likes this
#63
ตอบ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:27
ไหนก็ไหนแล้ว ก็แยกให้หมดเลย ชลบุรี โคราช สงหลา สุราษฎ์ กรุงเทพ ระยอง สนุกดีครับ
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม คือ ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง
คุณธรรมที่พร้ำสอน ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา ส่วน ประชาธิปไตยน่ะรึ เอาเข้าจริงๆ สำคัญอันใด??
#64
ตอบ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:49
ลูกน้องผมเมื่ออาทิตย์ก่อนไปไหว้พระที่เชียงใหม่
กลับมาแล้วบ่นใหญ่เลย บอกเรียกรถไปดอยสุเทพ ตุ๊กๆ เรียก 500 บาท
จะเรียกรถไปไหนก็จะฟันท่าเดียว เห็นบ่นว่าไม่กล้าไปอีกแล้ว
ผมไม่ได้ไปเชียงใหม่มาหลายปี เลยสงสัยว่าที่นั่นไม่มีรถเมล์หรือถึงใช้เรียกรถอย่างเดียว
ถ้ายังไม่พร้อม รายได้ก็ไม่พอจะดูแลตัวเองละก็ อย่าเลยครับ
จะเป็นภาระให้คนอื่นเขา!!!
#65
ตอบ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:38
ไหนก็ไหนแล้ว ก็แยกให้หมดเลย ชลบุรี โคราช สงหลา สุราษฎ์ กรุงเทพ ระยอง สนุกดีครับ
เอ่อ..ขออภัย ไอ้ตัวแดงนี่ มันอยู่ภาคไหนอ่ะ...
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน