กฎของเมอร์ฟี่บอกว่า"Anything that can go wrong, will go wrong"
#1
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 03:40
- ตะนิ่นตาญี, อาวุโสโอเค, UncleSam and 1 other like this
#2
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 10:32
ชีวิตมีขึ้นมีลง เมื่อวานร้าย วันนี้ดี มีให้เห็นมากมาย อยู่ที่จิตใจเรา ระหว่างทางที่จะผ่านมรสุมไป
หากเราสามารถตั้งสติให้พร้อมรับปัญหาอุปสรรคที่จะถาโถม สิ่งเหล่านี้ก็จะเบาบางลง สิ่งเหล่านี้
ทำให้ต่างกันระหว่างชายหนุ่มกับผู้เฒ่า ถ้าจะให้แนะนำ ลองเจริญโลกธรรมดู สุดท้ายก็จะเห็นว่า
โลกเรานี้มันก็เท่านี้เอง จิตต่างหากที่ไปยึดเหนี่ยวว่าเราทุกข์
- ตะนิ่นตาญี, เรื่อยๆเอื่อยๆ, UncleSam and 1 other like this
#3
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:36
๒๕๐๐ กว่าปี ที่ผ่านมา มี คน ที่ เดินไป-บ่นไป ว่า ที่นี่วุ่นวายหนอ-ที่นี่ขัดข้องหนอ คล้ายคล้าย ที่ คุณเรื่อยๆเอื่อยๆ บ่น อยู่ นี่แหละครับ
ท่านผู้นั้น เป็น บุตร ของ นางสุชาดา ผู้เป็น อุบาสิกา ถวาย ข้าว มธุปายาส ก่อนที่ เจ้าชายสิทธัตถะ จะ บรรลุ อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นางสุชาดา มี บุตร หนึ่งคน ชื่อ ยสะกุลบุตร ด้วยความที่ ยสะกุลบุตร นั้น เป็น ลูกเศรษฐี จึง อยู่ อย่างที่เรียกกันว่า กิน-กาม-เกียรติ ประมาณนั้นครับ
มีอยู่คืนหนึ่ง ยสะกุลบุตร แก ตกใจ ตื่น ขึ้น กลางดึก เห็น ผู้หญิง ที่ นอน อยู่ ด้วย นั้น นอน ได้ น่าเกลียด มาก ตรงนี้ นึกภาพ ไม่ออก เหมือนกันครับ
คงเป็นประมาณว่า นอน อ้าปาก- กรน-น้ำลายไหลยืด กระมัง? ยสะกุลบุตร เห็นแล้ว คงตกใจ เกิดความรู้สึก เบื่อ ใน โลกียสุข จึงออกจากบ้าน
เดินไป-บ่นไป ที่นี่วุ่นวายหนอ-ที่นี่ขัดข้องหนอ บ่นอย่างนี้ ไปเรื่อย จนถึง ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ก็ได้ยินเสียง ตอบกลับมา "ที่นี่ไม่วุ่นวาย-ที่นี่ไม่ขัดข้อง"
ด้วยเสียงตอบกลับมานั้นเอง จึงทำให้ ยสะกุลบุตร ได้ สำเร็จ เป็น อรหันต์ องค์ที่ ๖ ใน พระพุทธศาสนา ได้ชื่อ ว่า พระยสะเถระ
คุณเรื่อยๆเอื่อยๆ ครับ ผ่าน มา ๒๕๐๐ กว่าปี แล้ว โลกเรา ก็ ยัง วุ่นวายหนอ-ขัดข้องหนอ อยู่นั่นเอง...อย่าถาม นะครับว่า แล้ว จะทำอย่างไร? จะให้ไป บวช หรือ?
แหะ-แหะ-แหะ ตอบไม่ได้เหมือนกันครับ เพราะ ตัว ของ ตะนิ่นตาญี เอง ก็ยัง วุ่นวายหนอ-ขัดข้องหนอ อยู่เหมือนกัน...
ยังดี อยู่ ที่ คนนอนหมอนเดียวกัน ไม่ได้ นอน-น่า-เกลียด ให้เห็น มิฉะนั้นแล้ว ก็ อาจ หนี ไปออก บวช เหมือนกันครับ คุณเรื่อยๆเอื่อยๆ ครับ
ตะนิ่นตาญี
วันอังคารที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖
เวลา ๑๙.๓๖ นาฬิกา
- เรื่อยๆเอื่อยๆ, อาวุโสโอเค, UncleSam and 1 other like this
#4
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:09
ชีวิตมันก็แปลกดี อยู่มาเรื่อยๆไม่มีอะไร วันดีคืนดีจะเจอเรื่องแย่ๆ มันก็เข้ามาพร้อมกันในวันเดียวกันแบบไม่ได้นัดหมาย ทั้งงาน ทั้งเงิน ทั้งแฟน ปรับอารมณ์แทบไม่ทัน พอเจอแบบนี้ ทั้งวันมันเลยกลายเป็นสีหม่นไป กินข้าวก็ไม่อร่อย เดินกลับบ้านฝนยังตกใส่อีก เอาเข้าไป ใจพอมันดาวน์ก็พาลนึกถึงเรื่องเฟลๆในชีวิตให้มันห่อเหี่ยวลงไปอีก หลับแล้วตื่นมาตอนเช้าคงมีเรื่องให้ยิ้มได้บ้าง แต่ตอนนี้หัวเราะไม่ออกเลย
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ยังมีคนที่เค้าโชคร้ายกว่าเราเยอะค่ะ
สู้ สู้ ค่ะ
- ตะนิ่นตาญี and อาวุโสโอเค like this
#5
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:22
น่าเห็นใจครับ เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ไม่หนักเท่าครับ
บางทีการระบายความรู้สึกออกมาก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้ามันหนักมากเกินจะรับไหว
ก็ขอให้ระบายออกมาทางน้ำตา ใช้เวลากับมันจนถึงที่สุด หลังจากนั้นจะรู้สึกโล่งขึ้น
มีสติขึ้น แล้วค่อยหาวิธีแก้ปัญหาต่อไป มันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย
ที่ผู้ชายจะร้องไห้(คนเดียว) เป็นกำลังใจให้ครับ
- ตะนิ่นตาญี, อาวุโสโอเค and kwan_kao like this
#6
ตอบ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:44
ขอบคุณทุกท่านครับ ได้นอนหลับ กินอิ่ม ปัญหามันก็ดูเล็กลงได้เหมือนกัน เคยอ่านเจอจากไหนจำไม่ได้ เขาบอกว่าบางทีปัญหาที่เราคิดว่าเยอะ อันที่จริงมันมีแค่อย่างเดียว แต่เราดันเอามาขยายซะสามเท่า เก็บเอามาคิดสามรอบ จากปัญหาเดียวเลยกลายเป็นมากมายเหลือเกิน
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ สำหรับทุกแง่คิด
- ตะนิ่นตาญี, อาวุโสโอเค and kwan_kao like this
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน