Jump to content


Photo
- - - - -

"ปลอด" ลั่นทำเขื่อนแม่วงก์แน่ อ้างสัตว์สร้างได้แต่ท่วมชาติอยู่ไม่ได้ จ่อโยนเงิน-หาที่ปลูกป่าใหม่


  • Please log in to reply
129 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 21 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:26

1371209_715867618428538_1766786255_n.jpg


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#52 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 21 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:40

http://www.greenworl...orld/local/1778

 

เมื่อแก้น้ำท่วมไม่ได้ แก้ภัยแล้งไม่ได้ แล้วเหตุผลของ ‘เขื่อนแม่วงก์’ คืออะไร ?

 

use01.JPG?1336545870

 

ความมุ่งมั่นเอาชนะและควบคุมธรรมชาติให้ได้ เป็นหนึ่งในความพยายามของมนุษย์มาหลายรุ่นหลายยุค…และหลายครั้ง ที่เราเห็นว่ามันไม่ได้ผล

 

“เขื่อนแม่วงก์” จังหวัดนครสวรรค์ เป็นอีกหนึ่งความพยายามเอาชนะธรรมชาติด้วยการรวบรวมน้ำอย่างเบ็ดเสร็จไว้ในอ่างเก็บน้ำใหญ่เพียงจุดเดียว ด้วยเหตุผลที่รัฐบาลอ้างว่าเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและเพื่อให้เกษตรกรในเขตชลประทานมีน้ำใช้ในหน้าแล้ง

 

บนเขาสบกก ป่าเขียวอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ติดแนวเขตผืนป่าห้วยขาแข้ง และเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตาคือป่าสักอันหนาแน่น คือหมายหมุดที่ตั้งของโครงการเขื่อนนี้

 

ท่ามกลางเสียงคัดค้านและสนับสนุนการสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยที่รัฐบาลยืนยันผลักดันโครงการอย่างเต็มที่ เราจะมาค้นคำตอบกัน ... เขื่อนแม่วงก์แก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งได้จริงแค่ไหน แล้วเราต้องสูญเสียอะไรเพื่อแลกกับเขื่อน

 

เขื่อน คำตอบของน้ำท่วม ?
เหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลต้องการสร้างเขื่อนแม่วงก์ คืออ้างว่าเขื่อนจะสามารถป้องกันน้ำท่วมในลุ่มน้ำแม่วง เขตอำเภอแม่วงก์ และอำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์

 

นายอดิศักดิ์ จันทวิชานุวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมภาคเหนือตอนล่าง กล่าวว่า ข้อมูลจากกรมชลประทานปีที่แล้วระบุว่า น้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 44,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ตัวเขื่อนแม่วงก์สามารถเก็บน้ำได้เพียง 250 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่ากับเป็นการแก้ปัญหาเพียง 1% เท่านั้น อีกทั้งการสร้างเขื่อนที่บริเวณเขาสบกก เป็นการกั้นลำน้ำแม่วงเพียงสายเดียว แต่ยังมีลำน้ำอีกหลายสายที่ไหลมาบรรจบตรงที่ลุ่มอำเภอลาดยาว ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของน้ำท่วมในตัวเมือง

 

ทั้งนี้ จากการสอบถามชาวบ้านลาดยาวหลายคน ระบุว่าเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำก็จะท่วมเพียง 2-5 วัน เท่านั้น หลังจากนั้นน้ำก็จะลดตามธรรมชาติ เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร เว้นแต่ปีที่แล้วที่ท่วมเป็นเวลานานที่น่าจะเกิดจากการจัดการน้ำไม่ดี ไม่ปล่อยให้ไหลตามธรรมชาติ

 

เขื่อน หนทางแก้ภัยแล้งในพื้นที่เกษตรกรรม ?
อีกเหตุผลนอกเหนือจากป้องกันน้ำท่วม คือการชูเขื่อนให้เป็นที่เก็บน้ำเพื่อที่เกษตรในพื้นที่อำเภอลาดยาวและอำเภอสว่างอารมณ์จะได้มีน้ำใช้ยามหน้าแล้ง

 

ข้อมูลจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมภาคเหนือและมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ระบุว่าบริเวณดังกล่าวมีพื้นที่กว่า 291,900 ไร่ ความต้องการใช้น้ำเฉลี่ย 347.9 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ส่วนใหญ่ทำนาข้าว ซึ่งต้องใช้น้ำเฉลี่ย 500 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ ดังนั้น เมื่อคำนวณแล้วน้ำทั้งหมดจากเขื่อนจะสามารถใช้ได้เพียงแค่ 40 วัน ซึ่งไม่เพียงพอ เพราะการทำนาข้าวต้องใช้น้ำประมาณ 120 วัน อีกทั้งตามหลักของการบริหารจัดการเขื่อน ต้องรักษาระดับเก็บกักน้ำไว้อย่างน้อย 100-150 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อความแข็งแรงของโครงสร้างฐานเขื่อนอีกด้วย

 

 

และบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ที่จะสร้างเขื่อนแม่วงก์นั้น มีเขื่อนอีกหลายแห่ง เช่น เขื่อนทับเสลา เขื่อนคลองโพธิ์ ซึ่งก่อสร้างเสร็จมาประมาณ 10 ปีแล้ว แต่ไม่ได้ช่วยเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งเลย เพราะพื้นที่อยู่ในเขตเงาฝน ปริมาณน้ำฝนน้อย และการก่อสร้างเขื่อนที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ฐานเขื่อนรองรับน้ำปริมาณมากไม่ได้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าการสร้างเขื่อนไม่ใช่คำตอบของพื้นที่นี้

 

เรากำลังแลกเขื่อนกับอะไร ?
ไม่มีหลักประกันใดว่า การสร้างเขื่อนแม่วงก์จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วม – ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้จริงอย่างคุ้มค่ากับมูลค่าการลงทุนกว่า 13,000 ล้านบาท

 

ทั้งหมดนี้ ยังไม่รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณนานาชนิดที่ไม่ได้ใช้เวลาเพียงปีหรือสองปีสร้างขึ้นมา

ไม่รวมถึง “ประโยชน์สาธารณะ” ที่ป่า น้ำ อากาศมอบให้มนุษย์อย่างที่ไม่ต้องตกอยู่ในอำนาจจัดการของใคร

ไม่รวมถึงความสำคัญในฐานะเป็นป่าหน้าด่านของป่าห้วยขาแข้ง เป็นพื้นที่ความหวังของการแพร่กระจายสัตว์ป่า ที่ที่พบเสือโคร่งจากห้วยขาแข้งออกมาหากิน
 
สิ่งที่ต้องแลกทั้งหลาย ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า รัฐบาลจะเหลือเหตุผลอะไรที่จะต้องดันทุรังสร้างเขื่อนแม่วงก์ขึ้นมา ?

 

cats.jpg

 

เขื่อนแม่วงก์
โครงการที่รับผิดชอบโดยกรมชลประทาน เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว วางแผนการก่อสร้างไว้ที่บริเวณเขาสบกก ตำบลแม่เล่ย์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ ความสูง 57 เมตร สันเขื่อนยาว 730 เมตร ความจุของอ่างเก็บน้ำประมาณ 250 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อสร้างเสร็จจะมีพื้นที่น้ำท่วมอย่างน้อย  12,375 ไร่ ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 13,280 ล้านบาท
                           
“ทำไมป่าและสัตว์ป่าถึงได้สำคัญนัก”
ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์   เลขาธิการมูลนิธิโลกสีเขียว

 

“ในฐานะที่เราเป็นมนุษย์คนหนึ่งของโลก ทำไมป่าและสัตว์ป่าถึงได้สำคัญนัก คือจริงๆ เราก็ทราบกันว่าสสารทั้งหลายในโลกมันไม่ได้หายไปไหน มันมีวงจรธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟต่างๆ มันก็วนเวียนอยู่ในโลก ทำหน้าที่ขับเคลื่อนของมันไป และก็เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ชีวิตเราต้องการคือ ‘ประสิทธิภาพ’ ในการขับเคลื่อนวงจรระบบนิเวศเหล่านั้น เห็นอยู่แล้วว่าน้ำท่วม-น้ำแล้งก็มีวงจรของมัน แต่ในฐานะมนุษย์ เราก็อยากจะให้มันมีความสมดุล มีประสิทธิภาพในการไหลเวียน

 

“ตัวที่ขับเคลื่อนวงจรทั้งหมดในธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพก็คือสิ่งมีชีวิตต่างๆ คือความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างในเมืองก็เปรียบเสมือนอาชีพต่างๆ เรามีคนทำอาชีพต่างๆ มากมายหลายอาชีพ ซึ่งขาดไม่ได้ เราต้องการคนกวาดถนน ต้องการวิศวกร ต้องการหมอ ต้องการนักร้อง ฯลฯ

 

“ในระบบนิเวศก็เช่นกัน และไม่ใช่เฉพาะในป่า รวมทั้งใต้น้ำ ในลำธาร ก็จะมีผู้ทำหน้าที่ที่ซับซ้อน ที่มีรายละเอียดมากมาย อย่างที่เราเคยเรียนเคยรับรู้กันมาว่า เวลาที่เราตายไปก็จะมีตัวย่อยสลายอย่างเห็ด รา ฯลฯ แต่ที่จริงมันซับซ้อนกว่านั้น เช่นเมื่อไม้ท่อนหนึ่งล้มลงไป ก่อนที่มันจะย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์ มันต้องการแมลงมากมายหลายชนิด ต้องการราหลายชนิด ราหนึ่งชนิดจะย่อยสลายโมเลกุลได้แค่ตัวเดียว เพราะฉะนั้นมันต้องทำงานกันเป็นทีมจึงจะได้ประสิทธิภาพที่ดี ...นี่คือกุญแจ

 

“เพราะฉะนั้นเวลาเราพูดถึงเสือโคร่ง เราไม่ได้หมายถึงเสือโคร่งและกวางที่เป็นอาหารของเสือโคร่ง แต่เราพูดไปถึงจุลินทรีย์ หรือทุกสิ่งมีชีวิตทุกอาชีพในป่าที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนวงจรทั้งหมดให้เป็นปกติ ซึ่งมันส่งผลต่อชีวิตเรา และ ณ วันนี้เราทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าวงจรต่างๆ มันวิกฤตขนาดไหน เราสูญเสียป่าไม่ได้แล้ว

 

“ตอนดิฉันเด็กๆ เรายังมีป่าสงวน และเดิมทีเราก็ตั้งใจว่าจะแบ่งป่าเป็นป่าใช้สอย ซึ่งใช้ไปแล้วจะมีการฟื้นฟูใหม่ให้ใช้ได้อีกเรื่อยๆ อย่างยั่งยืน และส่วนที่เก็บไว้ก็เป็นส่วนที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพของวงจรธรรมชาติก็คือป่าอนุรักษ์ แต่พอถึงตอนที่ดิฉันเป็นนักศึกษา ป่าสงวนก็หมดแล้ว ตรงนี้ (ป่าตะวันตก) เป็นแปลงสุดท้าย เราแกะกินมันไปเรื่อยๆ แล้วก็ไม่ฟื้นฟู จนถึงวันนี้เราแทะป่าสงวนไปหมดแล้ว ป่าอนุรักษ์ก็พยายามจะเข้าไปแทะอีก เพราะฉะนั้นการพัฒนาอะไรต่างๆ มันไม่ควรจะเป็นการ ‘เลือก’ ระหว่างการพัฒนากับการอนุรักษ์อีกต่อไปแล้ว เราต้องเปลี่ยนวิธีพัฒนาให้ ‘เป็นเรื่องเดียว’ กับการอนุรักษ์ นี่จึงจะเป็นหนทางในอนาคต”


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#53 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 21 กันยายน พ.ศ. 2556 - 22:04

http://www.seub.or.t...58-20&Itemid=14

 

9 เรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเขื่อนแม่วงก์

 

1. ข้อมูลทั่วไป: เขื่อนแม่วงก์มีลักษณะเป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวขนาดใหญ่ ความยาว 730 เมตร กว้าง 10 เมตร สูง 57 เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำประมาณ 13,000 ไร่ อยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชรและจ.นครสวรรค์ปริมาณกักเก็บน้ำ 250 ล้านลูกบาศก์เมตร

 

01.jpg

 

2. ประมาณการค่าก่อสร้างของเขื่อนแม่วงก์เมื่อปี 2525 อยู่ที่ 3,761 ล้านบาท 2551 มีมูลค่า 7,000 ล้านบาท ในเว็บไซด์ของกรมชลประทานในวันที่ 31 สิงหาคม 2554 ระบุว่ามีมูลค่า 9,000 ล้านบาท แต่ เมื่อมีการอนุมัติงบประมาณ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2555 มีมูลค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 13,000 ล้านบาท

3. ถึงแม้ว่าพื้นที่น้ำท่วมจะเป็นแค่ 2% ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ หรือ 0.12% ของป่าตะวันตกทั้งหมด แต่พื้นที่ตรงนี้เป็นป่าที่ราบต่ำริมน้ำซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการหากินและขยายพันธุ์ของสัตว์ป่าในฤดูแล้ง ในปัจจุบันประเทศไทยเหลือป่าในพื้นที่ราบอยู่น้อยมาก สัตว์ป่าบางชนิด เช่น นกยูง ไม่สามารถบินขึ้นไป อาศัยอยู่บนเขาได้อย่างที่นักการเมืองเข้าใจ แต่นกยูง ต้องการลานหิน ลานทราย ริมน้ำเพื่อการ ป้อตัวเมีย ไม่สามารถไปกางหางอวดในป่ารกทึบได้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่อุทยานฯพบว่าป่าที่นักการเมืองกล่าวอ้างว่าเป็นป่าใหม่มีอายุไม่ถึง 30 ปีมีอยู่เพียงไม่กี่พันไร่ แต่ป่าด้านใน เป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์มาก ในการสร้างเขื่อน ต้องทำการตัดไม้ออกจากพื้นที่ให้มากที่สุดเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย น่าสนใจว่าไม้ขนาดใหญ่ (ซึ่งรวมถึงต้นสักด้วย) จะตกเป็นผลประโยชน์ของใคร

 

03.jpg

 

4. การก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ จะทำให้สูญเสียพื้นที่ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ไม่น้อยกว่า 13,000 ไร่ เป็นไม้ใหญ่ประมาณ 500,000 ต้น ซึ่งในจำนวนนี้มีไม้สักประมาณ 50,000 ต้น กล้าไม้อีก 10,000 ต้น หรือเปรียบ เทียบได้ว่าพื้นที่ป่า 1 ไร่ ที่จะถูกน้ำท่วมจะมีไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ 80 ต้นเป็น ไม้สัก 13 ต้น ลูกไม้ 576 ต้น และกล้าไม้อีก 1,880 ต้น จากการคำนวณพื้นที่ป่าที่จะสูญเสียไป จากการสร้างเขื่อนแม่วงก์ เมื่อคำนวณเป็น ปริมาณคาร์บอนที่ต้นไม้สามารถดูดซับไว้ได้นั้น หากมีการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ประเทศไทยจะสูญเสียพื้นที่ที่ สามารถดูดซับคาร์บอนได้ประมาณ 10,400 ตันคาร์บอน ป่าแม่วงก์มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างน้อย 549 ชนิด และมีปลาอาศัยอยู่ในลำน้ำ 64 ชนิด (ใน EIA รายงานไว้ 61 แต่สำรวจเจอเพิ่มจากการลงพื้นที่อีก 3 ชนิด) ในจำนวนนี้มีเพียง 8 ชนิด หรือ 13% ที่สามารถผสมพันธุ์ในแหล่งน้ำนิ่งในอ่างเหนือเขื่อนได้นอกนั้นต้องอาศัยพื้นที่น้ำไหลหรือน้ำหลากซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ

 

5. จากเว็บไซด์ของกรมชลประทาน ลุ่มน้ำแม่วงก์มีพื้นที่รับน้ำฝน (water shed) 1,113 ตารางกิโลเมตร มีน้ำท่า 569 ล้าน ลูกบาศก์เมตร หรือมีน้ำ 0.52 ล้าน ลบ.ม./1 ตร.กม. ของพื้นที่รับน้ำ เมื่อเปรียบเทียบกับลุ่มน้ำทับเสลาซึ่งมีเขื่อนทับเสลาอยู่แล้ว ซึ่งมีพื้นที่รับน้ำฝน 534 ตร.กม. แต่มีน้ำท่า 124 ล้าน ลบ.ม. หรือมีน้ำ 0.23 ล้าน ลบ.ม./1 ตร.กม. ข้อสังเกตคือ พื้นที่ใกล้ๆกัน เขื่อนทับเสลาอยู่ทางใต้ของแม่วงก์เพียง 40 กม.ทำไมพื้นที่รับน้ำของเขื่อนแม่วงก์(ต่อตร.กม.)จึงมีน้ำมากกว่าพื้นที่รับน้ำของเขื่อนทับเสลาสองเท่ากว่าทั้งๆที่อยู่ในแนวเขาเดียวกัน ปริมาณฝนตกไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก ทั้งนี้ปีพ.ศ.2554 ซึ่งเป็นปีที่มีน้ำมาก เขื่อนทับเสลามีปริมาณน้ำในอ่างเพียง 49 ล้าน ลบ.ม. หรือ 31% ของความจุ และในปัจจุบัน ณ วันที่ 5 พค. 2555 ซึ่งเป็นปลายฤดูแล้งที่ควรจะมีการจัดส่งน้ำให้ทำการเกษตรในหน้าแล้ง ปรากฏว่ามีน้ำในอ่างที่ใช้การได้จริงเพียง 34 ล้าน ลบ.ม. หรือ 21% ของความจุเท่านั้น

 

6. การช่วยบรรเทาน้ำท่วม: เขื่อนแม่วงก็มีอัตราการเก็บน้ำสูงสุดที่ 250 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่ปริมาณน้ำที่ท่วมภาคกลางเมื่อปลายปี 2554 มีถึง 16,000 ล้าน ลบ.ม. (ตัวเลขจาก ศปภ.) น้ำที่กักเก็บได้ทั้งหมดของเขื่อนแม่วงก์จึงคิดเป็นเพียงแค่ 2% ของปริมาณน้ำที่ท่วมที่ราบลุ่มภาคกลางในช่วงปลายปี 2554 หรือคิดเป็นปริมาณน้ำที่ไหลเข้าทุ่งเจ้าพระยาในช่วงที่น้ำไหลเข้ามากที่สุดเพียงแค่ ครึ่งวันกว่าเท่านั้น เช่นในวันที่ 21 ตค. 2554 ทีม กรุ๊ป ให้ข่าวว่าปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ทุ่งเจ้าพระยามีมากถึงวันละ 419 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแม่วงก์จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคกลางได้น้อยมาก นอกจากนั้นแม้แต่พื้นที่ใกล้เคียง เช่น อ.ลาดยาว เขื่อนแม่วงก์ก็ช่วยเรื่องน้ำท่วมหลากได้เพียง 25% เนื่องจากน้ำที่ท่วมอ.ลาดยาวจริงๆแล้วมาจากหลายสาย และเป็นน้ำไหลบ่าจากทุ่ง ไม่ใช่จากน้ำแม่วงก์สายเดียว ทั้งนี้การบริหารจัดการเขื่อน ต้องคงเหลือน้ำไว้ในเขื่อนส่วนหนึ่ง จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขื่อนแม่วงก์จะสามารถรับน้ำได้เต็ม 250 ล้าน ลบ.ม. ทุกปี

 

06.jpg

 

7. รายงานการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม(EIA) ทั้ง 4 ครั้งตั้งแต่ปี 2538, 2541, 2545 และ 2547 ไม่เคยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ซึ่งระบุให้กรมชลประทานไปหาวิธีจัดการน้ำแบบบูรณาการมากกว่าสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนรายงานการศึกษาฉบับที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน มีมูลค่าวงเงินตามสัญญา ประมาณ 15 ล้านบาท ก็มีแนวโน้มไม่โปร่งใส เนื่องจากมีการลัดขั้นตอน ตัดลดจำนวนการลงพื้นที่สำรวจความหลากหลายทางชีวภาพบางรายการ นอกจากนั้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้มีหนังสือด่วนที่สุดเมื่อวันที่ 23 มีค. 2555 ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่าโครงการเขื่อนแม่วงก์ขัดต่อเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติและไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ ป่า และ พันธุ์พืช จะพิจารณาให้ดำเนินการได้

 

07.jpg

 

8. กรมชลประทานระบุว่าเขื่อนแม่วงก์จะสามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานในฤดูฝนได้ 291,900 ไร่ พื้นที่ในฤดูแล้ง 116,545 ไร่ จากการลงพื้นที่ ปรากฏว่าในฤดูฝน ชาวบ้านใช้น้ำฝนและน้ำหลากทุ่งในการทำการเกษตรอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งน้ำจากเขื่อนแต่อย่างใด ประโยชน์ของน้ำชลประทานจากเขื่อนจึงเหลือแต่ในฤดูแล้ง ซึ่งจากการคำนวน โดยใช้สมมุติฐานว่า
8.1     ชาวบ้านปลูกข้าวได้                0.75 ตัน/ไร่
8.2     ขายข้าวได้ราคาปกติ               8,000 บาท/ตัน
8.3     ขายข้าวได้ราคาจำนำ(เฉลี่ย)   14,000 บาท/ตัน
8.4     มีต้นทุนการเพาะปลูก             3,000 บาท/ไร่
8.5     ชาวบ้านจะมีกำไร/ไร่              (0.75*8,000)-3,000 = 3,000 บาท/ไร่ (ราคาปกติ)
8.6     ชาวบ้านจะมีกำไร/ไร่              (0.75*14,000)-3,000 = 7,500 บาท/ไร่ (ราคาจำนำ)
8.7     ชาวบ้านในพื้นที่ชลประทานจะมีรายได้เพิ่มขึ้น = 116,545 (ไร่) * 3,000 = 349.64 ล้านบาท (ราคาปกติ)
8.8     ชาวบ้านในพื้นที่ชลประทานจะมีรายได้เพิ่มขึ้น = 116,545 (ไร่) * 7,500 = 874.09 ล้านบาท (ราคาจำนำ)
8.9     ทำให้โครงการมูลค่า 13,000,000,000 บาทมีระยะเวลาคืนทุน 37 ปี และ 15 ปี ตามลำดับ โดยยังไม่คิดถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลและซ่อมบำรุงเขื่อนและระบบส่งน้ำ  ทั้งนี้การลงทุนทั่วไปควรมีระยะคืนทุนอยู่ระหว่าง 4-7 ปี และ 7-10 ปีในโครงการขนาดใหญ่
8.10  เขื่อนแม่วงก์จะมีค่า IRR ในกรณีข้าวราคาปกติที่ -5% ในระยะเวลา 20 ปี และ 3% ในระยะ 20 ปีที่ราคาจำนำ ทั้งนี้ในปัจจุบัน การลงทุนส่วนใหญ่ควรมีค่า IRR ในช่วงระยะเวลา 10 ปีอยู่ระหว่าง 5-10% จึงจะถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า (การคำนวนยังไม่ได้นำค่าใช้จ่ายในการดูและและซ่อมบำรุงเขื่อนและระบบส่งน้ำเข้ามารวม)
หมายเหตุ: ตัวเลขจากกรมชลประทานระบุว่าจะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ได้ประมาณ 720 ล้านบาท/ปี คิดเป็น ระยะเวลาคืนทุน 18 ปี IRR เมื่อ 20 ปี =1%

9. ผลโพล 7 สี ถามคนในจ.นครสวรรค์ว่าต้องการให้สร้างเขื่อนแม่วงก์หรือไม่ปรากฏว่ามี 22.7% ต้องการเขื่อน 32.5% ต้องการเขื่อนถ้าไม่มีผลกระทบโดยรวม และ 34.2% ไม่ต้องการเขื่อน ในขณะที่ 10% ไม่แน่ใจ แสดงให้เห็นว่า คนในพื้นที่เองส่วนใหญ่แล้วก็ยังไม่ต้องการเขื่อนเลยหรือไม่ต้องการถ้าส่งกระทบต่อส่วนรวม ทั้งนี้ป่าไม้ มิได้เป็นสมบัติของคนในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่เป็นสมบัติของคนทั้งชาติ ที่มีการใช้ “บริการทางอ้อม” จากป่าไม้ร่วมกัน เช่นใช้เป็นแหล่งผลิตออกซิเจน แหล่งกักเก็บน้ำ แหล่งอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นต้น การจะทำลายป่าไม้จึงต้องคำนึงถึง “คนนอกพื้นที่” ด้วยว่าเห็นด้วยหรือไม่

 

09.jpg


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#54 oohHo

oohHo

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 08:44

ความหมายของท่านปอด ที่ว่าสัตว์สร้างได้.คือ

ท่านจะย้ายรัฐสภาไปอยู่ใกล้ๆเขื่อนด้วย  ไม่ต้องกังวลเรื่องสัตว์จะสูญพันธ์ครับ .!!!!

 

944471_447220792028159_791142621_n.jpg



#55 หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,408 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 09:31

ตั้งแต่มาเป็นรัฐบาลนี้ มันปลูกป่าได้กี่มากน้อยแล้วล่ะ

 

ป่ามันใช้เวลาเป็นร้อยๆปี 


จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ... ศีลธรรม เป็นกรอบรักษาจินตนาการให้ดำรงอยู่ด้วยความดีงาม... -_- 


#56 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:26

-_-  อีก 1 เขื่อนในโครงการ...

 

http://siamensis.org/article/35507

 

ว่าด้วยเรื่อง เขื่อนคลองชมพู จ.พิษณุโลก

 

ในขณะที่สังคมกำลังหันหน้าไปสนใจกับเขื่อนแม่วงก์ ด่านหน้าที่ครม.มีมติอนุมัตงบประมาณออกมาแล้ว โครงการเล็กๆอีกโครงการในชุดเดียวกันที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาคือเขื่อนคลองชมพู จ.พิษณุโลก ผมขอถือโอกาสนี้ชี้แจงข้อมูลบางส่วนที่ได้รับรู้มา ในช่วงที่ลงพื้นที่เมื่อ 2-3 ปีก่อนครับ เอาเป็นว่าผมจะให้ข้อมูลเท่าที่ผมจะให้ได้ แล้วท่านตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วกัน ว่าผิดหรือถูก ว่าเราควรจะทำอย่างไรต่อไป สร้างเขื่อนดี ไม่สร้างเขื่อนดี? ถ้าหากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม หรือเห็นแย้งประการใด ผมก็พร้อมที่จะรับฟังด้วยความเต็มใจ 
 
ข้อมูลเบื้องต้นนะครับ คลองชมพูเป็นคลองขนาดกลางๆ ถ้าคุณเป็นคนกรุงเทพฯ ผมก็จะบอกว่ามันมีขนาดประมาณเท่าครึ่งของคลองประปา มีต้นน้ำอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ไหลลงมา ผ่านพื้นที่มีคนอยู่แห่งแรกคือ บ้านชมพู ก่อนที่จะไหลต่อไปผ่านที่บ้านซำรัง บ้านปลวกง่ามบ้านน้ำปาด ตำบลชมพูอำเภอเนินมะปรางผ่านเนินสะอาดหนองปลาไหล อำเภอวังทองที่ผ่านมาได้มีโครงการที่จะก่อสร้างเขื่อนคลองชมพู เนื่องจากว่าในหน้าน้ำ น้ำในคลองชมพูจะเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรม ในหน้าแล้งน้ำในคลองชมพูจะเค็มใช้ประโยชน์ไม่ได้เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำเป็นพื้นที่ ๆ มีแหล่งเกลืออยู่

 

chompu.jpg

 

คลองชมพูตอนบน บริเวณที่พบจระเข้น้ำจืดอาศัยอยู่ บริเวณนี้เป็นเขตป่าที่สมบูรณ์ของ อช.ทุ่งแสลงหลวง

คุยกันทีละเรื่องนะครับ เรื่องแรกก็คือเรื่องน้ำท่วม อาจจะฟังดูแปลกถ้าจะบอกว่าพี่น้องครับปล่อยให้น้ำท่วมบ้างเถิด โดยเฉพาะที่คลองชมพู น้ำท่วมนั้นก็มีข้อดีหลักที่อยากชี้ให้เห็นอยู่ 2 ประการ
 
เรื่องแรกก็คือน้ำที่คลองชมพูเค็ม ชาวบ้านในพื้นที่ท่านก็รู้อยู่ มันจะเค็มมากในหน้าแล้ง ลงไปว่ายขึ้นมาตัวเหนียว เลียดูเค็มเลย หน้าฝนมีน้ำมากหน่อยก็เค็มน้อยหน่อย ระหว่างที่มันไม่เค็มมากท่านก็ใช้น้ำเหล่านี้รดลงไปในที่ดินของท่าน ผลก็คือถึงจะมีน้อยแต่มันก็ยังมีเกลือ ดังนั้นทุกวันทุกปีท่านได้รดน้ำเค็มลงไปในที่ดิน นานวันเข้าเกลือก็จะสะสมในที่ของท่าน แล้วในที่สุดดินก็จะเสียปลูกอะไรไม่ได้ ปัญหาดินเค็มเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของที่ดินการเกษตรทั่วโลกครับ แต่ที่ทุกวันนี้ดินยังไม่เค็มไม่เสีย ก็เพราะพอฝนตกน้ำมามากๆ มันไหลบ่าท่วมที่ดินท่านมันก็ชะพาเอาความเค็มออกไปจากที่ดินท่าน แล้วก็เอาปุ๋ยและแร่ธาตุมาให้กับที่ดินของท่าน ดินท่านก็ไม่เค็ม ชุ่มชื้น และอุดมสมบูรณ์
 
เรื่องที่สองชาวประมงพื้นบ้านเรารู้ดี ปีไหนน้ำท่วม ปีนั้นปลาเยอะ เพราะปีนั้นจะเป็นปีที่ปลาได้ขึ้นมาทำรังวางไข่ และลูกปลาได้อาศัยพื้นที่น้ำท่วมหลบภัยและหากิน ปลาน้ำจืดไทยเกือบจะทั้งหมดมีพฤติกรรมการผสมพันธุ์ที่ต้องพึ่งพื้นที่น้ำท่วมทั้งสิ้น ปลาเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ไขมันต่ำ และสามารถจับหากินได้ไม่ยากนักนะครับ 

 

fry1.jpg

 

ลูกปลามากมายที่พบในทุ่งน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก

สำหรับการแก้ปัญหาน้ำเค็ม เขื่อนคลองชมพู ตามทฤษฏีแล้วจะไม่แก้เรื่องน้ำเค็มเลย ซ้ำร้ายอาจจะทำให้มันแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะการสร้างเขื่อนจะก่อให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาสองเรื่อง
 
เรื่องแรกคือน้ำจำนวนมากที่ถูกกักไว้หลังเขื่อน จะหนักและมีแรงดันมากขึ้น มันจะแทรกซึมลงไปในชั้นดินได้ลึกขึ้น และชั้นดินทางต้นแม่น้ำคลองชมพู ผมก็ยังไม่เห็นรายงานสำรวจนะครับ แต่ให้เดาก็คงต้องบอกว่ามีเกลือแน่ๆ และน้ำที่ซึมลงไปก็จะไปดึงเอาเกลือขึ้นมาเพิ่มความเค็มให้น้ำสมทบกับเกลือผิวดินที่น้ำพามาอยู่เป็นประจำ

 
เรื่องสองก็คือน้ำที่ถูกเขื่อนกักจะมีพื้นที่ผิวมากขึ้น ลองเอาน้ำจำนวนเท่ากันใส่กาละมังซักผ้า กับใส่ไว้ในแก้ว แล้วตากไว้กลางแดด น้ำตรงไหนจะระเหยเร็วกว่ากัน?  ก็ต้องน้ำที่มีพื้นที่ผิวให้น้ำระเหยได้มากกว่าที่กาละมังซักผ้าใช่ไหมครับ?  การสร้างเขื่อนที่คลองชมพู จะเป็นการเพิ่มพื้นที่ผิวให้น้ำระเหยได้เร็วยิ่งขึ้น น้ำระเหยแต่เกลือไม่ได้ระเหยไปไหน เหมือนเวลาทำนาเกลือนั่นแหล่ะครับ น้ำที่เหลือก็จะเค็มยิ่งขึ้น และทีนี้อาจจะเค็มยาวนานทั้งปีก็เป็นได้ ลองดูกรณีเขื่อนราษีไศล เถิดครับ 
 
ผมนึกได้เท่านี้และเห็นว่าเขื่อนจะสร้างปัญหาให้กับเกษตรกรปลายน้ำมากกว่าที่จะแก้ปัญหาใดๆ นอกจากว่าน้ำจะได้ไม่ท่วมบ้านเรือน แต่ในที่สุดแล้วเขื่อนไม่ใช่คำตอบสุดท้ายว่ามีแล้วน้ำจะไม่ท่วม ถ้าน้ำมามากจริงๆ มันก็ท่วมอยู่ดี เพราะมันจะอยู่ที่การจัดการตั้งแต่ต้น การคาดการณ์ว่าน้ำจะเหลือมากหรือน้อย ควรจะปล่อยและเก็บในช่วงไหน ถ้ามีเขื่อนแล้วน้ำไม่ท่วมจริง ทำไมน้ำถึงท่วมในปีพ.ศ.2554 ทั้งๆที่เรามีเขื่อน กั้นแม่น้ำ ปิง วัง และ น่านอยู่แล้ว?
 
เขื่อนเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา แต่ไม่ใช่คำตอบเบ็ดเสร็จสำหรับทุกอย่างครับ ในที่สุดคือเราเอาชนะธรรมชาติไม่ได้ เขื่อนผ่อนหนักเป็นเบาได้ แต่เขื่อนแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จไม่ได้ ถ้าน้ำท่วมมันไม่ดีเอามากๆ ทำไมนครหลวงของไทย ทั้งสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และ รัตนโกสินทร์ ล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่ในเขตน้ำท่วมทั้งนั้น?  บรรพบุรุษของเราก่อบ้านสร้างเมือง ปรับตัวเข้ากับน้ำท่วมได้อย่างไร บ้านยกพื้น เรือใต้ถุน เราลืมแล้วหรือ?  
 
อ่านเท่าที่ผ่านมาอาจจะเครียดแล้ว ผมจะเล่าเรื่องตลกให้ฟังสักเรื่อง “เขาเล่ากันว่า ตอนที่พระเจ้าสร้างโลก ท่านมีพืชพรรณสัตว์ต่างๆอยู่ในถุงใบใหญ่ เดินแล้วก็เลือกหยิบมาวางไว้ตามประเทศต่างๆ พอมาถึงประเทศไทย พระเจ้าดันเดินสะดุด ทำพืช สัตว์ สิ่งมีชีวิตต่างๆหล่น ออกมาเต็มประเทศไทยไปหมด ท่านเห็นแล้วก็นึกในใจ ตายละวา...ประเทศไทยนี่มีพืชสัตว์เยอะเกินหน้าประเทศอื่นไปมากมาย ประเทศนี้มีต้นทุนความหลากหลายทางชีวภาพเยอะกว่าประเทศอื่นๆ ของพวกนี้ถ้ารู้จักใช้รู้จักศึกษา ประเทศนี้จะได้เปรียบคนอื่นมากมาย ไม่ได้การ อีกหน่อยประเทศนี้จะเจริญรุ่งเรืองกว่าชาติอื่นเป็นแน่ ปิ๋ง! พระเจ้าตัดสินใจ ส่งคนผู้ไม่รู้จักคุณค่าของความหลากหลายทางชีวภาพลงมาอยู่บนแผ่นดินไทย พระเจ้ากระหยิ่มยิ้มย่อง คนพวกนี้มีของดีแต่ใช้ไม่เป็น เดี๋ยวก็ทำตกหล่นสูญหาย ไม่ได้เปรียบใครเขาหรอก เหอ เหอ เหอ” 
 
ใกล้ ๆ กับคลองชมพูในบริเวณที่จะสร้างเขื่อนมีถ้ำอยู่หลายถ้ำ ถ้าคุณเดินลงไปจะพบว่าในถ้ำมีน้ำไหลอยู่ ในนั้นมีปลาอยู่สองชนิด ชนิดหนึ่งเป็นปลาเกล็ดตัวใหญ่ยาวได้เป็นสอก มันมีตัวสีขาวโพลนและตาเล็กๆ อีกชนิดเป็นปลาค้อตัวใหญ่เป็นคืบ มันมีลำตัวสีเนื้ออมชมพู บางตัวก็ตาบอดสนิท บางตัวเห็นตาเล็กๆอยู่ นอกจากนั้นในน้ำยังมีกุ้งตัวสีขาวและปูขายาวรูปร่างแปลกประหลาด สัตว์เหล่านี้ นอกจากถ้ำในแถบนี้ไม่มีอีกแล้วที่ไหนในโลก ผมยังไม่เห็นรายงานการศึกษาใดๆถึงผลกระทบจากการสร้างเขื่อนต่อระบบน้ำในถ้ำเลย 
 
ปลาตัวแรกคือปลาพลวงถ้ำ และปลาตัวที่สองคือปลาค้อตาบอดถ้ำพระวังแดง ทั้งสองชนิดเป็นสัตว์คุ้มครอง ตามกฎหมายของประเทศไทย ในปัจจุบันปลาถ้ำมีบทบาทอย่างมากในการวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับการพัฒนาตาและระบบประสาทต่างๆที่เชื่อมโยงกับตา ซึ่งเชื่อกันว่าจะสามารถนำมารักษาคนตาบอดตาไม่ดีได้ในอนาคต ไม่ใช่ว่าทุกประเทศในโลกนี้มีปลาถ้ำนะครับ มีอยู่ไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่โชคดี ประเทศไทยมีครับ! 

 

neo_subteraneus1.jpg

 

schistura_spiesi.jpg

 

ปลาพลวงถ้ำและปลาค้อถ้ำ พบในระบบถ้ำใกล้กับบริเวณที่จะมีการสร้างเขื่อนเพียงแห่งเดียวในโลก

ทีนี้ในยามค่ำคืนถ้าคุณกล้าพอที่จะเดินผ่านป่าที่รกทึบเข้าไป คุณจะเห็นสัตว์รูปร่างประหลาดคล้ายจิ้งจกแต่ตัวใหญ่กว่ามากและมีนิ้วยาว มีมีลายปล้องสีแดง/น้ำตาลสลับเหลือง มันคือตุ๊กกายปล้องทอง สัตว์เลื้อยคลานที่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อปีพ.ศ.2553 มันเป็นสัตว์ชนิดใหม่ที่โลกเพิ่งค้นพบและมันอาศัยอยู่เฉพาะในถ้ำแถบนี้เท่านั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าพวกจิ้งจกตุ๊กแกสามารถงอกหางออกมาใหม่ได้ถ้าขาดไป ในขณะที่มนุษย์ทำไม่ได้ ไม่แน่นะว่ากุญแจสำคัญอาจจะอยู่ที่ชนิดนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้? 

 

cyrto_auribalteatus.jpg

 

ตุ๊กกายปล้องทอง 

ตามหัวแก่งของคลองชมพู ถ้าคุณลองเอาสวิงตาถี่หน่อย ขูดลากไปตามหาดกรวด แล้วคุณโชคดี คุณจะได้ปลาตัวเล็กๆชนิดหนึ่งขึ้นมา มันมีขนาดไม่ถึง 1 นิ้ว ลำตัวของมันเป็นสีน้ำตาลเข้มสลับกับลายสีน้ำตาลอ่อน มันมีผิวหนังที่ขรุขระ หน้ามู่ทู่ที่เต็มไปด้วยหนวดเครา ปลาชนิดนี้คือปลาขยุยคลองชมพู และเหมือนกับตุ๊กกายปล้องทอง มันเป็นปลาที่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อปีพ.ศ.2553 มันเป็นสัตว์ชนิดใหม่ที่โลกเพิ่งรู้จัก และในปัจจุบันยังไม่มีรายงานจากส่วนใดของโลกนอกจากที่คลองชมพู ปลาชนิดนี้สามารถผลิตพิษเก็บเอาไว้ที่เงี่ยงของมันครับ เอาไว้ป้องกันตัวเวลาถูกจับมันก็จะตำเอา เจ็บปวดมาก ในปัจจุบันเริ่มมีการศึกษาพิษที่ปลาผลิตขึ้นมาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางยาแล้วครับ พิษของปลาขยุยชนิดนี้จะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง? ถ้ามันสูญพันธุ์ไปเสียก่อน เราคงไม่มีวันได้รู้

 

akysis.jpg

 

ปลาขยุยคลองชมพู

นอกจากนั้นที่คลองชมพูยังมีจระเข้ จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย จระเข้ชนิดที่ถูกจัดว่ามีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ใครจะหาว่าเป็นจระเข้ปล่อย จระเข้หลุด ผมไม่สน ผมได้เห็นมันมาแล้วกับตา ตัวมันใหญ่มาก ถ้าใครจะปล่อยจระเข้มาหลอกกันคงไม่บ้าหรือโง่หรือลงทุนไปซื้อตัวใหญ่ขนาดนี้มาปล่อย ผมได้คุยกับชาวบ้านเป็นสิบคน มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับจระเข้เก่าๆในพื้นที่มากมาย มีหัวกะโหลก มีศาลจระเข้ ผมเชื่อว่ามันคือจระเข้ป่า และผมเชื่อชาวบ้านว่ามีมากกว่า 1 ตัวที่ผมเจอด้วย 

 

croc_tail.jpg

 

จระเข้ขนาดใหญ่ที่พบในซอกหินริมคลองชมพู 

ไม่มีใครบอกให้ชัดเจนได้ ว่าเขื่อนคลองชมพู จะส่งผลกระทบอย่างไรกับ ปลาถ้ำ ตุ๊กกาย ปลาขยุย หรือ จระเข้สัตว์เหล่านี้อาจจะสูญพันธุ์ หลายคนอาจจะไม่สนใจบอกว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ผมจะไม่บอกซ้ำว่านี่คือต้นทุนความหลากหลายทางชีวภาพที่ประเทศไทยมีมากมายกว่าชาติอื่น ผมจะไม่บอกว่าเราควรจะรักษาพวกมันไว้ให้คนรุ่นหลัง ว่าเราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินว่าสิ่งมีชีวิตไหนมีประโยชน์และสมควรอยู่ต่อไป และสิ่งมีชีวิตไหนไร้ประโยชน์และตายๆไปเสียได้ก็ช่างมัน เราก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตอีกชนิดเท่านั้น ผมแค่จะบอกคุณว่าพวกมันอยู่ตรงนั้น และมันอาจจะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนคลองชมพู
 
ผมมีเรื่องบอกคุณเท่านี้ และที่เหลือคุณก็ตัดสินใจเอาเองเถิด 

ข้อมูลเขื่อนคลองชมพู
          ที่ตั้งโครงการ         : ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
          พิกัดโครงการ         : 47 QPU 830451 ระวาง 5142-III
          พื้นที่รับน้ำฝน         : 342.50 ตร. กม.
          ปริมาณน้ำท่า         : 150  ล้าน ลบ.ม./ ปี 
          ปริมาณน้ำนองสูงสุด : 690 ลบ.ม./วินาที
          หัวงาน                 : เขื่อนดิน กว้าง 10 เมตร ยาว 1,100 เมตร สูง 49.50 เมตร
          ระบบส่งน้ำ            : 103,800 ไร่ (ฤดูฝน 103,800 ฤดูแล้ง 17,600) รายละเอียดดังนี้
                                     - 35,500 ไร่ พื้นที่ชลประทานตอนบน (ก่อสร้างระบบใหม่)
                                     - 1,800 ไร่ พื้นที่ตั้งถิ่นฐานใหม่
                                     - 53,000 ไร่ พื้นที่โครงการวัดตายม และพื้นที่ท้ายโครงการ 13,500 ไร่
          ความจุเก็บกัก         : 86.26 ล้าน ลบ.ม.
          ความจุใช้งาน         : 84.40 ล้าน ลบ.ม.
          ราคาค่าก่อสร้าง       :1,302.71 ล้านบาท รายละเอียดดังนี้
                                      -เขื่อนและอาคารประกอบ              655.87 ล้านบาท 
                                      -ระบบส่งน้ำ                              400.85 ล้านบาท
                                      -ระบบระบายน้ำและป้องกันอุทกภัย  245.99 ล้านบาท

ข้อมูลล่าสุดของโครงการดังกล่าวเท่าที่หาพบสามารถd/l ได้ด้านล่างครับ
http://www.siamensis.../document/35506

 

croc_nest_0.jpg

 

รังจระเข้ พบเมือเดือนมิย.2555

 

thamtamonj.jpg

 

Thampramon tonvuthi ปูถ้ำพระ ปูสกุลใหม่ ชนิดใหม่ของโลก พบที่ถ้ำพระวังแดง

 “เรามันคนบ้านป่า ต้องอยู่กับธรรมชาติ พึ่งพาธรรมชาติ เราเชื่อว่าถ้าจระเข้มันอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ ถ้ามันอยู่ไม่ได้
ก็หมายความว่าบ้านเราไม่มีความอุดมสมบูรณ์เหลืออยู่แล้ว เมื่อนั้นเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน”
ชาวบ้านคลองชมพู
รายงานการพบรังจระเข้ที่คลองชมภู เดือนมิถุนายน 2555
http://www.siamensis...0#comment-35843


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#57 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:43

^

^

^

^

 

 

สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ล้วนแต่เป็น endemic species คือ สิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นทั้งนั้น คือ สิ่งมีชีวิตที่มีถิ่นกระจายพันธุ์จำกัด พูดง่าย ๆ มันมีแค่ที่เดียวในโลกเท่านั้น

 

 

นั่นคือ ถ้ำพระวังแดง ภายในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

 

 

เป็นถ้ำหินปูน และถ้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย นั่นคือ 13.5 กิโลเมตร

 

 

เป็นถ้ำที่ีน่าศึกษามาก ๆ เพราะมีแต่ endemic species ทั้งนั้น 


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#58 kwan_kao

kwan_kao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,444 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:05

ภาพกลุ่มคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ที่หอศิลป์ ปทุมวัน

 

ชุมนุมด้วยความสงบ

 

แม่วงก์ 1.jpg

 

แม่วงก์ 2.jpg


ขอเป็นเพียงดินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งของพ่อ ก็ภูมิใจแล้ว

#59 puggi

puggi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,869 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:10

สำหรับไทยเรา ผมว่า ต้องการเขื่อนอีกไม่มาก ในแม่น้ำที่สำคัญ เช่น แม่น้ำยม ที่ไม่มีเขื่อนในการควบคุมน้ำ

 

นอกนั้น คงไม่จำเป็นอีกแล้ว

 

เราควรเน้นเรื่องการปลูกป่า ทุกวันนี้ เขาหัวโล้น   ตีนเขา เชิงเขา ถูกบุกรุกมาก  ต้องเอากลับคืนมาให้ได้

 

หากป่าไม้ฟื้นตัว ปัญหาเรื่องน้ำท่วม และ ความแห้งแล้งก็จะหมดไปครับ



#60 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:10

คนเยอะมวากกกกกกกกกกกกกกกกกกก เป็นหมื่นอ่ะ

 

มีคนดัง ๆ หลายคนที่ไปร่วมด้วย

 

ทั้งโน้ต วัชรบูรณ์ โต้ สุฤหท แร้วก็ สว.รสนา

 

 

แต่เห็นว่าสรย้วยออกข่าวมะตอนเที่ยงแค่ 1 นาทีก่อนจบ

 

 

อาเมน

 

 

-_-  -_- 


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#61 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:13

276671_130907225826_715952_q.jpg
Like This Page · 8 minutes ago 
 
 

รอยยิ้มจากป่าสู่เมือง..

แม้หนทางยาวไกลจะบั่นทอนกำลังกาย แต่อ.ศศินยังยิ้มได้ เพราะภาพนักอนุรักษ์ทุกท่านที่มาแสดงพลังเพื่อผืนป่า
 
 
1229950_10151872824515827_2087997414_n.j

“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#62 นิจนิรันดร์

นิจนิรันดร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,191 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:32

ถ้าสร้างแล้ว น้ำยังท่วมอีก จะทำยังไง

เอาอยู่คร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

:D



#63 แดงประจำเดือน

แดงประจำเดือน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,021 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:35

พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2554 อ่านซะพวกสลิ่ม

 

 

http://kromchol.rid....ewssiamrath.pdf



#64 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:52

1236331_593238557381280_149219060_n.jpg

 

^_^  ^_^


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#65 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:34

"ปลอด" ลั่นทำเขื่อนแม่วงก์แน่ อ้างสัตว์สร้างได้

เห็นเอง เอาเสือโคร่งไปเมืองจีนแล้ว ไม่ไว้ใจคำพูดของเองเลย

 

 

แต่ท่วมชาติอยู่ไม่ได้ จ่อโยนเงิน-หาที่ปลูกป่าใหม่

แสดงว่าชาติของเองหายไป ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน แล้วซินะ


Edited by Stargate-1, 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:35.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#66 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:19


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#67 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:22

http://www.thairath....tent/edu/325834

 

----------------------------------------


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#68 THE THIRD WAY

THE THIRD WAY

    มาหาความจริง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,417 posts

ตอบ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 - 23:03

มันบอกว่าสัตว์สร้างได้

ตะแรกผมก็งง

 

คิดไปคิดมา  ถึงบางอ้อ

มิน่าเล่า.............

ในพรรคนั้นจึงมีแต่สัตว์ *** ***

เพราัะสัตว์มันสร้างได้นี่เอง


อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าเป็นกลางทีคนอื่นทำอีกอย่าง บอกว่าเอียง

#69 Ballbk

Ballbk

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,783 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 07:31

พรรครัฐบาลอ่ะ สัตว์เยอะแยะ


"ความดี กับ ความเลว

ความจริง กับ คำโกหก

ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"

ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน

 


#70 Suraphan07

Suraphan07

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,016 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:34

ไม่แน่ใจว่าซ้ำอ๊ะป่าว ได้ใจดี...

ขอแป่ะภาพและการ์ตูน

ประกอบกระทู้ครับ... :lol: 

 

"สัตว์ป่าสร้างได้"

https://www.facebook...&type=1

 

 

หยุด"ไอ้"ได้ ....ก็ไม่มี"อี"  ???...


Edited by Suraphan07, 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:47.


#71 Suraphan07

Suraphan07

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,016 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:29

คนแค่หยิบมืิอที่หอศิลป์ฯกรุงเทพ

http://www.oknation....3/09/23/entry-1

 

หลายๆภาพเห็นแล้ว "ขนลุก"...

 

นี่แหล่ะ นักศึกษาตัวจริง... ;)

 

 

นี่ก็ รักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ...

 

ไอ้ปอดปากมอม มานับคนเอาเองม๊ะ...

 

ขอคารวะทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมกัน

ต่อต้านการสร้างเขื่อนครั้งนี้...

ผมว่า น่าจะให้ไอ้ปอดปากมอม เห็นคนแค่หยิบมือ

ที่ต้านการสร้างเขื่อน น่าจะนัดรวมตัวกัน เดินทางไปเยี่ยม

เยือนบ้านมัน ให้มันแสดง "วิธีการสร้างสัตว์."

โชว์ให้ดูหน่อย น่าจะดี B)  

 

 



#72 ไร้สีไร้กลิ่น

ไร้สีไร้กลิ่น

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,501 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:58

พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2554 อ่านซะพวกสลิ่ม

 

 

http://kromchol.rid....ewssiamrath.pdf

อ่านแล้วเข้าใจว่าอย่างไรคับ 

 

สำหรับผมเข้าใจว่า พระองค์ท่านทรงพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียซึ่งนอกจากเก็บกักน้ำแล้วต้องสร้างทางระบายน้ำให้เร็วที่สุดด้วย แต่ นี่เป็นความเห็นเมื่อ 2 ปีก่อนครับ ปัจจุบันประเทศที่เจริญแล้วล้วนแต่หันมาใช้วิธีการจัดการน้ำแบบอื่น เช่นการเก็บน้ำไว้ใต้ดิน นอกจากมีพื้นที่เก็บน้ำได้มากกว่า ยังทำให้ไม่เสียพื้นที่ที่เป็นประโยชน์บนพื้นดิน รวมถึงไม่ส่งผลต่อการหมุนตัวของโลก ล่าสุดโครงการหลวงก็แก้ปัญหาเรื่องฝายพังโดยการเก็บน้ำไว้ใต้ดิน ผมเชื่อว่าปลอดประสพก็รู้วิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ ซึ่งไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายมหาศาลหรือแลกกับชีวิตสัตว์และระบบนิเวศน์ที่มีค่ายิ่งกว่ามากมาย

 

ทำไมจึงบอกง่ายๆว่า ป่าสร้างใหม่ได้ (ทั้งที่นักการเมืองคนหนึ่งก็เคยไปสร้างป่าแต่กลับทำให้พื้นที่ตรงนั้นแล้งกว่าเดิม) ถ้าเป็นแนวคิดสมัยก่อนผมยังพอเข้าใจเพราะอาจจะไม่มีความรู้ แต่ครั้งนี้ผมคิดว่าเขารู้ หลายคนก็ออกมาเตือน ทำไมยังดื้อดึงอยู่อีก

 

ปล. ถ้าจะอ้างพระองค์ท่านก็เอาอย่างพระองค์สิครับ พิจารณาข้อดีข้อเสียให้รอบคอบ ถ้าเป็นประโยชน์จริงแล้วต้องสร้าง แม้ต้องใช้งบประมาณมากก็ต้องทำ แต่ผมมองว่างานนี้คนที่ได้คงมีแต่เปรตประสพซะมากกว่า


Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:06.


#73 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:02

 

พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2554 อ่านซะพวกสลิ่ม

 

 

http://kromchol.rid....ewssiamrath.pdf

อ่านแล้วเข้าใจว่าอย่างไรคับ 

 

สำหรับผมเข้าใจว่า นอกจากเก็บกักน้ำแล้วต้องสร้างทางระบายน้ำให้เร็วที่สุดด้วย แต่ นี่เป็นความเห็นเมื่อ 2 ปีก่อนครับ ปัจจุบันประเทศที่เจริญแล้วล้วนแต่หันมาใช้วิธีการจัดการน้ำแบบอื่น เช่นการเก็บน้ำไว้ใต้ดิน นอกจากมีพื้นที่เก็บน้ำได้มากกว่า ยังทำให้ไม่เสียพื้นที่ที่เป็นประโยชน์บนพื้นดิน รวมถึงไม่ส่งผลต่อการหมุนตัวของโลก ล่าสุดโครงการหลวงก็แก้ปัญหาเรื่องฝายพังโดยการเก็บน้ำไว้ใต้ดิน ผมเชื่อว่าปลอดประสพก็รู้วิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ ซึ่งไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายมหาศาลหรือแลกกับชีวิตสัตว์และระบบนิเวศน์ที่มีค่ายิ่งกว่ามากมาย

 

ทำไมจึงบอกง่ายๆว่า ป่าสร้างใหม่ได้ (ทั้งที่นักการเมืองคนหนึ่งก็เคยไปสร้างป่าแต่กลับทำให้พื้นที่ตรงนั้นแล้งกว่าเดิม) ถ้าเป็นแนวคิดสมัยก่อนผมยังพอเข้าใจเพราะอาจจะไม่มีความรู้ แต่ครั้งนี้ผมคิดว่าเขารู้ หลายคนก็ออกมาเตือน ทำไมยังดื้อดึงอยู่อีก

 

 

เสริมข้อมูลให้คุณไร้สีไร้กลิ่นครับ

 

http://www.matichon....pid=00&catid=00

 

นายสุเมธกล่าวว่า ส่วนการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ขณะนี้ก็ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะสร้างแล้ว หลังจากชาวบ้านหารือกัน พบว่าไม่มีเหตุผลที่จะสร้าง หากสร้างไปก็กลายเป็นอนุสาวรีย์โด่เด่ขึ้นมาเปล่าๆ โดยชาวบ้านที่บ้านสะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ก็เห็นด้วย เพราะสิ่งที่กองทัพบกกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ได้ไปทำ คือขุดลอกคลองและบึงที่มีอยู่แล้วแต่ตื้นเขิน ให้กลับมาใช้งานได้ ก็สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บน้ำในฤดูน้ำท่วม และเป็นแหล่งสำรองน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ การแก้ไขปัญหาลุ่มน้ำยมที่สำเร็จถือว่าสำคัญมากในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งในประเทศไทย โดยมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ จะทำรายงานนี้ทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายในเดือนมีนาคมนี้

ด้านนายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ในฐานะกรรมการและเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ กล่าวว่า ความจำเป็นในการสร้างเขื่อนไม่มีความจำเป็นแล้ว เพราะสภาพฝนและทะเลเปลี่ยนแปลงไปหมด ทั้งจากมหาสมุทรอินเดีย ทะเลจีนใต้ และมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้การคาดการณ์เรื่องทิศทางฝนและลมเปลี่ยนไปด้วย กรณีการไม่สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นชัดเจนที่สุด โดยตั้งแต่ปี 2549-2555 น้ำที่ท่วมในภาคเหนือตอนล่าง ไม่ได้เกิดมาจาก จ.แพร่ ที่เป็นพื้นที่ที่จะมีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น แต่ส่วนใหญ่ฝนและน้ำจะมาจาก จ.สุโขทัยเป็นหลัก ดังนั้น สิ่งที่ประเทศไทยควรทำคือ สร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก รวมทั้งการเสริมพื้นที่แก้มลิง โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการน้ำ

นายรอยลกล่าวว่า กรณีลุ่มน้ำยม ที่มีปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งมาตลอด พบว่า น้ำที่ไหลจากสุโขทัยไปยัง จ.แพร่ มีปริมาณ 1,200 ลูกบาศก์เมตร แต่เมื่อไหลไปยัง จ.พิจิตร กลับเหลือเพียง 550 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะบริเวณนั้นมีลักษณะเป็นคอขวด ทำให้พื้นที่การรองรับน้ำมีน้อย

"สรุปคือ เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการจัดการน้ำแบบใหม่ เพราะธรรมชาติเวลานี้เปลี่ยนไปหมดแล้ว เช่นจากเดิมเรายึดหลักว่า ถ้าปีไหนเป็นปีเอลนิโญ ปีนั้นจะมีฝนน้อยและแล้ง แต่สิ่งที่พบเวลานี้คือ ปีนี้เป็นปีเอลนิโญ แต่กลับมีฝนเยอะและน้ำท่วมภาคใต้ วิธีจัดการน้ำจึงต้องคิดใหม่ เขื่อนไม่ใช่คำตอบอีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็ก ก็ต้องวางแผนอย่างรัดกุม กรณีการสร้างอ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำยม จะต้องมีการเวนคืนพื้นที่จากชาวบ้าน ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะการเวนคืนพื้นที่จากชาวบ้าน คือการเวนคืนชีวิต ไม่เหมือนกับการเวนคืนพื้นที่ในกรุงเทพฯ ที่เป็นการเวนคืนที่อยู่กับที่ทำงานเท่านั้น" นายรอยลกล่าว


Edited by HiddenMan, 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:03.

“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#74 ไร้สีไร้กลิ่น

ไร้สีไร้กลิ่น

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,501 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:31

บางอย่างมองว่าเป็นประโยชน์ แต่ก็ควรพิจารณาให้รอบคอบถึงข้อดีข้อเสีย และผลกระทบตามมา ไม่ใช่คิดจะทำก็ทำ ต่อให้สร้างเป็นร้อยเขื่อนแต่แก้ปัญหาไม่ตรงจุดก็เปล่าประโยชน์มีแต่จะทำให้เกิดโทษมากขึ้น

 

มีผู้กล่าวไว้ว่า น้ำที่คนเราใช้แต่ละวันคิดเป็นปริมาณเท่าไหร่ แล้วคนในภาคกลางมีเท่าไหร่ แค่ปริมาณน้ำที่เราใช้ก็มากพอจะทำให้ท่วมอยู่แล้ว บางคนทำการเกษตรน้ำไม่พอก็สูบน้ำขึ้นมาใช้อีก จะให้น้ำกลับลงใต้ดินเองก็ยากเพราะโลกเราหมุนด้วยความเร็วเป็นพันไมล์ต่อชั่วโมง แรงเหวี่ยงจะมากมายขนาดไหน ยังไม่รวมพื้นที่หลังคาเรือนที่พอฝนตกลงมาพื้นที่ในการดูดซับน้ำก็น้อยอยู่แล้ว จึงต้องหาวิธีการส่งน้ำลงใต้ดิน ซึ่งไม่ใช่การสร้างโพรงหรืออุโมงค์ให้เสี่ยงกับดินทรุดด้วย เทคนิคเหล่านี้มีคนที่มีความรู้และจัดการได้อยู่ เคยบอกรัฐบาลไปแล้วด้วย แต่ทำไมจึงยังคิดจะมาสร้างเขื่อน

 

ในต่างประเทศเขาเปลี่ยนทะเลทรายเป็นพื้นที่เกษตรกรรมได้ เขาต้องสร้างเขื่อนหรือไม่ พื้นที่การเกษตรเป็นพันไร่เขาเอาน้ำมาจากไหน ของบ้านเรา 10 ไร่ก็ต้องเสียพื้นที่ทำบ่อเก็บน้ำไปไร่นึงละ นี่ล่ะ เขาถึงเรียกว่าประเทศด้อยพัฒนา


Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:35.


#75 ชายน้ำ

ชายน้ำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,256 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:38

เสียงค้านมาจากทุกสารทิศ

 

ป๋าปลอดแกจะออกทางไหนหนอ



#76 ไร้สีไร้กลิ่น

ไร้สีไร้กลิ่น

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,501 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:47

การแก้ปัญหาน้ำไม่ต้องใช้งบมากมายขนาด 3.5 แสนล้านบาท จึงขอให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบให้ดีๆนะครับ



#77 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:48

http://www.dailynews...politics/167814

 

167814.jpg

 

เมื่อวันที่ 20 พ.ย. มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่แกะรอยผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) โครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ โดยเฉพาะพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบกลับไม่ได้มีการรายงานไว้ในอีเอชไอเอของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เริ่มตั้งแต่พื้นที่ที่อีเอชไอเออ้างว่าเป็นเขตชลประทานในเขต จ.อุทัยธานี นครสวรรค์ และกำแพงเพชร ไปตามเส้นทางของลำน้ำแม่วงก์ และลำน้ำสาขา จนถึงบริเวณที่จะมีการก่อสร้างเขื่อนในเขตอุทยานฯ แม่วงก์ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่ยังสมบูรณ์

 

นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า พื้นที่ก่อสร้างเขี่อนแม่วงก์มี 2 ตัวเลือกคือบริเวณเขาชนกัน ที่อยู่นอกเขตอุทยานฯ และ บริเวณสบกก ที่อยู่ในเขตอุทยานฯ แม่วงก์ ที่ต้องเสียพื้นที่ป่าธรรมชาติไป 1.3 หมื่นไร่ บริษัทที่ปรึกษาได้เสนอให้ก่อสร้างในพื้นที่สบกก เพราะหากสร้างบริเวณเขาชนกันจะกระทบกับราษฎรกว่า 2,000 ครัวเรือนที่ต้องอพยพออกไปจากพื้นที่ ทั้ง ๆ ที่หากก่อสร้างบริเวณเขาชนกันจะสามารถเก็บกักน้ำได้ถึง 600 ล้านลบ.ม.  ขณะที่การก่อสร้างบริเวณสบกกซึ่งเป็นพื้นที่เงาฝนสามารถเก็บกักน้ำได้เพียง 258 ล้าน ลบ.ม.แต่ในรายงานอีเอชไอเอกลับระบุว่า จะมีพื้นที่ชลประทานได้ประโยชน์จากการสร้างเขื่อนเกือบ 3 แสนไร่ ครอบคลุมพื้นที่ จ. กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี  ซึ่งตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอนคาดว่าน้ำจากเขื่อนจะครอบคลุมพื้นที่ชลประทานเพียง 7 หมื่นไร่เท่านั้น  ทั้งนี้อีเอชไอเออ้างว่าในส่วนของ จ.อุทัยธานี และลุ่มน้ำสะแกกรังจะได้ประโยชน์ด้วย และมีการเกณฑ์คนมาสนับสนุนจำนวนมาก อุทัยธานีมีพื้นที่ได้ประโยชน์จริง แต่เพียงแค่ 0.1% หรือ 291 ไร่ในเขต อ. ทัพทัน เพราะอยู่ห่างจากเขื่อนกว่า 100 กม.  ขณะที่พื้นที่ที่อ้างว่าได้รับประโยชน์มากที่สุดทั้งแก้น้ำแล้ง น้ำท่วมคือ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ คิดเป็น 70.39% หรือ กว่า 2.05 แสนไร่นั้นน้ำก็มาไม่ถึงแน่นอน    เพราะอยู่ห่างจากพื้นที่สร้างเขื่อนเช่นกัน และคนที่อยู่ใกล้ต้องดึงน้ำไปใช้ก่อน

 

นายศศิน กล่าวอีกว่า ที่สำคัญในรายงานอีเอชไอเอยังไม่ได้ระบุถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นกับพื้นที่ป่าและสัตว์ป่า อ้างเพียงว่าพื้นที่ไม่ใช่ป่าสมบูรณ์ แต่ในความจริงทั้งข้อมูลของกรมอุทยานฯ และกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ระบุว่าบริเวณสบกกเป็นป่าสมบูรณ์ ที่เป็นแหล่งอาศัยและขยายพันธุ์เสือโคร่ง มีศักยภาพที่จะเป็นมรดกโลกเชื่อมต่อจากห้วยขาแข้ง และทุ่งใหญ่นเรศวรได้ จึงขอให้สำนักงานแผนนโยบายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณารายงานอีเอชไอเอโครงการดังกล่าวอย่างรอบคอบด้วย

 

"เราไม่ได้บอกว่าเขื่อนไม่ดี หากจะสร้างควรสร้างในพื้นที่เหมาะสม และเกิดประโยชน์จริง อย่างไรก็ตามพื้นที่ที่ควรสร้างกลับดำเนินการไม่ได้ เพราะเป็นที่ดินและเขตฐานเสียงของนักการเมือง แต่กลับมาเลือกพื้นที่ป่าธรรมชาติ ในการก่อสร้างเพื่อตัดปัญหา โดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน " นายศศินกล่าว

 

ด้านนายณรงค์ แรงกสิกร ประธานเครือข่ายแม่วงก์ชุมชนคนรักษ์ป่า กล่าวว่า ยืนยันว่าคนในพื้นที่ไม่มีใครต้่องการเขื่อนเหมือนที่ทางราชการนำไปอ้าง เพราะไม่ได้ประโยชน์ด้วย ทั้งนี้ไม่กี่วันที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่เพื่อหาพื้นที่ปลูกป่าทดแทนป่าธรรมชาติ 1.3 หมื่นไร่ที่ต้องเสียไป โดยอีเอชไอเอระบุว่าจะปลูกป่าทดแทน 2.5 หมื่นไร่ ตนคิดว่าไม่สามารถเป็นไปได้แน่นอน เพราะไม่มีที่ปลูก เนื่องจากที่ดินโดยรอบเป็นของชาวบ้าน ถ้าต้องปลูกป่ามากขนาดนั้นแล้วจะเอาคนออกไปไว้ที่ไหน และจะปลูกอย่างไรระบบนิเวศของป่าธรรมชาติแบบเดิมก็ไม่กลับคืนมาแน่นอน. 


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#78 ไร้สีไร้กลิ่น

ไร้สีไร้กลิ่น

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,501 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:58

ที่สำคัญอย่าโหนเจ้า อย่ามาโยนความผิดให้พระองค์



#79 THE THIRD WAY

THE THIRD WAY

    มาหาความจริง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,417 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:13

สำหรับผู้ใกลข้อมูลอย่างผม

ขอคารวะท่าน HiddenMan เป็นที่ยิ่ง

 

ทะลุ ทะลวง ละเอียด

เพิ่มเติมสติปัญญา

ขอบคุณครับ

Attached Images

  • f3019131212.jpg

อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าเป็นกลางทีคนอื่นทำอีกอย่าง บอกว่าเอียง

#80 THE THIRD WAY

THE THIRD WAY

    มาหาความจริง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,417 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 20:18

ช่องทีนิวส์เรื่องเขื่อนแม่วงค์

เริ่มเดี๋ยวนี้ครับ


อยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าเป็นกลางทีคนอื่นทำอีกอย่าง บอกว่าเอียง

#81 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 23:39

http://www.prachacha...wsid=1379913733

 

พื้นที่ป่าในไทยอยู่ตรงไหน

 

13799137331379913759l.jpg

 

เป็นที่ทราบกันดีว่าป่าไม้เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต ป่าไม้เป็นแหล่งวัตถุดิบของปัจจัยทั้งสี่ตั้งแต่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ให้ประโยชน์ทางเศรษกิจ อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การชลประทาน บรรเทาอุทกภัย และอื่นๆอีกมาก นอกจากนี้ ป่ายังเป็นแหล่งดำรงรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะป่าฝนเขตร้อนที่พบได้มากในประเทศไทย ประมาณกันว่าเราสามารถพบสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกประมาณ 40-70% ได้ในป่าฝนเขตร้อน นอกจากนี้ป่าฝนเขตร้อนคือแหล่งค้นพบเภสัชกรรมใหม่ๆที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแหล่งหมุนเวียนออกซิเจนถึง 28% ของออกซิเจนทั้งหมดในโลก

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อสังคมมนุษย์ขยายตัวมากขึ้นก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไปเพื่อการเกษตรกรรม ที่อยู่อาศัย เพื่อทรัพยากรป่าไม้ ฯลฯ ซึ่งหากไม่มีการควบคุมการใช้ทรัพยากรเหล่านี้ พื้นที่ป่าในสังคมนั้นๆก็จะเสื่อมโทรมหรือหมดไปในที่สุด ทั้งนี้ ตัวเลขสัดส่วนพื้นที่ป่าเทียบกับพื้นที่ทั้งหมดในประเทศน่าจะสามารถแสดงให้เห็นระดับการให้ความสำคัญต่อทรัพยากรธรรมชาติในสังคมนั้นๆได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งหากเราพิจารณาพื้นที่ป่าเป็นสัดส่วนต่อพื้นที่ประเทศแล้ว [1] จะพบว่าแต่ละประเทศมีพื้นที่ป่าคิดเป็นสัดส่วนดังนี้:

 

จีน 18.21% ญี่ปุ่น 67.00% เกาหลีใต้ 64.00% เยอรมนี 31.70% สหรัฐอเมริกา 30.84% ลาว 71.60% พม่า 63.64% มาเลเซีย 59.50% กัมพูชา 51.56% อินโดนีเซีย 46.46% เวียดนาม 37.14% ไทย 29.00% ฟิลิปปินส์ 23.87% สิงคโปร์ 3.00%

 

อนึ่ง ด้วยภูมิประเทศที่แตกต่างกัน อาจทำให้แต่ละประเทศมีปริมาณพื้นที่ป่าแตกต่างกันไปโดยธรรมชาติ เช่น จีน อาจจะมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายหรือเทือกเขาสูง

 

จากตัวเลขข้างต้นจะเห็นว่าประเทศไทยมีสัดส่วนพื้นที่ป่าน้อยกว่าหลายประเทศในภูมิภาคนี้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเรามักพบว่าประเทศที่มีการเปลี่ยนวิถีชีวิตของประชากรเข้ามาสู่วิถีชีวิตในเมืองมากขึ้น มักจะมีพื้นที่ส่วนป่าที่ลดลง เช่นเมื่อเทียบระหว่างประเทศไทยกับเพื่อนบ้านอย่างลาว อย่างไรก็ตาม เราอาจพบได้่เช่นกันว่าประเทศอุตสาหกรรมที่มีวิถีชีวิตทันสมัยแบบแบบเมืองใหญ่ และมีเมืองหลวงที่ติดอันดับเมืองที่แออัดที่สุดในโลกเมืองหนึ่งอย่าง ญี่ปุ่น กลับสามารถรักษาปริมาณพื้นที่ป่าไว้ได้สูงมากอย่างน่าทึ่ง

 

ในปัจจุบันนี้คงไม่จำเป็นต้องถกเถียงกันถึงประโยชน์ของการอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ ซึ่งจากตัวเลขของประเทศพัฒนาแล้วหลายๆประเทศ ก็น่าจะแสดงให้เห็นได้ว่าการพัฒนาประเทศกับการอนุรักษ์ป่าไม้นั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำให้เกิดควบคู่กันไปได้ หากสังคมนั้นตั้งใจและร่วมมือกันอย่างจริงจัง


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#82 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 - 23:56

ปลอดสร้างตัวไหนได้บ้าง...

 

fff_zpse65c2e5d.png4444_zpscad2696c.png

15071_609836262401075_1594699412_n.jpg

946397_609613442423357_705234718_n.jpg

541364_608076322577069_1637331942_n.jpg

995469_606969232687778_491848838_n.jpg


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#83 antiseptic

antiseptic

    น้องใหม่และซิง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,672 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 05:16

สรุป สัตว์ที่สร้างได้มีแค่ here กับควาย
"We all make choices. But in the end, our choices make us."Andrew Ryan

#84 Yasuhiro

Yasuhiro

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,745 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 05:37

ก่อนจะทำเขื่อน ผมเสนอให้ก่อกำแพงสูงและหนาพอๆกับฝาย ล้อมรอบบ้านของปลอดประสพก่อน แล้วจากนั้นเติมน้ำให้เต็ม แล้วปล่อยให้ปลอดประสพลอยคออยู่ในนั้นโดยไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ

หากสามารถลอยคอและรอดชีวิตได้เกินสองสัปดาห์ ค่อยยอมให้สร้างเขื่อนครับ


"Hoot": When I go home people'll ask me, "Hey Hoot, why do you do it man? What, you some kinda war junkie?" You know what I'll say? I won't say a goddamn word. Why? They won't understand. They won't understand why we do it. They won't understand that it's about the men next to you, and that's it. That's all it is.
Quote from Black Hawk Down


#85 oohHo

oohHo

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 07:30

1212ooh.jpg

ทุกครั้งที่ผมเข้ามาในนี้ อันดับแรกที่ผมจะมองก็คือด้านล่าง

คนภายนอกที่เข้ามาอ่าน  ซึ่งมีมากกว่าสมากชิกสรท.

และ 1 ใน 3 ผมคิดว่ามีเยาวชนของเราเข้ามาอ่านเพื่อรับรู้ข้อมูล

สำหรับกระทู้นี้ถ้ามีคนที่คิดต่าง 

หวังว่าท่านคงเห็นความสำคัญของป่าไม้จากที่จขกท. นำเสนอไว้แล้ว และหวังว่าท่านจะกลับใจช่วยกันต่อต้านและอณุรักษ์ธรรมชาติไว้นะครับ

cp_n1_16092013_01.jpg

 

8813_556298751076031_385099330_n.jpg

644979d6c.jpg



#86 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 07:33

ปลอด hereได้โล่ห์

#87 อาวุโสโอเค

อาวุโสโอเค

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,790 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 07:39

1236659_472475679516256_19927152_n.jpg
 

การเมืองไม่ใช่เพื่อกลุ่มใด แต่เพื่อทุกคนในประเทศ

#88 Super@2

Super@2

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,781 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 08:00

ป่าสร้างได้ สัตว์ป่าสร้างได้ ใช่ซิมึงสร้างไว้เต็มสภาเลย สาดดดดด 

 

206370.jpg


พาโล อปริณายโก แปลว่า คนโง่ไม่ควรเป็นผู้นำ

#89 ซีมั่น โลช่า

ซีมั่น โลช่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,098 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 08:24

สัตว์ อย่างไอ้ ปล อด ปลอกแต ก  คอยแด รก งบประมาณ   แม่นบ่  :angry:



#90 suwadee

suwadee

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 407 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 09:33

เด็กๆจะเอาป่า

post-19538-0-82003900-1379980529.jpg

 

ไอ้ปลอดมันก็จะเอาป่าเหมือนกันแต่คือป่าช้า

 

download (2).jpg



#91 gnomering

gnomering

    น้องใหม่

  • Banned
  • Pip
  • 15 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 09:36

ปลอดสร้างตัวไหนได้บ้าง...

 

fff_zpse65c2e5d.png4444_zpscad2696c.png

15071_609836262401075_1594699412_n.jpg

946397_609613442423357_705234718_n.jpg

541364_608076322577069_1637331942_n.jpg

995469_606969232687778_491848838_n.jpg

 

 

หมู่บ้านจัดสรรที่คุณอยู่ก็เคยมีสัตว์พวกนี้อยู่ครับ



#92 คนดื่มเบียร์

คนดื่มเบียร์

    พอจะทนแดงได้หน่อยๆ

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,721 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 09:40

 

ปลอดสร้างตัวไหนได้บ้าง...

 

fff_zpse65c2e5d.png4444_zpscad2696c.png

15071_609836262401075_1594699412_n.jpg

946397_609613442423357_705234718_n.jpg

541364_608076322577069_1637331942_n.jpg

995469_606969232687778_491848838_n.jpg

 

 

หมู่บ้านจัดสรรที่คุณอยู่ก็เคยมีสัตว์พวกนี้อยู่ครับ

 

ที่ที่เอ็งยืนอยู่ตอนนี้ ก็เคยมีไดโนเสาร์อยู่ว่ะ  :P


ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "


#93 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 10:44

1375918_640763892622798_201937277_n.jpg


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#94 พิฆาตอสูร

พิฆาตอสูร

    พอจะทนเสื้อแดงได้นิดๆ

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,786 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 11:07

เคยเป็นอธิบดี และรัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ฯมาได้อย่างไร 

ครอบครัว ญาติพี่น้อง คงอายแทน

 

เอาเงินมาย้ายหรือปรับสถานที่ให้ประชาชนที่ได้ผลกระทบไม่ดีกว่าหรือ

เสียเงินเหมือนกัน แต่ประโยชน์ต่างกัน

 

ไม่ใช่อะไรๆ ก็สร้าง  ถ้ารัฐบาล นักการเมือง และข้าราชการให้สมองคิด แทนที่จะใช้ตัณหา

บ้านเราคงน่าอยู่มาก -_-


ฟ้าสีทองผ่องอำไพ  ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน


#95 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:15

สัตว์สร้างได้

 

ผมอยากเห็นสมันครับ ท่านปลอดช่วยสร้างให้ดูหน่อย

 

250px-SchomburgksDeer-Berlin1911.jpg

 

ถ้าท่านปลอดฯสร้างสมันได้ ... ผมคนนึงล่ะจะช่วยสนับสนุนสร้างเขื่อนแม่วงศ์ให้ท่านปลอดฯ  -_-


อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#96 Majestic

Majestic

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,509 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:21

6F4F9F3425114A65875BE007255ED3C1.jpg



#97 BlueDragonExp

BlueDragonExp

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,079 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:11

คลิปนี้ครับ


http://www.youtube.com/watch?v=W0kCa1wP1EI


Edited by BlueDragonExp, 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:12.


#98 oohHo

oohHo

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 71 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:00

ประเด็นจริงๆคือ เรื่องป้องกันน้ำท่วมนี่ครับ

เขื่อนแม่วงก์ ก็คือ ภาพที่ชัดเจนของการใช้ "เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท " 

นายกฯจะกล้าออกมารับประกันหรือไม่ว่า.ถ้าสร้างเขื่อนแล้วจะไม่เกิดน้ำท่วมอีก

 

มีวิธีอื่นๆที่ไม่ต้องเสียงบประมาณถึงขนาดนั้น

ไม่ต้องทำลายทรัพย์ยากรธรรมชาติมาก แล้วยังสามารถป้องกันน้ำท่วมได้

ทำไมรัฐบาลไม่สนใจที่จะทำอย่างจริงจัง ??

 

สิ่งที่รัฐบาลควรทำถ้าพูดถึงเรื่องน้ำท่วม ควรจะเป็นเรื่องแบบนี้ครับ

 

 การป้องกันน้ำท่วมจากน้ำทะเลหนุน
      น้ำท่วมที่ผ่านมาปรากฏว่าน้ำทะเลหนุนสูงสุดที่ระดับ 2.70 เมตร
      ในขณะที่คันเขื่อนกันน้ำตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา

      ที่ทำตามพระราชดำริมาแต่เดิมช้านานแล้ว
      มีความสูงเพียง 2.50 เมตร ทำให้น้ำล้นเข้ามาท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา 

      ดังนั้นรัฐบาลและ กทม.
      จะต้องเสริมคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำทะเลท่วมหนุนให้สูงระดับ 3-3.5 เมตร
      ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

 

การป้องกันน้ำฝนที่จะท่วมกรุงเทพฯ
      ซึ่งทำต่อเนื่องมาหลายสิบปี และสามารถรับมือกับน้ำฝนได้เป็นอย่างดี
      แต่เมื่อเวลานานผ่านไปคูคลองก็ตื้นเขิน ประตูน้ำบางแห่งก็ชำรุด
      เครื่องสูบน้ำก็ชำรุดเสียหายเป็นจำนวนมาก บางที่ก็มีขยะถมจนน้ำไหลไม่ได้
      ดังนั้นจึงต้องปรับปรุงกระบวนรับมือในส่วนนี้ให้มีการขุดลอกคูคลองในกรุงเทพฯ
      ให้มีขีดความสามารถที่สูงขึ้น ปรับปรุงประตูน้ำและแนวกันน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ
      ที่ชำรุดให้ใช้การได้ดี ตระเตรียมเครื่องสูบน้ำไว้ให้พอเพียง

 

การรับมือจากน้ำเหนือและน้ำล้นทุ่ง
      ซึ่งมีคันดินตามแนวพระราชดำริทางด้านเหนือของกรุงเทพฯ
      เพื่อผันน้ำให้ลงสู่ทะเลทางด้านตะวันตกและด้านตะวันออก
      ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคันดิน
      นอกจากฝั่งธนบุรีที่ส่วนใหญ่ใช้แนวทางรถไฟสายใต้เป็นแนวคันกั้นน้ำ
      โดยส่วนน้อยทางฝั่งธนบุรีก็เป็นคันดิน ซึ่งคันดินทั้งฝั่งกรุงเทพฯ
      และฝั่งธนบุรีได้ถูกลิ่วล้อบริวารนักการเมืองชั่วรื้อถอนทำลายไปเป็นจำนวนมาก

      ในช่วงน้ำท่วมปีนี้
      กระบวนนี้เป็นแนวรับมือสำคัญที่ป้องกันน้ำเหนือและน้ำล้นทุ่งท่วมกรุงเทพฯ
      ดังนั้นรัฐบาลจะต้องรีบปรับปรุงแนวคันกั้นน้ำตามพระราชดำรินี้ให้แข็งแรง
      โดยทำเป็นแนวเขื่อนคอนกรีตแทนแนวคันดินเดิม

      ยกระดับให้มีความสูงประมาณ 3เมตร  มีประตูน้ำเป็นระยะ ๆ
      ก็จะป้องกันน้ำเหนือและน้ำล้นทุ่งที่จะไหลเข้าท่วมทางด้านเหนือได้

 

การผันน้ำ
      ซึ่งประเทศไทยมีสภาพสูงและลาดชันจากเหนือ อีสาน ลงสู่ภาคกลางและกรุงเทพฯ
      โดยทางอีสานนั้นมีแม่น้ำชี แม่น้ำมูล เป็นแนวขวางกั้นผันน้ำลงสู่แม่น้ำโขง
      น้ำทางอีสานจึงไม่กระทบต่อภาคกลางและกรุงเทพฯ คงเหลือแต่น้ำเหนือ
      ซึ่งไหลผ่านแม่น้ำใหญ่ 4 สายคือปิง วัง ยม น่าน
      และน้ำล้นทุ่งที่จะมาบรรจบกันที่ภาคเหนือตอนล่างแถวนครสวรรค์
      แล้วจะไหลลงแม่น้ำใหญ่ 2 สายเพื่อไปออกทะเล

      คือแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีน ดังนั้นจะต้องขุดลอกให้น้ำไหลได้สะดวกและรวดเร็ว      

นอกจากนั้น. ในหลวงมีพระราชดำริให้ขุดแม่น้ำสายที่ 3 เพื่อระบายน้ำเหนือออกทะเล
      เนื่องจากทรงเห็นว่ามีการ " ตัดไม้ทำลายป่า "ทางภาคเหนือและภาคกลางตอนบนเป็นจำนวนมาก
      ทำให้กระแสน้ำไหลแรงและไหลเร็ว
      อาจทำให้ขีดความสามารถในการระบายน้ำออกสู่ทะเลของแม่น้าเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนไม่ทันท่วงที

      ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมได้
     

มีพระราชดำริให้ขุดแม่น้ำเพิ่มอีกสายหนึ่ง
      จะเรียกว่าแม่น้ำเจ้าพระยาสายที่สองหรืออะไรก็ได้
      เพื่อระบายน้ำเหนือและน้ำล้นทุ่งไปออกทะเล ซึ่งเรื่องนี้อาจต้องใช้เวลา
      แต่ก็ต้องรีบทำเพราะมีพระราชดำริมานานแล้ว.
     

      ถ้ารัฐบาลเร่งดำเนินการ  

      กระบวนการรับมือน้ำท่วมตามที่ได้ประมวลจากพระราชดำริของในหลวงดังกล่าวแล้ว
      จะใช้เงินไม่มาก หากจะมีการเตรียม
งบประมาณ 30,000ล้านบาทก็น่าจะพอหรือเกินพอ

 

เรื่องแบบนี้แหละครับที่ควรทำ นี่คือการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วม

ไม่ใช่เขื่อนที่พูดกันอยู่ แต่นักการเมืองชั่วช้าสารเลวไม่สนใจที่จะทำครับ

 

 

 

 



#99 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:53

-_- ประชาธิปไตยแบบสั่งได้...

 


วิชามารของรัฐบาลถูกปล่อยออกมาแล้ว ช่วยกันแชร์เพื่อประจานกันหน่อยครับ รัฐบาลใช้ อบจ เป็นเครื่องมือทางอ้อม ในการรณรงค์ให้คนออกมาสนับสนุนการสร้างเขื่อนแม่วงก์ บังเอิญ องค์กรส่วนท้องถิ่นทั้งหลายใช้เงินงบประมาณมาจากภาษีเราทั้งสิ้น ควรจะเป็นกลาง มิใช่เอียงแบบนี้
 
67008_527978040616371_257211487_n.jpg

“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#100 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:54

 

-_- ประชาธิปไตยแบบสั่งได้...

 


วิชามารของรัฐบาลถูกปล่อยออกมาแล้ว ช่วยกันแชร์เพื่อประจานกันหน่อยครับ รัฐบาลใช้ อบจ เป็นเครื่องมือทางอ้อม ในการรณรงค์ให้คนออกมาสนับสนุนการสร้างเขื่อนแม่วงก์ บังเอิญ องค์กรส่วนท้องถิ่นทั้งหลายใช้เงินงบประมาณมาจากภาษีเราทั้งสิ้น ควรจะเป็นกลาง มิใช่เอียงแบบนี้
 
67008_527978040616371_257211487_n.jpg

 

 

 

แหมะ โดนตัดหน้า

 

 

<_<  <_<  <_< 


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน