http://www.mcot.net/...82#.UjsyVH9XtBE
“พล.อ.สนธิ” ชี้ 7 ปี รัฐประหารประเทศกำลังก้าวสู่ประชาธิปไตย
By สำนักข่าวไทย TNA News | 19 ก.ย. 2556 18:01 | 65 views | View Comment รัฐสภา 19 ก.ย.- อดีตประธาน คมช. ระบุประเทศกำลังก้าวเข้าสู่ประชาธิปไตย แต่อุปสรรคคือคนไทยมีความเข้าใจในประชาธิปไตยน้อยและการซื้อสิทธิขายเสียง แนะทุกฝ่ายละทิฐิ ให้อภัยกัน แนะรัฐบาลให้ความสำคัญปัญหาสังคม พร้อมย้ำรัฐประหาร 7 ปีที่แล้ว ไม่ใช่ต้นเหตุของความแตกแยกในบ้านเมือง แต่คณะปฏิรูปการปกครองเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก และ อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ครบรอบ 7 ปี รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จนถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ว่า ประเทศไทยกำลังก้าวผ่านไปสู่การเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ แต่ยังมีอุปสรรคต่อการพัฒนาการสู่ประชาธิปไตย 2 เรื่อง คือ คนไทยยังมีความเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยน้อย ยังไม่สามารถวิเคราะห์เรื่องต่าง ๆ ได้ และยังมีระบบการซื้อสิทธิ์ขายเสียงสูงมาก ทำให้ระบบการกลั่นกรองเอาตัวแทนประชาชนเข้ามาสู่ระบอบประชาธิปไตยยังไม่ สมบูรณ์เท่าที่ควร ซึ่งปัญหาของการพัฒนาประเทศอยู่ที่นักการเมืองทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ
เมื่อถามว่า ภาวะการเมืองปัจจุบันเป็นไปตามที่คาดหวังหลังการรัฐประหารเมื่อ 7 ปี ที่แล้วหรือไม่ อดีตประธาน คมช. กล่าวว่า สังคมที่แตกแยกไม่ได้เกิดจากวันที่ 19 กันยายน 2549 เพราะมีความแตกแยกมาก่อนและมีการเคลื่อนไหวต่าง ๆ มาก ในฐานะที่กองทัพมีหน้าที่รักษาความมั่นคงของประเทศ ไม่อยากเห็นประชาชนเกิดความขัดแย้งกันจนทำให้เสียเลือดเสียเนื้อ จึงได้เข้ามาจัดการปัญหา ซึ่งสามารถจัดการปัญหาได้ระดับหนึ่ง
และคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อยู่ในตำแหน่งเพียง 14 วัน
ขณะที่หลังการรับประหารครั้งนั้นมีรัฐบาลมาแล้ว 4-5 สมัย
“ต้องกลับมาดูว่าปัญหาของความแตกแยกที่เกิดขึ้นมาจากอะไรและจะแก้ปัญหาอย่าง ไร แต่ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาให้ความสำคัญแก้ไขปัญหาสังคมน้อย ที่สำคัญพบว่ากระบวนการที่ทำให้สังคมเกิดความแตกแยกเริ่มทวีความรุนแรง เพราะคนไทยเกิดการแบ่งฝ่าย ให้อภัยกันไม่ได้ มีทิฐิ ทุกคนไม่ได้มองประโยชน์บ้านเมือง ของชาติ นำไปสู่การแบ่งเป็นสีแบ่งฝ่าย จึงเป็นอุปสรรค” พล.อ.สนธิ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า จะมีรัฐประหารเกิดขึ้นอีกหรือไม่ อดีตประธาน คมช. กล่าวว่า สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว กองทัพเข้าใจสถานการณ์ ไม่มีเงื่อนไขนำไปสู่เหตุการณ์นั้น จะเห็นว่ารัฐบาลและกองทัพมีความเข้าใจกันดี ขับเคลื่อนประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ เพียงแต่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหาสังคมมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้ทุกอย่างเดินไปได้
“วันนี้ทุกคนต้องหันกลับมาพูดถึงชาติเป็นหลัก ความขัดแย้งหมองใจที่มีอยู่ ต้องให้อภัย ทุกคนต้องลืมในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะเจ็บปวด แต่อย่าให้สิ่งนั้นมาคาราคาซังทำให้บ้านเมืองเสียหาย” พล.อ.สนธิ กล่าว
เมื่อถามว่า หากย้อนเวลาได้จะรัฐประหารหรือไม่ อดีตประธาน คมช. กล่าวว่า
บริบทไม่เหมือนกัน คงตอบไม่ได้ว่าวันนี้ หรือวันนั้นเป็นอย่างไร
ต้องคิดถึงความเป็นจริงของสถานการณ์ในเวลานั้น
- สำนักข่าวไทย
Edited by คนกรุงธน, 20 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:37.