คุณ บัง เป็นคนเชียงราย หนิ
มันแน่นอน อะครับ ที่ต้องน่าเห็นใจ
นั่นมันถิ่น คนเสื้อแดง อะครับ
ความคิดคน มันก็แบบนี้ อะครับ
พูดไป ก็เปลี่ยน อะไรไม่ได้มาก นักหรอก
อย่าง บริษัท ผม ในกรุงเทพฯ สีลม นี่แหละ
ทั้งเจ้านาย หัวหน้า พี่ที่ีทำงาน บางคน
รวมถึง เพื่อนเจ้านาย ก็รวมแล้ว ก็หลายคน
ชอบทักษิณ อะครับ
ส่วนผมเอง เกลียดทักษิณ ยิ่งกว่า ไส้เดือน กิ้งกือ
แต่ ก็นั่น อะครับ เราไปเปลี่ยนใจ อะไร เค้าได้
เค้าอยากเลือก ก็ต้องปล่อยเค้า อะครับ ความคิดเค้า
ถามว่า ผมเดือดร้อน ไหม ที่เพื่อไทยมา
ต้องบอกว่า โคตรเดือดร้อน อะครับ
ทุกวันนี้ ผมแทบ ไม่ได้ใช้เงิน อย่างที่ผมอยากเลย
เรียกว่า ไม่ได้ใช้เลย ก็ได้ แค่เงินกินข้าว
3 มื้อ นะครับ ยังต้องประหยัด อย่างที่ผม
เคยเขียนบอกไปแล้ว ช่วงนี้ ผมค่อนข้าง ขาดโปรตีน
หน้าผมเหี่ยวไปเยอะ อะ
ผม อะ ขี่จักรยานมาทำงานด้วย เอาข้าว ใส่กล่องข้าว
มากินด้วย พ่อผม ทำกับข้าว ให้กิน
ก็ไม่มีอะไร มาก แกงจืด (ทุกมื้อ เรื่องจริง ) ใส่ผัก เยอะ ๆ
ใส่เนื้อ พอให้มีกิน อะครับ เนื้อปนมัน ด้วย
เห็นม่าาา ผมประหยัด ขนาดนี้ ขนาดตัดผม
ผมยังไปตัด โรงเรียน กทม. อะครับ ฟรี
ผมทำงาน เงินเดือน หมด ไปกับ ค่ายา ค่าอาหาร
ผม พ่อ แม่ และ ก็ของใช้ ในบ้าน เช่น สบู่ ยาสีฟัน
พวกนี้ หมดแล้วครับ เงินเดือน ผมไม่ถึงหมื่นเลย
นี่ อะ ผมอยากได้ คอมพิวเตอร์ มาหัด เขียนโปรแกรม
ที่ผมเรียน ทุกวันนี้ ใช้คอม ที่ทำงานตลอด กลับไป
ผมก็ไม่มีใช้ แต่ผม ไม่มีเงินซื้อเลยอะ
คิดดูนะ คอมผม เครื่องหนึ่ง ผมตั้ง สเปค ไว้ต่ำ พอสมควร
แต่กว่าผมจะเก็บเงินซื้อได้ อีกหลายปี เพราะผมต้องรอ เงินเดือน
ขึ้นก่อน ตอนนี้ ไม่พอใช้ด้วยซ้ำ
พี่ชาย ผมขายของที่ หนองคาย นะ
ขายยากมาก ยอดขายตก มากกว่า 60% อะครับ
กำไร แทบไม่พอจ่ายค่าเช่าร้าน
กินอาหาร นี่แทบจะต้อง มาม่า สลับ อะครับ
หลายคน ที่ผมรู้จัก ลำบาก แบบสุด ๆ อะครับ
ถามผม เมื่อไหร่ เศรษฐกิจ จะดี อะครับ
ผมก็อยาก ครับ อยากมากกกกกก
แต่คงยาก ผมทุกวันนี้ จำใจ กล้ำกลืนฝืนทน
แต่ก็รู้ อะครับ ว่ามันคงเป็นกรรมในชาติปางก่อน
นี่ผม ถือคริสต์ นะ ผมยังต้องคิด แบบนี้
ปลอบใจ ตัวเอง อะครับ
ไม่งั้น ผมคงคิดมาก จนเป็น มะเร็งตายแน่
ผม 39 แล้ว วัยใกล้ เป็นมะเร็งแล้ว เลย ต้องหัดปลง อะครับ
คุณ บัง ก็ต้องปลงนะ เรา ตัวคนเดียว
แถมไม่มี อำนาจ อะไรเลย พูดไป ก็เท่านั้น อะครับ
สร้างศัตรู เปล่า ๆ ก้มหน้า รับชะตากรรม ดีกว่า
อย่างมาก ก็มา บ่นในนี้
แต่ต้องหัด ทำใจ ให้สบายนะ
ผมเอง ก็ใช้วิธี ดื่มน้ำเปล่า ให้เย็นใจ
แล้วก็ ฟังเพลง อนิเมะ บ้าง ฟังเพลงเกาหลี หนังจีน บ้าง
พอผ่อนคลาย อะครับ
ยังดี ที่ทำงาน ติด อินเตอร์เนต ไม่งั้น ผมคง เฉาตาย
อะครับ ฮะ ๆ
ว่าจะเขียนถึงคุณทรงธรรมหลายครั้งแล้ว แต่ก็ติดปัญหาโน่นนี่ทุกที
วันนี้สบโอกาสขอออกความเห็นแบบบ้านๆหน่อย
ขอเกริ่นก่อนว่า ความเห็นนี้อาจไม่ถูกใจ ขัดใจคุณทรงธรรม
แต่เพราะปรารถนาดีจริงๆ จึงตัดสินใจพิมพ์เพื่อบอกกล่าว
เห็นคุณทรงธรรมบ่นเรื่องเงินไม่พอใช้ มาหลายกระทู้ หลังๆถึงขั้นขาดสารอาหาร
จริงๆมันมีวิธีมากมายที่จะเพิ่มรายได้
ขึ้นอยู่ว่า คุณทรงธรรมจะลองทำดูหรือไม่
ที่จริง คุณทรงธรรม แม้จะไม่จบป.ตรี แต่วุฒิ ปวส. บวกกับทำงานมาหลายปี น่าจะเรียกได้ว่า เชี่ยวชาญด้านบัญชี
ควรมีเงินเดือน มากกว่านี้ ใช้จ่ายได้เหลือเก็บ
ถ้าที่ทำงานกดเงินเดือน ก็น่าจะลาออกไปหาที่ทำงานใหม่
ขอแนะนำว่าน่าจะหาวันลาไปลองสมัครงานดูเล่นๆขำๆ แล้วดูว่า ที่อื่นเค้าให้เงินเดือนกันเท่าไหร่
ลองหักค่าใช้จ่ายที่ต้องเดินทางไกลขึ้น เพิ่มขึ้น ดูแล้วเราจะมีเงินเหลือได้ไหม
ได้ ไม่ได้ ยังไง ก็เป็นประสบการณ์ให้เราได้ดูว่าโลกรอบตัวเราเค้าหมุนไปทางไหน
ดีกว่าย่ำอยู่กับที่เดิมๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่คุณทรงธรรมจะกล้าตัดสินใจเสี่ยง
กล้าที่จะละทิ้งความเคยชินเดิมๆ
อีกประการ ที่ทำงานของคุณทรงธรรมกดเงินเดือน อาจเพราะเนื้องานที่มีให้ทำน้อยเกินไปหรือเปล่า
เห็นคุณทรงธรรมว่างเข้าเน็ตได้ทุกวันในเวลางาน
เจ้านายคงคิดว่าปริมาณงานแค่นี้ งานสบาย มีเน็ตให้เล่นทุกวันเวลางาน ให้เงินเดือนแค่นี้ก็เหมาะสมกันแล้ว
จะโปรโมท เลื่อนตำแหน่งก็คงไม่มีตำแหน่งให้
ญาติเราจบ ปวส มา ทำบัญชีเหมือนกัน เค้ายุ่งมาก ขนาดมีโอทีทุกวัน
แต่ละวันแทบไม่มีเวลาว่างเลย
แต่นั่นก็ทำให้มีเงินเก็บ
ญาติเราคนนี้ ลาออกจากบริษัทเดิมเพราะฐานเงินเดือน ปวส มันตัน
ไปสมัครงานที่ใหม่ ได้งาน แล้วก็เรียน ป ตรี ภาคค่ำ เพื่อเอาวุฒิ ไปปรับฐานเงินเดือน
จากนั้นก็ไปสอบผู้ตรวจสอบบัญชี
ปัจจุบัน ทำงานอยู่ในบริษัทข้ามชาติ เอ่ยชื่อมาร้องอ๋อกันทุกคน ในตำแหน่งใหญ่พอตัว
ไปเมืองนอก (เที่ยวกับบริษัท ไปประชุมบริษัท) ปีละสามสี่ครั้ง ทั้งยุโรป อเมริกา เอเชีย
ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ยังสบายๆ
ญาติเราอีกคน จบแค่ ปวช บัญชี
ทำงานมานานยี่สิบปี ยังได้เงินเดือน สองหมื่นกว่าเลย
นี่ยังไม่นับโอทีอีกนะ
คนนี้ก็ผ่อนบ้าน ช่วยกันกับสามี
ด้วยมันสมองของคุณทรงธรรม ซึ่งเป็นศิษย์เก่า สธ เราเชื่อว่าถ้าได้เรียนต่อทางด้านบัญชี
แม้จะไม่ชอบเท่ากับด้านโปรแกรมเมอร์
ก็น่าจะเรียนจบง่ายๆสบายๆ
สามารถทำงานต่อยอดประสบการณ์ตัวเอง
ใช้หารายได้ให้เพิ่มขึ้น
โดยไม่ต้องเหนื่อยยากนับหนึ่ง แบบไม่พร้อมอย่างที่พยายามเรียนคอมฯ โดยไม่คอมพิวเตอร์อย่างทุกวันนี้
ซึ่งไม่รู้ว่าวันไหนจะเรียนจบ
ไม่รู้ว่าวันไหนจะมีงานเข้ามาจนสร้างรายได้จากตรงนี้
ความฝัน ความชอบ ใครๆก็มีได้
แต่ถ้าเราไม่พร้อมทางด้านทุนทรัพย์ ที่จะรอให้ความชอบนั้นบรรลุผล
ก็น่าจะมองหาสิ่งที่เราถนัด มีประสบการณ์ เพื่อหาทางเอาตัวรอด ทำให้เราสามารถมีปัจจัยขั้นพื้นฐานก่อน
ดีกว่าไหม
แต่ถ้ายังอยากทำงานที่เดิม
ก็ต้องหา่ช่องทางทำงานพิเศษหลังเลิกงาน
เพื่อเพิ่มรายได้
แถวบ้านมีผู้หญิงคนหนึ่ง แกไม่ค่อยมีความรู้
แต่มีรายไ้ด้ดีมาก แกทำงานเป็นคนเก็บกวาด เช็ดล้าง ร้านอาหาร
พอร้านปิดในตอนเย็น เจ้าของร้านมักจะเหนื่อยหมดแรง ไม่อยากทำอะไรแล้ว
แต่ร้านอาหารรอไมไ้ด้ ต้องสะอาดเพื่อเปิดใช้งานในวันรุ่งขึ้น
เจ้าของร้านเลยจ้างผู้หญิงคนนี้ ทำงาน เก็บล้างทุกอย่าง หม้อ กระทะ เช็ดล้างตู้ เตา โต๊ะ กวาดพื้น ถูพื้น
ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ได้ค่าแรงสามร้อย
หลังๆแกเลยไปช่วยเก็บล้างร้านขายข้าวแกงในตลาด ซึ่งขายหมดตอนบ่ายๆ
ได้มาอีกสามร้อย
ยังไม่หมด ตอนเช้าไปช่วยร้านขายโจ๊กในตลาดเดียวกัน ซึ่งขายหมดในตอนสายๆ
ได้มาอีกสามร้อย
เบ็ดเสร็จ สามเจ้า ได้มาวันละ 900
ทำทุกวัน ได้เดือนละ 27,000
นี่แค่ยกตัวอย่างคนที่พยายามหารายได้เพื่อให้พอใช้จ่าย
คุณทรงธรรมลองคิดหาช่องทางหารายได้พิเศษดู
หรือถ้ายังคิดไม่ออก น่าจะไปลองเรียนสารพัดช่างของ กทม ที่สอนฟรี
ดูที่ดค้าสอนแล้วเราสนใจ
แต่ที่อยากแนะนำคือ ตอนนี้ช่างไฟ ขาดแคลนมาก
พวก ติดตั้งปลั๊กไฟ เดินสายไฟ น่ะรายได้ดีทีเดียว
ทำเป็นงานพิเศษ ตอนเย็น หรือวันหยุด ก็ได้
ดูตัวอย่างราคาวมค่าวัสดุและค่าแรง
ปลั๊กไฟ 1 จุด ราคา 550 บาท, สวิตช์ไฟ 1 จุด 550 บาท, จุดเชื่อมต่อโทรทัศน์ 1 จุด 700 บาทรวมค่าสายไฟและอุปกรณ์, จุดเชื่อมต่อโทรศัพท์ 1 จุด 650 บาท รวมค่ารื้อถอนของเดิมแล้ว, เบรกเกอร์แอร์ 1 จุด 1,200 บาท, เบรกเกอร์ปั๊มน้ำ (แบบกันน้ำ) 1 จุด 1,200 บาท, ออด+ สวิตช์ออด 1 จุด 1,500-2,500 บาท, ไฟหัวเสา 1 จุด ราคา 1,500-2,500 บาท
http://www.reic.or.t...6&p=2&s=15&t=43
ลองหาวิธีดูนะคะ